ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] ผู้ป่วยความจำเสื่อม ..Amnesia [ KaiDo ]

    ลำดับตอนที่ #2 : amnesia • I - [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 57


    .. ผู้ป่จำสื่  ..
     


    ---   ตอนที่ ๑   ---

     

     

     
               แสงแดดจ้าสาดลงมากระทบกับพื้นคอนกรีตทำให้อุณหภูมิในอากาศเริ่มก่อตัวมากขึ้น  โต๊ะไม้ระแนง
    สีน้ำตาลเข้มถูกจัดให้เป็นชุดเดียวกันกับเก้าอี้ขนาดยาววางเรียงเป็นแถวตอนหลายแถวเว้นระห่างแค่พอเดินภายในอาคารชั้นเดียวหลังใหญ่หรือเรียกที่อีกนัยหนึ่งได้ว่า  
    โรงอาหาร    ร้านอาหารต่างๆที่จัดเรียงไว้รอบบริเวณขอบของอาคาร   ผู้คนมากมายคลับคลั่งที่เริ่มทยอยกันเข้ามาเป็นกลุ่มๆต่างพากันจับจองพื้นที่ก่อนจะเดินไปต่อแถวเพื่อจองคิวตามหน้าร้านที่ตนต้องการ

     

     


     ใบหน้าเรียวหวาน ดวงตากลมโตรับกับริมฝากปากรูปหัวใจในชุดยูนิฟฟอร์มของมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งที่ตอนนี้คนหน้าหวานเริ่มบึ้งตึงขึ้นมาบ้างแล้วนั่งเท้าคางมองเพื่อนรักร่างเล็กดวงตาคมภายใต้เส้นอายไลเนอร์ที่เอาแต่หันซ้ายแลขวาอยู่อย่างนั้นตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามาภายในโรงอาหารแล้วหย่นก้นลงทับกับเก้าอี้

     

     

    ก่อนหน้านี้ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเก็บของเพื่อเตรียมออกมาทานมื้อกลางวันร่างเล็กตรงหน้าบอกเขาว่ามีคนจะแนะนำให้รู้จัก  ผ่านมาสิบนาทีกว่าแล้วก็ยังไร้ซึ่งวี่แววของบุคคลที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้คนร่างเล็กต้องหันซ้ายหันขวาอยู่แบบนี้

     

    “แบคฮยอน ไหนคนที่แกบอกว่าจะแนะนำให้รู้จัก  นี่รากจะงอกละ ข้าวก็หิว”    ริมฝีปากอวบอิ่มบ่นอิดออดก่อนจะเบะปากออกมาอย่างอนๆเพื่อนรักที่กำชับนักหนาว่าให้รอบุคคลที่จะมาใหม่ก่อนแล้วถึงจะค่อยทานพร้อมกัน  

     

     

    “โถ่คยองซู  รอหน่อยนะเดี๋ยวก็มาแล้ว  รับรองว่าแกต้องตกใจไม่น้อย”   คนหน้าสวยที่แต่งแต้มไปด้วยเส้นอายไลเนอร์ยักคิ้วทะเล้นตอบกลับมาแต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยทำให้ร่างเล็กที่เริ่มนอยด์แล้วอารมณ์ดีขึ้นมาเลยสักนิด


    บยอน แบคฮยอน เป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของเขาตั้งแต่สมัยขึ้นเรียนชั้นประถม เป็นคนมีไหวพริบที่ดี  ร่างเริง และช่างพูด  แต่ในทางเดียวกันเขาก็เป็นคนที่เด็ดขาด  พูดจาขวานผ่าซากทำให้หลายคนไม่กล้าเข้าหาแต่จะมีอยู่คนเดียวที่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงมองว่าแบคฮยอนก็แค่เด็กคนนึง  นั่นก็คือเขาเอง  คยองซู  เพราะไม่ว่าเจ้าเพื่อนรักที่มีขนาดไซต์เท่ากันคนนี้จะปากร้ายแค่ไหนท้ายที่สุดก็ยังเป็นคนเดียวที่คอยห่วงและดูแลคยองซูตลอดมา  อีกทั้งยังทำตัวเป็นแม่เขาในทุกๆเรื่อง - -‘



    “เหอะ  หน่อยของแกอะโรคกระเพราะจะถามหาละ”


