ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัตติกาลแห่งดวงจันทร์ (full moon)

    ลำดับตอนที่ #2 : Part 1

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 55


     รัติกาลแห่งดวงจันทร์.....

         ความมืดเข้าปกคลุมท้องฟ้าเมฆดำถมึนลอยตามกระแสลมอ่อนๆบดบัง ดวงจันทร์’ กลมโตที่ส่องแสงประกายสวยงามแต่แอบแฝงความน่าพิศวงอยู่  กลางป่าลึกมีปราสาทหลังใหญ่ตั้งตะหง่านอยู่มันดูเหมือนมีอายุมายาวนานมาเป็นร้อยปีมีเถาวัลเลื้อยขดเขี้ยวตามระเบียงและตามบันไดหน้าปราสาทมีต้นไม้ใหญ่เรียงรายล้อมเต็มไปหมดโยกย้ายตามสายลมเหมือนเงาปีศาจเคลื่อนย้ายไปมารวมๆแล้วปราสาทหลังนี้ต้องมีอะไรแอบแฝงไว้ข้างในซึ่งไม่มีใครรู้ เคยมีเรื่องเล่ากันว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งมานั่งร้องเพลงอยู่ตรงระเบียงชั้นบนสุดบางทีก็มีผู้หญิงมาเก็บดอกไม้ที่สวนหลังบ้านตอนกลางคืนและครั้งล่าสุดมีหญิงสาวคนหนึ่งมานั่งเล่นบนศาลากลางน้ำเรื่องราวนี้มาจากปากนายพรานคนหนึ่งที่เดินทางสำรวจพื้นป่าจนมาถึงปราสาทแห่งนี้ผู้หญิงที่เค้าเห็นแต่ละครั้งไม่ใช่คนๆเดียวกันและที่สำคัญนายพรานจะเห็นหญิงสาวพวกนี้ในเวลากลางคืนเดือนวันเพ็นเท่านั้นนายพรานจะเข้าไปสืบเรื่องราวที่นั้นอยู่หลายครั้งแต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เค้าเข้าไปไม่ได้เค้าอยากจะรู้ว่าสิ่งที่เค้าเห็นคืออะไรเพราะ นี้คือป่าใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยอันตรายถ้ามีคนอาศัยอยู่จริงคงไม่คนธรรมดาแน่ๆ 

                เข้าสู่โลกภายในปราสาทแห่งนั้นมีหญิงสาว ๓ คนเป็นพี่น้องกันพี่คนโตชื่อวิเวียนเป็นคนที่ชอบปลูกต้นไม้มากสวนดอกไม้ที่ปลูกล้อมปราสาทจะเป็นดอกกุหลาบสีดำทั้งหมดซึ่งเป็นดอกไม้ที่เธอชื่นชอบและมีความหมายกับเธอมาก

    พี่คนรองชื่อซูซานเป็นคนชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจเสียงของเธอใสไพเราะมาก

    น้องคนสุดท้องชื่อซาบีน่าเป็นคนเงียบที่สุดไม่ค่อยสุงสิงกับใครเพราะเธอเป็นลูกผสม!!!พวกเธอเป็นแวมไพร์!  นี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้เธอไม่อยากคุยกับใคร เธอเป็นลูกคนละแม่กับพี่ๆแม่ของเธอเป็นมนุษย์พ่อของเธอเป็นแวมไพร์เธออยากเป็นมนุษย์อยากมีชีวิตอิสระไม่อยากถูกกักขังไว้แบบนี้แต่ถึงยังไงพี่สาวของเธอก็ดูแลเธอเหมือนน้องสาวแท้คนหนึ่งวันนี้ซาบีน่าเก็บตัวอยู่แต่ในห้องทั้งวันเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเธอซึ่งเป็นวันที่เธอเกียจที่สุดเพราะเป็นวันที่แม่เธอเสียชีวิตตอนเธออายุครบรอบ๑๒ปีของเธอพอดี

