ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภูตอเวจี

    ลำดับตอนที่ #5 : หลบหนี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.93K
      33
      12 ธ.ค. 55

    ฮุ่ยซิงนึกไม่ถึงแผนที่ที่เขาตั้งใจจะใช้เพื่อหนีไปกับหลินหลินกลับได้ใช้เพื่อหนีเอาตัวรอดจริงๆ ความจริงถ้าฮุ่ยซิงคิดจะบอกความจริงออกไปก็ได้แต่ลองคิดดูแล้วคำพูดของราชครูกับบุคคลแปลกหน้าที่ทั่วร่างลุกไปด้วยเปลวเพลิง ไม่ต้องใช้สมองคิดเขายังรู้เลยว่าผลมันจะออกมายังไง

     

    เหล่าทหารเมื่อเห็นควันไฟจากตำหนักของฮองเฮาก็วิ่งกรูกันเข้ามาอย่างเอาเป็นเอาตายนี้เหมือนจะเป็นอุปสรรค์ของฮุ่ยซิงแต่ไม่เลยสำหรับเขานี้คือโอกาส

     

    “มีคนบุกเข้าไปโจมตีฮองเฮาเวลานี้ราชครูไท่หยางกำลังรับมืออยู่พวกเจ้ารีบเข้าไปช่วย ข้าจะไปเสริมกำลังปิดทางเข้าออกไม่ให้มันหลบหนีออกไปได้” ฮุ่ยซิงตวาดลั่นไม่รอให้เหล่าทหารถึงตัวด้วยซ้ำก่อนจะตะบึงวิ่งไปยังประตูทางออก

     

    หากเป็นยามปกติคงต้องมีการตรวจค้นทุกคนที่มุ่งไปยังประตูทางออก แต่กลับกันเวลานี้ราชวังที่เคยสงบสุขไม่มีเหตุร้ายกลับมีคนกล้าบุกเข้าโจมตีถึงตำหนักฮองเฮา ทหารทุกนายต่างตื่นตะลึงและเสียขวัญเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงกฎระเบียบ ในหัวพวกเขาคิดเพียงต้องไปถึงจุดเกิดเหตุเร็วที่สุดเท่านั้น

     

    เหตุการณ์ซ้ำๆเกิดขึ้นฮุ่ยซิงใช้วิธีเดิมจนมาถึงประตูตะวันตก เกราะหนักๆนี้แทบจะทำให้เขาลากขาต่อไปไม่ไหวก่อนจะพบว่าทหารหลายนายได้ปิดทางเข้าออกไว้หมดแล้ว

     

    “พวกเจ้าปิดทางเข้าออกทุกทางไว้หมดแล้วใช่หรือไม่”ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดคำกลับเป็นฮุยซิงที่ชิงพูดขึ้นมาก่อน ใช้จังหวะที่อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัวดึงเข้ามาในเกมของตัวเอง

     

    “ขอรับ”ทหารยืนเวรพูดขึ้น แม้จะสงสัยในตัวของฮุ่ยซิงแต่ก็คิดว่าเป็นนายทหารชั้นสูงจากภายในวังออกมาตรวจสอบความเรียบร้อยเท่านั้น ไม่กล้าพูดอะไรให้มากความ
     

    “ดีวางกำลังไว้ให้แน่นหนา ฮองเฮาถูกคนร้ายใช้พิษทำร้ายสาหัสข้าต้องรีบออกไปตามหมอหลวงเพื่อมารักษาโดยเร่งด่วน” เป็นอีกเรื่องที่ฮุ่ยซิงกุขึ้นมาเพื่อให้ตนหลบหนีออกจากราชวังได้อย่างหมดจด ทุกอย่างราบเรียบเป็นไปตามแผนของเขาอย่างสวยงาม

     

    “หยุดก่อน ถ้าเจ้าต้องการออกไปตามหมอหลวงให้ทหารของข้าออกไปแทนก็ได้” กลับเป็นเสียงดังขึ้นจากด้านหลังที่ทำลายแผนการของเขาจนป่นปี้ ฮุ่ยซิงค่อยๆหันกลับไปมองเป็นชายร่างยักษ์ส่วมชุดที่ดูก็รู้ว่าไม่ต่ำชั้นแน่แท้

     

    “แต่ข้ามีขอความสำคัญจากท่านราชครูอีกทั้งเรื่องนี้เร่งรีบยิ่งนัก ชักช้าอาจไม่ทันกาล”ฮุ่ยซิงพยายามหาทางออกให้กับตัวเองอย่างเร่งด่วน

     

