ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : คำทำนาย
อีกด้านหนึ่งของโลกใบเดียวกัน
หรือจะเรียกอีกอย่างก็คืออีกมิติหนึ่งก็ได้ ตอนนี้เวลาประมาณเที่ยงคืนเห็นจะได้
ในผับดังกลางเมืองเซยงไฮ้ที่เต็มไปด้วย เเสง สี เสียง เหมือนทุกๆผับที่อยู่รอบบริเวรนั้น ภายในผับมีนักท่องราตรีมากมายที่เข้ามาหาความสำราญให้กับตัวเอง อีกมุมหนึ่งของผับแห่งนี้ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอหลายชนิด ตั้งเรียงรายอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับเจ้าของเครื่องดื่มเหล่านั้นที่ชวนกันมาหาความสำราญให้กับตัวเองพวกเขาก็เช่นกัน แต่ไม่ได้หาความสำราญเเต่อย่างใด มีใครคนหนึ่งต้องการดื่มเพื่อดับทุกข์ให้กับตัวเอง ไป๋หลิงซาน ชายหนุ่มอายุ19ปีรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวอมชมพูละเอียด หน้าหล่อเหลาออกไปทางหวานเล็กน้อย โดยรวมก็ถือว่าสเปคสาวๆเลยทีเดียวใบหน้าหล่อปนหวาน กำลังนั่งมองเเก้วเหล้าที่อยู่ในมือตนก่อนจะยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว เล่นเอาเพื่อนๆทีมาด้วยกันรีบตะครุบเอาไว้ก่อนที่เเอลกอฮอเเก้วต่อไปจะถูกเจ้าตัวกระดกลงกระเพาะอีกครั้ง"เฮ้ยยยยเบาๆหน่อยโว้ยไอ้ซาน มึงเป็นไรวะ เเดกยังกับพ่อเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเหล้าอย่งนั้นเเหละ"
หมิงซือถามหลิงซานออกมาด้วยความสงสัย ก็จะไม่ให้สงสัยได้ยังงัย หลิงซานกระดกเหล้าเข้าปากไม่หยุดตั้งแต่มาถึงที่นี่แล้ว
"อกหัก"
"ฮะฮะฮะ" เพื่อนเขาอุทานออกมาพร้อมกันทั้งสามคน หลังจากได้รับคำตอบจากเขา
"มึงล้อพวกกูเล่นใช่มั๊ยไอ้ห่าพูดบ้าอะไรของมึงออกมาวะ!!
เทียนซื่อเอ่ยเสียงเครียดออกมา เขารู้ว่าหลิงซานรักเหมยอิงมาก ก็ทั้งสองคบกันมาหลายปีเเล้ว เเละมีโปรเเกรมที่จะแต่งงานกันในเร็วๆนี้ด้วย แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น จู่ๆเพื่อนเขาก็มานั่งกินเหล้าเมามายอย่างนี้เเถมยังจะบอกว่าเลิกกับเเฟนแล้วอีกด้วย
"กูพูดจริง เรื่องแบบนี้กูไม่เอามาพูดเล่นหรอก กูกับเหมยอิงจบกันแล้วจริงๆ"
"ไอ้ซานมึงโอเคมั๊ยวะ"
ลู่ฟางเอ่ยถามเพื่อนออกมาด้วยความเป็นห่วง
"กูโอเค เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอกโว้ย เห็นมั๊ยกูไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย ไม่เป็นอะไรหรอก ฮึก....ฮือๆๆๆ กูไม่ได้เป็นไรนะมึง"
