คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทนำ
บทนำ
กริ๊งงงงงงงง
‘สถานการ์ณฉุกเฉิน สถานการ์ณฉุกเฉิน! ขณะนี้องค์ชายเวนเซนต์ได้หายตัวไป! ขอให้ทหารทุกนายประจำที่และปิดล้อมทางเข้าวังเอาไว้ทั้งหมด อย่าให้องค์ชายหนีออกไปได้! นี่คือคำสั่ง! ประกาศอีกครั้ง....’
เสียงกริ่งดังแสบหูไปทั่วพระราชวังอันใหญ่โตใจกลางแดนมนุษย์
ซึ่งเป็นที่พำนักขององค์ราชาและเชื้อพระวงศ์ ยามกลางคืนแสนสงบสุข
บนท้องฟ้ามืดมิดบัดนี้กลับถูกแทนที่ด้วยแสงสว่างจากไฟเวทย์นับร้อยดวง เวทย์สีเพลิงก่อตัวเป็นรูปนกฟินิกซ์ขู่ร้องคำรามก่อนบินออกไปจากมือของจอมเวทย์ผู้หนึ่งซึ่งยืนอยู่ในสวนสีเขียวอันกว้างขวาง
เวทย์ติดตามรูปสัตว์คือเวทย์ชั้นสูงที่สามารถตามหาสิ่งที่ต้องการ
มันได้ผลมากกว่าเวทย์ติดตามทั่วไปได้ดียิ่งนัก เพราะมันสามารถซึมซับสัญชาตญาณ
และนิสัยของสัตว์นั้นๆมาด้วย แต่เงื่อนไขในการใช้มันยากทำให้ปัจุบันเวทย์นี้ค่อนข้างจะหาผู้ใช้ได้ยากดีเดียว
ร่างสูงของชายผมสีดำเดินตรงไปในโถงทางเดินของราชอันโออ่า
ท่ามกลางความวุ่นวายแต่ดวงตาของเขากลับดูราบเรียบเย็นชา เสียงฝีเท้าและเสียงอึกทึกโครมครามจากความวุ่นวายที่เจ้าชายรัชทายาทคนสำคัญหายตัวไป
ทำให้ในยามนี้ทั่วราชวังต่างไม่มีใครหลับลง..
แน่หรือเปล่า..
ชายหนุ่มอยู่ในเครื่องแบบอัศวินเต็มยศ
ดูเป็นระเบียบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
ทหารหลายนายเมื่อวิ่งผ่านเขาก็ต้องทำความเคารพก่อนจะวิ่งต่อไปเพื่อเป็นการให้เกียรติแม้จะอยู่ในสถานการ์ณที่วุ่นวายมากแค่ไหนก็ตาม
เรื่องมันจะไม่วุ่นวายแบบนี้...ถ้าตัวปัญหาที่สุดมันดันไม่เกิดบ้าขึ้นมา
ภายในราชวังบัดนี้มีแสงไฟจากตะเกียงเวทย์ทุกส่วน
ทุกคนต่างระดมพลกันตามหาเจ้าชายอย่างไม่ลดละ ภายใต้สีหน้าเรียบนิ่งกำลังมีชนวนระเบิดที่ถูกจุด..และรอเวลาจะระเบิดในอีกไม่นาน..ถ้าหากยังหาเจ้าชายตัวปัญหาไม่พบ..ชายหนุ่มก็พร้อมจะระเบิดตรงนี้
โดยไม่คิดจะไว้หน้าใครเลยด้วย
ในขณะที่กำลังจะเดินเลี้ยวไปอีกทาง
ทหารชั้นล่างนายหนึ่งได้เรียกเขาเอาไว้ก่อน “ท่านอีธาน!
แย่แล้วขอรับ! ตอนนี้เวทย์ป้องกันรอบปราสาทได้ถูกทำลายลงหมดแล้วขอรับ!”
องค์รักษ์หนุ่มนามอีธานขมวดคิ้ว
แผ่รังสีกดดันชัดเจนจนทหารชั้นล่างคนนั้นได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่..
ข้าผิดอะไรขอรับ..ฮือ...