    “ไม่เป็นไรหมอหลวงหวงตงคนขอข้ารู้ที่อยู่ไว้เดียวพาเข้ามาแล้วเจ้าค่อยส่งมอบข้อความอีกครั้ง” ชายคนเดิมกลับยืนยันไม่ให้ฮุยซิงออกไปได้ ช่างน่ารำคาญยิ่งนักแค่ผ่านประตูนี้ไปเขาก็หนีไปไหนต่อไหนได้แล้ว

     

    “แต่ข้าต้องคุยกับท่านหมอหลวงหวงตงทันทีที่ได้...”ฮุยซิงพูดยังไม่ทันจบคำ แววตาของแม่ทัพนั้นวาวโรจน์ ก่อนจะตวัดดาบขึ้นฟันเขาอย่างรวดเร็ว ฮุ่ยซิงหลบไม่พันแต่เกราะที่ครอบคลุมทั้งตัวเขาทั้งยังปกป้องราวกับเกราะวิเศษนั้นกลับกระเทือนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

     

    เกราะวิเศษคนผู้นี้กลับเป็นแม่ทัพหวงตงส่วนไอ้หมอหลวงหวงตงอะไรนั้นล้วนไม่มีจริง ฮุ่ยซิงเหมือนจะรู้ตัวว่าตนเองติดกับเข้าเสียแล้ว

     

    หวงตงเข้ารับราชการได้เพียงปีเศษก็เลื่อนขั้นเข้าสู่รับแม่ทัพไม่เพียงมันสมองอันชาญฉลาดทั้งยังความสามารถทางเชิงดาบที่ยากหาคนเปรียบได้ทั้งพละกำลังที่มากมายราวกับคนสิบคนร่วมแรงกัน หากเป็นเกราะทั่วไปดาบเมื่อกี้ของหวงตงคงฟันขาดสะบั้นไป

     

    แม้จะไม่สามารถฟันเกราะขาดแต่แรงกระแทกจากหวงตงนั้นเล่นเอาฮุ่ยซิงถึงกับมึนไปชั่วขณะ พยายามคิดว่าเพราะเหตุใด เท่าที่คิดออกคงไม่พันชื่อหมอหลวงนั้นเป็นชื่อปลอม ให้ตายเถอะเขากลับเป็นคนโดนหลอกเสียเอง

     

    เมื่อถูกจับได้ฮุ่ยซิงได้แต่เดิมพันกับปราณภูตอเวจีว่าจะสามารถพาเขาผ่านด่านไปได้ ภูตอเวจีเป็นดั่งปราณมรณะที่แผดเผาทุกสิ่งให้วอดวาย เว้นเพียงแต่ห้องเหล็กที่เขาฝึกฝนกับเกราะเหล็กนี้

     

    ฮุ่ยซิงลองเสี่ยงเดิมพันว่าดาบของหวงตงคงเป็นเพียงดาบธรรมดาที่เขาสามารถหลอมละลายมันได้เพียงแค่สัมผัส เขาค่อยๆถอดเกราะออกทีละชิ้น

     

    “ยอมจำนนแล้วรึ เจ้าโจรร้าย”หวงตงยิ้มอย่างภูมิใจในฝีมือดาบของตนเพียงแค่ดาบเดียวก็ทำเอาผู้บุกรุกหวาดกลัวจนต้องถอดเกราะออกเพื่อยอมจำนวน

     

    แต่มันกลับทำให้หวงตงตื่นตะลึงภายใต้เกราะนั้นไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ ศีรษะล้านเรียด แววตาที่บุบลึกเข้าไปจากความทรมานของการฝึกนั้น ทั้งประกายในนัยน์ตาคู่นั้นที่เหมือนจะดูดให้ผู้คนที่จ้องมองจมหายลงไป แต่ที่น่าตกใจที่สุดกลับเป็นผิวกายของฮุ่ยซิงมันแดงสดราวกับเหล็กถูกเผาไหม้
     

    “นั้นมนุษย์หรือ”เสียงอุทานแม้จะแผ่วเบานักแต่กลับเข้าไปสะกิดความกลัวที่อยู่ในใจของหวงตง

     

    หวงตงสะบัดดาบฟาดฟันฮุ่ยซิงด้วยความตระหนก แต่กลับทำให้เขาเบิกตาคาอย่างไม่เชื่อสายตาเพียงแค่ดาบสัมผัสผิวกายของโจรตรงหน้ามันกลับหลอมละลายไปทั้งความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือทำให้เขาต้องโยนดาบคู่กายทิ้งไป
     

    สายของเหล่าทหารในบริเวณนั้นล้วนจับจ้องมายังฮุ่ยซิงด้วยอารมณ์หลากหลายความหมาย สำหรับพวกเขาฮุ่ยซิงเปรียบดั่งฝันร้ายที่เป็นจริงหลายคนพยายามตบหน้าตัวเองเรียกสติคืนมาแต่ก็ได้แต่ยอมรับความจริงเท่านั้น