หลิงซานพูดออกมาพร้อมเสียงสะอื้นเล็กน้อย เขาเจ็บ...เจ็บมากเสียด้วยสิ พวกเพื่อนๆถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว เพราะไม่เคยเห็นหลิงซานร้องให้กับเรื่องอะไรมาก่อนเลย นี่คงจะเหลือทนจริงๆ พวก เพื่อนๆต่างก็โอบไหล่เขาไว้อย่าง
ต้องการปลอบใจอีกฝ่าย
"ในเมื่อมันเจ็บ มึงก็ร้องออกมา เอาความเจ็บปวดออกมาไห้หมด พวกกูอยู่ข้างมึงเสมอว่ะเพื่อน"
เทียนซื่อพูดปลอบใจหลิงซาน เขาไม่รู้ว่าจะปลอบยังงัย เกิดมายังไม่เคยปลอบใจใครเสียด้วยสิ
"มึงพอจะเล่าไห้พวกกูฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
เป็นเทียนซื่อทีถามออกมาหลิงซานเลยยอมเปิดปากเล่าให้พวกเขาฟัง
"เหมยอิงท้อง"
"ฮะ ท้องงงง" พวกเขาต่างพร้อมใจอุทานออกมาพร้อมกันอีกครั้ง
"อึม พวกมึงคงไม่คิดว่าเขาท้องกับกูหรอกนะ"
"หึ ถ้าท้องกับมึง มึงคงไม่มานั่งทำหน้าเหมือนคนไกล้ตายแบบนี้หรอก"
"เขายอมบอกกับกูว่า เขาแอบคบอยูกับแฟนเก่ามาได้สักพักเเล้ว ตอนนี้พลาดท่าท้องขึ้นมาเลยต้องเเต่งงานกับมัน มึงดูสิเหมยอิงสวมเขาให้กูได้ไงวะ ทำกับกูอย่างนี้ได้ไงวะไอ้สัตว์ กูอยากจะฆ่าทั้งคู่ไห้ตายคามือจริงๆ"
หลิงซานพูดออกมาด้วยความแค้น ที่ถูกคนรักสวมเขาเเละหักหลังกันอย่างเลือดเย็นแบบนี้ พวกเพื่อนๆเห็นท่าไม่ดีเลยรีบพาอีกฝายกลับบ้านทันที
"
"
"
"
"
ที่บ้านของหลิงซาน หรือจะเรียกคฤหาสนน์ถึงจะถูก เพราะพ่อของหลิงซาน เป็นเศรษฐีติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศเลยก็ว่าได้ พ่อของเขาคือเจ้าสัวไป๋หารฟง เเละไป๋หลิงซานก็เป็นลูกชายหัวเเก้วหัวเเหวนคนเดียวของเจ้าสัวไป๋เสียด้วย ส่วนแม่ของเขาได้เสียชีวิตไปนานเเล้ว แม่ของเขาเป็นคนไทยหน้าตาสะสวย เขาเลยได้หน้าตาหวานคมมาจากแม่ เเต่ผิวขาวละเอียดอมชมพูนี่ได้มาจากพ่อเต็มๆเลยก็ว่าได้ พ่อของเขาเป็นชาวจีนแท้ๆเลยมีผิวที่ขาวละเอียด
ในบ้านหลังใหญ่มีชายวัยกลางคนนั่งอยู่บนโซฟารับแขก เพื่อรอคอยใครบางคนเเละไม่นานคนที่รอคอยก็มาถึงเขารีบลุกไปรับทันที
"อาซานลูกเป็นยังไงบ้าง"