“ตรวจสอบหรือยังครับว่าเป็นฝีมือของใคร?” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ย
ทหารนายนั้นสะดุ้ง ขนลุกขนพองตั้งแต่หัวยันขา น่ากลัวเสียยิ่งกว่ามังกรในหุบเขาลับแลเสียอีก
ในตอนนี้..ถ้าหากเขาสามารถแปลงร่างเป็นมดหรืออะไรสักอย่างที่พอจะตัวเล็กหลบสายตาคนตรงหน้าไปได้
ต่อให้ต้องแปลงเป็นแมลงสาปเขาก็ยอม
“ย..ยังไม่ทราบขอรับ! แต่ทางเราพบเจอไอเวทย์จากอุปกรณ์เวทย์ขอรับ
เมื่อลองตรวจสอบดูคาดว่าเป็นอุปกรณ์เวทย์จากคลังสมบัติขององค์ราชา
คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้อุปกรณ์เวทย์นั้นทำลายเวทย์ป้องกันของปราสาทขอรับ!”
เมื่อได้ฟังอีธานก็หรี่ตาลงอย่างใช้ความคิด
เวทย์ป้องกันของปราสาทนั้นไม่สามารถทำลายได้ง่ายๆ ทุกๆปีทางวังหลวงจะให้นักเวทย์มีฝีมือร่วมร้อยคนช่วยกันร่ายมันขึ้นมา
และในประวัติศาสตร์ก็ไม่มีใครเคยทำลายมันลงได้ด้วย..แต่ถ้าหากมันถูกทำลายด้วยอุปกรณ์เวทย์ในห้องสมบัติ
ซึ่งเป็นอุปกรณ์เวทย์โบราณอันแข็งแกร่ง เขาก็ไม่แปลกใจ
แต่...คนร้ายจะต้องมีมัน..หมายความว่ามันถูกขโมยไป..?
“ท่านอีธาน!!”
เสียงเรียกจากนายทหารอีกคนหนึ่งซึ่งวิ่งเข้ามาสมทบด้วยแววตาตื่นๆ “มีอะไรครับ”
เขาถามเสียงเรียบๆ นายทหารคนนั้นรีบยื่นสิ่งหนึ่งให้ดู นั่นทำให้เขาต้องเบิกตาโต “นี่มัน...”
“ขอรับ..นี่คือเศษชายเสื้อและตราสัญลักษณ์ขององค์ชาย..เราพบมันติดอยู่ที่กิ่งไม้พร้อมกับอุปกรณ์เวทย์ที่ถูกทำลายขอรับ...”
อีธานหยิบของในมือของอีกฝ่ายขึ้นมาดู
อุปกรณ์เวทย์ชิ้นนี้คือ ดวงตาโครนอส มันมีความสามารถในการบิดเบือนเวลาของเวทย์มนต์และสิ่งของต่างๆ...ถ้าหากดวงตานี้จ้องมองสิ่งของใด
สิ่งนั้นจะย้อนกลับไปในเวลาก่อนจะมีอยู่..พูดง่ายๆคือ..คนที่ใช้มัน
ให้ดวงตานี่มองที่เวทย์ป้องกัน..และทำให้ย้อนเวลากลับไปที่หลายพันปีก่อน..หลายพันปีที่เวทย์นี้ยังไม่ถูกใช้..ทำให้เวทย์หายไป..
ให้ตายเถอะ...เจ้าองค์ชายแสบ!
รังสีกดดันของอีธานยิ่งเพิ่มพูนเรียกอาการขนลุกขนพองของคนรอบข้างได้ดีกว่าเดิมแววตาของอีธานหันกลับมามอง ดูน่ากลัวราวกับจะฆ่าใครสักคนให้ตายเดี๋ยวนั้น
“รีบให้กำลังทหารล้อมพระราชวังไว้..ผมจะคอยดูว่าองค์ชายตัวแสบนั่น...จะหนีไปได้สักเท่าไร...”
วินาทีนี้ทำให้นายทหารสองนายอยากจะกลายเป็นแมลงสาปไปให้รู้แล้วรู้รอด
อีธานเดินขึ้นไปบนห้องพักห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องขององค์รักษ์ประจำตัวขององค์ชายเช่นเดียวกับเขา
อีธานลองเคาะประตูดู แต่กลับไร้เสียง..และปฏิกิริยาตอบสนอง..
เขาตัดสินใจลองเคาะดูอีกครั้ง
“น็อกซ์...อยู่หรือเปล่าครับ..?”