     

     “ปีศาจ” หวงตงถึงกับรำพันกับตัวเองก่อนจะทรุดกายลงอย่างหมดแรงหรือชีวิตและความรุ่งโรจน์ของเขาจะมาจบที่ตรงนี้กัน แต่เป็นฮุ่ยซิงที่ไม่คิดจะสนใจเหตุการณ์ตรงหน้าเขาคิดเพียงว่าเมื่อพวกมันไม่ขวางแล้วจะอยู่ทำไม ฮุ่ยซิงออกแรงวิ่งเต็มกำลังไม่มีทหารแม้แต่คนเดียวคิดจะติดตามมีเพียงก็แต่เปลวเพลิงที่ไล่ตามหลังของเขามาเท่านั้น

     

    แต่ให้ตายเถอะไฟที่มันไล่ตามหลังมากลับเป็นเหมือนเครื่องมือนำทางให้เหล่าทหารเป็นอย่างดีรอก็เพียงพวกนั้นตั้งสติได้ไล่ตามความเสียหายที่ฮุ่ยซิงทำก็ตามเขาเจอแล้ว พื้นที่ดินย้ำผ่านล้วนแห้งกรอบ หญ้าที่เหยียบถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเศษธุลี ความเสียหายล้วนตามติดฮุ่ยซิงไปยังทุกหย่อมหญ้าที่เขาได้ผ่านมา

     

    ฮุ่ยซิงเหนื่อยจนแทบสิ้นสติแม้จะเคยฝึกลมปราณทนความทรมานมามากมายแต่กลับไม่เคยฝึกพื้นฐานการต่อสู้หรือพวกลักษณะการหายใจแม้สักนิด ร่างกายของฮุ่ยซิงแม้จะไม่ได้อ่อนแอ่อะไรแต่ให้วิ่งต่อเนื่องกันนานขนาดนี้เขาก็ไม่ไหวเหมือนกัน

     

    “บัดซบ” ฮุ่ยซิงพูดกับตัวเองให้ตายเถอะนี้มันเนวิเกเตอร์ชั้นดีชัดๆ เขามองไปกลับไปยังความเสียหายที่ผ่านมาให้คนตาบอดไล่ตามมันคลำๆพื้นดูยังรู้เลยว่าเป็นเรา

     

    ขณะที่อับจนหนทางนั้นเองฮุ่ยซิงกลับสังเกตเห็นแม่น้ำสายหนึ่ง ไม่แม้แต่จะหยุดคิดเขากระโจนลงไปในน้ำจนน้ำเดือดขึ้นมาไอน้ำมากมายพวยพุ่งออกมาเกิดเป็นหมอกยามค่ำคืนที่สวยจับใจ

     

    ความเร่งรีบต่างๆต้องยอมรับเลยว่าสมองของฮุ่ยซิงไม่ธรรมดาที่สามารถหาทางออกได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ แต่มนุษย์นั้นไม่สมบูรณ์พร้อมทุกคนล้วนมีความผิดพลาด ฮุ่ยซิงพลาดที่หนีทางน้ำไม่ใช่ทางน้ำนั้นไม่ดีแต่ที่ไม่ดีกลับเป็นตัวฮุ่ยซิงที่เขาว่ายน้ำไม่เป็น

     

    ฮุ่ยซิงเมื่อตัวจมน้ำพลันนึกขึ้นได้ว่าตนนั้นว่ายน้ำไม่เป็น ได้แต่ตะเกียดตะกายพื้นน้ำอย่างเอาเป็นเอาตาย ในใจได้แต่ด่าทอตนเองที่โง่เขลา หวังเพียงว่าความร้อนจากตัวเขาจะแผดเผาน้ำให้เหือดแห้งหายไป
     

    แต่อนิจจาพลังจากมนุษย์กระจ่อยร่อยหรือจะสู้ธรรมชาติ แม้ร่างฮุ่ยซิงจะร้อนราวเหล็กเผาแต่แม่น้ำสายนี้ยิ่งใหญ่กว่ามากนัก ถึงจะถูกความร้อนของฮุ่ยซิงเล่นงานไปบ้างกลับไม่สะทกสะท้าน คว้าร่างของฮุ่ยซิงค่อยๆจมหายไปอย่างไม่มีทางสู้

     

     ..........................................................................
     

    ต้องขอบคุณทุกความเห็นนะครับเป็นกำลังใจให้ผมได้มากๆเลยครับ ส่วนตัวนิยายผมจะพยายามปรับปรุงขึ้นเรื่อยๆอย่าเพิ่งทิ้งไรเตอร์กันนะครับ :D รักนักอ่านทุกคนคับ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×