ทำไมผู้หญิงเลือกรัก "เกย์" แทน "แมน" - ทำไมผู้หญิงเลือกรัก "เกย์" แทน "แมน" นิยาย ทำไมผู้หญิงเลือกรัก "เกย์" แทน "แมน" : Dek-D.com - Writer

    ทำไมผู้หญิงเลือกรัก "เกย์" แทน "แมน"

    อยากรุปะ อยากรุก้ออ่านดิ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,031

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.03K

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    5
    หมวด :  จิตวิทยา
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ก.พ. 49 / 15:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

      ทำไมผู้หญิงเลือกรัก “เกย์” แทน “แมน”?


      เรื่องเกี่ยวกับ เกย์ หรือ ผู้ชายนะยะ นี่แหละที่กำลังมาแรงอย่างน่าพิศวงงงงวย เพราะสามารถครองใจผู้หญิงได้มากกว่า แมน เสียแล้ว

      ในบ้านเราก็มีให้เห็นนะคะพวกผู้หญิงสาวๆ ที่คบเกย์หนุ่มน่ะ แต่ที่จะเมาท์สู่กันฟังคราวนี้เก็บความมาจากข้อเขียนในนิตยสารของฝรั่งมังค่าฉบับหนึ่งค่ะ เขาแจกแจงไว้น่าสนใจเชียวค่ะว่า

      ถ้าหากในระบบสุริยะจักรวาลของเรานี้มีมนุษย์อาศัยอยู่ตามดาวดวงอื่นๆ อีกล่ะก็ พวกนั้นคงจะต้องอิจฉามนุษย์ในโลกของเราอย่างแน่นอน นั่นก็เพราะว่าคุณๆ ผู้หญิงในโลกมนุษย์รู้จักการคุมกำเนิด รู้จักการใช้ของเทียมสร้างความสุขทางเพศให้แก่ตนเองได้โดยไม่ต้องง้อผู้ชาย

      เท่านั้นยังไม่พอ คุณเธอทั้งหลายยังมีสิทธิเลือกเฟ้นเจ้าบ่าวราวกับเลือกซื้อสินค้าตามห้างร้านโดยมีสเป็คว่าจะต้องไร้ตำหนิไม่มีที่ติ ประจบเก่ง พูดจายกยอให้เกียรติสตรีเพศตลอดเวลา ฯลฯ แล้วก็ถ้าได้ชนิดที่เป็นเกย์ด้วยล่ะก็ โอ.เค. ทันที

      พวกผู้ชายพันธ์แท้ร้อยเปอร์เซ็นต์คงต้องฝันร้ายกันเสียแล้ว ถ้าในอนาคตอันใกล้นี้ผู้หญิงจะเลือกจับคู่อยู่กินกับผู้ชายที่เป็นเกย์

      ผู้สันทัดกรณีได้สังเกตสังกาในเรื่องนี้แล้วให้ความเห็นว่า ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นเช่นนั้น ก็เพราะบุคคลทั้งสองประเภท(ผู้หญิงปกติกับชายเกย์) ต่างก็แสวงหาเสรีภาพสังคมที่ละม้ายคล้ายคลึงกัน นั่นก็คือผู้ชายมักต้องการผู้หญิงที่จะให้ความเป็นแม่ของตัวเขาเองได้

      ส่วนฝ่ายหญิงก็ปรารถนาชายที่ละเอียดอ่อน โรแมนติก โดยที่มิได้มุ่งไปที่เซ็กซ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งจะเห็นว่ามันช่างเป็นความประสงค์ที่สอดคล้องกันได้ดีเหมาะเหม๋งจริงๆ

      แบบว่า ถูกคู่ อะไรทำนองนั้นแหล่ะ

      วีโต รัสโซ ผู้เขียนเรื่อง เดอะเซลลูลอยด์ โคลสเซ็ท ซึ่งเป็นหนังสือที่โด่งดัง เกี่ยวกับรักร่วมเพศในวงการภาพยนตร์ฝรั่ง ได้ให้ทัศนะว่า ผู้หญิงเจ้าระเบียบทั้งหลายมักจะมุ่งหวังที่จะมีสัมพันธ์กับเกย์ ในขณะที่คนอื่นๆ ไม่สนใจ สำหรับชายเกย์เองดูจะไม่เคอะเขินหรือน่าเกลียดเมื่อปรากฏตัวคู่กับหญิงสาว เพราะสามารถใช้ความสัมพันธ์อันนั้นปกคลุมบดบังจุดประสงค์ที่ฝังอยู่ในจิตใจของตนเองได้อย่างแนบเนียนนั่นเอง

