ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของ+ลับ

    ลำดับตอนที่ #46 : การิน เชียร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 19
      0
      24 พ.ย. 56

                





     “เพราะแก...เพราะแก..คนเดียว”

     

                “ฉัน..จะฆ่าแก..”

                “ถ้าไม่มี..แกสักคน..ฉัน..คงไม่ต้อง..ตาย”

                เสียงแหบแห้งดังก้อนในโสตประสาท ร่างโปร่งของเด็กหนุ่มผมสีดำพลิกตัวไปมาราวกับทรมานเหลือแสน ใบหน้าติดสวยมีเหงื่อเม็ดโตผุดพราย สีหน้าของเขาดูเจ็บปวด ร่างโปร่งอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวอาดตาปลดกระดุมบนสามเม็ด ท่อนล่างนั้นเปลือยเปล่าจนเห็นขาเรียวขาวน่าจับต้อง เตียงสีขาวมีม่านขุ่นมัวปกคุลมรอบข้าง ห้องกว้างใหญ่มีข้าวของหรูหรา ห้องนี้ถูกตกแต่งด้วยโทนสีดำสไตล์ยุโรป สีดำปกคุลมทั่วห้องเหลือไว้เพียงเตียงสีขาวที่ส่องสว่างอย่างน่าอัศจรรย์

                เสียงหลายเสียงยังคงแข่งกันพูดในหัวของเขาไม่ขาดสาย ตั้งแต่ที่รับ “สิ่งนั้น” มาก็แทบจะไม่มีฝันดีอยู่ในหัวเลย แม้ว่าเขาจะชอบมันก็ตาม แต่ความรู้สึกอึดอัดในอกเหมือนจะบีบให้หัวใจแหลกเหลวก็ทำให้เขาหลุดเสียงครางเพราะความเจ็บที่หัวใจออกมาไม่ได้ ที่นอนสีขาวยามนี้เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อของร่างที่นอนพลิกไปมา

                “ย.หยุด..” เขาร้องออกมาอย่างเลื่อนลอย

                ใบหน้ายามหลับช่างดูไร้เดียงสา เหมือนเด็กตัวน้อยๆที่ถูกรุมกลั่นแกล้ง ต่างจากยามเวลาตื่นที่ชอบแสร้งทำเป็นเข็มแข็งทั้งๆที่ในใจกลับเต็มไปด้วยความอ่อนแอ ไม่ต่างจากเด็กตัวน้อยที่ยังไม่โตเลยแท้ๆ

                ท่ามกลางความทรมานของเด็กหนุ่ม ประตูบานหนาก็ถูกเปิดออก บุรุษผมสีแดงในชุดสีขาวก้าวเท้าเดินมายางเตียงใหญ่ ประตูไม้หนาถูกปิดเบาๆจนแทบไม่ได้ยิน ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มเอ็นดูประดับบนใบหน้า เขามองร่างบนเตียงด้วยแววตาล้ำลึกยากจะรู้ความหมายของมัน

                เขาชอบสีหน้าเจ็บปวดของมนุษย์...แต่สำหรับเด็กหนุ่มผมสีดำคนนี้ เขาไม่ชอบเลยหากอีกฝ่ายแสดงสีหน้าเจ้บปวดออกมา เขารู้สึกว่าหัวใจของตนเจ็บแปลบ อยากจะรับความเจ็บปวดนั้นอาไว้แทนเสียด้วยซ้ำ ดวงตาสีแดงมองร่างบนเตียงด้วยความหลงใหล อยากกลืนกินเข้าไปทั้งตัว ไม่ให้เหลือแม้แต่กระดูก...

                เขารู้ดีว่าตั้งแต่เด็กหนุ่มรับ “สิ่งนั้น” ลงไป ก็นอนฝันร้ายและทรมานมาตลอด ถึงฝันร้ายนั่นเด็กหนุ่มอาจจะชอบใจก็เถอะ แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับคงไม่ดีเท่าไรนัก ร่างสูงนั่งลงบนเตียงสีขาวข้างร่างที่นอนพลิกกายกระสับกระส่ายไปมา เขาเอื้อมมือไปแตะหน้าผากซึ่งมีเหงื่อไหลกาฬนั่นเบาๆ ร่างผมสีแดงประทับริมฝีปากบนหน้าผากมนอย่างปลอบโยน

