คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เวห์ฆรา
บทที่ 5
เวห์ฆรา นครที่สาบสูญ ฤลิสาเคยค้นคว้าประวัติของนครแห่งนี้เพื่อมาทำเป็นวิทยานิพนธ์ ส่งอาจารย์เมื่อไม่นานมานี้ หญิงสาวยังจำได้ดีเกี่ยวกับงานศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของนครแห่งนี้ นครที่เคยมีศิลปะ และวิวัฒนาการอันรุ่งเรืองเมื่อครั้งอดีต ก่อนจะสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยจนปัจจุบัน แทบจะกลายเป็นเพียงตำนานที่เล่าขานมาทางตอนเหนือของไทยเท่านั้นแต่ก็น่าแปลกที่ลึกๆ หญิงสาวเชื่อมาตลอดว่าดินแดนแห่งนี้มีอยู่จริง
นกไฟ คือสัญลักษณ์ของนครแห่งนี้และฤลิสาก็ได้เห็นมันชัดเจนบนผนังไม้เหนือประตูทางเข้า พญานกไฟถูกสลักเสลาอย่างอ่อนช้อยและโบยบินอย่างงดงาม
“ป้าจ๊ะ แล้วท่านเวคินอยู่ไหนจ๊ะ”
ฤลิสาพยายามเรียกสติของตนเองคืนมา เอ่ยถามหญิงชราในอ้อมแขนอย่างสุภาพ หญิงสาวยังจำชายหนุ่มคนนั้นได้ดี เวคิน บุรุษปริศนาคนนั้นอาจให้คำตอบกับเธอได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เดี๋ยวเมย่าจะไปตามให้นะเจ้าคะ ท่านเวคินต้องดีใจแน่นอน ที่รีรายาของเขาฟื้นแล้ว”
หญิงสาวยิ้มน้อยๆให้กับหญิงชรา ฤลิสาอยากให้เรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน เมื่ออยู่คนเดียวในความเงียบร่างบางก็เริ่มสั่นสะท้านเพราะความกลัว ขอบตาเริ่มร้อนก่อนที่หยาดน้ำใสจะหลั่งรินลงมาไม่ขาดสายหญิงสาวซุกหน้าลงกับเข่าที่ชันขึ้นมาถึงอก สะอื้นไห้เงียบๆลำพัง
“เป็นอะไรไปเจ้า รีรายาของพี่”
หญิงสาวได้ยินเสียงคุ้นหูของใครคนหนึ่ง และสัมผัสได้ถึงกระแสบอุ่นของมือหนาที่ทาบลงมาบนศีรษะอย่างอ่อนโยน เมื่อฤลิสาเงยหน้าขึ้นจึงได้พบกับเขา เวคิน
“คุณ...”
“ใช่ เราเอง เจ้าร้องไห้ด้วยเรื่องอันใด รีรายา”
“ฉันไม่ใช่...”
“เจ้าใช่ ... เจ้าคือรีรายาของพี่ ถึงแม้ว่า... เจ้าจะจำสิ่งใดไม่ได้เลยก็ตาม”
เสียงของชายหนุ่มพร่าไปเล็กน้อยเหมือนกำลังเอ่ยถึงเรื่องราวสะเทือนใจอะไรบางอย่าง ฤลิสายังคงไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นกับฉันคะ ฉันไม่เข้าใจ ฉันมาที่นี่ได้ยังไง เราควรจะยังอยู่ในงานของพี่โจสิคะ แล้วนี่มัน...มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน”
“เจ้าแค่กลับมาในที่ที่เจ้าควรจะอยู่ ในที่ที่เป็นของเจ้ารีรายา”
“ฉันก็ยังไม่เข้าใจค่ะ ฉัน... ฉันกลัวนะคะเวคิน ฉันอยู่ที่ไหน”
“เจ้าอยู่ที่เวห์ฆรา ข้าพาเจ้ากลับมาในช่วงเวลาของเรา”
“ช่วงเวลาของเรา?”