เอ่ยถามลูกชายด้วยตวามเป็นห่วงทันทีที่เห็นเพื่อนๆพยุงเข้ามา เขาเมาเเต่ก็ยังมีสติดีอยู่เลยหันไปตอบผู้เป็นพ่อให้หายเป็นห่วง ไป๋หารฟงรักเขามากตั้งแต่แม่จากไปอีกฝ่ายก็ไม่คิดที่จะแต่งงานไหม่กลัวว่าเขาจะเข้ากับเเม่เลี้ยงไม่ได้กลัวจะโดนรังแกอะไรสารพัด เลยตัดปัณหาก่อนที่จะเกิด
"ซานไม่เป็นไรหรอกป๊าอย่าห่วงเลย"
"จะไม่ไห้ป๊าห่วงได้ไง เเกเป็นลูกชายคนเดียวของป๊านะอาซาน"
"เอ่อพวกกูกลับก่อนนะมึงพวกผมขอตัวก่อนนะครับป๊า"
" อึม. พวกมึงกลับกันดีๆนะดึกมากแล้ว"
เขาหันไปบออกกับเพื่อนก่อนจะขอตัวขึ้นห้องไป หารฟงมองตามลูกชายจนลับสายตา เขาเป็นห่วงหลิงซานไม่น้อย เมื่อได้รับรู้เรื่องที่ทำไห้หลิงซานทุกข์ใจ จนต้องออกไปดื่มเหล้าแบบนี้ ก่อนจะกลับเข้าห้องของตัวเองบ้าง
______________________________
ตอนเช้าของวันไหม่
"ตี๊ดๆๆๆๆ ตี๊ดๆๆๆๆ"
เสียงโทรศัพดังขึ้น ทำลายความสุขของคนที่กำหลับสบายอยู่บนเตียงนอนหนานุ่ม มือบางควานหาต้นเหตุของเสียงดังที่รบกวนการนอนของตนได้ ก็กดรับสายอย่างหงุดหงิดที่ถูกอีกฝ่ายโทรมารบกวนตอนเช้าแบบนี้
"มีไรว่ามา ถ้าไม่สำคัญระดับประเทศ มึงตาย!!
"อะไรวะ จะไปสมัคส.ส.หรือไงมึง"
"กูให้เวลาพูดสองนาที"
หลิงซานพูดออกมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อเทียนซื่อไม่ยอมพูดธุระของตัวเองออกมาซักที
"ใจเย็นๆซิวะเพื่อน ไปกินรังเเตนที่ไหนมาวะดุยังกับหมา"
"ไอ้เทียน ถ้ามึงไม่พูดกูจะวางเเล้ว"
"เดี๋ยวซิวะใจร้อนจริงนะมึงอีก5นาที กูจะถึงบ้านมึงเเล้ว รีบเเต่งตัวละกูจะพาออกไปทำธุระข้างนอกหน่อย ไห้ไวนะมึงไม่งั้นกูบุกถึงห้อง"
"เดี๋ยวซิวะ "
ตู๊ดๆๆๆๆ สายถูกตัดทั้งที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง ทำให้หลิงซานหัวเสียเข้าไปใหญ่เขาเลยล้มตัวลงนอนต่อ ไม่สนใจว่าเทียนซื่อสั่งอะไรไว้
รถสปอร์ตหรูแล่นเข้ามาจอดที่ โรงรถของบ้านเจ้าสัวไป๋ เทียนซื่อก้าวลงจากรถยนต์คันหรู มุ่งหน้าเข้ามาในบ้านเพื่อนพอดีเเม่บ้านเดินผ่านมา
"อ้าวคุณเทียนมาหาคุณหนูหรือคะ"
"ใช่ครับ พอดีนัดกันไว้นะครับแล้วคุณหนูของป้ายังไม่ลงมาอีกหรือครับป้า"
"ไม่เห็นนี่คะคงจะเเต่งตัวอยู่มั้งคะ"
เทียนซื่อนั่งรออยู่ครึ่งชั่วโมงก็ไม่เห็นวี่เเววของอีกคน เลยขอกุญเเจสำรองจากเเม่บ้าน ตามขึ้นไปบนห้องนอนของอีกฝ่าย พอไขประตูเข้าไปก็เห็นไอ้เพื่อนตัวดียังหลับสบายอยู่บนเตียงนอน จึงลงมือปลุกอีกฝ่ายด้วยการจับเขย่าจนหัวแทบหลุด คนถูกปลุกต้องจำใจตื่นเพราะทนนอนต่อไม่ไหว
