คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : BECAUSE OF VODKA ll COMMU SG ; BOYARED
TITLE : BECAUSE OF VODKA {BOV}
PAIRING : BOYA AND RED FT.SWEET GUY’S MEMBERS
& COUPLES(?)
AUTHOR : แม่บ้านที่ไม่เคยปรากฏกายในบริษัท
RATING : 15-17 (ข้านั้นแต่งNCไม่เป็น... )
**เนื้อหาอาจจะไม่ตรงตามที่คุยกันทั้งหมดน้าอาจจะเพิ่มลดบางส่วนนะคะอิอิส์เพื่อความฟินของตัวข้า/อินี่ ** แต่พอลองไปหาข้อมูลจริงจังมาเค้าบอกว่าวอดก้ามันเบาที่สุดแล้วอ่ะกรรมแบ
;_;
Because Of
Vodka .
ติ้ด..ติ้ด...
เสียงเคลื่อนที่ของเข็มวิธีเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้รู้ว่าในห้องนี้ยังไม่เงียบเกินไปนอกเหนือจากเสียงหอบหายใจเบาๆที่ออกมาจากคนที่ทรุดอยู่ข้างโซฟา
“คุณเร้ด คุณโอเครึเปล่าครับ!?” โบย่ารีบเดินเข้าไม่ใกล้คนที่หน้าขึ้นสีกว่าเก่าด้วยความเป็นห่วงเพราะยังไม่ทราบถึงความผิดปกติจริงๆของคนตรงหน้า
นี่มันอะไร
อา..ต้องเป็นเพราะดื่มของไม่คุ้นแน่ๆ
ร่างกายร้อนไปหมด ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงแล้ว
“คุณเร้ดครับตอบอะไรหน่อย!”
แรงตบหน้าเบาๆช่วยเรียกสติกลับมาได้อีกครั้ง เสียงหอบหายใจเฮือกที่ดังมาจากคนที่เพิ่งลืมตาทำให้หัวใจของโบย่าเต้นแรงขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุมีเรียวเอื้อมไปลูบใบหน้าที่มีเหงื่อผุดออกมา
ดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำนั่นทำให้ต้องหยุดชะงัก
“คุณเร้ดครับ คุณ....” เขาเอ่ยเรียกอีกครั้ง
หากจะให้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้มันก็เหมือนราวกับเป็นแม่เหล็ก
คนหนึ่งเป็นขั้วบวก คนหนึ่งเป็นขั้วลบ
ความรู้สึกที่ดึงดูดกันจึงเกิดขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
เร้ดคว้าเอาคนตรงหน้าเข้ามากอดแน่นก่อนจะซุกหน้าลงที่ไหล่กว้าง
เสียงกระซิปแหบเบาราวกับเป็นตัวจุดประกายทุกอย่าง
“โบย่า...อึ่ก..อือ....”
ทันทีที่สัมผัสอุ่นประทับลงบนริมฝีปากตัวเองในหัวของเร้ดก็กลับกลายเป็นสีขาวโพลน
พอจะเปิดปากพูดก็เหมือนเป็นอนุญาตให้ลิ้นอีกฝ่ายลุกล้ำเข้ามา
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
คำถามที่เกิดขึ้นภายในหัวใจของทั้งคู่ หากจะหาเหตุผลคงเป็นไปได้ยากเพราะเพียงฤทธิ์แอลกอลฮอลล์คงไม่ทำให้อารมณ์เร้าร้อนเกิดขึ้นได้มากมายขนาดนี้
“แฮ่ก..อะ..อือ..” ถ้าไม่มีข้อจำกัดเรื่องอากาศที่ใช้หายใจก็ไม่มีใครรู้เลยว่าจูบนั้นจะจบลงเมื่อไหร่
เมื่อดวงตาสีฟ้าสบกันก็รีบหลบตาทันทีที่นึกได้ว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไป
“เอ่อ.....ขอโทษ คุณไปอาบน้ำเหอะ”
“ผมจะไปได้ไงล่ะครับก็คุณกอดผมอยู่แบบนี้”
เสียงทุ้มต่ำกระซิปที่ข้างหูเล่นเอาเร้ดสะดุ้ง “ที่สำคัญคุณ..เริ่มเองนะ”
“ก็ใช่..แต่มันไม่ถูกต้อง... และคงไม่ดีเท่าไหร่สำหรับคุณคุณก็รู้...”
