ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรักราชามังกร

    ลำดับตอนที่ #10 : คู่ชะตา

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 63






    ในขณะเดียวกันที่หมู่บ้านของชาวเผ่าหงส์ไฟ ทุกคนต่างก็วิ่งกันวุ่นวาย เพื่องานที่ได้รับมอบ

    หมายจะได้เสร็จทันพิธีสักการะเทพอัคคี ที่ทุกคนต่างก็นับถือทั่วทั้งหมู่บ้าน ตรงหน้ารูปปั้นขนาดใหญ่ หลวนคุณผู้นำหมู่บ้านกำลังทำพิธีเพื่อให้ทุกคนเข้ามากราบไหว้ เเละขอพรจากเทพอีคคีที่เขานับถือ ชายชราเเต่ยังคงดูสง่ามากกว่าอายุนัก ก้มลงเพื่อขอพรจากรูปปั้นตรงหน้า


    "ข้าเเต่องค์เทพ ได้โปรดช่วยพวกเราชาวเผ่าหงส์ไฟด้วยเถิด ขอให้ข้าเจอคู่ชะตาขององค์ราชามังกรโดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ขอให้องค์เทพตอบรับคำขอจากข้าด้วยเถิด ถ้าครานี้ยังไม่เจอ มิคงต้องเเตกหักกับชาวเผ่ามังกรหรอกหรือ"

    ท่านผู้นำพูดด้วยใบหน้าเครียดขรึมอย่างเห็นใด้ ชัดทุกคนต่างก็ใจจดใจจ่อกับพิธีในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เเต่เเล้วเหตุการไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คนที่อยู่ในบริเวรนี้ก็ต่างพากันตกใจกับลำเเสงสีทองอร่ามที่สว่างจ้าปรากฎอยู่กลางบ่อน้ำศักสิทธิ์ เเต่ที่ทำให้ทุกคนมีอาการตกตะลึงไม่ต่างกันคือ ลำเเสงสีทองที่ปรากฎอยู่ ได้โอบอุ้มร่างของใครบางคนเอาไว้ตอนนี้ร่างบางนอนสลบไสล อยู่กลางบ่อน้ำศักสิทธ์ในท่านอนหงายศรีษะวางอยู่บนโขดหิน แล้วลำเเสงสีทองก็ค่อยๆหายไป เมื่อหมดหน้าที่ส่งคู่ชตามายังที่หมายเเล้ว

    ชาวบ้านต่างก็พากันกรูเข้าไปยังที่ๆชายหนุ่มนอนหมดสติอยู่ ทุกคนพากันหลีกทางไห้ เมื่อท่านผู้นำเดินตรงมายังร่างที่ไร้สติอย่างสงสัยใคร่รู้ ตามองร่างบางไม่วางตาในใจก็คิดอะไรบางอย่างอยู่เงียบๆ ขอไห้เป็นอย่างที่เขาคิดทีเถิดจะได้หมดห่วงซักที

    "น่าอัศจรรย์ยิ่งนักคงเป็นชะตาลิขิตไว้จริงๆ เขาถึงได้ปรากฎตัวที่บ่อน้ำสักสิทธ์ในเวลานี้ เอ้าพวกเจ้ามัวมองอะไรกันอยู่รีบพาเขาขึ้นมาเร็วเข้า"

    สิ้นคำสั่งของท่านผู้นำ ทุกคนต่างก็ช่วยกันพาร่างที่ไร้สติของชายหนุ่มรูปงามขึ้นมาจากบ่อน้ำศักสิทธ์ เพียงเเรกเห็นทุกคนต่างก็ชื่นชมกับรูปร่างที่งดงาม ใบหน้าหวานกำลังหลับไหล เผยให้เห็นเเพขนตางอนงาม เรียงตัวกันเป็นระเบียบ จมูกโด่งรั้นนิดๆ รับกับริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูอ่อนๆบวกกับผิวขาวอมชมพูอย่างคนที่มีสุขภาพดี ทุกสิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นตัวเขา มันช่างลงตัวเสียจนคนที่มอง ต่างก็พากันกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออย่างยากลำบาก โดยเฉพะบุรุษที่ต่างก็พากันจ้องมองตาเป็นมันกับภาพตรงหน้า เสื้อผ้าอาภรที่เจ้าตัวสวมใส่ ตอนนี้มันเปียกชุ่มเลยมองเห็นรูปร่างของคนตรงหน้าอย่างชัดเจน พาเอาสติของใครหลายคนหลุดไปอย่างไม่รู้ตัวท่านผู้นำเห็นดังนั้นเลยรีบเรียกสติทุกคนให้กลับมาอยู่กับตัวโดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดเรื่องยุงยากตามมาในภายหลัง

    "อะ เฮ่ม เเค๊กๆๆ.... เอาล่ะทุกคนคงจะสงสัยสินะ ว่าเขามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรถ้าข้าคิดไม่ผิดครานี้คงจะโชคดีของเราแล้ว"

    เย่วซินที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างก็อดสงสัยที่ท่านผู้นำพูดออกมาไม่ได้ หนิงอันที่ยืนอยู่ข้างเย่วซินเลยเอ่ยถามบิดาด้วยความสงสัย

