คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter5: คำชักชวนจากกุหลาบดำ (100%)
� � � � �ตลอดทางร่างสูงไม่พูดอะไรนอกจากมองสำรวจบุคคลที่นั่งอยู่ข้างคนขับรถอย่างพินิจพิจารณา ก่อนที่รถจะหยุดลงหน้าโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ร่างบางค่อยๆย่างกรายลงจากรถและสั่งให้ลูกน้องที่ประกบข้างร่างสูงนั้นลากตัวซีวอนให้ตามตนเข้าไปในโรงแรมทรงสูงสไตล์ยุโรประดับ5ดาว ประตูโค้งขนาดใหญ่ ติดกระจกเปิดออกโดยอัตโนมัติเมื่อทุกคนเดินผ่านเข้าไป ซีวอนมองรอบๆอย่างสนใจในสมองคิดสารตะว่าร่างบางต้องการจะทำอะไรกับตนเอง
� � � � � ทั้ง4เดินตรงไปเรื่อยๆจนถึงเคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ พนักงานสาวเงยหน้าขึ้นจากคีย์บอร์ด ส่งยิ้มต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างเป็นปกติ
"ยินดีต้อนรับค่ะ"
"เปิดห้องลับให้หน่อยครับ"
พนักงานเคาเตอร์โรงแรมพยักหน้ารับก่อนจะก้มลงหยิบกุญแจสลักลายกุหลาบมาให้ ร่างบางยิ้มหวานก่อนจะเดินนำไปยังประตูไม้บานใหญ่สลักลายเถาวัลย์และดอกกุหลาบขนาดต่างๆ แม่กุญแจขนาดใหญ่ถูกจับขึ้นมาก่อนจะถูกเสียบลูกกุญแจเข้าไป มือบางขยับไขกุญแจไปมาจนเกิดเสียงดังกริ๊กเป็นที่รู้กันว่าแม่กุญแจถูกปลดล็อคแล้ว ก่อนจะหยิบแม่กุญแจออกและผลักบานประตูเบาๆ ทำให้ประตูเปิดออกช้าๆเผยให้เห็นห้องบอลรูมสีเหลืองทองขนาดใหญ่ ติดโคมไฟระย้าที่ใจกลางเพดานของห้อง เพดานห้องเต็มไปด้วยรูปวาด The Last suffer ของศิลปินชื่อดัง ลีโอนาโด ดาวินชี่
ซีวอนอ้าปากค้าง สายตาจดจ้องมายังร่างบอบบางที่ค่อยๆเดินไปนั่งเก้าอี้ที่ถูกจัดวางไว้ให้พร้อมโต๊ะเล็กที่เต็มไปด้วยขนมมากหน้าหลายตาและกาน้ำชาเซรามิกเนื้อดี
'สงสัยคนๆนี้คงไม่ใช่โจรธรรมดาๆแล้วสิ'
ซีวอนลอบกลืนน้ำลาย มองคนตรงหน้าอย่างทึ่งๆกับสิ่งที่ตนเพิ่งคนพบในวันนี้ ณ ตอนนี้
"ลากเขามานี่เลยครับ"
ร่างบางชี้มาที่เก้าอี้อีกตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตนเอง ซีวอนถูกลากให้มานั่งและจับกดที่ไหล่ทั้ง2ข้างทำให้ไม่สามารถขยับไปไหนมาไหนได้�
� � � � � บรรยากาศในห้องเงียบสนิทไม่มีใครคิดจะพูดอะไร ซีวอนจ้องร่างบางตรงหน้าที่จิบชาอย่างสบายอารมณ์เหมือนกับว่าในที่นั้นไม่มีใครนอกจากตนเอง
"นายต้องการอะไรจากฉัน กุหลาบดำ"
ซีวอนเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาเมื่อร่างบางตรงหน้าไม่มีที่ท่าอะไรนอกจากนั่งจิบชาไปเรื่อยๆ�
"พูดคุย"
"หา?"
ร่างบางค่อยๆวางถ้วยชาลงบนจานรองที่อยู่บนตัก ดวงตากลมโตฉายแววน่าเกรงขามจกเขม็งมายังร่างสูงที่จ้องตอบนิ่ง
"ฉันอยากคุยกับนาย ในฐานะที่นายเป็นคนแรกและคนเดียวที่เห็นหน้าตาที่แท้จริงของฉัน นอกจากคนในครอบครัว"
"ครอบครัว?"
"ใช่ ฉันไม่ใช่โจรกระจอกๆอย่างที่พวกนายหรือตำรวไล่จับกันอยู่ทุกวันหรอกนะ นายคงพอจะทราบอยู่แล้ว..."
