คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความลับที่ 01 ::
ภายในห้องทำงานของบริษัทใหญ่ที่รับออกแบบภายในและกองนิตยาสารแฟชั่นชื่อดังที่ไม่มีไม่รู้จักซึ่งคนที่รับตำแหน่ง บก.คนสวยก็คงไม่พ้นคนที่กำลังนั่งอ่านงานทุกชิ้นที่ถูกส่งเข้ามาจนลืมเวลาอาหารกลางวันจนต้องมีใครบางคนมาเคาะประตูหน้าห้องดวงหน้างามเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงเจ้าของใบหน้าคมคายและรอยยิ้มแสนอบอุ่นนั่นก่อนจะยิ้มตอบกลับด้วยรอยยิ้มบางๆ
“เห็นมีคนโทรไปบอกว่า บก.คนสวยไม่ยอมไปหาข้าวกลางวันกินเลยต้องมารับ”
“แหม ก็งานมันเยอะ นี่คะ คุณมือปราบถัง เพ่ยฮว๋าจะลุกไปเข้าห้องน้ำยังไม่ได้เลย”
“งั้นให้พี่มาอุ้มไปเลยมั๊ย”พูดไม่พอทำท่าจะลุกล้ำเข้ามาอีกต่างหากมือเรียวยกแฟ้มงานฟาดไปทีนึงเป็นการลงโทษเพ่ยฮว๋าหัวเราะอย่างถูกใจก่อนจะหยุดยืนรอสาวเจ้าหยิบเก็บข้าวของใส่กระเป๋าใบสวยแล้วเดินมาหาเขา“วันนี้กินข้าวเสร็จแล้ว ไปซื้อของแต่งบ้านเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ”
“เอาตามนั้นก็ได้ค่ะตอนบ่ายหลินไม่มีระชุมอะไรเหลือแค่ต้องรีบปิดต้นฉบับหนังสือ”เชรินตอบพร้อมกับรอยยิ้มเหมือนเช่นเคยทั้งคู่เดินออกจากห้องไปพร้อมกันท่ามกลางสายตาที่แสนจะอิจฉาสองคนนี้หัวหน้างานคนสวยของตัวเองจะมีใครโชคดีเท่าผู้หญิงคนนี้คงไม่มีอีกแล้วที่ได้ผู้ชายแสนเพอร์เฟ็คทั้งนิสัยและหน้าตาไหนจะหน้าที่การงานมั่นคง ชาติตระกูลดีอีกแต่จะมีใครรู้วาความสัมพันธ์ของทั้งคู่มันไม่เคยเกินเลยคำว่าพี่น้องเลยแม้แต่น้อย
ทางด้านสารวัตแห่งกองปราบรูปหล่อที่นั่งอ่านงานในแฟ้มอาชญากรอยู่ค่อยเอาแฟ้มงานสีน้ำเงินโยนลงบนโต๊ะทำงานมือหนายกขึ้นนวดหว่างคิ้วเบาๆเพื่อคลายความเมื่อยล้าและความตรึงเครียดเสียงประตูเปิดออกที่ทำเอาชายหนุ่มแทบจะด่าเปิงไปแต่ปากก็ต้องสงบลงแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มช้าๆ
“เครียดมากรึเปล่าคะสารวัตร เจมี่ซื้อขนมมาฝาก”ว่าขึ้นพร้อมกับยกถุงขนมมากมายที่อุตส่าห์ซื้อมาฝากสารวัตรูปหล่อขวัญใจสาวๆทั้งในแหละนอกกองปราบ
“ลมอะไรหอบมาถึงนี่ล่ะ”
“แหมกองปราบมันก็ไม่ได้อยู่ไกลสักหน่อยอีกอย่างหลงย้ายมาทำงานฝั่งนี้ทั้งทีมาเยี่ยมมั่งไม่ได้เหรอ”เจ้าของเรือนผมสีหวานตอบพร้อมกับเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับพ่อมังกรหนุ่มรูปหล่อที่กำลังซดกาแฟดำเครื่องดื่มประจำตัวยามที่ไม่ได้ไปดูดนิโคตินในเวลาที่กำลังเครียดแบบนี้“คิ้วผูกโบว์หมดแล้วคลายๆซะบ้าง”
