ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แค้นรักบุปผาลวง

    ลำดับตอนที่ #2 : จางอิ้งเยว่

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 63


    จวนกระตูลจาง


                   เฮือก! เสียงลมหายใจดังขึ้น นางสะลึมสะลือเหมือนอยู่ในความฝัน ตาปิดสนิทแต่หูค่อยๆได้ยินเสียงรอบข้าง เหมือนเสียงคนร้องไห้ เสียงของใครกัน สักพักนางก็หลับไหลไปอีกครั้ง

              

               “เยว่เออร์ เยว์เออร์ ลูกหายใจแล้ว ท่านหมอลูกข้าหายใจแล้ว ช่วยมาดูลุกข้าหน่อยเจ้าค่ะ” หญิงวัยกลางคนมีใบหน้างดงามกล่าวขึ้นด้วยความร้อนรน

              

               หมอหลวงที่เชิญมารีบมาดูอาการ เด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงหน้าตาซีดเซียว  หมอหลวงจับดูชีพจรที่กลับมาเต้นอีกครั้งอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ตกใจ ก่อนที่เขาจะได้มาเป็นหมอในแพทย์หลวงเขาเคยเดินทางรักษาคนป่วยในหลายพื้นที่จึงพบเห็นเรื่องประหลาดมามากมาย

               

              “เรียนท่านแม่ทัพ เรียนฮูหยิน เรื่องนี้นับว่าเป็นปาฏิหาริย์ยิ่งหนัก คุณหนูใหญ่เป็นผู้มีบุญยิ่ง ชีพจรกลับมาเต้นอีกแต่ยังไม่สม่ำเสมอ ร่างกายของคุณหนูยังอ่อนแรง ตอนนี้ไม่มีอันรายถึงชีวิตแล้ว พรุ่งนี้ก็น่าจะฟื้นขึ้นมา ขอรับ ”

                

                   “ขอบคุณท่านหมอมาก” ท่านแม่ทัพจางหลีเฉียงกล่าวขึ้น

               

                   “ขอบคุณท่านหมอมากที่ช่วยเยว่เออร์ของข้า”  ฮูหยินท่านแม่ทัพที่ใบหน้าเต็มไปน้ำตาหน้าหันมาคารวะขอบคุณหมอหลวงด้วยความซาบซึ้งใจ

                

                   “ท่านแม่ทัพ ฮูหยิน กล่าวเกินไปแล้ว ข้าน้อยมิกล้า เดี่ยวข้าน้อยจะจัดยาแล้วให้คนนำมาส่งให้ที่จวน ข้าน้องขอตัวกลับก่อน”  หมอหลวงตัวเล็กๆอย่างเขาไหนเลยจะกล้ารับการคารวะจากท่านแม่ทัพใหญ่ผู้นี้

               

                   “อาจวิ้นไปส่งท่านหมอหลวง พร้อมรอรับยากลับมาด้วย” ท่านแม่ทัพสั่งลูกชาย

              

               “ท่านหมอเชิญ” จางหลี่จวิ้น พูดจบก็เดินออกไปส่งท่านหมอตามคำสั่งพ่อของเขา ก่อนไปยังไม่ลืมมองไปยังเตียงที่น้องน้อยของเขาที่นอนไม่ได้สติด้วยความเป็นห่วง

              

             “ฮุยเออร์เจ้ากลับไปพุกผ่อนก่อนเถิด เจ้าไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว ถ้าเกิดล้มป่วยขึ้นมาจะทำเยี่ยงไร”ท่านแม่ทัพพยายามกล่อมภรรยาไปพักผ่อน


               “แต่” ฮูหยินกำลังจะกล่าวขัด


          “ไม่มีแต่ ทั้งนั้น ถ้าลูกฟื้นขึ้นมา ข้าจะให้ชิงชิงไปตามเจ้าทันทีดีหรือไม่”  ท่านแม่ทัพไม่เปิดโอกาสให้ฮูหยินได้เอ๋ยวาจา


           “เจ้าค่ะ ท่านพี่ “นางมองลูกสาวที่เป็นแก้วตาดวงใจของนางด้วยความเป็นห่วงเป็นใยแต่ก็ต้องตัดใจเดินออกจากห้องไป


