คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ...จุมพิต...
วันนี้เป็นวันที่ซวยสุดๆของฉันเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่เช้าแล้วที่นายฮัตเข้ามาเรียนที่นี่ แล้วตอนกลางวันก็เถียงกันไปเถียงกันมาซะลั่นโรงเรียน เป็นเหตุให้ต้องเข้าห้องฝ่ายปกครองโดน’จารย์เบียบเทศและไม่ต้องเรียนคาบ5ไปโดยปริยาย
เมื่อฉันออกมาจากห้องฝ่ายปกครองหลังจากโดน’จารย์เบียบเทศมาสดๆร้อนๆก็แทบจับไข้ทันที นี่ยังต้องไปเรียนภาษาคาบ6ต่ออีกหรอเนี่ย โฮ โฮ T^T
“เพราะนายคนเดียว นายฮัตโตริ” ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆแต่ไม่นึกว่าเจ้าตัวจะหูดีได้ยินที่ฉันพูด
“เพราะเธอนั่นแหละยัยบ้า ตอนเย็นฉันกะจะกลับบ้านเร็วๆสักหน่อย ต้องมาคอยเก็บลูกบาสอีกหรอเนี่ย เฮ้อ..”
ใช่ค่ะ คุณอ่านไม่ผิดหรอก ความซวยอีกอย่างก็คือ ตอนเย็นห้ามกลับบ้านจนกว่าจะเก็บลูกบาสและอุปกรณ์กีฬาทั้งหมดเสร็จ ’จารย์เบีบยแกสั่งไว้อย่างงี้
“อ้าว นายบ๊อง ถ้านายไม่โวยวายหาเรื่องฉันก่อน เรื่องแบบนี้มันก็ไม่เกิดหรอก” ฉันเริ่มโวยใส่นายนั่นบ้าง ก็มันไม่ไหวแล้วจริงๆนี่
“เธอนั่นแหละตัวต้นเหตุ ไม่ต้องมาโทดคนอื่น” นายนั่นพูดแล้วชี้หน้าฉัน
“เอ๊ะ นี่นาย ฉันชักรำคาญเต็มทีแล้วนะ นายมันตัวซวย” ฉันแว้ดกลับไปบ้าง
“ฉันต่างหากที่ต้องพูด เธอมันเป็นยัยตัวซวย”
“อ๊ายยย
.อุ๊บ” ฉันมันพวกความอดทนน้อยเลยกรี๊ดออกมา แต่มีมือใหญ่มาปิดปากฉันไว้.. นายฮัตโตริ
“อ่อยอั๊นอ๊ะ” ฉันพูดเสียงอู้อี้เพราะมือของตาบ้าปิดปากฉันซะสนิท
“เธอจะกรี๊ดหาอะไรเล่า เดี๋ยวอาจารย์ก็ได้แห่กันมาดูหรอก” ฉันเงียบลงทันทีเพราะไม่อยากเข้าไปนั่งในห้องฝ่ายปกครองอีก
“เงียบได้สักที” ฮัตปล่อยมือจากปากฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่ต้องการจะเถียงกับเขาอีกแล้ว ฉันเหนื่อย เหนื่อยทุกครั้งที่เถียงกับเขา ฉันจึงวิ่งกลับห้องเรียนทันที
“เฮ้ เดี๋ยวซิ เธอ รอฉันก่อน” ฮัตวิ่งตามมาติดๆและคว้าข้อมือฉันไว้ เป็นจังหวะเดียวกับที่ฉันเปิดประตูห้องเรียนพอดี ภาพที่คนในห้องเห็นจึงเหมือนฉันกับฮัตเดินจับมือกันมา
“แหม จับมือกันมาเชียวนะ จิจิรุโดนของรึปล่าวยะ ถึงได้คบกับเด็กใหม่ไฟแรง แล้วเธอเอารุ่นพี่มาซาโตะ แฟนหนุ่มของเธอไปไว้ไหนแล้วล่ะ อย่าบอกนะว่าเขี่ยทิ้งไปแล้วน่ะ โฮะ โฮะ” เสียงของกระเทยสาวประจำห้องแซวขึ้น ฉันไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ฉันอยากพัก จึงเดินดุ่มๆไปที่โต๊ะโดยไม่สนใจเสียงนกเสียงกาทั้งหลาย แต่มือใหญ่ยังรั้งข้อมือฉันไว้อยู่ ฉันจึงหันไปมองเขาด้วยสายตาตำหนิ
“ปล่อยมือฉันได้รึยัง” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น และเหมือนเขาจะเพิ่งรู้ตัวจึงปล่อยมือทันที เรียกเสียงโห่เบาๆจากพวกสอดรู้สอดเห็นสอดเป็นสอดตายได้อย่างดี
ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะ อารมณ์เสียสุดฤทธิ์ มิคุจิถามฉันกี้คำฉันก็ไม่ตอบและฟุบหัวลงกับโต๊ะโดยไม่สนใจใคร
