ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ปิดผนึก...พิธีฆ่าตัวตาย
“ด้วยพลังของข้า แอสทริด ผู้ควบคุมชะตาของมนุษย์ทุกคนบนโลก ขอใช้พลังทั้งหมดที่ข้ามี ปิดผนึกเจ้าไว้ในถ้ำใต้ทะเลลึกนี้ ตราบเท่าที่จะนานได้”
เสียงของหญิงสาวดังก้องกังวาน โดยที่หาต้นเสียงไม่ได้ เสียงที่หวานไพเราะแต่แฝงไปด้วยพลังอำนาจที่ยากจะคาดได้  สิ้นเสียงของเธอ เกิดแสงสว่างขึ้นใต้น้ำในทะเลแห่งหนึ่ง  ถ้ำแห่งนั้นทางเข้าถูกปิดตาย แม้แต่น้ำก็มิอาจเล็ดลอดเข้าไปได้  ภายในมีเด็กชายอายุราว 5 ปี นอนสิ้นสติอยู่
หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเสียงนั้น คือ แอสทริด* นางมีผมสีน้ำตาลอ่อนปนเข้ม ดวงตาสีฟ้าคราม นางค่อยๆเอนตัวลงบนเตียงอันแสนนุ่มดุจปุยเมฆ เตียงนั้นตั้งอยู่ริมห้องด้านซ้าย โดยตรงกลับประตู ในห้องนั้นมีผนังสีครีม เพดานมีโคมไฟห้อยลงมา และยังมีภาพวาดท้องฟ้าสีคราม สวยงามมาก เตียงของนางนั้นมีเสาสี่มุมที่สูงขึ้นไปจนติดเพดานห้องและมีผ้าม่านคลุมเตียงด้วย มิหนำซ้ำ เตียงของเธอยังทำขึ้นจากทองคำ แกะสลักลวดลายอย่างสวยงาม  ห้องอันโอ่อ่านี้ คือห้องนอนของนางนั่นเอง
นางปลดเชือกรัดผ้าม่านคลุมเตียงออกทั้ง 2 ข้าง ผ้าม่านเป็นผ้ากำมะหยี่สีแดงเข้ม เมื่อผ้าม่านคลุมเตียงโดยรอบ เปลือกตาอันหนักอึ้งของนางค่อยๆปิดลง  ร่างกายของเธอค่อยๆใสขึ้น แล้วในที่สุดก็สลายไป 
ชายหนุ่มผลักประตูเข้ามาพร้อมกับ หญิงสาวอีก 5 คน แต่งกายด้วยผ้าขาวบริสุทธิ์เพื่อเป็นการไว้อาลัย ทั่วทั้งร่างของคนทั้ง 6 ล้วนประกอบด้วยสีขาวทั้งสิ้น ส่วนชายหนุ่มผู้เดียวนั้นแม้แต่ดวงตาก็ยัง เป็นสีขาว!!  หญิงสาวและชายหนุ่มทั้งหก หน้าตาดีมาก สมกับคำว่าเทพ และ เทพธิดาเลยทีเดียว แต่ ในความงามทั้งหมดนั้น ก็ยังไม่มีใครเทียบ แอสทริดได้  หญิงสาวทุกคนมีผมสีน้ำตาลเข้ม  ยกเว้นแต่ชายหนุ่มที่มีผมสีดำสนิท
คนทั้งหกย่อกายลงคุกเข่ารายรอบเตียงไว้ พร้อมกับก้มลงกราบ ด้วยความอาลัยอาวรณ์  พร้อมกับกล่าวว่า  “น้อมส่งท่านแอสทริด”  แล้วเงยหน้าขึ้น
ชายหนุ่ม ยื่นข้อมือข้างซ้ายออกมา แล้วใช้มือขวาหยิบกริชที่ทำจากเงินบริสุทธิ์ออกมาจากข้างเอว พลางกล่าวว่า “เอลเมอร์* ขอตามไปรับใช้” แล้วใช้กริชกรีดลงบนข้อมือของตัวเอง ไม่น่าเชื่อแม้แต่เลือดที่ไหลออกมาจากข้อมือของชายผู้นี้ก็ยังเป็นสีขาว
คนอื่นๆก็ทำเช่นเดียวกัน เริ่มด้วยหญิงสาวที่อยู่ด้านซ้ายของเตียงก่อน นางทำเช่นเดียวกันแล้วกล่าวว่า “ผู้น้อย แอลมาริน่า* น้อมรับใช้ในภายภาคหน้า”  นางมีดวงตาสีน้ำทะเล ที่ดูแล้วให้ความสงบ สร้อยที่นางสวมอยู่มีจี้เป็น พลอยไพลินสีน้ำเงิน เลือดของนางเป็นสีฟ้า
หญิงคนถัดมา กล่าวว่า “ผู้น้อย ชาไลด้า* น้อมรับใช้ในภายภาคหน้า”  นางมีดวงตาสีเขียวอ่อน จี้ของนางคือหยก และเลือดของนางเป็นสีเขียวอ่อนปนเข้ม
“ผู้น้อย เฮดด้า* น้อมรับใช้ในภายภาคหน้า”  นางมีดวงตาสีแดง ที่ให้ความรู้สึกร้อนแรง จี้ที่นางห้อยอยู่คือ ทับทิม  และแน่นอนเลือดของนางมีสีแดงสดปนส้ม
