ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TaoKacha Fiction] True of False ?

    ลำดับตอนที่ #2 : 001

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 58


    ตั้งแต่ยังเด็ก คชาก็เป็นคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่เป็นเพราะว่าเขาขี้อายเกินกว่าจะเข้าไปทำความรู้จักกับใครก่อน ทำให้เขามีกลุ่มเพื่อนอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของเขาแต่อย่างใด เพราะคชายังมีคนสำคัญที่อยู่เคียงข้างเขาเสมอ เพื่อนสนิทคนสำคัญของเขา

     

    .. ดนตรี

     

    สำหรับคชาแล้ว ดนตรีเป็นเสมือนทุกสิ่งในชีวิต เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งคู่ชีวิต คชารักในเสียงดนตรี เพราะดนตรีไม่เคยทอดทิ้งเขา ไม่เคยทำให้เขาต้องเหงา

     

    ดังนั้น การได้ผ่าน Audition เข้ามาประกวดในรายการ Academy Fantasia จึงเป็นยิ่งเสียกว่าความฝันที่เป็นจริง มันคือทุกๆอย่าง คือความทุ่มเท คือแรงกายแรงใจทั้งหมดของเขา กับ 3 ปีที่ไม่เคยย่อท้อ

     

    3 ปี.. V3..​ ดูเหมือนเขาจะผูกพันกับเลข 3 มากทีเดียว

     

    หรืออาจจะรวมถึง.. เพื่อนสนิทคนใหม่คนนั้น เพื่อนสนิท V23 คนนั้นด้วยละมั้ง

     

    คนที่ชื่อว่า ‘เต๋า

     

     

    เต๋าแตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง เต๋าเป็นคนเฟรนด์ลี่ เข้ากับคนอื่นง่าย ยิ้มง่าย เป็นผู้ชายในอุดมคติของผู้หญิงเกือบทั้งโลกด้วยคอนเซ็ป หล่อ น่ารัก อบอุ่น

     

    และยังเผื่อแผ่ความอบอุ่นแบบไร้ลิมิตนั่น.. มาถึงเขา

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่พวกเขากลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน เต๋าค่อยๆแทรกซึมเข้ามาในโลกของเขาอย่างแนบเนียน โดยที่เขาไม่แม้กระทั่งจะไม่รู้ตัว

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เขากลายเป็นคนยิ้มง่าย กล้าที่จะเข้าหาคนอื่นก่อน สร้างสัมคมกับคนอื่น เป็นคนแบบที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่โลกเล็กๆของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้น

     

    บางทีอาจจะตั้งแต่.. ที่เพื่อนคนนี้เข้ามาในชีวิตของเขาละมั้ง

     

    - - -

     

    มันอาจจะเป็นความเคยชิน

     

    ที่ตัวของเขาจะต้องคอยมองหาเต๋าตลอดเวลา ทำตัวติดกันตลอดเวลา กินข้าวด้วยกัน ร้องเพลงด้วยกัน เล่นด้วยกัน กอด ป้อนข้าว นั่งตัก นอนตัก หรืออะไรต่อมิอะไร

     

    สำหรับเขา มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องปกติ

     

    เรื่องปกติที่ทำจนเคยชิน

     

    แต่เหมือนคนอื่นๆอาจจะไม่คิดเหมือนเขา

     

    กระแส เต๋าคชาเริ่มมาแรงขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากป้ายไฟสีเขียวแดงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกวีค สารพัดฉายาก็ตามมา สว่างหน้าเดียวบ้าง แอทเลิฟบ้าง

     

    สำหรับเขามันก็แค่เรื่องขำขัน

     

    ชอบเต๋านะหรอ ฝันไปเถอะ ใจเต้นสักนิดก็ไม่มี หวั่นไหวก็ไม่แม้แต่น้อย

     

    ที่สำคัญ

     

    เต๋าเป็นผู้ชาย

     

    และเขา.. ก็เป็นผู้ชาย

     

    คิดอีกก็ขำอีก คิดกี่ทีก็ขำ ทำไมคนพวกนั้นถึงคิดว่าผู้ชายแท้ๆอย่างเขากับเต๋าจะมาชอบกันได้นะ

     

    แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า ตัวเขาเองก็รู้สึกดีแบบบอกไม่ถูกกับเต๋าอยู่มาก

     

    ไม่แน่ถ้าเต๋าเป็นผู้หญิง..