    และพ่อของเธอดูเหมือนไม่เสียใจเลยซักนิด ”ก๊อกๆซาบีน่าเปิดประตูให้พี่หน่อย”

    เสียงใสๆของพี่ซูซานดังขึ้นซึ่งเหมือนไม่เคยซีเรียจกับชีวิตเป็นอยู่ของเธอเลยที่ถูกขังในที่แห่งนี้เลย  ฉันตื่นจากภวังค์ที่กำลังคิดอยู่เมื่อกี้ลุกจากโต๊ะตรงหน้าต่างเดินไปเปิดประตู

    ดึกดื่นปานนี้แล้วยังมาเคาะประตูอีก “แอ๊ดดด….” เสียงประตูก้องกังวาน 

      "สุขสันวันเกิด” เสียงพี่สาว๒คนและแม่บ้านเมรี่ดังขึ้นพร้อมกัน เฮ้อ!นี่พวกเธอเป็นแวมไพนะ ทำไมถึงดูมีความสุขจังไม่มีใครดูทุกข์เลยนะ และไหนจะเค้กสีแดงๆซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยเลือดทั้งหมด ฉันมองเค้กอย่างสะอิดสะเอียนก่อนจะ

    "ขอบคุณ ค่ะ แต่เค้กนี่ฉันไม่กินนะ” ฉันถอนหายใจก่อนเอ่ยขอบคุณพวกเธอ

    "พี่นึกแล้วว่าต้องพูดแบบนี้  แต่กินสักนิดเถอะหน้าซีดหมดแล้วเดี๋ยวป่วยขึ้นมาไม่รู้นะ” พี่วิเวียนพูดรายยาวจนอยากจะปิดประตูหนี  "ก็ดีค่ะ จะได้ป่วยตายไปเลย” ฉันเอยเสียงเรียบ "พูดเป็นเล่นไปได้เราไม่มีวันตาย นอกจากไฟเผาเราทั้งเป็นเท่านั้น"  พี่วิเวียนพูด  ฉันที่ยืนฟังอยู่ถึงส่ายหน้าแล้วปิดประตูหนี ฉันเดินมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม  อายุ๑๖ แล้วน่ะ ฉันพูดขึ้นกับตัวเองคิดถึงแม่จัง ฉันมองสร้อยของฉันที่ห้อยอยู่ที่คอมันเป็นสร้อยมันเป็นรูปนางฟ้ากางปีกสยายตรงปรายเป็นด้ามคล้ายกุญแจทั้งหมดทำด้วย คริลตัลแท้สีฟ้ามันเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายจากแม่ก่อนตาย ตอนที่ฉันอายุ ๑๒ ปี แล้วแม่ยังบอกว่าให้เก็บรักษาดีๆ เพราะมันสำคัญมาก ชักอยากจะรู้แล้วสิว่ามันคืออะไรที่มากกว่าสร้อย "โอ๊ย!~ ปวดหัว" ฉันอุทานออกมาเบาๆ ไปนั่งเล่นที่ศาลากลางน้ำดีกว่า เดินฉันออกจากห้องเดินลงบันไดที่กว้างขวางเดินเรียงกัน ๒๐ คนถึงจะได้ ทำมาจากทองคำแท้ทั้งหมด ไม่ใช่แค่บันไดเท่านั้นแต่มันเป็นส่วนประกอบหลักๆของปราสาทแห่งเลยก็ว่าได้ ฉันเดินผ่านห้องโถงใหญ่เจอแม่บ้านเมรี่เดินสวนมาเลยถามฉันว่า"คุณหนูจะไปไหนคะ"คุณแม่บ้านวัย๓๔ปีถามขึ้น "จะไปนั่งเล่นข้างนอกค่ะ" ฉันตอบแม่บ้านแล้วเดินออกไปโดยไม่ฟังคำถามจากแม่บ้านที่กำลังจะยิงมาเป็นชุดๆ ฉันเดินมานั่งหยุดตรงกลางศาลามองดวงจันทร์  วันนี้เป็นเดือนวันเพ็ญนิ แล้วก็นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×