คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter6: การตัดสินใจของนักสืบ (100%)
"พี่คิดอะไรถึงได้เชิญมันให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหนาม!!"
เสียงตวาดดังแสบแก้วหูดังลอดออกมาจากห้องทำงานห้องหนึ่งในคฤหาสน์ตระกูลคิม คิบอมกอดอกมองพี่ชายของตนด้วยสีหน้าเรียบตึง เมื่อทราบว่าคนตรงหน้าที่กำลังนั่งอ่านอะไรซักอย่างบนโต๊ะทำงานเพิ่งทำในสิ่งที่ไม่เป็นที่ยอมรับกันในกลุ่มของตน ฮีชอลเงยหน้าขึ้นจากเอกสารกองโตในมือก่อนจะยิ้มประจบน้องรักของตนซึ่งท่าทางจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่สำหรับคราวนี้
"ตอนแรกผมนึกว่าพี่จะไปเจรจาตกลงเรื่องให้เก็บตัวตนของพี่เป็นความลับหรือไม่ก็ส่งคนไปข่มขู่ แต่นี่กลับคนที่เขาคิดจะจับพี่เมื่อไม่กี่คืนก่อนเข้ามาร่วมกลุ่มของเรา พี่คิดจะทำลายสิ่งที่บรรพบุรุษขอวเราช่วยกันสร้างมาด้วยมือของพี่เองอย่างงั้นเหรอ?"
"ชักจะมากเกินไปแล้วนะคิบอม!"
ร่างบางตวาดเสียงดังอย่างอารมณ์เสีย เมื่อน้องชายตนเองพูดจาว่าร้ายตนเอง
"พี่ไม่เคยคิดจะทำลายสิ่งที่บรรพบุรุษของเราช่วยกันสร้างขึ้นมาหรอก นายเคยเห็นซักครั้งรึเปล่าที่พี่หาเรื่องให้ตระกูลต้องเสื่อมเสียน่ะ"
"ไม่เห็นแต่ครั้งนี้คงได้เห็น"
"คิบอม!!"
"งั้นพี่อธิบายมาสิว่าทำไมต้องการให้มันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหนาม"
ร่างบางจ้องน้องชายร่วมสายเลือดตนเองด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเช่นเดียวกันกับน้องชายตนเองที่ถึงแม้ใบหน้าจะนิ่งสงบแต่ใจในตอนนี้มันเหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อหากร่างบางเผลอไปกดสวิตระเบิดเข้า
ฮีชอลถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อสงบสติอารมณ์ของตนเองก่อนจะโยนเอกสารอย่างนึงให้คิบอมดู จากคิ้วเรียวที่ขมวดเป็นปมเริ่มคลายออกช้าๆจนกลายเป็นตกใจก่อนจะรำพึงออกมาเบาๆ
"นี่มัน..."
"ไอคิว400 เรียนจบมหาลัยตั้งแต่20 ทำงานตั้งแต่เรียน เป็นนักสืบคลี่คลายคดีที่ยากมานักต่อนักคนแบบนี้ถ้าจัดการให้หายไปก็เสียคนมีฝีมือไปเปล่าๆ จริงมั้ย?"
"แต่ผมไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมพี่ถึงได้..."
"นายลองคิดดูดีๆ ซีวอนเป็นนักสืบที่พวกตำรวจเชื่อใจ ถ้าเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหนามเขาจะสามารถช่วยงานของเราได้ง่ายขึ้นมากกว่าแต่ก่อนเป็นล้านเท่าด้วยสติปัญญาของหมอนั่น"
"ถึงงั้นก็เถอะ ถ้าเกิดเขาไม่ยอมล่ะครับ?"
"ไม่หรอก พี่เชื่อว่าหมอนั่นต้องยอมเราแน่ๆ"
"อะไรทำให้พี่คิดเช่นนั้น?"
ร่างบางเลือกที่จะเงียบแต่ในใจหวนนึกถึงการเผชิญหน้ากันครั้งแรกกับครั้งที่2ทำให้ร่างบางรู้สึกว่า ซีวอนนั้นไม่ได้ต้องการจะส่งตนให้ตำรวจตรงกันข้าม แววตาของเขามันซ่อนอะไรบางอย่างไว้
"พี่ครับ"
ร่างบางได้สติ ดวงตากลมใสเงยหน้ามองน้องชายของตนเองที่จ้องมองมาอย่างขอคำตอบ
"พี่รู้ละกัน"
คิบอมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย มือหนาวางเอกสารลงก่อนจะกดหน้ารับคำของร่างบาง
"ครับ ผมเชื่อพี่ ขอแค่พี่อย่าแหกกฏอะไรมากไปกว่านี้ก็พอ"
"คร้าบบบ~ ให้ตายเถอะ เข้าใจเลยว่าทำไมพ่อถึงให้นายรับหน้าที่เป็นผู้คุมกฏแทนที่จะรับสืบทอดตำนานจอมโจร"
เนื่องจากกลุ่มเครือข่ายหนามเริ่มกระจายวงไปอย่างกว้างขวาง ผู้ที่เป็นเสาหลักของกลุ่มอย่างตระกูลคิมจึงต้องร่างกฎขึ้นมาเพื่อควบคุมกลุ่มของตนเองรวมไปถึงคนที่รับหน้าที่เป็นจอมโจรด้วยเช่นกัน ซึ่งตำแหน่งผู้คุมกฎนั้นได้ตกเป็นของคิม คิบอม เนื่องจากท่าทีที่สุขุมและเคร่งครัดในเรื่องกฏระเบียบวินัยมาก ผิดกับฮีชอลที่ร่าเริง สนุกสนาน และมีความชำนาญในเรื่องทักษะการขโมยมาตั้งแต่เด็ก
คิบอมหัวเราะหึๆในลำคอ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ร่างบางนั่งมองรูปของคนที่ตนเองหมายหัวไว้อยู่เงียบๆ
........
