คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : e c h o 。chap 2 park chanyeol
“เฮ้ ชานยอล ทางนี้ๆ” หนุ่มผิวแทนโบกมือเรียกเพื่อนที่ยืนนิ่ง ทำหน้าอึนๆหันซ้ายหันขวาอยู่หน้าประตูโรงเรียน ถ้าเขาไม่เรียกชานยอลไว้ มันจะยืนนิ่งอยู่แบบนั้นตลอดไปป่ะวะ เขาแอบคิดในใจ
คิม จงอิน เพื่อนซี้ปึ๊กของชานยอล เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยมต้น ตอนนี้ก็มัธยมปลายปีสามแล้ว หลายคนคงจะไม่ชินกับนิสัยผิดปกติมนุษย์ของชานยอลแต่เขาชินกับมันแล้วล่ะ ไม่ใช่ชินสิ มันคือความเอือมระอาต่างหาก
หนุ่มร่างสูงเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทโบกมือเรียกอยู่ก็ดินเข้าไปหา แต่ก็ต้องเซเพราะมีใครคนหนึ่งวิ่งเข้าไปหาเพื่อนสนิทเขาก่อน อ่า เขาไม่ต้องมองก็เดาออกว่าคนที่วิ่งผ่านเขาไปคือใคร
โด คยองซู
“จงอินอา กินอะไรมารึยัง เราหิวจัง” เสียงเล็กๆลอดผ่านจากปากสีสวย เสียงกระตือรือร้นที่ถามไถ่จงอินทำให้ชานยอลยิ้มบาง ดีจังแฮะ มีคนเป็นห่วงแบบนี้ แต่เพื่อนเขาไม่ได้คิดแบบนั้นน่ะสิ
“กินแล้ว” ชายหนุ่มผิวแทนตอบสั้นๆห้วนๆ เขาแค่รู้สึกไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายมากไปแบบนี้ โดยเฉพาะคยองซูที่เขารู้สึกว่ามันน่ารำคาญเป็นพิเศษ
“(‘ ‘)” ชานยอลยืนมองเพื่อนสองคนของเขานิ่งๆ
“แต่คยองซูหิวอ่ะจงอินนน พาไปกินอะไรหน่อยสิ นะๆๆ” คยองซูเกาะแขนของคนตัวสูงก่อนจะเอาแก้มถูไถไปมา
“พอๆเลิกทำ อายคนอื่นเขา เดี๋ยวพาไป” อาจจะเพราะจงอินทนความน่ารำคาญไม่ไหวก็เลยต้องรับปากไปแบบส่งๆ ในสายตาชานยอลเพื่อนตัวสูงอีกคนไม่ได้มองว่าจงอินรำคาญหรอกนะ มันเหมือนกับแค่พยายามรู้สึกรำคาญรึเปล่า อืม คงงั้นมั้ง
“(‘ ‘) ไปด้วยสิ” ชานยอลพูดขึ้น
“ชานยอลซื้อแซนด์วิชมาแล้วใช่ป่ะ หอมจัง จงอินอา เราไปซื้อแซนด์วิชกันเถอะ” คนตัวเล็กเอ่ยอย่างร่าเริงในขณะที่ทั้งสามคนเดินหาที่นั่งในโรงอาหาร เขาเห็นชานยอลถือมันมาแต่คนตัวสูงดูเหมือนจะลืมไปรึเปล่าว่าตัวเองซื้อมาแล้ว
“อ้อ แซนด์วิชชิ้นนี้ ให้. . บ๊อบบี้น่ะ”
“อ๋ออออ ลูกหมาที่แกไปเล่นด้วยบ่อยๆป่ะวะ แกตั้งชื่อให้มันแล้วเหรอวะ บ๊อบบี้ ดูสมเป็นแกชะมัด ฮ่ะๆ” จงอินหัวเราะเบาๆกับความน่ารักของเพื่อนเขา
“อ๊ะ โต๊ะตัวนั้น ๆว่างแล้ว” คนตัวเล็กเงยหน้าบอกจงอินก่อนจะวิ่งไปจองโต๊ะที่ว่า และเมื่อได้โต๊ะแล้วคนตัวสูงอย่างชานยอลก็ได้แต่นั่งนิ่ง เช้าๆแบบนี้บ๊อบบี้คงยังไม่ตื่น อีกสัก10นาทีค่อยไปหาก็ได้
