ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CAT VS DOG มหาสงคราม..แมวปะทะหมา!

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่หก : ค้างคาว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 55
      0
      22 ธ.ค. 58










    บทที่หก : ค้างคาว



















    ข้าคิดว่าตัวเองกำลังพลาดท่าครั้งยิ่งใหญ่..




    ไม่ใช่อะไรหรอก..จากความเดิมตอนที่แล้วที่พวกเจ้าอาจจะลืม ข้าแอบตามซิลเวอร์ออกมา ข้า..แค่อยากจะปกป้องคนร่วมคณะเดินทางเท่านั้นเอง เห็นพวกชาวบ้านบอกว่าช่วงนี้มีแวมไพร์ออกอาละวาด กลัวว่าเจ้าซิลเวอร์จะกลัวอกแตกตายไปซะก่อน เดี๋ยวข้าจะไม่มีที่พึ่งในการหนีพวกคนจากวังน่ะสิ


    ดังนั้นมองข้ามสร้อยกระเทียมบนคอข้าไปซะ ข้าเอามาเผื่อซิลเวอร์ต่างหาก..


    เท่านี้สาเหตุก็กระจ่างแจ้ง ข้าไม่ได้กลัวอะไรทั้งนั้น! พวกเจ้าเชื่อข้าได้แล้วใช่ไหม..!?




    ไม่ต้องมาทำหน้าตานิ่งๆเฉยๆเหมือนเบื่อหน่าย หรือหนา้ตาล้อเลียนเลย!




    คืนนี้เป็นคืนที่หนาวจับใจมากจริงๆ..ทุกอย่างรอบตัวมันมืดสนิท ในตอนนี้ข้าแอบอิจฉาพวกเผ่าที่สามารถมองเห็นในความมืดได้ชะมัด..มนุษย์ตัวกระจ้อยแต่มีดีกรีเป็นถึงเจ้าชายสุดหล่ออย่างข้าแทบจะต้องหรี่ตามอง ตาแทบจะทะลุเบ้า




    ซิลเวอร์กำลังเดินเอื่อยๆไปตามทางแบบสบายๆ เจ้านี่คงจะไม่รู้สึกหนาวอะไร..ก็ในเมื่อนอนกับเตียงนํ้าแข็งยังทำมาแล้ว



    แต่กับเจ้าชายผู้บอบบางอย่างข้ามันคนละเรื่องเว้ย!


    นับว่าโชคดีที่ซิลเวอร์เดินออกจากหมู่บ้านไปทางป่าที่พวกเราเคยเดินผ่านกันมาเมื่อตอนเช้า ทำให้ข้าพอไม่หลงเวลามันเดินไปไกลลิบ แม้จะลำบากและรำคาญแมลงรอบด้าน แต่ข้าก็ลืมยากันยุง..ถ้าจะดูดกันขนาดนี้พวกเจ้ากินเนื้อข้าไปด้วยเลยเถอะ กลมกล่อมออก เนื้อกับเลือด...ไม่ใช่โว้ย!



    ในตอนนี้ข้าแอบตามเจ้าซิลเวอร์มาถึงป่านอกหมู่บ้าน ถึงจะบอกว่าเป็นป่าแต่ก็มีเพียงต้นไม้ไม่สูงมากนักเป็นหย่อมๆ แล้วก็หญ้าสูงไม่ถึงเข่า แต่ที่น่าสยองก็คือมันมืดจนแทบมองไม่เห็นอะไรเลยต่างหาก แต่ตัวนํ้าแข็งเจ้าปัญหามันก็สามารถเดินดุ่มๆเข้าไปราวกับว่ามีแสงแดดจ้าส่องมาจากสวรรค์


    ข้าว่าแม่ของซิลเวอร์ต้องเป็นเทียน หรือโคมลอย แล้วมาเจอกับพ่อซิลเวอร์ที่เป็นนํ้าแข็งพันปี..โอ้..มันเป็นการผสมพันธุ์ที่แปลกประหลาด หรือว่าที่ซิลเวอร์ชอบทำตัวลึกลับเป็นเพราะอับอายที่เผ่าพันธุ์ตัวเองแตกต่าง..ทำไมข้าถึงเป็นคนเลว คิดร้ายกับมันได้ขนาดนี้..!