เขาตอบตามความจริง
“สมมติมีสิบคนให้คิดเรื่องเดียวกันมันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้มีความเห็นไปทางเดียวกันทั้งหมดแน่นอน
สำหรับผมถ้าโอเคทั้งสองฝ่ายมันไม่มีคำว่าผิดหรอกนะครับ
แล้วที่สำคัญผมไปพูดแบบนั้นตอนไหนกัน หืม?” พูดจบโบย่าก็ดึงแว่นที่เกะกะออกและกดจุมพิตลงมาอีกครั้งเพื่อให้อีกฝ่ายคลายกังวล
แทนคำตอบรับเจ้าของเรือนผมสีแดงก็เปลี่ยนตำแหน่งมือจากแผ่นหลังไปกดที่ท้ายทอยอีกฝ่ายเพื่อรับสัมผัสให้มากขึ้น
บทพลงรักได้เริ่มบรรเลงแล้วโดยคนสองคน
ท่วงทำนองที่เปี่ยมล้นไปด้วยไฟที่กำลังโหมกระหน่ำแรงขึ้นอยู่ภายในบวกกับการได้เชื้อเพลิงอย่างรสวอดก้าที่ฝาดขมที่ยังติดค้างอยู่ในปาก
ใครที่หยุดหรือหลีกหนีก็เหมือนกับจะถูกแผดเผาซะเอง
เมโลดี้หอมหวานที่ถ่ายทอดออกมาราวกับไม่มีสิ้นสุดนี้กลับแฝงไปด้วยบางสิ่งที่กำลังก่อตัว
คืออะไรกันนะ
..
.
.
..
.
แสงของดวงตะวันยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านสีเข้มเนื้อดีมากระทบใบหน้า
ร่างที่เคยหลับสนิทๆค่อยๆชันกายลุกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือของตนปัดไปโดนตัวของอีกคนที่กำลังหลับอยู่
ผมสีไพฑูรย์ที่ส่องประกายนั่นทำให้ต้องขยี้ตาเพื่อปรับสภาพอีกครั้ง
นาฬิกาดิจิตอลที่หัวนอนบอกเวลาหกโมงยี่สิบเจ็ดนาที
เมื่อสติกลับมาเต็มร้อยดั่งเดิมชายหนุ่มก็คว้าเอาเสื้อแขนยาวและกางเกงขาสั้นที่ไม่ได้ถูกใช้เป็นชุดนอนตามที่วางแผนไว้และเดินเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล
สายน้ำอุ่นที่ไหลผ่านช่วยชำระล้างและเยียวร่างกายที่เหนื่อยหล้า
ความทรงจำที่ขาดๆหายๆของเรื่องเมื่อวานค่อยๆกลับคืนมาทีละน้อย
มันเริ่มจากที่ตัวเองออกปากชวนเพื่อร่วมงานไปผ่อนคลายอารมณ์ที่บาร์สินะ..
“วันนี้มีใครว่างรึเปล่า?