    "มันหมายความเช่นไรเจ้าคะท่านพ่อ"

    "เดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เองหลิงอัน"

    หลวนคุณตอบบุตรสาวก่อนจะเอื้อมมือไปหาไหล่บางเเล้วค่อยๆเเหวกคอเสื้อดึงลงมาจนถึงหัวไหล่ เปิดดูสิ่งที่อยากเห็นรอยยิ้มดีใจอย่างที่สุด ปรากฎบนใบหน้าของหลวนคุณ บ่งบอกว่าสิ่งที่เขาขอเป็นจริงอย่างที่คิดเอาไว้

    "ใช่จริงๆอย่างที่ข้าคิดมิผิด องค์เทพทรงรับคำขอจากข้าเเล้ว พวกเราทุกคนเราเจอคู่ชตาแล้วเฮ้อโล่งใจเสียที"

    หลวนคุณหันไปบอกกล่าวกับทุกคนสร้างความดีใจเป็นอย่างยิ่ง ในที่สุดคู่ชตาก็ปรากฎตัวซักที หลวนคุณเลยหันมาพูกับเย่วซิน

    "เย่วซิน ข้าฝากเจ้าดูเเลเขาด้วย ไห้เขาไปอยู่ที่บ้านเจ้าจนกว่าจะถึงวันทำพิธีส่งตัวเจ้าสาวเเก่ราชามังกร"

    "ข้าจะดูแลเขาเป็นอย่างดี ท่านวางใจเถิดท่านผู้นำ"

    "อึม รบกวนเจ้าเเล้วข้าฝากคนสำคัญคนนี้ไว้กับเจ้าด้วยเย่วซิน"



    .......................................................................................

    บ้านของเย่วซิน

    หลังจากพาหลิงซานมาถึง ก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าไห้อีกฝ่าย สัญลักษ์หงส์ไฟปรากฎอย่างชัดเจนจะเป็นใครไปเสียไม่ได้ในเมื่อมันชัดเจนขนาดนี้

    "ในที่สุดก็เจอซักทีหากันเสียแทบแย่บทจะเจอ ก็เจออย่างไม่คาดคิด คู่ชตาเป็นบุรุษดั่งที่ท่านเเม่ว่าจริงๆ"

    "เย่วเอ๋อร์ เมื่อไหร่เขาจะฟื้นสักทีนะนี่ก็นานมากแล้ว"

    มารดาเอ่ยถามบุตรชายด้วยท่าทีร้อนรน มองใบหน้าหวานซึ่งตอนนี้หลับไหลอย่างรู้สึกเอ็นดู

    "เดี๋ยวก็คงจะฟื้น ท่านแม่อย่าได้ห่วงเลย"

    สองเเม่ลูกนั่งคุยกันอยู่สักครู่ก็ต้องหันไปมองตามเสียง

    "แค๊กๆๆๆ น้ำ ขอน้ำหน่อย"

    คนที่สลบสไลอยู่นาน ก็ได้สติขึ้นมาเอ่ยขอน้ำอย่างยากลำบาก เพราะตอนนี้ลำคอแห้งผากเป็นผุยผง เย่วซินได้ยินดังนั้นก็รีบรินน้ำเอามาป้อนอีกฝ่ายช้าๆ

    "เจ้าดื่มช้าๆหน่อย เดียวก็สำลักเอาหรอก"

    "แค๊กๆๆๆ"

    "นั่นปะไรล่ะ ข้าบอกเจ้าเเล้วพูดมิทันขาดคำ"

    เย่วซินดุอีกฝ่ายที่ดื่มน้ำอย่างตะกละจนสำลักเอา หลิงซานได้ยินบ้างขาดๆหายๆดวงตาสวยที่ปิดสนิท ค่อยๆปรือขึ้นอย่างช้าๆเเละปิดลงดังเดิมเพื่อปรับสายตาที่พร่าเลือนไห้เห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม ก่อนจะเปิดขึ้นอีกครั้งสิ่งแรกที่หลิงซานเห็นคือใบหน้างดงามราวภาพวาดในนิยายจีน ที่ทุกคนชอบอ่าน หลิงซานจ้องมองคนตรงหน้าอย่างตะลึงงัน อ้าปากหว๋อ มือบางค่อยๆเอื้อมไปจับใบหน้าอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวลตอนนี้ตาเขากำลังพร่า กับความสวยของคนตรงหน้า

    "โอ้มายก็อต... คนหรือเปล่าวะ ทำไมถึงได้สวยขนาดนี้ อย่างกับนางฟ้าเลย"

    เขาจับๆบีบๆเเก้มนิ่มของอีกฝ่ายอย่างหลงไหล จนโดนอีกฝ่ายดุเอาเพราะเหลือจะทน ตั้งเเต่ฟื้นขึ้นมาก็เอาแต่จับหน้าเขาไม่ยอมปล่อยมือสักที

    "นี่เจ้าจะจับใบหน้ข้าอีกนานหรือไม่ ทเจ้าเด็กบ้า"

