ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 การพบกัน
                เมื่อพระอาทิตย์ฉายแสงมาจากฟากฟ้าไกล ต้อนรับเช้าวันใหม่ แสงอ่อนๆส่องเข้าไปภายในห้องเล็กๆ ของเด็กหนุ่มพี่น้องฝาแฝด ซึ่งนอนอยู่คนละฟากของห้อง
    พรึ่บ ! เด็กหนุ่มผมทอง ลุกพรวดขึ้นจากเตียงอย่างรีบร้อน
    “ แวนควิช! ตื่นเร็วตื่น เราต้องรีบนะ “ เด็กหนุ่มผู้มีผมยาวสีเดียวกับแสงอาทิตย์กล่าว
    “ อะไรกันเล่า..วาเลนท์ ฉันยังนอนไม่เต็มอิ่มเลยนะ ขออีกหน่อยน่า “ แวนควิชเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล พูดอย่างงัวเงีย แล้วทำท่าจะหลับต่อ  ทำให้วาเลนท์ ส่ายหน้าด้วยความเอือมระอากับความขี้เซาของน้องชายฝาแฝด
    “ นายจะตื่น ดีๆมั้ย แวนควิช “ เสียงของวาเลนท์เริ่มเข้มขึ้น แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากแวนควิช
    “ คงต้องใช้วิธีนี้ล่ะ “ วาเลนท์พูดกับตัวเอง เขาเดินออกจากห้อง แล้วกลับมาพร้อมกับถังน้ำ ที่มีน้ำอยู่เต็มเปี่ยม เขาเดินมาหยุดที่เตียงของแวนควิชแล้วสาดน้ำลงบนเตียงโครมใหญ่
    “ เฮ้ย ! นายทำอะไรเนี่ยวาเลนท์ ดูซิฉันเปียกหมดแล้ว นี่ก็ยังเช้าอยู่เลย นายมาปลุกฉันทำอะไรเล่า “ แวนควิชเด้งออกมาจากเตียง แล้วพูดอย่างหัวเสีย
    “ เจ้าขี้ลืม! วันนี้เป็นวันคัดเลือกนักเรียนของโรงเรียนเซเวิร์ดนะ นายลืมไปแล้วหรือ ฮะ\" วาเลนท์พูดเสียงเย็น
    “ ใช่ๆ จริงด้วย งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ “ แวนควิชพูดพร้อมกับกระโดดออกจากเตียง
    “ ไม่ต้อง นายจัดของก่อนเลย ส่วนฉันจะไปอาบน้ำก่อน ไม่ต้องยุ่งกับกระเป๋าฉันด้วย ฉันจัดตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว”
    “ อืม ย่อมได้ เร็วๆล่ะ ฉันไม่อยากพลาดโอกาส” แวชควิชทำหน้าทะเล้น
    “ คำพูดนั้น ฉันควรจะพูดมากกว่านะแวนควิช\" พูดจบวาเลนท์ก็เดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว   
      “ ฮึ! นายนี่ ขี้บ่นชะมัด” แวนควิชพึมพำตามหลัง
    15นาที ผ่านไป เมื่อวาเลนท์เดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งหนึ่ง  ในชุดเสื้อแขนสั้นและกางเกงขายาวสีน้ำเงิน เผยให้เห็นร่างเด็กหนุ่มผู้มีผิวขาวราวกับหิมะ และมีผมสีทองยาวปรกไหล่  ดวงตาโตสีเทาหม่นอันเย็นเยียบ จ้องมาที่แฝดผู้น้องทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง
    “ นายจัดของเสร็จหรือยัง\" นี่เป็นประโยคแรกที่วาเลนท์พูด
    “ เสร็จแล้ว  ทำไมนายอาบน้ำนานจัง อย่างกับจะไปหลับในห้องน้ำ\" แวนควิชตอบอย่างก็ไม่วายกัดพี่ชาย
    “ ฉันไม่ใช่พวกสกปรกเหมือนนายนี่“ วาเลนท์ตอบกลับ “ รีบไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวก็ไม่ทันกันพอดี\"   
    “ รู้แล้วน่า ไปล่ะ “ พูดจบแวนควิชก็รีบวิ่งออกจากห้องไป
    2 นาทีผ่านไป .
      “ ฉันเสร็จแล้วนะ วาเลนท์ “ แวนควิชตะโกนบอกพร้อมกับเปิดประตูเข้ามา วาเลนท์หันไปมอง น้องชายฝาแฝด ที่หน้าตาเหมือนตนเองอย่างกับแกะ  ต่างกันแค่ดวงตาตากลมโตสีทองที่ส่อแววขี้เล่น กับผมตัดสั้นสีน้ำตาลเข้ม  แวนควิชเลือกใส่ชุดแบบเดียวกับวาเลนท์ เพียงเต่เป็นชุดสีดำ
   
    “ วิ่งผ่านน้ำใช่มั้ยเนี่ยแวนควิช “
    “ ก็ฉันไม่ได้เข้าไปนอนในห้องน้ำเหมือนนายนี่ “
    “ ฉันก็ไม่ได้วิ่งผ่านน้ำก็แล้วกัน  ไม่รู้ว่านายอาบน้ำน่ะฟอกสบู่รึเปล่า  รีบไปกันได้แล้ว\" วาเลนท์ตัดบท แบบไม่ยอมให้
แวนควิชโต้ตอบ แล้วเดินนำออกจากบ้านไป
    “ เออ จำไว้ ให้ถึงทีฉันบ้างแล้วกัน” แวนควิชเถียงสู้ไม่ได้ก็เอาแต่งบ่นพึมพำตามหลังพี่ชายฝาแฝดไป
                พี่น้องฝาแฝด เดินออกจากบ้านมาตามทางเดินเล็กๆ  ซึ่งเลาะเลียบหน้าผาริมทะเล ข้างๆ ทางเดินเป็นทุ่งดอกไม้หลากสีสัน ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว ผีเสื้อบินฉวัดเฉวียน และนกตัวน้อยก็ส่งเสียงร้องเพลงอย่างไพเราะจับใจ   
                  ทั้งสองหยุดมองมองภาพนั้นอย่างติดตาตรึงใจ อยากจะจดจำภาพนี้ให้อยู่ในความทรงจำตลอดไป .