ไปบาร์XXกับชั้นมั้ย ” เสียงชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าปีเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบให้ห้องรับรองของบริษัท
เนื่อจากวันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งมีลมพัดเย็นสบายตลอดวันอีกทั้งงานยังเสร็จเร็วกว่าปกติเจ้าของเรือนผสีแดงจึงถือโอกาสไปสถานที่พักผ่อนของเขาแต่ถ้าไปจะคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนก็คงเบื่อแย่
ตามจริงเขาเองก็ไม่คาดหวังผลตอบรับมากเพราะตัวเองก็เพิ่งรู้จักกับเพื่อนร่วมงานได้ไม่นาน
แต่ดูท่ามันจะออกมาดีกว่าคิด
J
“ผมว่างนะครับ”
มันทำให้คนถามรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเพราะสองคนที่เอ่ยตอบพร้อมกันคือทาลลี่และดีวานที่ไม่ค่อยได้คุยด้วยเท่าไหร่
“ว่างสิครับ”
อีกคนก็ไม่แพ้กันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากออตโต้คนที่เร้ดสังเกตุว่ามักจะยิ้มแย้มอยู่เสมอไม่เหมือนกับสองคนนั้นที่มักคงสีหน้าเรียบนิ่ง
“ผมก็อยากไปด้วยนะครับผม”
น้ำเสียงเริงร่าที่ได้ยินบ่อยในช่วงนี้เป็นของโบย่า
ผู้เป็นเจ้าของแว่นตาประหลาดที่เร้ดไม่เคยพบเคยเห็นในโลกนี้
ถึงแม้จะติดนิสัยแปลกๆอย่างคุยกับขนมปังแต่นอกนั้นปกติดี “โอ๊ะ
ชุดนั้นน่ารักเชียวนะครับ?” เขาพูดขึ้น แน่ล่ะ
ส่วนใหญ่ก็คงไม่ค่อยเห็นใครใส่ชุดอื่นนอกเหนือยูนิฟอร์มที่กำหนดไว้
“โอ้
ขอบใจนะโบย่า” คนอายุมากกว่ายิ้มรับ “นายจะเปลี่ยนชุดมั้ย”
“ไม่ล่ะครับไปชุดนี้นี่แหล่ะ”
เจ้าตัวพูดอย่างมั่นใจ
“ชั้นคงไม่เปลี่ยนล่ะนะรีบไปก็ดี
พอดีกำลังหนีคนอยู่”
ดีวานพูดขึ้นพลางกวาดสายตาไปรอบๆแล้วเดินนำออกไปทิ้งให้คนที่เหลือสงสัยไปตามๆกัน
‘หรือเขาจะโดนาเฟียตามล่ากันนะ...’ ความคิดไร้สาระได้ผุดขึ้น
ถึงจะเป็นเรื่องจริงเขาก็ไม่รู้จะต้องยังไงนอกจากแนะนำให้ไปแจ้งตำรวจ
แต่ดูถ้ามันจะไม่ได้เรื่องร้ายแรงขนาดนั้นเพราะดูจากสายตาที่เต็มไปด้วยความว้าวุ่น
คนที่ทำให้เป็นแบบนี้ได้คงมีคนเดียวคือ
เฟย์โร่ นักชิมที่มากด้วยความสามารถ
ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มจะชัดเจนขึ้นจากการสังเกตการณ์มานาน(?)ของทุกคน
ซึ่งตอนนี้อาจจะตกลงปลงใจกันไปแล้วก็เป็นได้ -,.-
“คุณแฟรงค์ก็จะไปด้วยสินะครับ?”
เร้ดหันไปถามคนที่ทำลูกอมได้เก่งเป็นอันดับต้นๆของบริษัท “ขอบคุณที่ชวนครับ!
ผมก็ไม่ได้ไปนานแล้วด้วย”
“ดูท่าคุณเร้ดนี่จะคอแข็งมากเลยสินะครับเห็นจิบไวน์ตลอดเลย”
หนุ่มผมสีไพรฑรูย์พูดขึ้นระหว่างเดินไปออกจากอาคาร “อดเห็นคุณเร้ดเมาซะแล้ว”
รอยยิ้มน้อยปรากฏขึ้นหลังจากที่นิ้วเรียวดันแว่นให้กับสู่ที่เดิม
“ก็ไม่ทราบสิครับ
ผมเองก็เคยดื่มแต่ไวน์ด้วย กับอย่างอื่นก็ไม่แน่นะครับ
คุณโบย่าเถอะอย่าเมาซะเองล่ะครับ” พูดจบก็ยิ้มออร่า(?)ตามสไตล์ตัวเองทันที
สำหรับเขาสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีนอกเหนือจากการทำขนมหนึ่งในนั้นก็มีแต่หนังสือกับไวน์นี่แหล่ะมันเหมือนเปรียบได้กับยาที่ทำให้รู้สึกสงบ เท้ายาวก้าวขึ้นรถไปนั่งที่นั่งข้างคนขับก่อนจะคาดเข็มขัด
“หึๆ
ผมเองก็ไม่ได้เมาง่ายขนาดนั้นหรอกข้ามคืนก็ยังไหว”
มันจะเหมือนออกมาจากปากเด็กน้อยคนนึงหากแต่คำพูดที่เหมือนล้อเล่นนั้นกลับรู้สึกได้เลยว่ามันเป็นไม่ได้เป็นแค่เรื่องโม้
“โห แบบนั้นอาจจะคอแงกว่าผมอีกนะครับ แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น
ของแบบนี้ต้องลองล่ะครับ” เร้ดพูดตอบอย่างท้าทาย
โดยส่วนตัวเขาค่อนข้างมั่นใจในการดื่มของตัวเองเป็นอย่างมาก “โอ้นั่นคุณมึนนี่นา
แต่เหมือนเขาจะไปรถคุณดีวานแฮะ”
“อาน่าจะเป็นอย่างงั้นนะครับ
รีบไปดีกว่าเดียวจะตามคนอื่นไม่ทัน” โบย่าตัดบทสนทนาก็จะออกตัวรถตามไปติดๆ
เสียงเพลงแดนซ์ดังกระหึ่มออกมานอกร้านที่ถูกบรรเลงโดยฝีมือของดีเจอ
ทำให้อารมณ์ของเหล่าแขกที่มาเยือนต่างพุ่งพล่านมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะนั่งอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะเคาะนิ้วตาม
“Everybody, Put Your Hands Up
!!!!!!!!”
