คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : :: my doctor 。4
MY DOCTOR : 4
ถ้าได้ยินแล้วก็ขอให้เดินผ่านมาได้ยินแล้วก็ขอให้รีบเข้ามา
เข้ามาลองเอามือวางที่หน้าฉัน เธอเชื่อไหม เรื่องหัวใจที่ตรงกัน
เธอเชื่อไหม รักของฉันนั้นมีจริง
เสียงใสของเจ้าตัวแสบดังขึ้นตลอดทางตั้งแต่ที่ผมพาออกมาจากในห้อง คยองซูพูดนั่นพูดนี่ไม่หยุด บางคำผมก็ฟังไม่ออก อาจจะเพราะมันเป็นศัพท์วัยรุ่นรึเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจหรอก แต่ดูท่าทางเจ้าตัวเล็กนี่คงจะชอบพูดมากจริงๆ
“พี่ไค คยองซูอยู่ที่นี่มาน้านนาน อยากไปเดินเล่นข้างนอกบ้างแต่พี่หมอยอลลี่กับพี่แบคฮยอนห้ามตลอดเลย เห้อ” เด็กตัวเล็กปล่อยมือจากที่จับผมอยู่ก่อนจะหยุดเดิน ไหล่เล็กตกลงเล็กน้อยเหมือนคนกำลังเศร้าอยู่ ผมก็เลยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปลอบ
“ก็คยองซูต้องรักษาตัวให้แข็งแรงก่อนไงครับ จะได้ออกไปเดินเล่นได้ รออีกสักหน่อยเนอะ เดี๋ยวก็จะได้ออกไปแล้ว” คนผิวสีน้ำผึ้งเอื้อมมือไปยีหัวเจ้าตัวเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยวในความน่ารักของเจ้าเด็กนั่น
เขาไม่รู้หรอกว่าคยองซูเป็นโรคอะไร ทำไมต้องมารักษาตัวที่นี่เพราะเขาเพิ่งกลับมาถึงวันนี้นี่เอง อีกอย่างก็คือถ้าเขาถามกับคยองซูมันคงจะไม่ดีสักเท่าไร เดี๋ยวเขาไปถามจากพี่ชายตัวสูงของเขาน่าจะดีกว่า
“คยองซูอยากหายไวๆจัง อ๋า ว่าแต่พี่หมอยอลลี่เป็นคนยังไงเหรอฮะ”
คยองซูเดินจูงมือคนตัวโตไปที่ม้านั่งสีอ่อนในโรงพยาบาล ตัวเองก็กระโดดขึ้นไปนั่งก่อนจะตบที่ว่างด้านข้างให้คนผิวสีน้ำผึ้งมานั่งด้วย
“หือ พี่ชานยอลน่ะเหรอ ถามทำไมฮึ? ถามมให้พี่ชายรึไง” จงอินนั่งลงอย่างว่าง่ายแต่มือของเด็กตัวเล็กก็จับมือเขาไว้ไม่ปล่อย มันคงจะดีกว่าถ้าเขาจับมือเจ้าเด็กคนนี้แทน สองมือหนาเลยพลิกมือกลับเปลี่ยนไปจับมือเล็กๆนุ่มๆนั่นแทน เจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่ด้านเขา มองมือที่ถูกจับกุมนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากนั่งรอคำตอบตาใสแจ๋ว
“อืม ก็เป็นคนที่ดูเฟรนด์ลี่ กวนๆ ดูเหมือนจะไร้สาระแต่ถ้าจริงจังแล้วจะจริงจังจนน่ากลัวเลยล่ะ อ้อ จริงใจด้วย ว่าแต่ พี่ยังไม่ได้จัดการเราเลยนะครับเรื่องน้ำนั่นน่ะ สาดใส่พี่ซะ”