    ‘ นี่เราแค่จะไปเข้าโรงเรียนเองนะ‘ แวนควิชพลางคิดปลอบใจตัวเอง
    “ นี่ ฉันว่า เรารีบไปกันเถอะ “ วาเลนท์พูดพร้อมกับยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตนเองขึ้นสะพายหลัง แล้วถอนหายใจดังเฮือก
    ‘ หวังว่าเราคงจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ‘ วาเลนท์คิดอย่างอาลัย
    “ ไปก็ ไป \" แวนควิชตอบรับ
    และแล้วคู่แฝด ก็หันหลังให้กับบ้านของพวกเขา แล้วเดินห่างออกไปอย่างช้าๆ  เหล่านกหยุดร้องเพลง เหมือนกับเป็นคำอำลา
                                                                    ....................................................
    ไม่นานทั้งสองมาถึงเมืองโจคาสต้า ซึ่งเป็นเมืองหลวง ดินแดนจีออฟฟรีย์เมืองนี้เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด สวยงามที่สุด มีชื่อเสียงที่สุด และเป็นศูนย์กลางแห่งการค้าขายในดินแดนแห่งนี้ บรรยากาศภายในเมืองคึกคัก เต็มไปด้วยผู้คน  ทั้งพ่อค้าพานิชทั้งหลายและผู้ที่มาสมัคร เข้าโรงเรียนเซเวิร์ด
    “ อู้ฮู้ ทำไมคนถึงได้เยอะแยะมากมายขนาดนี้ “ แวนควิชอุธานออกมา
    “ นายก็รู้ เซเวิร์ด เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุดในจีออฟฟรีย์ ถ้าใครได้เข้าโรงเรียนนี้ก็ได้ยืดกันทั้งวัน นั้นแหละ “ วาเลนท์ตอบน้องชาย
    “ ขนาดนั้นเชียว ฉันจะต้องเข้าไปเรียนที่โรงเรียนนี้ให้ได้คอยดูสิ “ แวนควิชพูดเสียงดังอย่างมุ่งมั่น ตาเป็นประกาย ทำวาเลนท์ถึงกับส่ายหน้าด้วนความกึ่งขัน กึ่งปลง กับความตั้งใจของน้องชาย ที่เป็นความหวังอันริบหรี่ ระหว่างที่ ทั้ง 2 กำลังเดินคุยกันอยู่นั้น...
    โครม!
    “ โอ๊ย!\" แวนควิชเดินชนใครคนหนึ่งเข้า เมื่อเขาหันกลับไปมอง ก็เห็น เด็กหนุ่มอายุประมาณ 15 เท่าๆกับเขา ผมสีแดงตัดสั้นรองทรง ตาสีดำส่อแววเอาเรื่อง คิ้วขมวดมุ่น กำลังนั่งลงกับพื้น  เขาคนนั้นมองมาที่แวนควิชอย่างโกรธเคือง
    “ เฮ้ย ! ไค นายเป็นอะไรเปล่า\" เด็กหนุ่มใส่แว่นตาผมสีน้ำตาลอ่อน ผู้มีตาคมสีคาราเมล  ถามเด็กหนุ่มผมแดงด้วยความเป็นห่วง
    “ ฮึ ฉันไม่เป็นอะไรมั้ง สคอเลอร์ ล้มก้นจ้ำเบ้าดังโครมขนาดเนียะ “ ไค เด็กหนุ่มผมแดงตอบอย่างห้วนๆ
    “ ฉันถามนายดีๆนะเนี่ย \"“ สคอเลอร์บ่น
    ขณะที่ฝาแฝดกำลังยืนอึ้งอยู่นั้น ไคก็หันกลับมาทางพวกเขา แล้าพูดว่า “ พวกนาย เดินกันภาษาอะไรวะ คนตัวใหญ่ขนาดนี้ยังเดินมาชนได้ ตาถั่วหรือไง “
    “ เอ่อ คือว่าผม . “ แวนควิชรู้สึกตัวจึงพูดขึ้นพูด
    “ นายเงียบไปเลย ไม่ต้องเถียง เรื่องนี้นายผิดเต็มประตู ขอท้งขอโทษ ก็ไม่รู้จักพูด เกิดมาเป็นใบ้ พูดไม่เป็นหรือไง คำพูดแค่คำเดียวเนี่ย “ ไคร่ายยาว  เด็กหนุ่มใส่แว่นเห็นท่าไม่ดีจึงรีบลากเพื่อนปากร้ายออกไปจากตรงนั้นทันที ทิ้งให้ฝาแฝดทั้ง 2 ยืนอึ้งอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น
    “โอ๊ย! คนอะไรกันเนี่ย ไม่เคยพบเคยเห็น ปากแบบสุนัขไม่รับประทานจริงๆ เรื่องนี้ฉันยอมรับว่าฉันผิดนะ แต่มันฉุนตรงที่พอฉันจะขอโทษ ก็บอกฉันหุบปากเนี่ยล่ะ แล้วยังมาด่าๆๆ ใส่ฉันแล้วก็เดินไป หมอนั่นมันเป็นคนแท้ๆรึเปล่าน่ะ  ดุอย่างกับหมาแม่ลูกอ่อน\"แวนควิชเมื่อตั้งสติได้ก็เริ่มโวยวายออกมาเป็นชุด จนคนแถวนั้นหันมามอง ทำให้พี่ชายต้องหาทางลากน้องชายตัวแสบออกมา แล้วกระซิบบอกนน้องชายว่า “ โวยวายออกมาดังขนาดนั้นไม่อายคนอื่นบ้างหรือไง\"