"ไอ้ซานตื่นโว้ยๆๆๆไอ้เพื่อนบ้า ปล่อยให้กูรออยู่เกือบชั่วโมง มึงเสือกนอนหลับสบายเเบบนี้เดี๋ยวพ่อกระทืบเลยดีไหม"
"โอ๊ยเชี่ย กูไม่ใช่ยาธาตุน้ำขาวนะมึงจะเขย่าหาไรวะ แล้วเข้าห้องกูได้ยังไง"
แทนคำตอบ เทียนซื่อยกกุญแจให้เพื่อนดู เลยหมดข้อสงสัยหลิงซานนั่งพิงหัวเตียงด้วยอาการหงุดหงิด
"มันไม่เกินความสามารถกูหรอก มึงรีบอาบน้ำแต่งตัวเลยให้ไวกูขี้เกียจรอ"
"มึงจะพากูไปไหนก็บอกกูด้วยซิวะ"
"วันนี้วันอะไรมึงลืมไปแล้วหรือไง"
เทียนซื่อหันไปคุยกับเพื่อนเเตหลิงซานกลับนึกไม่ออกจริงๆเทียนซื่อเลยบอกออกไป
"สัตว์ มีไรไรพูดมา อย่าลีลามากนะมึงเดียวกูถีบเเม่ง"
เขาพูดพร้อมยกฝ่าเท้าทำท่าจะถีบอีกฝ่ายเข้าจริงๆ เทียนซื่อเห็นแบบนั้นก็รีบร้องห้ามทันที ด้วยรู้นิสัยอีกฝ่ายดีว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน ขี้หงุดหงิดขนาดไหน
"เฮ้ยมึงใจเย็นดิวะ เเม่งมันน่าจับไปปล่อยขั้วโลกเหนือให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยเผื่อความเย็นจะช่วยให้หายบ้าได้"
" -_- "
"ก็วันนี้วันอะไร ไม่ไปหาเเม่หรือไง"
หลิงซานนิ่งคิดอยู่ครู่เดียว ก็ยิ้มออกมาเมื่อนึกขึ้นมาได้ เลยหันไปขอบใจเพื่อนที่เตือน
"ใช่จริงด้วย วันสำคัญแบบนี้กูลืมได้งัยนะ ไปซิไปหาเเม่กัน ขอบใจมึงว่ะเพื่อน กูรักมึงว่ะมาม๊ะมาให้จุ๊บที"
หลิงซานพูดพลางกระโจนเข้าหาเทียนซื่อทันที มือบางคว้าหมับเข้าที่เส้นผมเพื่อนพร้อมกระชากไว้เต็มกำมือกันเพื่อนหนี พลางโน้มหน้าทำปากจู๋เข้าหาอีกฝ่ายเทียนซื่อทำหน้าสยอง ทั้งผลัก ทั้งดันอีกฝ่ายให้พ้นตัว เเต่มือตุ๊กเเกของหลิงซานไม่ยอมปล่อยเทียนซื่อเอาง่ายๆ ยังคงเดินหน้าเเกล้งเพื่อนต่อไป
"เฮ้ยยยยย มึงแล่นอะไรของมึงไอ้ซาน ปล่อยกูนะโว้ยเดี๋ยวกูต่อยตาแตกเลยมึง"
เทียนซื่อขู่ออกมาแต่มีหรือที่หลิงซานจะกลัว ยังคงเดินหน้าแกล้งเพื่อนต่อไปโดยไม่รู้ว่าอีกไม่นาน เขาจะโดนอีกฝ่ายเอาคืนเข้าบ้าง เทียนซื่อหยุดผลักดันหลิงซาน เเต่มือหนากลับตวัดคว้ารวบเอวของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น พร้อมยื่นหน้ามาที่ข้างหูของหลิงซาน พลางกระซิบเบาๆข้างใบหูเล็ก
"ใครว่าพ่อมึงต่างหากที่ขอให้กูมารับมึงไปหาแม่ไม่ใช่กูสักหน่อย"
