คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จางอิ้งเยว่
จวนกระตูลจาง
เฮือก! เสียงลมหายใจดังขึ้น นางสะลึมสะลือเหมือนอยู่ในความฝัน
ตาปิดสนิทแต่หูค่อยๆได้ยินเสียงรอบข้าง เหมือนเสียงคนร้องไห้ เสียงของใครกัน
สักพักนางก็หลับไหลไปอีกครั้ง
“เยว่เออร์ เยว์เออร์ ลูกหายใจแล้ว ท่านหมอลูกข้าหายใจแล้ว ช่วยมาดูลุกข้าหน่อยเจ้าค่ะ” หญิงวัยกลางคนมีใบหน้างดงามกล่าวขึ้นด้วยความร้อนรน
หมอหลวงที่เชิญมารีบมาดูอาการ เด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงหน้าตาซีดเซียว หมอหลวงจับดูชีพจรที่กลับมาเต้นอีกครั้งอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ตกใจ ก่อนที่เขาจะได้มาเป็นหมอในแพทย์หลวงเขาเคยเดินทางรักษาคนป่วยในหลายพื้นที่จึงพบเห็นเรื่องประหลาดมามากมาย
“เรียนท่านแม่ทัพ เรียนฮูหยิน เรื่องนี้นับว่าเป็นปาฏิหาริย์ยิ่งหนัก
คุณหนูใหญ่เป็นผู้มีบุญยิ่ง ชีพจรกลับมาเต้นอีกแต่ยังไม่สม่ำเสมอ
ร่างกายของคุณหนูยังอ่อนแรง ตอนนี้ไม่มีอันรายถึงชีวิตแล้ว
พรุ่งนี้ก็น่าจะฟื้นขึ้นมา ขอรับ ”
“ขอบคุณท่านหมอมาก”
ท่านแม่ทัพจางหลีเฉียงกล่าวขึ้น
“ขอบคุณท่านหมอมากที่ช่วยเยว่เออร์ของข้า” ฮูหยินท่านแม่ทัพที่ใบหน้าเต็มไปน้ำตาหน้าหันมาคารวะขอบคุณหมอหลวงด้วยความซาบซึ้งใจ
“ท่านแม่ทัพ
ฮูหยิน กล่าวเกินไปแล้ว ข้าน้อยมิกล้า
เดี่ยวข้าน้อยจะจัดยาแล้วให้คนนำมาส่งให้ที่จวน ข้าน้องขอตัวกลับก่อน” หมอหลวงตัวเล็กๆอย่างเขาไหนเลยจะกล้ารับการคารวะจากท่านแม่ทัพใหญ่ผู้นี้
“อาจวิ้นไปส่งท่านหมอหลวง
พร้อมรอรับยากลับมาด้วย” ท่านแม่ทัพสั่งลูกชาย
“ท่านหมอเชิญ” จางหลี่จวิ้น พูดจบก็เดินออกไปส่งท่านหมอตามคำสั่งพ่อของเขา
ก่อนไปยังไม่ลืมมองไปยังเตียงที่น้องน้อยของเขาที่นอนไม่ได้สติด้วยความเป็นห่วง
“ฮุยเออร์เจ้ากลับไปพุกผ่อนก่อนเถิด เจ้าไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว ถ้าเกิดล้มป่วยขึ้นมาจะทำเยี่ยงไร”ท่านแม่ทัพพยายามกล่อมภรรยาไปพักผ่อน
“แต่” ฮูหยินกำลังจะกล่าวขัด
“ไม่มีแต่
ทั้งนั้น ถ้าลูกฟื้นขึ้นมา ข้าจะให้ชิงชิงไปตามเจ้าทันทีดีหรือไม่” ท่านแม่ทัพไม่เปิดโอกาสให้ฮูหยินได้เอ๋ยวาจา
“เจ้าค่ะ ท่านพี่
“นางมองลูกสาวที่เป็นแก้วตาดวงใจของนางด้วยความเป็นห่วงเป็นใยแต่ก็ต้องตัดใจเดินออกจากห้องไป
ท่านแม่ทัพนั่งมองลูกสาวอย่างเหม่อเลย
ตอนแรกลูกสาวเขาเป็นไข้นึกว่าอาการไม่เป็นไรมากแต่สามวันไข้ยังไม่ลดยังเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ
ครอบครัวเขาร้อนใจเป็นอย่างมาก วันนี้อาการก็ยิ่งทรุดลงแล้ว
แล้วลุกสาวเขาก็หยุดหายใจภรรยาเขาร้องไห้แทบขาดใจ
