ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Assassination Classroom ] TROUBLEMAKER

    ลำดับตอนที่ #4 : KARMA

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 63



    CHAPTER 2


    ' TROUBLEMAKER '





    " The best is yet to come "




    หลังจากที่เลิกเรียน นางิสะเเละซึกิโนะก็เดินกลับบ้านตามปกติซึ่งพวกเขาเเยกกันตรงสถานีรถไฟที่มีคนอยู่เยอะโดยเฉพาะเด็กนักเรียน...
    คงเพราะเวลานี้เป็นเวลาเลิกเรียนเเละเเถวนั้นยังมีห้างสรรพสินค้าอยู่ใกล้ๆอีกด้วย

    "เเล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ นางิสะ"

    "อื้อ! เจอกันพรุ่งนี้นะ!"

    หลังจากที่ซึกิโนะเดินออกไปก็มีเสียงเยาะเย้ยดังขึ้นด้านหลังเขา ซึ่งเสียงของสองคนที่พูดขึ้นเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคยนั่นเอง ทั้งสองคนนั้นเคยเป็นเพื่อนรวมชั้นของเขาในอาคารหลักซึ่งพอเขาถูกย้ายมาที่ห้อง E พวกเขาก็เลิกคบกับนางิสะทันที อีกทั้งยังคอยหาเรื่องเขาอยู่ตลอดอีกด้วย


    'เขาดูมีความสุขกับห้อง E จังเลยนะ'
    'โง่สิ้นดี ฉันว่าเขาคงไม่ได้กลับมาห้องเราเเล้วเเหละ'
    'ได้ยินว่าอาคาบาเนะ คารุมะกับฮานามิยะ โยชิโกะก็ย้ายไปเรียนที่ห้อง E เหมือนกันนี่'
    'น่าสมเพชจัง ฉันขอตายดีกว่าย้ายไปอยู่ห้องนั้น'


    แกร๊ง!

    สิ้นประโยคนั้น นักเรียนสองคนนั้นก็ต้องหุบปากลง...ไม่สิ เรียกว่าสั่นกลัวมากกว่า เพราะโดนคารุมะฟาดขวดแก้วที่เสาข้างๆจนแตกกระจาย เเต่เเน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขากลัวไม่ใช่เเค่นั้น เเต่ยังมีฮานามิยะที่ถือแก้วกาเเฟร้อนอยู่ใกล้ๆ กำลังยิ้มเย็นอยู่ด้วยต่างหาก

    "เห พวกนายอยากตายเหรอ? งั้นฉันสงเคราห์ให้เอามั้ย?" คารุมะพูดพลางชี้ปลายแก้วที่แหลมคมไปทางสองคนนั้น

    "อ อ๊ากกกก" ไม่ต้องรอคำตอบ พวกเขาก็หนีไปทันทีราวกับโดนหมาวิ่งไล่กัดเสียอย่างนั้น

    "ฮะฮะ ไม่ได้จะทำจริงซักหน่อย" คารุมะพูดพลางโยนทิ้งทั้งเศษเเก้วเเละท่าทางน่ากลัวเมื้อกี้ไปจนเหมือนกับว่าเขาพูดเล่นจริงๆ

    คารุมะเดินเข้ามาหานางิสะ ที่เป็นจุดประสงค์ให้เขานั่งรอกับคู่หูที่ร้านกาแฟเเทนที่จะกลับบ้านไปหลังจากเลิกเรียนเเล้ว ระหว่างที่กำลังก้าวเข้ามานั้นเขาพึมพำอะไรซักอย่างซึ่งนางิสะไม่ได้ยิน เเต่เธอสามารถได้ยินอย่างชัดเจนด้วยระยะห่างที่ใกล้

    "ฉันมีเป้าหมายจริงๆเเล้ว จะมาถูกพักการเรียนอีกไม่ได้"

    "คารุมะคุง มิยะซัง มีอะไรรึเปล่า?" นางิสะถาม

    "ฉันมีอะไรจะถามนายหน่อยน่ะ พูดไปเดินไปได้ใช่มั้ย?"

