คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
"อารากอร์น! เลโกลัส! กิมลี! เจ้าพวกฮอบบิท! หายไปไหนกันหมดเนี่ย!"
เสียงตะโกนก้องท้องพระโรงพระราชวังแห่งกอนดอร์ดังมาจากพ่อมดขาวบนหลังยอดอาชา ชาโดว์แฟกซ์ ที่ควบเข้ามาอย่างรวดเร็วปานสายลมพัดผ่านจนมาหยุดยืนนิ่งอยู่กลางท้องพระโรง เหล่าทหารในที่นั้นต่างไม่กล้าออกปากห้าม ด้วยมองเห็นความเร่งรีบและร้อนรนของพ่อมดขาวอย่างที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน จึงได้แต่พากันวิ่งออกไปตามหาตัวเจ้าของนามเหล่านั้น
"ครบแล้วหรือ" แกนดาล์ฟ เอ่ยพลางเอากล้องยาเส้นออกจากปาก เมื่อเห็นผู้ที่เขาเรียกหามากันครบแล้ว พร้อมทั้งฟาราเมียร์ เอโอแมร์ และเอโอวีน "พวกเจ้านี่ชักช้ากันเสียจริง ยังหนุ่มยังแน่นกันอยู่..."
"มีอะไรเร่งรีบขนาดต้องพาชาโดว์แฟกซ์เข้ามาถึงในนี้เลยหรือแกนดาล์ฟ" ว่าที่กษัตริย์หนุ่มเอ่ยถามก่อนที่พวกเขาจะโดนบ่นโดยไม่ได้รู้เรื่องที่ถูกเรียกตัวด่วนครั้งนี้
"สหายข้าจากต่างมิติส่งข่าวมาว่า มีคนเจอคามุลหลบซ่อนตัวอยู่ที่มิตินั้น และกำลังเรียกรวมเหล่านาซกูลที่เหลือ"
แกนดาล์ฟสบตากับอารากอร์น เลโกลัส และกิมลี ที่ต่างมีสีหน้าเคร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
"แต่ท่านแกนดาล์ฟ ท่านเคยบอกว่า พวกนั้นได้พลังมาจากแหวนไม่ใช่หรือ นี่แหวนก็ถูกทำลายไปแล้ว ต่อให้พวกน...นั้นรวมกันได้อีก ก็ไม่น่าเป็นอันตรายอะไรมิใช่หรือขอรับ" แซมถามขึ้นอย่างพยายามหลีกเลี่ยงคำว่า 'นาซกูล' ที่ดูเหมือนจะทำให้โฟรโดเจ็บแผลขึ้นมาอีก
"แน่นอน พวกนาซกูลได้พลังจากแหวน แต่ไม่ใช่จากเอกธำมรงค์วงเดียว เหตุที่พวกมันถูกเรียกว่าภูตแหวน เพราะพวกมันคือผู้ถือครองแหวนแห่งกษัตริย์มนุษย์ทั้งเก้า ถึงจะเสียหัวหน้าอย่างราชาจอมขมังเวทย์แห่งอังมาร์ไป แต่แหวนทั้งเก้าวงยังคงอยู่ ถ้าหากพวกมันสามารถหาผู้ครองแหวนคนใหม่ที่เหมาะสมได้ พวกมันก็จะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง และโอกาสที่จะหาผู้ครองแหวนที่เหมาะสมในมิตินั้นไม่ยากเลย เพราะที่นั่นมีมนุษย์ที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อยู่ไม่น้อย ไม่นับว่าที่นั่น ไม่มีเทพไมอาร์อย่างข้าหรือเหล่าพรายที่คอยต้านทานอำนาจมืดอยู่ แล้วจะหาใครยืนหยัดต่อสู้กับพวกมันได้กัน เจ้าคามุลนี่ฉลาดไม่น้อยเลยจริงๆ ที่เลือกมิตินั้น" แกนดาล์ฟอธิบายยาวพลางถอนใจ คราวนี้ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดไปตามๆ กัน
"เรื่องนี้ต้องรีบแค่ไหนกัน ท่านแกนดาล์ฟ รอไว้หลังพิธีราชาภิเษกได้หรือไม่ ข้าอยากจัดพิธีขึ้นก่อน เพื่อเรียกขวัญกำลังใจของประชาชนและปลอบโยนผู้ที่ต้องสูญเสียไปในสงครามแหวน ให้พวกเขาได้มั่นใจว่า อย่างน้อย พวกเราก็ได้กษัตริย์กลับคืนมาแล้ว"
