ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Shootรัก...ลงlock

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 51


                    สวบบบบบบ เสียงลูกหนังสีส้มลอยละลิ่วเข้าห่วงกลมๆ ตามมาพร้อมกับเสียงอึกทึกของกองเชียร์ที่ดังมาจากอีกฝั่งของสนาม

                    กรี๊ด!! กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ กองเชียร์ที่ทั้งสแตนด์มีแต่สีเหลือง ส่งเสียงอย่างลืมหายใจ

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ย้อนหลังจากนี้ไปสองเดือน

                    ไนซ์ชู๊ตเลย น้องนัท เสียงรุ่นพี่สาวตะโกนมาจากข้างสนามบาสเกตบอล  เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกหันไปมองพลางยิ้มกว้าง ชูนิ้วโป้งยืนยัน แน่นอนอยู่แล้วพี่แต้ว

                    อย่านอกหน้ามากนักแต้ว แล้วก็อย่าอู้ได้มั้ย รีบๆมาซ้อมสิยะ แต้วหันไปตามเสียงบ่นของเพื่อนรักที่กำลังวิ่งหน้างอเข้ามาหา

                    จะซ้อมอะไรนักหนา ให้พวกเราได้พักกันมั่งสิคะ คุณหัวหน้าทีม แต้ว หญิงสาวอารมณ์ดีพูดพลางแย้มยิ้ม กะว่ากีฬาคณะปีนี้จะเอาเหรียญทองเลยหรือคะคุณฝ้าย คำพูดนี้เรียกเสียงฮือฮาได้ทั้งทีม

                    จะเอาจริงๆหรอคะพี่ฝ้ายรุ่นน้องในทีมอีกคนถามเสียงอ่อยๆ ที่เหลือก็นั่งทำตาแป๋วรอฟังคำตอบ  เพราะว่าการแข่งกีฬาระหว่างคณะภายในมหาลัยนั้น ทีมบาสหญิงของคณะวิทยาศาสตร์ได้แต่อันดับ 3 ในบรรดาคณะทั้ง 7 มาตลอด ส่วนอันดับ 1 กับ 2 คณะที่มีนักบาสตัวมหาลัยก็เอาไปครองเป็นที่รู้ๆกัน ถ้าหวังจะเอาเหรียญทองล่ะก็ คงเหมือนไปรบยังไงยังงั้น

                    แล้วทำไมล่ะ เหรียญทองไม่ได้หรือไง เสียงดังแทรกมาจากข้างหลังหัวหน้าทีม ก็แค่ตัวมหาลัย นัทรุ่นน้องอีกคนในทีมบาสเอ่ยพลางยกน้ำขึ้นดื่ม

                    แหม....น้องนัทล่ะก็ เพิ่งเข้ามาปี1คงยังไม่รู้จักพวกตัวมหาลัยมั้งจ๊ะ พวกเขาน่ะไปแข่งระดับประเทศกันมาแล้วทั้งนั้นนะ แต่พวกน้องๆสบายใจได้เถอะ พี่แค่แซวฝ้ายเล่นๆน่ะจ๊ะ ไม่ต้องซีเรียสกันนะ แต้วเป็นคนอธิบายแทนเพื่อนสาวที่ตีหน้ายักษ์ใส่นัทซะแล้ว

                    เดิมทีฝ้ายเป็นคนร่าเริงยิ้มง่าย คุยเก่ง แต่แต้วสังเกตว่า ตั้งแต่เริ่มมีการเรียกประชุมน้องใหม่ของคณะ ทำให้ฝ้ายได้เจอกับ นัท  ที่ฝ้ายมักจะบ่นให้ฟังเสมอว่า ขี้เก๊ก!’  แถมยังดูท่าจะไม่ถูกชะตากันตั้งแต่แรกเห็นเสียด้วยซ้ำ

                    เป็นโชคชะตาตอกย้ำ ที่เมื่อมีการคัดตัวนักบาสของคณะ ครูฝึกเลือกนัทเข้ามาทำหน้าที่SF (Small Forward)ของทีม ยิ่งทำให้ฝ้ายหน้าบูดบึ้งกว่าเก่า แต้วเองเคยพยายามพูดให้ฝ้ายเลิกอคติกับรุ่นน้องคนนี้แต่ก็ยิ่งทำให้ฝ้ายไม่เปิดปากพูดอะไรถึงนัทอีกเลย แม้แต่เอ่ยชื่อ