และแล้ว ตอนเย็นอันแสนทรหดและซวยมหาปะลัยของฉันก็มาถึง ฉันนั่งดูรุ่นพี่เล่นบาส หรือพูดให้ถูกคือดูแฟนของฉันเล่นบาส แฟนของฉันชื่อมาซาโตะ อยู่ชั้นม.6 และเป็นนักบาสของโรงเรียนจึงต้องมาซ้อมบาสทุกเย็น มาซาโตะหันมาสบตากับจิจิรุและยิ้มให้ จิจิรุเองก็ยิ้มตอบ เธอประทับใจในตัวเขามากเพราะมาซาโตะเป็นสุภาพบุรุษเสมอเวลาอยู่กับเธอ และเขาก็สัญญากับเธอว่าเขาจะไม่มีวันทั้งเธอไป เธอนั่งอมยิ้มกับตัวเอง สักพัก มาซาโตะก็เดินมานั่งด้วย แล้วยิ้มให้อย่างเคย
“วันนี้ไม่รีบกลับบ้านหรอครับ”
“ก็อยากอยู่หรอกค่ะ แต่ต้องอยู่เก็บลูกบาสก่อน ’จารย์เบียบสั่งมา แหะแหะ” ฉันพูดแล้วยิ้มแห้งๆให้มาซาโตะ
“อ้าว แล้วมีคนช่วยรึปล่าว ให้พี่อยู่ช่วยมั้ย” มาซาโตะถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรค่ะ มีคนช่วยแล้ว มาซาโตะกลับไปเหอะ พักผ่อนเยอะๆ ใกล้ถึงวันแข่งแล้วนะ” จิจิรุพูดแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มแบบที่น้อยคนนักจะได้เห็น
“ครับๆ ก็ได้ครับ ดูแลตัวเองดีๆละกัน พี่ไปนะ บายครับ” มาซาโตะโบกมือให้แฟนสาวก่อนจะขี่มอเตอไซค์ออกไปจากโรงเรียน
ฮัตโตริที่แอบดูอยู่นาน เมื่อเห็นแฟนของ ‘ยัยตัวซวย’ กลับไปแล้วจึงเดินออกไป เพราะเขาไม่อยากเป็นก.ข.ค.
“อ้าว นาย มาช้าจัง ฉันรอตั้งนาน”
‘เธอก็มีแฟนอยู่เป็นเพื่อนแล้วนี่’
ฮัตอยากจะตอบออกไปแบบนั้น แต่สิ่งที่เขาทำคือส่งยิ้มบางๆไปให้จิจิรุ
เธออึ้งไปเล็กน้อยเนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่เขายิ้มให้ แต่เธอก็ดึงสติกลับมาแล้วเดินไปเก็บลูกบาสทันที เธอไม่ได้รู้สึกอายแต่เธอรู้สึกแปลกๆทุกครั้งที่เขายิ้มหรือพูดดีด้วย
ขณะที่กำลังเก็บลูกบาส เขาก็ชวนเธอคุยเรื่องต่างๆ ชวนเธอร้องเพลง เรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากเธอได้
ฮัตรู้สึกว่าเธอดูน่ารักเวลายิ้มและหัวเราะ เพราะปกติเขาจะเห็นแต่สีหน้าบูดบึ้งของเธอ
ขณะที่คุยกัน จิจิรุยืนพิงรถเข็นที่ใส่ลูกบาสอยู่ ทำให้รถเข็นเคลื่อนไปด้านหลัง ตัวเธอจึงเซถลาไปตามแรงรถเข็นและถลาไปชนกับฮัตเข้า ทำให้ตัวของเธอและฮัตเข้าไปติดผนัง ริมฝีปากของเธอและเขาประกบกันพอดี
เธอทำอะไรไม่ถูกไปแวบหนึ่ง เธอไม่กล้าขยับตัว ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน มารู้ตัวอีกที เธอก็หลงใหลในรสจุมพิตเมื่อครู่ซะแล้ว จิจิรุรู้สึกผิดมากจึงรีบดันตัวออกห่างเขาทันที
เธอรู้สึกอายมากและไม่กล้ามองหน้าเขาเลย จึงรีบพูตัดบทไปว่า
“เก็บเสร็จแล้ว ฉันกลับบ้านก่อนละกัน นายก็กลับได้แล้วนะ ฉันไปล่ะ” เธอรีบหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปทันที
ฮัตโตริเองก็รู้สึกผิดไม่แพ้เธอ เขาอยากชกหน้าตัวเองแรงๆสักทีแต่รู้ว่าทำไปก็ไม่มีประโยชน์จึงได้แต่หัวเราะฝืนๆกับตัวเอง ก่อนจะกลับบ้านไปอีกคน
แต่ทั้ง 2 ไม่รู้เลยว่า คนที่เจ็บปวดที่สุดแอบมองพวกเขาทั้ง2 ทุกอิริยาบถ สายตาของเขาปวดร้าว เขาหลับตาลงเพื่อตั้งสติแล้วขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านไป ตลอดทาง เค้าเฝ้าปลอบตัวเองด้วยคำพูดโง่ๆว่า ‘เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว’
ความคิดเห็น