ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภูตอเวจี

    ลำดับตอนที่ #17 : แสงอาทิตย์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.65K
      44
      12 ธ.ค. 55

              แสงสว่างตะเกียงหนึ่งถูกจุดอยู่กลางความมืดมิด ภายใต้เงาตะเกียงคล้ายมีเงาของคัมภีร์มากมายหลายกองอยู่ ในใจกลางของแสงไฟกลับสะท้อนดวงแสงสีแดงสดสั่นไหววูบวาบไปมา ราวกับนัยน์ตาของสัตว์ร้าย

     

                ที่แท้นัยน์ตาคู่นั้นกลับเป็นของฮุ่ยซิงนั้นเอง มันตรากตรำนั่งอ่านหนังสือท่องตำรามากมาย ตำราที่หวงโต๋จัดเก็บไว้ไม่เพียงแต่ระบุถึงพืชพันธุ์นานาชนิด แต่ยังรวมถึงสัตว์พิษอีกด้วย มีทั้งที่ฮุ่ยซิงเคยเจอและไม่เคยแม้แต่ได้ยิน นอกจากตำราเรื่องพืชและสัตว์ทั้งหลายแล้ว ยังมีมีตำราเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์อีกด้วย แต่ที่แตกต่างกับตำราทั่วไปคือมันไม่เพียงรวบรวมภาพส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย แต่ยังแสดงถึงจุดชีพจรมากมายในตัวของมนุษย์
     

                ฮุ่ยซิงวางหนังสือลงก่อนจะเอื้อมมือไปสั่นกระดิ่งที่อยู่ด้านข้างคราหนึ่ง เสียงกระดิ่งดังขึ้นไม่เพียงจะก้องกังวาน แต่กลับลี้ลับสะท้อนไปมาราวกับภูตพรายกระซิบ ที่แท้เป็นข้อกำหนดที่หวงโต๋ให้ไว้ เมื่ออ่านตำราครบสิบเล่มมันจะลงมาถามคำถามพร้อมกับฝึกยุทธให้กับฮุ่ยซิง

     

                “ว่องไวขึ้นไม่น้อย” หวงโต๋ราวกับโผล่มาจากพื้นดินปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าฮุ่ยซิง ก่อนจะหยิบตำราทั้งสิบเล่มที่ฮุ่ยซิงแยกเอาไว้ขึ้นมาดู

     

                “รากไม้สีเหลืองสดมีรอยหยักตามราก มีกลิ่นคล้ายกับถูกเผาไหม้”
     

                “หญ้ากำมะถัน” หวงโต๋วางหนังสือลงพร้อมกับบิดร่างกายไปมา นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ ฮุ่ยซิงเลิกนับไปนานแล้ว เขารู้เพียงว่าครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เงื่อนไขของหวงโต๋นอกจากอ่านหนังสือจนหมดชั้น ยังมีอีกอย่างหนึ่งคือเอาชนะตนให้ได้ ฮุ่ยซิงเคยพยายามหลายครั้งแต่ก็พ่ายแพ้กลับมาทุกครั้ง แต่เช่นเดียวกันทุกครั้งที่พ่ายแพ้สิ่งที่เขาได้คือประสบการณ์และการพัฒนา ที่ผ่านการเคี่ยวกรำมานับพันเที่ยว จนตอนนี้หวงโต๋ไม่อาจหยอกล้อเล่นกับฮุ่ยซิงได้แล้ว
     

                ร่างกายของฮุ่ยซิงพุ่งออกอย่างรวดเร็วดั่งศรที่ลุดออกจากคันธนู สำหรับฮุ่ยซิงเขาถือคติเริ่มก่อนได้เปรียบ หมัดซ้ายพุ่งใส่หวงโต๋อย่างไร้ความปรานี พร้อมกับลูกเหล็กที่พุ่งใส่หวงโต๋จากทิศตรงข้าม หวงโต๋กระโดดถอยครั้งคราหนึ่งก็หลบได้
     

                แต่ฮุ่ยซิงไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เขาส่งขาซ้ายเตะตามแรงกระชากที่เกิดจากหมัดพุ่งเข้าใส่ก้านคอของหวงโต๋ หวงโต๋กลับลอยตัวพริวหลบไปด้านหลัง แต่การที่หวงโต๋เลือกหลบไม่ยอมปะทะนี้กลับเปิดโอกาสให้ฮุ่ยซิงใช้จังหวะจากลูกเตะพาร่างหมุนตัว ใช้แรงบิดเกิดขึ้นส่งศอกขวาตามไปที่ใบหน้าของหวงโต๋ อย่างรวดเร็ว

                เสียงปะทะของศอกกับแขนของหวงโต๋ที่จำเป็นต้องยกขึ้นป้องกันส่วนหัวดังสนั่น หากมิใช่หวงโต๋มีพลังวัตรที่เหนือชั้นกว่าฮุ่ยซิงหลายขั้นศอกนี้คงบดขยี้ท่อนแขนของเขาไปแล้ว