    "ว๊ากกก ตาเถรตกกะได ผู้ชายหรือนี่ทำไมสวยกว่าผู้หญิงอีก"

    "เจ้าพูดอะไรของเจ้าข้าฟังไม่รู้เรื่องเเล้วเจ้ามาโผล่ที่นี่ได้อย่างไรกัน"

    ได้ยินเเบบนี้เขาจึงนิ่งไปอึดใจ ก่อนที่สมองค่อยๆคิดถิงสิ่งที่ผ่านมา เเละภาพความทรงจำทุกอย่างค่อยๆไหลเข้าสู่สมองของเขาเรื่อยๆ ตอนนี้หลิงซานรู้สึกปวดหัวขึ้นมา เเละปวดมากขึ้นเรื่อยๆ เขาหันไปมองสิ่งที่อยู่รอบตัว มันเปลี่ยนไปบ้านที่ทำจากไม้เนื้อดีมันดูเก่าลงบ้าง เเต่ก็ไม่ได้ทรุดโทรมแต่อย่างใด รอบตัวเขามีกลิ่นอายโบราณไม่ว่าจะเป็นที่นอนที่เขานอนอยู่มันเป็นฟูกนุมๆ วางอยู่บนเตียงไม้ที่เเกะสลักลวดลายเเปลกตาเเต่ก็สวยงามอยู่มาก มีผ้าม่านกั้นสามารถรูดปิดหรือเปิดได้เเต่ที่สำคัญที่สุดคือทุกคนที่นี่เเต่งตัวแปลกๆรวมทั้งชุดที่เขาสวมใส่อยู่ด้วย ชุดยาวรุ่มร่ามเหมือนในหนังจีนโบราณยังงัยยังงั้น นี่เขาอยู่ที่ไหนกัน มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ไหนจะคนสวยที่อยู่ตรงหน้าอีกดันเป็นผู้ชายเสียได้การเเต่งตัวก็ดูเเปลกตาผมยาวถึงกลางหลังเเต่เอะผมหรือเขาเอามือจับผมตัวเองดูเกือบช๊อคไปอีกรอบ

    "นี่มันอะไรกัน ที่นี่มันที่ไหน เกิดอะไรขึ้นกับกูวะ ผมนี่อีกมันจะยาวอะไรขนาดนี้วะนี่"
    เขาพูดออกมาด้วยใบหน้าขาวซีด
    เพราะตอนนี้เส้นผมของเขายาวสลวยถึงเอวเหมือนกัน มันยาวชั่วข้ามคืนได้ไงก็ไม่รู้ ตอนนี้หลิงซานช๊อคจริงๆ เย่วซินยืนมองอาการของคนตรงหน้าอย่างเป็นห่วงเพราะอาการลนลาน ดวงตาวอกเเวกกวาดมองไปทั่วบริเวร ใบหน้าหวานขาวซีดราวกับไม่มีเลือดมาหล่อเลี้ยง เย่วซินเอื้อมมือมาหวังจะปลอบไห้อีกฝ่ายใจเย็นลง เเต่ก็ถูกหลิงซานปัดออกเเละขยับตัวเองไปจนชิดฝาผนัง หลอน บอกได้คำเดียวว่าหลอนเอามากๆ เย่วซินพยายามเอื้อมมือมาอีกครั้งแต่ก็เหมือนเดิม โดนปัดออกอีกครั้ง จนเขารู้สึกถอดใจ

    "ยะ อย่าเข้ามานะ คุณเป็นใคร เเล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังงัย ป๊าล่ะป๊าอยู่ไหน ป๊าช่วยซานด้วย ที่นี่ไหนก็ไม่รู้ซานกลัว ฮึก ฮือออ ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยผมทีไอ้เทียนมึงอยู่ไหน ฮือๆๆๆ ฮึก ช่วยกูที"

    "เดี๋ยวเจ้าจะร้องให้ทำไม ที่นี่มันไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่เจ้าคิดหรอก มีข้าอยู่กับเจ้าทั้งคนข้าจะดูแลเจ้าเอง อย่าได้กลัวไปเลย"

    เย่วซินพูดจาปลอบโยนอีกฝ่าย ให้คลายความหวาดกลัวลง เเต่มันก็ไม่ได้ผลเลยเเม้เเต่น้อย

