ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Got7 x you ] She's a monster เธอคือยัยปีศาจของผม

    ลำดับตอนที่ #13 : she's a monster chapter 12 (100%) อ่านทอล์คด้วยเน้อ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 460
      4
      1 พ.ค. 60

    。SYDNEY♔








    "...."

    เป็นเวลานานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งอยู่บนรถกับมาร์คและคนขับอย่างเงียบๆอย่างนี้ อึดอัดโว้ยยย

    "นี่"

    "จะบอกได้หรือยังว่านายจะพาฉันไปไหน"

    "จะถามทำไม ถึงแล้วก็รู้เอง" ดูๆ กวนขนาดไหนถามใจเธอดู

    "ถามให้แน่ใจว่านายไม่ได้พาฉันไปขายไงล่ะ"

    "หึ ถ้าฉันจะพาเธอไปขาย ฉันจับเธอใส่ถุงดำยัดใส่ท้ายรถนานแล้ว ไม่ปล่อยให้มานั่งพูดมากอยู่นี่หรอก"

    "-.,-"


    เอาไงดีไม่มีอะไรทำเลย ลืมหยิบโทรศัพท์มาซะด้วยสิ


    นอนก็ได้วะ 




    ZzZZ







    "นี่เธอ ตื่น"

    "ตื่นเดี๋ยวนี้นะ"

    "งือออ ขอ5นาทีนะๆ"

    "ฉันบอกให้ตื่นไง!!"

    เฮือก!  โป๊ก!



    เพราะตกใจกับเสียงของมาร์คทำให้ฉันสะดุ้งแล้วหัวดันไปโขกกับกระจกรถเข้า

    "โอยยย นายจะตะโกนทำไมเนี่ย หัวโขกเลยT^T"

    "รีบลงมาเร็วๆซักที"


    ฉันรีบก้าวลงมาจากรถตามที่มาร์คบังคับ ย้ำว่าบังคับ


    ฟิ้วววว


    หน้าชาเลย หนะ หนาวสุดๆ._.



    O_o

    มาร์คพาฉันมาที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่มีต้นไม้ที่ใบไม้ร่วงหมดแล้วขนาบข้างตลอดทางเดินยาว บางต้นก็มีกองหิมะกองอยู่ตรงใต้ต้น ข้างๆมีแม่น้ำอยู่ น่าจะเป็นแม่น้ำฮันนะ ถ้ามาเดินตอนกลางคืนคงจะสวยน่าดูเลย...


    "ตามมาสิ" มาร์คพูดพลางกระดกนิ้วชี้เป็นการเรียกให้ตามไป


    ฉันตัดสินใจเดินตามหลังมาร์คไปเรื่อยๆ จนไปหยุดที่ม้านั่งตัวหนึ่งที่อยู่ใต้ต้นไม้ พอสังเกตุดีๆแล้วบริเวณนี้นี่มันเหมือนในซีรี่ย์เกาหลีที่ยัยเบลล์ชอบเปิดให้ดูบ่อยๆเลยแฮะ



    "จะยืนเอ๋อทำไม นั่งสิ" เขาบอกฉันที่ยืนทำหน้างงๆ กระพริบตาปริบๆอยู่


    ฉันรีบนั่งตามที่มาร์คบอก ทันใดนั้นใบไม้แห้งที่อยู่บนต้นไม้ก็ร่วงโรยลงมาราวเป็นเอฟเฟคในฉากเลิฟซีนของพระเอกกับนางเอก อ่าา โรแมนติคที่สุดเลย...


    ถุ้ยยย


    นี่มันจะเหมือนซีรี่ย์มากไปแล้วนะ -_-!



    "นี่" 

    "อะไร"

    "สรุปที่มาตั้งไกลนี่มานั่งเฉยๆเหรอ -_-:;"

    "ถ้าใช่แล้วทำไม"

    "...." 

    "ฉันแค่อยากมาเที่ยวบ้างไม่ได้หรือไง?"