      มีหญิงสาวผู้หนึ่งได้กล่าวถึงหนุ่มเกย์เอาไว้ว่า พวกผู้หญิงเราไม่ต้องห่วงหรอกเรื่องความละเอียดอ่อนหรือความรอบคอบน่ะ พวกเกย์มีพร้อม เขาจะระบุวันไว้แน่นอนว่าจะไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่วันไหนและจัดคิวไว้เสร็จสรรพว่า วันไหนจะพาเราไปพักผ่อน ฮอลิเดย์

      ในเรื่องความรู้สึกละเอียดอ่อนหรืออ่อนไหวนี้เป็นคุณลักษณะที่ผู้หญิงมุ่งหวังจากชายเกย์มากจนถือเป็นสิ่งสำคัญเบื้องต้นเลยก็ไม่ผิดความจริง

      จากการสุ่มสัมภาษณ์ผู้หญิงที่นิยมหนุ่มเกย์ได้รับคำตอบว่า “หนุ่มแท้ๆ มักจะกระด้าง รุนแรง หักหาร เอาแต่ใจ ชอบเอาชนะ แถมมีโอกาสที่จะต้องเจ็บตัว เจ็บใจมากด้วย ส่วนหนุ่มเกย์ส่วนใหญ่จะเฉลียวฉลาดมีความคิดสร้างสรรค์ มีนิสัยศิลปิน เอาอกเอาใจเก่ง เต้นรำดี เปิดเผย แสดงอารมณ์ชัดเจน ไม่มีการข่มขู่ทางเพศ สิ่งเหล่านี้แหละที่หาได้ยากจากผู้ชายแท้ๆ ยากนักหนา”

      และอีกส่วนหนึ่งสาวใหญ่นักธุรกิจได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า “เราสนใจและชอบในสิ่งเดียวกัน” หล่อนกล่าวโดยมีเพื่อนชายเกย์รูปร่างล่ำสันแต่งกายด้วยรสนิยมสูงคลอเคลียอยู่ข้างกาย ภาพยนตร์ ดนตรี และศิลปะอื่นๆ เราสามารถซาบซึ้งร่วมกันได้อย่างน่าพิศวง ในขณะที่พวกผู้ชายแท้ๆ ไม่กระดิกหูเอาเสียเลย

      นั่นเป็นทัศนคติของสาวใหญ่ชาวเดนเวอร์ที่ไม่ประสงค์จะออกนาม

      ส่วนหญิงสาวอีกคนหนึ่งซึ่งทำงานด้านศิลปะอยู่บนเขตภูเขาร็อคกี้ได้ระบุว่า 2 ใน 3 ของเพื่อนชายของเธอ เป็นเกย์ เธอเคยเข้าไปเที่ยวบาร์เกย์ และครั้งแรกที่เข้าไป ก็ถูกจูบเข้าที่แก้มกับถูกหยิกอย่างหยอกเอินด้วยฝีมือของชาวเกย์ในบาร์นั่น เธอให้เหตุผลที่ชอบคบกับเกย์ว่า เพราะพวกนี้เปิดเผยดีเหมือนกับอุปนิสัยของตัวเอง นอกจากนี้แล้วพวกหนุ่มเกย์ยังไม่ยึดมั่นหรือผูกติดอยู่กับประเพณี หรือค่านิยมคร่ำครึน่ารำคาญอีกด้วย และย้ำว่าเราคบหากันได้อย่างสนิทใจเหมือนกับมีพลังดึงดูดไว้วางใจกัน เขามีสิทธิ์ในการดำเนินวิถีทางเพศในรูปแบบที่เขาปรารถนาตามกาลเทศะอันควร เราไม่ต้องห่วงพะวงว่าเขาจะเที่ยวเตร่ เฮฮาอย่างหัวราน้ำ โดยปล่อยให้เราเฝ้ารอด้วยความเป็นห่วง กระวนกระวายเลย

      สำหรับหญิงสาวอีกคนหนึ่งผู้มีประสบการณ์ในการคบหาหนุ่มเกย์มาแล้วหลายรายได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับหนุ่มเกย์ว่า เขาต้องการหาประสบการณ์ทางเพศจึงเข้ามาชิดใกล้ติดพันเธอ ซึ่งก็เหมือนกับการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กหนุ่มๆ เขาช่างสุภาพอะไรอย่างนั้น ละเมียดละไมราวกับทำการค้นคว้าทดลองในกิจกรรมที่น่าสนใจ และปรากฏผลออกมาว่าเขาสนุก และมีความสุขมากกว่าได้ร่วมรักกับชายเสียอีก ส่วนเธอก็ชื่นมื่นเอมอิ่มไปกับการปฏิบัติตนปรนเปรอของหนุ่มเกย์ด้วยเช่นกัน