    “เห้ยนั่นไง!  มาแล้ว”    ยังไม่ทันที่คยองซูจะพูดจบเพื่อนรักตรงหน้าก็ส่งเสียงดังทักขึ้นมาทำให้คยองซูต้องหันไปมองตามทิศทางที่คาดว่าจะเป็นที่มาของบุคคลที่พวกเขากำลังรอคอย


     

    ผู้ชายร่างสูงผมดำสายตาคมกริบ  จมูกที่โด่งเป็นสัน   ริมฝีปากเป็นกระจับ   อีกทั้งยังสีผิวน้ำผึ้งนั่นยิ่งทำให้เขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าคนๆนั้นดึงดูดสายตาเขาได้มากเพียงใดเข้ามาพร้อมชายอีกคนที่มีลักษณะสูงกว่า ดวงตากลมโตบวกกับผมสีน้ำตาลอ่อนก่อนที่จะเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะที่เขานั่งอยู่กับเพื่อนรักตรงหน้าก่อนแล้ว

     
     

    “ที่ร้ากกกกกก”   คนที่มีส่วนสูงสูงกว่าปรี่เข้าไปนั่งตัวติดกับเพื่อนรักของเขาก่อนที่แขนยาวทั้งสองข้างจะยกขึ้นโอบกอดรอบเอวแล้วใช้คางมนกดทับลงลาดไหล่เล็กราวกับลูกหมาน้อยที่กำลังออดอ้อนเจ้านายของมัน


    ห๊ะ?   ว่าไงนะ   ที่รักงั้นหรอ?




     “เว่อร์ไปละ  น้อยๆหน่อย”   ร่างเล็กที่ตอนนี้โดนเจ้าลูกหมาน้อยจากที่ไหนสักแห่งออดอ้อนอยู่ยกใหญ่ใช้ศอกเล็กกระทุ้งเข้าที่ท้องอีกคนเบาๆแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนที่โดนมีทีท่าว่าจะออกห่างไปเลยสักนิด


    “ก็คิดถึง เว่อร์ตรงไหน ไม่ได้เจอตั้งนานนน”   ไม่พูดเปล่าเจ้าลูกหมาขี้อ้อนกระชับกอดแน่นขึ้นเล็กน้อยก่อนจะใช้จมูกฝังลงแก้มนุ่มเบาๆแล้วถูไถจนคนตัวเล็กที่ตอนแรกเหมือนจะไม่พอใจที่ทำให้เขากับเพื่อนต้องมานั่งรอนานแบบนี้แถมพอมาถึงแล้วยังมาทำอะไรประเจิดประเจ้อกลับต้องพ่ายแพ้อ่อนยวบลงด้วยลูกอ้อนของเจ้าลูกหมา  จุดรอยยิ้มขึ้นด้วยความเขินที่เริ่มเกาะกินบริเวณแก้มเนียนทั้งสองข้าง



    “นานอะไรแค่วันเดียวเอง”    พูดจบคนตัวเล็กหันหน้าไปงับจมูกเจ้าลูกหมาของเขาเบาๆแทนความหมั่นใส้ในความขี้อ้อนก่อนจะหัวเราะคิกคักกันอยู่สองคน


    “นี่พวกมึงจะพลอดรักกันอีกนานปะ - -? ”    เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลังของร่างเล็กที่นั่งมองเพื่อนรักกับปลิงกำลังสร้างพื้นที่รอบข้างให้กลายเป็นสีชมพูอย่างไงอย่างงั้นหันกลับไปมองต้นเสียงพร้อมกับคนทั้งสองตรงหน้าที่หยุดการกระทำก่อนจะมองตาม


    ใบหน้าคมคายสักครู่แสดงอาการเบื่อหน่ายกับภาพตรงหน้า  น้ำเสียงที่เปล่งออกมาคล้ายกับว่ากำลังรำคาญสองคนที่เอาแต่จู่จี๋กันไม่สนใจคนอื่นยืนกอดอกมอง  คยองซูรู้สึกขอบคุณร่างสูงตรงหน้าที่ช่วยขัดคนทั้งคู่ให้สนใจคนอื่นบ้างเพราะเขาเองก็เริ่มที่จะเซ็งเหมือนกัน


