คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter2 : คู่ปรับปรากฏตัว (100%)
สำนักงานตำรวจประจำกรุงโซล
ความวุ่นวายโกลาหลแผ่กระจายไปทั่วสำนักงาน เจ้าหน้าที่ทั้งหลายต่างยุ่งอยู่กับการพยายามหาหลักฐานและจับคนร้ายคดีต่างๆแต่ที่กำลังหัวปั่นกันอยู่ตอนนี้ไม่ใช่คดีไหนเลยนอกจากคดีของ'จอมโจรกุหลาบดำ'ที่ยังไงๆก็หาตัวไม่เจอซักที
สารวัตรตำรวจหนุ่มเดินฝ่ากลุ่มลูกน้องและเพื่อนร่วมงานตรงดิ่งไปยังห้องผู้อำนวยการอย่างเร่งรีบ มือหยาบหนาค่อยๆบิดลูกบิดประตูก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนั้นแต่ก็อดแปลกใจไม่ได้เมื่อมีใครอีกคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานที่ผู้อำนวยการกำลังนั่งอ่านรายงานหลักฐานจากตำรวจในพื้นที่อยู่
"มาแล้วเหรอ"
ผกก.ที่เพิ่งสังเกตเห็นลูกน้องของตนมาเงยหน้าถามทันที พร้อมกันนั้นคนที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นทำความเคารพให้กับผู้มาใหม่ สารวัตรก้มหัวทักทายแต่สายตานั้นไล่สำรวจเสื้อผ้าหน้าผมที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่ตำรวจในพื้นที่และที่สำคัญดูจะเป็นเพียงประชาชนธรรมดาเสียมากกว่า
"คนๆนี้ชื่อ ชเว ซีวอน เป็นนักสืบอัจฉริยะ ฉันเชิญเขามาเพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคดีที่กำลังเป็นปัญหาอยู่"
"จะดีเหรอครับที่ให้คนนอกที่ไม่เคยได้รับการฝึกฝนเลยเข้ามาร่วมทำคดีนี้น่ะ"
"ไม่เป็นปัญหาหรอกครับสารวัตร"
สารวัตรหันไปมองนักสืบหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ดขาวผูกไทน์สีน้ำเงินหลวม ที่เอ่ยปากเริ่มบทสนทนา
"ตามที่ผมดู คนร้ายจะต้องมีความมั่นใจในฝีมือของตนเองมากและที่สำคัญไม่ชอบการปะทะกันตรงๆแสดงว่าเป็นโจรที่รักสงบพอสมควร"
"อะไรทำให้นายคิดแบบนั้น"
"คนร้ายเลือกเวลาเข้าไปขโมยของในช่วงที่คนหลับ กุหลาบดำที่วางไว้ในที่เกิดเหตุ ดอกของมันยังคงชุ่มชื้นอยู่ ในตอนกลางคืนบรรยากาศของเรามันมีไอน้ำอยู่พอสมควรมากพอจะทำให้ดอกไม้สดอยู่ได้" ซีวอนเว้นช่วงซักพักก่อนจะเริ่มอธิบายต่อ
"ดูจากเวลาแล้วน่าจะประมาณ 3-4ทุ่มที่ผู้เสียหายเข้านอนไปเรียบร้อยมีโอกาสที่จะลงมือฆ่าได้อย่างสบายแต่กลับไม่ทำ ที่สำคัญผู้เสียหายบอกว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยที่บ่งบอกว่ามีคนเข้ามาหรือของชิ้นนั้นถูกขโมย ทั้งที่สมบัติชิ้นนั้นติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยชั้นแนวหน้าไว้ หนำซ้ำรอบๆบ้านก็มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่
แต่ผมสงสัยอยู่เรื่องนึง ทำไมคนนร้ายถึงเจาะจงแค่สมบัติบางชิ้นซึ่งเทียบกับชิ้นอื่นๆในที่นั้น หากเอาไปขายในตลาดมืดต้องได้ราคาสูงกว่าแท้ๆแต่กลับไม่เอาไป และทำไมคราวนี้ถึงได้กลับมาขโมยอีกเป็นรอบที่2ทั้งที่ครั้งแรกที่มาก็สามารถขโมยไปได้อย่างง่ายดายแท้ๆ แทนที่จะเอาไปทีเดียว2ชิ้นเลยแต่กลับไม่เอาไป"
สารวัตรหนุ่มยืนนิ่ง รู้สึกทึ่งไม่น้อยที่แค่มีข้อมูลเพียงน้อยนิดแต่กลับวิเคราะห์ออกมาได้อย่างละเอียด ผกก.ระบายยิ้ม เมื่อพบว่าที่ตนตัดสินใจเชิญมานั้นไม่ผิดเลย สารวัตรหมุนตัวออกไปทางประตู ก่อนจะหันมามองนักสืบหนุ่มที่เลิกคิ้วมองอย่างสงสัย
"ถ้านายอยากได้คำตอบก็รีบๆตามมาล่ะ เราจะไปสืบคดีกันแล้ว"
ซีวอนก้มหัวก่อนจะคว้าเสื้อนอกสีดำเนื้อดีวิ่งตามสารวัตรหนุ่มไป
..........
