ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 ชายหนุ่มจากอนาคต
เมือง กอตแฮมซิตี้ ปี 2039
ค่ำคืนที่ดูเหมือนจะเงียบสงบกลางเมืองใหญ่ เป็นเมืองที่สังคมต่างใส่หน้ากากเข้าหากัน มีทั้งหน้ากากจริงและ
หน้ากากเทียม นั่นสินะไม่ต้องถามก็น่าจะรู้ เพราะมันมีคนที่ใส่หน้ากากจริงๆ นั่นเฝ้ายามเป็นกากอย อยู่บนยอดตึกอยู่นี่ไง
ทำไมกันนะ เด็ก ไฮ สคูล อายุ 16 ปีอย่างผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย
เมื่อก่อน ใครๆก็รู้ ว่าผมเป็น แบดบอย เป็นเด็กมีปัญหา ที่อยู่แก๊ง ข้างถนน แต่วันนี้ผม ต้องมาสวมบทเป็น
แบทแมน ผู้ที่เป้นฮีโร่ห์ ออกปราบเหล่าร้าย หลังจากเสร็จภาระกิจในคืนนี้ ผมจะต้องกลับไปขอให้คุณ บรูซ
หยุดพักร้อนให้ผมซักอาทิตย์นึงแล้ว อา.......shit man ผมเกือบลืมไปซะสนิทเลยว่าคืนนี้ต้องกลับไปรายงาน
การปฏิบัติงาน กับคุณบรูซ คืนนี้หูชาเห็นๆ เพราะผม นอนไม่ค่อยพอมาอาทิตย์นึงเต็มๆ แล้ว
เลยทำให้แบทแมน เป็นค้างคาวเหงา แทนที่จะปราบเหล่าร้ายเป็น ฮีโร่ในตำนาน
และตอนนี้ผมก็อยากถอดชุดนี่เต็มทน มันทั้งอับ ทั้งชื้น และก็เต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อ
ถึงแม้ผมจะไม่ใช่คนสำอางค์ เท่าไร แต่ การที่จะต้องใส่ชุดที่ไม่ได้ซักหลายๆ
วันนี่ก็ทำให้ผมอึดอัดได้เหมือนกันนะ ข้อดีของชุดนี้อาจมีเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ผมพอใจเป็นอย่างมาก
ก็คือ มันทำให้ผมป๊อบในหมู่สาวๆ หน่ะสิ แถมยังดึงดูดเหล่าร้ายได้อย่างดีที่สุด
แต่ก็นะ ใครมันจะอยากไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับ ผู้ชายโรคจิตที่ชอบแต่งหน้าเป็น ตัวตลก
ถ้ามีใครอยาก คนนั้นคงบ้าเต็มทนแล้ว
"คืนนี้ช่างเงียบสงบ ซะจริงนะ...." ผมบ่นกับตัวเอง ไอ้บรรยากาศแบบนี้แหละนะ ที่เค้าเรียกว่า ฟ้าสงบ
ก่อนที่ พายุลูกใหญ่จะพัดเข้ามา ผมเหลือบดูนาฬิกาที่หน้าจอมอนิเตอร์ ที่ติดอยู่ในหน้าจอพิเศษภายในหน้ากากแบทแมน
"ได้เวลา ต้องไปฟังเสียงบ่นแล้วสินี่" ผมพูดกับตัวเอง อีกครั้ง พร้อมเหวี่ยงตัวเองลงจากยอดตึก อย่างรวดเร็ว
ผลุบเข้าไปใน แบทโมบิล วันนี้แม่นดีจริง เพราะเมื่อวันก่อน ผมเพิ่งลงไปนอน อยู่ข้างรถ
แทนที่จะไปนั่งในที่นั่ง คนขับ ผมเปิดโปรแกรม ออโต้ ไพรอท
ให้มันมุ่งตรงกลับสู่ถ้ำค้างคาวด้วยความเร็วสูงสุด
จริงๆ เลยน้า.... ไอ้รถนี่ฉลาดกว่าผมอีก ผมน่าจะให้มันทำข้อสอบให้ผม ตอนสอบวัดผลคราวที่แล้ว
อึดใจเดียว แบทโมบิล ก็พาผมกลับมาที่ถ้ำค้างคาว
ภายในถ้ำเงียบสงบ มันเงียบจนวังเวง ชุดของเหล่า Sidekick ของแบทแมน เรียงรายอยู่ในตู้