    “ไอ้ดำ!”   เสียงหนึ่งตอบกลับโดยที่คยองซูไม่ต้องหันไปดูต้นเสียงเลยก็รู้ว่านั่นเป็นเสียงของใครด้วยเดซิเบลที่พุ่งแหลมปี๊ดขึ้นมามากกว่าปกติ  แบคฮยอนยกแขนทั้งสองขึ้นกอดอกมองจ้องอย่างหาเรื่องเจ้าของประโยคก่อนหน้านี้

    “ว่าใคร?  เตี้ย!”   คนโดนว่าที่ก่อนหน้านี้ยืนทำท่าคล้ายกลับว่าเขาได้หลับในไปแล้วถลึงตาจ้องแบคฮยอนกลับอย่างเอาเรื่องเช่นกัน

    “เอ่อ..  สนใจเราหน่อยได้ปะ?”   คยองซูที่มองอยู่สักพักเห็นท่าไม่ดีจึงห้ามทัพไว้พร้อมกลับกรอกตามองทั้งสองคนก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเอือมๆ  นี่ตกลงแล้วเขาคือตอไม้สินะเพราะตั้งแต่บุคคลที่รอมาถึงพวกเขาก็เอาแต่พูดคุยกันไม่สนใจและไม่คิดจะอธิบายอะไรให้เขาฟังเลย - -

    “อ่อ ลืมไป เออนั่นคิมจงอินนะ หรือเรียกสั้นว่าไอ้ดำ”    สิ้นเสียงคนที่ถูกเอ่ยถึงถลึงตาใส่บุคลลผู้ที่เป็นคนแนะนำ  แบคฮยอนเองก็ไม่หยี่ระเช่นกันก่อนจะหันมาที่เขาแล้วกล่าวแนะนำอีกครั้ง


    “นี่คยองซู  เพื่อนสนิทฉันเอง  ห้ามใครแดกถ้ามาได้รับอนุญาตจากฉันก่อน!”    ไม่พูดเปล่าคนร่างเล็กจงใจกระแทกเสียงใส่ร่างสูงที่ยืนกอดอกอยู่ด้านหลัง  คยองซูฟาดฝ่ามือเล็กลงที่ไหล่ข้างที่ว่างของเพื่อนรักเบาๆเป็นการคาดโทษที่พูดจาหยาบคาย  ก่อนจะหันไปมองบุคคลที่ยืนอยู่ด้านหลัง  สายตาคมของจงอินตวัดมองมาที่เขาสักพักก่อนจะหันกลับไปมองทางอื่นโดยที่เขายังไม่ทันจะกล่าวทักอะไรเลยด้วยซ้ำ

    “ส่วนนี่ชานยอลนะ  แฟนฉันเอง”   แบคฮยอนละความสนใจจากคู่กรณีตรงหน้าแต่ก็ไม่วายที่จะส่งสายตาจิกกัดให้แล้วหันมาแนะนำใครบางคนที่ยังคงครอบครองเอวเล็กของตัวเองไว้แน่นก่อนที่คนที่ถูกพูดถึงจะหันมายิ้มจนเห็นฟันครบทุกซี่ให้กับเขา




    แฟน .. 

    ว่าไงนะ? .. แฟนของแบคฮยอนหรอ?



    “เดี๋ยวนะ  แฟน ..  แฟนของแก”   คยองซูกระพริบตาปริบๆหลายครั้งเหมือนว่าประโยคที่เพื่อนรักพูดมาเมื่อกี้เขาฟังผิดไปก่อนที่แบคฮยอนจะพยักหน้าเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่คยองซูได้ฟังคือเรื่องจริง


    หึ   ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าคยองซูน่ะคิดอะไรอยู่  เขาเป็นเพื่อนสนิทเชียวนะ  คยองซูน่ะใสเกินกว่าจะมองว่าเรื่องนี้คือเรื่องปกติ  


    “นี่แค่ปิดเทอมไปเดือนเดียวแกเปลี่ยนอีกแล้วหรอ?”    คยองซูดูตกใจกับเรื่องที่พึ่งรับรู้มา ดวงตาที่กลมโตจนเหมือนจะทะลักออกมาได้ทุกครั้งที่เห็นกลับโตขึ้นไปอีก  จริงอยู่ที่ชานยอลไม่ใช่แฟนคนแรกของเขาและเขาเองก็เปลี่ยนมานับไม่ถ้วน  บยอน แบคฮยอนไม่ใช่คนที่จะต้องมาทนอะไรหรอกนะ  แค่เบื่อก็เปลี่ยนก็แค่นั้น แต่เจ้าเพื่อนตัวเล็กตาโตคนนี้กลับไม่เคยชินกับอาการเบื่อง่ายหน่ายเร็วของเขาสักทีและทุกครั้งที่เปลี่ยนคู่ควงก็จะเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง  อาการกึ่งช็อคกึ่งสงสัย?