ซีวอนกดหน้าลงเล็กน้อย สายตายังคงจดจ้องใบหน้าหวานตรงหน้า กลิ่นกุหลาบอ่อนๆจากตัวร่างบางทำเอาร่างสูงแทบจะไม่มีสมาธิคิดวิเคราะห์อะไร
"นายคงเป็นลูกคุณหนูน่าดูสินะ แม้แต่โรงแรมระดับ5ดาวที่มีแต่มหาเศรษฐีและนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเท่านั้นจะมาพักอยู่ได้นายกลับเดินเข้ามาได้อย่างสบายใจเฉิบ"
ร่างบางยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจในมันสมองของอีกฝ่าย รู้สึกนับถือในความสามารถของอีกคนไม่น้อยที่มองปราดเดียวก็วิเคราะห์ได้ขนาดนี้
"แต่ฉันสงสัยอย่าง ทั้งๆที่ฐานะนายก็ไม่ใช่กระจอกๆทำไมนายต้องมาขโมยของๆชาวบ้านชาวช่องเขาอย่างงี้ด้วย เอาชื่อเสียงของตระกูลนายมาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้ทำไม?"
"ฉันทำเพื่อตระกูลของฉันอยู่แล้ว นายเป็นคนนอกจะไปรู้อะไร"
"ถ้างั้นก็บอกมาสิว่าทำไม"
ร่างบางนั่งนิ่งซักพักก่อนจะบอกให้ชายในชุดดำ2คนออกไปรอข้างนอก เพราะยังไงซะห้องนี้ก็ไม่มีทางออกอื่นนอกจากจะพังกระจกหน้าต่างราคาหลายล้านหรือออกจากทางที่เข้ามาซึ่งตอนนี้ชายชุดดำ2คนก็ไปยืนเฝ้าไว้แล้ว
"นายรู้จักโรบินฮูดใช่มั้ย?"
ร่างสูงพยักหน้าเป็นเชิงว่ารู้ ร่างบางก้มลงมองถ้วยชาบนตัก ไอร้อนค่อยๆระเหยออกมาจากถ้วยพร้อมกลิ่นหอมของกุหลาบจากชากุหลาบชั้นดี
"ตระกูลของฉันสืบเชื้อสายมาจากโรบินฮูด ตามหน้าประวัติศาสตร์เขาตายอย่างเดียวดายและไร้ซึ่งลูกหลานสืบทอด แต่เปล่าเลย..."
"นายจะบอกว่าโรบินฮูดและพรรคพวกนั้นช่วยกันปกปิดข้อมูลเพื่อปกป้องครอบครัวงั้นเหรอ?"
"ใช่ หลังจากกลุ่มแตกกระจาย บรรพบุรุษของฉันก็เร่ร่อนและหนีไปอยู่ยังที่ต่างๆรอบโลก รำเรียนศิลปะ วิทยายุทมากมาย พร้อมทั้งสั่งสอนให้ลูกหลานรู้จักจะทำเพื่อคนอื่นมากกว่าตัวเอง ยอมกลายเป็นคนชั่วในสายตาของพวกผดุงความยุติธรรมด้วยกันเองเพื่อทวงความถูกต้องที่แท้จริงให้กับผู้คน"
ซีวอนนั่งฟังสิ่งที่ร่างบางพูดและวิเคราะห์ทุกคำที่ร่างบางต้องการจะสื่อ
"ตระกูลของฉันเป็นตระกูลจอมโจรชื่อดังกระฉ่อนที่ซ่อนอยู่ภายใต้วงการธุรกิจค้าขายระดับโลก พวกเราใช้เวลาหลายสิบปีในการรวบรวมลูกหลานของกลุ่มโรบินฮูดในสมัยก่อน เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนรหัสเพื่อปกป้องทุกคน และทำตามสิ่งที่บรรพบุรุษสั่งสอนมา"
"หรือว่า...ของที่นายขโมยมาทั้งหมดนั่นนายเอาไปแลกเป็นเงินและนำไปให้กับพวกยาจกตามท้องถนน?"
"ไม่ต้องทำแบบนั้น กลุ่มของพวกฉันก็มีปัญญาจะช่วยเหลือคนจนในยุคปัจจุบันนี้เถอะ"
"แล้วนายขโมยของทำไม ในเมื่อมีเงินมีทองที่พอจะมอบให้กับคนอื่นอยู่แล้ว ทำไมต้องขโมยสมบัติพวกนั้นอีก"
"เพราะของที่ฉันขโมยมามันเป็นของที่พวกพุงพลุ้ยเห็นแก่ได้พวกนั้นมันไปฉ้อโกงเอามาจากผู้บริสุทธิ์น่ะสิ"
"!!!!!"