.......
....
ในเรือนกระจกในร่มขนาดใหญ่ ร่างบางกำลังเดินตัดแต่งกิ่งดอกกุหลาบอย่างสบายอารมณ์ แสงจากหลอดไฟยูวีฉายแสงให้กับมวลกุหลาบสีดำสนิทเพื่อให้เหล่ากุหลาบได้สังเคราะห์แสง มือบางไล่ตัดแต่งกิ่งและรดน้ำให้อย่างเอ็นดู ก่อนการกระทำทุกอย่างจะหยุดชะงักลงเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาในเรือนกระจก
"ยังไม่ถึงเวลาอาหารกลางวันเลยนะคิบอม"
เจ้าของชื่อระบายยิ้มก่อนจะเดินเข้ามาช่วยพี่ชายของตนรถน้ำกุหลาบต่อ
"กุหลาบดำ...รักที่เป็นนิรันดร์"
"ใช่ ตราสัญลักษณ์ของตระกูลคิมก็เป็นรูปกุหลาบ แสดงให้เห็นถึงอำนาจ กิตติศัพท์ที่คนโจษจันทร์ และความจงรักษ์ภักดีที่เรามีต่อบรรพบุรุษมาจนถึงตอนนี้"
ไม่ว่าเปล่านิ้วเรียวไล่ไปตามกลีบดอกช้าๆ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มนิดๆให้กับกุหลาบที่ตนดูแลอย่างดี คิบอมมองพี่ชายตนเองยิ้มๆด้วยความรักและนับถือในตัวพี่ชายตนเอง แม้ภายนอกจะดูอรชรอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิงแต่ความเด็ดเดี่ยวและไหวพริบที่ติดตัวมาทำเอาคิบอมนึกทึ่ง
"ไปกินข้าวกันครับพี่ ป่านนี้อาหารเย็นหมดแล้วล่ะ"
ร่างบางพยักหน้าก่อนจะเดินตามน้องของตนไปยังห้องอาหารที่ตกแต่งสไตล์ยุโรปกลาง โคมระย้าราคาหลายหมื่นกลางเพดานประดับด้วยวอลเปเปอร์ลายดอกไม้หลากสีสรรที่ออกโทนสีอ่อนไม่ฉูดฉาดมากนัก
โต๊ะยาวทำจากไม้สักเนื้อดีตั้งอยู่ตรงกลาง บนโต๊ะประดับด้วยอาหารหลากหลายชนิดที่พ่อครัวเสกสรรปั้นแต่งให้ออกมาดูน่ารับประทาน ฮีชอลกับคิบอมนั่งอยู่หัวสุดของโต๊ะก่อนจะเริ่มลงมือทานอาหารกันทันที
"ของส่งไปแล้วใช่มั้ย?"
ร่างสูงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหยิบจดหมายซองเล็กๆให้วางบนโต๊ะและใช้ปลายนิ้วดันไปซองจดหมายไปให้ร่างบาง ฮีชอลเลิกคิ้วมองซองจดหมายบนโต๊ะอย่างงๆ สายตาที่เต็มไปด้วยคำถามจดจ้องน้องรักของตนที่นั่งกินอาหารเงียบๆ
"จดหมายขอบคุณครับพี่"
ร่างบางพยักหน้าเล็กน้อย มือเรียวค่อยๆเปิดซองจดหมายขึ้นมาอ่านข้อความช้าๆ ริมฝีปากบางค่อยๆระบายยิ้มออกมาเมื่ออ่านเน้ือความในจดหมายที่แสดงความขอบคุณ ก่อนจะวางจดหมายลง
"เขาขอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ หนาม (thorn)"
'หนาม' เป็นโค๊ตลับสำหรับกลุ่มบุคคลที่สวามิภักดิ์ต่อตระกูลคิม โดยสาบานว่าจะป้องตระกูลนี้เอาไว้จนกว่าชีวิตตนเองจะหาไม่ ซึ่งหน้าที่ของหนามนอกจากจะปกป้องตระกูลแล้วยังเป็นสายให้กับคนในตระกูลคิม เพื่อคอยสืบหาข้อมูลต่างๆตามที่คนในตระกูลคิมต้องการ
ซึ่งสมาชิกของหนามนั้นจะมี สัญลักษณ์เป็นเข็มหนามกุหลาบขนาดเท่าเขี้ยวฉลามพกติดตัวไว้และทุกวันครบรอบก่อตั้งตระกูลสมาชิกทุกคนจะติดเข็มกลัดและเข้าร่วมงานเลี้ยงของคฤหาสน์ประจำตระกูลซึ่งจะจัดทุกปี ในกรณีต้องการจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหนามนั้น ผู้สมัครจะต้องมอบข้อมูลทุกอย่างของตระกูลตนเองไม่ว่าจะผังตระกูล ข้อมูลบริษัท เงิน หรือแม้แต่เลขที่ รหัส บัญชี ทุกอย่าง แนบมากับกุหลาบดำสัญลักษณ์ของตระกูลคิมมา100 ดอก เป็นเครื่องหมายว่าจะจงรักษ์ภักดิ์ดี ต่อตระกูลคิมตลอดไป
"รับเขาเข้ามาก็ได้นี่ครับพี่ เขาทำตามเงื่อนไขทุกอย่างแล้วไม่ใช่เหรอ?"