    “ไม่อาย “ แวนควิชตอบทันควัน “แล้วอีกอย่างพวกหมอนั่น ก็ไม่ฟังคำขอโทษของฉันเลย ดูดิ พอลุกขึ้นมาได้ก็ด่า ฉอดๆๆๆ ไม่มีการฟังคำอธิบายของฉันเลย แล้วยังมีการตวาดให้ฉันหุบปากอีก “ เขาบ่นอีกเป็นชุด “ คนบ้าอะไรไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย “ แวนควิชทิ้งท้าย
    “ นายไม่อาย แต่ฉันอาย “ วาเลนท์พูด “ มานี่เลยมา\" เขาพยายามลากน้องชายออกมาได้สำเร็จ
    “ ฉันละเหนื่อยกับนายจริงๆ พูดซะดังลั่น คนเขามองกันเต็มไปหมด จนฉันล่ะอายแทนนาย “
    “ เออ ฉันรู้ว่านาย หน้าบ๊างบาง “ แวนควิชตอบกลับอย่างหมั่นไส้
    “ อ้าว เก๊าะฉันไม่หน้าหนาอย่างนายหนิ “ วาเลนท์สวน
    \" ... \"แวนควิชได้แต่หน้าบูด ตามแฝดผู้พี่ไปแต่โดยดี
    ฝาแฝดฝ่าฝูงชนจนไปถึงโรงเรียนเซเวิร์ด  ทั้งสองก้าวผ่านซุ้มประตูขนาดใหญ่ที่ใช้ไม้โอ๊กแกะสลักเป็นชื่อโรงเรียน  ภายในใหญ่โตกว้าง พื้นปูด้วยหินอ่อนสีขาวเกือบทั้งหมด เสาถูกสลักลายอย่างวิจิตรตระการตา ประตูและหน้าต่างประดับด้วยกระจก กับแก้ว โคมไฟระย้าทำมาจากแก้วและคริสตัล แต่ก็ดูเล็กไปถนัดตาเมื่อมีฝูงชนจำนวนมากเดินขวักไขว่
    “ ผู้ที่จะสมัครเข้าโรงเรียน ตามผมที่ห้องโถงกลางเลยครับ “ ชายหนุ่ม ผมสีดำยาว หน้าตาคมเข้ม สวมชุดสีเขียวมรกตตะโกนบอก
    “ นี่ วาเลนท์ เราไปห้องโถงกลางกันเถอะ “แฝดผู้น้องชวน
    “ถึงนายไม่บอกฉันก็ไปห้องโถงกลางอยู่แล้ว\"
   
                ทั้ง2ร่วมขบวนเดินตามชายชุดเขียว ไปจนถึงอาคารหลังใหญ่สีขาว ภายในห้องโถงกลางเต็มไปด้วยผู้คนคับคั่งที่คุยกันเจาะแจะจอแจเหมือนนกแตกรัง
    “ อูย ทำไมคนมันเยอะอย่างนี้เนี่ย “ แวนควิชพูดเสียงดังอย่างลืมตัว
    “ นายนี่ ทั้งวันจะมีแต่คำถามหรือไง แล้วพูดเสียงดังไปได้ เกิดมาชาตินี้ไม่เคยรับรู้อะไรเลยรึ\"
วาเลนท์พูดเสียงเรียบ
      เขาจึงได้แต่มองพี่ชายตาเขียว ไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะพยายามเถียงให้ชนะผู้ชายคนนี้
   
                แวนควิชกวาดสายตาไปรอบๆห้องอย่างตื่นเต้น  พลันก็เหลือบเห็น ดวงตาสีดำเป็นประกายจ้องเขม็งอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงสะกิดฝาแฝดของเขา
    “อะไรอีกล่ะ” วาเลนท์ถาม
    “ ก็ไอ้หัวแดงคนนั่นไงเล่า “ แวนควิชพูดอย่างหัวเสีย พลางชี้ไปที่คู่อริเก่า
    “ ไหนล่ะ ฉันไม่เห็นเลย “ วาเลนท์พูด
    “ เอ๊ะ! เมื่อกี้ยังอยู่งตรง...“ อยู่ๆ แวนควิชก็หยุดพูดกระทันหัน หน้าซีด
    “ เป็นอะไรไป ทำอย่างกับเห็นผีแนะ “ วาเลนท์ถาม
    “ นายหันไปข้างหลังสิวาเลนท์ “ แวนควิชพูดเสียงสั่น
    “ อะไรอีกล่ะ  นาย..!\"  วาเลนท์ร้องออกมาเมื่อหันมาสบตากับชายผมแดง ที่ยืนกอดอก จ้องเขาอย่างโกรธเคือง อยู่ห่างเขาไม่ถึง 1 เมตร  คนคนนั้น คือ ไค น่ะเอง ข้างๆไคคือ สคอเลอร์ ที่ยืนยิ้มจืดๆอยู่
    “ นายน่ะ เมื่อเช้าเรายังเคลียร์กันไม่จบเลยนะ “ ไคพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปทางวาเลนท์
    “ ฉัน ?\" วาเลนท์ ถามอย่างงง
    “ เอ่อ คือว่านะไค  ฉันว่าคนที่เดินชนนายเมื่อเช้า ไม่ใช่คนนี้หรอก “ สคอเลอร์พูดอ้อมแอ้ม จะให้ห้ามตอนนี้คงจะไม้ทันแล้ว
    “ ทำไมจะไม่ใช่ ฉันจำหน้ามันได้นะ “ ไคแย้ง
    “ หน้าตาน่ะไม่ผิดแน่ แต่สีผมน่ะไม่ใช่ คนเมื่อเช้าผมสีน้ำตาลเข้ม  ส่วนคนนี้ผมสีทอง เฮ้ ฉันคบกับนายมาตั้งนายก็เพิ่งรู้ว่านายเป็นคนเซ่อร์ซ่า ก็วันนี้เองนะ\" สคอเลอร์ชี้แจง พร้อมเหน็บเพื่อนอารมณ์ร้อน
    “ คนที่พวกนายพูดถึงอยู่น่ะ คนนั้นใช่ไหม\" วาเลนท์ ชี้ไปที่ แวนควิชซิ่งกำลังกลั้นหัวเราะหน้าดำหน้าแดงอยู่
    “ไม่ต้องหัวเราะเลย แวนควิชมีอะไรก็เคลียร์กันให้เรียบร้อย เรื่องนี่ฉันไม่เกี่ยว\"วาเลนท์พูดเสียงเรียบ