           ท่านแม่ทัพนั่งมองลูกสาวอย่างเหม่อเลย ตอนแรกลูกสาวเขาเป็นไข้นึกว่าอาการไม่เป็นไรมากแต่สามวันไข้ยังไม่ลดยังเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ ครอบครัวเขาร้อนใจเป็นอย่างมาก วันนี้อาการก็ยิ่งทรุดลงแล้ว แล้วลุกสาวเขาก็หยุดหายใจภรรยาเขาร้องไห้แทบขาดใจ ลูกชายที่ไม่เคยเห็นร้องไห้กลับน้ำตาไหลแต่ไร้เสียง  เขาซึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่ไม่ว่าเจอศัตรูนับหมื่นนับแสนเขาไม่เคยหวาดกลัว แต่วันนี้เป็นวันที่เขาเจ็บปวดใจยิ่งหนักถึงน้ำตาจะไม่ไหล แต่ความเสียใจไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าภรรยา และบุตรชายเลย  แต่แล้วกลับมีปาฏิหาริย์เกิดกับครอบครัวของเขา ลูกสาวเขามีลมหายใจขึ้นมาอีกครั้ง ตอนแรกเขาเหมือนอยู่ในก้นบ่อลึกที่ไร้แสง แต่ตอนนี้เหมือนมีคนฉุดขึ้นจากบ่อแล้วรับแสงอันอบอุ่น เขาจับมือลูกสาวไว้แน่น

         

       “ดูแลคุณหนูใหญ่ให้ดีๆ ถ้าคุณหนูฟื้นแล้วให้คนไปตามข้ากับฮูหยินทันที” แม่ทัพหันมาสั่งสาวใช้ แล้วค่อยเดินออกจากห้องไปยังห้องหนังสือ


         ยามเฉินอากาศรอบเรือนเงียบสงบ แสงแดดยามเช้าช่างดูอบอุ่น

         

        “อืม” หญิงสาวบนเตียงครางเบาๆ แล้วค่อยๆลืมตาขึ้น


        

       “คุณหนู คุณหนู ฟื้นแล้วหรอเจ้าค่ะ” สาวใช้ชิงชิงพูดพร้อมน้ำตาที่หลั่งออกมา แล้วรีบให้คนไปตามนายท่าน ฮูหยินและคุณชาย


         ร่างบนเตียงที่ถูกเรียกว่าคุณตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงงพลางมองไปรอบๆห้องด้วยความสงสัย แล้วนึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นี่มันเกิดอะไรขึ้น นางจำได้ว่ามีคนมาทำร้ายนางแล้วนางโดดลงหน้าผา แล้วเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ แล้วความทรงจำที่อยู่ในหัวนางนี่ของใคร ทำไมนางรู้จักที่นี่ รู้จักสาวใช้คนนี้ นางเริ่มตั้งสติแล้ว คิดถึงความทรงจำที่อยู่ในหัวนางตอนนี้ คนที่นอนอยุ่ที่เป็นคุณหนูใหญ่จางอิ้งเยว่ บุตรสาวคนเดียวของแม่ทัพใหญ่  เป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว เป็นครอบครัวที่อบอุ่นชวนให้คนอิจฉายิ่งนัก  ช่างแตกต่างกับนางที่บิดามารดาเสียไปแล้ว แต่หญิงสาวกลับต้องมาล้มป่วยหนัก แล้วใยนางถึงกลายมาเป็นคุณหนูผู้นี้ได้หรือแพราะนางยังมีห่วงตอนตาย ถ้าสวรรค์ประทานโอกาสให้นางก็จะขอใช้ชีวิตในใหม่เป็น จางอิ้งเยว่ เพื่อสืบหาคนที่ต้องการฆ่านางแล้วยังมีสามีของนาง หญิงสาวติดอยู่ในความคิดของตัวเองจนไม่ได้ยินเสียงรอบข้างที่เกิดขึ้น


         “เยว่เอร์ เยว่เออร์ ได้ยินแม่หรือไม่” ฮูหยินกุมมือลูกสาวเรียกนางอย่างร้อนใจ ทำให้หญิงสาวหลุดจากผวังค์ จึงมองไปตามเสียงหญิงวัยหลางคน นี่คงเป็นมารดาของจางอิ้งเยว่  และมองไปรอบๆเห็นชายหน้าตาหล่อเหล่าอายุประมาณสี่สิบปีคงเป็นท่านแม่ใหญ่ และอีกก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากจางหลี่จวิ้น คนบ้านนี้ช่างมีรูปร่างหน้าตาที่งดงามกันทั้งบ้าน


    “ท่านแม่ ลุกอกตัญญูทำให้ท่านแม่ ท่านพ่อ พี่ใหญ่ เป็นห่วง” นางพูดไปพร้อมท่าทางที่ดูอ่อนแรง