    ซิลเวอร์..ข้ารู้แล้ว ธุระของเจ้าที่ว่านี่คือเจ้าจะออกมาพบครอบครัวเจ้าสินะ..เจ้าคงจะไม่กล้าและอายข้าที่เป็นถึงเจ้าชายผู้มีตระกูลสูงส่ง..ฮึก..น่าสงสารยิ่งนัก


    ระหว่างที่ข้ากำลังเศร้าโศกเสียใจกับอดีตและความหลังของซิลเวอร์ เจ้าคนที่ข้ากำลังนึกถึงก็หยุดเดินทำให้ข้าชะงัก เข้าไปหลบด้านหลังก้อนหินใหญ่ข้างทางติดกับต้นไม้ต้นหนึ่ง ด้านหน้ามีแต่ความมืดแต่รางเลือนลางในความมืดของซิลเวอร์ ข้าแทบไม่เห็นอะไรนอกจากนี้เพราะมันมืดมากเกินไป แต่พอทุกอย่างเงียบไม่มีเสียงฝีเท้าของพวกเรา ข้าก็ได้ยินเสียงหนึ่งชัดเจน


    เสียงเดินเหยียบบนช้าอันแผ่วเบาจนถ้าไม่เงียบสนิทก็คงจะไม่ได้ยิน มันดังมาจากด้านหน้าของซิลเวอร์ทำให้ข้ารู้สาเหตุว่าทำไมมันถึงหยุดเดิน ไม่ใช่เกิดปวดฉี่กระทันหันแต่อย่างใด




    เสียงคำรามเบาๆเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ลมอันหนาวเย็นพัดผ่านใบหน้าจนข้าขนลุกชูชัน รับรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะออกมาน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก



    ถ้าหากออกอาจไม่ดีเท่าไร..แถมยังรู้สึกระแวงรอบด้านว่าจะมีอะไรโผล่มาตุ๋ยหลังข้าไหมด้วย..


    ซิลเวอร์จ้องมองทางข้างหน้านิ่งไม่ไหวติง สักพักเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นเรื่อยๆ..


    เมื่อเสียงเริ่มชัดเจนมากขึ้น ข้าสังเกตุเห็นดวงตาสีแดงฉานโผล่มาจากความมืด ดวงตาเพียงคู่เดียวแต่มันกลับเป็นดวงตายักษ์กำลังถลึงตามองซิลเวอร์อย่างน่ากลัวจนเห็นเส้นเลือดในตาคู่นั้น..มันดูน่ากลัวทำให้อุณหภูมิในร่างกายข้าเย็นเหยียบ ขาสั่นกลัวไปหมดแม้จะไม่รู้ว่าเจ้าตัวนั้นคือตัวอะไรก็ตาม


    แต่เจ้านํ้าแข็งหน้าตายด้านนั่น..มันกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง


    ซิลเวอร์ เจ้ากำลังกลัวจนสติหลุดหรือว่าเจ้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสัตว์ประหลาดข้างหน้ากันแน่! ถ้าเจ้าถูกเขมือบเข้าไปข้าจะไม่เข้าไปในกะเพาะมันเพื่อล้วงเจ้าขึ้นมาเด็ดขาดนะโว้ย แค่โดนตะปบที่เดียวข้าก็มั่นใจว่าตัวเองต้องขึ้นสู่สวรรค์ทันทีเลยไม่มีพลาด



    ดีไม่ดีอาจได้ทัวร์นรกแบบสเปเชี่ยลอีกต่างหาก..



    เมื่อดวงตาโผล่ออกมา มีหรือร่างกายจะไม่ตามมาด้วย สายลมแรงกรรโชกพัดพามาจน้าแอบหนาวสั่นและต้องเกาะหินไว้แน่นๆเพื่อบังลม ซิลเวอร์มันยังคงไม่รู้สึกอะไรเลยเช่นเดิม ข้าว่ามันต้องตายด้านหาเส้นอารมณ์ไม่เจอแล้วแน่ๆ หรือไม่เส้นประสาทสักข้างอาจกระทบกระเทือนไม่งั้นคนอะไรจะเหมือนนํ้าแข็งเดินได้ขนาดนี้




    ร่างของเจ้าปีศาจมีปีกและผังผืดเป็นสีดำสนิท และมีขนสีแดงแซมๆอยู่บางที่ มันมีคนแผงคอสีแดง เขี้ยวแหลมคมและใบหูเล็กๆ เป็นสัตว์กลางคืนที่ข้าคุ้นเคย..




