ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของ+ลับ

    ลำดับตอนที่ #55 : บันทึกหน้าที่หนึ่ง : บุตรแห่งความมืด

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20
      0
      28 เม.ย. 57

    B B






    บันทึกหน้าที่หนึ่ง บุตรแห่งความมืด








     

                “หลบไปพวกเจ้า! ข้าต้องการเข้าเฝ้าองค์ราชาเดี๋ยวนี้!!

    ร่างของชายแก่ในชุดคลุมสีดำสนิทวิ่งถือลูกแก้วลูกโตสีใสในมือด้วยความเร่งรีบ สองเท้าวิ่งหลบเหล่าทหารเวรยามหน้าประตูปราสาทที่วิ่งกรูเข้ามาขัดขวาง แต่หากเรี่ยวแรงอันมหาศาลของชายแก่และลูกบอลพลังสีฟ้าที่เข้ามาจัดการให้เหล่าทหารระดับล่างล้มไปกองกับพื้นจนหมด เหล่าข้ารับใช้ สนมต่างกรี๊ดร้องตกใจ เมื่อเห็นผู้บุกรุกที่มีใบหน้าสีแดงเนื่องจากความรีบร้อนและมีรูปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัว วกเขาต่างหลีกทางให้ร่างผอมแห้งนั่นวิ่งไปยังห้องขององค์ราชาอย่างไม่มีใครกล้าขัดขืน

    ทางข้างหน้าคือประตูใหญ่สีทองมีลวดลายสลักและลงอาคมเพื่อป้องกันผู้บุกรุกจากภายนอก แต่นั่นไม่เป็นปัญหาสำหรับชายแก่ร่างผอมบาง เพราะเขาสามารถเข้าไปได้เนื่องจากเป็นคนในที่เกี่ยวข้อง แต่องค์ราชานั้นปรกติจะไม่ค่อยอยากให้ใครมาพบพานเสียเท่าไร ดังนั้นหากใครต้องการเข้าเฝ้าควรจะบอกก่อนอย่างน้อยหนึ่งวันยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีธุระหรือเหตุการ์ณด่วนจริงๆเท่านั้น

    ประตูเข้าสู่ห้องราชาจำเป็นต้องทำสัญญาเพื่อจะได้เปิดผ่านให้เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังเวทของผู้ทำสัญญา แต่หากใครที่บุกรุกโดยไม่ใช่ผู้ทำสัญญาแล้วล่ะก็จะถูกดีดกระเด็นและถูกกำจัดทันที และในปัจุบันก็มีเพียงห้าคนสนิทขององค์ราชาเท่านั้นที่ได้ทำ

    และเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น

    หากแต่ก่อนจะถึงประตูกลับมีเงาสองร่างเข้ามายืนอยู่เบื้องหน้าประตู ในวินาทีนั้นดาบยาวสองเล่มก็เข้ามาจ่อที่คอของชายแก่จนร่างผอมบางทรุดฮวบตรงหน้าประตูสีทอง ร่างทั้งร่างสั่นหงึก กลืนน้ำลายเอือกเมื่อเห็นดาบสองเล่มส่องประกายแวววาวเตรียมจะตัดคอเขาทุกเมื่อหากเขาขยับหรือขัดขืนไปมากกว่านี้ ก่อนเสียงอันคุ้นเคยจะทำให้ชายแก่หยุดชะงักและลองเพ่งพินิจดูใบหน้าของชายทั้งสองที่จ่อดาบมาบนคอของเขา

    “เจ้าบุกมายังปราสาทมีธุระอะไร กิลเลนฮอว์” เสียงหนึ่งชองชายหนุ่มทางด้านซ้ายเอ่ยถาม กิลเลนฮอว์เงยหน้ามองอีกฝ่ายแล้วขมวดคิ้วมุ่น

    “ธุระของข้ามีกับองค์ราชา ไม่ใช่เจ้า เอลเรียส” เสียงของชายแก่ตอบกลับ ทว่ามันกลับไม่ใช่เสียงแหบแห้งดังเดิม มันกลับเป็นเสียงสดใสของเด็กหนุ่มที่ยังไม่แตก ชายหนุ่มในชุดสีดำฝั่งขวาถอนหายใจ หันไปพูดกับชายอีกคนในชุดขาวที่มีใบหน้าราวกับพิมพ์เดียวกัน