ไร้เสียงตอบรับ..
“น็อกซ์..”
เงียบ..
“น็อกซ์...พีโอนี่...”
และก็ไร้เสียงการตอบรับอีกเช่นเคย..
เส้นเลือดบนหน้าผากของอีธานปูดขึ้นมา
คิ้วกระตุกรัวๆอย่างหาสาเหตุไม่ได้
ความหงุดหงิดพรั่งพรูขึ้นมาจนในที่สุดบนมือของเขาก็เกิดประกายแสงสีดำ ก่อนมันจะพุ่งเข้าไปพังประตู
จนประตูไม้ลลักบานสวยกระเด็นไปติดผนังภายในห้อง พาข้าวของกระจัดกระจายตามไปด้วย
“น็อกซ์
พีโอนี่!! ถ้ายังไม่ตื่นมารายงานตัวกับผมในอีก 10 วินาที!
ผมจะส่งคุณไปนรกเดี๋ยวนี้!!”
เอ่ยเสียงดังก้อง
ก่อนเวทย์สีดำในมือของเขาจะเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นมังกรขนาดยักษ์แน่นห้องของน็อกซ์
เพลิงสีดำพ่นใส่เจ้าของห้องซึ่งนอนอยู่บนเตียงไม่รู้เรื่องราว
เมื่อไฟสีดำคลอกตัวเขาน็อกซ์ก็ร้องจ๊าก เด้งตัวออกมาจากเตียงทันควัน
“ว๊ากกกกก!! พอแล้วๆ! หยุดเถอะอีธาน หยู๊ดดดด!!!” อีธานยิ้มเคลือบยาพิษมาให้ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่กระโดดเด้งไปเด้งมากับเพลิงที่ดำที่ครอบคลุมร่างของตนเอง
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่ครับ
ในเมื่อตัวคุณไม่ได้ไหม้สักหน่อย”
ก็ถูกอย่างที่มันว่า....แต่มันร้อนนะเว้ย!!
“แต่ไฟเวทย์นี่มันร้อนยิ่งกว่าไฟของจริงอีกนี่!
เอามันออกไปนะเจ้ายักษ์อีธาน!” เขาประท้วง
วิ่งพล่านไปทั่ว
ริมฝีปากอีธานกระตุก
“ไม่มีมารยาทเลยนะครับ..”
เขาว่าก่อนจะให้ไฟนั้นเปลี่ยนรูปร่างเป็นงูขนาดใหญ่และรัดร่างของน็อกซ์เอาไว้ก่อนเจ้าตัวเบ้หน้า
“เจ็บ! เจ็บๆๆๆๆ! ปล่อยข้าสักทีเถอะ! โหดร้ายที่สุดเจ้าบ้าอีธาน! ผีเข้าหรือไงถึงมารบกวนเวลานอนของข้า!”
“ก่อนท่านจะมาว่าผม
ช่วยดูสถานการ์ณรอบด้านบ้างเถอะครับว่าเขาวุ่นวายกันไปขนาดไหนแล้ว”
อีธานเอ่ยด้วยใบหน้าระเหี่ยใจ ก่อนจะสั่งให้งูเลิกรัดตัวของน็อกซ์และหายไป
ชายหนุ่มโบตั๋นถอนหายใจโล่งอก “เจ้าหมายความว่าอะไร?
มันไม่ปรกติ?”
“ลองดูที่หน้าต่างสิ”
น็อกซ์หันไปมองข้างหลังตนเอง
เขาเห็นฟินิกซ์เพลิงซึ่งเป็นเวทย์ติดตามกำลังบินร่อนไปทั่ว เสียงอึกทึกโครมคราม
บ่งบอกว่ารอบพระราชวังกำลังตื่นตะหนกกันได้ที่ น็อกซ์ขมวดคิ้ว “นี่มันเกิดอะไรขึ้น
ทำไมข้าไม่เห็นรู้สึกตัวอะไรเลย..”
“ก็เพราะท่านเอาแต่นอนยังไงละครับ
ช่วยลุกขึ้นมาช่วยกันได้แล้วครับ” อีธานว่าพางโยนเสื้อนอกที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าให้น็อกซ์
เจ้าตัวรับมาใส่ พลางถาม “งั้นบอกข้ามาได้หรือยัง..ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
อีธานโยนรองเท้าคู่โปรดให้อีกฝ่าย
“เจ้าชาย..หายตัวไปแล้ว..”