    “แล้วไปคบกันได้ยังไง  ไหนบอกปิดเทอมไม่ว่างเพราะเลี้ยงหมา”   สองมือเล็กยกขึ้นมาค้ำบริเวณขอบโต๊ะก่อนจะเอนตัวไปข้างหน้ามองคนทั้งคู่


    “ไอ้นี่แหละ  หมาที่บอก”   คนร่างเล็กตอบติดตลกกลับมาก่อนจะขำท่างทางของเพื่อนรักที่คิ้วสวยนั่นเริ่มขมวดผูกติดกันจนเป็นโบว์แต่ก็ไม่ได้บั่นทอนความน่ารักลงไปเลย  กลับกันเมื่อมันยิ่งทำให้เจ้าของคิ้วที่ผูกกันอยู่นั้นดูน่ารักน่าฟัดเข้าไปอีก



    เอ.. นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นเพื่อนกับเจ้าตัวเล็กตรงหน้ามานาน  ป่านนี้เขาคงขอคบกับเพื่อนรักคนนี้ไปแล้ว ก็เล่นน่ารักน่าฟัดซะขนาดนี้ไม่แปลกเลยที่เขาจะหวงคยองซูมากขนาดนี้




    ว่าไปแล้วนี่ก็เข้าเทอมที่สองแล้วตั้งแต่เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย  คยองซูก็ยังคงดูไร้เดียงสาไม่เปลี่ยน จะมีก็แค่ผิวพรรณที่เริ่มจะเปล่งปลั่งมากขึ้นจนทำให้เจ้าตัวเล็กสามารถครองสายตาหลายคนที่มองมาได้ไม่ยาก  




    คยองซู  นายนี่ก็น่ารักไม่เบานะ หรือว่าฉันควรจะเปลี่ยนไปสนใจที่นายแทน
     



    “บ๊อก~”    คยองซูละสายตาไปมองที่เจ้าของเสียงนั่นก่อนจะยิ้มขำให้กับความขี้เล่นของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของเพื่อนรักของเขาแล้วดันตัวกลับนั่งเดิมก่อนจะเอ่ยประโยคแซวคนทั้งคู่



    “ขอให้นานเถอะ”   เสียงหวานพูดจบก่อนจะเตรียมตั้งท่าเพื่อลุกขึ้นไปรอคิวซื้อข้าวเมื่อรู้สึกถึงท้องที่เริ่มปล่อยน้ำย่อยออกมาจนมีเสียงครวญครางดังขึ้นเตือนว่าให้เขาควรลุกออกจากตรงนี้แล้วรีบไปหาอะไรลงกระเพราะอันน้อยนิดนี่ได้แล้ว


    “แน่นอนครับ”   ชานยอลตอบกลับแล้วลุกขึ้นไปซื้อข้าวตามพร้อมกับจูงมือแบคฮยอนคนรักร่างเล็กไปด้วย โดยที่ลืมสนใจคนร่างสูงที่ยืนหลับในมองคนทั้งสามสนทนากันอยู่  เห็นดังนั้นจงอินจึงเดินไปซื้อข้าวของตนบ้าง


    “กว่าจะได้แดก!” = =



    ✂ ------------------------------------    50%   ฉึบ!     ------------------------------------




    “เออแก  ฉันออกไปข้างนอกก่อนนะ  พอดีจะไปซื้อของ  เย็นนี้ต้องไปบ้านชานยอล”   เสียงใสของร่างเล็กเพื่อนรักพูดขึ้นในระหว่างที่กำลังทานข้าวกันอย่างตั้งอกตั้งใจ  เนื่อกจากว่าหลังจากที่เราแยกย้ายกันไปซื้อข้าวของตัวเองแล้วมานั่งที่เดิมต่างคนก็ต่างก้มหน้าก้มตาทานโดยไม่ปริปากพูดอะไร   อาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้มัวแต่พูดๆกันจนเลยเวลาทานมามากทำให้ในเวลานี้ที่จานข้าวจานโตหน้าตาน่าทานได้มาอยู่ตรงหน้าแล้วทำให้ไม่มีใครสามารถละความสนใจไปจากมันได้เลยแม้แต่วินาที 