      ทางด้านแม่บ้านวัยสาวใหญ่ชาวนครชิคาโกคนหนึ่ง ไม่ปฏิเสธว่า สามารถเก็บเกี่ยวความสุขได้จากเพื่อนชายชาวเกย์ขณะที่กกกอดสอดรัดกันในที่ลับตานั้น มันก่อให้เกิดความรู้สึกสับสนชอบกล แม้ว่าเธอจะชอบผู้ชายแท้ๆ และความสัมพันธ์ตามปกติธรรมดาทั่วไป แต่เธอเองก็ได้เรียนรู้ถึงการดูดซับความสุขในขณะที่อยู่กับชายเกย์คู่ใจของเธอโดยกล่าวเปรียบเทียบว่า

      “ไม่ต่างกับฉันหลงอยู่ในทะเลทรายอันร้อนระอุ แล้วจู่ๆ ก็มีหลุมแอ่งแห่งความสดชื่นร่มเย็นให้ซุกกายพำนัก มันช่างเยือกเย็นและชุ่มฉ่ำเปี่ยมด้วยความสุขเหลือประมาณเลยค่ะ”

      นอกจากนี้เธอยังสามารถสบายใจได้ว่า ชายเกย์คู่ใจคนนี้จะไม่มีผู้หญิงอื่นลับๆ ซุกซ่อนไว้ให้เธอรู้สึกเจ็บปวดส่วนเขาจะไปเพริดกับพวกผู้ชายบ้างเธอไม่ถือสาอะไร “ก็ฉันรู้อยู่อยู่แล้วนี่คะว่าเขาเป็นเกย์” เธอพูดอย่างเข้าอกเข้าใจในธรรมชาติของชาวเกย์

      นั่นคือทัศนคติบางส่วนของผู้หญิงที่นิยมเกย์ แต่ยังไม่หมดประเด็นที่น่าสนใจ

      เกี่ยวกับปัญหา “แรกรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน พอนานไปใส่น้ำตาลยังพาลว่าขม” จะเกิดขึ้นไหม ในข้อนี้ ผู้มีประสบการณ์แย้งว่า ไม่ต้องกังวลจนเกินไปในเรื่องนี้ เพราะว่าเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนคู่ควงหญิงไปเรื่อยๆ นั้น ชายเกย์ไม่นิยมประพฤติปฏิบัติกัน และไม่มีเวลาพอด้วย เนื่องจากลำพังแค่บริการหญิงหนึ่งคน กับชายอีกหนึ่งคนก็แทบจะไม่ได้พักแล้ว จะเอาเวลาและเรี่ยวแรงที่ไหนไปร่อนเป็นพ่อพวงมาลัยลอยวนอย่างนั้นอีกล่ะ

      นอกจากนี้ยังสมมติฐานที่ปักใจเชื่อได้ว่า พวกผู้ชายที่เป็นเกย์นั้นมิได้มีความมักมากในกามคุณ หรือว่าชอบสำส่อนเพียงเชื่อว่า การมีสัมพันธ์สวาทกับผู้ชายด้วยกันนั้นเลิศกว่าผู้หญิง

      จะจริงเท็จแค่ไหนใครอยากรู้ก็คงต้องหาโอกาสพูดคุยกับหนุ่มเกย์เอาเองละมั้ง

      ที่กล่าวมานั้นล้วนแต่เป็นทัศนวิจารณ์ของผู้หญิงที่นิยมชมชอบชายเกย์ทั้งนั้น ซึ่งอาจจะชวนให้คิดว่าเป็นการ ฟังความข้างเดียว หรือเปล่า อาจจะไม่กระจ่างแจ้งเพียงพอ ก็มาฟังความนัยจากใจของคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งดูกันบ้าง คือว่า พวกหนุ่มเกย์เขาคิดอย่างไรกัน จะได้เป็นการเปิดกว้างทางความคิดไงล่ะ

      เกย์หนุ่มคนหนึ่งบอกว่า ตอนที่เขาอายุในราว 18 นั้น เขาไม่ค่อยจะสนใจข้องเกี่ยวกับผู้หญิงสักเท่าไหร่หรอก จนกระทั่งได้มาพบกับหญิงสาวที่ชื่อแนนซี่ คนนี้เข้า จึงเป็นการพิสูจน์ว่าไม่เป็นความจริงเลยที่ใครๆ พากันเชื่อว่า