    "อะ..อ๋อ..."

    มาร์คหันมามองหน้าฉันเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าฉันเงียบไป ส่วนเขาก็เป็นคนเงียบๆอยู้แล้ว ฉันเลยไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี -*- ก็เลยได้แต่นั่งเงียบๆไป ปล่อยให้ใบไม้ปลิวผ่านหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า





    "เธอคิดว่าที่นี่เป็นไง"

    "อะ เอ๋? ก็เงียบสงบดีนะ แต่ถ้ามาตอนกลางคืนคงจะสวยน่าดู"

    "งั้นเหรอ"

    "(. . )"

    "งั้นวันหลัง...มาด้วยกัน.."


    "พวกแก! นั่นใช่มาร์คโอปป้าหรือป่าวอะ"

    "ไหนๆ กรี๊ดด ใช่จริงๆด้วยแก ว่าแต่โอปป้ามากับใครน่ะ"

    "กรี๊ดดด ยัยคนไหนกล้ามานั่งกับโอปป้าของฉัน!!"

    "เข้าไปจัดการกันเถอะ! นี่เธอคนนั้นน่ะ!"


    ฉันยังไม่ทันได้ฟังมาร์คให้รู้เรื่อง ก็มีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้วิ่งมาเป็นฝูง เอ้ย! เป็นกลุ่ม หน้าตาท่าทางจะกินเลือดกินเนื้อกันให้ได้เลย -_-^ ฉันกำลังจะหันไปบอกมาร์ค แต่ว่ามาร์คไวกว่า เขารีบคว้ามือฉันแล้วออกแรงฉุดกระชากลากดึงให้วิ่งตามเขาไปอย่างรวดเร็ว



    นี่มันบ้าอะไรกันวะเนี่ย!?




    "หนีเร็ว! พวกนั้นน่ะซาแซงนะ!" ห๊ะ อะไรคือซาแซง ซาแซงคืออะไร

    "โถ่เว้ย! พวกที่คลั่งไอดอลเกินเหตุน่ะ" ราวกับมาร์คจะอ่านความคิดของฉันออก เขาสบถออกมาอย่างดัง

    "โอปป้า! จะหนีไปไหนน่ะ! กรี๊ดดดด โอปป้าจับมือยัยนั่นด้วย"

    "ปล่อยตัวยัยนั่นมาให้พวกเราเถอะโอปป้า เดี๋ยวพวกเราจะสั่งสอนที่มันมายุ่งกับโอปป้าให้เอง!"


    กรี๊ดดดด พวกเธอแหละปล่อยฉันสองคนไปTOT!



    มาร์คกระชับมือฉันให้แน่นขึ้น พลางเร่งความเร็วในการวิ่งขึ้นไปอีก นี่ถ้าเกิดฉันสะดุดอะไรเข้าละก็ หน้าแหกแหงๆ หรือไม่ก็อาจจะโดนยัยพวกนั้นจับตัวไปทารุณกรรมอย่างโหดร้าย ฉันจะต้องวิ่งหนีอย่างสุดใจจนกว่าขามันจะขาดกันไปข้างหนึ่ง T^T!


    วิ่งๆๆๆ


    "หยุดดดเดี๋ยวนี้น้าาาา!"

    "หยุดนะโอปป้าาาาาาาาา"

    พวกเธอสิวะหยู้ดดดดดดดดดดดดดดดด



    มาร์คพาฉันวิ่งไปตามทางที่ลดเลี้ยวเคี้ยวคด แต่พวกซาแซงนั่นก็ยังวิ่งตามมาติดๆ นี่มันเป็นนักวิ่งทีมชาติหรือป่าววะเนี่ยยย ขาฉันแทบหมดแรงแล้ว หัวก็กระเซิงยิ่งกว่าอีเพิ้งอีก แต่อย่าหวังเลยว่าจะให้จับตัวฉันไปได้น่ะ!



    "นี่นาย! แยกกันไปคนละทาง!"