“ก็ไม่ได้ดูดมาสามวันแล้วนี่”
“ไอ้ที่บอกไม่ได้ดูดนี่นมหรือบุหรี่คะ”
“ทั้งสองอย่างแหละ”พูดเฉยๆไม่ได้ต้องยื่นหน้ามาส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้เขาอีกจนคนที่แพ้สายตาแบบนี้ถึงกับต้องอายม้วนก้มหน้าลงทันทีพลางกับใช้มือยันใบหน้าคมสันนั่นให้ออกห่างไป
“หลงทะลึ่ง”
“ใครชวนทะลึ่งก่อนล่ะ มาโทษกันไม่ได้นะ”หลงเทียนพูดพร้อมกับทิ้งหลังลงบนเก้าอี้ทำงานประจำตำแหน่งตัวเองมือก็ไม่ลืมหยิบแฟ้มงานนั่นไปเปิดดูเล่นๆ
“สารวัตขา!!!!”เสียงหวานลากยาวที่ประตูเปิดมาพร้อมกับแม่สาวทรงโตที่หน้าอกหน้าใจเรียกได้ว่าสูสีกับสาวลูกครึ่งที่นั่งอยู่ก่อนหน้านี้เลยก็ว่าได้ถูกปกปิดด้วยเสื้อสายเดี่ยวสีร้อนแรงกับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเข้มดวงหน้าสวยนั่นอาจเป็นเพราะเครื่องสำอางเลยทำให้ดูแก่เกินวัยของตัวเอง“แม่ให้เอาปิ่นโตมาให้ค่ะ อ้าวมีแขกอยู่เหรอคะ”
“ขอบใจมากนะซันเหลียง”พูดไปก็ไม่ได้มองแม่หญิงผู้นั้นเลยแม้แต่น้อยดวงตาคมที่ถูกเลนส์ใสมาบังอยู่ยังคงจับจ้องกับแผ่นงานแฟ้มที่อยู่ในมือของตัวเอง
“แหมสารวัตขาไม่เงยหน้ามามองก่อนเลยว่า วันนี้ฉันสวยรึเปล่า”พูดไม่พอเดินมาคอตำรวจหนุ่มรูปหล่ออีกทำเหมือนคนที่นั่งหัวโด่อยู่ไม่ได้อยู่ในห้องนั้นเลย
“ไม่อ่ะพอดีมีงานด่วนออกไปได้แล้วไป”พูดจบแม่สาวคนนั้นก็ลุกขึ้นพลางกับกระทืบเท้าปึงปังเดินออกจากห้องไปทันทีทำเอาชายหนุ่มถึงกับต้องใช้มือเช็ดรอบคอตัวเองช้าๆ
“แหมเสน่ห์แรงเหมือนเดิมนะ จะสามสิบแล้ว”
“ว่าแต่คนอื่นตัวเองก็จะสามสิบแล้วเหมือนกันแหละ แล้วนี่กินข้าวมารึยังกินด้วยกันสิ”หลงเทียนพูดพร้อมกับวางแฟ้มในมือลงก่อนจะไปจัดการกับเถาปิ่นโตนั้น
“ไม่อ่ะเจมี่กลัวอ้วน”
“กลัวทำไมกินด้วยกันแหละหลงกินคนเดียวไม่หมดหรอก”พูดไปก็เดินไปหยิบจานาแบ่งข้าวในปิ่นโตแถวล่างสุดพร้อมกับวางไว้ตรงหน้าแม่สาวลูกครึ่งคนสวยเพื่อนรักที่ออกมาก็เจอกันแล้วฝ่ายสาวที่กลัวความอ้วนนั้นสุดท้ายก็ใจอ่อนเมื่อเจอรอยยิ้มของเบื้องหน้ารอยยิ้มที่ออกมาทีไรเธอเป็นต้องได้ใจอ่อนหรือพ่ายแพ้เสียทุกครั้งไป
“ห้องพี่เพ่ยสีอบอุ่นหลินว่าน่าจะโซฟาสีเบจนี่แหละเหมาะ”
“งั้นเหรอแล้วมันไม่ดูกลืนกันไปเลยรึไง”
“ไม่หรอกค่ะถ้าพี่ซื้อหมอนอิงสีน้ำตาล สีพื้นเข้มๆไปก็ไม่ดูจืดแล้ว”
“เออแต่พี่อย่าได้แบบสดใสนะ”