“คิกๆ ก็คยองซูไม่รู้จะเรียกพี่ไคยังไงน่ะสิ” คนตัวเล็กหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน คนผิวคล้ำเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่เห็นจะรู้สึกผิด เขาก็เลยอยากแกล้งคืนโดยอัตโนมัติน่ะสิ
“คยองซูอา พี่เปียกนะครับ” คนอายุมากกว่าหยิบเฮดโฟนที่ยังแขวนอยู่กับเจ้าตัวเล็กคืน พลางยู่ปากไปด้วย ประมาณว่างอนสุดๆ
“โอ๋ๆ ก็พี่ไคควรจะอาบน้ำบ่อยๆไงจะได้ขาวๆ คิกๆ O w O” คนผิวคล้ำสะอึกไปนิดหน่อยที่ได้ยินประโยคนั่นดังออกมาจากปากเจ้าตัวเล็ก ใช่สิ เขาไม่ได้ขาวเหมือนคนเกาหลีทั่วไปนี่ สีผิวแบบนี้มันเซ็กซี่ออก ไม่มีใครเข้าใจเขาเลย เชอะ เจ้าเด็กนี่ก็เริ่มจะมีนิสัยเหมือนพี่ชานยอลเขาซะแล้ว
“คยองซูอา นี่แน่ะๆ” มือหนาเอื้อมมือไปจั๊กจี้ที่เอวเล็กก่อนจะลงมือจัดการจั๊กจี้อย่างเมามันส์ในขณะที่คยองซูปัดป่ายไปทั่ว แต่ก็หนีไปไม่ได้เพราะไคจับตัวบางไว้น่ะสิ
“ฮ่าๆ พี่ไค พอเถอะ ฮ่าๆ คยองซู คิกๆ หัวเราะจนปวดท้องหมดละน้า TOT”
“ก็มาว่าพี่ทำไมล่ะครับ” รู้สึกเอ็นดูกับใบ้หน้าเล็กที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากเสียงดัง ดวงตาโตหยีเรียวจนเหมือนพระจันทร์เสี้ยว
“พี่ไค พ. . พอแล้ว แฮ่กๆ”
สองมือเล็กผลักมือใหญ่ออกไปพัลวัน รีบขยับตัวมานั่งบนตักของพี่ชายคนใหม่ในทันที สิ่งที่คยองซูจะทำต่อไปล้วนทำให้คนที่แกล้งเขาอยู่หยุดแกล้งเขาทุกราย และเขาก็ทำแบบนี้กับพี่แบคฮยอนบ่อยๆด้วย เชื่อสิว่าพี่ไคจะต้องหยุดแกล้งเขาแน่ๆ
จุ๊บ
ความอุ่นร้อนของกลีบปากนุ่มสีแดงอมชมพูประกบจุ๊บลงบนริมฝีปากของพี่ชายผิวสีน้ำผึ้งแตะเพียงแผ่วเบา จุ๊บทั่วไปแต่สามารถหยุดมือที่กำลังทำงานที่เอวของเจ้าตัวเล็กได้ชะงักราวกับถูกสต๊าฟไว้
จงอินเบิกตากว้างอย่างตกใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่คุ้นชินกับการจุ๊บ เขาเป็นเด็กนอกมันย่อมเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่เขาอึ้งเพราะเจ้าตัวเล็กนี่ต่างหาก ปกติเที่ยวจุ๊บใครไปทั่วแบบนี้รึไง
“เราจุ๊บใครนอกจากพี่บ้างเนี่ย หืม ?”
เขาจะคิดอะไรได้ไงในเมื่อคยองซูยังเด็กอยู่ขนาดนี้ ไม่เขินหรอก อีกอย่างคือเขาไม่ใช่พวกโลลิค่อนด้วย
“อืม . . . พี่แบคฮยอน แล้วก็. . .”