เทียนซื่อกระซิบบอกความจริงให้อีกฝ่ายรับรู้ เเต่เหมือนสถาณการตอนนี้มันจะพลิกผัน เพราะคนที่ทั้งผลักทั้งดันอีกฝ่ายกลับเป็นหลิงซานเสียเอง เทียนซื่อมาอาการตกใจจนหน้าซีดตาค้างของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกอยากแกล้งให้หนักขึ้นไปอีก
"ทำหน้าแบบนี้......มาเป็นเมียกูดีกว่า"
เทียนซื่อพูดจบก็จับร่างโปร่งกดลงบนที่นอนทันที ก่อนจะขึ้นคร่อมอีกฝ่ายเอาไว้ทั้งตัว หลิงซานตกใจกับการกระทำของเพื่อน ดวงตาโตเบิกกว้างมองอีกฝ่ายอย่างหวาดๆ ก่อนจะใช้เท้ายันอีกคนเอาไว้
"ไอ้เทียนมึงเล่นเชี้ยอะไรของมึงวะออกไปจากตัวกูเดี๋ยวนี้เลยนะมึง ก่อนที่กูจะถีบมึงลงไปเเทน"
"กูไม่ลง มึงจะทำไม อยากเล่นนักไม่ใช่หรือ นี่งัยกูจะเล่นกับมึงแล้วเป็นงัยล่ะมึง"
เทียนซื่อยกยิ้มอย่างเจ้าเลห์ออกมาเล่นเอาหลิงซานถึงกับเหงื่อตก หน้าซีดก่อนที่จะตัดสินใจทำอย่างที่พูดเพราะอึดอัดกับสภาพล่อแหลมแบบนี้
ผั๊วะ........ ตุ๊บ
"โอ๊ยยยย เชี่ย ถีบมาได้เจ็บนะโว้ย "
เทียนซื่อพูดยังไม่ทันขาดคำ ก็ต้องมีอันกระเด็นตกลงมาหัวทิ้มอยู่บนพื้น พร้อมร่างโปร่งที่ตามลงมากระชากคอเสื้อเงื้อมหมัดหมายจะซัดใบหน้าอีกฝ่ายให้ยับเพราะความโมโหจนอีกฝ่ายรีบร้องห้าม
"เฮ้ย ไอ้ซานใจเย็นๆกูเเค่ล้อมึงเล่น"
"ไอ้สัตว์ มึงล้อเล่นเชี่ยไรวะกูไม่ขำนะ!!
หลิงซานตะคอกใส่เพื่อน เพราะยังโมโหไม่หายกับการเล่นพิเรนของเพื่อน
"เออ กูขอโทษ ก็มึงเล่นกูก่อนมั๊ยวะพอกูเอาคืนเข้าบ้างเป็นงัยละมึง"
"คราวหน้าถ้ามึงทำแบบนี้อีกมึงตาย!!!
หลิงซานขู่ฟ่อออกมา ยังรู้สึกเสียวสันหลังอยู่เลย ไอ้เวรตะไลสบทด่าโขมงโฉงเฉงอยู่ในใจ
"เออๆๆมึงรีบไปอาบน้ำสิ มันสายแล้วเร็วกูจะรอ"
หลิงซานอาบน้ำเสร็จ ก็เดินออกมาเห็นเทียนซื่อยังนั่รอเขาอยู่ อีกฝ่ายเหลือบตามามองนิดนึง ก็ไม่ได้สนใจอะไรเขาอีกหลิงซานชักจะระเเวงแปลกๆ หรือเขาจะหลอนไปเองจึงคิดเลยเถิด เหมือนเทียนซื่อจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง เลยรีบพูดดักทางขึ้นมา
"ไอ้ซานมึงไม่ต้องมาระแวงกูเลย มึงไม่ใช่สเปคกู เพราะงั้นมึงสบายใจได้ กูไม่หน้ามืดจับมึงข่มขืนหรอก เลิกทำท่าเหมือ
สาวน้อยจะโดนปล้ำได้แล้วกูจะอ๊วก"
"เออไอ้เ-ี้ย"
"อ้าวด่ากูอีกเดี๋ยวพ่อจับปล้ำจริงๆเสียเลย"
"เข้ามาสิ รับรองว่าเหลือ เเต่ตอ หมดโอกาสสืบพันธ์เลยนะมึงจะลองมั๊ยล่ะ"
หลิงซานพูดพลางถลึงตาใส่อีกฝ่ายก่อนจะจ้องเขม็งไห้อีกฝ่ายรู้ว่า กูเอาจริง