“ผู้น้อย เซียร่า* น้อมรับใช้ในภายภาคหน้า”  นางมีดวงตาสีน้ำตาลเข้มเช่นเดียวกับสีผม ที่ให้รู้สึกถึงความหนักแน่น นางสวมใส่สร้อยคอที่ทำจากเงินบริสุทธิ์อีกเช่นกัน ซึ่งมีจี้เป็นนิลดำ เลือดของนาง ก็เป็นสีน้ำตาลเข้มเช่นเดียวกัน
และคนสุดท้าย “ผู้น้อย โกลดี้* น้อมรับใช้ในภายภาคหน้า”  นางมีดวงตาสีเหลืองทอง ที่ดูล้ำค่ายิ่ง จี้ของนางคือบุษราคัม  เลือดของนางมีสีเหลืองทอง
ร่างของชายหนุ่มสลายไปเฉยๆ  เซียร่ากลายเป็นดิน จากดินก็สลายไป  แอลมาริน่า ร่างใสขึ้นจนกลายเป็นน้ำแล้วสลายไป  เฮดด้าเกิดไฟลุกท่วม จนไม่เหลือ  ชาไลด้า กลายเป็นผุยผงแล้วหายไป  โกลดี้กลายเป็นรูปปั้นทองคำแล้วก็สลายไป 
(เหตุการณ์นี้ คือ พิธีฆ่าตัวตายแบบชาวเทพ)
เมื่อทุกคนชีวิตจบลงด้วยการสลายไปเช่นนี้ ในห้องนั้น จึงดูเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น  แต่แท้ที่จริงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่  ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดอย่าง แอสทริด  ยังต้องใช้พลังทั้งหมดที่ตัวเองมีผนึกเด็กชายตัวเล็กๆไว้อย่าง
แน่นหนา จนทำให้ตัวเองต้อง จบชีวิตลง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำที่มีดอกจัน อยู่ สามารถดูความหมาย ได้ในบทแรก
ขอบคุณผู้ที่เข้ามาอ่านนะคะ  ช่วยลงความเห็นให้ด้วยจะดีมากเลย  เป็น ติ ก็ได้นะ เค้าอยากแต่งให้ดีๆอะ คือแบบว่าเราชอบแต่งเรื่อง แต่ใช้สำนวนการแต่งไม่ค่อยดี  แต่งไปแต่งมาแล้วก็ไม่สนุกอะ  ยังไงก็ขอความคิดเห็นเยอะๆนะคะ 
เสียงของหญิงสาวดังก้องกังวาน โดยที่หาต้นเสียงไม่ได้ เสียงที่หวานไพเราะแต่แฝงไปด้วยพลังอำนาจที่ยากจะคาดได้  สิ้นเสียงของเธอ เกิดแสงสว่างขึ้นใต้น้ำในทะเลแห่งหนึ่ง  ถ้ำแห่งนั้นทางเข้าถูกปิดตาย แม้แต่น้ำก็มิอาจเล็ดลอดเข้าไปได้  ภายในมีเด็กชายอายุราว 5 ปี นอนสิ้นสติอยู่
หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเสียงนั้น คือ แอสทริด* นางมีผมสีน้ำตาลอ่อนปนเข้ม ดวงตาสีฟ้าคราม นางค่อยๆเอนตัวลงบนเตียงอันแสนนุ่มดุจปุยเมฆ เตียงนั้นตั้งอยู่ริมห้องด้านซ้าย โดยตรงกลับประตู ในห้องนั้นมีผนังสีครีม เพดานมีโคมไฟห้อยลงมา และยังมีภาพวาดท้องฟ้าสีคราม สวยงามมาก เตียงของนางนั้นมีเสาสี่มุมที่สูงขึ้นไปจนติดเพดานห้องและมีผ้าม่านคลุมเตียงด้วย มิหนำซ้ำ เตียงของเธอยังทำขึ้นจากทองคำ แกะสลักลวดลายอย่างสวยงาม  ห้องอันโอ่อ่านี้ คือห้องนอนของนางนั่นเอง
นางปลดเชือกรัดผ้าม่านคลุมเตียงออกทั้ง 2 ข้าง ผ้าม่านเป็นผ้ากำมะหยี่สีแดงเข้ม เมื่อผ้าม่านคลุมเตียงโดยรอบ เปลือกตาอันหนักอึ้งของนางค่อยๆปิดลง  ร่างกายของเธอค่อยๆใสขึ้น แล้วในที่สุดก็สลายไป 
ชายหนุ่มผลักประตูเข้ามาพร้อมกับ หญิงสาวอีก 5 คน แต่งกายด้วยผ้าขาวบริสุทธิ์เพื่อเป็นการไว้อาลัย ทั่วทั้งร่างของคนทั้ง 6 ล้วนประกอบด้วยสีขาวทั้งสิ้น ส่วนชายหนุ่มผู้เดียวนั้นแม้แต่ดวงตาก็ยัง เป็นสีขาว!!  หญิงสาวและชายหนุ่มทั้งหก หน้าตาดีมาก สมกับคำว่าเทพ และ เทพธิดาเลยทีเดียว แต่ ในความงามทั้งหมดนั้น ก็ยังไม่มีใครเทียบ แอสทริดได้  หญิงสาวทุกคนมีผมสีน้ำตาลเข้ม  ยกเว้นแต่ชายหนุ่มที่มีผมสีดำสนิท
