คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่สี่ : คนดื้อดึง
บทที่สี่
คนดื้อดึง
“ปล่อยข้า”
“ไม่ปล่อย”
“ปล่อย”
“จะปล่อยก็ต่อเมื่อเจ้ายอมพาข้าไปด้วย”
ใช่..ข้าจะไม่มีวันยอมปล่อยคนตรงหน้าไปจนกว่าเขาจะยอมพาข้าไปด้วย
ต่อให้ต้องติดหนึบหรือแปลงร่างเป็นกาวตาช้างหรือเห็บเพื่อเกาะข้าก็ยินดี คิดจะเอาข้ามาและปล่อยข้าทิ้งไว้มันไม่ต่างจากฟันแล้วทิ้ง(?)เลยสัดนิด! เจ้าใจดีกับข้าแล้ว
แถมยังคอยช่วยเหลือข้า คิดหรือไงว่าข้าจะปล่อยเหยื่อดีๆขนาดนี้ไปง่ายๆ ไม่มีทาง!
ข้าสาบานเลย..ต่อให้เจ้าเอามังกรดำมาช่วยแงะมือข้าออก
ข้าก็ไม่ปล่อย!
สภาพของข้ากับซิลเวอร์กำลังอยู่ในสภาพเหมือนคนรักกำลังกอดกันด้วยความรัก
เพียงแต่นั่นแค่ภาพลวงตา เพราะข้าเป็นฝ่ายกอดเอวมันไว้ แม้มันจะพยายามสะบัดข้าจนร่างกายของข้าร่วงไปบนพื้นเลื้อยเป็นงู
แขนของข้าก็ยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม
ไม่เลื่อนออกไปจากเอวของซิลเวอร์แม้แต่มิลเดียว
หึหึ ซิลเวอร์เอ๋ย
จะสลัดคนอย่างข้าหลุด มันยังเร็วไปหลายพันปี!
“เฮ้อ..ข้าจะทำอย่างไรกับเจ้าดี..”
ซิลเวอร์ดูเหนื่อยใจ แต่ข้าไม่สน
ในเมื่อคนเหนื่อยใจมันไม่ใช่ข้า ต่อให้ต้องทำให้คนอื่นลำบากใจก็ช่าง
แต่ในเมื่อชีวิตข้า ข้าต้องเลือก ข้าก็ขอเลือกเกาะเขาไม่ปล่อย
โชคดีนักที่ซิลเวอร์ไม่ได้เป็นพวกหัวรุนแรงและป่าเถื่อนแบบคนในปราสาท..ถ้าขืนซิลเวอร์มีนิสัยเช่นนั้นข้าคงจะร้องไห้จนเลี้ยงปลาได้สองบ่อใหญ่
หึหึ
หลังจากเมื่อวานหลังจากที่ซิลเวอร์อาบน้ำเสร็จ
ข้าไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นนางเอกโดยการต้องมานั่งเถียงกับเขาต่อ ในเมื่อทำอะไรไม่ได้
ข้าจึงใช้พลังเวทย์ทั้งหมดที่ตนเองมีร่ายเกราะคุ้มกันรอบเตียงและนอนซะ
ต่อให้เจ้าหมอนี่จะพังเข้ามายังไงก็ไม่มีทางทำได้..
ยกเว้นแต่ว่ามันจะมีพลังเยอะกว่าข้า
แต่นับเป็นโชคดีในเมื่อซิลเวอร์ตัดสินใจไม่ทำลายเกราะของข้าลง
แถมมันยังนอนบนเตียงหรูกว่าอีก ข้าเหล่มองเตียงๆข้างๆเตียงของโรงแรม
มันเป็นเตียงน้ำแข็งชนิดผสมไปด้วยหิมะพันปีแบบที่ว่าถ้าหากข้านอนไปความเย็นคงเข้าสิงร่างจนขยับตัวไม่ได้
แล้วหมอนี่นอนได้ยังไง?
“ซิลเวอร์
เจ้านอนบนเตียงนี่ได้ยังไง ไม่หนาวเหรอ?”
ข้าไม่คิดจะสนใจสีหน้าหนักใจของเจ้าตัว ถามคำถามไม่ดูสถานการ์ณ
ซิลเวอร์ดูเหนื่อยใจกว่าเดิม
“ไม่”
ชิชะ
อย่ามาสตอ มนุษย์หน้าไหนจะมานอนบนก้อนน้ำแข็งได้โดยไม่หนาวบ้าง
แถมไม่มีผ้าห่มอีกต่างหาก หรือว่ามันจะไม่ใช่มนุษย์?
ข้าเลิกคิ้วแปลกใจ
ในดินแดนแห่งนี้การจะมีเผ่าพันธุ์อื่นนอกจากมนุษย์
และน้องหมาน้องสาวแสนน่ากลัวเหล่านั้นเป็นโอกาสที่น้อยพอสมควร
เนื่องจากเผ่าอื่นๆจะมีอาณาจักรของตนเองอยู่ไม่มาข้องแวะ
จะมีบางส่วนที่ออกมาโลกภายนอกถึงกระนั้นก็ยังน้อยนิด
ถ้าหากมันไม่ใช่มนุษย์
มันก็ต้องไม่ใช่ทั้งหมาและแมว เพราะข้าแพ้ขนสัตว์แถมถ้าอยู่ใกล้มากๆอาการหลายๆอย่างจะกำเริบ..อย่าให้ข้าพูดเลย
มันน่าขนลุกเฟ้ย
หรือว่ามันจะเป็นจำพวกภูตน้ำแข็ง
จะว่าไปข้าเคยได้ยินมาว่าภูตน้ำแข็งหรือภูตประเภทต่างๆจะหน้าตาดี
โดยเฉพาะภูตน้ำแข็งจะมีลักษณะหน้าตานำโด่งร่างกาย หน้านิ่งเสียจนไม่รู้ว่าโดนน้ำแข็งเกาะหน้าจนขยับไม่ได้หรือโดนปูนฉาบหน้าในภูเขาน้ำแข็งไปแล้วก็ไม่ทราบ
เอาเป็นว่ามันหน้าตายแล้วกัน
“เจ้า..ปล่อยข้า..ข้าจะไปจากเมืองนี้”
ซิลเวอร์พยายามแกะมือของข้าออก
แน่นอนว่าข้าไม่มีทางปล่อยแถมยังกอดเอวเขาแน่นกว่าเดิม
“แต่ข้าไม่ให้ไป”
ขืนข้าให้เจ้าไปก็โง่สิฟะ
นอกจากความปลอดภัยจะหายไปแล้วยังต้องมาหาที่ไปอีก ไม่มีทาง!