    หลิงซานร้องไห้สะอื้นออกมาด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้เขาฝันเสียไปหมดเเล้วตรงนี้ไม่มีใครที่เขารู้จักเลยสักคนเดียวมีแต่คนแปลกหน้าทั้งนั้น เย่วซินอดที่จะสงสารคนตัวเล็กไม่ได้ เพราะตอนนี้ชายหนุ่มตรงหน้า เอาเเต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กๆ และไม่ยอมให้เขาเข้าไกล้เลยแม้แต่น้อยเขาจึงใช้วิธีค่อยๆเข้าหาทีละนิดๆ จนในที่สุดหลิงซานก็ยอมให้เขาเข้าไกล้ หลิงซานจมอยู่กับความทุกมาหลายวันคิดถึงบ้าน คิดถึงเพื่อน และคนที่สำคัญที่สุดคือผู้เป็นพ่อ ตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เขาอยากกลับบ้านไปหาทุกคน หลิงซานเอาเเต่นั่งซึม หลายครั้งที่เย่วซินแอบเห็นคนตัวเล็กร้องให้ เป็นแบบนี้มาหลายวันดีที่มีเย่วซินอยู่ไกล้ๆมาตลอด ไม่ทิ้งให้เขาฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว จนถึงตอนนี้เริ่มทำใจได้บ้างแล้ว ไม่ใช่มีเเต่เย่วซินที่ดูเเลใส่ใจเขาไม่ห่าง ยังมีมารดาของเย่วซินอีกคน ที่เอาใจใส่เขาเหมือนบุตรชายอีกคนหนึ่ง หยางหลิวก็เเวะเวียนมาเยี่ยมไม่ขาดเเต่ดูท่าว่าหลิงซานจะไม่ค่อยไว้ใจเท่าไร มีเพียงเย่วซินเเละครอบครัวเท่านั้นที่หลิงซานยอมไห้เข้าไกล้มากที่สุด นี่ถ้ารู้ความจริงที่ว่าตนเป็นคู่ชตาเป็นผู้ถูกเลือกเเละสักวัน จะต้องไปอยู่ที่อณาจักรมังกรคนตัวเล็กจะทำเช่นไร เขาสงสารเหลือเกินแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้

    หลังจากอาการดีขึ้นมากเเล้ว ทุกคนก็สอบถามชื่อเเซ่ของเขาจนได้ความ

    "เป็นอย่างไรบ้างหลิงซาน อาการเจ้าดีขึ้นเเล้วใช่หรือไม่"

    หยางหลิวเอ่ยถามคนป่วยตรงหน้า หลิงซานไม่ตอบเเต่ก็พยักหน้ารับแทน หยางหลิวมองคนตรงหน้า ถึงจะดีขึ้นบ้างแล้ว เเต่ก็ยังดูอิดโรยอยู่มาก ใบหน้าหวานก็ยังดูซีดเผือดอยู่ไม่น้อย
    หลายวันมานี้ที่เขานอนป่วยอยูบนฟูกนอน ก็มีชาวบ้านหลายคน ต่างก็เเวะเวียนมาเยี่ยมเขาอย่างไม่ขาด โดยเฉพาะผู้นำหมู่บ้าน ที่มักจะมาเยี่ยมเขาเเทบทุกวัน เขารู้สึกว่าตัวเองสำคัญยังไงก็ไม่รู้เพราะทุกคนดูเหมือนว่า จะให้ความเคารพเขาเป็นอย่างมาก เขาเลยถามเย่วซินออกไปไห้หายสงสัย

    "พี่เย่วซิน ทำไมดูเหมือนว่าพวกเขาเกรงผมยังงัยก็ไม่รู้"

    "เดี๋ยวถ้าเจ้าหายดี ข้าจะเล่าทุกอย่างให้เจ้าฟัง"
    (ถ้าถึงวันนั้นเเล้วเจ้าคงจะโกรธเกลียดข้าเเละทุกคนที่นี่เพียงไร)
    เย่วซินตอบหลิงซานออกไป ถึงจะฟังคำพูดของหลิงซาน ออกจะเเปลกๆไปบ้าง เเต่ก็พอจะจับใจความใด้อยู่เขามองคนตัวเล็กกว่าอย่างใคร่รู้

    "เจ้าอายุเท่าไดเเล้วรึ"

    "อายุเหรอ เพิ่งจะ19เต็มเมื่อไม่นานมานี้พี่มีอะไรหรือเปล่าคับ"

    "ไม่มีหรอกเเค่อยากรู้เจ้านี่พูดจาเเปลกประหลาดนักเจ้ามาจากที่ใดรึหลิงซาน"

    "ผมมาจากที่หนึ่งจะเรียกว่าอย่างไรดีล่ะอนาคตมั้ง"

    "อนาคตมันคืออะไร มันไม่เหมือนกับที่นี่หรือ" เย่วซินถามด้วยความสงสัย

    "ไม่เหมือนเลยสักนิด ที่โน่นมีวิวัฒนาการก้าวหน้ากว่าที่นี่มาก เรียกว่าหน้ามือกับหลังมือเลยก็ว่าได้ มันเจริญก้าวหน้ากว่าที่นี่เยอะเลย เเละการเป็นอยู่ของทุกคน ก็สดวกสบายกว่าที่นี่อีก เฮ้อคิดถึงบ้านจัง คิดถึงป๊าป่านนี้จะเป็นยังงัยบ้างก็ไม่รู้ ผมอยากกลับบ้านไปหาครอบครัว ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้กลับไปหรือเปล่า"

    "เอาละนอนพักผ่อนเถิดจะได้หายเร็วไว"

    เย่วซินตัดบทเพราะฟังที่หลิงซานพูดไม่เข้าใจ เเละไม่อยากให้อีกฝ่ายจมอยู่กับความทุกใจ หลิงซานเอนตัวลงนอนเย่วซินเอื้อมมือมาดึงผ้าห่มมาคลุมให้