“แล้ว . . .?” ทำไมต้องลุ้น
“พี่ไคนั่นแหละ” ไม่ได้ดีใจหรอกแต่ริมฝีปากกลับฉีกยิ้มร่าซะงั้น
“จริงอ่ะ ไม่เชื่อ” แกล้งถามเด็กไปงั้นล่ะ
“จริงๆนะ คยองซูไม่เคยโกหก ไม่เชื่องั้นไปถามพี่แบคฮยอนกัน!”
“เห้ย เชื่อแล้วครับๆ” คนผิวสีน้ำผึ้งรีบคว้าเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะวิ่งไปทางที่จากมาเมื่อกี้ด้วยความเร็วสูง ก็แค่แกล้งเล่นๆ ขืนคยองซูจูงมือเขาเดินไปบอกพี่แบคฮยอน โดนทุบด้วยไม้หน้าสามกลับมาแน่ จะไปบอกว่าเขากับคยองซูจุ๊บกันเนี่ยนะ พี่แบคฮยอนดูหวงน้องอย่างกับอะไรดี
และเขาต้องโดนพี่ชานยอลด่าเลยแหงๆ คงไม่พ้นไอ่โรคจิตจ้องจะกินเด็ก
คิดแล้วก็เพลีย หาเมียดีกว่า
“ตามมาทำไมครับ” เสียงแหบเอ่ยถามคนด้านหลัง ไม่ใช่ไม่รู้ว่าตามอยู่ รู้มาตลอดเลยต่างหาก ตั้งแต่ที่จงอินอุ้มคยองซูออกไป เขาเองก็ไม่รู้จะอยู่ในห้องทำไมสองต่อสองกับคนตัวสูง เลยกะว่าจะออกไปเดินหาซื้อของแถวๆหน้าโรงพยาบาล แต่ไปๆมาๆก็นั่นล่ะ เดินตามมาแล้ว สลัดไม่หลุดซะด้วย
“ผมตามเหรอ” เลิกคิ้วถามหน้าใสซื่อ นี่ถ้าไม่ติดว่าคยองซูชอบมาก แบคฮยอนจะไม่ทนแล้วนะ
“ผมจะไปซื้อของหน้าโรงพยาบาล หมอจะไปด้วยเหรอ”
“อาฮะ” ให้ตายสิผู้ชายคนนี้
“เห้อ เอางั้นก็ได้ครับ ผมจะเดินให้หมอเดินตามขาลากเลยคอยดู” ประโยคหลังบ่นอุบอิบกับตัวเอง แต่ก็ไม่พ้นคนประสาทหูดีอย่างคุณหมอชานยอลลี่ซะหรอก
“ได้ยินนะ”
“ครับ”
แบคฮยอนจะทำยังไงได้ล่ะ นอกจากตอบรับกลับไปแบบนั้น ปล่อยให้คนตัวสูงในเสื้อกราวน์เดินตามหลังไปเรื่อย ดื้อมาก คยองซูชอบคนแบบนี้ไปได้ยังไงกันเนี่ย
“ป้าครับ เอาน้ำแครอทถุงนึงครับ แล้วก็ เอ่อ . . . เอาอะไรครับ” หันมาถามคนที่ยืนข้างๆชะเง้อคอมองบรรดาน้ำผลไม้หลากสีในกล่องโฟมบรรจุน้ำแข็ง
น่ารักซะไม่มีคุณแบคฮยอน
“แนะนำผมหน่อยสิ” อมยิ้มให้คนด้านข้าง เรียกเรียวคิ้วเล็กเลิกขึ้นทันที แบคฮยอนใช้เวลาประมวลประโยคของคุณหมอคนโปรดของน้องชายอยู่ครู่หนึ่ง แปลกจริงที่คนตัวสูงไม่เคยกินร้านน้ำผลไม้ที่ขึ้นชื่อที่สุดหน้าโรงพยาบาล
แต่คงไม่แปลกเท่านิสัยของคุณหมอคนนี้แล้วล่ะ