“ข้าเจ้าไม่ปล่อย..ข้าจะโกธร”
ซิลเวอร์เอ่ยเสียงเย็นเหยียบ แต่ข้าไม่สนใจเรื่องอะไรจะต้องสนใจ
จะโกธรก็เรื่องของเจ้า เพราะถ้าเจ้าฆ่าข้า
เจ้าจะโดนหมายจับจากดินแดนมนุษย์เลยเชียว!
โอ๊ะ ข้าขอบอกไว้ก่อนว่าในดินแดนมนุษย์นี้ถ้าหากใครคิดจะฆ่าข้าหรือฆ่าข้าตายแล้วหมกศพเอาไว้
ศพของเชื้อพระวงศ์อย่างข้าผู้หล่อเหลาจะตอบสนองต่อระฆังจันทราภายในหอคอยของเมือง
ข้าเห็นระฆังนั้นอยู่มาหลายร้อยปียังไม่เคยสั่นเลยสักครั้ง
มีครั้งนึงที่ข้าถามท่านพ่อบอกว่า
‘นั่นเป็นระฆังศักษ์ศิทธิ์...มันจะส่งเสียงแหละร่ำไห้เมื่อยามคนในราชวงศ์สิ้นใจ...และจะนำพาร่างของพวกเขากลับคืนสู่ระฆังสีทองเพื่อให้ดวงวิญญาณอันสูงส่งได้ขึ้นไปบนสวรรค์..แต่ถ้าหากดวงจิตวิญญาณของใครคนใดคนนึงตกต่ำ...มันจะนำพาดวงวิญญาณนั้นไปสู่นรก..’
เห็นไหมละ
เจ้าระฆังอเนกประสงค์ มันสามารถรับรู้การตายของข้าได้ด้วย เป็นเครื่องติดตามที่ทรงพลังอย่างมากถึงมากที่สุด
ถ้าหากซิลเวอร์ฆ่าข้าละก็เจ้าจะโดนโทษหลายชั่วโคตรเลยเชียว
จากนั้นเจ้าก็จะไม่มีโอกาสทำมาหากินได้อีกเลยตลอดชีวิต อยากมีคู่ก็ไม่มี
ไม่มีใครจะเอา สุดท้ายชีวิตก็ตกต่ำ
เงินก็ไม่มี ร่อนเร่อยู่ข้างถนนและตายอย่างสงบ
เอาสิ! ข้าจะไม่ได้เป็นเจ้าชายตกอับมีชีวิตอนาถคนเดียว
ซิลเวอร์มองข้านิ่ง..สายตาเหนื่อยใจของเขาหายไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
เพียงแต่สายของเขาในตอนนี้มันเต็มไปด้วยความเยือกเย็นแปลกๆ...นี่ข้าทำอะไรผิดไปมากหรือไง?
“เจ้าแน่ใจแล้วหรือ...เวนเซนต์..ถ้าหากเจ้าต้องการจะไปกับข้า..เจ้าอาจจะกลับไปใช้ชีวิตองค์ชายแสนสุขสบายไม่ได้อีกต่อไป”
ข้านิ่งอึ้งกับคำถามแปลกประหลาด..ท่าทางของซิลเวอร์ตอนถามดูเปลี่ยนไปรวดเร็วมากจนข้าตามไม่ทัน...
“ถามอะไรลิเกชะมัด
ถ้าข้าอยากใช้ชีวิตสุขสบายข้าคงไม่หนีมาหรอก ใช้อะไรคิด หัดคิดสิซิลเวอร์
คิดสิคิด” ข้าตอบหน้าตายพลางแคะหู
โป๊ก!
ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่เห็นใจข้า! โดยเฉพาะพระเจ้าชื่อซิลเวอร์ที่พอได้ฟังคำตอบมันก็ตบหน้าผากข้าไปทีนึง
ไม่ใช่เบาๆด้วย เจ็บชิบ!
“ไอคนโหดร้าย! ข้าจำไม่ได้เลยว่าไปเคาะหัวบุพการีเจ้าตอนไหน!”
“ตอนสงครามโลกครั้งที่สามสิบเจ็ด”
พระมารดาเจ้าสิ! ถ้ามันมีสงครามบ้าๆนั่นจริงป่านนี้โลกมันคงย่อยยับ
แถมเจ้ารู้ได้ยังไง! ข้าคิดว่าตอนนั้นเจ้ายังเป็นเซลล์อะมีบาในกะเพาะอาหารของแม่เจ้าอยู่เลย!
ซิลเวอร์หัวเราะในลำคอเบาๆเมื่อได้แกล้งข้า
หึ..คอยดูเถอะ ถ้าเจ้าเผลอเมื่อไรข้าจะแกล้งเจ้าคืน
ขอให้ข้ารู้จุดอ่อนของเจ้าก่อนเถอะ
ข้าเกาะซิลเวอร์และล้มไปบนเตียงดึงตัวเขาให้มานอนบนเตียงด้วยกันพร้อมนอนทับเสร็จสรรพไม่ให้หนีได้ร้อยเปอร์เซ็น
ถ้าเจ้าคิดจะลุกข้าจะกระโดดทับแล้วเอาก้นนวดหน้าเจ้าเลยเชียว
จากนั้นหน้าของเจ้าก็จะผ่องใส อวบอิ่มสุขภาพดีเหมือนคนอนามัยกินผักทุกวัน
“ซิลเวอร์..ได้โปรดเถอะ..ข้าไม่อยากจะอยู่ที่นี่..ข้าไม่อยากกลับไปที่วังด้วย..”
ข้าทำสายตาออดอ้อนแม้ผู้ชายอย่างข้าทำแบบนี้ใส่มันอาจจะดูน่าเกลียดแต่ข้าก็ขอให้มันมองข้าแบบน่ารักบ้างก็ยังดีในเวลานี้
ใช่...ข้าเป็นเจ้าชายแสนน่ารักเชียว
ซิลเวอร์รู้สึกเหนื่อยใจ..เขาเห็นสายตาอ้อนๆของเวนเซนต์แล้วนิ่งไป...เขากำลังสับสน
ความรู้สึกในใจคิดบอกว่าอยากจะพาคนตรหน้าไปด้วยโดยไม่รู้สาเหตุ
หากแต่สัญชาตญาณของเขากลับบอกว่าให้ปล่อยทิ้งไว้เพื่อไม่ให้เป็นภาระของตนเอง...