    "อื้อ!" เมื่อนางิสะตอบตกลง พวกเขาก็ก้าวเข้ามาในสถานีรถไฟพลางคุยไปด้วย

    "ฉันได้ยินว่านายรู้จักโคโระเซนเซย์ดีใช่มั้ย?"

    "อา ก็ประมาณนั้นเเหละนะ"

    "งั้นเขาจะโกรธมั้ย ถ้ามีคนเรียกเขาว่าปลาหมึก?"

    "ปลาหมึกเหรอ? ฉันว่าเขาน่าจะไม่ได้ไม่ชอบนะ"

    "ทำไมล่ะ?"

    "ก็เขาวาดรูปตัวเองเป็นปลาหมึกบ่อยๆ เเถมเวลาเล่นเกมส์ยังเลือกอวตาร์ปลาหมึกอีก...ดังนั้นฉันคิดว่าสำหรับโคโระเซนเซย์เเล้ว ปลาหมึกคงถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเขาเลยล่ะมั้ง" นางิสะอธิบาย

    "หืม อย่างงั้นเองสินะ~"

    "คิดอะไรดีๆออกเเล้วล่ะสิ?" โยชิพูดออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนสนิทเเสดงความชั่วร้ายออกมาอย่างปิดไม่มิด

    "หึหึ ก็นะ...ตอนเเรกฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าจะทำยังไงดีถ้าเขาเป็นอสูรกาย เเต่เขาดันเป็นอาจารย์ที่ดีซะได้"


    หวูดดดดด

    รถไฟที่เเล่นมาด้วยความเร็วสูงเเล่นผ่านด้านหลังของคารุมะ เผยให้เห็นสีหน้าที่น่ากลัวของเขา
    เเน่นอนว่าโยชิรู้ดีว่าคารุมะไม่ได้รู้สึกดีเลยซักนิดอย่างที่เขาพูดออกมา เเต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากคอยซัพพอร์ตอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด



    "มันต้องยอดเยี่ยมมากเเน่ถ้าฉันฆ่าเขาได้"




    "อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน"

    โคโระเซนเซย์ที่ก้าวเข้ามาในห้องพูดขึ้นด้วยสีหน้าร่าเริงเเต่กลับพบเเต่ความอึดอัดภายในห้องเสียได้ ไม่มีใครตอบรับเขาเลยอีกทั้งยังไม่กล้าสบตาอีกด้วย พอไล่สายตาไปก็พบว่ามีเเค่คารุมะกับโยชิโกะทำนั้นที่ดูมีสีหน้าไม่ทุกช์ร้อนอะไร

    "มีอะไรกันรึเปล่าครับ?"


    ตอนนั้นเองเขาก็มองไปเห็นสิ่งที่อยู่บนโต๊ะ มันคือปลาหมึก ที่ถูกเสียบเอาไว้ด้วยมีดนั่นเอง

    "อ๊ะ ขอโทษทีนะครับ ผมนึกว่านั่นเป็นอาจารย์ก็เลยเผลอฆ่าไปซะได้ งั้นผมจะเอามันไปทิ้งเอง~"

    "...ได้สิ" โคโระเซนเซย์ตอบก่อนที่จะหยิบปลาหมึกมาด้วยหนวดเส้นหนึ่งของเขาเเละเดินมาใกล้ๆคารุมะที่เตรียมตัวโจมตีอีกฝ่ายเต็มที

    ในตอนนั้นเองที่โคโระเซนเซย์กำลังเข้ามาในจุมโจมตีของคารุมะ เขาก็หายไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกลับมาพร้อมมิสไซล์เเละแป้งทำอาหารในมือ โดยทั้งหมดนั่นใช้เเค่หนึ่งวินาทีเท่านั้นเอง ซึ่งไม่น่าเเปลกใจนักสำหรับสิ่งมีชีวิตที่มีความเร็ว 20 มัคเเบบเขา