    ในเวลาซ้อมบาสหลังเลิกเรียนจะมีนักกีฬาจากหลากหลายคณะมาซ้อมร่วมกัน มันเลยดูเป็นการเชื่อมมิตรภาพมากกว่าจะสร้างคู่แข่ง เป็นที่สนุกสนานในการรวมทีมแข่งกันเพื่อซักซ้อมก่อนเจอกันในสนามจริง

    ฝ้ายจ๋า เสียงเรียกมาตั้งแต่ยังไม่เห็นตัว ฝ้ายหันหาต้นเสียงนั้นเสียคอแทบเคล็ด

    อ้าว เป้ ว่าไง ฝ้ายร้องทักคนคุ้นเคยอย่างดีใจ นักบาสต่างคณะที่เคยเล่นด้วยกันมาเมื่อปีก่อน ทั้งคู่สนิทกันจนมีแต่คนแซวว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน

    ว่าไงจ๊ะสุดสวย ไม่เจอกันเทอมนึงคิดถึงจังเลย มามะจุ๊บที ว๊าย!!ไม่เล่นนะฝ้ายวิ่งหลบการหยอกเอินจากเพื่อนคนนั้นให้วุ่น คงมีเพียงคนเดียวในสนามที่ไม่หัวเราะไปกับคนอื่นๆ นัทนั่งมองเหตุการณ์เหล่านี้ด้วยสายตาเฉยเมย เฉยเสียจนคนที่หันไปเจอรู้สึกเย็นยะเยือกเลยทีเดียว

    ถ้าจะย้อนไปอีกถึงสาเหตุที่ฝ้ายดูจะไม่ชอบหน้านัทนั้น คงจะเป็นในวันที่เรียกประชุมน้องใหม่ของคณะวันแรก ฝ้ายมีหน้าที่เช็คน้องใหม่ในแต่ละสาขาวิชา และจนมาถึงสาขาของนัท

    น้องนัท ไม่มีเสียงตอบรับ น้องนัทคะ มารึเปล่าน่ะ จนเพื่อนต้องหันไปสะกิดเจ้าของนามที่นั่งเอาเฮดโฟนอุดหูไว้เพื่อฟังเพลง   คะ? ว่าไงคะพี่ นัทเอาหูฟังลงพร้อมเอ่ยถามรุ่นพี่

    หนอยแน่ะ ไม่ตั้งใจฟังงั้นเรอะ ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นรุ่นน้อง ฝ้ายจึงต้องสะกดอารมณ์ขุ่นมัวไว้ในใจ

    อ้าว เรียกแล้วเงียบทำไมล่ะคะ พี่ฝ้าย นัทถามต่อด้วยใบหน้าเฉยเมย ใบหน้าที่ฝ้ายลงความเห็นว่าน้องคนนี้ขี้เก๊กและแน่นอนว่าคำถามนี้ทำให้ความขุ่นมัวที่พยายามกดไว้นั้น ปะทุขึ้นมาจนได้

    เอ๊ะ!น้อง ถามอย่างนี้หมายความว่าไง น้องเองต่างหากที่ไม่ได้ตั้งใจฟังพี่ขานชื่อเลยนะ เสียงตะเบ็งกลับนั้น ทำให้ทั้งห้องประชุมหันมามองที่ฝ้ายเป็นตาเดียว

    หรอ.. งั้นก็ขอโทษที พูดจบนัทก็หยิบหูฟังขึ้นมาฟังเพลงต่อ เพราะขี้เกียจทะเลาะด้วยแล้วนั่นเอง

    หา? ฝ้ายยืนงงอยู่ตรงนั้น เพราะอีกฝ่ายตัดบทสนทนาได้อย่างหน้าตาเฉย แถมยังไม่มีทีท่าสะทกสะท้านและดูเหมือนจะรำคาญเธอนิดหน่อยด้วยซ้ำ ที่กล่าวขอโทษเธอคงเพราะขี้เกียจเถียงกับเธอต่อเป็นแน่

    นี่คือสาเหตุที่ฝ้ายเก็บไว้ในใจตั้งแต่วันนั้นมา ขนาดเพื่อนรักของเธอเมื่อรู้เรื่องราวนี้ ยังส่ายหัวและบอกด้วยว่า ไร้สาระน่ะ เรื่องแค่นี้เองนะฝ้าย เธอโกรธน้องนัทด้วยเรื่องแค่นี้น่ะนะ

    มันไม่ใช่เรื่องแค่นี้หรอก มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีรุ่นพี่รุ่นน้อง และอะไรบางอย่าง ที่ฝ้ายก็ตอบตัวเองไม่ได้...