คำถามแรกมาจากเสนาบดีคนใหม่แห่งกอนดอร์ ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังคงคิดถึงประชาชนก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ
"แต่หลังจากพิธีราชาภิเษกไม่นาน ก็จะมีพิธีอภิเษกสมรสอีกไม่ใช่หรือ แล้วถ้าจะเดินทางเลยหลังพิธีอภิเษก ก็น่าสงสารเลดี้อาร์เวนนัก"
เสียงท้วงจากหญิงสาวหนึ่งเดียวในที่นั้น ทำเอาว่าที่กษัตริย์ถึงกับสะดุ้ง เขาเองก็คิดเช่นเดียวกับฟาราเมียร์ว่า จะรอให้พันวันราชาภิเษกไปก่อน เพื่อเสริมสร้างกำลังใจให้กับประชาชน แล้วค่อยออกเดินทางโดยให้ฟาราเมียร์อยู่รักษาการณ์ที่นี่ แต่เขากลับลืมงานอภิเษกสมรสของตัวเองไปเสียสนิท
"ถ้าจะให้รอจนหลังพิธีอภิเษกอีกหนึ่งเดือน ที่คู่แต่งงานจะต้องอยู่ร่วมหอกันตามประเพณี ข้าเห็นว่าจะไม่ทันการณ์ ยิ่งเราเสียเวลามากเท่าไหร่ ก็เท่ากับเราจะต้องสู้กับพวกนาซกูลและสาวกของพวกมันจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย"
"งั้นท่านคิดว่าเราควรออกเดินทางเมื่อไหร่ แกนดัล์ฟ"
"เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พรุ่งนี้ได้ยิ่งดี"
ทุกคนกลืนน้ำลายลงคอ ไม่กล้าขัดคนแก่ใจร้อนอีก ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ จนกระทั่ง...
"งั้นเราก็ไม่ต้องไปกันทุกคนสิ ในเมื่อตอนนี้พวกมันยังรวมตัวกันไม่ได้ ถ้าตามจัดการทีละตน ก็ไม่น่าจะลำบากนัก ข้าขออาสาไปเอง" เลโกลัสเอ่ยขึ้น พลางหันไปห้ามอารากอร์น "ท่านไม่ต้องไป อารากอร์น แผลท่านยังไม่หายดีเลย ท่านจำเป็นต้องหายดีก่อนวันราชาภิเษก กอนดอร์จะขาดกษัตริย์ และราชินีไม่ได้"
วูบหนึ่งว่าที่กษัตริย์หนุ่มเห็นนัยน์ตาสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เหมือนที่เคยได้เห็นมาแล้วหลายครั้งในยามที่เจ้าชายพรายทำแผลให้เขาระหว่างสงคราม แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เขาคนเดียวที่เห็น พ่อมดขาวเองก็เห็นเช่นกัน
"ข้าจะไปกับเจ้า แผลข้าหายแล้ว..." คำของกิมลีถูกขัดขึ้นก่อนที่เขาจะทันพูดจบ
"ถึงแผลเจ้าจะหายแล้ว แต่เมืองที่เจ้าเป็นหัวหน้างานซ่อมแซมอยู่ยังไม่ใกล้เคียงกับสภาพเดิมเลยนะ เจ้าต้องจัดการให้เสร็จก่อนวันพิธี เจ้าไปไม่ได้"
"ข้าไปด้วยๆ..."
เสียงร้องเรียกของเหล่าฮอบบิทตัวน้อยถูกขัดขึ้นอย่างไว "พวกเจ้าไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ข้าเดินทางคนเดียวเร็วกว่า ไม่สะดุดตาด้วย แล้วข้าก็ไม่อยากเห็นโฟรโดต้องเจ็บแผลอีก" ท้ายเสียงนุ่มลงอย่างห่วงใย ทำให้สี่สหายไม่กล้าขัด
"ถ้าข้าปล่อยให้ท่านไปเพียงลำพัง แล้วท่านจะกลับมาทันงานพิธีของข้าไหม"
คำถามจากว่าที่กษัตริย์ทำเอาเจ้าชายพรายนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
"ข้าจะพยายามรีบกลับมาให้เร็วที่สุด ถ้าไม่ทันก็จะกลับมา ข้าจะปล่อยให้กษัตริย์แห่งกอนดอร์ขาดเพื่อนเจ้าบ่าวได้อย่างไร..."