    “ หา นายทำอย่างงี้ได้อย่างไรล่ะ วาเลนท์ เป็นพี่ก็ต้องช่วยน้องสิ มาทิ้งกันง่ายๆ อย่างนี้ได้ไง “ แวนควิชที่กำลังหังเราะอยู่ชะงักกึก แล้วหันมาเล่นงานพี่ชาย
    “ เค้าไม่ได้เรียกว่าทิ้ง เขาเรียกว่าการสอนน้องชายตัวแสบ ให้รู้จักวิธีการแก็ปัญหาต่างหากเล่า อีกอย่าง ฉันก็คอยแก้ปัญหาให้นายมาตลอดไม่ใช่หรือ “ วาเลนท์ย้อนน้องชาย
    “ ก็ใช่ แต่นายแก้ปัญหามาให้ฉันทุกครั้งแล้ว ครั้งนี้อีกครั้งเดียวไม่ได้หรอ\" แวนควิชอ้อนพี่ชายพร้อมส่งสายตาปริบๆ เขาไม่อยากหันไปสบตากับอริแม้แต่นิดเดียว
    “ ไม่ได้ ครั้งที่แล้วนายก็พูดแบบนี้\"
    \" นะ นะ\"
    “ พวกนายจะทะเลาะกันไปอีกนานสักเท่าไร หา!\"ไค ตวาดออกมาอย่างเหลืออด
    “ แล้วเกี่ยว อะไรกับนายเล่า! พี่น้องเขาจะคุยกัน\" ฝาแฝดพูดพร้อมกัน แวนควิชแอบถอนหายใจน้อยๆ...
    “ ตกลงคือฉันผิดใช่ไหม สคอเลอร์ “ ไคถามเพื่อนรัก
    “ คงงั้นมั้ง “ สคอเลอร์ พูดยิ้มๆ  ทำให้ไคหน้าเดงจัดอย่างโมโห
    ก่อนที่ทั้ง 4 จะเถียงกันไปมากกว่านี้
    “ เงียบก่อนครับ\" ชายหนุ่มสวมชุดสีเขียวคนเดิมตะโกนขึ้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดเสียงที่ดังราวกับนกแตกรังในห้องโถงกลางได้
    “ เงียบ!“ เสียงของเขาดังขึ้นกว่าเดิม แต่เสียงภายในห้องก็ยังดังเหมือนเดิม
    “ เงียบโว้ย!\" เสียงของชายผู้เดิมตวาดขึ้นด้วยความเหลืออด เสียงของเขาคราวนี้ทำให้ เสียงจอกแจกจอแจจึงเงียบสงัดลงได้
    “ เอาล่ะ “ เสียงชายชุดสีมรกตพูดขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงที่เปลี่ยนระดับอย่างรวดเร็วจนเป็นปกติ  \"ต่อจากนี้ เราจะมีการทดสอบเพื่อรับนักเรียนเข้ามาในโรงเรียนเซเวิร์ด ขอให้ทุกคนเตรียมตัวกันให้ดี....\"
    ไคหันมามอง พี่น้องฝาแฝด อย่างฝากไว้ก่อน แล้วค่อยๆเดินจากไป เหลือแต่สคอเลอร์ ที่ยืนยิ้มอยู่
    “ เพื่อนฉันมันก็เป็นแบบนี้แหละ นาย 2 คนชื่อ วาเลนท์กับแวนควิชใช่มะ ฉันชื่อ สคอเลอร์ ฟินาลี  ส่วนหมอนั่น ไค ก็อดดาร์ด
ถึงมันจะทั้งอารมณร้าย ทั้งปากร้าย  แต่นิสัยจริงๆใช้ได้ ต้องคนที่คบกับมันนั่นแหละถึงจะรู้  ฉันยินดีที่ได้รู้จักพวกนายนะ  หวังว่าคงได้เจอกันอีก\" พูดจบ สคอเลอร์ก็ทำท่าจะเดินจากไป
    “เฮ้! สคอเลอร์ เดี๋ยวก่อน\" แวนควิชเรียกไว้ “นายรู้ชื่อพวกเรา 2คนได้ไง\"
    “ ตอนที่พวกนายทะเลาะกัน ก็เรียกชื่อกันซะเสียงดังเลยไม่ใช่หรือ\" สคอเลอร์ตอบ
    “ งั้นฉันแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยก็แล้วกัน ฉันชื่อ แวนควิช  แคลล์ลัม ส่วนพี่ชายฝาแฝดฉันชื่อ วาเลนท์ แคลล์ลัม  อ้อ นายอย่าจำฉันกับพี่ฉันผิดเหมือนเพื่อนนายล่ะ\" แวนควิชกระเซ้า
    “ ฉันจำไม่ผิดหรอก  นายสองคนไม่เห็นเหมือนกันซะหน่อย\" ว่าแล้วสคอเลอร์ ก็รีบเดินตามไคไป
    ฝาแฝด มองตามคนทั้ง2 ไป  แวนควิชยิ้มน้อยๆ แล้วรำพึงกับพี่ชาย
    \"ถ้าการสอบเข้ายังหน้าสนใจขนาดนี้ ดูท่าตอนอยู่โรงเรียนนี้คงมีอะไรสนุกๆให้ทำแล้วล่ะ จริงมั้ย! พี่สาวแสนสวย\"แวนควิชหยอดลูกโต้ตอนท้ายแหย่พี่ชาย 
                วาเลนท์ยิ้มเย็นๆอย่างเหลืออดก่อนตอกกลับ  \"มันคงสนุกแน่  ถ้าไม่มีนายสักคน\"
                                    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
               
             
   
    พรึ่บ ! เด็กหนุ่มผมทอง ลุกพรวดขึ้นจากเตียงอย่างรีบร้อน
    “ แวนควิช! ตื่นเร็วตื่น เราต้องรีบนะ “ เด็กหนุ่มผู้มีผมยาวสีเดียวกับแสงอาทิตย์กล่าว
