ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ผนึกความทรงจำ.....การเกิดใหม่
ทำไมผู้ที่มีอำนาจสูงสุดอย่าง แอสทริด  ต้องใช้พลังทั้งหมดที่ตัวเองมีผนึกเด็กชายตัวเล็กๆไว้อย่างแน่นหนา จนทำให้ตัวเองต้อง จบชีวิตลง
เวลาผ่านไปนับพันปี ทะเลในตอนนั้น ก็ใหญ่ขึ้น จนกลายเป็น มหาสมุทร  ด้วยอำนาจของเธอ ตลอดเวลาพันปีนี้ เธอจึงได้มาเกิดใหม่  แม้เธอจะเกิดใหม่โดยเป็นเพียงมนุษย์เดินดินธรรมดา  ความทรงจำของเธอกลับไม่ได้ถูกลบเลือนไปแม้แต่น้อย แต่พลังของเธอไม่ได้มีมากมายอีกแล้ว  เธอมีพลังเป็นเพียงเทพธรรมดาองค์หนึ่งเท่านั้นซึ่งอาจจะสู้บริวารของเธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะพลังเกือบทั้งหมดของเธอได้ใช้ไปในการปิดผนึกถ้ำแล้ว  แต่เธอไม่รู้หรอกว่า แต่ละครั้งที่เธอเกิดใหม่ เหมือนกับเธอได้พักฟื้นตัวเอง ดังนั้น ทุกครั้งที่เธอเกิดใหม่ พลังของเธอจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว
ทุกครั้งที่เธอเกิดใหม่จะต้องอยู่อย่างหวาดระแวง  คอยกังวลว่า พลังของเธอจะเสื่อมสลายเมื่อใด  เช่นเดียวกันกับบริวารของเธอ ซึ่งจะคอยมาเกิดใหม่อยู่ใกล้ๆเธอทุกครั้ง พร้อมกับคอยกังวลเช่นกัน  เวลาผ่านพ้นไปนับพันๆปี ไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น ดังนั้น ในวันหนึ่ง เมื่อเธออยู่กับ เหล่าเทพ และ องครักษ์ ในร่างของมนุษย์ธรรมดา
“พวกเจ้า เหล่าเทพรับใช้ข้า เจ้าไม่จำเป็น ต้องตามข้าไปเกิดอีกแล้ว เจ้ามีพลังเพียงพอที่จะกลับไปเป็นเทพ  แล้วเรื่องร้ายแรงที่เรากลัว คงจะไม่เกิดแล้วล่ะ ดังนั้น ข้าจะปิดกั้นความทรงจำของตัวเอง เพราะข้าต้องการเกิดใหม่เป็นมนุษย์ธรรมดาอย่างเต็มตัว”  นางพูด
“นั่นไม่เป็นการทำร้ายตัวท่านเองหรอ พวกเราจะตามไปรับใช้ท่าน” โกลดี้กล่าว
“ข้าบอกไปแล้วว่าไม่ต้องตาม ข้าเบื่อหน่ายการเป็นเทพที่ต้องคอยปกป้องทุกๆคนแล้ว ข้าเหนื่อย ข้าจะจบชีวิตในชาตินี้ไว้เพียงเท่านี้ เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในภายภาคหน้า”  กล่าวจบ ก็หันหลังไป ไม่มองเหล่าบริวารของนางอีก  เหล่าบริวารของนางจึงเดินกลับออกไป  น้ำตาของนางไหลรินลงอาบแก้ม  ผมสีน้ำตาลเข้มปนอ่อนของนางปลิวไสวอยู่ข้างหลัง เพราะการตัดสินใจในครั้งนี้ ทำไปแท้จริงแล้วเพื่อ รักษาชีวิตของเหล่าเทพและองครักษ์ของนางไว้ ไม่ต้องการให้มาเสี่ยงด้วยกันอีก ทั้งนี้ก็เพราะ  เวลาพันปี มากพอที่จะทำให้พลังของนางเสื่อมได้แล้ว และนางก็รู้ดีว่า ผู้ที่นางผนึกไว้นั้น มีพลังมากเพียงไหน
“ท่านไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้เลย”  เสียงชายหนุ่มดังจากด้านหลังของนาง นางรีบหันไปด้วยความตกใจพร้อมกับใช้มือปาดคราบน้ำตา แน่นอนว่าต้องเป็น..