ถึงน้ำเสียงและสีหน้าท่าทางของเลโกลัสจะดูร่าเริงสดใส แต่อารากอร์นกลับจับได้ว่าปลายเสียงนั้นเบาลงนิด และดวงตาสีเขียวที่มักจะสงบเยือกเย็น ก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลวูบไหวอีกครั้ง แกนดัล์ฟเองก็เห็นเช่นกัน แต่คราวนี้สีหน้าของพ่อมดขาวกลับแสดงออกถึงความเข้าใจในอะไรบางอย่าง
"ข้าจะไปกับเจ้าเอง เลโกลัส" น้ำเสียงเน้นหนักที่ชื่อ 'เลโกลัส' ของพ่อมดขาวและสายตาคมที่จ้องมองเขาเหมือนจะบอกว่า 'ข้ารู้'ทำให้เจ้าของชื่อได้แต่ยอมรับแต่โดยดี "ให้กิมลีไปด้วยอีกคน สามหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว ส่วนงานซ่อมแซมที่นี่ก็ให้พวกโกลอินจัดการก็ได้ ตกลงตามนี้"
"งั้นเดี๋ยวข้าจะส่งข่าวไปบอกสหายของข้าทางโน้น ว่าเราจะออกเดินทางกันวัน...อืม...สัปดาห์หน้าแล้วกัน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยมาวางแผนกันต่อ พ่อมดขาวพูดจบก็เดินสูบกล้องออกไปพร้อมยอดอาชาชาโดว์แฟกซ์อย่างสบายอารมณ์ ทิ้งให้คนที่เหลือมองตามกันอย่างุนงง กับความใจร้อนของพ่อมดชรา โดยมิมีใครทันได้เห็นสตรีนางหนึ่งที่มาถึงท้องพระโรงในเวลาไล่เลี่ยกับพ่อมดขาวผู้แอบสังเกตการณ์ทุกอย่างโดยละเอียดแล้วจากไปอย่างเงียบๆ
********************
“ฮูก ฮูก”
เสียงร้องของนกฮูกหิมะขนสีขาวบริสุทธิ์มีแต้มสีน้ำตาลประปรายดังขึ้นนอกหน้าต่างห้องนั่งเล่นรวมของบ้านเลขที่สิบสอง กริมโมลด์เพลซ เรียกให้เด็กสาวผมหยักศกสีน้ำตาลลุกขึ้นเดินไปเปิดหน้าต่าง เจ้านกบินเข้ามาทิ้งจดหมายลงบนตักของเด็กหนุ่มผมดำเจ้าของดวงตาคู่สีเขียวใสใต้กรอบแว่นก่อนจะบินกลับไปเกาะที่ไหล่ของเด็กสาวที่กำลังปิดหน้าต่าง
“รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้เฮ็ดวิกจะติดเธอจังเลยนะ เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่เปรยขณะมองดูเฮ็ดวิกร้องรับคำของเขาแล้วเอียงหัวซุกกับคอของเฮอร์ไมโอนี่ที่หัวเราะคิกคักกับอาการอ้อนของเจ้านกน้อย
“มันอาจจะคิดว่าถึงเวลาต้องประจบเฮอร์ไมโอนี่แล้วก็ได้ ว่ามั้ย”
รอนพูดก่อนจะเงยหน้าขึ้นจากกระดานหมากรุกพลางขยิบตาให้แมวขนฟูสีส้มที่นอนขดอยู่บนตักของแฮร์รี่อีกฟากของโต๊ะ ครุกแชงก์ร้องตอบด้วยเสียงแบบที่ทุกคนรู้สึกว่ามันเห็นด้วยกับคำพูดรอนสุดๆ เฮอร์ไมโอนี่เชื่อว่าเธอเห็นมันขยิบตากลับให้รอนด้วยซ้ำ
“พูดอะไรน่ะรอน เฮ็ดวิกจะทำอย่างนั้นทำไม ฉันไม่ใช่แฮร์รี่ซะหน่อย” เฮอร์ไมโอนี่ถามกลับพลางขมวดคิ้ว
“จริงๆ นะเฮอร์ไมโอนี่ เธอควรจะวางหนังสือแล้วหันมามองคนข้างๆ ตัวบ้างนะ”
เด็กสาวผมบลอนด์เปรยขณะเฮอร์ไมโอนี่เอื้อมมือไปหยิบหนังสือ ‘มิติและเวลา’ หลังจากนั่งลงข้างๆแฮร์รี่
“เอาน่า เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลานะ แต่อย่าให้มันนานนักล่ะเฮอร์ไมโอนี่ พวกเราขี้เกียจรอ”
เด็กสาวผมสีแดงเพลิงเอ่ยยิ้มๆ ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่เริ่มสงสัย
“จินนี่ ลูน่า มีอะไรกันรึเปล่า?”