    คยองซูเองก็ใช่ว่าจะหิวจนไม่อาจเงยหน้าขึ้นมาสนทนาอะไรกับใครไม่ได้หรอกนะ  เพราะปกติไม่ว่าเขาและแบคฮยอนจะมาทานสายเท่าใดแต่ทั้งคู่ก็มักจะมีเรื่องมาเม้าท์มอยกันได้เสมอ  แต่อาจเพราะวันนี้ไม่เหมือนทุกวันเนื่อกจากมีบุคคลมาร่วมโต๊ะกับพวกเขาเพิ่มขึ้น ด้วยความที่ยังไม่สนิทชิดเชื้อทำให้คยองซูรู้สึกเกร็งกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่แต่ก็ใช่ว่าจะรู้สึกไม่ดี หากแต่คยองซูทำตัวไม่ถูกต่างหาก  อยากเงยหน้าขึ้นไปเม้าท์กับเพื่อนรักเสียงเจี๊ยวจ๊าวอย่างทุกวันก็ลำบากกลัวว่าจะทำให้ใครบางคนรำคาญ  ดูจากสีหน้าของเพื่อนใหม่ที่นั่งข้างเขาตอนนี้แล้วคงจะต้องไม่พอใจเป็นแน่หากเขาจะทำตัวแบบเดิมอย่างทุกๆวันกับแบคฮยอน  คยองซูเลยได้แต่กำหน้าก้มตากินไปเท่านั้น


    "เอ่า แล้วไม่ไปซื้อหลังเลิกเรียนหล่ะ  จะมาเข้าเรียนต่อทันมั้ย?"    คนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทานอยู่เงยขึ้นมาถามเพื่อนรัก ช้อนในมือที่เต็มไปด้วยข้าวคำโตต้องชะงักลงทั้งที่อีกไม่กี่วินาทีมันกำลังจะเข้าไปในโพรงปากอวบอิ่มนี่แล้วแท้ๆ 


    "อืม...  "   แบคฮยอนชั่งใจคิดอยู่สักพักก่อนจะพูดต่อ  


    "ไม่อะ  ต้องซื้อเยอะ  จะโชว์ฝีมือทำอาหารให้คุณนายปาร์ค   คาบบ่ายคงโดดฝากเล็คเชอร์วันนี้ให้ด้วยนะเพื่อนรัก"    พูดจบ แบคฮยอนลุกขึ้นยืนก่อนจะยกจานที่ก่อนหน้านี้ยังมีกับข้าวหน้าตาน่าทานทว่ามันดันโดนเขาจับเทลงในกระเพราะตัวเองไปหมดเรียบร้อยแล้วเลยทำให้เหลือเพียงช้อนกับส้อมเท่านั้นที่นอนกอดกันอยู่บนจาน  ร่างเล็กหมุนตัวก่อนจะยกขาก้าวออกมาข้างหนึ่งตั้งท่าจะเดินไปเก็บจานแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเพื่อนรักตัวเล็กกว่าถามขึ้น


    "จะไปตอนนี้เลยหรอ?"    คยองซูเบิกตาขึ้นเล็กน้อยสำหรับเขาแต่คนอื่นที่มองมาก็มากพอจะเรียกว่าเหลือได้ ทึกทักน้ำเสียงขึ้นมาด้วยความตกใจที่เห็นเพื่อนรักลุกขึ้นหลังจากที่พึ่งจะบอกเขาไปเมื่อกี้เอง



    "อ่าว  ไม่ไปตอนนี้จะให้ไปตอนไหนล่ะครับคุณเพื่อน"    แบคฮยอนหันกลับมามองเพื่อนรักก่อนจะหลุดขำออกเล็กน้อย 