    ค้างคาว..



    ไม่ใช่ค้างคาวปรกติ..ค้างคาวยักษ์!




    โอ้มายบุตดา..ขนที่ลุกอยู่แล้วตอนนี้มันแทบจะพร้อมใจกันกระโดดออกจากร่างกายข้าวิ่งหนีกลับเมืองแบบไม่ต้องใช้โกนขนให้เปลืองแรงเลยแม้แต่น้อย




    เจ้าบ้าซิลเวอร์! ออกมาสิโว้ย นั่นค้างคาวยักษ์! สัตว์ประหลาดนะเฮ้ย อยากโดนมันเขมือบกลับบ้านเก่าเหรอ!




    ข้ามองภาพซิลเวอร์กำลังทำตัวเป็นพระเอกนิยาย ยืนนิ่งๆปล่อยให้ลมพัดผมและเสื้อผ้าของตัวเองให้ปลิวตามแรงลม แต่ใบหน้ากลับนิ่งเย็นชาราวกับเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นไม่ได้อยู่ในความสนใจของเขาเลยแม้แต่น้อย ข้าลนลานเมื่อค้างคาวยักษ์มองซิลเวอร์ก่อนร้องเสียงแหลมแสบแก้วหู




    ปวดหูโว้ย! เดี๋ยวพ่อปั๊ด..ปั๊ด..ปั๊ดหนีซะเลยนี่!




    ใครจะไปกล้าตบปากละฟะ ก่อนจะได้ตบ แขนข้าที่ใช้ตบคงขาดไปคาปากมันก่อน ดีไม่ดีพอแขนหาย ขาอาจหายอีกข้างเป็นของแถม




    ในตอนนี้ข้านึกถึงหน้าของอีธานกับน็อกซ์มากๆ..องค์รักษ์ของข้าทั้งสองคน..เพื่อนรักอย่างอเล็กซิสที่แม้จะไม่ค่อยได้เจอกัน แต่เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีของข้าเสมอ..ฮึก..ข้าปาดนํ้าตาด้วยความปวดร้าว




    ส่วนยัยน้องสาวไม่รักดีน่ะเหรอ..ข้าไม่อยากจะนึกถึงคนที่ทำร้ายข้าหรอก เชอะ!




    ที่ข้าเพ้อถึงคนเคยรักกัน(?)แบบนี้ก็เพราะข้าอาจมีแววไม่รอด..ถ้าหากซิลเวอร์โดนมันเขมือบ รายต่อไปอาจเป็นข้า เพราะมันอาจจะเห็นข้าก็ได้..แม้ซิลเวอร์จะดูมีฝีมือแต่กับเจ้าค้างคาวยักษ์ มันอาจจะโดนกนเคี้ยวไปจนถึงกระดูกแดง




    ข้าสวดมนต์ภาวนาเมื่อเจ้าค้างคาวคำรามใส่หน้าซิลเวอร์ อ้าปากกว้างเตรียมขบหัวนํ้าแข็งหน้าตายเดินได้ ข้ากัดฟัน..เมื่อเห็นว่ามันกำลังจะโดนกินจริงๆ



    โถ่เว้ย..ทำไมไม่ทำอะไรสักอย่างละฟะ..เจ้าค้างคาวมันง้างปากแล้วนะ!


    ดวงตาสีแดงฉานของมันส่องประกายทำให้ข้ากลัว..ทุกอย่างของมันทำให้ข้ากลัวไปหมด แต่ซิลเวอร์กลับยังทำสีหน้านิ่งเฉยจนข้าลนลาน..




    ทำไมไม่รีบหนีเล่า!