“งั้นพี่ก็ทาสีห้องใหม่ไปเลยแล้วกัน”คำพูดที่เหมือนคู่แต่งงานใหม่กำลังเลือกซื้อของตกแต่งเรือนหอทำเอาใครหลายๆคนถึงกับต้องเหลียวมองสองหนุ่มสาวที่ยืนเลือกเฟอร์นิเจอร์กันอยู่
“หลินไปดูหมอนอิงให้ข้างในให้ดีกว่า”
“อ่างั้นพี่รอข้างนอก เชิญเลือกตามสบายเลยนะครับ”พูดไปพร้อมยิ้มจนคนที่เดินเข้าไปข้างในต้องหันมาคาดโทษไว้เพ่ยฮว๋ายืนยิ้มพลางกับเดินดูของแถวนั้นไปพลางๆระหว่างรอมัณฑนากรคนสวยเลือกของแต่งบ้านให้ตนเองอยู่จนเดินไปชนกับร่างของใครหนึ่งเข้า
“ขอโทษค..อ้าวหย่งหลุน หวัดดีน้องชาย พาสาวมาเที่ยวเหรอ”พูดพร้อมกับยกมือทักทายพร้อมกับส่งรอยยิ้มตามแบบปกติแต่ดูเหมือนคำทักทายจะดูไม่ค่อยเข้าหูฝ่ายตรงข้ามสักเท่าไรเลยต้องเปลี่ยนมาทักทายสาวน้อยคนนั้นที่อยู่ข้างกายของพ่อหนุ่มคนนั้นแทน“ไงสาวน้อย แฟนมาเที่ยวสนุกรึเปล่า”สิ่งที่ได้กลับมาคือใบหน้าของสาวคนนั้นยิ้มหวานๆแบบไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไร
“พี่ถังมาทำอะไรที่นี่เหรอครับ”
“อ่อพาเจ้าสาวมาเลือกของเข้าเรือนหอ”
พูดไปก็ชี้ไปทางคนที่กำลังเลือกหมอนอิงเทียบกับสีของโซฟาตัวใหญ่อยู่คำพูดชวนล้อเล่นหารู้ไม่ว่าตอนนี้เขากำลังทำใครบางคนไม่สบอารมณ์อยู่เชรินเดินมาพร้อมกับหมอนอิงสีน้ำตาลแดงแต่เมื่อมาถึงวงสนทนาเหมือนจะตรึงเครียดอยู่เจ้าหล่อนก็ยิ้มออกมาบางๆเมื่อเห็นน้องชายต่างบ้านเป็นคู่สนทนาให้กับพี่ชายใจดีของเธออยู่
“เอ้าหลุน แอบนอกใจพี่อีกแล้วเหรอ”พูดไปพร้อมกับทำหน้าตาน้อยใจทำอย่างกับเป็นคนรักหนุ่มน้อยคนนั้นจริงๆซะจนคนที่มาเลือกซื้อของถึงยิ้มบางๆส่ายหัว
“โอยดูสิควงมาเย้ยหลินถึงที่นี่เลยนะ” เริ่มใส่ไฟเข้าแล้วดวงตาสีน้ำเงินแกล้งทำเป็นตวัดขวับมองสาวน้อยที่ยืนข้างกายหย่งหลุนที่ยืนเกาะแขนชายหนุ่มซะแน่นเล่นเอาซะแม่สาวคนนั้นกลัวจริงๆแต่ก็ต้องหยุดการล้อเล่นเพียงเท่านั้นเมื่อฝ่ายคนที่เธออยากเล่นด้วยเขาไม่เลนกับเธอ
“โธ่แค่นี้ทำเป็นโกรธไปได้น่าหลุน พี่ล้อเล่น ล้อเล่นอย่าเครียด ไปล่ะนะ”เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินพูดพลางกับตบแขนแกร่งนั่นก่อนจะหันไปเกาะแขนคุณพี่ชายมือปราบที่ตอนนี้กำลังควักบัตรเครดิตส่งให้พนักงานอยู่แล้วทำเอาพี่ชายตัวโตหันมามองแม่น้องสาวบก.คนสวยอย่างงงๆในพฤติกรรมนั้น
“เอ้าไม่อยู่คัยกับหย่งหลุนแล้วเหรอ”
“โธ่พี่เพ่ย ก็น้องเค้าไม่เล่นกับหลินเลยอ่ะ” เพ่ยฮว๋า หัวเราะแหะๆมือหนารับบัตรเครดิตสีทองนั่นกลับมาใส่กระเป๋าสตางค์พร้อมรับสลิปมาเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