Capsule มันสวย และดูแข็งแกร่ง แล้วยังดูเศร้าไปพร้อมๆกัน
ผมเข้าใจความรู้สึกของบรูซได้เลย ว่าเค้ารู้สึกยังไงตอนนี้
ผมมองที่ตู้พลางถอด แบท สูท ออก อึ๋ย.....กลิ่นแรงมากตอนที่ถอดรองเท้า
ผมนำชุดแบท สูท ใส่เข้าไปในตู้อบไล่ความชื้น หวังว่ามันคงพอช่วยได้นะ
ผมกลับไปใส่ชุดลำลอง แล้วเดินขึ้นไปด้านบน เข้าไปยังช่องทางลับ
เพื่อที่จะเข้าไปยัง คฤหาสถ์ เวย์น ไม่รู้คุณ บรูซจะรอผมอยู่หรือเปล่า
เมื่อเดินผ่านโถง เข้าไปยังห้องในสุด ซึ่งเป็นห้องหนังสือและห้องทำงานของคุณบรูซ
ผมเคาะประตูห้องทำงานของคุณบรูซ รออยู่อึดใจ ก็ได้ยินเสียงแหบพร่า แต่
ฟังแล้วรู้ว่าเป็นคนใจดี "เข้ามาสิ ฉันกำลังรอเธออยู่พอดี" ผมค่อยๆก้าวเข้าไปในห้อง ช้าๆ
ภายในห้องนี้นอกจากจะเต็มไปด้วยหนังสือแล้ว ยังเต็มไปด้วย จอมอนิเตอร์
ที่กำลังฉายภาพ สถานที่ต่างๆ ภายในกอทแฮม ซิตี้
แน่หล่ะ ภาพพวกนั้นถูกแฮคสัญญาณ จากกล้องวงจรปิด ของตำรวจเมืองกอทแฮม นี่เอง
ไม่ไหวเลยนะ กรมตำรวจเมืองนี้ จัดการอะไรก็ไม่ได้ซักเรื่อง
มีแต่ผู้ร้ายโรคจิตเต็มเมือง แล้วตอนนั้นเอง ภาพ โจ๊กเกอร์ซี ก็ผุดขึ้นมาในหัวผม
แย่สุดๆ ผมพยายามสลัดภาพนั้นทิ้ง เพราะนายนั่นแท้ๆ ทำให้ผมต้องมากลายเป็นแบทแมน
ผมเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้า บรูซ ขณะนั้นเอง บรูซก็เอ่ยขึ้นมาว่า
"จะเอาเครื่องดื่มอะไรดีหล่ะ เทอรี่ ชา หรือกาแฟ"
"ไม่รับจะดีกว่าครับ พอดีมันดึกมากแล้ว ผมเป็นโรคแพ้ คาเฟอีน" ผมตอบบรูซ
"เธอก็เป็นซะอย่างนี้ทุกที ไม่อ้อมค้อมเลยละกัน ฉันมีเรื่องจะวานเธอหน่อยเทอรี"
บรูซกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ถ้าผมทำได้ ผมจะทำให้ครับ" ผมพูดแบบแบ่งรับแบ่งสู้
"ฉันจะวานเธอ ให้เอาของไปส่งให้ดิ๊ก หน่อย มันเป็นของสำคัญมาก ฉันจึงต้องวานให้เธอช่วย"
บรูซพูดพร้อมทั้งหยิบของบางอย่างออกมา มันเป็นกล่องสี่เหลี่ยมที่มี
อะไรบางอย่างคล้ายปุ่มกดอยู่ตรงกลาง
"ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวผมเอาไปส่งให้เดี๋ยวนี้เลย ดิ๊กเค้าอยู่แค่นิวยอร์คนี่เอง
ขับแบทโมบิลไปไม่ถึง 30 นาทีก็ถึง" ผมตอบตกลงทันที หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ผมตอบไปจะเป็นสิ่งที่ผิดถนัด
"เทอรี่ ถ้าแค่จะเอาของไปส่งให้ดิ๊กที่นิวยอร์ค ฉันไปเองก็ได้ แต่ฉันต้องการส่งสิ่งนี้ไปให้กับดิ๊ก ในปี 2008
นั่นคือฉันจะให้เธอเดินทางย้อนอดีต นำของสิ่งนี้ไปส่งให้ถึงมือดิ๊ก" บรูซกล่าว จังหวะนี้ งานเข้าแล้วสิเนี่ย
ผมยังจำครั้งก่อนตอนที่ เดินทางข้ามเวลาเพื่อไปช่วยแบทแมน และทิม