“ถ้าหมอยังไม่เคยกินงั้นก็ อ่า. . แครอทผสมน้ำส้มครับ” หันไปสั่งกับคุณป้าเจ้าของร้าน เขาซื้อแครอทผสมส้มครั้งแรก ติดใจร้านนี้เพราเมนูนี้เลยนะ หญิงสาววัยกลางคนยิ้มกับดวงหน้าจิ้มลิ้ม ตาเรียวที่หยีจนเป็นพระจันทร์เสี้ยวและรอยยิ้มกว้างที่ส่งมาให้เธอ ความน่ารักของแบคฮยอนเธอจำมันได้ดี เธอจำลูกค้าประจำได้อยู่แล้ว ถ้าจะแถมให้คงไม่แปลกอะไร
“วันนี้ป้าแถมน้ำมะพร้าวให้นะ ป้าจำหน้าหนูได้ หนูเป็นลูกค้าประจำแล้วนะเนี่ย”
“อ๊ะ ขอบคุณมากครับ” แบคฮยอนก้มหัวขอบคุณในขณะรับถุงพลาสติกที่บรรจุน้ำผลไม้สามถุงด้านใน
หลังจากนั้นไม่นานเมื่อเขาเดินทั่วพื้นที่บริเวณร้านขายของหน้าโรงพยาบาล ขาเล็กเริ่มจะล้าตามระยะทาง แต่ดูเหมือนว่าคนตัวโตที่เปลี่ยนจากเดินตามหลังมาเดินอยู่ข้างกันเริ่มจะหัวเราะกับความปากดีของเขาแล้วสิ
“เมื่อยแล้วเหรอ ไม่เดินให้ผมขาลากเหรอครับ หึๆ” เสียงทุ้มเอ่ยยียวน จงใจกวนประสาท แบคฮยอนหันไปมองนิดหน่อย คงจะไปโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเขาเองเนี่ยแหละ ดันไปพูดจาปากดีเอาไว้ สุดท้ายแล้วเขานั่นแหละที่เมื่อยขาขึ้นมาเอง
“ไม่ได้เมื่อยสักหน่อย กลับกันเถอะครับ คยองซูจะรอนาน” เอ่ยตัดบทเรียบๆ ก้มตัวทุบน่องขาตัวเองนิดหน่อย ถุงพลาสติกใสเต็มไม้เต็มมือไปหมด เขาเดินซื้อนั่นซื้อนี่เพลินจนมารู้ตัวก็ตอนรู้สึกเมื่อยขาเนี่ยแหละ อดจะเสียหน้าไม่ได้เมื่อโดนหมอชานยอลตอกกลับ
“ขี่หลังมั้ย”
อะไรนะครับ ช่วยพูดอีกสักครั้งได้มั้ย ผมหูฝาดรึเปล่า
“ห้ะ อะไรนะครับ”
“ขี่หลังไง ฟรี ไม่คิดตัง” รอยยิ้มกว้างจากใบหน้าเรียวพูดเรียบๆง่ายๆแต่ชวนให้คิดไกลไปจนถึงเส้นประสาทในหัวใจหรือฮอร์โมนอะไรก็ตามแต่ สั่งให้หัวใจหยุดเต้นเร็วเดี๋ยวนี้นะ เสียงตึกตักของมันเขากลัวว่าคุณหมอตรงหน้าจะได้ยินเอาเสียจริง
“จะบ้าหรือไงครับ ผมไม่ได้ขาหักนะ”
“ไม่ขาหักก็ขี่ได้ครับ บอกแล้วไงฟรี สำหรับแบคฮยอนคนเดียว”
สำหรับแบคฮยอนคนเดียว
แบคฮยอนอ้าปากค้างมองคนตัวสูงที่พูดประโยคออกมาแบบไม่ยี่หระฟังดูง่ายๆเหมือนบอกให้เขาไปหยิบจานตรงนั้นมาหน่อยซิ อะไรประมาณนี้ คิดได้ดังนั้นเลยหมุนตัว เดินหนีออกมาซะยังดีกว่าสู้หน้าอยู่ต่อ
“เฮ้!”
ขาเรียวเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ก้มหน้าไม่พูดไม่จา คุณหมอตัวโตใจแป้ว กลัวอีกฝ่ายจะโกรธ เขาแค่พูดไปตามที่เขาคิด ถ้าเกิดแบคฮยอนโกรธขึ้นมา เขาจะทำยังไงล่ะเนี่ย
“คุณแบคฮยอน” สองขายาวที่เดินตามมาเปลี่ยนสเต็ปการเดินเป็นวิ่งเหยาะๆก้มหน้ามองใบหน้าเล็กที่มองพื้นอยู่ ไม่กลัวเดินชนอะไรข้างหน้ารึไง บนพื้นมีอะไรดีอย่างนั้นเรอะ
“เฮ้ บยอนแบคฮยอน”
“ . . . “ ง่ะ หมอยอลเริ่มใจเสียละนะครับ โกรธเค้าเหรอ
“บายอนนนนนนนนนนนน แบคๆๆๆๆๆๆๆ”
พรืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“ฮ่ะๆๆฮ่าๆๆ” แบคฮยอนหัวเราะก้ากใหญ่ งอตัวเหมือนกุ้งในขณะที่หมอยอลลี่เอ๋อรับประทานไปเรียบร้อยแล้ว แบคฮยอนขำอะไร งงครับ
“ขำอะไร” ที่ถามคือไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ทอแล
“ฮ่ะๆๆ โอ้ย คุณหมอครับ ฮ่าๆ”
โอเค ผมจะรอให้เขาขำให้เสร็จก่อนละกัน
ผ่านไปสักพักแบคฮยอนอาการดีขึ้น ดวงหน้าจิ้มลิ้มผิวขาวเห่อสีแดงขึ้นมาหลังจากหัวเราะพักใหญ่ๆกับความตลก แลดูจะเพิ่มจากก่อนหน้านี้สักนิดเพราะมันแดงอยู่ตั้งนานแล้วล่ะ ตั้งแต่เรื่องให้ขี่หลัง
แบคฮยอนก็เขินเป็นนะ
“สรุปจะบอกผมได้รึยังครับ”
“ก็ที่เรียกชื่อผมไง คิก บายอน แบคๆๆๆๆ ฮ่ะๆ คิก มันเหมือนเสียงลูกหมา” มือเรียวยกมือปิดปากแทบไม่ทันเพราะจะหัวเราะอีกแล้ว ปล่อยให้คนตัวสูงยืนหน้าตึง
“ผมไม่ได้เป็นหมานะครับ” โถ่ คนเขาอุตส่าห์เรียก กะจะง้อหน่อย ตอนไม่หันมานี่ใจแป้ว แต่กลับหัวเราะจะเป็นจะตายกับตอนที่เขาเรียกชื่อน่ะนะ เหมือนลูกหมาเหรอ แบคๆๆๆๆๆๆ
อ่า ก็คล้ายนิดนึง ไม่อยากจะยอมรับหรอก ให้ตาย
“ลูกหมาตัวผู้ซะด้วย ฮ่ะๆ” คุณพี่ชายของเจ้าเด็กตัวเล็กในสังกัดคุณหมอชานยอลยังคงหัวเราะคิกคัก จนตาหยีเป็นรูปสระอิ เขาเป็นผู้ชายนี่นา ก็ต้องเสียงทุ้มเป็นธรรมดาแต่แค่ทุ้มมากไปหน่อย
“ไม่คุยด้วยละ ไปเถอะ เดี๋ยวคยองซูรอนาน” ไม่ว่าเปล่า มือใหญ่เอื้อมไปดึงข้อมือเล็กมาแนบไว้ข้างตัว หารู้ไม่ว่าคนถูกกระทำตกใจขนาดไหน โชคยังดีที่คุณหมอไม่จับมือเขาแต่แค่จับข้อมือไว้เท่านั้น ลองสะบัดดูก็ไม่ออกสักที บิดไปมาก็ไม่หลุด มือคนหรือคีมเหล็กกันแน่