“ชานยอลแกจะเอาไรวะ เดี๋ยวไปซื้อมาให้ ช็อกโกแลตร้อนกับแซนด์วิชแยมสตรอเบอร์รี่”
“อ่า นั่นแหละ (‘ ‘ )b” ชานยอลยกนิ้วโป้งให้เพื่อนของเขา ที่จำเมนูที่เขาชอบได้
ไม่นานนักหลังจากที่จงอินและคยองซูเดินไปซื้ออาหารเช้าเสร็จก็เดินกลับมาที่โต๊ะแต่ก็ต้องแปลกใจที่เห็นชานยอลเอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือจนแทบจะไม่สนใจเมนูสุดโปรดของเขา
“ชานยอลไม่กินช็อกโกแลตร้อนให้หมดก่อนล่ะ เดี๋ยวมันก็เย็นหรอก” คยองซูเคี้ยวแซนด์วิชตุ้ยๆ ก่อนจะเอ่ยบอกคนที่นั่งตรงข้ามเขา ช็อกโกแลตร้อนต้องกินตอนร้อนๆสิมันถึงจะอร่อย ถ้ามันเย็นก็จะไม่รับรู้ถึงความละมุนของมันน่ะสิ
“เออ เห็นแกนั่งเล่นโทรศัพท์แบบนี้ก็แปลกตาดีเหมือนกัน กินก่อนเหอะ ค่อยเล่นก็ได้น่า มีเวลาอีกเยอะ กว่าออดเข้าเรียนจะดัง”
ชานยอล จงอินและคยองซูเป็นนักเรียนที่มาโรงเรียนเช้าเกือบทุกวัน นั่นอาจจะเพราะพวกเขาชอบความสงบและในช่วงเช้ามากๆที่โรงเรียน เด็กนักเรียนก็ยังมาไม่ค่อยเยอะ บรรยากาศก็เลยเงียบสงบแถมยังอากาศดีอีกด้วย โรงเรียนเขาเป็นโรงเรียนที่สวยที่สุดในโซลเลยนะ
“อ่า งั้นก็ได้” ชานยอลวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ข้างๆแก้วช็อกโกแลตร้อน ก่อนจะจิบของเหลวสีข้นนั่น
จงอินเมื่อเห็นเพื่อนวางโทรศัพท์ไว้แบบนั้น มือหนาก็รีบเอื้อมไปหยิบมากดดู ชานยอลเพียงแค่เหวอไปนิดหน่อยที่เพื่อนซี้หยิบไปโดยไม่ขออนุญาต แต่เพื่อนตัวสูงก็ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากจะจิบช็อกโกแลตร้อนและกัดแซนด์วิชเข้าปากไปเรื่อยๆ
“หือ ข้อมูลของใครเนี่ย ละเอียดเชียว บยอน แบคฮยอน ไม่คุ้นเลยแฮะ โห น่ารักเหมือนกันแฮะ” จงอินเกาคางใช้ความคิดจนคยองซูอดไม่ได้ที่จะชะโงกหน้าเข้าไปดูเนื้อหาในจอโทรศัพท์ด้วย
“โห ทำงานแล้วนี่นา ไม่ใช่เด็กนักเรียนซะหน่อย จงอินจะรู้จักได้ยังไงล่ะ แต่หน้าเด็กจังเลย ว่าแต่เขาเป็นใครเหรอชานยอล” คนตัวเล็กเอ่ยถามชานยอลก่อนจะได้รับรอยยิ้มบางและคำตอบจากคนตัวสูง
“ก็. . . นางฟ้าน่ะ (^ - ^ )”
รอยยิ้มเทวดานี่มันอะไรกัน จงอินและคยองซูแทบจะขยี้ตาตัวเองที่พบกับรอยยิ้มที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน มันดูมุ้งมิ้งมาก ชักจะอยากรู้จักแบคฮยอนคนนั้นแล้วล่ะสิ
ใครกันที่มีอิทธิพลกับชานยอลขนาดนี้
บ๊อก บ๊อก