    "ห๊ะ!"

    "แยกกันไปแล้วค่อยมาเจอกัน!" ฉันรีบปล่อยมือมาร์คออกแล้ววิ่งแยกออกไปอีกทางทันที












    แฮ่กๆๆ


    เหมือนจะไม่ตามมาแล้วนะ ก็แหม วิ่งมาไกลซะขนาดนี้ใครตามมาทันก็ให้รู้ไปดิ! ว่าแต่มาร์คจะเป็นไงบ้างนะ ขอให้เขาอย่าโดนยัยพวกนั่นจับไปละกัน สาธุ


    ส่วนฉันขอพักก่อนนะ โฮ้ยยย เหนื่อยอะ!



    "วันนี้ใช้ได้หนิลุง ได้มาเท่าไหร่อะ"

    "ฮ่าๆ ได้มาเยอะอยู่เหมือนกัน"

    "อย่างนี้ต้องไปฉลองกันหน่อยซะแล้วล่ะลุง"

    "ว่าแต่วันนั้นที่เมียงดงได้มาเท่าไหร่"

    "ก็ได้มาเยอะอยู่นะลุง ในกระเป๋ามีเงินเยอะอยู่ แต่ตั๋วเครื่องบินกับพาสปอร์ตนี่ฉันก็ไม่รู้จะเอามาทำไมเหมือนกัน"


    บทสนทนาระหว่างเด็กสาวกับลุงดังขึ้นข้างหลังฉัน ตอนแรกฉันเองก็คิดว่าคงจะเป็นบทสนทนาธรรมดาระหว่างลุงกับหลาน แต่พอหันไปแล้วฉันดันรู้สึกขอบคุณจริงๆที่โลกมันกลมขนาดนี้!



    "เฮ้ย อารายกานว้า อยู่ดีๆมาเดินโชนช้าน อยากมีเรื่องหรอห้าาา รู้มั้ยช้านลูกครายยย"

    "อ๋อออ คนแทกุกหรอ กระเป๋าสะพายเธอสวยจังอะ ขอดูหน่อยได้ปะ??"





    "เฮ้ย นั่นมันลุงคนนั้นนี่!"


    ราวกับสายฟ้าฟาด พอฉันพูดจบสองคนลุงหลานรีบหันมามองหน้าฉันก่อนจะทำตาโตเหมือนกับจำได้ว่าได้ก่อกรรมทำเข็นอะไรกับฉันไว้


    "วิ่ง!!" ลุงขี้เมารีบตะโกนบอกหลานให้รีบวิ่งอย่างรวดเร็ว

    "หนอยยย คิดว่าจะหนีฉันไปได้อีกรอบหรือไง!" ฉันรีบใส่เกียร์หมาวิ่งตามสองคนนั้นไปทันที อย่าหวังเลยว่าจะหนีฉันพ้น!



    เหมือนครั้งนี้ฟ้าจะเป็นใจกับฉัน


    ฉันวิ่งไปถึงตัวสองลุงหลานแล้วดึงกระเป่าของยัยหลานนรกนั่นไว้ได้ทัน แต่ก็อย่างว่าฟ้าไม่ได้เข้าข้างเราตลอด...


    "เฮ้ย เธอ!" 



    พลั่ก!โครม!ผลั่วะ!

    เสียงมาร์คตะโกนมาจากอีกฝั่งหนึ่งทำให้ฉันตะโกนไปตามเสียงเรียก เลยเป็นจังหวะให้ยัยนั่นถีบฉันล้มตึงลงไปกองกับพื้นทันที แต่ยังโชคดีที่ฉันคว้ากระเป๋ายัยนั่นไว้ได้อยู่มือ ทำให้กระเป๋าติดมือฉันมาด้วย


    "หนีก่อนเร็ว!"

    "เห้ยลุงแต่กระเป๋าหนู..!"