    “ท่าทางหมอนี่จะเอาอีกแล้วล่ะ เอล”

    “นั่นสิ เรล ท่าทางครั้งที่แล้วคงยังไม่เข็ดเนอะ”

    บทสทธนาของฝาแฝดตรงหน้ายิ่งทำให้ชายแก่เสียงเด็กตัวสั่นเทิ้มยิ่งกว่าเดิม ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เพราะอารมณ์โกธรที่พุ่งปะทุเนื่องจากโดนนินทาระยะเผาขน ใบหน้าเหี่ยวย่นเริ่มแปรเปลี่ยนกลายเป็นใบหน้าใสของเด็กน้อยวัยสิบแปดปี ผมสีขาวกลับสภาพเป็นสีเขียวสดดวงตาสีเขียวมะกอกส่องประกายโกธรเกรี้ยว ร่างผอมบางลุกพรวดปัดดาบออกจากคอตน ยกมือชี้หน้าฝาแฝดหน้าหล่อที่เขาเกลียดนักเกลียดหนา

    “พวกเจ้าเลิกนินทาข้าได้แล้ว! รีบพาข้าไปหาองค์ราชาเร็วเข้า!” ร่างบางตวาดแว้ด แทบอยากจะดิ้นเร่าๆ ลูกแก้วในมือเกือบจะร่วง ฝาแฝดทั้งสองมองหน้ากัน แล้วค่อยหันไปถามคนตัวเล็กในชุดคลุมที่ทำท่าร้อนรนเหมือนกับว่ามีภูเขาไฟระเบิด

    “เจ้าจงบอกธุระของเจ้ามา ไม่เช่นนั้นพวกข้าคงให้เจ้าเข้าเฝ้าองค์ราชาไม่ได้” คนพูดทั้งสองตีสีหน้านิ่ง แต่กิลเลนฮอว์แทบอยากจะกระโจนเข้าไปถีบหน้าพวกมันทั้งสองจังๆสักทีหนึ่ง

    “ข้าบอกพวกเจ้าไม่ได้ เพราะมันคือธุระส่วนตัวที่เป็นความลับสูงสุด!

    “สูงสุดขนาดที่เจ้ายอมลงมือแปลงเป็นชายแก่หน้าเหี่ยวนั่นเลยเชียวหรือ? หึหึ”

    กิลเลนฮอว์อ้าปากค้างเมื่อโดนจี้จุดเข้าจังๆ เขายอมลงมือแปลงเป็นชายแก่หน้าเหี่ยวหรือก็คือ “นักเวทเนเวอร์ไรล์” ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง เพื่อตอนเข้าวังมาจะได้ดูน่าเชื่อถือ เพราะเขาพึ่งจะเป็นนักเวทมาได้ไม่กี่ปี แถมยังชอบสวมเสื้อคลุมตลอดเลยไม่มีใครได้เห็นหน้าซักเท่าไร ตอนเข้าวังมาหากเข้ามาโดยหน้าเด็กๆ หรือสวมหมวกคลุมปิดบังใบหน้าคงถูกมองว่าเป็นคนน่าสงสัย อีกอย่างวันนี้เขาก็ดันลืมบัตรประจำตัวนักเวทที่ต้องแสดงทุกครั้งเมื่อต้องการเข้าไปยังพระราชวัง แต่พอแปลงเป็น นักเวทเนเวอร์ไรล์ก็ดันถูกจับได้ว่าเป็นตัวปลอมจากยามประตูหน้าสุด เลยรีบวิ่งเข้ามานี่ไงเล่า!

    แต่เขาดัน..ซวยที่มาเจอเจ้าสองคนนี่!