“เอลเมอร์!” อุทานด้วยความตกใจ
“ข้าจะตามไปเกิดใหม่  จะติดตามไปช่วยท่าน จะตามไป ”
“หยุด! ไม่ต้องพูดอีกแล้ว เพื่อ เพื่อความต้องการของข้า ข้าก็บอกไปแล้วไงล่ะว่า ข้าน่ะไม่ต้องการจะปกป้องใครอีก ข้าต้องการที่จะใช้ชีวิตแบบธรรมดา ” 
“ท่านคิดว่าจะหลอกข้าได้งั้นหรอ ข้ารู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของท่านหรอก  ท่านเคยช่วยเหล่า เบญจเทพ*ไว้หลายครา แล้วท่านคิดว่าพวกเหล่าเทพจะเลิกติดตามท่านจริงๆหรือ..” 
“ข้า ข้าก็ไม่คิดเช่นนั้น”
“ตลอดเวลา ข้าเฝ้ามองดูท่านยอมทนทุกข์ทรมาน เพื่อช่วยชีวิตพวกมนุษย์เหล่านี้  ท่านรู้ไหมว่าข้าทุกข์ยิ่งกว่าท่าน ตอนที่ท่านใช้พลังไปหมด เพื่อปิดผนึกเคอร์ไว้  การตายของท่านแม้ดูเรียบง่าย แต่ข้าล่วงรู้ดีกว่าใคร ว่ามันเจ็บปวด จนยากที่ใครจะทนทานได้  แล้วท่านรู้หรือไม่ว่า การต้องทนดูคนที่เรารักตายไปมันเจ็บปวดแค่ไหน”
“ข้ารู้  แต่ข้ามีภารกิจมากมายที่มิอาจให้เจ้ามาเสี่ยงอันตรายได้  การปิดกั้นความทรงจำ จะทำให้  เคอร์*หาตัวข้าไม่เจอ รวมทั้งเจ้าด้วย ..
ความทรงจำใดๆ จะถูกปิดผนึกไว้ ในสิ่งนี้”  นางยื่นมือออกมา มีสร้อยคอที่เป็นรูปไม้กางเขนทำจากเงิน  ตรงกลาง  มีหินไร้สีอันมีค่า .เพชร .ฝังอยู่ อีก 4 ด้าน รายล้อมด้วยไข่มุข  นางสวมสร้อยให้กับเอลเมอร์ โดยที่เอลเมอร์ไม่ทันตั้งตัว จากนั้นเกิดแสงสว่างขึ้น เอลเมอร์หลับตาลง เมื่อแสงสว่างหายไป  เอลเมอร์ลืมตาขึ้นมาด้วยแววตาที่เลื่อนลอย ปราศจากความทรงจำ
“ข้าขอโทษด้วย นี่เป็นวิธีการเดียว ที่จะช่วยได้”  แล้วนางก็หลับตาลง นางยื่นมือไปแตะใบหน้าของเอลเมอร์ ที่ตอนนี้ไร้ซึ่งความทรงจำ เกิดแสงสว่างรอบตัวคนทั้งคู่อีกครั้ง ความทรงจำของแอสทริดก็ถูกปิดไว้ แล้วคนทั้งสองก็หายไปท่ามกลางแสงสว่างนั้น  แต่พลังของเอลเมอร์ก็ใช่ว่าน้อย จะปิดกั้นความทรงจำไว้ได้นานแค่ไหน แอสทริดเองก็ไม่แน่ใจ บางที อาจจะไม่ถึง 10 ปีด้วยซ้ำ  แต่อย่างน้อย หากมีสิ่งเก็บความทรงจำไว้ ซึ่งในที่นี้ก็คือ สร้อยคอรูปไม้กางเขนอันนั้น ก็จะช่วยยืดระยะเวลาได้อีก และที่สำคัญที่สุด ความทรงจำจะกลับคืนมาได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด  ก็จะต้องเป็นผู้ปิดผนึกนั่นแหละ ที่เป็นคนคลายผนึก
ทางฝ่ายเทพธิดาทั้งห้า  ยื่นมือจับกันเป็นวงกลม โดยเรียง จาก  น้ำ(แอลมาริน่า)  ไม้(ชาไลด้า)  ไฟ(เฮดด้า)  ดิน(เซียร่า)  ทอง(โกลดี้) ตามตำแหน่งที่ถูกต้อง แสงสี ฟ้า เขียว แดง ดำ ทองสว่างขึ้น จากตัวแต่ละคน  แล้วก็สลายไป แน่นอน พวกนางไม่ยอมลบความทรงจำของตัวเอง เพื่อในชาติหน้า พวกนางจะได้ตามหา แอสทริดได้
ในที่สุดความหายนะ ก็มาเยือน ตามที่แอสทริดคาดการไว้ และจะเป็นใครได้ นอกจาก มนุษย์..ที่นำความหายนะมาสู่ตัวเอง
_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-
เบญจเทพ* คือ เทพประจำธาตุทั้ง 5 (น้ำ ไม้ ไฟ ดิน ทอง) เนื่องจาก เบญจ- แปลว่า 5 