    ข้าสบถ เมื่อเจ้าค้างคาวยักษ์ฝังเขี้ยวลงมา ข้าถอดสร้อยกระเทียมบนคอตัวเองปาใส่ปากค้างคาวจนมันชะงัก ก่อนรีบวิ่งไปกระโดดถีบมัน..เนื่องจากมันตัวใหญ่ แถมยังแปลกที่อยู่บนพื้นดินแทนที่จะเป็นตต้นไม้..แต่พอลองคิดดูอีกที ต้นไม้แถวนี้ไม่ทางที่มันจะเกาะได้หรอก โค่นลงมาเพราะนํ้าหนักพร้อมพุงพลุ้ยๆนั่นแน่ๆ




    ลูกถีบของข้าโดนท้องของมันเข้าพอดี มันรีบคายกระเทียมออกจากปาก เป็นจังหวะเดียวกับที่ข้าจับมือซิลเวอร์ให้รีบวิ่งมาจากเจ้าค้างคาวยักษ์ ซิลเวอร์ตาโตเป็นไข่ไก่เมื่อเห็นข้ามาช่วยเขาจากการโดนค้างคาวเขมือบ เสียงเย็นๆเอ่ย “เวนเซนต์..?”




    ก็ข้านั่นแหละ ไม่ใช่พระบิดาเจ้าหรอก!




    “อย่ามัวแต่เหม่อน่า! รีบวิ่งสิฟะ อยากเข้าไปอยู่ในกะเพาะมันหรือไง!” ข้าว่ามันไปทีหนึ่งโทษฐานที่เอาแต่อึ้งจ้องข้าอยู่นั่น หน้าข้ามีอะไรติดอยู่หรือยังไง หมอนี่!




    “ไม่จำเป็นต้องหนี” ซิลเวอร์พูดเสียงเรียบ




    ในจังหวะนั้นเองที่ข้าได้ยินเสียงค้างคาวกรีดร้องเสียงแหลมไปทั่วทั้งผืนป่า มันบินเข้ามาเพื่อหวังจับผู้บุกรุกทั้งสอง ปีกใหญ่ของมันทำลายต้นไม้รอบด้านจนหักโค่นเกิดเสียงดังจนเรียกดวงตาสีแดงรอบด้านให้ตื่นขึ้นมา ข้าเบิกตากว้างมองรอบๆที่มีดวงตาของสัตว์มากมายจ้องมาที่พวกเราทั้งสองคน ข้ากับซิลเวอร์วิ่งไปถึงต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่ง เจ้าค้างคาวที่บินตามมาร้องเสียงดังอีกครั้ง




    นั่นทำให้พวกสัตว์บนต้นไม้ลืมตาขึ้น!




    ข้าหยุดวิ่งเมื่อค้างคาวตัวเล็กร่วงลงมาจากต้นไม้สู่พื้น..พวกมันไม่บินเหมือนปรกติ..แต่กลับร้องเสียงดังระงมและพุ่งเข้ามาหาข้าทันที ข้าหลับตาปี๋เมื่อเห็นว่ามันพุ่งข้มาเร็วจนหลบไม่ทัน ได้แต่อ้าแขนปกป้องคนข้างหลังอย่างสุดชีวิต พยายามบังให้มิดที่สุดเท่าที่จะทำได้




    กี้! กี้ กี้!!


    เสียงร้องแหลมของค้างคาวร้องอย่างเจ็บปวด เมื่อไม่เห็นว่าหน้าข้าโดนมันกัดหรือเลีย(?)ข้าก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา ซิลเวอร์อยู่ตรงหน้าของข้า ในมือของมันบีบค้างคาวตัวน้อยจนแหลกคามือ เลือดสีแดงไหลหยดรินมาตามแขน จนข้าได้แต่ยืนอึ้ง




    ไม่คิดว่ามันจะกล้าใช้มือเปล่ารับ..แถมยังบีบเสียจนเละอีกด้วย!




    ซิลเวอร์มองมือตัวเองแล้วแช่แข็งมือนั้น มันมองข้านิ่งๆอย่างสำรวจว่าข้าเป็นอะไรหรือเปล่าก่อนถอนหายใจ




    “ตัววุ่นวาย”


    ไอ้นํ้าแข็งเดินได้ไร้มนุษย์ศัลยธรรม!




    กี้! กรี๊ดดดด!!


    เสียงกรีดร้องของค้างคัวตัวเล้กที่เหลือดังระงม ก่อนเสียงค้างคาวยักษ์ที่ถูกลืมลือนดังขึ้นมา ัมนกำลังบินมาทางนี้ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ซิลเวอร์อุ้มข้าขึ้นอีกครั้ง พลางมองเจ้าค้างคาวยักษ์ “อย่าขยับ..ไม่งั้นเราจะตาย”




    งั้นการที่มายืนอยู่ให้มันเขมือบจะไม่ตายหรือยังไงฟะ!