หลิงซานแต่งตัวเสร็จก็รีลงมาจากห้องกลัวจะเสียเวลามากไปกว่านี้ แต่ดันลืมโทรศัพท์ไว้บนห้อง
"ไอ้เทียนรอกูแป๊บ เดี๋ยวกูมา"
"รีบนะมึงไม่งั้นกูขึ้นไปตาม"
เทียนซื่อพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
"สัตว์ เดี๋ยวกูถีบตกกะไดเลยมึง กวนตีนกูดีนักนะ"
พอได้ของที่ต้องการก็พากันออกไปทันที
________________________________
ตอนนี้ ทั้งสองคนก็ได้มานั่งอยู่หน้าหลุมศพมารดาของหลิงซาน ซึ่งเวลานี้ท่านได้นอนอย่างสงบอยู่ในสุสานเเห่งนี้หลิงซานวางดอกไม้ ที่มารดาเขาชอบไว้ตรงหน้าป้ายชื่อ เทียนซื่อก็เช่นกันเขามาไหว้มารดาของเพื่อนทุกๆปี ในบรรดาเพื่อนๆทั้งหมด หลิงซานจะสนิทกับเทียนซื่อมากที่สุด ทั้งสองนั่งอยู่พักนึงก็กลับออกมา ก่อนจะกลับก็เเวะที่ศาลเจ้าเพื่อขอพร เขาก็ทำแบบนี้ทุกปี และปีนี้ก็เช่นกัน เเต่ปีนี้หลิงซานไม่รู้นึกยังไงขึ้นมา ถึงอยากจะดูการทำนายดวงชะตา ปกติเขาไม่ได้สนใจกับเรื่องเเบบนี้เลย แต่วันนี้ไม่รู้มีอะไรดลใจให้เขา ย่างเดินไปยังสถานที่ ที่เขาจัดไว้ให้ผู้ที่ต้อ งการจะดูดวงชะตา มาใช้บริการได้ตามสดวก หลิงซานยกมือขึ้นหลับตาลง อธิฐานขอพรจากสิ่งที่ตนนับถือ เสร็จก็ลืมตาขึ้นมาช้าๆก่อนจะยื่นมือลงไปในกระบอกที่มีใบคำทำนายอยู่ในนั้น เเล้วก็สุ่มเลือกหยิบขึ้นมาหนึ่งใบศาลเจ้าที่อื่นส่วนใหญ่จะทำนายด้วยเซียมซีแต่ที่นี่ไม่ใช่ หลิงซานค่อยๆเปิดใบคำทำนายออกมาอย่าง
ช้าๆ ในใจก็อยากรู้ว่าข้างในเขียนว่าอะไร เทียนซื่อก็ลุ้นกับเพื่อนไม่แพ้กันเขาไม่ได้หยิบคำทำนายด้วยเพระไม่ได้อยากรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเอง เทียนซื่อเเละหลิงซานไล่สายตาอ่านข้อความในใบทำนายในนั้นมีข้อความที่เขียนเอาไว้ว่า
หนึ่งชะตาผูกไว้ได้ลิขิต หนึ่งชีวิตแปลผันวันพานพบ
หนึ่งดวงใจเฝ้ารอมาบรรจบ ถึงกำหนดโชคชตาจะพาไป
ให้เคียงคู่อยู่ชิดไกล้ดั่งใจหมาย ไม่เสื่อมคลายหมายมั่นไม่หวั่นไหว
แม้วันคืนผันผ่านเนิ่นนานไป คงรักไว้นิจนิรันดร์ไม่ผันเเปล
พอหลิงซานอ่านจบก็ขมวดคิ้วมุ่นขึ้มาทันที หัวใจเจ้ากรรมมันเต้นไม่เป็นจังหวะ รู้สึกแปลกๆในใจกับความรู้สึกที่บอกไม่ถูกมันมีทั้งไหวหวั่น โหยหา และเหมือนเฝ้ารออะไรบางอย่าง ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจกับความรู้สึกนี้เอาเสียเลย