สิ้นเสียงต่ำนุ่มอันเป็นสัญญาเริ่มต้นความมันส์เสียงโห่ร้องของเหล่าวัยรุ่นที่เจือปนไปด้วยความสนุกก็ดังขึ้น
เมื่อเพลงบีทหนักเริ่มบรรเลงต่างคนก็ต่างโชว์ลีลาการเต้นออกมาอย่างไม่มีใครยอมใคร
และอย่างที่รู้กันของเหล่าแขกผู้มาเยือน ผู้คนค่อยๆเดินไปชิดริมกำแพงเพื่อสร้างพื้นที่สำหรับโปรแกรมสุดพิเศษประจำเดือน รึก็คือการโชว์แรพและบีบอย จริงๆเร้ดก็ไม่ทราบว่าวันนี้จะมีการแสดง
แต่ก็รู้สึกโชคดีเป็นอย่างมากที่มาได้ถูกเวลา
เสียงกรื้ดดังก้องเหมือนเป็นการต้อนรับเหล่านักเต้นให้ออกมาดวลฝีเท้ากันอย่างเมามันส์
บวกกับแรพที่มีเนื้อหาเสียดสีสังคมทำให้ความสนุกทวีคูณมากขึ้นไปอีก
ไวน์แก้วที่สามถูกกระดกหมดในรวดเดียว
ถึงรสชาติจะไม่ได้ถูกใจอย่างที่คิดแต่ก็ไม่ได้ผิดหวังบวกกับตัวเองกำลังเพลิดเพลินกับภาพตรงหน้าจึงไม่ได้ใส่ใจมากมายเท่าไหร่
“โห
นี่คุณเร้ด ออกปากชวนมาวันนี้เพราะอยากให้ดูโชว์พิเศษประจำเดือนสินะครับ”
คนอายุน้อยกว่าพูดขึ้นพลางโบกใบปลิวโปรโมตบาร์ไปมา “ตามจริงผมเองก็ไม่รู้หรอก
แต่แบบนี้ก็ถือว่าโชคดีไม่น้อยเลย หืม?”
คิ้วสวยได้รูปเลิกสูงทันทีที่คนที่นั่งข้างๆรินของเหลวแปลกตาเกรดเอลงมาในแก้วของตน
“เอ
หน้าแบบนั้นอย่าบอกนะว่าลืมไปแล้วเรื่องสัญญาที่ผมจะเลี้ยงวอดก้าไปแล้วน่ะ”
ไวน์เป็นศิลปะในการดื่มแอลกอฮอล์ของคุณสินะครับเนี่ย
ดีล่ะ! ครั้งหน้าผมจะพาไปดื่มวอดก้าแล้วกัน
“อ๋อ จำได้สิ
ขอบคุณนะครับ” เมื่อนึกถึงประโยคดังกล่าวก็ดังแว่วเข้าในหู “ว่าแต่คนอื่นล่ะครับ?”