    พวกค้างคาวตัวเล็กเหมือนจะไม่ปล่อยให้ซิลเวอร์ว่างงาน พวกมันกระโดดพุ่งขึ้นมาจากพื้นจนข้าแทบอยากจะรู้ว่าค้างคาวเดี๋ยวนี้มันพัฒนาไปขนาดนี้แล้วหรือ ซิลเวอร์ไม่ปล่อยให้พวกเราโดนแม้แต่ร้อยขีดข่วน สร้างหอกนํ้าแข็งขึ้นมากลางอากาศพุ่งเข้าเสียบท้องของค้างคาวตัวเล็กทุกตัวจนมันไปติดเป็นวอเปเปอร์ต้นไม้ใหญ่ด้านหลังเรียงตัว




    นี่เจ้ามองเห็นได้ไงฟะ! ไม่ได้หันไปมองข้างหลังไม่ใช่เรอะ!




    เทพเกินไปแล้ว หมั่นไส้โว้ย!


    เมื่อเห็นเพื่อนมันเป็นวอเปเปอร์แปะต้นไม้ พวกดวงตาสีแดงรอบด้านต่างสั่นไหวด้วยความหวาดกลัว ค้างคาวตัวยักษ์ซึ่งบินตามมาทันพวกเรา บินเข้ามากรี๊ดใส่หน้าข้ากับซิลเวอร์ ก่อนกรงเล็บแหลมคมจะแทงเข้าที่หัวของข้าหวังเสียบให้ทะลุคากระโหลก




    ไม่โว้ย ข้าไม่ยอมเป็นลูกชิ้นคาเท้าค้างคาว ไม่มีท๊างง!!




    แน่นอนว่านํ้าแข็งหน้าตายที่กำลังอุ้มข้าอยู่ไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้น มันจับเล็บแหลมคมของค้างคาว นํ้าแข็งเย็นยะเยือกเริ่มเกาะเล็บแหลมคมสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนเจ้าค้างคาวตกใจหวีดร้อง พยายามดิ้นบินหนีออกจากการจับกุมของซิลเวอร์ แต่แรงมหาศาลที่จับเล็บมันอยู่ทำให้มันไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย ได้แต่พยายามกระพือปีกบินหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย


    ซิลเวอร์เอ่ยเสียงเย็น




    “ก็แค่ค้างคาว..นึกว่าจะมีอะไรมากกว่านี้ซะอีก..”




    งั้นแกก็แค่นํ้าแข็งเดินได้..ที่มีอะไรมากกว่านี้ซิลเวอร์! น่ากลัวโว้ย อย่ามาทำเสียงหลอนๆตอนกำลังจะฆ่าคน..ค้างคาวสิฟะ!




    นํ้าแข็งเริ่มแช่จากล่างไปถึงส่วนบนไปถึงหน้าท้องของมัน ค้างคาวตัวยักษ์ร่วงลงบนพื้น มันหวีดร้องราวกับกำลังขอความช่วยเหลือ ข้าพึ่งสังเกตว่านัยย์ตาสีแดงรอบตัวหายไปแล้วเหลือเพียงเจ้าค้างคาวยักษ์นี้เพียงตัวเดียว..นี่พวกนั้นหนีไปหมดแล้วงั้นเรอะ!?




    น่าสงสารค้างค้าวตัวนี้ดีนะ..แต่มันอยากเขมือบข้าเอง ช่วยไม่ได้



    เอาจริงๆ..ข้าชักรู้สึกการถูกซิลเวอร์อุ้มมันเป็นกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว..ในเมื่อข้าไม่มีอะไรจะเสีย มันเสียไปหมดตั้งแต่หลายวันก่อนแล้วก็ไม่รู้จะหวงตัว(?)ไปอีกทำไมกัน




    กี๊ดดด! กี๊ดดดดด!!


    ทำไมชักรู้สึกสงสาร..เมื่อนํ้าแข็งกัดกินปีกทั้งสองข้างของมันไปแล้ว..มันกรีดร้องหวาดกลัวจนข้าแอบสงสารนิดหน่อย..ถ้าเป็นข้าคงจะสติแตกไม่ต่างกัน ดีไม่ดีอาจร้องไห้ฟูมฟายกว่านี้ด้วยซํ้า..แค่ต่างกันตรงที่เจ้านี่เป็นค้างคาว แต่ข้าเป็นมนุษย์พูดได้เท่านั้นเอง..