“หา!?”
แมลงสาป มด ตะขาบ ตุ๊กแก แมลงวัน
ในตอนนี้ข้าอยากจะแปลงร่างเป็นสัตว์ตัวใดสักตัวเผื่อว่าจะทำให้ข้ารอดพ้นจากสถานการ์ณอันแสนอึดอัดที่กำลังเผชิญอยู่ตรงหน้าไปได้
แต่ก็ต้องกลับมาจ๋อยอยู่กับที่เหมือนเดิมเพราะเวทย์แปลงกายเป็นเวทย์ระดับสูง
ข้าซึ่งอ่อนด๋อยเรื่องเวทย์ไม่มีทางร่ายได้ ส่วนเรื่องการต่อสู้อย่าไปนับเลย..ชาตินี้แม้แต่แมลงสาปข้าก็คงชนะมันไม่ได้เป็นแน่
ข้ากำลังนั่งมุดอยู่ใต้เตียงในห้องของตนเอง
และใช้ความคิดว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี ใต้เตียงร้อนก็ร้อน
แถมยังต้องบิดม้วนตัวเพื่อไม่ให้เจ้าฟินิกซ์ขนกระด้างบินมาเห็นยิ่งยากลำบากแสนเข็ญจนอยากจะร้องไห้
ฮือ...ทำไมกัน..
ข้าได้แต่คร่ำครวญกับตัวเอง
กับแค่เจ้าชายหนีออกจากวัง...เอ่อ..มันอาจจะดูไม่ปรกติ
แต่เจ้าพวกนี้จะปล่อยข้าออกไปไม่ได้จริงๆเหรอ! หาเจ้าชายใหม่มาแทนข้าก็ได้! ขอแค่อย่าให้ข้าอยู่ที่นี่อีกเลยก็พอ
เล่นประกาศซะดูเหมือนว่าข้าเป็นผู้ร้ายข้ามชายแดนเข้ามาลอบปลงพระชนม์พระราชาแล้วหอบตับไตไส้พุงของเจ้าชายหนีไปทำแกงกะหรี่
ทั้งๆที่จริงข้าก็แค่หนีออกจากวัง..!
เอ่อ..แต่เจ้าชายมันก็ข้าเองนี่หว่า..
แถมยังไม่ได้หนีไปด้วย..แค่มุดอยู่ใต้เตียงเอง...
ข้าแค่ใช้อุปกรณ์เวทย์นิดหน่อยโดยการทำลายเวทย์ป้องกันของปราสาท
แน่นอน ข้ามั่นใจว่ากว่าพวกนักเวทย์พวกนั้นจะซ่อมแซมก็คงกินเวลาไปหลายวัน
ทำให้ข้าไม่ต้องรีบร้อนว่าจะฝ่าเวทย์ป้องกันอันใหม่ออกไปไม่ได้ ตอนแรกข้าคิดว่าจะฝ่าเวทย์ออกไป
แต่การจะผ่านไปช่างยุ่งยากเพราะต้องมีเวทย์แสดงตัวตน ซึ่งเวทย์นั่นก็ดันอยู่กับองค์รักษ์ของข้า...
ตอนแรกก็ลองคิดแผนว่าจะลองไปขอร้อง
เกลี้ยกล่อมให้สองคนนั้นหนีไปด้วยกัน..แต่พอคิดดูแล้วถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูของอีธาน
ข้าอาจจะโดนฆ่าหมกพระราชวังแบบไม่ให้เกิดเป็นแน่
ถ้าทำตามที่ว่าทุกคนต้องคิดว่าข้ากำลังซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งหรือหลบหนีไปแล้วแน่นอน
ไม่มีใครคิดหรอกว่าข้าจะมานอนคุดคู้อยู่ใต้เตียงตัวเองอย่างอนาถขนาดนี้
ข้าอยากจะร้องไห้..แต่ร้องไม่ออก..
เอาจริงๆ...ข้าควรจะหนีออกไปได้แล้ว
แต่ข้าต้องมานั่งทบทวนความหลังอันแสนชอกช้ำเพราะมันอยู่ในบท ถ้าข้าไม่ทำ
ข้าก็ไม่ได้ค่าตัว...