    โด  คยองซู..   เจ้ากระต่ายตื่นตูม 



    "อ.. อาฮะ"    คยองซูที่ทำไรไม่ได้นอกจากพยักหน้าตอบรับไปเท่านั้น  ในใจก็อยากจะคัดค้านเพื่อซื้อเวลาให้เขาทานเสร็จก่อนจะได้ไปพร้อมกันเพราะตอนนี้เขายังทานไม่เสร็จเลย   ไม่ได้อยากเรื่องมากแต่เพราะถ้าเพื่อนรักของเขากับแฟนที่ทำตัวเป็นปลิงนั่นจากไปแล้ว  ทั้งโต๊ะก็จะเหลือเพียงแค่เขากับหุ่นขี้ผึ้งข้างตัวที่ถูกปั้นมาได้เสมือนคนจนน่าตกใจแถมยังฝังชิปให้เหมือนคนมากขึ้นลงไปอีกด้วย



    แต่น่าเสียดาย..  เพราะหุ่นมันก็คือหุ่น   หุ่นมันไม่มีวิญญาณ.............



    เออแล้วนี่เขาจะมานั่งวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนร่วมโต๊ะคนสุดท้ายเขาทำไม?  แบคฮยอนเดินออกไปแล้วพร้อมกับปลิงตัวเดิมทิ้งเขาไว้กับมนุษย์หุ่นขี้ผึ้งที่ไม่รู้ว่าจะรู้มั้ยว่าเพื่อนตัวเองทิ้งไปที่อื่นแล้ว  


    เอาแล้วไง  บรรยากาศเริ่มมาคุ............


     เออดี...  เขาควรจะทำยังไงล่ะ?  ชวนคุยมั้ย?  หรือรีบกินแล้วรีบขึ้นไปเรียนซะ?  



    โง้ยยยยยยยยยย!!   ไอ้คุณดำครับ  คยองซูผู้นี้ทำตัวไม่ถูกแล้ว  อยากจะตะโกนใส่หูจริงๆว่าเลิกทำตัวเป็นหุ่นขี้ผึ้งซักที!  นี่เกร็งจนไม่กล้าตักข้าวเข้าปากแล้วว้อยยยยยยยยยย >[ ]

    แต่นั่นก็เป็นแค่เพียงความคิดเท่านั้น เพราะท่าลองเขาตะโกนแบบนั้นออกไปจริงๆมีหวังได้จองโรงศพไว้ล่วงหน้าแน่ๆ แต่ให้ตายเหอะ เขาเกร็งมากนะ มีเพื่อนใหม่ทั้งทีก็ควรจะแฮปปี้กว่านี้สิ  มนุษยสัมพันธ์บกพร่องหรอ??


    "จะนั่งจ้องข้าวอีกนานมั้ย?"    เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้นด้านข้างตัวทำให้ร่างเล็กที่กำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งมนต์ดำสะดุ้งตัวขึ้นก่อนจะค่อยๆหันไปมองทางต้นเสียงแล้วพบว่าบุคคลที่ทำให้เขาเอาแต่คิดๆๆจนลืมกินข้าวไปเลยกำลังนั่งเท้าคางด้วยมือข้างหนึ่งมองหน้าเขาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย



    อย่ามาทำหน้าแบบนี้นะ !    ก็ใครล่ะที่เป็นต้นเหตุ..  ชิ!



    "เอ่อ  ขอโทษนะ กำลังจะรีบกินแล้ว"    เสียงใสพูดตะกุกตะกักเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆจับช้อนขึ้นมาตักข้าวในจานขึ้นยัดเข้าปาก   ร่างสูงที่ก่อนนี้รู้สึกแปลกๆกับคนตัวเล็กข้างตัวที่นิ่งไปเฉยๆจึงหันมามองแล้วพบว่าคนข้างตัวเอาแต่นั่งจ้องจานข้าวตัวเองไม่ยอมทานซักทีหลุดขำเมื่อเห็นท่าทางกลัวเขาจนแสดงออกให้เห็นได้ชัด  หากแต่สำหรับเขามันกลับดูน่ารักจนอยากจะแกล้งให้มากขึ้นไปอีก


    "ไม่ได้ว่าอะไร  เห็นนั่งจ้องข้าวไม่กินสักทีนึกว่าอิ่มจะได้พาไปเก็บจานแล้วไปส่งห้องเรียน"     เสียงเข้มยังคงประครองเสียงให้เรียบนิ่งเช่นเคย  ก่อนจะมองไปที่คนตัวเล็กที่หันมามองเขาอย่างรวดเร็ว