ลูกชายที่ไม่เคยเห็นร้องไห้กลับน้ำตาไหลแต่ไร้เสียง เขาซึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่ไม่ว่าเจอศัตรูนับหมื่นนับแสนเขาไม่เคยหวาดกลัว
แต่วันนี้เป็นวันที่เขาเจ็บปวดใจยิ่งหนักถึงน้ำตาจะไม่ไหล แต่ความเสียใจไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าภรรยา
และบุตรชายเลย แต่แล้วกลับมีปาฏิหาริย์เกิดกับครอบครัวของเขา
ลูกสาวเขามีลมหายใจขึ้นมาอีกครั้ง ตอนแรกเขาเหมือนอยู่ในก้นบ่อลึกที่ไร้แสง แต่ตอนนี้เหมือนมีคนฉุดขึ้นจากบ่อแล้วรับแสงอันอบอุ่น
เขาจับมือลูกสาวไว้แน่น
“ดูแลคุณหนูใหญ่ให้ดีๆ
ถ้าคุณหนูฟื้นแล้วให้คนไปตามข้ากับฮูหยินทันที” แม่ทัพหันมาสั่งสาวใช้
แล้วค่อยเดินออกจากห้องไปยังห้องหนังสือ
ยามเฉินอากาศรอบเรือนเงียบสงบ
แสงแดดยามเช้าช่างดูอบอุ่น
“อืม” หญิงสาวบนเตียงครางเบาๆ แล้วค่อยๆลืมตาขึ้น
“คุณหนู คุณหนู ฟื้นแล้วหรอเจ้าค่ะ” สาวใช้ชิงชิงพูดพร้อมน้ำตาที่หลั่งออกมา แล้วรีบให้คนไปตามนายท่าน ฮูหยินและคุณชาย
ร่างบนเตียงที่ถูกเรียกว่าคุณตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงงพลางมองไปรอบๆห้องด้วยความสงสัย
แล้วนึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นี่มันเกิดอะไรขึ้น นางจำได้ว่ามีคนมาทำร้ายนางแล้วนางโดดลงหน้าผา
แล้วเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ แล้วความทรงจำที่อยู่ในหัวนางนี่ของใคร
ทำไมนางรู้จักที่นี่ รู้จักสาวใช้คนนี้ นางเริ่มตั้งสติแล้ว
คิดถึงความทรงจำที่อยู่ในหัวนางตอนนี้ คนที่นอนอยุ่ที่เป็นคุณหนูใหญ่จางอิ้งเยว่
บุตรสาวคนเดียวของแม่ทัพใหญ่
เป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว เป็นครอบครัวที่อบอุ่นชวนให้คนอิจฉายิ่งนัก ช่างแตกต่างกับนางที่บิดามารดาเสียไปแล้ว
แต่หญิงสาวกลับต้องมาล้มป่วยหนัก
แล้วใยนางถึงกลายมาเป็นคุณหนูผู้นี้ได้หรือแพราะนางยังมีห่วงตอนตาย
ถ้าสวรรค์ประทานโอกาสให้นางก็จะขอใช้ชีวิตในใหม่เป็น จางอิ้งเยว่ เพื่อสืบหาคนที่ต้องการฆ่านางแล้วยังมีสามีของนาง
หญิงสาวติดอยู่ในความคิดของตัวเองจนไม่ได้ยินเสียงรอบข้างที่เกิดขึ้น
“เยว่เอร์
เยว่เออร์ ได้ยินแม่หรือไม่” ฮูหยินกุมมือลูกสาวเรียกนางอย่างร้อนใจ
ทำให้หญิงสาวหลุดจากผวังค์ จึงมองไปตามเสียงหญิงวัยหลางคน
นี่คงเป็นมารดาของจางอิ้งเยว่ และมองไปรอบๆเห็นชายหน้าตาหล่อเหล่าอายุประมาณสี่สิบปีคงเป็นท่านแม่ใหญ่
และอีกก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากจางหลี่จวิ้น คนบ้านนี้ช่างมีรูปร่างหน้าตาที่งดงามกันทั้งบ้าน
“ท่านแม่
ลุกอกตัญญูทำให้ท่านแม่ ท่านพ่อ พี่ใหญ่ เป็นห่วง” นางพูดไปพร้อมท่าทางที่ดูอ่อนแรง
“เยว่เออร์