ชายหนุ่มถามขึ้นหลังจากที่กวาดสายตาไปรอบๆกลับไม่เจอใครที่ชวนมา
“คุณมึนกับคุณทาลลี่นั่งดื่นอยู่ที่เค้าท์เตอร์ด้านหน้า
ส่วนคุณดีวานโดนคุณเฟย์โร่ตามกลับไปแล้วละมั้งครับ
ฮะๆ”น้ำเสียงติดตลกเอ่ยขึ้นพลางจิบของเหลวในแก้ว เมื่อเห็นดังนั้นมือเรียวก็เอื้อมไปคว้าเอาแก้วที่บรรจุเครื่องดื่มสีขาวสวยขึ้นมาดื่มบ้าง
รสฝาดขมแปลกใหม่ที่ได้รับเหมือนกับตอนที่ลองชิมไวน์ใหม่ๆเล่นเอาต้องเบ้หน้า
“อึ่ก... รสชาติแรงกว่าที่ผมคิดนะครับเนี่ย”
“ค่อยๆดื่มก็ได้ครับเป็นปกติของคนลองดื่มเป็นครั้งแรก
จะว่าไปบ้านคุณเร้ดอยู่แถวไหนเหรอครับ?” โบย่าเปิดประเด็นพูดคุยขึ้น
“อยู่คอนโด XX
ตรงใกล้ๆย่านXXน่ะครับ”
“โอ้โห
คงสะดวกมาเลยสินะครับแถมใกล้บริษัทด้วย น่าอิจฉาจังนา”
“ในระดับนึงเลยล่ะครับ
จริงๆห้องว่างเหลือก็ยังพอมีนะครับ ถ้าคุณสนใจก็บอกนะ”
เร้ดพูดพลางกระดกวอดก้าเข้าปากอีกครั้ง
มันไม่ได้แย่เหมือนครั้งแรกและเหมือนเขาจะเริ่มติดใจจนต้องดื่มอีกจนหมดแก้ว
“แน่นอนครับ!
จริงๆตอนนี้ผมก็อยู่ห้องเช่าปกติอยู่เพราะยังหาที่ปักหลักดีๆไม่ได้ซะที
ไม่ทราบว่ามีแผนที่หรืออะไรมั้ยครับ?” เมื่อเห็นว่าเครื่องดื่มที่เพิงรินให้ไปหมดอย่างรวดเร็วเขาก็จัดการเติมให้อีกฝ่ายทันที เจ้าของเรือนผมสีแดงโค้งให้เป็นการขอบคุณเล็กน้อยก่อนจะหยิบใบปลิวมาพลิกด้านหลังและลงมือเขียนสิ่งที่ถูกถามมาและยื่นให้
“อ๋ออออออ ตรงนี้น่ะเอง ถ้าได้อยู่ที่นี่คงดีมากเลยผมตื่นเช้าไม่ค่อยได้น่ะครับ”
“แบบนั้นก็ลำบากแย่เลย
ไว้สะดวกวันไหนก็นัดผมก็ได้นะครับเดี๋ยวจะติดต่อเจ้าของให้”
บทสนทนายังคงดำเนินต่อไปท่ามกลางความวุ่นวายราวกับโลกนี้มีเพียงแค่สองคน
เครื่องดื่มแอลกอลฮอลล์หมดไปแล้วขวดแล้วขวดเล่าโดยไม่มีใครรู้สึกตัว
แกร็ง..
เสียงแก้วที่ถูกปัดกลิ้งไปบนโต๊ะโดยคนที่เริ่มโดนฤทธิ์ของสิ่งที่ดื่มเล่นงาน
ภาพตรงหน้าเริ่มเอนเอียงและมืดมากกว่าเดิม
“คุณเร้ดครับไหวรึเปล่า
ขวดนี้ก็หมดแล้วด้วยจะกลับเลยมั้ยครับ” อีกคนที่ว่าจะดื่มต่อหันมาถาม
“อืม...
ผมว่าผมพอก่อนดีกว่า” เขาตอบพลางนวดขมับตัวเองเบาๆ
“งั้นเดี๋ยวผมไปส่งนะครับ?”
โบย่าพูดจบก็เดินมาช่วยพยุงร่างที่แทบจะล้มแหล่มิล้มแหล่แต่ด้วยความสูงที่ต่างกันเขาจึงเปลี่ยนเป็นการแบกอีกคนขึ้นหลังแทน
“โอย...ไม่เป็นไรหรอกครับเดี๋ยวผมนั่งแท็กซี่..กลับ..