“หลินอยากได้อะไรอีกรึเปล่า”
“ไม่อ่ะ มีพร้อมทุกอย่างล่ะยกเว้นความรัก”เท่านั้นแหละผู้กำกับถึงกับปล่อยหลุดก๊ากออกมาทันทีนึกแล้วอยากยืมมุขนี้ไปเล่นกับสาวมั่งจังเลย
“สารวัตรหลงสอนมาใช่เปล่าหลิน”
“เปล่าหลินจำมาจากละครน่ะ พี่เพ่ยขาน้องชายหลินมันไม่ได้เสี่ยวแดกขนาดนั้นนะคะ มันจับสาวคนไหนได้มันก็ลากขึ้นห้องเลยหรือจะพูดให้ถูกมีผู้หญิงมาประเคนให้เต็มที่”ประโยคนี้ทีเด็ดที่เขาเองก็แอบเห็นด้วยจริงๆหลงเทียนเป็นตำรวจหน้าใหม่ไฟแรงไม่พอบวกกับหน้าตาอันหล่อเหลากับลุคแบบแบดบอยมีแต่สาวจะวิ่งเข้าหาแบบไม่ขาดสายเพราะคงไม่มีใครปฏิเสธผู้ชายคนนี้ได้หรอกถึงแม้ตำแหน่งตอนนี้จะยังน้อยอยู่ก็จริงก็ถือว่าก้าวหน้ามากถ้าเทียบกับอายุตอนนี้
ทางด้านคนที่โดนคนครึ่งชีวิตตัวเองนินทาอยู่ตอนนี้กำลังตอนนี้อ้าปากหาววอดอยู่ในร้านกาแฟแถวที่กองบังคับการเบื้องหน้าของเขาคือหญิงสาวผมสีหวานที่กำลังนั่งกินไอติมหากใครมองผ่านไปผ่านมาก็คงพูดเป็นคำเดียวสารวัตออฟเด็กมาชัวร์เพราะหน้าตาที่ค่อนข้างจะเรียกได้ว่า เจอหน้าเด็กเด็กยังต้องเบะปากร้องไห้ออกมากันหมด นับประสาอะไรจะมาทำหวานกับผู้หญิงแบบนี้ไม่มีทาง
“หลงเบื่อเหรอ”
“เปล่า เดี่ยวนี้ไม่ค่อยได้นอนน่ะ”
“โหมงานมากเกินไปรึเปล่า” เจมี่ถามอย่างเป็นห่วงหลงเทียนยิ้มออกมาน้อยก่อนจะยื่นมือไปบีบจมูกโด่งที่อยู่บนใบหน้าอันบ๊องแบ๊วนั้นเล่นอย่างอดหมั่นไส้ไม่ได้อย่างทุกครั้งที่มองเห็นใบหน้าใสๆนี่ทุกครั้งที่จ้องดวงตากลมโตสีทองนี่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องหาเรื่องแกล้งหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้มือเรียวของสาวน้อยตรงหน้าปัดออกก่อนจะมาจับจมูกตัวเองแล้วมองคนตรงหน้าอย่างเคืองๆ
“เมื่อไรหลงจะเลิกแกล้งเจมี่ซักทีน่ะ”
“ก็เลิกทำตัวน่ารักสิ จะได้เลิกแกล้ง”
“หลงบ้า” ว่าไปพลางกับใบหน้าที่เริ่มขึ้นสียิ่งยามที่เห็นรอยยิ้มของชายตรงหน้ากับมันยิ่งทำให้ “เจมี่กลับก่อนดีก่อน”แต่ยังไม่ทันจะก้าวออกจากโต๊ะไปนั้นไปก็โดนมือหนาที่เคยจับแต่ไกปืนและชกต่อยจับที่ข้อมือเล็กไว้จนร่างน้อยนั้นต้องหันกลับมา
“เดี๋ยวให้หลงไปส่งนะ อุตส่าห์เอาขนม”
“อ่า..อืม ดีสิเจมี่จะได้ประหยักค่ารถกลับบ้านด้วย”หลงเทียนยิ้มน้อยๆหลังจากได้คำตอบจากหญิงสาวร่างสูงก็หยัดตัวลุกขึ้นยืนพร้อมกับวางเงินไว้ไว้ที่โต๊ะก่อนจะเดินตามร่างเล็กออกไปนอกร้าน
ความคิดเห็น