    "ดูนะคารุมะคุง ด้วยความสามารถของหนวดสว่านของอาจารย์กับมิสไซล์ที่ได้มาจากกองกำลังป้องกันตัวของประเทศ ครูจะไม่ปล่อยให้คนที่ปล่อยฆ่าลอยนวลหรอกนะ...เเล้วก็อาจารย์คิดว่าเธอยังไม่ได้กินมื้อเช้าด้วย"

    คารุมะสำลักทาโกะยากิที่เข้ามาอยู่ในปากทันทีด้วยความร้อนของมัน เเน่นอนว่าเขาไม่รู้ตัวเลยซักนิดว่ามันมาตั้งเเต่เมื่อไหร่ พอรู้อีกทีก็เข้าปากมาเสียเเล้ว โดยมีโยชิโกะแอบกลืนน้ำลายอยู่ห่างๆเพราะว่าวันนี้คารุมะลากเธอออกมาซื้อปลาหมึกด้วยกันเเต่เช้าจนไม่มีเวลาทานข้าวนั่นเอง


    "คารุมะคุง หน้าที่ของอาจารย์คือการดูเเลนักเรียน มันก็เหมือนการขัดมีดที่ขึ้นสนิมนั่นเเหละ...
    ตั้งใจลอบฆ่าให้ดีเเล้วอาจารย์จะดูเเลเธอเอง สุดท้ายร่างกายเเละจิตวิญญาณของเธอ จะถูกขัดเกลาจนเงาวับเลยล่ะ "

    คำพูดเเละการกระทำนั่นเหมือนกับเป็นการประกาศศึกระหว่างทั้งสองคนยังไงอย่างงั้น โดยปกติเเล้วคารุมะควรจะวางเเผนกับเธอเสียก่อนเเต่เจ้าตัวดันพยายามลอบฆ่าเองซะอย่างนั้น ดังนั้นเธอจึงปล่อยเลยตามเลยเเต่ก็ค่อยช่วยไม่ให้มีอะไรอันตรายหรือบานปลายอยู่ข้างๆเเทน


    คาบที่ 1 คณิตศาสตร์ : คารุมะที่คิดจะยิงโคโระเซนเซย์ ดันถูกคว้าปืนเอาไว้ก่อนที่จะยิงซะได้เเถมยังทำเล็บให้เสร็จสรรพอีกด้วย

    คาบที่ 4 คหกรรม : คารุมะคุงที่พยายามจะฉวยโอกาสจากตอนที่ซุปกระเด็น กลับโดนให้ส่วมใส่ผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานเเหววน่ารักอีก


    "นี่มิยะซัง คารุมะคุงน่ะ---"

    "ไม่ไหวหรอก คารุมะตอนนี้น่ะต่อให้ฉันพูดก็ทำอะไรไม่ได้หรอก เขาเป็นพวกไม่ยอมรับความพ่ายเเพ้เเถมยังหัวดื้อเป็นที่หนึ่งอีก"

    เธอที่รู้ว่านางิสะจะพูดอะไรก็ตอบขึ้นมาทันที เพราะถ้าพูดกันตามจริงเธอเเละคารุมะต่างก็มีจุดที่ไม่อยากให้ใครเข้าไปยุ่งทั้งนั้นเเม้เเต่คู่หู ดังนั้นเธอจึงคิดว่ารอให้ผ่านวันนี้ไปคารุมะคงจะใจเย็นเเละวางเเผนรอบคอบเหมือนวันเเรกที่ตัดหนวดได้อีกนั่นเอง

    "ต เเต่ว่า"

    "ตอนนี้เขาก็เเค่หัวร้อนที่โดนเเหย่เท่านั้นเเหละ ไม่มีอะไรมากหรอก"
    เธอพูดพลางชิมซุปที่ตนเองทำขึ้นก่อนจะเบ้หน้าเพราะฝีมือไม่พัฒนาขึ้นเลยเเม้เเต่น้อย