"ต้องตรวจสอบข้อมูลก่อนค่อยคิดดูอีกที ยังไงเราก็ไว้ใจใครไม่ได้ง่ายๆหรอก"
คิบอมพยักหนารับ ก่อนจะตวัดมือเรียกให้พ่อบ้านคนเดียวของตระกูลคิม นาม ชินดงฮี เขามารับซองจดหมายพร้อมกับคำสั่งเดิมที่ไม่ต้องแจกแจ้งอะไรมากพ่อบ้านก็รับรู้ได้ทันที
"นำไปรีดกลีบ เอาให้แห้งนะครับถ้าผ่านการรับรองจากหลายๆฝ่ายแล้ว น้าส่งหนามไปให้เขาได้เลย"
"รับทราบครับคุณหนู"ชินดงโค้งให้คุณหนูของบ้านก่อนจะเดินหายวับไปจากห้องอาหาร
'รีดกลีบ'เองก็ถือเป็นโค๊ตหนึ่งที่คนในตระกูลคิมจะต้องรู้ มันคือการนำจดหมายหรือข้อมูลบางอย่างที่ตนได้รับมาไปค้นคว้าหาว่าข้อมูลที่ตนได้มานั้นถูกต้องครบถ้วนหรือเปล่า และมีการให้ข้อมูลเท็จหรือไม่ ซึ่งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์มากมายในการหาข้อมูลเทียบเท่ากับซีเอสไอ
หลังจบมื้ออาหาร คิบอมกับฮีชอลก็ฝึกคาราเต้อยู่ที่ห้องซ้อมของตระกูล ณ ลานกว้างหลังคฤหาสน์ ทักษะของทั้งคู่นั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับมือโปรถึงขนาดที่ว่าไปลงแข่งระดับประเทศก็ชนะได้อย่างสบายๆ
"พี่จะเริ่มงานชิ้นต่อไปเมื่อไหร่?"
คิบอมเอ่ยปากถามพร้อมกับหมัดของตนเองที่พุ่งออกไปตรงตำแหน่งอกของร่างบาง ซึ่งอีกฝ่ายหลบได้อย่างฉิวเฉียด
"อีก2อาทิตย์ พี่ส่งสาสน์ไปแล้ว"
คิบอมชะงักเล็กน้อยทำให้ร่างบางอาศัยโอกาสฟาดลงไปที่สันคอของคิบอมแต่มือที่กำลังจะลงสันนั้นกลับหยุดชะงักและกลายเป็นเลื่อนขึ้นยีหัวน้องชายตนเองที่หลุดรอยยิ้มบางเบาออกมาแม้สีหน้าจะดูเครียดแปลกๆ
"ทำหน้าเครียดอย่างงี้ หรือว่าเราไม่เห็นด้วยกับงานในครั้งนี้?"
"เปล่าครับ เพียงแต่...คราวนี้ผมสังหรณ์ใจไม่ดีเลย"
"พี่ไม่เป็นอะไรหรอกน่า อีกอย่าง พี่ส่งสาสน์ไปแล้วถ้าไม่ไปก็เสียชื่อจอมโจรกุหลาบดำสิ จริงมั้ย?"
คิบอมถอนหายใจอย่างปลงตกกับความรั้นของร่างบาง รู้ว่ายังไงคงห้ามพี่ของตนเอวๆไม่ๆด้แน่ๆจึงไม่ได้ทักท้วงอะไร
"ยังไงก็ตามดูแลตัวเองด้วยนะครับ ผมรู้สึกไม่ดีจริงๆเลยกับคราวนี้"
........................................................................................................................................................................
เป็นยังไงบ้างเอ่ย ดูยิ่งใหญ่ดีนะกับตระกูลนี้ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนะ ยังไงก็ติดตามกันด้วยนะค้าบ
ความคิดเห็น