    แต่จะไปขัดข้าก็กลัวตาย..อาเมน..


    เสียงร้องสุดท้ายของค้างคาวดังแผ่วเบา ไม่นานมันก็กลายเป็นปฏิมากรรมรูปนํ้าแข็งสวยงาม ซิลเวอร์ถอนหายใจ เตะเข้าที่ก้อนนํ้าแข็งจนมันแตกเป็นชิ้น ตัวเจ้าค้างคาวยักษ์ก็แยกส่วนเป็นชิ้นๆเช่นกัน..ข้ากลืนนํ้าลาย ขนลุกกับความน่ากลัวของพลังของซิลเวอร์ไม่น้อย




    ไม่สิ..ข้าไม่ควรกลัวสินะ..เจ้าปีศาจนี่..




    “เป็นอะไรหรือเปล่า?” ซิลเวอร์ถามเสียงเรียบ ข้าส่ายหน้าไร้ซึ่งคำพูดใดๆ..



    บรรยากาศกลับมาเงียบสนิท..ข้าไม่กล้าโวยวายหรือพูดอะไร เพราะนึกถึงตอนที่ซิลเวอร์ช่วยข้าไว้จากโจร..สภาพเจ้าค้างคาวกับโจรไม่ต่างกันเลย..



    ซิลเวอร์จ้องข้านิ่ง เหงื่อข้าไหลเป็นแถบ ไหลแล้วไหลอีก



    จ้องอะไรข้า! หน้าข้ามีอะไรติด!? ไม่นะ..เจ้าคงไม่ได้กำลังคิดข้าข้าคือเยหื่อรายต่อไปใช่ไหมเจ้านํ้าแข็งหน้าตาย?



    ถ้าเจ้าจะแช่แข็งข้า...ข้าจะทำอะไรได้ละโว้ย สร้อยกระเทียมก็ไปแล้ว ตอนนี้ตัวข้าไม่เหลืออะไรนอกจากตัวกับหัวใจ ถ้าหากมันคิดจะแช่แข็งข้า ข้าคงได้แต่กรีดร้องหาท่านพ่อที่เอรันทา แล้วดึงผมมันมาถือไว้ โพสท่าให้สวยๆเพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นปฏิมากรรมนํ้าแข็งที่สวยที่สุดในโลก โดยไม่ลืมขอให้มันเอาข้าไปไว้ในพิพิธพันธ์แห่งอาณาจักรโลก



    ไม่นะ..ถ้าชะตาชีวิตข้าจะจบแค่นั้น..ฮือ..



    ซิลเวอร์ยื่นใบหน้าเย็นชาเข้ามาใกล้ข้ามากขึ้นเรื่อยๆ ข้าหลับตาหวังว่าคงจะไม่เจ็บนะ..



    ซิลเวอร์กระตุกยิ้มมุมปาก “ไหนว่าเจ้าจะไม่ตามข้ามา?”



    คำพูดแสนกวนทำให้ข้าลืมตาโพล่ง จ้องมองซิลเวอร์ค้างไปสักพัก..สมองเร่มประมวลผลคำพูดของมัน ก่อนหน้าของข้าจะแดง ร้อนไปจนถึงใบหู..



    ม..มัน..มันล้อเลียนข้า!



    “ข..ข้าไม่ได้ตามเจ้ามา! ข้าแค่ออกมาเดินเล่น!”



    “งั้นทางดินเล่นของเราคงจะเป็นทางเดียวกันสินะ..ข้าไม่นึกว่าเจ้าจะมีทางเดินเล่นในป่ายามกลางคืน”



    ซิลเวอร์มองข้าด้วยความสนุก ข้าได้แต่อ้าปากค้าง ทั้งเจ็บใจ อยากรู้สึกตะปบหน้าอีกคนใจจะขาด แ่ถ้าหากข้าทำ ศพข้าคงไม่สวย ดีไม่ดีอาจจะกลายเป็นชิ้นส่วนไม่สมประกอบแบบค้างคาวนั่นก็ได้..