อือ...เองดีกว่ารบกวนคุณแย่” ลมหายใจเบาๆและเสียงอู้อี้ที่ออกจากใบหน้าที่ซุกอยู่กับไหล่ของตนเองทำให้รู้สึกโหวงๆตามมาด้วยจังหวะของก้อนเนื้อที่อกด้านซ้ายที่ถี่ขึ้นกว่าเดิม..
เด็กหนุ่มสะบัดหัวตัวเองก่อนะตัดสินใจมองข้ามและเดินไปที่รถ
“เดี๋ยวผมไปส่งดีกว่าครับ คุณเร้ดไม่ไหวจริงๆแล้ว... ”
“อืม..ขอบคุณครับ...”
บนถนนในเวลาเช่นนี้ที่ปราศจากรถราที่หนาแน่นดั่งเช่นปกติทำให้เขามาถึงที่หมายเร็วกว่าที่คำนวณไว้
กระดาษใบปลิวที่ถูกใช้เป็นแผนที่ถูกวางไว้ที่ข้างเบาะ
เขารู้สึกโชคดีที่ได้เลือกชวนคุยเรื่องดังกล่าวไปมิเช่นนั้นคงต้องขับหาวุ่นวายเป็นแน่
“ถึงแล้วครับ”
“อือ...” การประครองสติมาจนถึงตอนนี้ก็ถือว่าเต็มกลืนแล้วสำหรับตัวเอง
มือทั้งสองข้างพยายามปลดสายคาดอยู่นานแต่ก็ไม่สำเร็จซะที
โบย่าเห็นดังนั้นจึงเอี้ยวตัวไปช่วยแต่ผลของมันทำให้ใบหน้าคมได้รูปนั่นอยู่ห่างจากใบหน้าของของเร้ดไม่ถึงหนึ่งคืบแต่ดูท่าจะเจ้าของแว่นแปลกตาจะรู้ไม่ตัวเลย
ว่าทำให้เลือดสูบฉีดที่แก้มมากขึ้นขนาดไหน...
“ป้ะครับ
เดี๋ยวผม.. ค..คุณเร้ด!? หน้าคุณแดงมากเลยแย่แล้ว รีบขึ้นไปพักเถอะครับ”
เขาจับหน้าแดงก่ำนั่นไปมาอย่างระมัดระวังก่อนจะรีบผละออกไปเพื่อช่วยเปิดประตูให้อีกฝ่ายลงได้อย่างสะดวก
วืด.... ทิวทัศน์รอบกายกลับมามืดสลัวเป็นระยะอีกครั้งเมื่อพยายามจะเดิน
แต่ละก้าวกว่าจะนำร่างที่หนักอึ้งอย่างไร้สาเหตุไปจนถึงลิฟธ์ได้เล่นเอาเหนื่อย
สุดท้ายก็มาหยุดที่ภาพเบื้องหน้าก็เป็นห้องรับแขกอันแสนคุ้นเคยที่ค่อยๆเลือนลางไป
ถึงจะผ่านมาหลายชั่วโมงแต่ความรู้สึกนั้นก็ยังตราตรึง
ทั้งร้อน
ทั้งอึดอัด
แค่สองอย่างนี้ก็ทำเอาแทบบ้า
จนเผลอทำอะไรหน้าอายออกไปแถมยังมาจบที่เตียงอีก
เมื่อนึกถึงหัวใจก็กลับมาเต้นแรงจนเกือบหลุดออกมาจากอกอีกครั้ง
ถ้าต้องคุยกันจะพูดอะไรล่ะ....
เขาจะจำได้รึเปล่า...
คำถามยังวนเวียนจนผ่านไปราวครึ่งชม. เขาจึงตัดสินใจที่จะออกไปทำกิจวัตรตามปกติแทน
ร่างที่นอนนิ่งยังไม่มีแววจะตื่นนั่นทำให้เขาสบายใจขึ้นมามาก
ควันที่ออกมาจากกาน้ำร้อนเรียกสติกลับมาจากภวังค์อีกครั้ง
เร้ดเดินไปที่เคาท์เตอร์ก่อนจะลงมีชงกาแฟโดยไม่ลืมที่จะทำเผื่ออีกคน
กลิ่นหอมกรุ่นที่ลอยล่องช่วยทำให้จิตใจกลับมาสงบมากขึ้น..