ซิลเวอร์พึงไว้เสมอว่าไม่ควรไว้ใจใคร..เพราะถ้าปักใจเชื่อ..สิ่งนั้นจะวนกลับมาทำร้ายตัวเองได้..
ในฐานะคนที่ต้องการเดินทางไปดูสิ่งต่างๆอย่างเขาไม่คิดจะรับภาระเพื่อให้การเดินทางของตนเองลำบากขึ้น..แถมสถานที่ต่อไปซึ่งเขาต้องการจะไปมันก็อันตราย
ถ้าหากขนเจ้าชายประสาทกลับบนตัวเขาไปด้วยมีหวังได้ล่มกลางทาง
“ซิลเวอร์...”
เสียงของเจ้าชายตัวปัญหาเอ่ยอ้อนๆ..
ขนลุก..
ซิลเวอร์หน้าเคร่งเครียด..ไม่รู้ว่าควรจะตัดสินใจอย่างไรดี..
ในเวลานั้นเองเสียงฝีเท้าหลายคู่ก็ดังขึ้นมา
ก่อนประตูจะถูกถีบพังลงกระเด็นไปสุดผนังด้านใน ทั้งคู่รีบหันไปมองทางประตู
ชายหลายคนมีรอยสักเต็มตัว ตัวใหญ่แทบจะเท่าบานประตู และมีรอยแผลเป็นเต็มหน้ากำลังยืนออกันอยู่หน้าประตู
เสียงหัวเราะเมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองคนกำลังนอนอยู่บนเตียงพร้อมเสียงซุบซิบนินทา
พวกมันมีประมาณสิบถึงยี่สิบคน
ข้าหรี่ตามองก่อนลุกจากตัวซิลเวอร์มานั่งแทน ซิลเวอร์ก็ลุกขึ้นมาเช่นกัน ข้าแปลกใจที่หมอนี่ไม่โวยวายอะไร
เอาเถอะ..ไอน้ำแข็งตายด้านนี่ต่อให้มีระเบิดถล่มเมืองมนุษย์สีหน้าก็คงไม่กระดิกแม้แต่คิ้วหรอก
ถามว่าตอนนี้ข้าตกใจไหม?
ตกใจ..แต่เรื่องอะไรจะทำหน้าให้เหมือนตกใจละฟระ
พระเอกตามปรกติพอเห็นศัตรูบุกเข้ามาก็ต้องทำหน้านิ่งๆ ท่าทางขรึมๆเพื่อคงความหล่อ
จากนั้นพอพวกผู้ร้ายบุกเข้ามาจะสู้เราก็ต้องหลบและโจมตีกลับอย่างสง่างามสิ!
ข้ายิ้มกระหยิ่งในใจก่อนหาวหวอดราวกับว่าไม่ได้สนใจคดีทำลายประตูโรงแรมของนักเลงหน้าตัวร้ายทั้งหลาย
ซิลเวอร์เหล่มองข้า
พวกโจรก็มามองข้า มองก่อนพวกมันจะยิ้มอย่างถูกใจ “เจ้าหนูนี่กล้าดีนะ..ไม่สิ..เจ้าช่างกล้าหาญโดยแท้...เจ้าคนเร่ร่อน!”
“หา...?”
คนเร่ร่อน...? ข้าอ้าปากค้างกับคำที่ถูกเรียก
อะไรนะ..? หรือข้าหูฝาด ฮ่าๆๆ...หน้าอย่างข้าจะไปเป็นคนเร่ร่อนได้ยังไง
ข้าเป็นถึงเจ้าชายแห่งแดนมนุษย์ เวนเซนต์ รอว์เซินต์ ผู้หล่อเหลา
มีข้ารับใช้นับพัน มีองค์รักษ์ปีศาจสองตัวอยู่ข้างกายพร้อมน้องสาวใจยักษ์
และคนวิปริตในวัง...
ทำไมข้ารู้สึกว่าชีวิตเจ้าชายของตัวเองมันอนาถชอบกล...
เจ้าตัวใหญ่ที่สุดและมีรอยแผลเป็นบนหน้า
แถมยังหัวโล้นมีกล้ามเป็นมัดๆ ข้าเชื่อว่าชาติที่แล้วมันคงทำบุญมาน้อย
ต่างจากข้าที่ทั้งหล่อเหลาทำบุญมาเยอะ มันแสยะยิ้มทีทำเอาข้าขนลุกไปทั่วร่างขยับไปกระตุกชายเสื้อของซิลเวอร์
ถ้าหากมันจะเข้ามาทำร้ายข้าเชื่อว่าสหายที่คบกันมานานนับสิบชั่วโมงคนนี้จะสามารถปกป้องข้าได้
แต่ถ้าเจ้าบาดเจ็บ..ข้าจะทิ้งเจ้าไว้!
ไม่ต้องมองข้าเลวเฟ้ย
หมายถึงทิ้งแล้วไปตามคนมาช่วย ระหว่างนั้นเจ้าก็นอนรอให้พวกมันรุมอัดเท้าไปก่อนแล้วกันนะซิลเวอร์
ข้าเชื่อมั่นในฝีเท้าตัวเอง ไม่ถึงสิบนาทีจะมีคนมาช่วยเจ้าแน่นอน
เจ้าหน้ายักษ์ซึ่งดูตัวใหญ่เดินเข้าไปท่ามกลางเสียงเชียร์
“ไปเลยเฮีย!”
“เฮียสู้ๆ!”
“เฮียอย่าทำร้ายเจ้าคนเร่ร่อนนั่นนะ
ข้าสงสาร!”
ประโยคสุดท้ายนั่น..ใคร! คนเร่ร่อนนั่นหมายถึงใคร
ซิลเวอร์ใช่ไหม ข้าหน้าตาดีกว่ามันไม่ใช่เหรอ! เมื่อรอบที่แล้วมันก็บอกว่าข้าเป็นคนเร่ร่อน
เจ้าจะบ้าหรือไง...ข้านี่แหละเจ้าชายตัวจริงเสียงจริง
ว่าแล้วก็ลองมองหน้ามันอีกรอบ...
หล่อ..หล่อเว้ย! จะหล่ออะไรกันนักหนา! ถ้าข้าเป็นผู้หญิงข้าสาบานเลยว่าจะกระโดดเข้าไปซบอกเจ้า..ฮือ..