ได้เลย มันเป็นความทรงจำที่ยากจะลืม
ผมรับปากว่าจะช่วยบรูซแล้ว ผมก็ต้องช่วยครับถึงแม้งานนี้จะยาก อีกแล้ว ฮ่าๆๆ
แล้วไงหล่ะ บรูซมีบุญคุณกับครอบครัวผมนี่ครับ พ่อกับแม่ผม ต่างก็เคยทำงานให้เค้า
ผมลากลับบ้าน ระหว่างทางกลับผมก็คิดตลอดทางว่า
ของสิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่ ทำไมต้องย้อนเวลาเอาไปให้ดิ๊กด้วยนะ
เมื่อกลับมาถึงที่บ้าน แมรี่ และ แมท นอนหลับกันหมดแล้ว นี่ดึกมากแล้วผมก็คงจะต้องนอนบ้าง
ตอนเช้า ผมรีบโทรไปหา แมก เพื่อบอกให้เธอมีส่วนสมรู้ร่วมคิดในเรื่องลาหยุด 1 สัปดาห์ของผม
แน่ละ ตอนโทรไปหาแมก ผมโดนสวดยับ เป็นเวลา 1 ชั่วโมงเลย
แถมเธอยัง บอกว่า ย้อนเวลาไป อย่าลืมขอลายเซ็น ไซบอร์ค ให้เธอด้วย
ตั้งแต่รู้จักกันมา ผมไม่เคยรู้เลยว่าเธอคลั่งไคล้ ไซบอร์ค แต่ในเมื่อเธอยอม
ตกลงสมรู้ร่วมคิดกับผม ผมค่อยโล่งใจ แล้วพอแมรี่ตื่น ผมก็บอกกัยเธอว่า
ทางโรงเรียนมีจัดเข้าค่ายกีฬา 1 สัปดาห์ ต้องไปนอนค้างนอกสถานที่
ผมบอกเธอว่าจะไปเข้าค่าย ที่ ฟลอริด้า ที่นั่นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
คุณก็รู้ว่าผมโกหกแม่ อเมริกานะครับ ไม่ใช่ อูกานด้า จะได้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
แต่เธอก็เชื่อผมโดยดี แถมถ้าเธอโทรไปถาม แมก
เธอก็จะได้รับคำตอบเหมือนผมแบบคำต่อคำเลย
เท่านี้ผมก็ไปปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสบายใจแล้ว
หลังจากลาแม่และน้องเสร็จ ผมก็ตรงดิ่งไปที่ถ้ำค้างตาว
ผมเปลี่ยนชุด เป็นชุดแบท สูท รับของจากบรูซ
และก้าวเข้าไปยืนในเครื่อง ไทม์ แมทชีน บรูซเปิดเครื่อง
และตั้งเวลาจุดหมายปลายทาง ปี 2008 กำหนดเวลาทั้งสิ้น 168 ชั่วโมง
เครื่องจะทำการย้อนเวลากลับมาอัตโนมัติ ไอ้นี่แหละคือสิ่งที่ผมไม่มั่นใจที่สุด
คราวก่อนผมก็เกือบตายเพราะมันนี่แหละ ถึงจะเคยไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มั่นใจซักที
เครื่องเริ่มทำงาน ผมได้ยินบรูซพูดว่า "รักษาตัวให้ดีนะ ไอ้ลูกชาย" เสียงของบรูซก้องในหัว
ไอ้การเข้ามาในเครื่องนี้ ทำให้ผมคลื่นใส้ทุกทีสิน่า ผมเคยได้ยินบรูซ อธิบายว่า การข้ามเวลา
ทำงานโดย การเร่งอนุภาค ให้มีความเร็วมากกว่า สามคูณสิบยกกำลังแปด เมตรต่อวินาที
นั่นคือต้องเร่งจนอนุภาคให้มีความเร็วเหนือแสง ให้อนุภาคตัดผ่าน เส้นโค้งของเวลา
โดยการเดินทางจะเป็นรูปวงแหวน โมบิอัส ซึ่ง จะเป็นวงแหวนที่มีด้านหน้าสองด้าน
อา.................ไม่อยากบอกคุณเลยบรูซ ผมไมเข้าใจ
เพราะการเดินทางข้ามเวลาบอกผมอย่างเดียวว่า ผมอยากอาเจียน...