     

    เขาอาจจะชอบเต๋าจริงๆก็ได้นะ

     

    - - -

     

    “นี่ถามจริงเหอะ มึงกับเต๋านี่ชอบกันจริงๆหรือเปล่าวะ”

     

    ต้นแอบกระซิบถามเขาในคืนวันหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จะตอบต้นออกไปว่า

     

    “เออใช่.. ใช่ก็เหี้ยละมึง” พอเห็นดวงตาที่เบิกโตของเพื่อนตอนได้ฟังประโยคแรก เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังจนคนที่นอนข้างๆขยับตัวหยุกหยิกเล็กน้อยเหมือนจะตื่น ก่อนจะนิ่งไปเหมือนเดิม

     

    เมื่อหันกลับไปมอง ก็ดังคาด ผ้าห่มที่ตอนแรกยังคลุมตัวอยู่ดีๆก็ลงไปกองอยู่แทบเท้าของคนนอนดิ้นเหมือนเช่นเคย

     

    คชาส่ายหน้าเบาๆอย่างเอือมระอาปนขบขัน แล้วลุกขึ้นมาหยิบผ้าห่มกลับขึ้นมาคลุมตัวคนข้างตัวเหมือนเดิม.. อย่างที่ทำเสมอเกือบทุกคืน

     

    “บอกไม่ได้ชอบๆนี่กุเห็นมึงลุกขึ้นมาห่มผ้าให้มันทุกคืนเลยนะ นี่แค่เพื่อนจริงดิ่”

     

    ทันทีที่หัวกลับถึงหมอน ต้นก็รัวใส่เขาไม่ยั้ง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วแอบเถียงในใจ

     

    ไม่ใช่ทุกคืนสักหน่อย..

     

    แต่ก็พูดไปว่า “เพื่อนห่มผ้าให้กันมันแปลกตรงไหนวะ”

     

    “แปลกดิ่วะ อ่ะ ห่มผ้ายังไม่เท่าไหร่ อีที่พวกมึงนวดๆ นอนกอดอะไรกันเนี่ย แปลกสุด”

     

    “ทำไมอะ”

     

    “นี่มึงโง่หรือมึงโง่วะคชา แปลกก็คือแปลก จะให้กุอธิบายอะไรอีกวะ” ต้นจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด ก็เขาไม่เข้าใจจริงๆนี่นาว่ามันแปลกตรงไหน

     

    “ไม่รู้ว่ะ ก็อยู่ดีๆมันก็กอด สงสัยคิดว่ากุเป็นหมอนข้างมั้ง” เขาพูดติดตลก แต่ต้นกลับไม่ขำตาม

     

    “เหร๊อ ละอีพวกนั่งตักป้อนข้าวอะไรของพวกมึงอ่ะ จะว่าไง”

     

    “หืม.. ก็มันให้นั่งกุก็นั่ง ป้อนให้กุก็กิน กุไม่ได้คิดอะไรอ่ะ” ก็เขาไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ก็เพื่อนกันไม่เห็นจะแปลกตรงไหนสักหน่อย

     

    “งั้นอีเต๋าสร้างกระแสจะได้ดังงั้นดิ่”

     

    “เอองั้นมั้ง” ทั้งๆที่ตอบกลับแบบขำๆ แต่แปลก.. ทำไมในใจเขากลับรู้สึกโหวงๆชอบกล

     

    “โว๊ะพวกมึงนี่แปลกจริง เออช่างๆกุขี้เกียจถามละ นอนไปๆ บาย ฝันดี”

     

    “เออๆฝันดี”

     

    ต้นหลับไปนานแล้ว แต่ตัวเขายังตาสว่างอยู่  ในหัวก็มีแต่คำพูดสั้นๆประโยคนั้นวนไปวนมา

     

    งั้นอีเต๋าสร้างกระแสจะได้ดังงั้นดิ่

     

    ทำไมนะ ทำไมคำพูดนั้นถึงติดอยู่ในหัวของเขาขนาดนี้

     

    แล้วทำไม..

     

    เขาจะต้องรู้สึกโหวงจนเจ็บไปหมดขนาดนี้ด้วยนะ..

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×