    กิลเลนฮอว์กัดฟันหรอด นึกแค้นยามหน้าประตูขึ้นมาในใจ เขาสะบัดหน้าหนี สองคนตรงหน้าเขาเป็นคนสนิทขององค์ราชาเช่นกัน และมีฝีมือในการต่อสู้ที่เขาเทียบไม่ติด หากต่อกรด้วยคงแพ้แหงๆ สู้บอกธุระของตนไปเสียดีกว่า ถึงยังไงมันก็เป็นเรืองที่คนสนิททั้งห้ารู้กันดีอยู่แล้ว ถ้าจะบอกสองคนนี้ไปก็คงไม่เสียหาย อย่างน้อยมันสองคนก็ไม่ใช่คนปากโป้งอะไร

    ร่างบางถอนหายใจปลงๆ

    “เฮ้อ..ธุระที่ข้าต้องรีบมาทูลต่อองค์ราชาก็คือ..

    “คือ?

    กิลเลนฮอว์เหลือบมองคนสองคนที่ตั้งใจฟังเต็มที่ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่พวกเขาขยับเข้ามาใกล้ขนาดนี้ ร่างบางหน้าแดงเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่เข้ามากระทบกับใบหน้าแต่เมื่อได้สติเขาก็รีบเก็บอาการอย่างรวดเร็ว ก่อนริมฝีปากฉีกยิ้มด้วยความยินดีเมื่อได้เอ่ยสิ่งที่พวกเขารอคอยมาเนิ่นนาน

    “บุตรแห่งความมืดของพวกเรา..กำลังจะถือกำเนิดแล้ว”



     

                “เป็นความจริงอย่างนั้นหรือ กิลเลนฮอว์?” เสียงทรงอำนาจเอ่ยถามเด็กน้อยผมสีเขียวเบื้องล่างบนพื้นปูพรมสีแดงโดยมีฝาแฝดอัศวินกำลังยืนขนาบข้าง

                กิลเลนฮอว์ยิ้มกว้าง

                “เป็นเรื่องจริงพ่ะย่ะค่ะ ตามคำทำนายที่กระหม่อมได้รับจากเทพีผู้คุ้มครองอาณาจักรของเรา บุตรแห่งความมืดที่พวกเรารอคอยมานับพันปีจะมาถือกำเนิดเป็นแน่แท้”

                ร่างบางในชุดคลุมตอบด้วยน้ำเสียงยินดีกับข่าวคราวที่ตนเองพึ่งจะรู้มาเมื่อเช้านี้ ลูกแก้วสีใสบนโต๊ะเมื่อเช้าที่บ้านของเขามันส่องประกายสีดำปรากฏเงาของเด็กน้อยและดวงตาสีแดงก่ำดูน่าหวาดหวั่นทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าอีกไม่นานสิ่งที่ตนเองรอคอยมานานแสนนานก็จะสมหวัง

                บุตรแห่งความมืดที่พวกเขารอคอยถือว่าเป็นความหวังของอาณาจักรแห่งนี้ ศึ่งก็คืออาณาจักแห่งปีศาจที่มีจุดกำเนิดมากอ่นที่พวกมนุษย์จะถือกำเนิด แต่เมื่อมนุษย์เกิดขึ้นมากลับต่อต้านและขับไล่พวกเขาออกไปจากถิ่นที่อยู่อาศัยเดิมเพราะความน่าหวาดกลัวและไม่เหมือนพวกตนเอง ทำให้พวกเขาต้องสร้างอาณาจักรในมิติอื่นซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับโลกมนุษย์ได้ แต่นานวันเข้าที่มักจะมีมนุษย์หลุดเข้ามาหรือตั้งใจเข้ามาเพื่อกำจัดเผ่าพันธุ์ปีศาจทำให้ราชาปีศาจตัดสินใจตัดขาดโลกมนุษย์กับโลกปีศาจให้ขาดสะบั้น จนในปัจุบันมีเพียงปีศาจเท่านั้นที่รู้ว่าประตูไปสู่สองโลกคือที่ไหน