แต่ก็ไม่นานพอ
เสียงกุกกักที่ดังมาจากในห้องนอนพาความกังวลกลับมาอีกครั้ง
แย่แล้ว.....
ตึกๆ ๆ
กำลังจะเดินออกมาแล้วโอ้ย
.... จะบ้าตาย
“โอ้ คุณเร้ดอรุณสวัสดิ์ครับ”
เสียงสดใสดังขึ้นที่ด้านหลังก่อนจะตามมาด้วยสัมผัสที่ต้นแขน “โห กาแฟดำของXXXสินะครับเนี่ยกลิ่นแบบนี้”
“ช..ใช่ ดื่มมั้ย?”
เขายื่นแก้วที่ถืออยู่ให้อีกฝ่ายแต่มือกลับสั่นเหมือนเสียงที่ได้พูดออกไป
คนเพิ่งตื่นเห็นแบบนั้นจึงเอื้อมไปประครอง
สัมผัสอุ่นๆที่แผ่ซ่านเหมือนเป็นตัวเชื่อมให้ทั้งสองสบตากันอีกครั้ง
โบย่าเปลี่ยนความคิดที่จะชิมเครื่องดื่มร้อนรสเริศนั่นและวางแก้วลงก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ไม่ต้องคิดมากเรื่องเมื่อคืนหรอกนะครับ”
ยิ้มบางเผยบนใบหน้าของเขาทันทีที่จบประโยคก่อนจะจับมือเรียวสวยที่เย็นเฉียบ “ที่ออกมาช้าเพราะผมก็ยังสับสนอยู่ไม่ต่างกัน
แต่ถึงแบบนั้นผมว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิด การกระทำต่างๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น
ในนี้” เด็กหนุ่มชี้ไปที่ตำแหน่งของหัวใจ “มันไม่ได้เป็นเรื่องโกหกใช่มั้ยล่ะครับทั้งของคุณและของผม”
“คือว่า...ก็ถูก.. ต แต่...แต่แบบนี้หมายความว่ายังไง” เร้ดเริ่มพูดไม่เป็นภาษาทั้งๆที่มีประโยคมากมายที่อยากจะกล่าวออกไป
“อืม... ” ฝ่ายถูกถามเงียบไปสักพัก
“ผมเองก็อธิบายไม่ได้...แต่ในทางกลับกันถ้าผมถามกลับคุณเร้ดเองก็คงตอบไม่ได้เหมือนผมใช่มั้ยล่ะทั้งเรื่องที่เพิ่งผ่านมา..และสาเหตุที่ทำให้หัวใจตอนนี้เต้นแรงได้ขนาดนี้น่ะ”
อา...นั่นสิ
มันคืออะไรกันนะ ไอที่มันอยู่ในส่วนลึกสุดๆ
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน... อะ..”
ครั้งนี้กลับกันคนที่สูงกว่าเป็นฝ่ายถูกคว้าเข้าไปในอ้อมแขนเสียเอง
กลิ่นหอมหวานขอแชมพูที่ติดอยู่ที่ปลายผมแปลกตานั่นช่างหอมกว่าที่เคยเป็น น้ำเสียงอบอุ่นที่ข้างหูดังขึ้น
“งั้นมาหาคำตอบไปด้วยกันมั้ยล่ะครับ”
วันเวลายังคงผ่านพ้นไปเรื่อยๆ
ไม่ใครจะทราบได้ว่าทั้งสองคนจะรู้สึกตัวเมื่อไหร่
ทั้งที่มันค่อนข้างง่ายและชัดเจนแต่กลับไม่กล้าจะยอมรับ
แต่มันคงมาถึงสักวันตราบใดที่มือคู่นั้นยังไม่ปล่อยจากัน
เมโลดี้หอมหวานที่ถ่ายทอดออกมาราวกับไม่มีสิ้นสุดนี้กลับแฝงไปด้วยบางสิ่งที่พวกเขากำลังค้นหา
ความรัก.
ความคิดเห็น