    หันคอแบบนั้นเสียวจริงๆ  ว่าคอขาวๆนั่นมันจะหลุดออกมา



    "ไปส่ง...  ไม่เป็นไรไปเองได้"    คยองซูรีบปฏิเสธหลังจากที่ได้ยินประโยคของจงอินก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆไปให้แล้วก้มลงทานต่อโดยไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองอีกเพราะแก้มเจ้ากรรมดันสร้างอุณหภูมิขึ้นมาทำให้แก้มใสเปื้อนสีซะอย่างนั้น  จงอินแอบขำกับท่าทีของคนตัวเล็กตรงหน้าก่อนจะหันกับมาใช้มือล้วงลงในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมานั่งกดเล่นเพราะเพื่อรออีกคนทานข้าวจนเสร็จ




    การเรียนวันนี้ถือว่าไม่หนักมากเพราะเป็นวันเปิดเรียนวันแรกของเทอมทำให้ส่วนใหญ่จะมีแค่การบอกแนวการเรียนของเทอมนี้ว่าต่อไปจะเรียนเรื่องอะไร?   ควรไปอ่านก่อนบทไหน?  แล้วกฎกติกาของแต่ละวิชาในการเข้าเรียนเป็นอย่างไร?..


    คยองซูยืดตัวขึ้นสุดชูแขนทั้งสองข้างขึ้นบิดขี้เกียจ เอี้ยวตัวจนเกือบสุดก่อนจะหันกลับมาแล้วพ่นลมถอนหายใจออกมาอย่างหนัก   ใบหน้าหวานซบลงกับโต๊ะเล็คเชอร์ที่ใช้ในการเรียนซักพักก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นโดยไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าคู่ใจเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน ทว่ากลับต้องชะงักเท้าลงเมื่อเห็นใครบางคนยืนตระหง่านอยู่หน้าประตูทางออก


    มาทำไม.. ?


    ร่างเล็กละความสนใจก่อนจะเดินออกจากห้อง แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อใครคนนั้นกลับเขยิบตัวมาขวางประตู  สองขาเล็กพยายามเดินเบี่ยงไปอีกทางแต่ก็ไม่พ้นคนตัวโตที่ไล่ตันทางออกเขาทุกครั้งก่อนที่คนตัวเล็กจะหยุดนิ่งแล้วเงยหน้าขึ้นจ้องอีกคน


    "จงอิน  จะมาตันทางทำไม?"    


    "จะกลับบ้านใช่มั้ย  จะไปส่ง"   เสียงเข้มตอบก่อนจะจับข้อมือเล็กแล้วพาเดินออกไปจากจุดนั้นโดยที่ไม่ฟังคัดค้านจากคนตัวเล็กที่เริ่มงงเป็นไก่ตาแตกได้แต่โวยวายไปตามทาง


    "เห้ย  หยุดเลย กลับเองได้ เป็นบ้าอะไร?  ปล่อยยยยย! "    คนตัวเล็กที่โดนลากให้เดินไปตามที่อีกคนต้องการโวยวายหนัก  จงอินเป็นไร ทำไมอยู่ๆถึงมารอเขาหน้าประตูแถมยังบอกจะไปส่งทั้งที่เรายังไม่สนิทกันเลย พูดกันยังไม่ถึงสิบประโยคด้วยซ้ำ


    หรือว่าจริงๆเขาคือโรคจิต 0.0!??


    "เห้ยยยยย ปล่อยยยยย บอกให้ปล่อยไง ไอ้โรคจิตตตต!!"    สิ้นความคิดคยองซูแหกปากลั่นขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอีกคนยังไม่ตอบอะไรนอกจากเอาแต่ลากๆเขาก่อนคนที่โดนด่าว่าโรคจิตจะหยุดลากแล้วหันกลับมามองที่เขานิ่ง

    คยองซูยืนนิ่งก้มหน้าลงมองพื้นเพื่อหาที่พึ่ง มือข้างที่ยังว่างอยู่กำกางเกงจนยับ จงอินมองภาพนั้นก่อนจะปล่อยข้อมือเล็กของอีกคนที่ตัวเองจับอยู่