                “อ๊ะ..” ราวกับว่าเด็กหนุ่มจะรู้สึกตัว ดวงตาเรียวคมสวยค่อยๆปรือตาขึ้นมาช้าๆ

                “ตื่นแล้วหรือครับ...การิน” เสียงทุ้มกล่าวกับกับเด็กหนุ่มที่พึ่งตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย

                การินหันไปมองชายข้างตน เขายันตัวเองขึ้นช้าๆ โดยมีร่างสูงคอยช่วยพยุงอยู่ ดวงตาสีดำมองชายข้างตน ร่างผมสีแดงขยับยิ้มบางเหมือนรู้ว่าคนข้างตัวต้องการอะไร วงแขนแข็งแกร่งคว้าตัวของเด็กหนุ่มผมสีดำมากอดแนบแน่น และลูบแผ่นหลังเปียกชื้นนั่นเบาๆ

                “ไม่เป็นไรนะครับ..ผมจะอยู่ข้างๆเธอเอง...”

                การินหลับตา  ใบหน้าซบลงกับแผ่นอกแกร่ง กลิ่นกลายของชายหนุ่มผู้นี้ไม่ว่าเขาจะได้สัมผัสเท่าไรก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เขารู้สึกชอบตั้งแต่ได้สัมผัสครั้งแรก ไม่ใช่กลิ่นหอมหวานดั่งขนม และไม่ใช่กลิ่นขมดั่งรสกาแฟ แต่มันคือกลิ่นเย้ายวนดึงดูดให้เขายอมสยบ ร่างบางไม่รู้ว่ามันคืออะไร รู้แต่ว่าเขาสัมผัสกลิ่นกายนี้ได้จากที่ไหนสักแห่ง

                กลิ่นนี้...ยามที่มนุษย์มีความโศกเศร้า..

                มันคือ...กลิ่นอายของความตายอันน่าหลงใหล

                ผมสีดำนุ่มราวขนแมว ยามนี้ร่างผมสีแดงได้ซบลงกับมัน ถ้าไม่ติดว่ามันติดอยู่บนหัวของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วล่ะก็ เขาคงคิดว่ามีแมวตัวใหญ่มาซบกับหน้าเขาแล้วเป็นแน่แท้

                “เธอทรมานสินะ...ไม่เป็นไรนะ..สิ่งนั้นที่เธอรับมาผมต้องขอขอบคุณเธอจากใจจริงๆนะ การิน” ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร ที่เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียก แต่เขาชอบที่จะเรียก “คนที่รัก” แบบนี้

                ดวงตาสีดำของการินปิดลง เขาพูดเสียงเบาราวกระซิบ

                “ไม่เป็นไรหรอก...ฉันเต็มใจ..เชียร

                ร่างโปร่งของการินผละออกจากอ้อมกอด ดวงหน้าสวยก้มต่ำเขินอาย เชียรมองภาพใบหน้าแดงก่ำด้วยรอยยิ้มกว้าง เขาหัวเราะ และลูบหัวสีดำนั่นอีกครั้ง เสียงทุ้มเอ่ยด้วยแววตาอ่อนโยนในแบบที่เขาไม่เคยให้ใครมาก่อนในชีวิต

                “ขอบคุณนะครับ...เจ้าหญิงของผม..”

                เชียรยกมือบางของร่างบางขึ้นมาประทับจูบลงบนฝ่ามือ การินหน้าร้อนผ่าว เขาไม่เคยถูกใครมาทำแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าสวยก็ยังคงเรียนเฉย การินกระตุกยิ้มยั่ว เขามองภาพของชายที่เคยอยากเอาชนะด้วยแววตายั่วยวนปนหลงใหล เขาไม่อยากเสียหน้าด้วยการหน้าแดงแล้วปัดออกเหมือนเด็กน้อยผุ่อ่อนต่อโลก ถึงหน้าขาวจะแอบขึ้นสีมานิดๆก็ตามเถอะ

                แม้ว่าจะผ่านเหตุการ์นนั้นมานานแล้วก็ตาม เชียรก็ยังคงรู้สึกผิดไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเขาจะบอกไปแล้วว่าเต็มใจก็เถอะ การที่เขารับ “ญาณอาถรรพ์” มาจากยัยโง่นั่นมันจะดีแน่แล้วจริงหรือเปล่า