“ใช่ ช่วงเวลาของเรา เจ้าเป็นคนของที่นี่ ของยุคนี้ และเจ้าคือ เจ้านางของข้า”
“คะ?” ยิ่งฟังฤลิสายิ่งสับสน หญิงสาวสะอื้นไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ
“อย่าร้องเลยคนดี เราคือเวคิน ผู้ครองนครเวฆ์ราและเป็นสวามีของเจ้า รีรายา”
เวคินพยายามปรับน้ำเสียงให้อ่อนโยน และใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เผื่อว่าจะช่วยบรรเทาความตระหนกให้แก่หญิงสาวได้บ้าง
“รีรายา?”
“นั่นคือชื่อของเจ้าที่นี่ ในห้วงเวลานี้”
“ทะ...ท่าน เป็นสวามีของฉัน”
“ใช่ เจ้าอาจจำไม่ได้ นั่นเพราะเวคีร์ น้องต่างมารดาของข้าที่ริษยาในตัวเจ้านางเป็นแม่มด จึงจับเจ้าเข้าพิธีกาลภพ ส่งเจ้าไปยังที่เวลาและดินแดนอันไกลโพ้น แต่ข้าก็ตามเจ้าไปจนพบ และนำทางเจ้ากลับมาที่นี่”
“ไม่จริง ฉันจะกลับ ฉันขอร้อง ได้โปรดส่งฉันกลับไปยังที่ที่ของฉันเถอะนะคะ”
“ไม่!!” เวคินตวาดก้อง อารมณ์ของเขาเดือดพล่านอย่างไร้การควบคุม นัยต์ตาสีนิลของเขาแปลเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงอีกครั้ง ชายหนุ่มจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว
“ที่ของเจ้าคือที่นี่เท่านั้น ข้าจะไม่มีวันให้เจ้าจากไปไหนอีก ไม่มีวัน!!”
ฤลิสาผงะกับแรงโทสะของชายหนุ่มตรงหน้า ความอ่อนโยนของเขาหายไปชั่วพริบตา แต่ก็มากพอแล้วกับความร้ายกาจที่ฉายฉานออกมาในดวงตาคู่สวย น้ำตาของหญิงสาวยังคงรินไหลไม่ขาดสาย ดวงตาที่เคยงดงามบัดนี้แดงช้ำจนน่ากลัว ร่างบางหอบหายใจแรงจนตัวโยนราวกับจะขาดใจ หญิงสาวคิดถึงเพื่อนอีกสองคนจับใจ เพื่อนที่เสมือนครอบครัวเล็กๆ แต่เป็นความอบอุ่นที่ยิ่งใหญ่ป่านนี้พวกเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง อาริตา และวนิดาคงกำลังร้องไห้ ความฝันเมื่อสักครู่คงเป็นความจริงของโลกทางโน้นที่เธอเห็น
“ไม่ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ... ฉัน...ฉัน”
“รีรายา รีรายา เจ้าเป็นอะไร รีรายา”
เพราะแรงสะเทือนใจ ทำให้หญิงสาวเกิดอาการช๊อค ฤลิสาหายหอบหายใจติดขัด ใบหน้านวลแดงจัด ดวงตาคู่สวยขณะนี้เบิกค้างจนน่ากลัว หญิงสาวทรมารทั้งกายและใจจนยากที่จะรับไหว
“รีรายา หมอ !ใครอยู่ข้างนอก ตามหมอมาเดี๋ยวนี้”
“รีรายา พี่ขอโทษ โปรดอย่าเป็นอะไร อย่าจากพี่ไปอีกเลย”
เสียงเพรียกของชายหนุ่ม ดังก้องซ้ำไปซ้ำมา จนเลื่อนลอยและเลือนลางหายไปพร้อมสติสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะดับสนิท
ความคิดเห็น