“เลิกคิดจะเอามือออกได้แล้วครับ”
“หา”
“คงต้องจับไปอีกนาน”
ปิดท้ายเท่านี้พอ ขอไปเขินแปป
“พี่แบคฮยอนช้ามาก หายไปไหนมา” เจ้าตัวเล็กที่นั่งคุยเล่นกับลูกพี่ลูกน้องของคุณหมออย่างจงอินเอ่ยทักทันทีเมื่อประตูห้องถูกเปิด ไม่ต้องทายเขาก็รู้ว่าเป็นพี่ชายที่น่ารักของเขาเอง
“ใช่ พี่ไปไหนมาอ่ะ น้านนาน มัวแต่ไปจีบกันอยู่รึไง ผมหิวนะ” คนผิวสีน้ำผึ้งได้ทีเอาใหญ่ ผายมือออก ไหวไหล่ให้พี่ชายต่างสายเลือดหมั่นไส้เล่นๆ เขากระโดดลงจากเตียงเมื่อคุณพี่ชายของเด็กตัวเล็กเดินเข้ามาหา
“อะไรล่ะ พี่ไปซื้อขนมมาต่างหาก”
“เหรอฮะ ไม่อยากจะเชื่อเลย เนอะพี่จงอิน” ตาโตหรี่ลงพิจารณาคำบอกเล่าของพี่ชาย เรียกเสียงหัวเราะหึๆจากคุณหมอทันที
“เจ้าเล่ห์นักนะ” หมอยอลลี่ที่น่ารักของเจ้าตัวเล็กอดจะพูดไม่ได้ มันตรงข้ามกับการแสดงสีหน้าชัดๆ ปากว่าแต่ตากับรอยยิ้มนี่ไปหมดละ แบคฮยอนยู่หน้าใส่ พลางบ่นขมุบขมิบ
“พี่แบคฮยอน เดี๋ยวผมช่วย” เด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งพูดกับแบคฮยอนพลางคว้าถุงพลาสติกทั้งหลายจากมือเรียวเดินไปยังโต๊ะวางของข้างโซฟา
เพียงไม่นานนักบรรดาผลไม้ต่างๆที่แบคฮยอนซื้อมา ขนมและอาหารในร้านที่ปราศจากเชื้อโรคก็วางลงบนจานอย่างสวยงามเพราะมีคนช่วยถึงสองคน จงอินและแบคฮยอน ส่วนคุณหมอกับน้องชายตัวเล็กคุยเล่นกันสนุกสนานอยู่ที่เตียง แน่นอนอยู่แล้วล่ะว่าร้านหน้าโรงพยาบาลแข่งกันเน้นเรื่องคุณภาพ และความสะอาดขนาดไหน มันมีให้ประกวดด้วยนะ คยองซูกินได้อยู่แล้ว
“พี่แบคฮยอน ถุงนี้น้ำอะไรเหรอครับ” จงอินถาม มือข้างขวายกถุงพลาสติกบรรจุน้ำสีส้มเข้มไว้ แต่ดูแล้วสีอ่อนกว่าอีกถุง
“น้ำแครอทผสมส้มน่ะ”
“ผมกินได้มั้ย”
“ไม่ได้” ปากคงไวเกินไป ตอบขวับทันทีเมื่อได้ยินจงอินเอ่ยประโยคคำถาม เรียกสายตาสงสัยปนงุนงงจากเด็กหนุ่มได้ทันที แต่ประโยคถัดมาทำให้นัยน์ตาเปลี่ยนเป็นกรุ้มกริ่มพร้อมรอยยิ้มทันที
“เอ่อ ของหมอชานยอลน่ะ . . .”