    “เยว่เออร์ ลูกไม่เป็นไรก็นับว่าสวรรค์เมตตาแล้ว”ฮูหยินพูดพร้อมกับดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดอย่างเบามือ


    “รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง ร่างกายเจ็บปวดตรงไหนหรือไม่”ท่านแม่ทัพถามด้วยความเป็นห่วงลูกสาว


    “เยว่เออร์ของพี่ตอนนี้รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่” พี่ชายที่แสนจะรักน้องสาวยังกลัวว่าน้องน้อยของเขายังรู้สึกไม่ดี เพราะเมื่อวานท่าทางนางยังดูทรมานเพราะอาการพิษไข้อยู่เลย แต่วันนี้กลับดูไม่เป็นเช่นนั้น แค่ยังมีสีหน้าซืดเซียวเท่านั้น


    “ลูกไม่เป็นไรแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ร่างกายก็ดีขึ้นมาก แค่ยังร็สึกอ่อนเพลียเท่านั้นเจ้าค่ะ แต่ลูกรู้สึกหิวแล้วเจ้าค่ะท่านแม่”       นางรู้สึกหิวจริงๆ ร่างกายนี้ไม่ได้กินข้าวมากี่วันแล้ว


    ได้ยินบุตรสาวพูดจบฮูหยินก็อมยิ้ม แล้วสั่งสาวใช้ให้ไปเตรียมอาหารให้นาง ทุกคนพูดคุยกันอยู่สักพัก จึงปล่อยให้หญิงสาวได้พักผ่อนอยู่ในห้อง และกำชับสาวใช้ให้อยู่ดูแล


    หลังจากนั้นมานับเดือนแล้วที่จางอิ้งเยว่ฟื้นขึ้นมาจนตอนนี้ร่างกายนางกลับมาเป็นปกติแล้ว นางนั่งคิดอยู่บนเตียงเงียบๆ ถ้านางไปเจอสามีตอนนี้แล้วบอกความจริงให้เขาฟัง เขาคงหาว่านางเป็นคนบ้า แล้วยังเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่จะไปพบชายที่แต่งงานแล้วได้อย่างไร ขณะที่นางนั่งคิดอยู่นั้นมารดานางก็ได้เดินเข้ามาในห้อง


    “เยว่เออร์ ร่างกายลูกแข็งแรงขึ้นแล้วหรือไม่” ฮูหยินกุมมือลูกสาวถามด้วยความห่วงใย


    “ลูกหายเป็นปกติแล้วเจ้าค่ะท่านแม่”จางอิ้งเยว่เอ่ยตอบมารดาพร้อมส่งยิ้มให้เล็กน้อย


    นางเองก็รู้สึกผิดที่มาสวมรอยเป็นจางอิ้งเยว่ ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็ตามที ถ้าทุกคนในครอบครัวรู้ว่าจางอิ้งเยว่ตัวจริงตายไปแล้วจะเสียใจแค่ไหน ถึงนางจะมีเรื่องที่ตัวเองต้องทำแต่นางก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นบุตรสาวที่ดีและ จะไม่ทำอะไรที่ส่งผลร้ายต่อครอบครัวนี้เด็ดขาด ถือเป็นการตอบแทนจางอิ้งเยว่ตัวจริง ดีที่นิสัยที่แท้จริงของเจ้าของร่างนี้กับนางมีนิสัยคล้ายๆกันจึงไม่ได้มีใครผิดสังเกต


    “อีกเจ็ดวันจะเป็นวันเกิดท่านเสนาบดีหวัง ครอบครัวเราก็ได้รับเทียบเชิญ ลูกจะไปหรือไม่”ฮูหยินมองบุตรสาวด้วยความเป็นกังวล เพราะบุตรสาวพึ่งหายไข้


    “ลูกจะไปด้วยเจ้าค่ะท่านแม่” จางอิ้งเยว่ตอบด้วยสาวตาเป็นประกาย งานนี้สามีนางคงมาร่วมงานด้วยแน่นางพยายามเก็บความดีใจเอาไว้


    “ท่านแม่ พรุ่งนี้ลูกอยากออกไปร้านเครื่องประดับเจ้าค่ะ” นางต้องออกไปหาข่าวคราวข้างนอกบ้าง


    “ตามใจลูก แต่นำองครักษ์ติดตามไปด้วยนะลูก”


    “เจ้าค่ะท่านแม่”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×