ลูกหมาพันธุ์บีเกิ้ลพร้อมปลอกคอสีเหลืองสดใสวิ่งเข้ามาหาคนตัวสูงแทบจะทันทีที่ปรากฏตัว อาจจะเรียกได้ว่าเจ้านายล่ะมั้ง เพราะชานยอลเป็นคนที่คอยดูแลมันอยู่ตลอด เพราะคุณป้าแม่บ้านที่โรงอาหารก็ยุ่งวุ่นวายอยู่ในครัว
“ตื่นแล้วเหรอ ตื่นเช้านะเรา” ชานยอลย่อตัวลงนั่งยอง ก่อนจะลูบหัวเจ้าตัวเล็ก มันคงได้กลิ่นแซนด์วิชสินะ คนตัวสูงเอื้อมหยิบแซนด์วิชขึ้นมาแต่ก่อนจะให้ เขาก็ฝึกมันด้วยการขอมือ หรือสั่งให้ทำท่าทางต่างๆเพื่อแลกกับแซนด์วิชหนึ่งคำ
“ดีมาก กลิ้งตัว1รอบสิบ๊อบบี้” เจ้าหมาน้อยกระดิกหางและกลิ้งทันที
“บ๊อก บ๊อก”
“มีอะไรเหรอ”ชานยอลเอ่ยถามเมื่อเห็นบ๊อบบี้เห่าเหมือนมันต้องการจะบอกอะไรบางอย่างกับชานยอล
“เอ่อ ขอโทษฮะ ผมเอาขนมมาให้มันน่ะ” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นด้านหลังชานยอล คนตัวสูงเงยหน้าขึ้นก่อนจะหันไปมองและพบกับเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายปีสอง ผมสีสว่างของเขาแสบตาชะมัดเมื่อต้องกับแสงแดด ชานยอลหรี่ตาก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นหลีกทางให้ชายหนุ่มตัวผอมบางที่เพิ่งมาใหม่
“อ่ะ กินให้อร่อยนะเจ้าเปี๊ยก”
“( . .)” ชานยอลได้แค่ยืนมองบ๊อบบี้เล่นกับเด็กผู้ชายคนใหม่ด้วยความรู้สึกที่ อาจจะเรียกว่าหวงล่ะมั้ง ก็เขาเป็นคนเดียวที่มาหาบ๊อบบี้น่ะสิ ดูเจ้าบ๊อบบี้ตอนนี้สิ พอเห็นคนมาใหม่ก็ร่าเริงเชียว เกิดอาการงอนกำเริบ
“เอ่อ . . .” คนตัวเล็กที่หันมามองเห็นคนตัวสูงยืนมองนิ่งก็รู้สึกประหม่า เขารู้จักผู้ชายตรงหน้าเพียงผิวเผินเพราะหน้าตาที่โดดเด่น ชานยอลเป็นรุ่นพี่คนหนึ่งในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
“( . .)” ทำไมรุ่นพี่ไม่พูดอะไรเลยล่ะ เขาประหม่าขึ้นอีกนิดละ เขาเองก็ไม่ค่อยเฟรนด์ลี่เท่าที่ควรด้วยสิ
“เอ่อ ขอโทษนะครับที่เข้ามาขัดจังหวะ”
“( . .) ไม่หรอก นั่งด้วยกันสิ” ไม่พูดเปล่า คนตัวสูงก็นั่งลงข้างเด็กหนุ่มก่อนจะเล่นกับบ๊อบบี้ต่อไป เด็กหนุ่มเมื่อเห็นรุ่นพี่ไม่ถือสาว่าอะไรเขาก็นั่งลงด้วย
“บ๊อบบี้ มันชื่อบ๊อบบี้น่ะ” ชานยอลบอกคนด้านข้างของเขา
“น่ารักจัง ผมเรียกมันว่าเจ้าเปี๊ยกตลอดเลยล่ะ ฮ่ะๆ”
“แล้ว. . . นายชื่ออะไรล่ะ ฉัน ปาร์ค ชานยอล” ชานยอลหยิบขนมจากมือของเด็กหนุ่มมาก่อนจะยื่นให้บ๊อบบี้ ส่วนคนที่นั่งข้างๆก็มองอย่างงงๆแต่ก็ตอบออกไปแทบจะอัตโนมัติ
“โอ เซฮุนครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับรุ่นพี่”