    “ อะไรกันเล่า..วาเลนท์ ฉันยังนอนไม่เต็มอิ่มเลยนะ ขออีกหน่อยน่า “ แวนควิชเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล พูดอย่างงัวเงีย แล้วทำท่าจะหลับต่อ  ทำให้วาเลนท์ ส่ายหน้าด้วยความเอือมระอากับความขี้เซาของน้องชายฝาแฝด
    “ นายจะตื่น ดีๆมั้ย แวนควิช “ เสียงของวาเลนท์เริ่มเข้มขึ้น แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากแวนควิช
    “ คงต้องใช้วิธีนี้ล่ะ “ วาเลนท์พูดกับตัวเอง เขาเดินออกจากห้อง แล้วกลับมาพร้อมกับถังน้ำ ที่มีน้ำอยู่เต็มเปี่ยม เขาเดินมาหยุดที่เตียงของแวนควิชแล้วสาดน้ำลงบนเตียงโครมใหญ่
    “ เฮ้ย ! นายทำอะไรเนี่ยวาเลนท์ ดูซิฉันเปียกหมดแล้ว นี่ก็ยังเช้าอยู่เลย นายมาปลุกฉันทำอะไรเล่า “ แวนควิชเด้งออกมาจากเตียง แล้วพูดอย่างหัวเสีย
    “ เจ้าขี้ลืม! วันนี้เป็นวันคัดเลือกนักเรียนของโรงเรียนเซเวิร์ดนะ นายลืมไปแล้วหรือ ฮะ\" วาเลนท์พูดเสียงเย็น
    “ ใช่ๆ จริงด้วย งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ “ แวนควิชพูดพร้อมกับกระโดดออกจากเตียง
    “ ไม่ต้อง นายจัดของก่อนเลย ส่วนฉันจะไปอาบน้ำก่อน ไม่ต้องยุ่งกับกระเป๋าฉันด้วย ฉันจัดตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว”
    “ อืม ย่อมได้ เร็วๆล่ะ ฉันไม่อยากพลาดโอกาส” แวชควิชทำหน้าทะเล้น
    “ คำพูดนั้น ฉันควรจะพูดมากกว่านะแวนควิช\" พูดจบวาเลนท์ก็เดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว   
      “ ฮึ! นายนี่ ขี้บ่นชะมัด” แวนควิชพึมพำตามหลัง
    15นาที ผ่านไป เมื่อวาเลนท์เดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งหนึ่ง  ในชุดเสื้อแขนสั้นและกางเกงขายาวสีน้ำเงิน เผยให้เห็นร่างเด็กหนุ่มผู้มีผิวขาวราวกับหิมะ และมีผมสีทองยาวปรกไหล่  ดวงตาโตสีเทาหม่นอันเย็นเยียบ จ้องมาที่แฝดผู้น้องทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง
    “ นายจัดของเสร็จหรือยัง\" นี่เป็นประโยคแรกที่วาเลนท์พูด
    “ เสร็จแล้ว  ทำไมนายอาบน้ำนานจัง อย่างกับจะไปหลับในห้องน้ำ\" แวนควิชตอบอย่างก็ไม่วายกัดพี่ชาย
    “ ฉันไม่ใช่พวกสกปรกเหมือนนายนี่“ วาเลนท์ตอบกลับ “ รีบไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวก็ไม่ทันกันพอดี\"   
    “ รู้แล้วน่า ไปล่ะ “ พูดจบแวนควิชก็รีบวิ่งออกจากห้องไป
    2 นาทีผ่านไป .
      “ ฉันเสร็จแล้วนะ วาเลนท์ “ แวนควิชตะโกนบอกพร้อมกับเปิดประตูเข้ามา วาเลนท์หันไปมอง น้องชายฝาแฝด ที่หน้าตาเหมือนตนเองอย่างกับแกะ  ต่างกันแค่ดวงตาตากลมโตสีทองที่ส่อแววขี้เล่น กับผมตัดสั้นสีน้ำตาลเข้ม  แวนควิชเลือกใส่ชุดแบบเดียวกับวาเลนท์ เพียงเต่เป็นชุดสีดำ
   
    “ วิ่งผ่านน้ำใช่มั้ยเนี่ยแวนควิช “
    “ ก็ฉันไม่ได้เข้าไปนอนในห้องน้ำเหมือนนายนี่ “
    “ ฉันก็ไม่ได้วิ่งผ่านน้ำก็แล้วกัน  ไม่รู้ว่านายอาบน้ำน่ะฟอกสบู่รึเปล่า  รีบไปกันได้แล้ว\" วาเลนท์ตัดบท แบบไม่ยอมให้
แวนควิชโต้ตอบ แล้วเดินนำออกจากบ้านไป
    “ เออ จำไว้ ให้ถึงทีฉันบ้างแล้วกัน” แวนควิชเถียงสู้ไม่ได้ก็เอาแต่งบ่นพึมพำตามหลังพี่ชายฝาแฝดไป
                พี่น้องฝาแฝด เดินออกจากบ้านมาตามทางเดินเล็กๆ  ซึ่งเลาะเลียบหน้าผาริมทะเล ข้างๆ ทางเดินเป็นทุ่งดอกไม้หลากสีสัน ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว ผีเสื้อบินฉวัดเฉวียน และนกตัวน้อยก็ส่งเสียงร้องเพลงอย่างไพเราะจับใจ   
                  ทั้งสองหยุดมองมองภาพนั้นอย่างติดตาตรึงใจ อยากจะจดจำภาพนี้ให้อยู่ในความทรงจำตลอดไป .