เห็นไหม..ชะตาชีวิตเจ้าชายอย่างข้ามันน่าสงสารขนาดไหน..!..
เรื่องมันเริ่มตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว...
“อีธาน...อีกไม่นานจะถึงวันครบรอบห้าร้อยปีที่การคัดเลือกราชาแห่งสามอาณาจักรมาถึงแล้ว...”
ราชาแห่งแดนมนุษย์เปรยกับบุตรชายของตนเอง...ข้าได้แต่มองท่านพ่อที่แก่หงำเหงื่อกขนาดจะพูดยังลำบากด้วยแววตาเป็นห่วง..เป็นห่วงว่าถ้าท่านชิงม่องไปก่อน
ข้าจะต้องขึ้นครองบังลังค์ทำให้อิสระในการใช้ชีวิตหายไปทันทีแบบกู่ไม่กลับ..
“ข้าทราบขอรับท่านพ่อ..” ไม่ทราบ
ไม่รู้เลยด้วยซ้ำ พึ่งนึกออกก็ตอนที่พ่อพูดนั่นละ แต่พูดไปงั้นเพราะขืนเผลอตอบว่าไม่รู้
ข้าคงได้โดนฝ่ามือจากองค์รักษ์ข้างกายฟาดจนหัวสมองกระเด็นไปติดฝาผนังแน่นอน
องค์ราชายิ้มอย่างใจดี “ดีแล้วบุตรแห่งข้า..เจ้าคงจะรู้ดีว่า
ร่างกายของข้าในยามนี้ไม่สามารถทำหน้าที่เพื่อตัดสินและคัดเลือกราชาได้...ข้าเองก็แก่ชรามากแล้ว..ไม่มีเรี่ยวแรงดั่งคนหนุ่มๆ...”
ข้าอยากจะยกนิ้วขึ้นมาแคะขี้หู
อยากออกไปเล่นข้างนอกกับน็อกซ์ที่กำลังดี๊ด๊ายิ้มแย้มอยู่ข้างขวาของข้า
อยากทำอะไรอย่างอื่นที่ไม่ใช่การมาทบทวนความหลังกับคนแก่..
ท่านพ่อก็ท่านพ่อเถอะ..ท่านจะมาบอกข้าทำไม..
ข้าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นสักหน่อย...
อย่าหาว่าข้าบ่นเลย แต่เขาเรียกข้ามาให้ข้ารอหน้าห้องเกือบชั่วโมง
แล้วหนุ่มไฮเปอร์ยังวัยรุ่นจะไปรอไหวได้ยังไงเล่า..กว่าทหารจะมาเปิดประตูให้ก็กินเวลาไปนานจนข้าแทบจะรากงอก...
แต่เอาเถอะ..ข้าก็เข้าใจว่าสุขภาพของท่านพ่อตอนนี้ไม่ค่อยแข็งแรงจนน่าใจหาย...
แต่ถึงยังไงข้าก็อดเบื่อไม่ได้นี่นา...
“เอาละ..ต่อจากนี้คือหน้าที่ที่ข้าจะมอบหมายให้กับเจ้า..”
ในที่สุดก็ถึงใจความสำคัญของประโยค ข้ายิ้มบางๆออกมาเพราะในที่สุดก็จะได้ออกไปจากห้องนี้ได้เร็วขึ้นอีก
ปรกติท่านพ่อมักจะไม่มอบหมายงานอะไรให้ข้านัก
เพราะเห็นว่าข้ายังเป็นเด็กและสมควรจะได้เล่นอย่างเด็กๆ(?) แต่มันต้องมีความจำเป็นมากแน่
ท่านพ่อถึงยอมมอบหมายงานให้ข้าสักครั้งหนึ่ง
“อะไรหรือขอรับ?”
พระราชาทรงยิ้ม
“ข้าจะให้เจ้าเป็นผู้ตัดสินการคัดเลือกราชาแห่งสามอาณาจักรแทนข้า..อีกไม่นานผู้ถูกเลือกจากอาณาจักรดีอาร์
และมาเรย์ จะมาในอีกไม่นาน..ข้าขอฝากเจ้าด้วย..ลูกข้า..ข้าเองก็แก่ชรามากแล้วคงไม่อาจจะทำหน้าที่ด้วยตนเองได้..”