    "ข้าไม่รู้หรอกว่า ในที่ๆเจ้าจากมา มันเป็นเช่นไร แต่เมื่อเจ้ามาอยู่ที่นี่แล้วคิดเสียว่านี่คือครอบครัวของเจ้า ท่านแม่เเละท่านพ่อของข้า รักเจ้าเสมือนบุตรชายอีกคนส่วนข้ารู้สึกถูกชตากับเจ้านัก คิดเสียว่าข้าคือพี่ชายของเจ้าก็เเล้วกัน ต่อไปนี้เราคือครอบครัวเดียวกัน เจ้าจะเป็นน้องชายคนเดียวของข้า เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียวอีกแล้วจงจำไว้"

    "ครับพี่ชาย"

    หลิงซานพยักหน้ารับทั้งน้ำตา เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกเเล้วอย่างน้อยก็ยังมีพี่ชาย เเละครอบครัวให้คอยอุ่นใจบ้าง

    "ต่อไปนี้เรียกข้าว่าท่านพี่จะดีกว่า คำพูดของเจ้าข้าฟังไม่ค่อยจะเข้าใจ"

    "ครับท่านพี่"

    "ดีมากพักผ่อนเถิดข้าไม่กวนเจ้าเเล้ว"

    เย่วซินเอื้อมมือไปลูบผมนุ่มยาวสลวยของอีกฝ่ายอย่างเบามือ เขารู้สึกถูกชตากับหลิงซานจริงๆอย่างที่พูด รู้สึกรักเเละเอ็นดูอีกฝ่ายอยู่มาก เเต่อีกไม่นานหลิงซานคงต้องจากที่นี่ไป

    คงไม่มีโอกาสได้เห็นน้องชายคนนี้อีกแล้วตลอดไปเลยซินะ





    วังมังกร


    อี้เฟยเดินวนไป วนมาอย่างนี้มาสักพักนึงแล้ว  ระยะนี้เขาเป็นอะไรไม่รู้  กระวลกระวายใจถึงอีกคน ซึ่งเป็นคู่ของตนจนบอกไม่ถูกอยากจะไปหาเสียเดี๋ยวนี้ เเต่ก็ทำไม่ได้มันเป็นกฎของที่นี่  จะเจอคู่ตนได้ก็ต่อเมื่อวันไปรับตัวอีกฝ่ายเท่านั้น  เขาทิ้งตัวลงนั่งบนม้านั่งข้างตัวพลันสายตาเหลือบไปเห็นพี่ชายฝาแฝดเดินมาทางนี้พอดี  เฟยหลงเดินเข้ามาหาน้องชายที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว


    "ท่านพี่วันนี้ไม่มีราชกิจอันไดรึเห็นท่านมีเวลามาเดินเล่นได้"


    "มีเเต่เสร็จแล้วเจ้ามีเรื่องอันใดไห้ไม่สบายใจรึเปล่า"


    เขาเอ่ยถามน้องชายเพราะจับสังเกตุได้จากสีหน้าของน้องชายได้  อี้เฟยดูง่ายไม่ว่าจะทุกสุข  เขาย่อมสังเกตุเห็นเสมอ


    "ท่านพี่นี่เก่งกาจมิเคยเปลี่ยนรู้ใจข้าตลอดเลย"


    "ไม่รู้ก็โง่เต็มทีเเล้วล่ะ เจ้าน่ะดูง่ายจะตายไปอี้เฟย"


    "ข้าดูง่ายขนาดนั้นเลยรึท่านพี่สงสัยข้าคงจะโง่เอามากๆซินะ   ที่ดูท่านพี่ไม่ออกเลยสักนิด"


    "เอาล่ะมีอะไรเล่ามาข้าช่วยได้ก็จะช่วย"


    เฟยหลงตัดบทอี้เฟยเลยเล่าอาการของตนไห้อีกฝ่ายฟัง


    "สงสัยเจ้าจะโง่จริงๆอย่างที่เจ้าพูดกระมัง  ดวงจิตรมังกรมีไว้ทำอะไร  ทำไมไม่ใช้ไห้เกิดประโยชน์"


    "ใช่จริงด้วยสงสัยข้าจะโง่จริงๆอย่างที่ท่านว่า  ทำไมคิดไม่ได้นะเรื่องแค่นี้  มัวเเต่นั่งทุกใจอยู่ได้บัดซบจริงเชียว"


    ได้ยินพี่ชายพูดเเบบนี้ก็นึกขึ้นได้ดวงจิตมังกรสามารถใช้ได้หลายอย่าง  รวมทั้งใช้ดูสิ่งที่อยากเห็นก็ย่อมทำได้

    อย่างตอนนี้เขาอยากเห็นคู่ของตนเป็นที่สุด


    "ท่านพี่คงจะใช้ดวงจิตรมังกรเเอบดูพี่สะไภ้บ่อยๆสินะถึงได้รู้ดีนัก"


    "แค๊กๆๆเจ้านี่มัน"