ทำไมนักเดินทางอย่างมันถึงดูมีออร่ามากกว่าเจ้าชายอย่างข้าอีก!?
พระเจ้าไม่ยุติธรรม
หรือว่าจะมีคนดักทำร้ายข้าตอนกำลังจะไปเกิด
เอาหน้าหล่อๆของข้าไปแล้วเอาหน้านี้มาใส่แทนให้ข้า?
ระหว่างที่ข้ากำลังเพ้อฝันอย่างเจ็บช้ำ
เจ้ายักษ์ร่างใหญ่คนนั้นก็เดินไปหาซิลเวอร์ก่อนพิจรณาดู...ก่อนบอกลูกน้องตนเอง “พวกเจ้ามีใครจำหน้าตาเจ้าชายจากใบประกาศได้บ้าง...? ข้ายังไม่แน่ใจว่าเจ้าหมอนี่คือเจ้าชายหรือเปล่า”
ก่อนจะเหล่มองทางข้า..และกลับไปมองซิลเวอร์
หมายความว่ายังไงหา! มองข้าแล้วเมิน
ข้าคือเจ้าชายตัวจริงเสียงจริง เจ้าพวกไร้สมอง!
“พวกข้าจำไม่ได้ครับลูกพี่..แต่ข้าคิดว่าเจ้าชายคือคนตัวสูงๆนะครับ
เขาดูดีสมกับตำแหน่งเจ้าชาย
ท่าทางเจ้าเตี้ยบนเตียงน่าจะเป็นแค่เด็กรับใช้หรือคนเร่ร่อน”
ความเห็นจากลูกน้องปากดีคนนึงเสนอ
ว่าใครเตี้ย! ข้าไม่ได้เตี้ย แค่ส่วนสูงกระทัดรัด! ข้าออกจะหล่อขนาดนี้ทำไมถึงเทียบเจ้าซิลเวอร์ไม่ได้..เจ้าซิลเวอร์มองข้าตาปริบๆ
ส่วนข้าก็ส่งสายตาอาฆาตใส่มัน ข้าอยากจะลุกไปเอาดาบฟาดปากคนที่หาว่าข้าเตี้ย
เจ้าคนที่บังอาจสูงกว่าข้า ฮือ...
น่าน้อยใจ..กำลังใจในชีวิตของข้ามันหดหายไปหมดแล้ว!
ข้านั่งซึมกับเตียง
ท่ามกลางสายตาเยาะเย้ยของพวกคนร่างใหญ่และสายตาอนาถของซิลเวอร์
“ฮ่าๆๆ เจ้าก็พูดเกินไป
เจ้าเด็กรับใช้คนนี้ช่างน่าสงสาร อยู่ข้างเจ้าชายคงจะต้องทนมากละสิ
ในเมื่อเจ้าชายออกจะหล่อขนาดนี้”
“นั่นสินะ...ถึงแม้หน้าตาจะไม่ค่อยดี
แต่อย่างน้อยก็พอดูได้นะเจ้าหนู เป็นถึงข้ารับใช้เชียว ฮ่าๆๆ”
ซิลเวอร์ถอนหายใจเมื่อเห็นสภาพของเจ้าชายแห่งแดนมนุษย์กำลังโดนพวกโจรกระจอกดูถูกอย่างน่าอนาถ
แถมเจ้าตัวก็ดูจะหมดกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไปแล้ว
ซิลเวอร์ตั้งใจจะเข้าไปช่วยแต่ดาบยาวเล่มคมก็เข้ามาดักคอเขาเอาไว้จนทำให้ซิลเวอร์ชะงัก
มองเจ้าของดาบซึ่งกำลังถือมันจ่อคอเขา..
หัวหน้าโจรทำสีหน้ายิ้มเยาะ “หึ..ขอโทษทีนะเจ้าชาย..แต่ว่าพวกข้าต้องการพาตัวท่านกลับไปส่ง
เงินรางวัลตัวท่านเยอะจนพวกข้ารู้สึกโลภเลยละ
ฮ่าๆๆ..ดังนั้น..คงต้องขอให้ท่านไปกับพวกข้าแล้วละ”
ซิลเวอร์หรี่ตามอง
พวกลูกน้องกระจอกกำลังยิ้มเยาะไม่ต่างจากหัวหน้า เขากำหมัดแน่นแต่.”โอ๊ะโอ..ข้าคิดว่าเจ้าอย่าคิดจะขัดขืนดีกว่านะเจ้าชาย..เพราถ้าหากเจ้าขัดขืดคิดจะใช้เวทย์...”
หัวหน้าโจรดีดนิ้ว
พวกลูกน้องหลายคนรับเข้าไปคว้าตัวเวนเซนต์ซึ่งกำลังจิตตกกับชีวิต
แล้วข้าเกี่ยวอะไรด้วย..!
ทำไมในสถานการ์ณหน้าสิ่วหน้าขวานถึงชอบโยนบทมาให้ข้ากันนัก
ให้ข้าเป็นคนบรรยายอยากจะได้ยินเสียงข้ากู่ร้องนักหรือไงเจ้าพวกโรคจิต!
ข้าอยากอยู่กับตัวเอง
อยากจะนั่งทำใจกับคำด่าทออันโหดร้ายจากไอพวกหน้าตาไม่หล่อแถมจิตใจหยาบช้ายิ่งกว่าแผ่นปูนซีเมนต์หยาบ!
ชิ้ง
“เฮือก..” ข้ากลืนน้ำลายเมื่อเจ้าพวกลูกน้องกระจอกเอามีดมาจ่อคอข้างเอาไว้แถมจับตัวข้า
รวบแขน ขา กะจะไม่ให้ข้าขยับ ถ้าข้าขอไปเข้าห้องน้ำได้ไหม
หรือไม่ก็ขอเวลานอกไปบอกลาพ่อแม่ปู่ย่าตายก่อนจะโดนมีดปาดคอตาย
เดี๋ยวสิ..นี่หมายความว่าข้ากำลังตกอยู่ในอันตราย? ข้ากำลังโดนมีดจ่อคอ
ข้ากำลังโดนขู่ฆ่า ข้ากำลัง...จะโดนฆ่าตายถ้าหากเจ้าซิลเวอร์ขยับ..
โอ้มายก๊อต พระเจ้าซิลเวอร์ช่วย..
“ซ..ซิลเวอร์!”