ค่ำคืนที่ดูเหมือนจะเงียบสงบกลางเมืองใหญ่ เป็นเมืองที่สังคมต่างใส่หน้ากากเข้าหากัน มีทั้งหน้ากากจริงและ
หน้ากากเทียม นั่นสินะไม่ต้องถามก็น่าจะรู้ เพราะมันมีคนที่ใส่หน้ากากจริงๆ นั่นเฝ้ายามเป็นกากอย อยู่บนยอดตึกอยู่นี่ไง
ทำไมกันนะ เด็ก ไฮ สคูล อายุ 16 ปีอย่างผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย
เมื่อก่อน ใครๆก็รู้ ว่าผมเป็น แบดบอย เป็นเด็กมีปัญหา ที่อยู่แก๊ง ข้างถนน แต่วันนี้ผม ต้องมาสวมบทเป็น
แบทแมน ผู้ที่เป้นฮีโร่ห์ ออกปราบเหล่าร้าย หลังจากเสร็จภาระกิจในคืนนี้ ผมจะต้องกลับไปขอให้คุณ บรูซ
หยุดพักร้อนให้ผมซักอาทิตย์นึงแล้ว อา.......shit man ผมเกือบลืมไปซะสนิทเลยว่าคืนนี้ต้องกลับไปรายงาน
การปฏิบัติงาน กับคุณบรูซ คืนนี้หูชาเห็นๆ เพราะผม นอนไม่ค่อยพอมาอาทิตย์นึงเต็มๆ แล้ว
เลยทำให้แบทแมน เป็นค้างคาวเหงา แทนที่จะปราบเหล่าร้ายเป็น ฮีโร่ในตำนาน
และตอนนี้ผมก็อยากถอดชุดนี่เต็มทน มันทั้งอับ ทั้งชื้น และก็เต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อ
ถึงแม้ผมจะไม่ใช่คนสำอางค์ เท่าไร แต่ การที่จะต้องใส่ชุดที่ไม่ได้ซักหลายๆ
วันนี่ก็ทำให้ผมอึดอัดได้เหมือนกันนะ ข้อดีของชุดนี้อาจมีเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ผมพอใจเป็นอย่างมาก
ก็คือ มันทำให้ผมป๊อบในหมู่สาวๆ หน่ะสิ แถมยังดึงดูดเหล่าร้ายได้อย่างดีที่สุด
แต่ก็นะ ใครมันจะอยากไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับ ผู้ชายโรคจิตที่ชอบแต่งหน้าเป็น ตัวตลก
ถ้ามีใครอยาก คนนั้นคงบ้าเต็มทนแล้ว
"คืนนี้ช่างเงียบสงบ ซะจริงนะ...." ผมบ่นกับตัวเอง ไอ้บรรยากาศแบบนี้แหละนะ ที่เค้าเรียกว่า ฟ้าสงบ
ก่อนที่ พายุลูกใหญ่จะพัดเข้ามา ผมเหลือบดูนาฬิกาที่หน้าจอมอนิเตอร์ ที่ติดอยู่ในหน้าจอพิเศษภายในหน้ากากแบทแมน
"ได้เวลา ต้องไปฟังเสียงบ่นแล้วสินี่" ผมพูดกับตัวเอง อีกครั้ง พร้อมเหวี่ยงตัวเองลงจากยอดตึก อย่างรวดเร็ว
ผลุบเข้าไปใน แบทโมบิล วันนี้แม่นดีจริง เพราะเมื่อวันก่อน ผมเพิ่งลงไปนอน อยู่ข้างรถ
แทนที่จะไปนั่งในที่นั่ง คนขับ ผมเปิดโปรแกรม ออโต้ ไพรอท
ให้มันมุ่งตรงกลับสู่ถ้ำค้างคาวด้วยความเร็วสูงสุด
จริงๆ เลยน้า.... ไอ้รถนี่ฉลาดกว่าผมอีก ผมน่าจะให้มันทำข้อสอบให้ผม ตอนสอบวัดผลคราวที่แล้ว
อึดใจเดียว แบทโมบิล ก็พาผมกลับมาที่ถ้ำค้างคาว
ภายในถ้ำเงียบสงบ มันเงียบจนวังเวง ชุดของเหล่า Sidekick ของแบทแมน เรียงรายอยู่ในตู้
Capsule มันสวย และดูแข็งแกร่ง แล้วยังดูเศร้าไปพร้อมๆกัน