    เสียงไอออกมาเพราะสำลักน้ำลายตนเถียงอะไรไม่ออก  เพราะเป็นจริงอย่างที่น้องชายพูด  เขาแอบใช้ดวงจิตรมังกรดูการเป็นอยู่ของอีกคนเสมอ


    "

    "

    "

    "

    "

    ตกกลางคืนอี้เฟยจึงใช้ดวงจิตรมังกรมองดูอีกฝ่าย  ให้คลายสงสัย  เเละภาพที่เห็น เล่นเอาหัวใจของมังกรหนุ่มร้อนรุ่ม  ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ด้วยความเป็นห่วงอีกคน  เพราะตอนนี้หลิงซานกำลังนอนหลับแต่ท่าทางกระสับกระส่ายอย่างคนฝันร้ายใบหน้าขาวซีดเผือดไร้สีเลือด นอนดิ้นไปมาอยู่บนฟูกนอน  เหงื่อเม็ดเล็กๆไหลเต็มไปหมดทั้งใบหน้าและลำตัว  จนเสื้อผ้าเปียกชื้นไปหมด  เขาอยากจะปลุกอีกฝ่ายให้ตื่นจากฝันร้ายใจแทบขาด  แต่ก็ทำไม่ได้ได้แต่ทนมองอีกคนอย่างเจ็บปวดที่ช่วยอะไรไม่ได้


    "โถ่   ข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไรกัน  เจ้าเจ็บ  ข้าเจ็บยิ่งกว่าเจ้านัก  คนดีของข้า"


    นี่เขาเป็นหนักขนาดนี้เลยหรือ  หลงรักอีกฝ่ายอย่างถอนตัวไม่ขึ้น  ทั้งๆที่ยังไม่เคยเจอกันเเม้เพียงสักครั้ง  เเล้วพี่ชายเขาจะเป็นอย่างเขาหรือเปล่านะ  เขาตั้งจิตรเพ่งมองอีกครั้งแต่ก็ต้องชงักไปอึดใจหนึ่ง  เพราะตอนนี้  มีบุรุษอีกคนเข้ามาปลุกคนตัวเล็กให้ตื่นจากฝันร้าย  คู่ของเขาเด้งตัวจากฝูก นอนมาสวมกอดคนที่เพิ่งจะเข้ามาไว้เเน่นอย่างเสียฝัน  อีกคนกอดตอบพลางลูบศรีษะอย่างปลอบโยน  จนดีขึ้นมากอี้เฟยมองภาพนั้นด้วยสายตาลุกวาวอย่างหึงหวงคนตัวเล็ก  เเต่เเล้วเหมือนกับมีเปลวไฟลุกโชนพร้อมที่จะเผาทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าอยู่ในเเววตาของเขา  ภาพที่คนตัวเล็กยอมให้อีกคนถอดเสื้อออกจากกายขาวผ่อง  เพราะมันชื้นเหงื่อก่อนที่จะเอาตัวใหม่มาสวมใส่แทน  จากตอนเเรกที่ดูจะหึงหวงเอามากมายจนอยากฆ่าคน  เเต่ตอนนี้ปลายจมูกของเขาได้มีเลือดกำเดาไหลออกมาเป็นทาง  เพราะร่างกายขาวผ่องยั่วยวนของอีกคนเล่นเอาเขาทำอะไรไม่ถูก  ลืมความหึงหวงเมื่อสักครู่ไปหมดสิ้น  จากดวงตาที่เคยลุกเป็นไฟ  เเต่มาบัดนี้มันมีแต่ความหลงไหลอยู่เต็มเปี่ยม  เเละตามมาด้วยความหื่นกระหายใคร่อยากครอบครองอีกฝ่ายมาเเทนที่เสียอย่างนั้น


    "เมื่อก่อนข้าเคยคาดหวังเอาไว้มาก  กับคู่ของข้า  เเต่ตอนนี้ข้าไม่สนใจอะไรอีต่อไปเเล้ว ขอเเค่เป็นเจ้าเเต่เพียงผู้เดียว  เรื่องอื่นมันไม่สำคัญเเต่อย่างใดถึงเจ้าจะไม่ใช่สตรี  ไม่มีนมไห้ข้าดู   เเต่ตัวเจ้าก็น่ากินมิใช่น้อย  รอก่อนเถิดถึงเวลาเมื่อไรข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าหลุดมือข้าเป็นแน่"


    หลังจากที่เห็นเรือนร่างอันน่าจับกลืนลงท้องของอีกฝ่าย  เล่นเอาเขาอารมณ์ขึ้น  ทำยังไงก็ไม่ยอมลงสักที  อี้เฟยจึงมุ่งหน้าไปวังหลังที่มีเหล่าสนมรูปโฉมงดงามรอเขาอยู่มากมายถึงเขาจะหลงรักคู่ของตนเพียงใด  เเต่อารมณ์ความใคร่ตอนนี้  มันทรมานเขาเหลือเกินขอปลดปล่อยก่อนเถิด


    "เเต่งกับเจ้าเมื่อไหร่  ข้าขอไห้สัตสาบานว่า  จะหยุดทุกอย่างอยู่ที่เจ้าเเต่เพียงผู้เดียว"