ข้าเรียกชื่อของคนหน้าตาย เขากำลังมองข้าด้วยความสับสนเช่นกัน
ข้าพยายามจะดิ้นแต่พอดิ้นแล้วมีดดันกดลงกับคอมากกว่าเดิมจนข้าขนลุกไปถึงเส้นใยใหมใต้ผิวหนัง
จับแขนข้าแน่นกว่าเดิมจนข้าเผลออุทานด้วยความเจ็บปวด..
ทำไมข้ารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวเอกน่าสงสาร
ข้าเป็นพระเอกนะ..ทำไมถึงเอาบทเหมือนนางเอกกำลังโดนผู้ร้ายจับมาให้ข้า!
“ว่าไงละเจ้าชาย..จะยอมไปกับพวกเราไหม..หรืออยากจะเห็นคนรับใช้ของท่านตาย..ข้าคิดว่าเจ้านี่คงจะมีความสำคัญต่อท่านมากน่าดู..”
เจ้าโจรหน้าตัวร้ายเอ่ยพลางเหล่มามองข้า
ผิดแล้วเฟ้ยยย
มันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับข้าเลยนอกจากความแค้นส่วนตัวที่ข้าไปแย่งเตียงมันมาเมื่อวาน
หรือความรำคาญที่ข้าไปเกาะแกะ โดยรวมแล้วถ้ามันจะทิ้งข้าไว้ตอนนี้ก็ไม่แปลกหรอก!
เสียงหัวเราะของพวกโจรดังขึ้นอีกครั้ง
ซิลเวอร์มองข้านิ่งจนข้าไม่รู้ความรู้สึกของมัน...มันกำลังจ้องข้าซึ่งข้าก็สบตามันกลับ..
แล้วถ้าท้องใครจะรับผิดชอบ..
ข้าคนนึงละขอบาย!
“เวนเซนต์..”
ซิลเวอร์เรียกชื่อของข้าเบาๆ ข้าอยากจะถามมากว่าเจ้าจะเรียกชื่อข้าทำไม
เรียกชื่อข้าก็ไม่ได้ทำให้ตัวข้ากลายเป็นมังกร
หรือมีแรงความรักความโรแมนติกขึ้นมาหรอก!
เรียกข้าเพื่ออะไรไม่ทราบหรือกำลังสับว่าควรจะช่วยข้าดีไหม?
หมั่นไส้เว้ย
อย่าทำตัวเป็นพระเอกสิฟะ!
ข้าถอนหายใจแรงๆ...รู้สึกรำคาญที่สุด
ในสถานการ์ณตึงเครียด พวกโจรกำลังเตรียมจะปาดคอข้าตลอดเวลา
เจ้าซิลเวอร์ก็มีดาบจ่อคอ..เจ้าหัวหน้าโจรเมื่อเห็นว่าซิลเวอร์ยังเงียบก็เลยเร่งเร้า
“เร็วๆสิ..ก่อนที่ข้าจะใจร้อนและฆ่ามันเสียก่อน..”
หัวหน้าโจรสั่งให้ลูกน้องใช้มีดกดเข้าลำคอของข้าจนมีเลือดออกมาเล็กน้อย
ซิลเวอร์กัดฟันกรอด ส่วนข้า..เจ็บเว้ย!
“เจ็บเฟ้ย หัดกดลงมาเบาๆบ้างสิ”
ข้าพึมพำ ถ้าจะกดช่วยกดอย่างนุ่มนวล เอาลำลี ผ้าพันคอ หรือยาชามาให้ข้าจะดีมาก
แถมด้วยกระดาษทิชชู่ด้วย ข้าไม่อยากจะเจ็บอะไรทั้งนั้น
โดยเฉพาะเจ็บจากคนที่ข้าเกลียดแล้วข้าไม่ต้องการเว้ย!
“ไอเด็กเวรนี่ดิ้นอยู่ได้!”
เจ้าหน้าบึกหมายเลขหนึ่งสบถเมื่อข้าดิ้นด้วยความเจ็บ มันทุ่มข้าลงไปบนพื้นจนข้าจุกแล้วกดให้ตัวข้านอนคว่ำไปกับพื้น
รวบมือและกดหัวข้าเอาไว้ไม่ให้ข้าขยับ
ถ้าหน้าข้าหักแตกความหล่อไม่เหลือใครจะส่งข้าไปยันฮี...
หันเบามือหน่อยไม่ได้หรือไง
หรือมือพวกเจ้ามันฉาบไปด้วยปูนถึงได้ไม่รู้จักอ่อนโยน ถ้าตายไปแล้วท่านยมบาลมาเห็นข้าในสภาพยับยู่ยี่น่าอนาถ
ข้าคงจะอายไปจนวันตาย.เอ่อ..ถึงตอนนั้นข้าคงจะตายแล้ว
เอาเป็นว่าข้าคงจะอายไปยันชาติหน้าแน่นอน
“เวนเซนต์..เจ้า..”
พอเลยซิลเวอร์
ไม่ต้องมาทำสายตาพระเอกใส่ข้า
เห็นแล้วขนลุกแถมยังน่าโมโหจนอยากจะเอาขาเตียงฟาดให้ฟันหัก
ฮือ...ถ้าเจ้าไม่ช่วยก็ปล่อยข้าไว้เถอะ
ข้าอาจจะได้ตายอย่างสงบ ถึงตอนนั้นช่วยไปบอกพ่อข้าด้วยว่าข้าพยายามอย่างเต็มความสามารถ
ขอโทษที่ทำแจกันท่านแตก ขอโทษที่แอบเอากางเกงในของท่านไปโยนเล่นให้สุนัขคาบ
ขอโทษที่ข้าแอบย่องเบาเข้าห้องท่านเพื่อไปถ่ายรูปท่านไว้ประจานข่มขู่...
“เจ้าชาย
ดูท่าว่า..เราจะเจรจากันไม่รู้เรื่องแล้วนะ..หึ” เจ้าโจรใจโหดเอ่ย
ซิลเวอร์ตวัดสายตาน่ากลัวไปมอง แต่เจ้าโจรนั่นกลับไม่สนใจ “เสียใจด้วย..แต่ข้าให้เวลาท่านมามากพอแล้ว..จากนี้ถือว่าข้าคงจะต้องใช้กำลังพาท่านกลับ..”
“หยุด! ข้าไม่ใช่เจ้าชาย!” ซิลเวอร์กล่าว
แต่โจรนั่นกลับหัวเราะ “ฮ่าๆๆ อย่ามาหลอกข้าเสียให้ยาก
หรือท่านจะบอกว่าคนรับใช้ท่าทางยาจกนั่นคือเจ้าชาย? ฮ่าๆๆ..นี่เป็นเรื่องขำที่สุดในรอบหลายปีที่ข้าได้ยินเชียว
ฮ่าๆๆ!”