    "เออ ข้าบอกให้หนีก่อน เอ็งอยากติดคุกหัวโตเหรอ"


    พอพูดจบสองศรีลุงหลานก็พากันวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว เหลือแต่ฉันที่นอนจุ้มปุ้กอยู่กับพื้น


    โอ๊ยยย เจ็บ..


    "นี่ยัยเบ๊อะ เป็นอะไรหรือป่าว" มาร์ควิ่งเข้ามาถามฉัน

    "กรี๊ดดดดดดดดดด!TOT"

    ฉันกรีดร้องดังลั่นหลังจากที่ใช้มือลูบหน้าผากแล้วพบว่ามีเลือดออกที่หัว ยัยบ้านั่นมันเล่นถีบฉันซะแรง เป็นไงหล่ะ ไม่หน้าแหกแต่ดันหัวแตกแทนซะนี่-_-

    "ฉันเลือดออก T^T"

    "เห็นแล้ว"

    "..."


    ขวับ

    แขนของฉันถูกดึงให้ลุกขึ้น มาร์คพาฉันเดินตามทางไปเรื่อยๆ จนไปเจอกันรถลีมูซีนคันหรูที่พึ่งนั่งมาเมื่อเช้า พอคนขับเห็นว่าฉันเลือดออกก็มีอาการตกใจอย่างมาก พลางเปิดประตูให้ฉันขึ้นรถอย่างรวดเร็ว



    "ช่วยพาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทีครับ ด่วน" มาร์คหันไปบอกคนขับอย่างใจเย็น

    "ครับๆๆ"

    "เลือดมันไหลไม่หยุดเลยอ่ะทำไงดี ฉันจะต้องตายแน่ๆเลย ฮือออ"

    "อ่ะ เอากดไว้ก่อน" มาร์คยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ฉัน


    ฉันยื่นไปหยิบผ้าเช็ดหน้าในมือมาร์คมากดแผลอย่างกล้าๆกลัวๆ โอ้ยยยยย

    "เจ็บจัง TOT" ฉันพูดไปพลางน้ำตาก็คลอเบ้าอีก 




    เกิดมานี่ยังไม่เคยเจ็บตัวขนาดนี้เลยซักครั้งเดียวนะT.T







    รูปภาพที่เกี่ยวข้อง






    Mark Talk


    “ฮัลโหล ว่าไงจินยอง”

     

    “(ฮยองอยู่ไหนเนี่ย ยัยเมเนเจอร์หายไปไหนก็ไม่รู้อะฮยอง)”

     

     

    “อยู่กับฉันนี่แหละ อืม อีกซักพักก็กลับแล้วล่ะ แค่นี้นะ”

     


    หลังจากที่วางสายจากจินยองแล้ว ผมก็เดินเข้าไปในห้องพยาบาลที่ยัยนั่นกำลังทำแผลอยู่ พูดตรงๆนะครับตอนแรกผมก็ตกใจเหมือนกันที่เห็นยัยนั่นเลือดออก แต่พอเห็นหน้ายัยนั่นตอนนั้นมันทำให้ผมตลกมากกว่า เพราะอะไรน่ะเหรอ? หน้าเธอมันเหมือนกับคนที่ถ่ายไม่ออกมาหลายวันแล้วอ่ะครับ..

     


    ผมเดินมาถึงปุ๊ป เธอก็ทำแผลเสร็จเรียบร้อยพอดี แต่พอเธอเห็นหน้าผมเท่านั้นแหละ เธอก็จ้องหน้าผมเหมือนกับโกรธผมมาแต่ชาติปางก่อนซะงั้น

     


    “มองอะไร” จนผมทนไม่ได้เลยออกปากถามเธอไป

     


    “ก็นายน่ะแหละทำให้ฉันเป็นแบบนี้ เชอะ”


    “ฉันทำอะไร?