"ไห้ตายสิความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรวะ"
เขาบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะหันไปถามเพื่อน
"มึงรู้ความหมายมั๊ยวะ กูงงมากอะ ทำไมคำทำนายมันดูเเปลกๆยังไงไม่รู้
"กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน มันก็แค่กระดาษเเผ่นหนึ่งป่ะวะ จะเก็บมาใส่ใจไรมากเพื่อน เลิกสนใจแล้วไปหาไรกินกันดีกว่าไปเดี๋ยวมื้อนี้ ป๋าเลี้ยงเองตามมาเลย อีหนู"
"ถีบแม่งอีหนูบ้านป๊าแกนะสิ"
ที่ร้านอาหารดังร้านหนึ่ง สาวๆที่เดินผ่านร้านอาหารแห่งนี้ จำต้องหันไปมองสองหนุ่มหล่อเสียจนคอเเทบเคล็ด เพราะความหล่อมันทิ่มตาจนตาลายไปหมด คนหนึ่งหล่อคม อีกคนหนึ่งก็หล่อหวานๆใสๆเห็นแล้วมันชุ่มฉ่ำหัวใจคนที่พบเห็นจริงๆ
"เป็นไงบ้างมึง ดีขึ้นหรือยังวะ"
เทียนซื่อเป็นฝ่ายเปิดปากถามอีกฝ่ายเพระยังรู้สึกเป็นห่วงหลิงซานอยู่มากกับเรื่องที่เป็นสาเหตุให้เพื่อนกินเหล้าเมามายเมื่อคืน
"จะว่าไงดีวะ แย่ก็ไม่ใช่ ดีก็ไม่เชิงเอาเป็นว่ากูจะพยายามลืมมันโอเคมั๊ยวะ"
เทียนซื่อไม่ตอบอะไรได้แต่ส่งยิ้มมาเล็กน้อย เขารู้ว่าหลิงซานพยายามพูดปลอบใจตัวเอง เเละเขาไปด้วยเขาเชื่อว่าสักวันเพื่อนเขาจะต้องลืมเหมยอิงได้
.......ที่บ้านตระกูลไป๋......
"อาซาน มะรืนนี้ป๊ามีงานด่วน ต้องไปดูงานที่นั้นด้วยตัวเอง เเกจะไปกับป๊ามั๊ยถือซะว่าไปพักผ่อนก็ได้ เผื่อเเกจะได้สบายใจขึ้นว่างัยจะไปมั๊ย"
ไป๋หารฟงถามลูกชาย อยากจะพาอีกฝ่ายไปพักผ่อนเสียหน่อย เพราะเพิ่งผ่านเรื่องหนักๆมาคงจะดีไม่น้อย ถ้าลูกชายจะลืมผู้หญิงคนนั้นได้ หลิงซานนิ่งคิดอยู่สักพักก็ให้คำตอบผู้เป็นพ่อ
"ก็ดีเหมือนกัน เเต่ผมจะพาไอ้เทียนไปด้วยจะได้มั๊ยป๊า"
"ก็แล้วแต่เเกเถิดอาซาน อาเทียนก็เหมือนลูกป๊าอีกคน"
"ได้ข่าวว่าป๊ามีลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ"
หลิงซานพูดกวนผู้เป็นพ่อเพราะรู้ว่าพ่อตัวเองรักเทียนซื่อเหมือนลูกอย่างที่ว่าจริงๆ"
"อ้าวไอ้ลูกคนนี้ อิจฉาเพื่อน"
"ผมเปล่าน้าาา"
"
"
"
"
"
ถึงกำหนดเดินทาง