เจ้าโจรตัวบึกหัวหน้าร่ายยาว
ข้ากัดฟันอย่างโกธรเคือง ข้าเคืองจริงๆ เมื่อโดนดูถูกตรงๆ
แต่ยังไม่ทันได้ส่งสายตาอาฆาตแช่งให้ฟันน้ำนมมันหัก
ใบหน้าน่าเกลียดของมันก็ถูกซิลเวอร์กระแทกเข้าด้วยหลังมือจนร่างของมันกระเด็นไปกระแทกผนัง
เลือดสีแดงไหลกบปาก มันตัวสั่นก่อนมองเลือดของตนเองที่ไหลลงมาจากปากพร้อมฟันบางซี่
ข้าเบิกตากว้าง ไม่ต่างจากลูกน้องกระจอกหน้าถึกคนอื่นๆ
แต่เหมือนข้าจะตั้งสติได้ก่อน
ข้าจึงรีบไปมองซิลเวอร์ทำให้ข้าผงะไปด้วยความตกใจยิ่งกว่าเดิม..ใบหน้าของซิลเวอร์ในตอนนี้มันน่ากลัว
สายตาของเขาดูแตกต่างจากปรกติ เขามักจะมีสีหน้าเย็นชาเสมอ...มันแตกต่างไปทุกครั้ง
แม้สีหน้าเขาจะเย็นชา แต่บรรยากาศเย็นยะเยือกที่ไม่เคยได้สัมผัสมันแผ่ออกมาจากตัวเขา..
อะไรกัน..?
หรือว่าเจ้าจะเข้าโหมดแปลงร่าง?
ข้ากลืนน้ำลาย
ซิลเวอร์มองร่างของเจ้าหัวหน้าโจรแสนอวดดี ก่อนมันจะเดินมาทางข้า
เมื่อพวกลูกน้องเห็นว่าซิลเวอร์กำลังเดินมาใกล้ๆ พวกมันก็หน้าซีด
มองซ้ายขวาก่อนลูกน้องคนหนึ่งจะเข้ามาขวางซิลเวอร์เอาไว้ ทั้งๆที่ตัวของลูกน้องกระจอกใหญ่กว่าซิลเวอร์
แต่มันกลับดูน่าขันเมื่อมันตัวสั่น
แต่ซิลเวอร์ไม่คิดจะสนใจ..ยังคงเดินเข้ามาอยู่ดี
“จ..เจ้า..ดูถูกข้าเกินไปแล้ว..ย้าก!!”
ลูกน้องใจกล้าคนนั้นยกมีดขึ้นเตรียมแทงไปทีซิลเวอร์
ในตอนนั้นเอง..
“เหวอ! นี่มันอะไรกัน!?”
ก่อนเจ้าโจรนั่นจะได้ใช้มีดแทงไปยังร่างของซิลเวอร์
มือของเขาก็ถูกหยุดไว้ด้วยน้ำแข็ง เมื่อเห็นน้ำแข็งบนข้อมือเขาก็เริ่มสังเกตตัวเอง
บนพื้นห้องนี้เต็มไปด้วยน้ำแข็งรวมถึงสิ่งของทุกอย่างก็ถูกแช่เอาไว้ มันเกิดขึ้นในพริบตาจนข้ายังอดตกตะลึงไม่ได้
น้ำแข็งเย็นเหยียบรั้งร่างของโจรทุกคนเอาไว้ และกำลังลามจากเท้าไปจนจะถึงศีรษะ
รวมถึงตัวการอย่างหัวหน้าใหญ่ของพวกมันและลูกน้องที่กำลังถือมีดสั่นๆ
มือของเขากำลังถูกน้ำแข็งกัดกิน ทั้งตัวของเขาถูกหุ้มไปด้วยน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว
มือใหญ่ปล่อยมีดลงกับพื้นพยายามขยับดิ้นแต่มือของเขาไม่สามารถขยับได้เมื่อน้ำแข็งนั่นห่มหุ้มต้นแขนและข้อศอกไปหมดแล้ว
“ช..ช่วยด้วย! น้ำแข็ง!
นี่มันอะไรกัน!? ปล่อยข้า!!” ลูกน้องโจรคนนั้นตะโกนด้วยความหวาดกลัว เช่นเดียวกับคนอื่นๆ
กว่าครึ่งในห้องถูกแช่ไปด้วยน้ำแข็งจนร่างกลายเป็นมนุษย์แช่แข็งไปแล้ว..
ข้ามองเหตุการ์ณเบื้องหน้า..ยังตกตะลึงไม่หาย..พอมองตนเอง..
ไม่มี..
ข้าไม่ถูกน้ำแข็งพวกนั้นเกาะเลยแม้แต่น้อย
แต่คนที่จับข้าเอาไว้มันกำลังดื้นร้องทรมาน
ใบหน้าของเขาเป็นพื้นที่สุดท้ายซึ่งยังไม่โดนน้ำแข็งห่อหุ้ม
สายตานั้นหวาดกลัวพยายามจะขอความช่วยเหลือจากข้า “ช..ช่วยด้วย..ช่วยข้าด้วย! ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว…ได้โป...”
ยังไม่ทันจบประโยค..เขาก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็งรูปมนุษย์โดยสมบูรณ์...
เสียงฝีเท้าเรียกความสนใจของข้าให้ละไปจากตุ๊กตาน้ำแข็งรูปมนุษย์
ซิลเวอร์เดินมาหาข้า ก่อนดีดนิ้วทำให้กอ้นน้ำแข็งซึ่งของชายที่จับตัวข้าเอาไว้แตกสลายไป..ดวงตาของข้ามองเศษน้ำแข็งของตุ๊กตามนุษย์ซึ่งถูกทำลายลงไปในชั่วพริบตา
ซิลเวอร์ช่วยพยุงข้าขึ้นมานั่งบนเตียง
“ไหวหรือเปล่า?” เขาถามเสียงเรียบๆ
ดวงตานิ่งเย็นชาจนข้าเกร็ง
“ข..ข้าสบายดีอยู่แล้วน่า”
แกล้งทำอวดเก่งไปงั้นแหละ..ที่จริงข้ากลัวแทบตาย...ซิลเวอร์พยักหน้ารับ..เขามองไปรอบๆราวกับสำรวจบางอย่าง
เมื่อเห็นว่าในห้องถูกจับไปด้วยน้ำแข็งทั้งหมดไม่มีอะไรผิดปรกติแล้วเขาก็กลับมาหาข้าอีกครั้ง
“เจ้า..จะไปกับข้าใช่ไหม”
เขาถามเสียงเรียบ ข้าชะงัก..ความน่ากลัวของซิลเวอร์เมื่อครู่ทำให้ข้านิ่งคิดไปชั่วครู่...ก่อนจะพยักหน้ารับ
ซิลเวอร์ลุกขึ้น
“ถ้างั้น..ก็ไปกันเถอะ..”