    ‘ นี่เราแค่จะไปเข้าโรงเรียนเองนะ‘ แวนควิชพลางคิดปลอบใจตัวเอง
    “ นี่ ฉันว่า เรารีบไปกันเถอะ “ วาเลนท์พูดพร้อมกับยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตนเองขึ้นสะพายหลัง แล้วถอนหายใจดังเฮือก
    ‘ หวังว่าเราคงจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ‘ วาเลนท์คิดอย่างอาลัย
    “ ไปก็ ไป \" แวนควิชตอบรับ
    และแล้วคู่แฝด ก็หันหลังให้กับบ้านของพวกเขา แล้วเดินห่างออกไปอย่างช้าๆ  เหล่านกหยุดร้องเพลง เหมือนกับเป็นคำอำลา
                                                                    ....................................................
    ไม่นานทั้งสองมาถึงเมืองโจคาสต้า ซึ่งเป็นเมืองหลวง ดินแดนจีออฟฟรีย์เมืองนี้เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด สวยงามที่สุด มีชื่อเสียงที่สุด และเป็นศูนย์กลางแห่งการค้าขายในดินแดนแห่งนี้ บรรยากาศภายในเมืองคึกคัก เต็มไปด้วยผู้คน  ทั้งพ่อค้าพานิชทั้งหลายและผู้ที่มาสมัคร เข้าโรงเรียนเซเวิร์ด
    “ อู้ฮู้ ทำไมคนถึงได้เยอะแยะมากมายขนาดนี้ “ แวนควิชอุธานออกมา
    “ นายก็รู้ เซเวิร์ด เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุดในจีออฟฟรีย์ ถ้าใครได้เข้าโรงเรียนนี้ก็ได้ยืดกันทั้งวัน นั้นแหละ “ วาเลนท์ตอบน้องชาย
    “ ขนาดนั้นเชียว ฉันจะต้องเข้าไปเรียนที่โรงเรียนนี้ให้ได้คอยดูสิ “ แวนควิชพูดเสียงดังอย่างมุ่งมั่น ตาเป็นประกาย ทำวาเลนท์ถึงกับส่ายหน้าด้วนความกึ่งขัน กึ่งปลง กับความตั้งใจของน้องชาย ที่เป็นความหวังอันริบหรี่ ระหว่างที่ ทั้ง 2 กำลังเดินคุยกันอยู่นั้น...
    โครม!
    “ โอ๊ย!\" แวนควิชเดินชนใครคนหนึ่งเข้า เมื่อเขาหันกลับไปมอง ก็เห็น เด็กหนุ่มอายุประมาณ 15 เท่าๆกับเขา ผมสีแดงตัดสั้นรองทรง ตาสีดำส่อแววเอาเรื่อง คิ้วขมวดมุ่น กำลังนั่งลงกับพื้น  เขาคนนั้นมองมาที่แวนควิชอย่างโกรธเคือง
    “ เฮ้ย ! ไค นายเป็นอะไรเปล่า\" เด็กหนุ่มใส่แว่นตาผมสีน้ำตาลอ่อน ผู้มีตาคมสีคาราเมล  ถามเด็กหนุ่มผมแดงด้วยความเป็นห่วง
    “ ฮึ ฉันไม่เป็นอะไรมั้ง สคอเลอร์ ล้มก้นจ้ำเบ้าดังโครมขนาดเนียะ “ ไค เด็กหนุ่มผมแดงตอบอย่างห้วนๆ
    “ ฉันถามนายดีๆนะเนี่ย \"“ สคอเลอร์บ่น
    ขณะที่ฝาแฝดกำลังยืนอึ้งอยู่นั้น ไคก็หันกลับมาทางพวกเขา แล้าพูดว่า “ พวกนาย เดินกันภาษาอะไรวะ คนตัวใหญ่ขนาดนี้ยังเดินมาชนได้ ตาถั่วหรือไง “
    “ เอ่อ คือว่าผม . “ แวนควิชรู้สึกตัวจึงพูดขึ้นพูด
    “ นายเงียบไปเลย ไม่ต้องเถียง เรื่องนี้นายผิดเต็มประตู ขอท้งขอโทษ ก็ไม่รู้จักพูด เกิดมาเป็นใบ้ พูดไม่เป็นหรือไง คำพูดแค่คำเดียวเนี่ย “ ไคร่ายยาว  เด็กหนุ่มใส่แว่นเห็นท่าไม่ดีจึงรีบลากเพื่อนปากร้ายออกไปจากตรงนั้นทันที ทิ้งให้ฝาแฝดทั้ง 2 ยืนอึ้งอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น
    “โอ๊ย! คนอะไรกันเนี่ย ไม่เคยพบเคยเห็น ปากแบบสุนัขไม่รับประทานจริงๆ เรื่องนี้ฉันยอมรับว่าฉันผิดนะ แต่มันฉุนตรงที่พอฉันจะขอโทษ ก็บอกฉันหุบปากเนี่ยล่ะ แล้วยังมาด่าๆๆ ใส่ฉันแล้วก็เดินไป หมอนั่นมันเป็นคนแท้ๆรึเปล่าน่ะ  ดุอย่างกับหมาแม่ลูกอ่อน\"แวนควิชเมื่อตั้งสติได้ก็เริ่มโวยวายออกมาเป็นชุด จนคนแถวนั้นหันมามอง ทำให้พี่ชายต้องหาทางลากน้องชายตัวแสบออกมา แล้วกระซิบบอกนน้องชายว่า “ โวยวายออกมาดังขนาดนั้นไม่อายคนอื่นบ้างหรือไง\"