                เพราถ้าหากมนุษย์รู้เข้ามันคงจะเป็นปัญหา

                เพราะมนุษย์นั้นมีจิตใจที่โลภมาก บ้างก็อยากได้ปีศาจไปขายในตลาดมืดขายให้กับพวกชนชั้นสูงเพื่อใช้เป็นทาสหรือเพื่อความสนุก แถมอีกไม่นานมนุษย์ก็ยังคิดจะก่อสงครามกับปีศาจเนื่องจากการเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงบางอย่าง และเพื่อให้รู้วิธีไปโลกปีศาจ มนุษย์ได้จับปีศาจตนหนึ่งที่บังเอิญไปอยู่ในโลกมนุษย์ในเวลานั้นพอทีเพื่อมาเค้นถามถึงเส้นทางระหว่างสองโลกจนในที่สุดมนุษย์ก็ได้รู้จนได้

                มนุษย์ได้รวบรวมเผ่าพันธุ์อื่น รวมถึงนักเวทผู้เก่งกาจมากมาย คาดว่าอีกไม่นานสงครามคงได้ปะทุขึ้น แต่กองทัพปีศาจยังคงไม่พร้อมสำหรับสงครามและกำลังอยู่ในช่วงที่อ่อนแอไม่มีกำลังมากพอจะต่อกรหลายเผ่าพันธุ์ที่มนุษย์รวมรวมมาร่วมสงครามได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเฝ้ารอคอยความหวัง เนื่องจากทุกๆหมื่นปีจะมีบุตรแห่งความมืดที่ได้รับคำทำนายมาตั้งแต่โบรานว่าจะมีพลังแข็งแกร่งและสามารถเรียกทัพแห่งความตายออกมาจากขุมนรกได้ และนี่ก็เป็นเวลาหนึ่งหมื่นปีจากที่บุตรแห่งความมืดคนสุดท้ายกำเนิดพอดี

                และนี่ก็ถือเป็นความหวังเพราะทุกเผ่าพันธุ์บ้างก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับสงคราม นับไปถึงหกสิบเปอร์เซ็น แล้วอีกสี่สิบพวกมนุษย์ก็รวบรวมไปหมดแล้ว

                ราชาปีศาจหลับตาลงช้าๆ นึกถึงวันที่ตนเองได้ปิดกั้นเส้นทางระหว่างทั้งสองโลก แต่เมื่อสุดท้ายมนุษย์ก็ยังคงดิ้นรนหามาจนได้ ทั้งๆที่เขาได้ซ่อนเส้นทางนั้นแล้ว แม่ในใจจะไม่อยากโทษผู้ที่เผลอบอกความลับนั้นออกไป แต่เมื่อมันเกิดไปแล้วก็ไม่สามรถแก้ไขอะไรได้อีกต่อไปนอกจากหาทางรับมือกับมันเท่านั้น

                ใบหน้าหล่อเหลาของราชาปีศาจที่ทำให้สาวๆทั่วอาณาจักหลงใหลนั้น เมื่อมองทีไรกิลเลนฮอว์ก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มทุกที แม้ว่าตนเองจะไม่ได้เป้นผู้หญิง แต่ด้วยเสห์อันมากล้นเหลือที่ทำให้ใจทั้งชายและหญิงสั่นสะท้านได้ เขาเองก็เป็นผู้ชาย ถึงจะยังเด็กอยู่ก็ตาม แต่ในใจก็รู้ดีว่านั่นเป็นเพียงแค่ความหลงใหลในรูปลักษณ์ก็เท่านั้นเอง

                ยิ่งเมื่อราชาปีศาจหลับตาลงช้าๆ แพจนตายาวเหมือนบาดทิ่มใจของร่างบางไปเต็มๆ กิลเลนฮอว์หลุบตาต่ำไม่กล้าสนตา เพราะใจของเขามันเต้นจนไม่เป็นจังหวะแล้ว

                แต่ภาพกิริยานั้นของร่างบางกลับทำให้ใครสองคนหรี่ตามองด้วยความไม่พอใจ

                ราชาปีศาจลืมตาช้าๆ แล้วเอ่ยสั่งกับข้ารับใช้ด้วยน้ำเสียงที่ปิดกั้นความดีใจเอาไว้ไม่อยู่