เทียนซื่อก็มารอเพื่อเดินทางพร้อมกันอยู่ที่บ้านเพื่อน พอทุกคนพร้อมแล้วก็รีบออกเดินทางทันที ผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงที่หมาย ที่นี้เป็นรีสอทชื่อดังทางใต้ของจีน เป็นที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุด ด้านหลังเป็นธรรชาติมีน้ำตกที่สวยมาก และสามารถลงไปเล่นได้ด้วย หลิงซานดูผ่อนคลายขึ้นมากเขาคาดหวังไว้ว่าพรุ่งนี้จะมาเล่นน้ำที่นี่ เขาเป็นคนที่ชอบน้ำเป็นชีวิตจิตรใจเห็นน้ำตกใสๆสวยๆน่าอาบเเบบนี้เลยอดใจไว้ไม่ได้ เเต่วันนี้เหนื่อยมามากแล้วขอนอนเอาแรงก่อนเถิดเดี๋ยวพรุ่งนี้จะลงเล่นให้หนำใจเลย เขาหมายมาดเอาไว้ในใจ
_____________________________
ทางด้านของเย่วซิน
เมื่อเล่าทุกอย่างที่ตนฝันให้มารดาฟังก็เห็นสีหน้าไม่สู้ดีนักของมารดา เลยอดที่จะถามไม่ได้
"ท่านเเม่ ท่านเป็นอะไรไปรึเห็นสีหน้าท่านไม่ค่อยจะสู้ดีนัก"
"ข้าหวังว่าที่เจ้าฝัน มันจะไม่ใช่นิมิตรมังกรนะเย่วเอ๋อร์"
"ไม่หรอกท่านแม่ท่านอย่าลืมสิว่าข้าเป็นบุรุษนะ ท่านเคยเห็นคูพันธะเป็นบุรุษรึท่านเเม่"
"เคยเห็นซิ" มารดาตอบออกไปเล่นเอาคนถามถึงกับชงักงัน"
"ท่านเเม่พูดริงหรือ"
"ข้าจะปดเจ้าไห้ได้อะไรคู่พันธะที่เป็นบุรุษก็มีอยู่หลายคน"
"แล้วถ้าเป็นบุรุษจะสามารถมีบุตรไวัสืบบัลลังได้รึท่านแม่"
เย่วซินถามด้วยความสงสัย เป็นบุรุษไม่อาจมีบุตรได้แล้วจะสืบทอดบัลลังได้อย่างไรกัน
"อันนั้นข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เราไปที่บ่อน้ำศักสิทธ์กัน"
"ไปทำอะไรหรือท่านแม่ ที่บ่อน้ำศักสิทธิ์มีไว้ทำพิธีสำคัญมิใช่หรือ"
เย่วซินเอ่ยถามมารดาออกมาด้วยความสงสัย ซินหลี่เลยให้ความกระจ่างเเก่บุตรชายของนาง
"ใช่มีไว้เพื่อทำพิธีสำคัญ แต่เจ้าอย่าลืมสิว่าที่นั่นมีรูปปั้นเทพอัคคี ที่ทุกคนเคารพบูชาอยู่ ข้าจะพาเจ้าไปขอพรจากองค์เทพให้ปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากตัวเจ้า ภัยใดก็อย่าได้กล้ำกลายเข้ามาไกล้เจ้าเลยเย่วเอ๋อร์"
มารดาเอ่ยพลางเอื้อมมือมาลูบศรีษะบุตรชายอย่างแสนรัก
______________________________
"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
มาแล้วจ้าาาาใครรออ่านอยู่บ้างเอ่ยตอนนี้เริ่มมีตัวลครเพิ่มขึ้มาอีกแล้วน้าาาเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปพอจะเดากันถูกมั๊ยเอ่ยรอลุ้นกันตอนหน้านะ
#ฝากกดติดตาม กดเม้นเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ????????????
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น