    “ไม่อาย “ แวนควิชตอบทันควัน “แล้วอีกอย่างพวกหมอนั่น ก็ไม่ฟังคำขอโทษของฉันเลย ดูดิ พอลุกขึ้นมาได้ก็ด่า ฉอดๆๆๆ ไม่มีการฟังคำอธิบายของฉันเลย แล้วยังมีการตวาดให้ฉันหุบปากอีก “ เขาบ่นอีกเป็นชุด “ คนบ้าอะไรไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย “ แวนควิชทิ้งท้าย
    “ นายไม่อาย แต่ฉันอาย “ วาเลนท์พูด “ มานี่เลยมา\" เขาพยายามลากน้องชายออกมาได้สำเร็จ
    “ ฉันละเหนื่อยกับนายจริงๆ พูดซะดังลั่น คนเขามองกันเต็มไปหมด จนฉันล่ะอายแทนนาย “
    “ เออ ฉันรู้ว่านาย หน้าบ๊างบาง “ แวนควิชตอบกลับอย่างหมั่นไส้
    “ อ้าว เก๊าะฉันไม่หน้าหนาอย่างนายหนิ “ วาเลนท์สวน
    \" ... \"แวนควิชได้แต่หน้าบูด ตามแฝดผู้พี่ไปแต่โดยดี
    ฝาแฝดฝ่าฝูงชนจนไปถึงโรงเรียนเซเวิร์ด  ทั้งสองก้าวผ่านซุ้มประตูขนาดใหญ่ที่ใช้ไม้โอ๊กแกะสลักเป็นชื่อโรงเรียน  ภายในใหญ่โตกว้าง พื้นปูด้วยหินอ่อนสีขาวเกือบทั้งหมด เสาถูกสลักลายอย่างวิจิตรตระการตา ประตูและหน้าต่างประดับด้วยกระจก กับแก้ว โคมไฟระย้าทำมาจากแก้วและคริสตัล แต่ก็ดูเล็กไปถนัดตาเมื่อมีฝูงชนจำนวนมากเดินขวักไขว่
    “ ผู้ที่จะสมัครเข้าโรงเรียน ตามผมที่ห้องโถงกลางเลยครับ “ ชายหนุ่ม ผมสีดำยาว หน้าตาคมเข้ม สวมชุดสีเขียวมรกตตะโกนบอก
    “ นี่ วาเลนท์ เราไปห้องโถงกลางกันเถอะ “แฝดผู้น้องชวน
    “ถึงนายไม่บอกฉันก็ไปห้องโถงกลางอยู่แล้ว\"
   
                ทั้ง2ร่วมขบวนเดินตามชายชุดเขียว ไปจนถึงอาคารหลังใหญ่สีขาว ภายในห้องโถงกลางเต็มไปด้วยผู้คนคับคั่งที่คุยกันเจาะแจะจอแจเหมือนนกแตกรัง
    “ อูย ทำไมคนมันเยอะอย่างนี้เนี่ย “ แวนควิชพูดเสียงดังอย่างลืมตัว
    “ นายนี่ ทั้งวันจะมีแต่คำถามหรือไง แล้วพูดเสียงดังไปได้ เกิดมาชาตินี้ไม่เคยรับรู้อะไรเลยรึ\"
วาเลนท์พูดเสียงเรียบ
      เขาจึงได้แต่มองพี่ชายตาเขียว ไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะพยายามเถียงให้ชนะผู้ชายคนนี้
   
                แวนควิชกวาดสายตาไปรอบๆห้องอย่างตื่นเต้น  พลันก็เหลือบเห็น ดวงตาสีดำเป็นประกายจ้องเขม็งอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงสะกิดฝาแฝดของเขา
    “อะไรอีกล่ะ” วาเลนท์ถาม
    “ ก็ไอ้หัวแดงคนนั่นไงเล่า “ แวนควิชพูดอย่างหัวเสีย พลางชี้ไปที่คู่อริเก่า
    “ ไหนล่ะ ฉันไม่เห็นเลย “ วาเลนท์พูด
    “ เอ๊ะ! เมื่อกี้ยังอยู่งตรง...“ อยู่ๆ แวนควิชก็หยุดพูดกระทันหัน หน้าซีด
    “ เป็นอะไรไป ทำอย่างกับเห็นผีแนะ “ วาเลนท์ถาม
    “ นายหันไปข้างหลังสิวาเลนท์ “ แวนควิชพูดเสียงสั่น
    “ อะไรอีกล่ะ  นาย..!\"  วาเลนท์ร้องออกมาเมื่อหันมาสบตากับชายผมแดง ที่ยืนกอดอก จ้องเขาอย่างโกรธเคือง อยู่ห่างเขาไม่ถึง 1 เมตร  คนคนนั้น คือ ไค น่ะเอง ข้างๆไคคือ สคอเลอร์ ที่ยืนยิ้มจืดๆอยู่
    “ นายน่ะ เมื่อเช้าเรายังเคลียร์กันไม่จบเลยนะ “ ไคพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปทางวาเลนท์
    “ ฉัน ?\" วาเลนท์ ถามอย่างงง
    “ เอ่อ คือว่านะไค  ฉันว่าคนที่เดินชนนายเมื่อเช้า ไม่ใช่คนนี้หรอก “ สคอเลอร์พูดอ้อมแอ้ม จะให้ห้ามตอนนี้คงจะไม้ทันแล้ว
    “ ทำไมจะไม่ใช่ ฉันจำหน้ามันได้นะ “ ไคแย้ง