                มันคือคือเรื่องจริง เขาได้รับญาณอาถรรพ์มาลัลทริมานับจากวันที่เธอตายไป แล้วเขาก็ถือเอามันมาทันที เธอตายลงจากการที่ไปช่วยลูกแมวซึ่งวิ่งตัดหน้ารถไป สมเป็นยัยโง่เสียจริง เขามองภาพที่เอจมกองเลือดอย่างไม่รู้สึกณุ้สาอะไรนัก ถึงแม้ว่าจะเสียของเล่นไป แต่เมื่อเธอตาย เขาบังเอิญได้รับมันมาโดยไม่ตั้งใจ ตอนแรกก็ดีใจอยู่หรอก แต่พอนานๆเข้ามันก็ลำบากเหมือนกัน หลังจากวันที่เขาได้รับมา รับจากวันนั้นแหละ ที่ไอ้โรคจิตผมสีแดงนี่เริ่มตามเขาติดราวกับปลิงทะเล

                ทั้งๆที่แต่ก่อน มันยังไม่เป็นมากเท่าไร แต่หลังจากที่เขาได้รับมา มันก็กลายเป็นสโตกเกอร์โรคจิตตามแม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ ขนาดยอมแฝงตะวเข้ามาในโรงเรียนมาอยู่ห้องเดียวกันเลย โรคจิตน่าขนลุกเป็นบ้า

                ถึงแม้..ความรู้สึกของเขามันจะแปรเปลี่ยนไปมากแล้วก็ตาม

                “รัก” นี่คือคำจากปากของเชียร เขาได้ยินมันมาในวันหนึ่ง หลังจากนั้นมาเขาก็ตกลงมาอยู่กับหมอนี่แล้วร่วมมือกันทำบางสิ่งบางอย่าง อา...เขาทำถูกแล้วใช่ไหม

                ทึกๆวันเขาก็ไปโรงเรียนตามปรกติ แม้พ่อจะคอยโวยวายว่าให้กลับมานอนบ้านบ้าง แต่เขก็ไม่ได้ฟังเท่าไร แถมเข้าโรคจิตหัวแดงนี่ยังไปอธิบายกับพ่อซะดิบดีว่าจะดูแลเขาเหมือนลูก เฮอะ พ่อลูกกันเขาจะจูบและทำเรื่องอย่างว่ากันหรือไงฟะ

                การินมองหน้าคนกระล่อนซึ่งยามนี้กำลังมองหน้าเขาไม่วางตา เส้นเอ็นปูดขึ้นมาเส้นหนึ่งบ่งบอกอารมณ์ของร่างบางว่ากำลังอยากอัดหน้าใครบางคนแถวนี้ เชียรหัวคิกราวกับอ่านความรู้สึกนั้นได้ เขาผายมือไปยังห้องน้ำตรงข้ามกับเตียงใหญ่ และพูดอย่างน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด

                “เชิญครับ...เจ้าหญิง อีกเดี๋ยวเราจะลงไปข้างล่างกัน..” เสียงทุ้มติดตลก ทำให้เส้นเอ้นอีกเส้นปูดขึ้นมาบนใบหน้าสวย

                “ครับ..ได้สิ..ถ้าแกยังไม่เลิกพูดกวนประสาทฉันจะถลกแกซะ ไอ้โรคจิต” เสียงหวานเอ่ย มันดูน่ารักมากกว่าน่ากลัวเสียอีก

                เชียรแกล้งทำหน้าเหวอ ดูน่าต่อยมากขึ้นวกห่าเดิม การินทำท่าฮึดฮัดก่อนหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมปิดประตูเสียงดังปัง เชียรมองร่างบางเข้าห้องน้ำไปอย่างมีความสุข นานเท่าไรที่เขไม่หัวเราะ ยามอยู่กับร่างนี้เขาสามารถหัวเราะได้อย่างมีความสุขและจริงใจ อยู่กับคืนอื่นๆแล้วมันน่าเบื่อมากถึงมากที่สุด แต่พอการินตกลงมาอยู่กับเขาล่ะ เท่านั้นเขาแทบจะกระโดดลงหน้าผาเป็นการแสดงความดีใจ เสียที่คนอื่นดันห้ามไว้ก่อน เฮ้อ คิดแล้วก็เสียดายนิดๆ

                อา...หิวจัง

                คิดแล้วก็เลียริมฝีปาก ยามโลมเลียผิวขาวๆของคนในห้องน้ำใจจะขาด แต่หากเข้าไปคงไม่แคล้วโดนปา หอยสังกะลามังเป็นการไล่พร้อมงอนไปหลายสัปดาห์เป็นแน่ คงต้องข่มใจไว้ก่อนรอคืนนี้ละนะ หึหึ

                การินที่เขาเคยหลงใหลลุ่มหลงราวกับยาเสพติด ตอนนี้ได้มาอยู่กับเขาแล้ว...