“ชานยอลอา วันนี้ไปกินต๊อกโบกกีด้วยกันมั้ย” เสียงใสของคยองซูเอ่ยถามเพื่อนตัวสูงหลังจากเสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น
“ต๊อกโบกกีเหรอ อืม . . .” ชานยอลใช้เวลาคิดประมวลผลในสมองของเขาสักพักหนึ่ง
เขาไม่ได้ไปเจอแบคฮยอนก็หลายวันแล้วด้วย แต่ต๊อกโบกกีก็น่ากิน แต่ยังไงซะ ไปเจอแบคฮยอนบ้างจะดีกว่า
“ไม่เป็นไร ไปกินกันเถอะ” เพื่อนตัวสูงส่ายหน้าปฏิเสธเบาๆก่อนจะลงมือเก็บข้าวของใส่กระเป๋านักเรียน จงอินเมื่อเห็นว่าเพื่อนซี้ของเขาปฏิเสธอาหารแบบนี้ก็ทำตาโตก่อนจะเอ่ยปากแซว
“ว้าว ชานยอลของเรานัดใครไว้รึเปล่าน้าถึงได้ปฏิเสธอาหารจานโปรดแบบนี้ ฮ่ะๆ”
หลังจากเสียงเอ่ยแซวของจงอินดังขึ้น หลายคนในห้องที่ได้ยินเสียงของจงอินก็ผิวปากแซว โดยเฉพาะคยองซูที่หัวเราะคิกคักพร้อมกับทำท่าทางเขินเสียเต็มประดา
“(‘ ‘) อืม”
“นั่นไง ฮิ้วววว” จงอินปรบมือชอบใจที่ชานยอลตอบรับประโยคเอ่ยแซวของเขาโดยง่าย
“ไม่ได้นัดหรอก. . . แค่อยากเจอ (. .)”
หลังจากเสียงของชานยอลดังขึ้น ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบก่อนจะระเบิดเสียงโห่แซวออกมาอีกระลอกเพราะความซื่อและมุ้งมิ้งของเจ้าตัวที่ทำหน้างงๆ นี่ไม่รู้ตัวหรือไงว่าตัวเองตกเป็นประเด็นของคนในห้องไปซะแล้ว เพื่อนของเขานี่จริงๆเลย
“อ๊ายยยยย ฃานยอลมีความรัก”
“กรี๊ด แก ฉันอยากเห็นหน้าคนๆนั้นของชานยอลจริงๆเลย”
“อยากจะเป็นลม ผู้ชายมุ้งมิ้งกำลังมีความรัก ฉันอกหักสินะแก”
และอีกบรรดาสารพัดประโยคที่ส่งเสียงกันในห้อง ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เพราะชานยอลเป็นที่รักของเพื่อนในห้อง อาจจะด้วยเหตุผลที่เขาเป็นคนที่นิสัยไม่คิดมาก เอ หรือไม่คิดอะไรเลยนะ และเขาก็น่ารักมากๆด้วย ก็เลยมีแค่มิตร ส่วนศัตรูนี่ก็น่าจะไม่มีล่ะมั้ง นอกจากพวกขี้อิจฉา เรื่องนี้จงอินก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ฮ่ะๆ นายรีบไปหานางฟ้าของนายเถอะ” เพื่อนผิวแทนตบบ่าชานยอลเบาๆ
“ฮิๆ รีบไปนะ เดี๋ยวความคิดถึงอาจจะฆ่านายได้” คยองซูเอ่ยแซวก่อนจะทำท่าเขินอีกรอบ
“(. .) อื้ม มันแน่อยู่แล้วล่ะ”
ว่าแต่ พวกเพื่อนในห้องเขาส่งเสียงโห่ร้องและพูดอะไรกันน่ะ ผมไม่เข้าใจ ชานยอลได้แต่คิดในใจก่อนจะสะพายกระเป๋าและเดินออกไปจากห้อง เขารู้สึกอยากยิ้มขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุแฮะ เขาไม่เข้าใจที่เพื่อนในห้องพูดหรอกนะแต่เขาก็หยุดยิ้มไม่ได้จริงๆ
: )
ความคิดเห็น