     

                หวงโต๋ไม่ปล่อยให้ตัวเองตกเป็นฝ่ายรับอย่างเดียว จังหวะที่ศอกกระแทกและร่างของฮุ่ยซิงชะงัก ขาของหวงโต๋กลับเตะกวาดเข้ามาที่ช่วงล่างของฮุ่ยซิง ฮุ่ยซิงไม่มีจังหวะให้ถอยจำใจต้องกระโดดหลบลูกเตะ นับว่าเข้าทางหวงโต๋ ร่างที่ลอยอยู่อากาศนับว่าเป็นเป้านิ่งอย่างดี หวงโต๋ระดมปล่อยหมัดเข้าปะทะร่างที่ลอยอยู่บนอากาศของฮุ่ยซิง
     

                ฮุ่ยซิงกลับแก้ท่านี้ด้วยการใช้เท้าถีบสวนเข้าไปที่หมัดของหวงโต๋ ก่อนจะหยิบยืมแรงกระแทกพาร่างของตนออกจากระยะการโจมตีของหวงโต๋ เมื่อตั้งหลักได้ฮุ่ยซิงกลับไม่รีบเร่งค่อย ๆ เดินอย่างแช่มช้าแต่กลับแฝงไว้ด้วยความรวดเร็ว ร่างของฮุ่ยซิงแยกออกเป็นสามร่าง ก่อนจะพุ่งเข้าปะทะกับหวงโต๋
     

                แต่ท่าก้าวมังกรท่องหล้านั้นหวงโต๋เป็นคนบัญญัติขึ้นไหนเลยจะสามารถใช้ข่มขวัญเขาได้ ร่างของหวงโต๋ก็แยกออกเป็นสาม ก่อนที่จะทะยานเข้าปะทะกับฮุ่ยซิง การต่อสู้จากหนึ่งแบ่งออกเป็นสามคู่ หวงโต๋และฮุ่ยซิงทั้งหกแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันราวกับทุกร่างใช้ออกจากคนละคน
     

                ทั้งสามคู่ปะทะกันด้วยท่วงท่าที่ผิดแปลก แยกจากร่างที่เหลือโดยมิอาจเชื่อได้เลยว่าเกิดจากคน ๆ เดียวกัน หมอกควันฟุ้งกระจายก่อนที่ร่างของฮุ่ยซิงจะกลับมาอยู่ที่เดิม ที่แท้เป็นราชันหมื่นพิษที่ได้ใช้พิษสลายกำลังแม้ไม่ทำให้บาดเจ็บแต่หากโดนพิษชนิดนี้ ขณะต่อสู้นั้นไม่ต่างกับโดนคำสั่งประหารชีวิตเลย

     

                แม้ฮุ่ยซิงจะกลับมาเหลือเพียงร่างเดียวด้วยไม่อาจใช้ท่าก้าวมังกรท่องหล้าได้อีกต่อไป แต่หวงโต๋กลับมิใช่ ร่างทั้งสามของหวงโต๋พุ่งเข้ากระแทกหมัดใส่ฮุ่ยซิงจากสามจุดอย่างพร้อมเพรียง จุดที่น่ากลัวคือทั้งสามร่างล้วนเป็นของจริง ฮุ่ยซิงที่ไม่มีแรงถูกหมัดของหวงโต๋ทั้งสามหมัดกระแทกเข้าจนกระอักเลือดออกมาคราหนึ่ง
     

                “ข้าพเจ้าพ่ายแพ้แล้ว” ฮุ่ยซิงยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี แม้พ่ายแพ้แต่ยินดีเพราะอย่างน้อยเขาก็จะได้ออกจากห้องมืดนี้สักที เขาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับหวงโต๋สำเร็จแล้ว แม้ไม่รู้ว่าใช้เวลาไปเนิ่นนานเพียงใด แต่ตอนนี้ฮุ่ยซิงอ่านหนังสือครบทุกเล่มบนชั้นวางแล้ว
     

                หวงโต๋ไม่พูดกระไรแต่เดินกลับไปยังกระท่อมแต่ที่แตกต่างคือคราวนี้เขาเปิดประตูกลทิ้งไว้ให้ฮุ่ยซิงตามมา ฮุ่ยซิงที่โคจรลมปราณจนรักษาอาการบาดเจ็บได้แล้วก็ดันตัวขึ้นยืน ก่อนจะวิ่งขึ้นไปยังกระท่อมของหวงโต๋

     

                ประตูของกระท่อมถูกเปิดออก แสงอาทิตย์แรกหลังจากไม่ได้พบเจอมาเนิ่นนาน ทำให้ตาของฮุ่ยซิงถึงกับพร่าเลือน ทั้งยังสว่างจนแสบตา แต่ความอบอุ่นที่คุ้นเคยกลับทำให้มันรู้สึกมีความสุขยิ่งนัก
     