                อัตตานิรันดร์..คือสิง่ที่เคยขวางกั้นพวกเราเอาไว้...

                แต่ตอนนี้...มันไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว

                ร่างของการินไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่น่าแปลกหรอก เพราะร่างนั้นได้เป็นแบบเขาแล้ว ถ้าให้บอกจริงๆก็คือหลังจากวันที่ลัลทริมาตายมันก็ผ่านมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว แต่การินก็ยังคงไปโรงเรียนเหมือนปรกติ คงเพราะเขาต้องรับช่วงดูแลมันต่อจากพ่อกระมัง แต่ดูแล้วพวกงานเอกสารเนี่ย มันจะตกเป้นหน้าที่ของเขาทั้งหมดเลยนะ ฮือ...

                เชียรแอบร้องไห้ในใจ อัตตานิรันดร์คือสิ่งที่เขาเป็น บัดนี้กลับมีคนซึ่งเป็นแบบเดียวมาอยู่เคียงค้าง คือคนที่เขารัก ไม่ยอมปล่อยให้เป็นของใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม

                การินเป้นของเขา..คนเดียว..

                ร่างโปร่งผมสีดำสวมเสื้อเชิ้ตตัวเดียวออกมา แต่ท่อนล่างยังคงเปลือยเปลาเช่นเดิม เสียงบ่นพึมพำดังขึ้นมาเบาๆ เขาไม่ได้ใสชุดอื่นนอกจากเสื้อเชิ้ตตัวเดียวเนี่ยนะ เชียรมันมีรสนิยมวิปริตหรือไงกัน

                การินนั่งลงบนตักและพิงกับอกแกร่งของเชียรซึ่งกำลังเช็ดผมให้ตนเองอยู่ เขาหลับตาพริ้มอย่างมีวคามสุขกับสัมผัสนุ่มนวลนั้น จนเมื่อร่างสูงเช็ดผมเสร็จ เขากลับถูกรวบตัวเอาไว้แน่นจนขยับไมได้

                “ไปได้แล้ว...เดี๋ยวพวกข้างล่างก็รอนานหรอก..” การินพยายามเอ่ยหาทางรอด

                “ไม่ต้องหรอก...ฉันบอกพวกเขาแล้วว่า หากขึ้นมาหานานจนเกินสิบนาทีแล้วให้พวกเขาไปหาอะไรทำกันก่อน” เชียรพุดพลางหัวเราะหึหึ ทำให้การินกลืนน้ำลายอึกโต สรรพนามการพูดเริม่หยาบคายเมื่อเดาสิ่งที่กำลังจะเกิดกับตนเองออกเป้นอย่างต่อไป

                “หยุดนะโว้ย ไอบ้า ไม่เอา” การินโวยวาย แต่เชียรไม่สนใจ เขากดร่างบางลงกับเตียงสีขาว ริมฝีปากประกบกันอย่างรวดเร็ว เสียงหวานเงียบลงมือขาวพยามทุบหลังของคนตัวสูง แต่มันกลับไม่ได้ผลแม้แต่นิด

                ถึงจะชินแล้วก็เถอะ...

                นาฬืกาเริ่มหุนเดินต่อไปเรื่อยๆ บ่งบอกว่าเวลานี้ถึงยามค่ำคืนแล้ว เข็มชี้ไปยังเลขสิบสอง คงอีกหลายชั่วโมงกว่าพวกเขาทั้งสองคนจะออกจาห้องนี้ไป ไม่นานเสียงหวานก็เริ่มครางไปตามอารมณ์คละเคล้าไปกับความสุขที่ได้รับจากชายหนุ่มผู้เป็นคนรัก เสียงหวานดังไม่ขาดสาย จนดังเล็ดลอกไปนอกห้องส่งผลให้คนที่อยู่ข้างนอกชะงัก ส่ายหัวอย่างระอา เพราะคงอีกนานที่สองคนนั้นจะออกมา เขาเดินกลับลงไปชั้นล่างดังเดิมทำราวกับเป็นเรื่องปรกติ

               
























             

               

               

     

     

     

               

     

                            






     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×