     


    “ถ้านายไม่ตะโกนเรียกฉัน ฉันก็ไม่โดนยัยบ้านั่นถีบหรอก ดูสิ ฉันเจ็บนะTT

     


    ผมมองเธอที่กำลังทำหน้าร้องไห้พร้อมกับเบะปากเหมือนเด็กตัวเล็กๆที่กำลังงอแงเพราะไม่ได้ของเล่นอยู่ เอาจริงๆนะครับ ถึงผมจะมองว่าหน้าเธอมันตลก แต่มันก็

     

     

    น่ารักดีนะครับ J

     

     

     

    “ไร้สาระ ไปกันได้แล้ว” ผมพูดตัดบทไปพร้อมกับดึงมือเธอให้ลุกขึ้นเดินตามผมมา ซึ่งเธอก็ยอมตามผมมาแต่โดยดี จะว่าไปแล้วมือยัยนี่ก็นุ่มดีเหมือนกันนะเนี่ย ผมจำไม่ได้ว่าตั้งแต่เจอกันผมจับมือยัยนี่ไปกี่รอบแล้ว แต่จับแล้วมันรู้สึกดีอะครับ


    อยากจับไปนานๆ..

     


    End Mark Talk

     

     

     

    ฉันสาบานว่ามาร์คต้องศพไม่สวย! ดูสิ ผู้ชายบ้าอะไรไม่มีความอ่อนโยนกับเขาเลยซักนิดเดียว! แถมยังมาว่าฉันไร้สาระอีก สู้เจบีก็ไม่ได้ อ๋อ หมายถึงเจบีที่ให้เสื้อฉันที่เจอกันครั้งแรกนะ..

     


    “เฮ้ย ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาเนี่ยเยินเชียว” แจ็คสันพูดขึ้นทันทีที่เห็นฉันเดินเข้ามาในหอ แหม จะพูดยังไงดี หมาที่ไหนกัดหัวแตกวะ!

     


    “ฟัดจนหัวแตกเลยอ่ะฮยอง ฮ่าฮ่า” ยูคยอมเป็นผู้สมทบขึ้นมาอีกคน

     


    “อยากตายหรือไง- -


    “ไหวมั้ย__(ชื่อคุณ) ไปนอนพักก่อนมั้ย?” แบมแบมที่เดินออกมาจากห้องครัวรีบตรงดิ่งมาทันทีที่เห็นฉัน เขาเอามือมาจับตรงผ้าก็อซที่ปิดแผลของฉันเบาๆพร้อมกับแสดงท่าทางเป็นห่วงเล็กน้อย

     

     

    อย่างน้อยก็ยังมีแบมแบมสินะที่เป็นห่วงฉันTT

     

     

    “งั้นฉันขอไปนอนพักก่อนแล้วกันนะ” พูดจบฉันก็จ้ำอ้าวไปที่ห้องนอนอย่างรวดเร็ว รู้สึกเพลียเอาเสียมากๆ คงเป็นเพราะว่าฉันไม่ชินกับการตื่นเช้าบวกกับร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอพร้อมกับยังต้องมาหัวแตกอีกต่างหาก






    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ jackson wang aegyo





    ฟรึบ!

     

    ฉันทิ้งตัวลงบนที่นอนสีฟ้าเบาๆพร้อมกับจัดท่านอนตัวเองให้ดี เพราะกลัวว่าถ้าเกิดนอนผิดแล้วจะเจ็บแผลที่หัวได้ มือเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์อย่างเนือยๆ


    8.00 PM

     

    พึ่งจะสองทุ่มเอง..

     

     


    ทั้งๆที่ร่างกายเพลียขนาดนี้แล้วกลับไม่ยอมหลับอย่างที่ตั้งใจไว้แฮะ= = พอตอนอยากนอนจะเป็นจะตายกลับไม่ได้นอน แต่พอได้นอนแล้วกลับนอนไม่หลับอีก ไอร่างกายไม่รักดี - -!