เวลาผ่านไปนับพันปี ทะเลในตอนนั้น ก็ใหญ่ขึ้น จนกลายเป็น มหาสมุทร  ด้วยอำนาจของเธอ ตลอดเวลาพันปีนี้ เธอจึงได้มาเกิดใหม่  แม้เธอจะเกิดใหม่โดยเป็นเพียงมนุษย์เดินดินธรรมดา  ความทรงจำของเธอกลับไม่ได้ถูกลบเลือนไปแม้แต่น้อย แต่พลังของเธอไม่ได้มีมากมายอีกแล้ว  เธอมีพลังเป็นเพียงเทพธรรมดาองค์หนึ่งเท่านั้นซึ่งอาจจะสู้บริวารของเธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะพลังเกือบทั้งหมดของเธอได้ใช้ไปในการปิดผนึกถ้ำแล้ว  แต่เธอไม่รู้หรอกว่า แต่ละครั้งที่เธอเกิดใหม่ เหมือนกับเธอได้พักฟื้นตัวเอง ดังนั้น ทุกครั้งที่เธอเกิดใหม่ พลังของเธอจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว
ทุกครั้งที่เธอเกิดใหม่จะต้องอยู่อย่างหวาดระแวง  คอยกังวลว่า พลังของเธอจะเสื่อมสลายเมื่อใด  เช่นเดียวกันกับบริวารของเธอ ซึ่งจะคอยมาเกิดใหม่อยู่ใกล้ๆเธอทุกครั้ง พร้อมกับคอยกังวลเช่นกัน  เวลาผ่านพ้นไปนับพันๆปี ไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น ดังนั้น ในวันหนึ่ง เมื่อเธออยู่กับ เหล่าเทพ และ องครักษ์ ในร่างของมนุษย์ธรรมดา
“พวกเจ้า เหล่าเทพรับใช้ข้า เจ้าไม่จำเป็น ต้องตามข้าไปเกิดอีกแล้ว เจ้ามีพลังเพียงพอที่จะกลับไปเป็นเทพ  แล้วเรื่องร้ายแรงที่เรากลัว คงจะไม่เกิดแล้วล่ะ ดังนั้น ข้าจะปิดกั้นความทรงจำของตัวเอง เพราะข้าต้องการเกิดใหม่เป็นมนุษย์ธรรมดาอย่างเต็มตัว”  นางพูด
“นั่นไม่เป็นการทำร้ายตัวท่านเองหรอ พวกเราจะตามไปรับใช้ท่าน” โกลดี้กล่าว
“ข้าบอกไปแล้วว่าไม่ต้องตาม ข้าเบื่อหน่ายการเป็นเทพที่ต้องคอยปกป้องทุกๆคนแล้ว ข้าเหนื่อย ข้าจะจบชีวิตในชาตินี้ไว้เพียงเท่านี้ เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในภายภาคหน้า”  กล่าวจบ ก็หันหลังไป ไม่มองเหล่าบริวารของนางอีก  เหล่าบริวารของนางจึงเดินกลับออกไป  น้ำตาของนางไหลรินลงอาบแก้ม  ผมสีน้ำตาลเข้มปนอ่อนของนางปลิวไสวอยู่ข้างหลัง เพราะการตัดสินใจในครั้งนี้ ทำไปแท้จริงแล้วเพื่อ รักษาชีวิตของเหล่าเทพและองครักษ์ของนางไว้ ไม่ต้องการให้มาเสี่ยงด้วยกันอีก ทั้งนี้ก็เพราะ  เวลาพันปี มากพอที่จะทำให้พลังของนางเสื่อมได้แล้ว และนางก็รู้ดีว่า ผู้ที่นางผนึกไว้นั้น มีพลังมากเพียงไหน
“ท่านไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้เลย”  เสียงชายหนุ่มดังจากด้านหลังของนาง นางรีบหันไปด้วยความตกใจพร้อมกับใช้มือปาดคราบน้ำตา แน่นอนว่าต้องเป็น..
“เอลเมอร์!” อุทานด้วยความตกใจ
“ข้าจะตามไปเกิดใหม่  จะติดตามไปช่วยท่าน จะตามไป ”
“หยุด! ไม่ต้องพูดอีกแล้ว เพื่อ เพื่อความต้องการของข้า ข้าก็บอกไปแล้วไงล่ะว่า ข้าน่ะไม่ต้องการจะปกป้องใครอีก ข้าต้องการที่จะใช้ชีวิตแบบธรรมดา ” 
“ท่านคิดว่าจะหลอกข้าได้งั้นหรอ ข้ารู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของท่านหรอก  ท่านเคยช่วยเหล่า เบญจเทพ*ไว้หลายครา แล้วท่านคิดว่าพวกเหล่าเทพจะเลิกติดตามท่านจริงๆหรือ..” 