"ของที่ฉันขโมยทุกชิ้นหากนายสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ล้ำลึกถึงวงในล่ะก็ นายจะรู้ว่าทุกๆชิ้นมันเคยมีเจ้าของที่ถูกต้องตามกฏหมายแต่พวกเขาต้องขายหรือยกให้กับคนรวยที่มาโกงกินทำให้เขาหมดเนื้อหมดตัวจนไม่เหลืออะไร"
ซีวอนนั่งเงียบมองดูร่างบางที่หลับตานิ่ง นึกถึงความเจ็บปวดและน้ำตาแห่งความยินดียามเมื่อได้รับสิ่งที่เป็นของๆตนเองกลับมา แม้ตนจะไม่เข้าใจการกระทำของคนตรงหน้าซักเท่าไหร่แต่ร่างสูงก็รู้สึกนับถือในความรักในตัวเพื่อนมนุษย์เหมือนๆกัน
"ถ้าจะถามว่าทำไมฉันถึงไม่พึ่งให้ตำรวจช่วย คงไม่ต้องบอกให้เปรืองน้ำลายหรอกนะว่ามันต้องใช้เงินต้องจ้างเหมือนอย่างนายที่รับเงินมาเพื่อมาจับฉัน"
"......."
"คนพวกนั้น...ไม่มีแม้แต่เศษเงินจะซื้อข้าวกิน บางคนก็ทำงานหาเลี้ยงตัวเองไปวันๆจะเอาเงินที่ไหนมาจ้างให้ขุดคุ้ยหาความจริงจากพวกเศรษฐีที่แค่เอาเงินฟาดหัวพวกตำรวจก็ถอยร่นยอมโอนอ่อนให้หมด"
"นายไม่ได้ขโมยไปเพื่อเอาไปขายนำกำไรเข้าตัวเอง แต่นำกลับไปคืนให้เจ้าของที่แท้จริงอย่างงั้นใช้รึเปล่า"
"รู้ได้ก็ดี"
"นายมีอะไรมาพิสูจน์เรื่องนี้ว่านายไม่ได้โกหกฉัน เพื่อให้นายดูน่าเชื่อถือในสายตาของนักสืบอย่างฉัน"
ร่างบางยกยิ้มมุมปากอย่างมีเล่ห์นัย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร แก้วชาในมือถูกวางลงที่โต๊ะตัวเล็กก่อนที่คนตัวบางจะผุดลุกขึ้น เดินผ่านร่างสูงที่ยังคงนั่งจ้องแผ่นหลังบางที่เดินผ่านตนไปอย่างไม่สนใจเหมือนตนเองเป็นอากาศธาตุ
"ถ้านายยอมเข้าร่วมกลุ่มของฉันและสาบานว่าจะไม่ทรยศหักหลังตระกูลของฉัน นายจะได้รู้ความจริงทุกๆอย่าง"
"!!!!!!!"
"แต่ถ้าไม่...ฉันจะเอาให้นายไม่กล้าเข้ามาวอแวกับตระกูลและความภูมิใจในงานที่ฉันทำอีกเลย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ที่อยู่ของนายนะ คุณซีวอน"
ร่างสูงนั่งเงียบ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ ขนาดไม่เคยรู้ชื่อกันมาก่อน ร่างบางกลับรู้ชื่อของเขาได้อย่างง่ายดายผิดกับเขาที่ยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ
"นายกะจะไม่ให้ฉันลองหาข้อมูลอะไรด้วยตัวเองดูหน่อยเหรอไง"
ซีวอนแย้งเมื่อรู้สึกว่าทางเลือกที่ร่างบางมอบให้นั้นมันช่างน้อยนิดจนแทบไม่เหลือให้ตนหนีจากสถานการณ์ยอมโอนอ่อนนี้เลย
"งั้นนายลองไปหาข้อมูลของผู้เสียหายรายก่อนหน้านี้ดูสิ หมอนั้นน่ะมีบัญชีดำยาวพอสมควรเลย"
"....."
"อีก1อาทิตย์ฉันจะมาขอคำตอบจากนาย ถ้านายตกลง เจอกันตอน ณ สถานที่ที่ดอกกุหลาบไม่มีวันร่วงโรย และนางไม้ร้องเพลงขับขานละกัน"
"ด...เดี๋ยวก่อน!"
แต่ไม่ทันที่ร่างสูงจะพูดอะไร เขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่จิ้มเข้าที่กลางหลัง ก่อนสติทั้งหมดนั้นจะดับวูบลง
"!!!!"
ซีวอนสะดุ้งตื่นขึ้นมาและพบว่าตนเองอยู่บนเตียงในห้องพักของตนเอง อาการปวดหนึบๆที่ศีรษะและความเจ็บแปลบเหมือนโดนอะไรตำที่หลังตนเองทำให้รู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน ซีวอนไม่รอช้าหยิบโทรศัพท์มือถือข้างเตียงขึ้นมากดโทรออกหาใครคนหนึ่งทันที
"ฮัลโหล มีเรื่องให้ช่วยหน่อย"
ความคิดเห็น