     

    โว้ยยยยย นอนไม่หลับโว้ยยยยยย

     

     

     

    เห็นว่าเคยเป็นเด็กฝึกพร้อมกับมาร์คฮยองน่ะ เหมือนจะแอบชอบมาร์คฮยองด้วยมั้งตอนนั้น จู่ๆเรื่องที่แจ็คสันเล่าให้ฟังวันนี้ก็แว๊บขึ้นมาในหัวอย่างน่าประหลาด เรื่องของผู้หญิงที่ชื่อเซรินนั่นน่ะ


    ตอนเป็นเด็กฝึกนะ ยัยนั่นตามติดมาร์คฮยองทุกที่เลย ขนาดมาร์คฮยองจะเข้าห้องน้ำยังไปเฝ้าหน้าห้องน้ำเลย 

     

     

    ฉันว่ายัยเซรินอะไรนี่ต้องเป็นโรคจิตชัว -*-

     

     

    แต่สุดท้ายก็ออกจากบริษัทไปเพราะว่าโดนไล่ออกน่ะ น่าจะทำผิดกฏไว้เยอะมั้งเลยโดนไล่ออก แต่ก็ดีแล้วแหละ ฉันรู้สึกดีแทนมาร์คฮยองชะมัดตอนที่ยัยนั่นออกจากบริษัทไป แต่พอเดบิวต์แล้วยังต้องมาเจอกันอีก มาร์คฮยองต้องทำบาปไว้เยอะชัวร์

     

     

    ฉันก็คิดอย่างงั้นแหละ.. แต่ว่าพอคิดถึงยัยเซรินแล้วขนลุกแปลกๆแฮะ ยิ่งนึกถึงตอนที่ยัยนั่นพูดว่าชีวิตฉันจะไม่สงบสุขอีกต่อไปเนี่ยแหละ แต่ก็นะ ชีวิตของฉันมันไม่สงบสุขตั้งแต่ได้อีตั๋วชิงโชคบ้าบออะไรนั่นแล้วล่ะ T^T

     

     

    ไม่น่าเชื่อว่าการนึกถึงยัยเซรินนอกจากจะทำให้ขนลุกได้แล้วยังทำให้รู้สึกง่วงขึ้นมาทันที อย่างน้อยก็ต้องขอบคุณยัยนั่นที่ทำให้ฉันง่วงได้ ว่าแต่พรุ่งนี้มีงานSMAนี่นา รีบนอนดีกว่าเรา

     

     

    ราตรสวัสดิ์ทุกคน..

     

     

     

     

     

    อีกด้านหนึ่ง

     



    “แหนะๆ แอบไปไหนกันมาอะฮยอง ผมรู้นะ”

     


    “อะไรของพวกแก” ทันทีที่ได้รู้ว่าคนที่ตกเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงก็รีบเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ แต่พอได้เห็นหน้าที่คาดคั้นเอาความจริงจากคนอีกหกคนที่ยืนมุงอยู่ก็ถอนหายใจ ก่อนจะพูดออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “เออ แม่น้ำฮัน”

     


    “เอ๋ๆ แม่น้ำฮันนี่นับเป็นสถานที่เดตสุดโรแมนติกของโซลหรือเปล่าน้า” แจ็คสันลอยหน้าลอยตา ก่อนจะใช้เสียงที่สองพูดออกมา

     


    “ฮั่นแน่ๆ แน่ๆเลยอะ” หลังจากที่แจ็คสันพูดอย่างนั้นแล้ว ยิ่งเหมือนกระตุ้นปลุกใจให้เมมเบอร์อีกห้าคนช่วยกันส่งเสียงร้องกดดันมาร์คอย่างดัง มาร์คที่นั่งฟังอยู่ก็ไม่ได้พูดอะไรแต่แสดงหน้าตาเบื่อหน่ายพร้อมกับส่ายหัวไปมา

     

     

    อะไรของพวกมึงไม่แน่เขาอาจจะคิดอย่างนี้ก็เป็นได้..