                “พวกเจ้าทั้งสาม จงนำข่าวนี้ไปบอกองค์รักษ์อีกสองคน กิลเลนฮอว์เจ้าจงรีบถามถึงเทพีประจำเมืองถึงวันที่แน่ชัดของการกำเนิดเพื่อที่เราจะได้สามารถเตรียมพร้อมได้ทันท่วงที และจงปิดเรื่องนี้ไว้อย่าให้ใครนอกจากเราและพวกเจ้าอีกห้าคนได้รู้เด็ดขาด”

                “พ่ะย่ะค่ะ”



     

                ประตูใหญ่ถูกปิดลงแผ่วเบา พร้อมร่างขององค์รักษ์ทั้งสามที่เดินออกมาด้วยกัน แต่ฝาแฝดทั้งสองนั้นกลับมีสีหน้าบูดบึ้งจนร่างบางในชุดคลุมเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

                “พวกเจ้าเป็นอะไรกัน? ไม่รีบนำข่าวไปบอกอีกสองคนที่เหลือล่ะ?” ยิ่งเจอคำถามเข้าไปทำให้ฝาแฝดปีศาจยิ่งขมวดคิ้วไม่พอใจมากขึ้นไปอีก

                กิลเลนฮอว์มองทั้งสองคนด้วยสายตาไม่เข้าใจ หรือว่าจะอารมณ์เสียที่เขาบุกมาเข้าวังทั้งๆที่ยังไม่ได้รับอนุญาต แต่ยังไงองค์ราชาก็ไม่ได้ถือสาอะไรนี่นา กลับยินดีเสียด้วยซ้ำ หรือว่าจะเป็นที่เข้าได้รับการประทานรางวัลจากองค์ราชาเป็นเงินและเวลาพักร้อน ถ้าแบบนั้นเจ้าสองคนนี้คงต้องกำลังอิจฉาเขาอยู่ในใจละสิ หึหึ น่าสงสารจริงๆ คงต้องปลอบใจกันหน่อยแล้วสินะ

                กิลเลนฮอว์หัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก่อนะพยายามหาเรื่องดีๆมาคุยเพื่อให้ทั้งสองคนอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง จนเมื่อหลอดไฟนีออนกระพริบปริบๆเป็นสัญญาณของจิตนาการบังเกิด

                “นี่ๆๆ พวกเจ้าว่าไหม องค์ราชาปีศาจน่ะหล่อสุดๆเลย!” ร่างบางทำหน้าดี๊ด๊าระหว่างที่กำลังเดินอยู่บนโถงทางเดินยาว ดวงตาเป็นประกายกลมโตเคลิบเคลิ้มเหมือนหมีเจอน้ำผึ้ง

                กึก

                ฝีเท้าของคนทั้งสองหยุดชะงัก จากอารมณ์ที่เคยเดือดจนแทบระเบิด บักนี้กลับมีไอสีดำฟุ้งออกมรอบตัว แต่น่าแปลกที่ร่างบางตัวต้นเหตุกลับมองไม่เห็น แถมยังทำท่าทางเหมือนสาวน้อยพึ่งมีความรักครั้งแรกหับชายหนุ่มในนิยายที่ตนเองใฝ่ฝันถึงมาตลอด แต่เมื่อพวกเขานึกว่าพระเอกในนิยายนั่นมันไม่ใช่ตนเอง แต่กลับเป็นราชาปีศาจหน้าหล่อแล้วก็รู้สึกอารมณ์เสียพิกล

                “อา..เอลเรียส..เจ้ารู้สึกเหมือนข้าหรือเปล่า?..” เสียงกระซิบภายในใจของฝาแฝดคนพี่เอ่ยถามน้องชายที่ทำหน้ายักษ์มารไม่ต่างจากตนเองเสียเท่าไรนัก

                “ข้ารู้สึกเหมือนอยากบีบคอใครซักคน..แต่หากข้าทำคงโดนโทษประหาร..” เรลเรียสกระซิบกับพี่ชายตนเอง มือกำหมัดแน่น

                ฝาแฝดปีศาจหันมามองหน้ากัน เหลือบไปมองเจ้าตัวเขียวที่ยังคงทำหน้าทำตาเคลิ้มฝันไม่หยุดก่อนริมฝีปากจะฉีกยิ้มแสยะ

                “แล้วก็นะๆ วันก่อนข้าเห็นองค์ราชะ!!..อื้อ!..