    วันนี้พอแค่นี้ก่อนละกัน พรุ่งนี้เจอกันใหม่เวลาเดิมนะจ๊ะ ฝ้ายกล่าวพร้อมโปรยยิ้มหวาน ทำให้ทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่เบิกบานกันทั่วหน้าก่อนบอกลาเพื่อแยกย้ายกลับที่พักของตน

    ถึงบุคลิกภายนอกจะดูห้าวเกินหญิงไปนิด แต่ฝ้ายเองก็จัดเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง รูปร่างสมส่วน ใบหน้าอ่อนหวาน สวยแถมยังเรียนเก่ง เรื่องกีฬาก็ไม่แพ้ใคร อยู่ปี 2 ก็ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีม และด้วยที่เป็นคนไม่ค่อยสนใจผู้ชาย ทำให้มีแต่ผู้หญิงมารายล้อมรอบตัวของเธอ

    น้องมุกรุ่นน้องอีกคนในคณะ แต่อยู่ฝ่ายกองเชียร์ไม่ได้เป็นนักกีฬา แอบมองฝ้ายอยู่เสมอ ชื่นชมและคลั่งใคล้ฝ้ายเอามาก สังเกตได้จากห่อขนมหรือลูกอมที่มักจะแขวนอยู่ที่ล๊อกเกอร์ของเธอทุกวัน

    พี่ฝ้ายคะ กินน้ำหน่อยมั้ย ซ้อมมาเหนื่อยๆมุกพูดพลางยื่นขวดน้ำเย็นมาให้ตรงหน้า

    ขอบใจจ๊ะ ฝ้ายยิ้มหวานรับน้ำใจนั้นด้วยกลัวรุ่นน้องจะเสียใจ มุกเขินอายกับยิ้มนั้นจนหน้าแดงแล้วก็วิ่งกลับไปยังที่เดิม

    ไหนว่าไม่ได้ชอบน้องเขาไง แล้วยังยิ้มหวานรับน้ำน้องเขาทำไมล่ะ ฮึ เสียงตำหนิจากเพื่อนรักดังขึ้น

    ก็น้องเขาอุตส่าห์เอามาให้ ไม่รับมันก็ยังไงอยู่น่ะ อีกอย่างน้องเขาก็น่าจะรู้ว่าชั้นไม่ได้คิดอะไรกับน้องเค้าซักหน่อย ฝ้ายพูดพลางดื่มน้ำเย็นขวดนั้น

    ให้มันได้ยังงี้สิเพื่อนฉัน เข้าใจอะไรบ้างไหมเนี่ย?แต้วคิดพลางส่ายหน้าน้อยๆ กลับบ้านกันเหอะ วันนี้หาไรกินก่อนกลับบ้านด้วยนะหิวจะแย่แล้วเนี่ย ที่บ้านชั้นไม่มีคนอยู่เลย ขี้เกียจกลับไปทำกับข้าวกินเองน่ะ คำชวนแกมบ่นของเพื่อนทำให้ฝ้ายอดที่จะยิ้มไม่ได้

    ถ้ามันลำบากนักก็ไปกินบ้านชั้นสิ แวะไปกินข้าวบ้านชั้นก่อนแล้วเธอค่อยกลับบ้านก็ได้เธอต้องไปส่งชั้นอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?” ประโยคนี้ทำให้คนถูกชวนหันไปมองหน้าเพื่อนพร้อมกระโดดโลดเต้น เข้าแผนพอดี อิอิ

    อุ้ย จริงหรอ? งั้นตกลง ชั้นชอบฝีมือทำอาหารของแม่เธอมากที่สุดเลย

    ยัยบ้า ใครว่าแม่ชั้นทำ ชั้นทำเองหรอกย่ะ!!”

    เอาเหอะ ใครทำก็กินได้ทั้งนั้นแหละ ตอนนี้ชั้นหิวจนจะกินฮิปโปทอดได้แล้วนะเนี่ย

    เพราะคำพูดของเพื่อนรักทำให้ฝ้ายหัวเราะออกมา  งั้นกลับบ้านกัน

    รถจักรยานยนต์ของทั้งคู่แล่นออกสู่ถนนกลางของมหาลัยพร้อมๆกับรถอีกหลากหลายคันที่ทยอยกันกลับก่อนที่แสงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า..

    รถยังไม่ทันแล่นออกจากประตูมหาลัย สายตาฝ้ายก็ไปเจอะเจอะกับคนคู่หนึ่งเข้าให้

    นั่นน้องนัทนี่ ยืนอยู่กับใครล่ะน่ะ?เสียงแต้วที่เป็นคนขี่หันมามองหน้าคนซ้อนอย่างสงสัย เพราะอีกคนตรงนั้น ไม่ได้เป็นรุ่นน้องหรือคนในคณะพวกเธอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×