     

     

    “ร้ายอะฮยอง อยากได้ล่ะเส้” ยูคยอมค่อยๆทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆมาร์ค ก่อนจะจ้องหน้ามาร์คอีกครั้ง ตามด้วยแบมแบมที่ทิ้งตัวลงบนโซฟาอีกข้างของมาร์คพร้อมกับหันมาจ้องหน้าเขาอีกด้วยเหมือนกัน



    “เพื่อนผมน่ารักอะดิ สนใจเหรอฮยอง” แบมแบมพูดก่อนจะยิ้มออกมาอย่างกวนๆ ปั่นหัวมาร์คฮยองนี่สนุกพอๆกับปั่นหัวเจบีฮยองเลยนะ

     


    “แกสองคนจะเอาโลงแบบไหน” มาร์คพูดขึ้นมาก่อนจะทำท่าว่าจะตีแบมแบมกับยูคยอม แต่ทว่าสองคนนี้กับดีดตัวขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับยกมือขึ้นทำท่าล้อเลียนมาร์คอีกด้วย ก่อนจะวิ่งเข้าห้องของตัวเองไป ทุกคนค่อยๆทะยอยกันเข้าห้องตัวเองกันหมดเหลือแค่มาร์คกับแจ็คสัน

     

     

     

    ถ้าแบมแบมกับยูคยอมไม่ไปงานSMAพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจนะครับทุกคน

     

     

     

    “แกอยากได้โลงอีกคนเหรอแจ็คสัน” มาร์ครีบพูดขึ้นมาทันทีที่ตวัดสายตาไปเห็นแจ็คสันทีทำมือเป็นรูปหัวใจมาให้เขาจากมุมห้อง ไอพวกนี้สงสัยพรุ่งนี้คงไม่ต้องไปทำงานกันแล้วล่ะครับ ไปให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลดีกว่า



    “ถ้าเป็นโลงที่มีรูปพรีเวดดิ้งของฮยองกับ__(ชื่อคุณ)แปะ ก็โอเค.. โอ้ย!ฮยอง เจ็บนะ” ไม่ทันที่แจ็คสันพูดจบก็ถูกสลิปเปอร์ของมาร์คลอยมาเข้าหน้าอย่างจัง ถึงปากแจ็คสันจะพูดเป็นว่าเจ็บ แต่จริงๆแล้วไม่ได้รู้สึกอะไรซักนิดเดียว :P

     

     


    ก่อนที่จะเข้าห้องนอนไป แจ็คสันก็ได้พูดบางอย่างออกมา ซึ่งมันอยากทำให้มาร์คไปขนสลิปเปอร์อีกสิบโหลมายัดปากมันให้รู้แล้วรู้รอดไป

                                     

     


    “แต่งวันไหนต้องเขียนบัตรเชิญผมคนแรกนะฮยอง!

     





     



    คุยกับไรท์

        เหยย กลับมาแล้วเว้ยย 5555555555 ห่างหายไปนานแสนนานเหลือเกิน คิดถึงไรท์มั้ยทุกคนน
    แกกก พิมาร์คเขาบอกว่ามือเรานุ่มเขาบอกว่าเราน่ารักด้วยแหละ! เอาไงดี จับกดเลยดีมะ!55555555
    อิพิแจ็คนี่วอนติงพิมาร์คเขา ระวังพี่เขาขนสลิปเปอร์มายัดปากจริงๆนะ..


    อาจจะไม่ได้อัพบ่อยเท่าที่ควรนะคะแต่จะมาอัพเท่าที่ทำได้น้าา ไม่รู้ว่าจะเขียนได้จบเรื่องหรือเปล่าTT แต่ยังไงก็ยังอยากให้ทุกคนติดตามกันเยอะๆนะค้า 


    ทั้งนี้อยากถามทุกคนว่าอยากได้อิมเมจของเซรินนางร้ายของเรากันหรือเปล่าเอ่ย จะได้ช่วยให้เวลาอ่านมีอารมณ์มากขึ้น คอมเม้นท์บอกกันด้วยเน้อ แล้วก็อย่าลืมกดfav+commentเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะ!


























    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×