                เสียงหวานหยุดลงเนื่องจากถูกมือใหญ่ปิดปากจนแทบหายใจไม่ออก ดวงตาสองคู่เรียวคมสะท้อนฉายแววแห่งความสรนุกสนาน ก่อนที่ร่างของกิลเลนฮอว์ที่พยายามแกะมือที่ปิดปากและอุ้มตนเองอยู่ให้ออกไปแต่ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดร่างบางก็ถูกลักพาตัวไปกับองค์รักษ์ฝาแฝดปีศาจอย่างรวดเร็ว

                อาเมน..

     

     

    “รายงานถึงความคืบหน้าภายในวันนี้ เผ่าพันธุ์ดาร์กเอลฟ์ได้มาเข้าร่วมกับเราแล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

    ชายหนุ่มวัยกลางคนผิวสีเข้มในชุดอีศวินเกราะหนักเอ่ยรายงานถึงความคืบหน้าการรวบรวมเผ่าพันธุ์เพื่อสงครามที่กำลังจะใกล้เข้ามา

    สงครามที่พวกเขาเป็นคนเริ่มต้น

    ราชาแห่งแดนมนุษย์กับความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของแผนการที่เขาได้วางเอาไว้ เรือนผมสีทองนุ่มสลวยยาวจนถึงพื้นปูพรมสีแดง เขานั่งพิงพนักเก้าอี้อย่างสง่าผ่าเผยมีความองอาจงดงามสมกับเป็นกษัตริย์ ใบหน้าถูกปิดด้วยผ้าคลุมสีเทาควันบุหรี่ ทำให้ดูโดดเด่ยภายในห้องมืดครึ้ม

    “ดีมาก เจ้าจงรีบจัดการตามแผนการที่เหลือให้สำเร็จเสีย”

    “พ่ะย่ะค่ะ”

    เมื่อบทสธนาจบลง ร่างของชายผิวสีเข้มก็ค่อยๆลุกแล้วเดินออกจากห้องช้าๆ   เสียงประตูปิดเบาๆตามด้วยเสียงถอนหายใจยาวของกษัตริย์หนุ่มซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้กำมะหยี่หรูหรา ร่างสูงสง่าเดินไปยังกระจกบานใหญ่สูง ผ้าม่านสีแดงถูฏรูดเปิดออก เผยให้เห็นภาพของเมืองศุนย์กลางใหญ่ที่มีคนพลุกพล่าน ด้านของของพระราชวังที่เขาอยู่นั้นมีป้อมอัศวินที่มีธรงสีแดงและน้ำเงินปลิวตามแรงลม ท้องฟ้าสีฟ้าก้อนเมฆปุยสีขาวทำให้ใจของกษัตริย์หนุ่มหวนคิดไปถึงบางสิ่งบางอย่าง

    อีกเดี๋ยว..ท้องฟ้าคงต้องกลายเป็นสีดำ..

    สงคราม..จากนี้ไปทุกอย่างคงต้องล่มสลาย

    มือใหญ่หนาเย็นเหยียบยกขึ้นช้าๆ ปุยเมฆที่เห็นอยู่ ทั้งๆที่เขาเห้ฯว่ามันใกล้แค่เพียงเอื้อมแต่ก็ไม่สามารถคว้ามาได้ ไม่ว่าจะพยายามเอื้อมจนสุดแขนก็ตาม เช่นเดียวกับสิ่งที่เขากำลังต้องการอยู่มันสูงจนไม่อาจจะคว้ามาได้ แต่ด้วยความหวังในใต้ก้นบึ้งของจิตใจ มันก็ผลักดันให้เขามาอยู่ในจุดนี้จนได้..

    อีกนิด

    เท่านั้น..

    “ไอเอ..

    เสียงทุ้มอันอ่อนโยนเปล่งออกมาราวกับคนเพ้อฝัน












































     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×