องค์ราชาเอ่ยด้วยใบหน้าคาดหวัง
ทำให้ข้ายิ้มแฉ่งเมื่อถูกคาดหวัง
“ฮะ ฮะ
ฮะ..เรื่องนั้นไม่ต้อ----“
หืม...เมื่อกี๊ว่าอะไรนะ..?
“เอ่อ..เมื่อครู่ท่านพูด..ว่า..?”
“องค์ราชาบอกว่าเจ้าจะได้รับผิดชอบให้คัดเลือกราชาแห่งสามอาณาจักรยังไงละองค์ชาย
น้องหมาน้องแมวละ!” น็อกซ์พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง
พลางยิ้มให้ข้า..
เมื่อได้ฟังทำให้ข้าค้าง..ชะงักค้าง..
แถมด้วยการแข็งเป็นหิน...แข็งยิ่งกว่าเพชรจนมั่นใจว่าถ้าเอาข้าไปโยนปล่องภูเขาไฟตอนนี้
หินอย่างข้าก็ไม่มีทางละลายแน่นอน
หมา..แมว..
ขนข้าลุกเกลียวไปทั้งตัวอย่างห้ามไม่อยู่...ในขณะที่กำลังจะตอบปฏิเสธ
ทหารนายหนึ่งกลับวิ่งมาและทูลเรื่องบางเรื่องกับพ่อของข้า
ท่านพ่อพยักหน้าก่อนจะให้องค์รักษ์ของเขาพยุงออกไปเพื่อตามงานบางอย่าง...
“ฝากด้วยนะ..เวนเซนต์..”
เสียงของท่านพ่อเต็มไปด้วยความคาดหวัง..
นั่นละ..ประสบการ์ณอักชอกช้ำของข้า..!
ฮือออ ทำไม..ทำไม..ไม่มีใครคิดถึงข้าเลย
แค่คิดถึงเรื่องนั้นขาของข้าก็สั่น เมื่อนึกถึงแมวและหมาเหล่านั้น
ข้าก็อยากจะร้องไห้ น้ำตาเล็ดออกมา ขยับไปไหนแทบไม่รอด..
ไม่มีใครเห็นใจข้า...ไม่มี...
ข้ากลัวสัตว์..ข้าแพ้ขนสัตว์..!
ถ้าหากพวกนั้นเข้ามาใกล้ข้า ข้าจะต้องเป็นลม ขายหน้าทั่วราชอาณาจักร
แถมยังถูกมองเป็นเจ้าชายหน่อมแน้ม ที่กลัวแม้กระทั่งสัตว์แสนน่ารัก
ไม่..ไม่...ถึงจะรู้สึกผิดต่อท่านพ่อ..แต่ข้าต้องดิ้นรนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า...
เหตุผลทั้งหมดก็จบลงด้วยประการฉะนี้..สุดท้ายแล้วข้าก็ทำได้เพียงต้องยอมรับ..แต่ในเมื่อข้าไม่คิดจะยอมรับซะอย่าง..สุดท้ายข้าก็ต้องมานั่งหาทางหนี
ความคาดหวังพวกนั้นเชิญเก็บใส่ตะกร้าไปเถอะ..!
ข้าค่อยๆคลานออกมาจากเตียงเมื่อเห็นว่าสถานการ์ณรอบด้านเริ่มดีขึ้นมากแล้ว
นกฟินิกซ์บินไปทางอื่น เงินพร้อม..อย่างน้อยการไปที่อื่นจำเป็นต้องมีเงิน
ส่วนดาบ..ถึงแม้จะเป็นการป้องกันตัวที่ดี แต่มันใหญ่ทำให้ข้าแบกไปลำบาก
แถมข้ายังใช้ไม่เป็นด้วย ก็ไม่จำเป็นต้องเอาไป ข้าหยิบเชือกขึ้นมา
มองพื้นข้างล่างจากหน้าต่าง พบว่าปลอดภัยเพราะทหารส่วนใหญ่คิดว่าข้าหนีออกจากเขตวังไปแล้วถึงได้ไปตามหาในเมือง..