    เขาเรียกใช้มี่อิง  สนมคนโปรดของเขาเเต่ทุกอย่างต้องหยุดลงกลางคัน  เพราะเขาไม่สามารถไปต่อได้  ใบหน้างามมาคอยวนเวียนอยู่ในหัวเขาไม่หยุด  จนในที่สุดเขาก็หยุดทุกอย่าง  เเละกลับตำหนักตนไป  สร้างความงงงวยและไม่พอใจไห้กับมี่อิงเป็นอย่างมาก


    "ซินหนี่  ข้าไม่งามไม่น่ามอง พอที่จะไห้องค์ชายอี้เฟยค้างกับข้าเเล้วรึ"


    นางหันไปถามนางกำนันคนสนิทหลังจากที่อี้เฟยกลับไปแล้ว


    "เปล่าเลยเพคะ  พระสนมยังคงงดงามมิเคยเปลี่ยน  เเต่ที่องชายไม่ค้างกับพระสนมคงมีเหตุอันไดสักอย่างเป็นแน่เพค่ะ"


    นางกำนันกล่าวเพื่อปลอบใจผู้เป็นนาย


    "จะมีเรื่องสำคัญอันใดไปเล่า   นอกจากพระองค์ทรงเบื่อข้าเเล้วฮึกๆฮือๆๆ"


    "ไม่หรอกเพคะพระสนมใจเย็นๆก่อนนะเพคะ"


    "ตลอดหลายวันมานี้  พระองค์ไม่เคยมาหาข้าเลยทรงเบื่อข้าแล้วจริงๆ"


    "แต่พระองค์ก็ไม่ได้ไปที่อื่นเลยนะเพคะ ไม่ได้เรียกใช้นางคนไหนเลย  หม่อมฉันสืบมาได้ความว่า  พระองค์ไม่เคยเรียกใช้สนมคนไหนเลยเเม้เเต่คนเดียว"


    "ข่าดีใจยิ่งนักที่พระองค์มาหาข้าวันนี้เเต่จู่ๆยังไม่ทันไร  พระองค์ก็ผลุนผลันออกไปเป็นเช่นนี้เเล้ว  เจ้าจะไห้ข้าคิดเช่นไรได้อีกนอกจากทรงเบื่อข้าแล้วจริงๆ


    "

    "

    "

    "


    ด้านอี้เฟยหลังจากกลับมาจากวังหลังทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ร่างกายต้องการ เเต่เขากลับมาด้วยความหงุดหงิดที่อารมณ์ตนยังค้างเติ่ง  จนถึงตอนนี้เจ้ามังกรของเขามันจึงเรียกร้องการปลดปล่อย  มันยังชี้โด่อยู่เลยไม่ยอมลงสักที  สร้างความทรมานไห้เขาแทบขาดใจ  ก็ได้เเต่คาดโทษอีกคนเอาไว้


    "ฝากไว้ก่อนเถิดขนาดยังไม่ได้เห็นหน้ากันจริงๆ  เจ้ายังมีอิทธิพลกับข้าขนาดนี้  ถึงเวลาข้าจะเอาคืนให้สาสมเชียว"


    สุดท้ายเขาต้องช่วยตัวเองไปตามเรื่องโดยนึกถึงใบหน้า  เเละเรือนร่างของอีกฝ่ายก็พาเอาอารมณ์ขึ้นได้อย่างง่ายดายเกินคาด  ในที่สุดก็ปลดปล่อยอารมณ์ใคร่ออกมาจนหมดสิ้น  ก่อนจะข่มตาหลับลงได้อย่างสบายตัว


    "

    "

    "

    "

    "


    อี้เฟยหลับไปแล้วอย่างสบายตัว ืเเต่เฟยหลงยังไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้เลยแม้เเต่น้อย  เพราะภาพบาดตาเมื่อสักครู่  ภาพที่คู่ของเขาโอบกอดใครอีกคนเพื่อปลอบให้อีกฝ่ายหายตกใจจากฝันร้ายก็เถิด  เเต่อารมณ์หึงมันไม่สามาถเเยกเเยะออก  รู้ว่าตนหึงหวงคู่ของตนมากเหลือเกิน  มากเสียจนไม่อยากให้ใครเข้าไกล้แม้เเต่คนเดียว


    "เจ้าจะทำให้ข้าคลั่งไปถึงเมื่อไรกันหรือข้าจะต้องเเหกกฎไปพาตัวเจ้ามาอยู่ที่นี่  เสียตั้งเเต่ตอนนี้ฮะ!!