      “คนที่เป็นเกย์มาก่อนจะต้องเป็นเกย์ไปตลอดชีวิต ไม่อาจจะปรับเปลี่ยนได้” เขาได้ยกพฤติกรรมของตนเองเป็นตัวอย่างว่า แต่ก่อนนั้นเขามีกิจกรรมทางเพศอยู่กับเพื่อนชายหลายปี โดยก่อนหน้านั้นเขาอกหักจากหญิงสาวคนหนึ่ง จึงหันเข้าหายาเสพติด อันเป็นโอกาสเหมาะที่เปิดช่องให้ชายหนุ่มคู่ขาคนนั้นเข้ามาครอบงำเขาจนเป็นคู่สวาทกัน

      “ถึงผมจะชอบเขา และถูกเขาเล้าโลมปลุกกำหนัดทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกันในห้องนอนของเขา แต่ผมไม่ค่อยจะรื่นรมย์กับมันเท่าไหร่นัก เพราะภายใต้จิตใจของผมจะรู้สึกสับสนและคิดแต่ว่า มันไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมเท่าไหร่นัก มันดูไม่ค่อยชอบมาพากลเอาเสียเลย”

      แต่เขาก็มีสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศกับเพื่อนชายคนนั้นอยู่นานนับปีทีเดียว

      ต่อจากนั้นเขาก็มีโอกาสได้ร่วมสัมพันธ์ทางเพศกับแนนซี่ผู้หญิงซึ่งพรากเขาจากเพื่อนชายคู่ขาคนนั้นนั่นเอง

      จากประสบการณ์กับแนนซี่ทำให้เขาสารภาพออกมาอย่างเปิดใจว่า

      “การยุ่งเกี่ยวทางเพศกับผู้หญิงแท้ๆ นั้นแสนจะวิเศษเป็นความสมัพันธ์อันสดสวย ผมชอบผู้หญิงเพราะนั่นเป็นสิ่งที่ผมชอบ การเป็นหนุ่มชาวเกย์ที่ผ่านมานั้น ผมถือว่าเป็นฉากหนึ่งในชีวิตหนุ่มเท่านั้น ทุกวันนี้หากใครมาพูดว่าผมเป็นเกย์ ผมจะไม่พอใจมาก เพราะมันเหมือนกับสะกิดแผลเก่า เมื่อครั้งที่ผมหลงทางไปในอดีต ขอย้ำอีกครั้งว่า ถึงผมจะยังดูเหมือนหนุ่มเกย์ แต่ผมชอบเพศรสของผู้หญิงแท้ๆ”

      ส่วนแนนซี่ก็มักจะโต้แย้งกับเพื่อนหญิงในที่ทำงานของเธอเสมอ โดยออกตัวแทนชายหนุ่มของเธอว่า ความเป็นเกย์นั้นกลับกลายได้ แต่ผู้หญิงส่วนมากไม่กล้าร่วมหัวจมท้ายกับหนุ่มเกย์ก็เพราะเกรงว่าเขาจะกลับไปมีพฤติกรรมเป็นเกย์อีกเท่านั้น ดังนั้นจึงน่าจะให้ความเป็นธรรมกับคนที่เคยเป็นเกย์มาก่อนบ้าง

      ผู้สันทัดกรณีเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ให้ความคิดเห็นอีกว่า ผู้หญิงที่ได้อยู่ร่วมกันชั่วครั้งชั่วคราวกับชายเกย์บนเตียงนอนนั้น อย่าได้ไปหวังให้มากนักว่าจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของเขาได้เสมอไป เพราะผู้ชายบางคนก็เป็นเกย์อย่างถาวรจนไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองได้แล้ว

      แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้หญิงอีกมากมายเหมือนกันที่ยอมรับว่า การได้คบหาอยู่กินชายเกย์นี้ย่อมดีกว่าการอยู่ตัวคนเดียว โดยเฉพาะหญิงสาวที่เคยอกหักช้ำชอกมาจากหนุ่มแท้ๆ นั้นมีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะเลือกชายเกย์เป็นคู่ชีวิต

      ดังนั้นจะเห็นได้จากสังคมไทยที่มีการเปิดเผยตัวของคู่ชีวิตที่สามีเป็นเกย์ทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ มีการยอมรับและภาพที่ทั้งคู่ออกมาแสดงต่อกันบ่งบอกถึงการเป็นคู่ชีวิตที่แสนจะหวานชื่น คือต่างฝ่ายต่างยอมรับในการเป็นตัวตนของคนที่รักและเลือกจะใช้ชีวิตร่วมกัน

      คนที่ไม่ชอบแบบนี้ก็มองว่าชีวิตของพวกเขาพิลึกพิลั่น แต่สำหรับพวกเขาแล้ว บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แฮปปี้ที่สุด...

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×