ลูกไม่เป็นไรก็นับว่าสวรรค์เมตตาแล้ว”ฮูหยินพูดพร้อมกับดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดอย่างเบามือ
“รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง
ร่างกายเจ็บปวดตรงไหนหรือไม่”ท่านแม่ทัพถามด้วยความเป็นห่วงลูกสาว
“เยว่เออร์ของพี่ตอนนี้รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่”
พี่ชายที่แสนจะรักน้องสาวยังกลัวว่าน้องน้อยของเขายังรู้สึกไม่ดี เพราะเมื่อวานท่าทางนางยังดูทรมานเพราะอาการพิษไข้อยู่เลย
แต่วันนี้กลับดูไม่เป็นเช่นนั้น แค่ยังมีสีหน้าซืดเซียวเท่านั้น
“ลูกไม่เป็นไรแล้วเจ้าค่ะ
ท่านแม่ ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ร่างกายก็ดีขึ้นมาก แค่ยังร็สึกอ่อนเพลียเท่านั้นเจ้าค่ะ
แต่ลูกรู้สึกหิวแล้วเจ้าค่ะท่านแม่” นางรู้สึกหิวจริงๆ
ร่างกายนี้ไม่ได้กินข้าวมากี่วันแล้ว
ได้ยินบุตรสาวพูดจบฮูหยินก็อมยิ้ม
แล้วสั่งสาวใช้ให้ไปเตรียมอาหารให้นาง ทุกคนพูดคุยกันอยู่สักพัก จึงปล่อยให้หญิงสาวได้พักผ่อนอยู่ในห้อง
และกำชับสาวใช้ให้อยู่ดูแล
หลังจากนั้นมานับเดือนแล้วที่จางอิ้งเยว่ฟื้นขึ้นมาจนตอนนี้ร่างกายนางกลับมาเป็นปกติแล้ว
นางนั่งคิดอยู่บนเตียงเงียบๆ ถ้านางไปเจอสามีตอนนี้แล้วบอกความจริงให้เขาฟัง
เขาคงหาว่านางเป็นคนบ้า แล้วยังเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่จะไปพบชายที่แต่งงานแล้วได้อย่างไร
ขณะที่นางนั่งคิดอยู่นั้นมารดานางก็ได้เดินเข้ามาในห้อง
“เยว่เออร์
ร่างกายลูกแข็งแรงขึ้นแล้วหรือไม่” ฮูหยินกุมมือลูกสาวถามด้วยความห่วงใย
“ลูกหายเป็นปกติแล้วเจ้าค่ะท่านแม่”จางอิ้งเยว่เอ่ยตอบมารดาพร้อมส่งยิ้มให้เล็กน้อย
นางเองก็รู้สึกผิดที่มาสวมรอยเป็นจางอิ้งเยว่
ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็ตามที
ถ้าทุกคนในครอบครัวรู้ว่าจางอิ้งเยว่ตัวจริงตายไปแล้วจะเสียใจแค่ไหน
ถึงนางจะมีเรื่องที่ตัวเองต้องทำแต่นางก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นบุตรสาวที่ดีและ
จะไม่ทำอะไรที่ส่งผลร้ายต่อครอบครัวนี้เด็ดขาด ถือเป็นการตอบแทนจางอิ้งเยว่ตัวจริง
ดีที่นิสัยที่แท้จริงของเจ้าของร่างนี้กับนางมีนิสัยคล้ายๆกันจึงไม่ได้มีใครผิดสังเกต
“อีกเจ็ดวันจะเป็นวันเกิดท่านเสนาบดีหวัง
ครอบครัวเราก็ได้รับเทียบเชิญ ลูกจะไปหรือไม่”ฮูหยินมองบุตรสาวด้วยความเป็นกังวล
เพราะบุตรสาวพึ่งหายไข้
“ลูกจะไปด้วยเจ้าค่ะท่านแม่”
จางอิ้งเยว่ตอบด้วยสาวตาเป็นประกาย งานนี้สามีนางคงมาร่วมงานด้วยแน่นางพยายามเก็บความดีใจเอาไว้
“ท่านแม่
พรุ่งนี้ลูกอยากออกไปร้านเครื่องประดับเจ้าค่ะ” นางต้องออกไปหาข่าวคราวข้างนอกบ้าง
“ตามใจลูก
แต่นำองครักษ์ติดตามไปด้วยนะลูก”
“เจ้าค่ะท่านแม่”
ความคิดเห็น