ไม่ต้องห่วง
ข้าไม่เอาเชือกไต่ลงไปโง่ๆหรอก นี่แค่ของประกอบฉากเฉยๆ
ข้าเอาเชือกผูกกับหัวเตียงแล้วหย่อนลงไปแกล้งให้ดูเหมือนว่าข้าหนีลงไปทางนี้
ก่อนหยิบหนังสือเวทย์มาดู
ข้ามีพลังเวทย์น้อยนิด..ดังนั้นจึงใช้ได้แค่เวทย์ระดับต่ำ
เวทย์เคลื่อนย้ายก็ใช้ได้แค่ย้ายไปใกล้ๆเท่านั้น ถึงจะรู้สึกอนาถตนเอง
แต่ตอนนี้ถือว่าต้องใช้มัน
ข้าร่ายเวทย์ตามหนังสือ..เนื่องจากจำไม่ได้
ข้าเลยท่องผิดๆถูกๆ บทเวทย์พวกนี้อ่านยากชะมัด
ทำไมไม่หัดสร้างขึ้นมาเพื่อให้ง่ายสำหรับข้าบ้าง โลกไม่ยุติธรรม!
ผ่านไปเกือบสิบนาที
ข้าก็สามาถร่ายเวทย์ได้สำเร็จ เวทย์ข้ามมิติพาข้ามายังในสวนเบื้องล่างใกล้ทางออก
ข้าพบว่ามีทหารหลายนาย และกิ้งก่ากินคน...เจ้าพวกบ้านี่คิดจะตามหาข้าหรือฆาตกรรมข้ากันแน่! เห็นข้าเป็นเจ้าชายบ้างหรือเปล่า..ฮือ..
ข้าไม่อยากให้ตัวเองไปเละอยู่ในกะเพาะของกิ้งก่ากินคนสีเขียวอี๋
มีดวงตากลมโตดูน่ารักน่าชัง และลิ้นยาวๆเหนียวๆ คาดว่าถ้าหากตวัดมาพันขาข้าทีนึง
ขาของข้าคงหลุดติดเข้าไปในปากนั่นด้วย
น่ากลัวที่สุด!
ข้าหยิบอุปกรณ์เวทย์อีกชิ้นที่แอบขโมยจากห้องห้องสมบัติมา
มันคือสร้อยจันทรา..หนึ่งในสมบัติหายากที่สามารถเรียกพวกสัตว์ออกมาได้..แต่น่าเสียดายที่ข้อจำกัดมันคือใช้ได้แค่ครั้งเดียว
แต่นี่แหละคือสิ่งที่จะช่วยข้าได้
ข้าใส่สร้อยนั้น...ก่อนจะอธิฐานตามวิธีใช้ในคู่มือ(?) สร้อยรูปเสี้ยวจันทร์ส่องประกายแสงเล็กน้อย
สายลมเย็นๆพัดผ่านกระทบใบหน้าของข้า...ข้าหลับตาลงเงียบฟังเสียงของบางสิ่ง..สร้อยจันทราจะสามารถเรียกสัตว์ที่ต้องการออกมาได้..ดังนั้น...เมื่อได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้นตอบสนองเสียงเรียกของข้า
ข้าก็แสยะยิ้ม
ได้ผลดี..สมกับเป็นของหายาก..
ข้าผุดลุกขึ้น เดินไปออกจากพุ่มไม้
ไปหาทหารหลายนายที่ประตูทางเข้า เมื่อพวกเขาเห็นข้า หนึ่งในทหารพวกนั้นก็ตะโกนขึ้นมา
“องค์ชาย! องค์ชายอยู่ตรงนั้น!!”
พอสิ้นสุดเสียง
สายตาหลายคู่ก็จับจ้องมาทางข้า พวกเขาดูตกใจเมื่อเห็นข้า ข้ายิ้มบางๆก่อนจะแลบลิ้นใส่อย่างไม่เกรงกลัว
“แบร่ๆๆ...เอ๊ะ..”
ในขณะที่กำลังแลบลิ้นปริ้นตาใส่พวกทหาร
ที่พอเห็นท่าทางเยาะเย้ยก็ทำท่าจะเข้ามาจับตัวข้า..นั่นไม่ทำให้ข้าตกใจเท่าร่างของสององค์รักษ์ประจำตัวของข้าที่กำลังย่างก้าวเข้ามาช้าๆด้วยท่าทางน่ากลัว...เหงื่อข้าไหลเป็นน้ำ
จากน้ำเป็นแม่น้ำ จากแม่น้ำเป็นน้ำตก จากน้ำตกเป็นทะเล..และถ้ามีมากกว่าทะเลข้าคงเป็นไปแล้ว!