“ช่างเหอะเฮอร์ไมนี่ ว่าแต่ นายจะไม่เปิดจดหมายเหรอแฮร์รี่”
เสียงทักของเนวิลล์ ทำให้แฮร์รี่รีบละสายตาจากเพื่อนสาวกลับไปมองจดหมายบนตักก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู ซองจดหมายเป็นสีเหลืองจ่าหน้าด้วยตัวอักษรสีเขียว เฮอร์ไมโอนี่ยื่นหน้าเข้าไปดูใกล้ๆ ทำให้มองไม่เห็นคนอื่นๆ ที่พยายามทุ่มเถียงกันด้วยภาษามือ
“จากฮอกวอตส์นี่” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่เรียกความสนใจของทุกคนให้กลับมาอยู่ที่จดหมายได้อีกครั้ง
“ว่าไงบ้างล่ะ?” รอนถามพลางส่งสัญญาณมือบอกคนที่เหลือว่า ‘ไว้คุยกันทีหลัง’
แฮร์รี่สบตากับเฮอร์ไมโอนี่ ก่อนจะเปิดออกอ่าน
แฮร์รี่ พอตเตอร์
เธอคงรู้แล้วว่า ปีนี้ฮอกวอตส์จะเปิดรับนักเรียนที่ยังไม่ได้สอบส.พ.บ.ส.ทั้งหมดให้กลับมาเรียนที่ฮอกวอตส์ได้ แต่มีบางอย่างที่ฉันไม่ได้บอกไปในจดหมายโรงเรียน คือปีนี้ฮอกวอตส์จะรับนักเรียนและอาจารย์แลกเปลี่ยนจากต่างมิติ ‘มิดเดิ้ลเอิร์ธ’ มาเรียนที่นี่ พวกเขามีรูปแบบการใช้เวทมนตร์ต่างจากเรามาก แล้วยังมีการเรียนการสอนศาสตร์การต่อสู้แขนงอื่นๆอีกที่อาจารย์ของพวกเขาจะมาสอนให้เฉพาะชั้นเรียนพิเศษของพวกเธอเท่านั้น ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะมากันกี่คน แต่หนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนสนิทของ ศ.ดัมเบิลดอร์ ฉันรู้ว่าพวกเธออาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะกลับมาเรียนดีหรือไม่ แต่ฉันอยากให้พวกเธอทุกคนกลับมา นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากที่จะติดต่อกับต่างมิติ ภาคีอยากให้เธอสานสัมพันธ์กับเพื่อนต่างมิติเอาไว้ โดย และทางที่ดี เธอเองก็ควรจะสอบส.พ.บ.ส. ให้ผ่านเช่นกัน
ฉันจะรอคำตอบจากเธอ
มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล
“ต่างมิติ? หมายความว่า ไอ้ที่เขียนอยู่ในหนังสือนั่นเป็นเรื่องจริงเหรอเนี่ย” รอนถามเสียงดังพลางชี้ไปยังหนังสือในมือเฮอร์ไมโอนี่
“ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหมโรนัลด์ว่ามันมีอยู่จริง” น้ำเสียงเนิบๆ อย่างเคยจากลูน่ามาพร้อมกับอาการพยักหน้าของจินนี่และสายตาตำหนิจากเฮอร์ไมโอนี่
“โอเคๆ มีก็มี” รอนกลอกตาพลางยักไหล่ยอมแพ้ ก่อนหันไปกระซิบกับเนวิลล์ที่เดินมายืนอยู่หลังเขา “พวกผู้หญิงนี่น่ากลัวจริง”
“เราได้ยินพี่นะ รอน” น้ำเสียงเอาเรื่องจากจินนี่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องเอ่ยตัดบท
“แล้วเราจะเอายังไงกันดีล่ะ อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้วนะ”
“ก็เอาสิ” เสียงแรกเป็นของเนวิลล์
“ฉันไม่พลาดหรอกน่า” รอนตอบพลางยักคิ้วให้
“ฉันก็สนนะ แล้วเธอว่าไงล่ะแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่หันกลับมาถามคนข้างกาย เด็กหนุ่มไม่ตอบแต่หันมาสบตาเธอพร้อมรอยยิ้ม
“ขอยืมกระดาษกับปากกาหน่อยสิ เฮอร์ไมโอนี่”
********************
ความคิดเห็น