ผมเข้าใจความรู้สึกของบรูซได้เลย ว่าเค้ารู้สึกยังไงตอนนี้
ผมมองที่ตู้พลางถอด แบท สูท ออก อึ๋ย.....กลิ่นแรงมากตอนที่ถอดรองเท้า
ผมนำชุดแบท สูท ใส่เข้าไปในตู้อบไล่ความชื้น หวังว่ามันคงพอช่วยได้นะ
ผมกลับไปใส่ชุดลำลอง แล้วเดินขึ้นไปด้านบน เข้าไปยังช่องทางลับ
เพื่อที่จะเข้าไปยัง คฤหาสถ์ เวย์น ไม่รู้คุณ บรูซจะรอผมอยู่หรือเปล่า
เมื่อเดินผ่านโถง เข้าไปยังห้องในสุด ซึ่งเป็นห้องหนังสือและห้องทำงานของคุณบรูซ
ผมเคาะประตูห้องทำงานของคุณบรูซ รออยู่อึดใจ ก็ได้ยินเสียงแหบพร่า แต่
ฟังแล้วรู้ว่าเป็นคนใจดี "เข้ามาสิ ฉันกำลังรอเธออยู่พอดี" ผมค่อยๆก้าวเข้าไปในห้อง ช้าๆ
ภายในห้องนี้นอกจากจะเต็มไปด้วยหนังสือแล้ว ยังเต็มไปด้วย จอมอนิเตอร์
ที่กำลังฉายภาพ สถานที่ต่างๆ ภายในกอทแฮม ซิตี้
แน่หล่ะ ภาพพวกนั้นถูกแฮคสัญญาณ จากกล้องวงจรปิด ของตำรวจเมืองกอทแฮม นี่เอง
ไม่ไหวเลยนะ กรมตำรวจเมืองนี้ จัดการอะไรก็ไม่ได้ซักเรื่อง
มีแต่ผู้ร้ายโรคจิตเต็มเมือง แล้วตอนนั้นเอง ภาพ โจ๊กเกอร์ซี ก็ผุดขึ้นมาในหัวผม
แย่สุดๆ ผมพยายามสลัดภาพนั้นทิ้ง เพราะนายนั่นแท้ๆ ทำให้ผมต้องมากลายเป็นแบทแมน
ผมเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้า บรูซ ขณะนั้นเอง บรูซก็เอ่ยขึ้นมาว่า
"จะเอาเครื่องดื่มอะไรดีหล่ะ เทอรี่ ชา หรือกาแฟ"
"ไม่รับจะดีกว่าครับ พอดีมันดึกมากแล้ว ผมเป็นโรคแพ้ คาเฟอีน" ผมตอบบรูซ
"เธอก็เป็นซะอย่างนี้ทุกที ไม่อ้อมค้อมเลยละกัน ฉันมีเรื่องจะวานเธอหน่อยเทอรี"
บรูซกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ถ้าผมทำได้ ผมจะทำให้ครับ" ผมพูดแบบแบ่งรับแบ่งสู้
"ฉันจะวานเธอ ให้เอาของไปส่งให้ดิ๊ก หน่อย มันเป็นของสำคัญมาก ฉันจึงต้องวานให้เธอช่วย"
บรูซพูดพร้อมทั้งหยิบของบางอย่างออกมา มันเป็นกล่องสี่เหลี่ยมที่มี
อะไรบางอย่างคล้ายปุ่มกดอยู่ตรงกลาง
"ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวผมเอาไปส่งให้เดี๋ยวนี้เลย ดิ๊กเค้าอยู่แค่นิวยอร์คนี่เอง
ขับแบทโมบิลไปไม่ถึง 30 นาทีก็ถึง" ผมตอบตกลงทันที หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ผมตอบไปจะเป็นสิ่งที่ผิดถนัด
"เทอรี่ ถ้าแค่จะเอาของไปส่งให้ดิ๊กที่นิวยอร์ค ฉันไปเองก็ได้ แต่ฉันต้องการส่งสิ่งนี้ไปให้กับดิ๊ก ในปี 2008
นั่นคือฉันจะให้เธอเดินทางย้อนอดีต นำของสิ่งนี้ไปส่งให้ถึงมือดิ๊ก" บรูซกล่าว จังหวะนี้ งานเข้าแล้วสิเนี่ย
ผมยังจำครั้งก่อนตอนที่ เดินทางข้ามเวลาเพื่อไปช่วยแบทแมน และทิม
ได้เลย มันเป็นความทรงจำที่ยากจะลืม