    คาบที่ 5 ภาษาญี่ปุ่น : ไม่ทันที่คารุมะจะเคลื่อนไหวด้วยซ้ำ เขากลับโดนจับได้เสียได้


    โยชิโกะคิดว่าบางทีวันนี้คารุมะคงไม่มีทางโจมตีสำเร็จได้อย่างเเน่นอน จากการคาดเดา ของเธอน่ะนะ





    ท่ามกลางความเงียบ คารุมะที่กัดเล็บอยู่ได้เเต่คิดเเผนการไปเรื่อยเเต่ดูท่าว่าไม่มีเเผนไหนที่จะใช้ได้ผลเลย
    นขณะที่โยชิโกะเองก็นั่งมองท้องฟ้าไปเรื่อยเช่นเดียวกันอย่างเงียบๆไม่ปริปากออกมา

    "โยชิ"

    "คิดอะไรดีๆออกเเล้วเหรอ?"

    "อื้อ ถ้าเธอจำเป็นต่อให้ฉันตาย เธอก็ต้องทำมันต่อนะ " คารุมะหันมามองเธอพลางสื่อความหมายทางสายตา

    "..." โยชิโกะไม่ตอบ เเต่ในเเววตาเเสดงถึงความไม่ยินยอม
    เเน่นอนว่าคารุมะที่รู้นิสัยเธอดี ก็ยังคงสื่อความตั้งใจเเน่วเเน่ออกมาจนเธอต้องเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อนเสียได้


    ตอนนั้นเองที่นางิสะโผล่ออกมา ทำให้การพูดคุยกันระหว่างพวกเธอต้องหยุดลงเสียก่อน

    "คารุมะคุง เมื่อโคโระเซนเซย์จับตาดูนาย ไม่ว่านายจะทำยังไงก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้หรอกนะ พวกเรามาร่วมมือกันเถอะ"

    "ไม่ล่ะ ฉันคงหงุดหงิดน่าดูถ้าเขาตายด้วยฝีมือคนอื่น"

    "คารุมะคุง วันนี้อาจารย์ดูเเลเธอดีมั้ย? พยายามฆ่าอาจารย์ให้เต็มทีเหมือนเดิมนะเเล้วอาจารย์จะขัดเธอให้เงาวับเลยทีเดียว"
    อยู่ๆตัวปัญหาก็โผล่มาซะอย่างนั้น ทำให้ดูเหมือนอารมณ์ของคารุมะดูจะเดือดขึ้นเล็กน้อยเเต่เขาก็ไม่เเสดงสีหน้าออกมา

    "หึ! ผมอยากจะถามคุณอีกทีว่าคุณเป็นอาจารย์ใช่มั้ย?" ถึงคำพูดนั้นจะถามอาจารย์โคโระ เเต่คารุมะกลับจ้องมาทางเธอเสียได้

    เธอหลุดหายใจไปทันทีเมื่อรู้ว่าเขาต้องการให้ทำอะไร จากการคาดเดาของเธอในสถานที่เเบบนี้บวกกับเเนวคิดของคารุมะเเละนิสัยของโคโระเซนเซย์ วิธีเดียวที่มีเเละที่คารุมะจะทำก็คือ วิธีนั้น...

    "ใช่เเล้วล่ะครับ"

    "คนที่เป็นอาจารย์เนี่ย จะยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องนักเรียนของตนเองรึเปล่า?"