คนทั้งหกย่อกายลงคุกเข่ารายรอบเตียงไว้ พร้อมกับก้มลงกราบ ด้วยความอาลัยอาวรณ์  พร้อมกับกล่าวว่า  “น้อมส่งท่านแอสทริด”  แล้วเงยหน้าขึ้น
ชายหนุ่ม ยื่นข้อมือข้างซ้ายออกมา แล้วใช้มือขวาหยิบกริชที่ทำจากเงินบริสุทธิ์ออกมาจากข้างเอว พลางกล่าวว่า “เอลเมอร์* ขอตามไปรับใช้” แล้วใช้กริชกรีดลงบนข้อมือของตัวเอง ไม่น่าเชื่อแม้แต่เลือดที่ไหลออกมาจากข้อมือของชายผู้นี้ก็ยังเป็นสีขาว
คนอื่นๆก็ทำเช่นเดียวกัน เริ่มด้วยหญิงสาวที่อยู่ด้านซ้ายของเตียงก่อน นางทำเช่นเดียวกันแล้วกล่าวว่า “ผู้น้อย แอลมาริน่า* น้อมรับใช้ในภายภาคหน้า”  นางมีดวงตาสีน้ำทะเล ที่ดูแล้วให้ความสงบ สร้อยที่นางสวมอยู่มีจี้เป็น พลอยไพลินสีน้ำเงิน เลือดของนางเป็นสีฟ้า
หญิงคนถัดมา กล่าวว่า “ผู้น้อย ชาไลด้า* น้อมรับใช้ในภายภาคหน้า”  นางมีดวงตาสีเขียวอ่อน จี้ของนางคือหยก และเลือดของนางเป็นสีเขียวอ่อนปนเข้ม
“ผู้น้อย เฮดด้า* น้อมรับใช้ในภายภาคหน้า”  นางมีดวงตาสีแดง ที่ให้ความรู้สึกร้อนแรง จี้ที่นางห้อยอยู่คือ ทับทิม  และแน่นอนเลือดของนางมีสีแดงสดปนส้ม
“ผู้น้อย เซียร่า* น้อมรับใช้ในภายภาคหน้า”  นางมีดวงตาสีน้ำตาลเข้มเช่นเดียวกับสีผม ที่ให้รู้สึกถึงความหนักแน่น นางสวมใส่สร้อยคอที่ทำจากเงินบริสุทธิ์อีกเช่นกัน ซึ่งมีจี้เป็นนิลดำ เลือดของนาง ก็เป็นสีน้ำตาลเข้มเช่นเดียวกัน
และคนสุดท้าย “ผู้น้อย โกลดี้* น้อมรับใช้ในภายภาคหน้า”  นางมีดวงตาสีเหลืองทอง ที่ดูล้ำค่ายิ่ง จี้ของนางคือบุษราคัม  เลือดของนางมีสีเหลืองทอง
ร่างของชายหนุ่มสลายไปเฉยๆ  เซียร่ากลายเป็นดิน จากดินก็สลายไป  แอลมาริน่า ร่างใสขึ้นจนกลายเป็นน้ำแล้วสลายไป  เฮดด้าเกิดไฟลุกท่วม จนไม่เหลือ  ชาไลด้า กลายเป็นผุยผงแล้วหายไป  โกลดี้กลายเป็นรูปปั้นทองคำแล้วก็สลายไป 
(เหตุการณ์นี้ คือ พิธีฆ่าตัวตายแบบชาวเทพ)
เมื่อทุกคนชีวิตจบลงด้วยการสลายไปเช่นนี้ ในห้องนั้น จึงดูเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น  แต่แท้ที่จริงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่  ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดอย่าง แอสทริด  ยังต้องใช้พลังทั้งหมดที่ตัวเองมีผนึกเด็กชายตัวเล็กๆไว้อย่าง
แน่นหนา จนทำให้ตัวเองต้อง จบชีวิตลง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำที่มีดอกจัน อยู่ สามารถดูความหมาย ได้ในบทแรก
ขอบคุณผู้ที่เข้ามาอ่านนะคะ  ช่วยลงความเห็นให้ด้วยจะดีมากเลย  เป็น ติ ก็ได้นะ เค้าอยากแต่งให้ดีๆอะ คือแบบว่าเราชอบแต่งเรื่อง แต่ใช้สำนวนการแต่งไม่ค่อยดี  แต่งไปแต่งมาแล้วก็ไม่สนุกอะ  ยังไงก็ขอความคิดเห็นเยอะๆนะคะ 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น