ผมรับปากว่าจะช่วยบรูซแล้ว ผมก็ต้องช่วยครับถึงแม้งานนี้จะยาก อีกแล้ว ฮ่าๆๆ
แล้วไงหล่ะ บรูซมีบุญคุณกับครอบครัวผมนี่ครับ พ่อกับแม่ผม ต่างก็เคยทำงานให้เค้า
ผมลากลับบ้าน ระหว่างทางกลับผมก็คิดตลอดทางว่า
ของสิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่ ทำไมต้องย้อนเวลาเอาไปให้ดิ๊กด้วยนะ
เมื่อกลับมาถึงที่บ้าน แมรี่ และ แมท นอนหลับกันหมดแล้ว นี่ดึกมากแล้วผมก็คงจะต้องนอนบ้าง
ตอนเช้า ผมรีบโทรไปหา แมก เพื่อบอกให้เธอมีส่วนสมรู้ร่วมคิดในเรื่องลาหยุด 1 สัปดาห์ของผม
แน่ละ ตอนโทรไปหาแมก ผมโดนสวดยับ เป็นเวลา 1 ชั่วโมงเลย
แถมเธอยัง บอกว่า ย้อนเวลาไป อย่าลืมขอลายเซ็น ไซบอร์ค ให้เธอด้วย
ตั้งแต่รู้จักกันมา ผมไม่เคยรู้เลยว่าเธอคลั่งไคล้ ไซบอร์ค แต่ในเมื่อเธอยอม
ตกลงสมรู้ร่วมคิดกับผม ผมค่อยโล่งใจ แล้วพอแมรี่ตื่น ผมก็บอกกัยเธอว่า
ทางโรงเรียนมีจัดเข้าค่ายกีฬา 1 สัปดาห์ ต้องไปนอนค้างนอกสถานที่
ผมบอกเธอว่าจะไปเข้าค่าย ที่ ฟลอริด้า ที่นั่นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
คุณก็รู้ว่าผมโกหกแม่ อเมริกานะครับ ไม่ใช่ อูกานด้า จะได้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
แต่เธอก็เชื่อผมโดยดี แถมถ้าเธอโทรไปถาม แมก
เธอก็จะได้รับคำตอบเหมือนผมแบบคำต่อคำเลย
เท่านี้ผมก็ไปปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสบายใจแล้ว
หลังจากลาแม่และน้องเสร็จ ผมก็ตรงดิ่งไปที่ถ้ำค้างตาว
ผมเปลี่ยนชุด เป็นชุดแบท สูท รับของจากบรูซ
และก้าวเข้าไปยืนในเครื่อง ไทม์ แมทชีน บรูซเปิดเครื่อง
และตั้งเวลาจุดหมายปลายทาง ปี 2008 กำหนดเวลาทั้งสิ้น 168 ชั่วโมง
เครื่องจะทำการย้อนเวลากลับมาอัตโนมัติ ไอ้นี่แหละคือสิ่งที่ผมไม่มั่นใจที่สุด
คราวก่อนผมก็เกือบตายเพราะมันนี่แหละ ถึงจะเคยไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มั่นใจซักที
เครื่องเริ่มทำงาน ผมได้ยินบรูซพูดว่า "รักษาตัวให้ดีนะ ไอ้ลูกชาย" เสียงของบรูซก้องในหัว
ไอ้การเข้ามาในเครื่องนี้ ทำให้ผมคลื่นใส้ทุกทีสิน่า ผมเคยได้ยินบรูซ อธิบายว่า การข้ามเวลา
ทำงานโดย การเร่งอนุภาค ให้มีความเร็วมากกว่า สามคูณสิบยกกำลังแปด เมตรต่อวินาที
นั่นคือต้องเร่งจนอนุภาคให้มีความเร็วเหนือแสง ให้อนุภาคตัดผ่าน เส้นโค้งของเวลา
โดยการเดินทางจะเป็นรูปวงแหวน โมบิอัส ซึ่ง จะเป็นวงแหวนที่มีด้านหน้าสองด้าน
อา.................ไม่อยากบอกคุณเลยบรูซ ผมไมเข้าใจ
เพราะการเดินทางข้ามเวลาบอกผมอย่างเดียวว่า ผมอยากอาเจียน...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น