    เขาพึมพำกับตนเองอย่างเดือดดาล  ไม่สามาถรทำอะไรได้เลยคิดฟุ้งซ่านเสียยกใหญ่


    พอรุ่งเช้าทุกคนจึงได้พบเห็นองค์รัชทายาท  นั่งหน้าดำคร่ำเครียดขอบตาดำคล้ำเหมือนไม่ได้หลับได้นอนมาทั้งคืนอารมณ์ก็พอจะเดาออกว่า  พระองค์ได้ยัดรังเเตนเข้าไปทั้งรัง อย่างไรก็อย่างนั้น จนน้องชายมาพบเจอเข้า เลยอดที่จะถามไถ่ด้วยความสงสัยไม่ใด้


    "สงสัยวันนี้จะมีฟ้าฝ่าวังหลวงกระมังท่านพี่ถึงดูเหมือนไปกินรังเเตนมาจากที่ใดมา  มีอะไรบอกข้าได้นะถึงข้าจะโง่เเต่ก็พอจะเเยกเเยะออก"


    "อี้เฟยข้าจะบุกเผ่าหงส์ไฟ ข้าจะไปรับตัวคู่ของข้า"


    อี้เฟยมีสีหน้าตกใจ  หมดอารมณ์สนุกไปอย่างไม่รู้ตัว  พลางกล่าวถามย้ำให้เเน่ใจอีกครั้ง


    "เดียะ.... เดี๋ยว  ท่านว่าอะไรนะท่านพี่"


    "นี่เจ้าหูกนวกหรือไร ข้าบอกว่าจะบุกเผ่าหงส์ไฟข้าจะไปรับตัวคู่ของข้าไห้เร็วที่สุด!!


    เฟยหลงตอบน้องชายอย่างเดือดดาล


    "ใจเย็นๆ  มันเกิดอะไรขึ้น ท่านพี่ถึงกับคุมสติตนเองไม่อยู่แบบนี่  ท่านพี่ทำอย่างนี้ไม่ได้ท่านก็รู้ว่ามันผิดกฎของเรานะ"


    "ข้ารู้เเต่มันทนไม่ได้  ข้าอยากจะฆ่ามันข้าจะฆ่ามัน"

    เฟยหลงกัดฟันพูดด้วยอารมณ์หึงหวงสายตาคมเหมือนมีไฟบัลลัยกรรณ์  ที่พร้อมจะเผาทุกสิ่งให้มอดไหม้ เป็นเถ้าธุลีหากบังอาจมาขวางเขาตอนนี้

    อี้เฟยรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก  พี่ชายเขาไม่เคยเป็นเเบบนี้มาก่อน  ไม่ว่าเรื่องอะไรพี่ชายเขาก็เอาอยู่ เเต่มาบัดนี้ถึงกับสติหลุดเลย  เเละก็ได้รู้ความจริงจากปากพี่ชายถึงสาเหตุที่ทำให้เขาคุมสติตนเองไม่อยู่


    "โถ่นึกว่าเรื่องอันใดที่เเท้ก็หึงหวงพี่สะใภ้นี่เอง  แล้วถ้าหากบุรุษคนนั้นเป็นคนรักของพี่สะใภ้ล่ะ  ท่านจะทำเช่นไร"


    "ข้าก็จะสับมันเป็นชิ้นๆนะสิ"


    อี้เฟยมองดูเเววตาวาววับของพี่ชายตนอย่างนึกสยอง  กับชตาของอีกคนโดยไม่รู้เลยว่า คนที่เป็นหัวข้อสนทนาคือคู่ของตนเอง


    "ว่าเเต่เรื่องของเจ้าล่ะเป็นเช่นไรบ้าง"


    "เรื่องของข้ารึ ก็ไม่ต่างกับท่านหรอกเเต่ข้ายังพอมีสติมากกว่าท่าน  ข้าก็หึงหวงคู่ของข้ามากเช่นกัน  แต่เอะหรือเราจะบุกเผ่าหงส์ไฟอย่างที่ท่านพี่คิดดีรึไม่"


    "พอเลยพวกท่านทั้งสอง  หยุดเเม้เเต่จะคิดเเทนที่จะช่วยกันห้ามปราม  ดันมาชวนกันเเหกกฎเสียนี่กระไร"


    เสียงของซิ่นเฉิงองครักษ์ประจำกายของเฟยหลงพูดเเทรกขึ้น เพื่อจะหยุดความคิดพิเรนของสองพี่น้อง  ที่ตอนนี้ความหึงหวงอยู่หนือเหตุผล  ก่อนที่จะทำอะไรลงไปจริงๆอย่างที่พูดเอาไว้   สองพี่น้องไม่ได้โต้เถียงเเต่อย่างใดเพราะรู้ว่าตนผิด   ถึงซิ่นเฉิงไม่มาห้ามปรามเเต่เฟยหลงเริ่มมีสติมากขึ้นเเล้ว  คงไม่ทำอย่างที่คิดไว้อย่างเเน่นอน




    ++++++++++++++++++++++++




    บรรเทิงเเน่งานนี้ ถ้าสองพี่น้องทำจริงอย่างที่คิด

    อี้เฟยของเราถึงกับของขึ้น เมื่อเห็นเรือนร่างอันน่ากินของน้อง ยอมทิ้งปณิธานของตัวเองเลยฮ่าาๆๆ

    ตอนนี้ ให้เครดิทคู่รองไปก่อน คู่เอกจะตามมาทีหลังนะคะ

    #ยังงัยก็ขอฝากกดติดตาม คอมเม้นมากันเยอะๆนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×