    "เเน่นอนสิ ก็เพราะเป็นอาารย์ยังไงล่ะ"

    "ถ้างั้นก็เยี่ยมไปเลย ผมจะได้ฆ่าคุณได้ซักที" คารุมะพูดก่อนที่จะกระโดดลงไป อ๋อ เธอลืมบอกไปว่าตอนนี้พวกเธออยู่บนยอดเขา ดังนั้นถ้าตกลงไปยังไงก็ตายอย่างเเน่นอน เเต่ถึงอย่างนั้นเเหละที่นี่จึงถูกปิดห้ามเข้าเเละมีเเค่พวกเธอที่ใจกล้าเข้ามาเเถมยังยึดเป็นที่พักอีก

    ยังไงก็ตามที่คารุมะกระโดดลงไปอย่างไม่ลังเลนั้น เพราะว่าถ้าหากโคโระเซนเซย์จะช่วยชีวิตเขาก็จะถูกคารุมะที่ถือปืนอยู่ฆ่า ในขณะเดียวกันถ้าหากไม่ช่วยเขา โคโระเซนเซย์ก็จะสูญเสียความเป็นครูไป เเน่นอนว่าอีกเหตุผลที่คารุมะวางใจคือต่อให้เขาตาย โยชิจะฆ่าอาจารย์อย่างเเน่นอน

    ตอนที่คารุมะกำลังจะร่วงหล่นลงถึงพื้นนั้น ภาพในความทรงจำก็ค่อยๆไหลเข้ามา ไม่ว่าจะตั้งเเต่เรื่องครอบครัว คู่หู หรือเเม้กระทั่งปมในอดีตของเขาก็ไหลออกมาทั้งหมดเหมือนกับภาพสโลว์โมชั่นยังไงยังงั้นพอมองขึ้นไปบนยอดผาที่พึ่งกระโดดลงมาก็เห็นหน้าของโยชิ

    ฮะฮะ อย่าทำสีหน้าเเบบนั้นสิ เขาคิดในใจ


    ตอนนั้นเองที่โคโระเซนเซย์พุ่งตัวลงมาอย่างรวดเร็วพลางเปลี่ยนตัวเองเป็นตาข่ายเเละรองรับคารุมะจากด้านล่าง ทำให้เขายิงไม่ได้จากการที่หนวดเหนียวเกินไป อีกทั้งยังสามารถช่วยชีวิตของเด็กหนุ่มได้อีกด้วย

    "คารุมะคุง ทำได้เยี่ยมมากในการลอบสังหารด้วยการเสียสละชีวิตของตนเอง"

    "หนวดคุณนี่มันเหนียวจริงๆ" คารุมะพูดพลางดิ้น เเต่ก็ไม่เป็นผล

    "ไม่อย่างนั้นเธอก็ยิงอาจารย์ได้สิ นุฟุฟุ...ยังไงก็ตามอาจารย์ไม่เคยคิดจะปล่อยให้เธอตาย เพราะงั้นเธอจะมาโดดผาอีกเมื่อไหร่ก็ได้ เเต่ว่านะเธอคงต้องโดนกำปั้นของมิยะซังก่อนล่ะมั้ง? นุฟุฟุ"


    เเน่นอนว่าเป็นอย่างที่โคโระเซนเซย์พูดไม่มีผิดเลย พอขึ้นมาคารุมะก็ได้กินกำปั้นเข้าไปเต็มๆจากผู้ที่เป็นคู่หู

    "อย่าทำเเบบนี้อีกนะเจ้าบ้า!" เธอพูดด้วยความโกรธเเต่ไม่รู้ว่าโกรธมากไปรึยังไง น้ำตามันกลับไหลออกมาเสียได้

    คารุมะรู้ดีว่าโยชิไม่ร้องไห้มานานมากเเล้ว เเต่เรื่องนี้คงสะเทือนจิตใจจริงๆถึงได้ร้องออกมา ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดจะล้อเธอหรือเช็ดหน้าให้เหมือนในหนังเเต่อย่างใดเพราะโยชิไม่ชอบให้ใครทำเหมือนเธออ่อนเเอ เพราะแบบนั้นเเหละเธอถึงได้เก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจหมด

    "ฉันจะไม่ทำเเบบนั้นอีกแล้ว"

    คารุมะพูดเพียงเเค่ประโยคเดียวเท่านั้น เเต่มันเหมือนเป็นการสื่อความหมายอะไรหลายอย่างในประโยคนั้น

    "...สาบานสิ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้เล็กน้อย


    "ฉันสาบาน"





    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×