เขาพูดเสียงนิ่งเรียบ..
ข้าคิดไปเองหรือเปล่า..ซิลเวอร์ดูแปลกๆ..หรือว่ามันจะนิ่งกว่าปรกติ..แต่สักพักคงจะกลับเป็นเหมือนเดิมมัง
เขาว่ากันว่าพอพระเอกใช้พลังจะมีสีหน้าขรึมเพื่อรักษาความเท่ของตัวเอง
แม้ข้าจะตกใจกับสิ่งที่ซิลเวอร์ทำ..ตอนแรกก็รู้สึกลัวแต่พอลองคิดดูอีกทีมันกลับทำให้ข้ามั่นใจและอุ่นใจได้ว่า..เจ้าหมอนี่แข็งแกร่ง..
สมควรน่าพึ่งพาที่สุด เวลามีเรื่องอะไรข้าจะได้ไปหลบหลังเขาได้
ข้ายิ้มบางๆ
ซิลเวอร์อุ้มร่างของข้าขึ้นในท่าเจ้าหญิงโดยไม่สนใจความเห็นหรือความสมัครใจของข้าสักคำ
“นี่เจ้า..! ข้า...!”
“หืม..?” ซิลเวอร์ตวัดสายคมมามองทำให้ข้าขนลุก
หน้าซีดก่อนส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่มีอะไรทั้งๆที่ตัวก็สั่นแถมยังเหงื่อไหลเป็นทาง
น่ากลัว..ฮือ..ข้าไม่กล้าจะทักท้วงอะไรทั้งนั้น
ซิลเวอร์เดินไปทางหน้าต่างบานใหญ่ กระโดดขึ้นไปนั่งยองๆบนขอบหน้าต่าง สายตามองรอบๆ
สายตาข้าเหลือบลงไปมองความสูง...พลางกลืนน้ำลาย..
ฮือ..ถ้าข้าตกไปจะมีเละไปกี่ส่วน..บางทีอาจจะโดนซิลเวอร์ฝังกลบแถวนี้จนกลายเป็นวิญญาณเฝ้าโรงพักแรมก็เป็นได้..แบบนั้นข้าจะขอจับเสื้อของเจ้าไว้แน่นๆก็แล้วกัน
ถ้าตกขึ้นมาข้าคงหาทางกลับไปเกิดใหม่ไม่ถูกแน่!
ซิลเวอร์ดูจะไม่สนใจเมื่อข้าจับเสื้อของเขา
และตอนที่เขากำลังจะกระโดดลงไปบนหลังคาใกล้ๆ ข้าก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อน
“เดี๋ยว!”
“มีอะไร?” ซิลเวอร์เลิกคิ้ว
“เจ้าไม่คิดบ้างเรอะ
ว่าถ้าไปทั้งแบบนี้พวกเราจะแยกออกไปกี่ส่วน? นั่นมันสูงนะ!”
ขืนตกลงไปข้ามีหวังถูกชำแหละแน่นอน ซิลเวอร์อาจรอด
แต่ข้ามั่นใจพร้อมยืดอกเลยว่าข้าไม่มีทางรอดแน่นอน!
“แต่ข้าอุ้มเจ้าไว้อยู่”
“ข้าจะแหลกคาแขนเจ้า”
“......ไร้สาระ”
ซิลเวอร์ทำสีหน้าละเหี่ยใจ ก่อนเขาจะกระโดดลงไปบนหลังคาใกล้ๆทั้งอย่างนั้น
แต่ด้วยความซุ่มซ่ามหรืออะไรไม่ทราบ ทำให้พอไปถึงหลังคาเจ้าบ้าซิลเวอร์ดันสะดุด
จนเผลอปล่อยร่างของข้าให้หลุดลอยปลิวไปไกลละลิ้วไปกระแทกหลังคาบ้านหลังอื่นพร้อมตกลงไปในช่องว่างระหว่างบ้านเรือนแถวนั้น....
ข้าไม่น่าเชื่อเจ้าเลย..เจ้าตัวอะไรไม่รู้เสกน้ำแข็งได้ไม่มีจรรยาบรรณ!!
“แว๊กกกกกก!!!”
“ทำยังไงดี...”
“เพราคุณนั่นแหละครับ..เฮ้อ..”
ภายในเส้นทางแห่งทะเลทรายซึ่งเป็นสถานที่อันตรายในดินแดนมนุษย์ว่าถ้าหากใครเหยียบย่างเข้าไปจะไม่มีวันได้กลับมาอีกเลย
บัดนี้กลับมีสองหนุ่มกำลังเดินอยู่ในเส้นทางนั้น
สภาพของทั้งคู่ตอนนี้ทั้งผมยุ่งการแต่งตัวไม่เรียบร้อย ซ้ำยังมีสภาพโทรมราวกับอดนอนมาหลายวัน
“เพราะเจ้าคนเดียว..อีธาน..” น็อกซ์
พีโอนี่โทษเพื่อนองค์รักษ์ข้างกายด้วยใบหน้าเหนื่อยอ่อน อีธานกุมขมับ “ก็เพราะคุณด้วยไม่ใช่หรือยังไงกันครับ..คุณเองก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้ไม่ต่างจากผมหรอก”
“แต่ถ้าอีธานไม่ลงไปดูเส้นทางก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก!”
“แต่คุณปกป้องของของพวกเราไม่ได้เองนี่ครับ!”