              ฮุ่ยซิงนอนทอดกายภายใต้แสงแดดเพื่อซึมซับเอาบรรยากาศรอบกาย ทั้งยังต้องการพักผ่อนหลังจากลำบากมาเนิ่นนาน ก่อนจะเคลิบเคลิ้มไปกับความสบายและหลับตาลงไป

     

                เมื่อตื่นมาพบว่าหวงโต๋ยังไม่กลับมา แต่ท้องของมันเริ่มประท้วงแล้ว ถึงจะอยู่ใต้ดินมานานแต่หวงโต๋คอยส่งน้ำส่งอาหารดูแลมันไม่ขาด แม้พักหลังนี้จะมิได้แลกเปลี่ยนวาจากัน ก็ยังถือได้ว่าอาจารย์ผู้นี้ของมันดูแลมันอย่างดีทีเดียว

     

                ฮุ่ยซิงกลับเข้ามาในกระท่อมพบกับของกินมากมาย กองไว้อยู่ซึ่งตอนแรกมันอาจจะไม่สังเกตเห็น มันจึงนั่งลงที่โต๊ะอาหารก่อนจะแอบหยิบน่องไก่มาชิ้นหนึ่ง ถึงจะอยากรอให้อาจารย์กลับมาก่อนค่อยกิน แต่ฮุ่ยซิงคิดว่ามันแอบกินน่องไก่ก่อนสักน่องอาจารย์คงมิว่ากระไร

     

                แต่เมื่อมันดึงน่องไก่ชิ้นนั้นออกมากลับเห็นมีกระดาษแผ่นหนึ่งตกตามออกมา ด้วยความสงสัยว่าคือสิ่งใดมันจึงเปิดอ่าน เมื่ออ่านจบมันถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา
     

                “เจ้าอยู่ฝึกวิชาและอ่านตำราภายในนั้นเป็นเวลาเกือบสองปีแล้ว ตอนนี้เจ้าถือได้ว่าอายุสิบเก้าปีนับเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ทุกอย่างของข้าล้วนมอบให้เจ้าหมดแล้ว เหลือแต่เพียงเจ้าไปสั่งสมประสบการณ์เองในอนาคต อาจารย์หวังว่าในอนาคตเจ้าจะเป็นยอดยุทธคนหนึ่ง ที่มีทั้งคุณธรรมและความสามารถควบคู่กันไป
     

    อาหารที่อยู่ตรงหน้านั้นมิต้องรอข้า ให้เจ้ากินได้เลยถือว่าเป็นการเลี้ยงส่งสำหรับเจ้าที่สำเร็จการศึกษาจากข้าก็แล้วกัน มีเพียงเรื่องหนึ่งที่ข้ายังเสียดาย ลมปราณหมื่นพิษของข้ามิอาจให้เจ้า เนื่องจากลมปราณภูตอเวจีในร่างของเจ้า อย่าให้มันกลืนกินเจ้า เจ้าจงกลืนกินและควบคุมมันให้ได้ ข้าจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ให้แล้วอยู่บนเตียงหยกที่เจ้าเคยนอนอยู่ประจำ บนนั้นมียาเม็ดหนึ่งขอให้เจ้ากินมัน มันจะกดลมปราณและพลังวัตรของเจ้าไว้ หกส่วน ใช้ออกเพียงสี่ เมื่อใดที่เจ้าสำเร็จภูตอเวจีและควบคุมมันได้อย่างแท้จริง ให้กลับมาหาข้าและข้าจะเป็นคนสลายตัวยานั้นให้เอง เมื่ออ่านจบไม่ต้องตามหาข้า เราไม่จำเป็นต้องกล่าวลาเพราะอีกไม่นานเราก็พบกันใหม่”

    หวงโต๋

     

                อาหารมื้อนั้นกลับรู้สึกอร่อยอย่างบอกไม่ถูก แม้เขาจะไม่เคยชอบอาหารของหวงโต๋เลยก็ตาม ฮุ่ยซิงกินไปทั้งน้ำตาที่ค่อย ๆ หลั่งริน เมื่อจัดการหาอาหารตรงหน้าเสร็จ ฮุ่ยซิงก็เดินไปที่เตียงหยก ก่อนจะพบกับทองคำแท่งหลายก้อน และเสื้อผ้าชุดใหม่สองสามชุด บนนั้นมีกล่องสีทองกล่องหนึ่งวางอยู่ เมื่อเปิดดูก็พบกับเม็ดยาเม็ดหนึ่ง

                “รอข้าก่อนยุทธภพ” ฮุ่ยซิงพูดก่อนจะโยนยาเม็ดนั้นเข้าปากไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×