“ข้า ข้าก็ไม่คิดเช่นนั้น”
“ตลอดเวลา ข้าเฝ้ามองดูท่านยอมทนทุกข์ทรมาน เพื่อช่วยชีวิตพวกมนุษย์เหล่านี้  ท่านรู้ไหมว่าข้าทุกข์ยิ่งกว่าท่าน ตอนที่ท่านใช้พลังไปหมด เพื่อปิดผนึกเคอร์ไว้  การตายของท่านแม้ดูเรียบง่าย แต่ข้าล่วงรู้ดีกว่าใคร ว่ามันเจ็บปวด จนยากที่ใครจะทนทานได้  แล้วท่านรู้หรือไม่ว่า การต้องทนดูคนที่เรารักตายไปมันเจ็บปวดแค่ไหน”
“ข้ารู้  แต่ข้ามีภารกิจมากมายที่มิอาจให้เจ้ามาเสี่ยงอันตรายได้  การปิดกั้นความทรงจำ จะทำให้  เคอร์*หาตัวข้าไม่เจอ รวมทั้งเจ้าด้วย ..
ความทรงจำใดๆ จะถูกปิดผนึกไว้ ในสิ่งนี้”  นางยื่นมือออกมา มีสร้อยคอที่เป็นรูปไม้กางเขนทำจากเงิน  ตรงกลาง  มีหินไร้สีอันมีค่า .เพชร .ฝังอยู่ อีก 4 ด้าน รายล้อมด้วยไข่มุข  นางสวมสร้อยให้กับเอลเมอร์ โดยที่เอลเมอร์ไม่ทันตั้งตัว จากนั้นเกิดแสงสว่างขึ้น เอลเมอร์หลับตาลง เมื่อแสงสว่างหายไป  เอลเมอร์ลืมตาขึ้นมาด้วยแววตาที่เลื่อนลอย ปราศจากความทรงจำ
“ข้าขอโทษด้วย นี่เป็นวิธีการเดียว ที่จะช่วยได้”  แล้วนางก็หลับตาลง นางยื่นมือไปแตะใบหน้าของเอลเมอร์ ที่ตอนนี้ไร้ซึ่งความทรงจำ เกิดแสงสว่างรอบตัวคนทั้งคู่อีกครั้ง ความทรงจำของแอสทริดก็ถูกปิดไว้ แล้วคนทั้งสองก็หายไปท่ามกลางแสงสว่างนั้น  แต่พลังของเอลเมอร์ก็ใช่ว่าน้อย จะปิดกั้นความทรงจำไว้ได้นานแค่ไหน แอสทริดเองก็ไม่แน่ใจ บางที อาจจะไม่ถึง 10 ปีด้วยซ้ำ  แต่อย่างน้อย หากมีสิ่งเก็บความทรงจำไว้ ซึ่งในที่นี้ก็คือ สร้อยคอรูปไม้กางเขนอันนั้น ก็จะช่วยยืดระยะเวลาได้อีก และที่สำคัญที่สุด ความทรงจำจะกลับคืนมาได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด  ก็จะต้องเป็นผู้ปิดผนึกนั่นแหละ ที่เป็นคนคลายผนึก
ทางฝ่ายเทพธิดาทั้งห้า  ยื่นมือจับกันเป็นวงกลม โดยเรียง จาก  น้ำ(แอลมาริน่า)  ไม้(ชาไลด้า)  ไฟ(เฮดด้า)  ดิน(เซียร่า)  ทอง(โกลดี้) ตามตำแหน่งที่ถูกต้อง แสงสี ฟ้า เขียว แดง ดำ ทองสว่างขึ้น จากตัวแต่ละคน  แล้วก็สลายไป แน่นอน พวกนางไม่ยอมลบความทรงจำของตัวเอง เพื่อในชาติหน้า พวกนางจะได้ตามหา แอสทริดได้
ในที่สุดความหายนะ ก็มาเยือน ตามที่แอสทริดคาดการไว้ และจะเป็นใครได้ นอกจาก มนุษย์..ที่นำความหายนะมาสู่ตัวเอง
_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-
เบญจเทพ* คือ เทพประจำธาตุทั้ง 5 (น้ำ ไม้ ไฟ ดิน ทอง) เนื่องจาก เบญจ- แปลว่า 5 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น