    “ฮะๆๆ..ใช่ๆ เจ้าคิดถูก ทางเดินเล่นที่ใหม่ของข้าน่ะ” ข้าแสร้งหัวเราะแห้งๆพลางเก็บความแค้นไว้ในใจ ถ้าแถวนี้มีท่อนไ้ข้าก็อยากจะเอามาฟาดหัวมันเหลือเกิน แต่ติดที่ว่ามันต้องหลบได้แบบสบายๆแน่นอน




    คิดแล้วก็แค้น...แต่ทำอะไรไม่ได้..ฮึก




    “หึ..ข้าจะจำไว้ว่าเจ้าชอบที่มืดๆ..” ซิลเวอร์พยักหน้าราวกับจะเก็บมันไว้เป็นส่วนลึกของความทรงจำ




    ทำไมพอต่อหน้าข้ามันไม่ทำสีหน้านิ่งๆแบบตอนอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆบ้างฟะ รือเพราะข้าโชคร้ายคนเดียวถึงได้แต่โดนมันกวนอยู่แบบนี้ ไม่ขเ้าใจว่าทำไมข้าถึงรู้สึกคุ้นเคยนัก แต่ข้าเลือกจะไม่สนใจความรู้สึกนั้น



    นึกไปก็นึกอะไรไม่ออกอยู่ดีน่า




    “สรุปแล้วธุระของเจ้าคืออะไรกันแน่ซิลเวอร์..เข้ามาในป่าแบบนี้มันก็แปลกไม่ต่างจากข้านั่นแหละ” ข้าย้อนถามกลับไปบ้าง ซิลเวอร์หุบยิ้มลง




    “ก็แค่มีสิ่งที่ต้องดูให้แน่ใจเท่านั้น..ไม่มีอะไรหรอก”


    มันตอบนิ่งๆ..ข้าขมวดคิ้ว..ข้าเกลียดคนพูดกำกวมเพราะข้าไม่เข้าใจ อย่ามาสตอทำตัวเป็นพระเอกนิยายแฟนตาซีไปหน่อยเลย เพราะเรื่องนี้ข้าเป็นพระเอกเจ้านํ้าแข็งเดินได้!




    เอาเถอะ..ข้าไม่อยากยุ่งกับเรื่องของมันมากนัก..แค่อยากรู้หน่อยๆ..”งั้นเจา้จะไปต่อหรือ ไม่เห็นหรือไงว่ามีสัตว์ประหลาดตั้งเยอะแยะ”




    “ข้าจัดการเองได้” มันตอบ ข้ารู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ มันมั่นใจมากนักหรือไง เออ..ข้ายอมรับที่เจ้าเก่ง แต่ถ้าเกิดพลาดขึ้นมาก็แย่สิ ป่าตอนกลางคืนมันอันตรายนะเฮ้ย!



    อีกอย่าง..ข้าต้องลากเจ้ากลับไปด้วยให้ได้ ข้า..ไม่กล้ากลับคนเดียวเว้ย! เห็นตาของพวกสัตว์แล้วทำให้กล้าไม่กล้าขยับไปไหนแค่นั้น ถ้ามันไปต่อข้าก็ต้องกลับไปเผชิญโชคคนเดียว ใครจะไปโ.ง่ละฟะ ต่อให้เป็นตายร้ายดี หัวเด็ดตีนขาดข้าก็จะลากมันกลับไปกับข้าให้ได้!



    ข้าไม่ยอมตายคนเดียวหรอกเฟ้ย!



    “แต่…!”




    “อื้อ..หนวกหูจัง..”




    !!!




    ข้ากับซิลเวอร์รีบหันไปตามเสียงงัวเงียนั้นทันที บนต้นไม้อันมืดมิดเห็นร่างเล็กๆของใครบางคนกำลังนอนอยู่บนกิ่งไม้ พอข้าเพ่งมองดูดีๆถึงได้รู้ว่านั่นคือเด็กน้อยอายุประมาณสิบขวบได้ เพียงแต่เห้นหน้าตาไม่ชัดเพราะความมืด ซิลเวอร์ดึงข้ามาอยู่ข้างๆอย่างไม่ไว้ใจร่างนั้นสักเท่าไร ข้าได้ยินเสียงหาวดังเป็นระยะๆ ก่อนใบหน้านั้นจะหันมามองพวกข้าทั้งสองคน





    “มันน่ารำคาญนะรู้ไหม..อย่าปลุกสิ..หืม...นี่มืดแล้วเหรอ?”















    “หึหึหึ...หึหึหึ..”