ข้าพูดได้เลย..ว่าใบหน้าของทั้งสองในตอนนี้น่ากลัวยิ่งกว่ามังกรสิบตัวรวมกันเสียอีก..!
ฮือ..ข้ายังไม่อยากถูกจับไปเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้กินคนแถวนี้นะ..
“องค์ชาย...คิดจะหนีไป..แล้วสร้างความวุ่นวายแบบนี้..เป็นเด็กไม่ดีเลยนะครับ..”
เสียงของอีธานกระซิบเย็นเหยียบ แต่มันกลับดังในหูของข้าชัดเจน สร้างความกลัวจนขาข้าสั่นเป็นเจ้าเข้า..
“อ..อีธาน..แฮะๆ...สวัสดีจ้า..”
ข้ายิ้มทักทายตอบกลับ..แต่การกระทำไม่สัมพันธ์กับขาที่กำลังสั่นอยู่เลยแม้แต่น้อย..
“เวนเซนต์...เจ้าทำให้ข้าตกใจนะ..”
โอ้...น็อกซ์เพื่อนรัก ข้าขอโทษ...แต่อย่าทำหน้าเหมือนโกธรกึ่งๆความใจดีสิ..เจ้าทำให้ข้ากลัวเจ้าไม่ต่างจากอีธานหรอกนะ!
ดูเหมือนว่าสององค์รักษ์กำลังจะร่วมมือยำข้าเต็มที
ข้ารู้ดีว่าพวกเขาเป็นห่วง..แต่ทำไงได้...ในเมื่อข้าตัดสินใจไปแล้วก็จะทำนี่!..ข้าถอยหลังไปทีละก้าว
ทีละก้าว..เพื่อยืดเวลาให้สิ่งที่รอคอย..อีกนิด..อีกนิดเท่านั้น
แต่ดูเหมือนอีธานจะไม่รอให้ข้าได้พบสิ่งที่ต้องการ เขาปล่อยเวทย์สีดำสร้างตาข่ายขึ้นมาหวังจะจับข้า!
ซวย! หลบไม่ทันแน่!
ก๊าชช!!
ก่อนที่ตาข่ายสีดำจะพุ่งเข้ามาจับร่างของข้า
เสียงคำรามของสัตว์อสูรก็ดังลั่น ทุกสายตาหันไปจับจ้องร่างใหญ่สีแดงเพลิงบนท้องฟ้า
ข้ายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ตนเองรอคอยมาถึงแล้ว
“ม..ม..มังกร!!” ใครสักคนตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ดีมาก!”
ข้ากระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ มังกรตัวนั้นบินโฉบลงมาหาข้าท่ามกลางความตกตะลึงขององค์รักษ์ทั้งสองและทหารนับร้อยนาย
ก่อนมันจะใช้เล็บเกี่ยวตัวข้าบินขึ้นไปบนท้องฟ้าไปอย่างรวดเร็วจนแม้แต่องค์รักษ์สุดโหดทั้งสองก็ไม่อาจหยุดไว้ได้ทัน
ข้าปีนขึ้นมานั่งบนหลังของมังกร ก่อนโบกมือลาองค์รักษ์ทั้งสองของตนเอง
“บ๊ายบาย!”
ข้าฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ..สั่งให้มังกรบินไปทางทิศตะวันออกด้วยหัวใจพองโต..
ศึกนี้...ข้าชนะ!
-----------------------------------------------------------------------------------
จบไปแล้วกับบทนำ..ที่ดูจะยาวแต่ก็ไม่ยาวค่ะ(ฮา)
เปิดมาน็อกซ์กับอีธานต้องปวดหัวกันเลยทีเดียว..ยินดีด้วยกับบทที่โดนเจ้าชายแกล้งกับคุณทั้งสอง(?)
ด้วยฟีลเกิดเลยแต่งพรวดๆเลย...ไม่นานคาดว่าตอนที่หนึ่งจะตามมาค่ะ..!
ขอฝากด้วยนะคะ!
ความคิดเห็น