เสียงทะเลาะของสององค์รักษ์หน้าตาดีแห่งพระราชวังแห่งแดนมนุษย์
จนตอนนี้แทบไม่เห็นสภาพความดีของทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย น็อกซ์หอบหายใจแรงเนื่องจากเหนื่อยจากการเดินทางและมาเถียงกับองค์รักษ์เจ้าระเบียบ
อีธานก็ไม่ต่างกันเพียงแต่ท่าทางของเขายังดีกว่าคนตรงหน้านัก
พวกเขากำลังเดินทางเข้าสู่เส้นทางแห่งทะเลทรายเพื่อตามหาเจ้าชายเวนเซนต์..เนื่องจากเห็นเจ้ามังกรนั่นบินมาทางทิศทางนี้
ตอนแรกพวกเขาก็ยังลังเลอยู่เพียงแต่อาจมีความเป็นไปได้ที่เจ้าชายเวนเซนต์อาจจะถูกมังกรนั่นทิ้ง
เนื่องจากพลังของอุปกรณ์เวทย์มนต์ที่ใช้ควบคุมสัตว์อยู่ได้ไม่นานนัก
พวกเขาจึงตัดสินใจเข้ามาตามหาและตั้งใจจะเดินผ่านเส้นทางทะเลทราย
เพราะถ้าหากยังอยู่ในเขตเดียวกันก็ยังพอจะใช้เวทย์ตามหาได้อยู่บ้าง..
เพียงแต่พวกเขาไม่มีแรงพอจะใช้แล้ว...
สาเหตุก็เพราะ..
“เพราะเจ้าคนเดียว..สุดท้ายเจ้าพวกแฮมเตอร์ทะเลทรายก็เอาไปจนได้..ข้าหิวน้ำ!!”
น็อกซ์โวยวายไม่หยุดแต่เท้าของเขาก็ยังเดินต่อไป อีธานถอนหายใจ
เขาไม่มีแรงจะเถียงต่อแล้ว
“แต่ก็เพราะคุณด้วยเหมือนกัน
หัดยอมรับบ้างเถอะครับ น็อกซ์”
ถูกอย่างที่น็อกซ์ว่า...พวกเขาถูกปีศาจอย่างหนูแฮมเตอร์ทะเลทรายขโมยกระเป๋าเสบียงรวมถึงเงิน
น้ำ และของต่างๆไปจนหมด
หนูแฮมเตอร์ทะเลทรายคือปีศาจชั้นต่ำ
ในโลกนี้อย่างที่พูดกันว่ามีหลายดินแดนแยกกัน
ทั้งดินแดนดีอาร์ของสุนัขและมาเรย์ของแมว อาณาจักรมนุษย์ และอีกอาณาจักรหนึ่งที่ปิดตายไม่ยุ่งกับใครคือดินแดนปีศาจซึ่งไม่มีสัมพันธ์ติดต่อกับใครมานับหลายพันปี
แต่เนื่องจากสงครามระหว่างสุนัขกับแมวเมื่อหลายพันปีก่อนทำให้มันกระทบถึงดินแดนปีศาจทำให้มีปีศาจหลุดรอดออกมา
กว่าพวกหมาและแมวจะช่วยกันปิดผนึกได้ก็นานพอสมควร แต่ก็น่าสงสัยที่พวกปีศาจดันไม่มาสนใจเลยแม้แต่น้อย
จนในที่สุดก็มีปีศาจพวกนี้ออกมาเพ่นพ่าน...ถึงแม้ทั้งสามอาณาจักรจะพยายามติดต่อกับแดนปีศาจแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ
และยังไม่สามารถเข้าไปในแดนนั้นได้ด้วย..จนทุกอาณาจักรตัดความสัมพันธ์กับดินแดนปีศาจอย่างสมบูรณ์
พวกเขาทั้งสองเดินมาร่วมหลายกิโลแล้ว..ตอนนี้ยังไม่เห็นอะไรนอกจากเม็ดทราย
สภาพของพวกเขาไม่มีคราบขององค์รักษ์แห่งพระราชวังแห่งแดนมนุษย์อันยิ่งใหญ่เหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย
พวกเขาเผลอกัน..ไม่ทันคิด..ในตอนที่อีธานลงไปดูพื้นที่เพื่อดูว่าควรจะไปทางไหนและใช้พลังลองตามหาเจ้าชาย
ในตอนนั้นน็อกซ์เองก็กำลังสนใจกับสภาพแวดล้อมรอบตัว..ไม่ทันได้สังเกตจนดูอีกที..ข้าวของทุกอย่างที่วางไว้ทั้งกระเป๋าทั้งอะไรต่างๆก็หายไปแล้ว...
มันคือโจรสุดชั่วร้ายและทำให้น็อกซ์สาบานในใจ..
เขาจะต้องฆ่ามันให้ได..ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จนไม่ให้เหลือแม้แต่เศษขนของหนูแฮมเตอร์!
อีธานใบหน้าตึงด้วยความเคร่งเครียด..”ผมคิดว่าเราควรจะมาคิดกันก่อนนะครับ”
“คิดอะไร?” น็อกซ์หยุดฝีเท้า
มองด้วยสายตาเหนื่อยๆ อีธานนิ่งไปสักครู่...”ไม่รู้ครับ”
“แล้วเจ้าจะพูดทำไม! เรากำลังจะตายกันแล้วนะเฟ้ย เวทย์ละ! เวทย์ข้ามมิติของเจ้าละ!”
“ของแบบนั้นผมไม่มีแรงพอจะใช้! ถ้าใช้ตอนนี้เกิดผิดพลาดเราทั้งคู่ได้ตกลงไปกลางทะเลแน่ครับ!
มันเสี่ยงเกินไป!”
“ก็ลองดูเถอะน่า!”
“ไม่มีทางครับ!”
เสียงทะเลาะขององค์รักษ์แห่งเอรันทายังคงดังต่อไปไม่หยุดหย่อน
โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังมีใครบางคนมองเขาจากที่ไกลๆ ดวงตาเฉียบคมมองพวกเขาทั้งคู่ก่อนจะยิ้มบางๆ
ก่อนจะหันไปพูดกับชายร่างเล็กข้างกาย
“ท่าทาง..เราจะเจออะไรน่าสนุกแล้วละ..”
----------------------------------------------------------------------------
มาแล้วค่ะ ฮรือออ #คลานเข้ามา
ในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากเนอะ(?) มีแค่คนทะเลาะกันเท่านั้นเองค่ะ..ทำไมรู้ว่าตอนนี้ซิลเวอร์เท่จริงๆ#นั่นละพระเอก
ส่วนน็อกซ์กับอีธาน...ทะเลาะกันต่อไปค่ะ!
ในตอนนี้ไม่มีอะไรจะพูดมาก..ขอแค่ให้เจ้าชายไปสู่สุขคติ
เจอกันตอนหน้านะคะ ขอบคุณค่ะ!
O W E N TM.
ความคิดเห็น