“อ๋อออออออออออ ครับ แหม ของพี่ชายผมนี่เอง” แบคฮยอนหลบสายตากรุ้มกริ่มของเด็กหนุ่มที่มองมาอย่างไม่ปิดบัง มันจะแปลกอะไรเล่าก็แค่มันเป็นของชานยอล เขาก็แค่บอกนะ
“พี่ชาน พี่แบคเขาดุผมอ้ะ!”
หา
“ผมถามว่าน้ำนี่กินได้มั้ย เขาตอบเร็วเสียงเขียวเชียว ไม่ได้!”
“ของหมอชานยอล ผมรู้สึกแย่จังเลยฮะ : (”
มีโล่ห์ซุปเปอร์ทอแลแห่งปีให้คิมจงอินมั้ยครับ ผมอยากมอบให้เขามาก คุณพี่ชายเมื่อได้ยินแบบนั้นตาโตก็เบนสายตามาโฟกัสมนุษย์ตัวเล็กที่ยังคงนั่งอึ้งทันที จะเรียกว่านั่งช็อกซะมากกว่าแล้วล่ะ
“อะไรล่ะ ก็แค่บอกเฉยๆ. . .”
แบคฮยอนเถียงข้างๆคู หลบสายตาคุณหมอชานยอลและน้องชายตัวแสบ แถมยังมีอีกคู่หนึ่งที่นั่งบนโซฟาข้างๆเขาอีก มองกันจนตัวเขาจะพรุนแล้วนะ
“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ แบคฮยอนร้อนตัวทำไม”
เอากับเขาล่ะครับ
“คิกๆ พี่จงอินกับพี่หมอยอลลี่อย่าแกล้งพี่ชายของคยองซูนะ หน้าแดงหมดแล้ว คิก”
สาบานเถอะครับว่านั่นคือการห้ามคนอื่นแกล้งเขาของคยองซู เจ้าตัวแสบไม่รู้หรือไงว่าประโยคที่พูดออกมานั่นก็เหมือนแกล้งเขาชัดๆ
“ฮ่ะๆ โอเค ไม่แกล้งก็ได้ ป่ะ ไปกินขนมกัน” อุ้มเจ้าตัวเล็กลงจากเตียง จูงมือเดินมานั่งบนโซฟา คยองซูกระโดดขึ้นนั่งบนโซฟาแทรกกลางระหว่างจงอินและแบคฮยอน
“พี่หมอว่างใช่มั้ยฮะ กินด้วยกันนะ” คยองซูส่งสายตาวิ้งๆให้
“ว่างครับผม”
ทันทีที่เขาบอกว่าว่าง ไม่ต้องทายก็รู้ว่าเขาเลือกที่จะนั่งตรงไหน
จะให้นั่งข้างจงอิน ลูกพี่ลูกน้องตัวแสบนั่นเรอะ ไม่มีทางซะล่ะ
เขาก็ต้องนั่งข้างแบคฮยอนอยู่แล้ว
มีความสุขทั้งวันจริงๆครับ นี่พูดเลย : )
เค้ากลับมาแล้ววววว คงไม่มีใครรออ่าน T - T
หายไปเป็นชาติอ่ะเค้าขอโทษ งือออออ
ต้องจบจ้ะ ต้องจบบบ 55555555555555
มาคุยกันด้ายยย เราเปลี่ยวว @linnsuju ฮี่ๆ
มาดิทขอบคุณคนที่หลงเข้ามาอ่านในปีนี้มากนะคะ
คอมเม้นในปีนี้ด้วย หลงเข้ามาได้ไง 555555555
เราไม่รู้จะติดต่อยังไง คุณทำให้เรากลับมาแต่งต่อนะ เย่
ขอบคุณมากเน้อ จากใจจริงเลย จากใจไรท์เตอร์ฟิคดอง
พโถ่ ธูธธธธธธธ 55555555555555555
ความคิดเห็น