.....
...
ณ ร้านอาหารสไตล์อังกฤษซึ่งตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์สีส้มอ่อนประดับด้วยกรอบรูปและดอกไม้นานาพันธุ์ ร่างสูงในชุดเสื้อโค๊ตสีน้ำตาลอ่อนนั่งมองนาฬิกาข้อมืออย่างร้อนรน ใบหน้าคมหันไปมองที่ประตูติดกระดิ่งหน้าร้านเป็นระยะๆ เมื่อได้ยินเสียวกระดิ่งดังหวังให้เป็นคนที่ตนโทรนัดเมื่อซักครู่
กริ๊งง~
ซีวอนหันไปมองอีกครั้งนึงก่อนจะยกมือขึ้นให้แขกที่นัดมาเห็นว่าตนนั่งอยู่ตรงนี้ ร่างบอบบางในชุดเสื้อยืดสีเขียวหม่นกับกางเกงขายาวสีน้ำตาลอ่อนทับด้วยเสื้อกาวปักป้ายชื่อ 'อี ทงเฮ' เดินมายั่งฝั่งตรงข้ามกับซีวอนก่อนจะส่งยิ้มหวาน
"ขอโทษที่มาสายนะซีวอน"
"ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจว่านายงานยุ่ง"
ร่างบางพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มชูกำลังมากินหลังจากที่ตนอดหลับอดนอนทำงานมาครึ่งค่อนคืน
"เรื่องที่นายขอให้ฉันไปหาข้อมูลมาน่ะฉันได้มาแล้วนะ"
หลังจากที่พนักงานสาวนำกาแฟมาให้ร่างบางก็เริ่มสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่คนตรงหน้าตนไหว้วานมาตั้งแต่เมื่อเช้า มือบางเปิดกระเป๋าสะพายหนังสีน้ำตาลอ่อนและหยิบแฟ้มเอกสารขนาดเอ4ส่งให้กับร่างสูง ซีวอนค่อยๆแกะซองอย่างปราณีตและหยิบปึกเอกสารประมาณ3-4แผ่นขึ้นมาอ่าน คิ้วคมค่อยๆขมวดเป็นปมอย่างช้าๆเมื่อทราบถึงเนื้อหาที่ซ่อนอยู่ด้านใน ก่อนจะวางเอกสารทั้งหมดลงเมื่ออ่านเสร็จ
"งั้น...ที่หมอนั่นพูดมาก็เป็นเรื่องจริง"
ร่างสูงพึมพำกับตนเองเบาๆ ทงเฮที่แอบได้ยินจึงโพล่งถามออกไปทันที
"หมอนั่นไหน?"
"อา...เออ ไม่มีไรหรอก ว่าแต่ว่านายแน่ใจนะว่าที่หามานี่เป็นความจริง"
"อือ ผู้เสียหายรายก่อนหน้านี้ของนายน่ะ ทำธุรกิจลงทุนหลายอย่างและเคยใช้อิทธิพลและเงินของตัวเองทำให้ผู้อื่นเสียหายล้มละลายมามาก แต่ก็ไม่เคยหาหลักฐานไรได้เลยนอกจากคำบอกเล่าจากผู้เสียหายที่ไม่กลัวตายซึ่งสุดท้ายก็โดนปิดปากจนเรื่องเงียบหายไป"
"แบบนี้มันไม่ใช่คนแล้ว"
ซีวอนโพล่งออกมา ทงเฮได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย ร่างสูงนั่งอ่านข้อมูลต่อไปซักพักแม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไรได้มากแต่ก็พอรู้ว่าผู้เสียหายรายนี้มีเรื่องที่ปิดบังไว้พอสมควร เลือดของนักสืบเริ่มเดือดพล่านเมื่อรู้สึกต้องการข้อมูลมากกว่านี้ทำให้นึกถึงสิ่งที่ร่างบางเคยพูดเอาไว้
'ถ้านายยอมเข้าร่วมกลุ่มของฉัน ฉันจะให้นายได้รู้ความจริบทุกอย่าง'
"....."
"นายเป็นอะไรเหรอ?"
"หือ?"
ร่างสูงหลุดจากภวังค์ส่วนตัว ทงเฮจ้องหน้าตนเองอย่างสงสัย ซีวอนส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเรียนพสักงานสาวมาเก็บเงิน
"ไม่มีอะไรหรอก ขอบใจมากนะทงเฮ นายนี่พึ่งพาได้เสมอเลย"
"เพื่อการสืบคดีของพวกนายฉันยินดี"
ซีวอนระบายยิ้มให้เพื่อนรักของตนเองที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแม้ทงเฮจะอายุมากกว่าซีวอนไม่กี่ปีแต่ทงเฮก็ไม่ถือเรื่องที่วอนเรียกตนเองห้วนๆ
"งั้นฉันไปก่อนนะ มีงานต้องไปทำต่อ"
"ฉันเองก็ต้องไปสืบคดีต่อเหมือนกัน"
"หวังว่าจะได้เจอกันใหม่นะซีวอน"
"เช่นกันนะทงเฮ"
ความคิดเห็น