    "แบคฮยอนโทรมาบอกให้ฉันไปส่งนายที่บ้าน"    สิ้นเสียงเข้ม ร่างเล็กที่ยืนก้มหน้าอยู่เงยขึ้นมามองด้วยความสงสัย


    "แล้วทำไมต้องไปส่ง?  ฉันกลับเองได้"    คนตัวเล็กส่ายหน้าปฏิเสธ


    "ไม่รู้  มันบอกมาแค่ว่าให้ไปส่ง  ไปเหอะไม่อยากทะเลาะกับมัน"    จงอินพูดจบก่อนจะจับมือคนตัวเล็กเดินต่อไป   คยองซูที่ยังสงสัยอยู่แต่ก็ไม่ปฏิเสธ ปล่อยให้อีกคนนำทางเดินไปเรื่อย  เจ้าเพื่อนรักเห็นเขาเป็นเด็กๆหรือไง แค่ไม่ได้กลับบ้านด้วยกันวันเดียวทำไมต้องให้คนไปส่งแทนด้วย  เขาโตแล้วนะ เขาดูแลตัวเองได้


    ว่าไปสายตาก็ดันไปหยุดอยู่ที่มือหนาที่กอบกุมข้อมือเล็กของเขาเบาๆจากตอนแรงที่ออกแรงเล็กน้อยแต่คงเพราะพึ่งนึกได้ว่าเขาจะเจ็บถึงได้เปลี่ยนจากการลากดึงเป็นการกุมให้เขาเดินมาตามเท่านั้น พลางแก้มใสที่เริ่มขึ้นสีด้วยความร้อนผ่าวบนใบหน้าหวาน


    ทำไมต้องเขินนะ..   




    "ขอบคุณนะ"   คนตัวเล็กพูดขึ้นหลังที่ลงจากรถคันหรูของบุคคลที่อาสามาส่งเขา ก่อนจะปิดประตูรถเบาๆ  ขณะที่กำลังจะหันหลังเดินออกไปแต่กลับต้องชะงักเท้าแล้วหันกลับมามองยังอีกคนในรถ



    "เดี๋ยวพรุ่งนี้มารับไปเรียน รอด้วย  ไม่ต้องปฏิเสธแบคฮยอนมันสั่งมาเช่นกัน"    ว่าจบร่างสูงก็ปรับระดับกระจกขึ้นจนสุดทำให้ไม่สามารถมองเห็นคนด้านในได้ก่อนจะขับเคลื่อนรถยนต์คันหรูออกไปทิ้งคนตัวเล็กที่ยืนอ้าปากค้างอยู่ซักพักก่อนจะหมุนตัวกลับแล้วเดินขึ้นคอนโดไปอย่างงงๆ


    แบคฮยอนคิดอะไรอยู่?  เรื่องแค่นี้ทำไมต้องไปลำบากจงอินขนาดนั้น  และจงอินก็คงลำบากใจทำเพราะฝืนคำสั่งแบคฮยอนไม่ได้สินะ  ท่าทางไม่เต็มใจขนาดนั้นเห็นแล้วยังรู้สึกอึดอัดแทนเลย   ถึงจะรู้ว่าเพื่อนรักเขาหวงเขาขนาดไหนแต่การไปทำให้คนอื่นต้องลำบากนี่ก็ไม่ใช่นะ  เขาว่ามันไม่ควร แต่..


    แล้วทำไมจงอินถึงไม่ปฏิเสธล่ะ..       เกรงใจแบคฮยอนขนาดนั้นเลยหรือไง?  






    ✂ ------------------------------------     100%     ------------------------------------





     

    สวัสดีค่าาา^^
    หลังจากลง50%ไว้เป็นชาติ =[ ]= ก็มาอัพ100%กันซักที
    ขอโทษที่อัพช้าน้า พอดีเป็นช่วงที่ไรท์พึ่งจะเปิดเทอมพอดี
    เปิดช้า ปิดช้ากว่าชาวบ้านเขา *^*
    ยังไงฝากติดตามด้วยนะค้าา จะพยายามอัพเรื่อยๆ
    ฝากคอมเม้นกันเยอะๆ ติชมได้ค่าาา^^

    ฝากแท็กฟิคด้วยนะ   #ฟิคผู้ป่วยความจำเสื่อม
    บะบายยย 

     

    ' Amnesia '


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×