    เสียงหัวเราะในลำคอดังไปทั่วทั้งห้องกว้างอันเต็มไปด้วยหนังสือและรกไปด้วยขวดโหลขนาดยักษ์ กลิ่นฉุนตัวยาตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง แต่สำหรับคนที่อยู่ในห้องมันกลายเป็นเรื่องเคยชินไปสำหรับเขาเสียแล้ว หมอหนุ่มนามครูส เซเบาสเตียนกำลังสำรวจร่างกายของเหยื่อยที่เขาได้มาใหม่ด้วยความสนุกสนานบนเตียงทดลองอยู่



    โชคดีที่เหยื่อที่ว่ากำลังสลบทำให้เขาสามารถถอดเสื้อผ้า ตรวจดูส่วนต่างๆได้อย่างไม่ต้องสนฟังเสียงโวยวายของเจ้าตัว ครูสทดลองหลายอย่างดูกับปฏิกิริยาของร่างกายเผ่าพันธุ์อื่น..นับว่าเป็นเรื่องน่าสนใจทำให้เขาไม่ได้ออกจากห้องมาสองวันแล้ว




    นับว่าเป็นสองวันที่สนุกสนานสำหรับครูส เขาเลือกจะฉีดยาสลบให้กับน้องหมาตัวนี้เพื่อให้สงบเรียบร้อย ก็น้องหมาไม่ยอมให้เขาตรวจ เขาจึงต้องใช้กำลังนิดหน่อย..นับว่าไ้ดข้อมูลดีๆมาเพียบ แถมเก็บตัวอย่างขนมาอีก ขนพวกนี้ไม่ใช่ขนธรรมดาทั่วไปยิ่งคุ้มค่าไปอีก


    “น่าสนใจ น่าสนใจ” เขาพึมพำเบาๆ ก่อนฆ่าดอกไม้ที่กำลังคลืบคลานด้วยรากของมันมาที่เตียงด้วยเข็มฉีดยา เขาเอ่ยเสียงเย็น




    “ถ้าคิดจะมาแตะต้องเขา..พวกแกได้เจออะไรทรมานกว่านี้แน่..”



    เขามั่นใจว่าพวกดอกไม้มันฟังเขารู้เรื่อง..ในเมื่อเขาเป็นคนสร้างพวกมันมาเองกับมือ พวกพืชในโหลต่างขวัญเสียตัวสั่นกันท่วนหน้า ครูสจึงหันไปสนใจร่างบนเตียงสีขาวต่อ




    ก๊อกๆ




    เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ เรียกความสนใจของครูสให้ผละจากสุนัขบนเตียง “เชิญครับ”




    เมื่อเห็นคนที่เข้ามาครูสก็หัวเราะเบาๆในลำคอ ผู้มาใหม่มองรอบห้องแล้วถอนหายใจราวกับเบื่อสถานที่นี้เต็มทน ครูสรีบอุ้มน้องหมาสีนํ้าเงินของเขาไปอีกทางแล้วเอาผ้าคลุมตัวให้ ก่อนพาไปนอนอีกมุมหนึ่งของห้อง “อยู่นี่ก่อนนะครับลูคัส”




    ครูสกระซิบกับน้องหมาที่หลับอยู่เบาๆ ก่อนเดินมาหาแขกแล้วเอ่ยทักทาย




    “กำลังรออยู่เลยละครับ..เร็ทซ์




















    -----------------------------------------------------------------------------------

    //หลบรองเท้าหนักมาก

    จะมีคนอ่านอยู่ไหมนะ..เราหายไปหลายเดือน TwT..

    ไม่ใช่อะไรค่ะ..ไรท์หมดฟีล..คิดอะไรไม่ออก แต่งไม่ออก..//ทรุด

    พึ่งจะมามีอารมณ์(?) ตอนนี้ ขอประทานโทษค่ะ ฮรือออ


    ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก ตัวละครใหม่โผล่มาแล้วค่ะ ยังไม่ค่อยมีอะไรมาก..

    นอกจากค้างค้าวตัวเล๊กเล็กกก(เหรอ)

    ตอนหน้าคาดว่าจะมันส์ขึ้นแล้วค่ะ..คิดว่าอาจจะอัพเร็วๆนี้ ตอนนี้สั้นไปหน่อยต้องขอโทษด้วยค่ะ


    ขอบคุณค่ะ!










    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×