    “ หน้าตาน่ะไม่ผิดแน่ แต่สีผมน่ะไม่ใช่ คนเมื่อเช้าผมสีน้ำตาลเข้ม  ส่วนคนนี้ผมสีทอง เฮ้ ฉันคบกับนายมาตั้งนายก็เพิ่งรู้ว่านายเป็นคนเซ่อร์ซ่า ก็วันนี้เองนะ\" สคอเลอร์ชี้แจง พร้อมเหน็บเพื่อนอารมณ์ร้อน
    “ คนที่พวกนายพูดถึงอยู่น่ะ คนนั้นใช่ไหม\" วาเลนท์ ชี้ไปที่ แวนควิชซิ่งกำลังกลั้นหัวเราะหน้าดำหน้าแดงอยู่
    “ไม่ต้องหัวเราะเลย แวนควิชมีอะไรก็เคลียร์กันให้เรียบร้อย เรื่องนี่ฉันไม่เกี่ยว\"วาเลนท์พูดเสียงเรียบ
    “ หา นายทำอย่างงี้ได้อย่างไรล่ะ วาเลนท์ เป็นพี่ก็ต้องช่วยน้องสิ มาทิ้งกันง่ายๆ อย่างนี้ได้ไง “ แวนควิชที่กำลังหังเราะอยู่ชะงักกึก แล้วหันมาเล่นงานพี่ชาย
    “ เค้าไม่ได้เรียกว่าทิ้ง เขาเรียกว่าการสอนน้องชายตัวแสบ ให้รู้จักวิธีการแก็ปัญหาต่างหากเล่า อีกอย่าง ฉันก็คอยแก้ปัญหาให้นายมาตลอดไม่ใช่หรือ “ วาเลนท์ย้อนน้องชาย
    “ ก็ใช่ แต่นายแก้ปัญหามาให้ฉันทุกครั้งแล้ว ครั้งนี้อีกครั้งเดียวไม่ได้หรอ\" แวนควิชอ้อนพี่ชายพร้อมส่งสายตาปริบๆ เขาไม่อยากหันไปสบตากับอริแม้แต่นิดเดียว
    “ ไม่ได้ ครั้งที่แล้วนายก็พูดแบบนี้\"
    \" นะ นะ\"
    “ พวกนายจะทะเลาะกันไปอีกนานสักเท่าไร หา!\"ไค ตวาดออกมาอย่างเหลืออด
    “ แล้วเกี่ยว อะไรกับนายเล่า! พี่น้องเขาจะคุยกัน\" ฝาแฝดพูดพร้อมกัน แวนควิชแอบถอนหายใจน้อยๆ...
    “ ตกลงคือฉันผิดใช่ไหม สคอเลอร์ “ ไคถามเพื่อนรัก
    “ คงงั้นมั้ง “ สคอเลอร์ พูดยิ้มๆ  ทำให้ไคหน้าเดงจัดอย่างโมโห
    ก่อนที่ทั้ง 4 จะเถียงกันไปมากกว่านี้
    “ เงียบก่อนครับ\" ชายหนุ่มสวมชุดสีเขียวคนเดิมตะโกนขึ้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดเสียงที่ดังราวกับนกแตกรังในห้องโถงกลางได้
    “ เงียบ!“ เสียงของเขาดังขึ้นกว่าเดิม แต่เสียงภายในห้องก็ยังดังเหมือนเดิม
    “ เงียบโว้ย!\" เสียงของชายผู้เดิมตวาดขึ้นด้วยความเหลืออด เสียงของเขาคราวนี้ทำให้ เสียงจอกแจกจอแจจึงเงียบสงัดลงได้
    “ เอาล่ะ “ เสียงชายชุดสีมรกตพูดขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงที่เปลี่ยนระดับอย่างรวดเร็วจนเป็นปกติ  \"ต่อจากนี้ เราจะมีการทดสอบเพื่อรับนักเรียนเข้ามาในโรงเรียนเซเวิร์ด ขอให้ทุกคนเตรียมตัวกันให้ดี....\"
    ไคหันมามอง พี่น้องฝาแฝด อย่างฝากไว้ก่อน แล้วค่อยๆเดินจากไป เหลือแต่สคอเลอร์ ที่ยืนยิ้มอยู่
    “ เพื่อนฉันมันก็เป็นแบบนี้แหละ นาย 2 คนชื่อ วาเลนท์กับแวนควิชใช่มะ ฉันชื่อ สคอเลอร์ ฟินาลี  ส่วนหมอนั่น ไค ก็อดดาร์ด
ถึงมันจะทั้งอารมณร้าย ทั้งปากร้าย  แต่นิสัยจริงๆใช้ได้ ต้องคนที่คบกับมันนั่นแหละถึงจะรู้  ฉันยินดีที่ได้รู้จักพวกนายนะ  หวังว่าคงได้เจอกันอีก\" พูดจบ สคอเลอร์ก็ทำท่าจะเดินจากไป
    “เฮ้! สคอเลอร์ เดี๋ยวก่อน\" แวนควิชเรียกไว้ “นายรู้ชื่อพวกเรา 2คนได้ไง\"
    “ ตอนที่พวกนายทะเลาะกัน ก็เรียกชื่อกันซะเสียงดังเลยไม่ใช่หรือ\" สคอเลอร์ตอบ
    “ งั้นฉันแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยก็แล้วกัน ฉันชื่อ แวนควิช  แคลล์ลัม ส่วนพี่ชายฝาแฝดฉันชื่อ วาเลนท์ แคลล์ลัม  อ้อ นายอย่าจำฉันกับพี่ฉันผิดเหมือนเพื่อนนายล่ะ\" แวนควิชกระเซ้า
    “ ฉันจำไม่ผิดหรอก  นายสองคนไม่เห็นเหมือนกันซะหน่อย\" ว่าแล้วสคอเลอร์ ก็รีบเดินตามไคไป
    ฝาแฝด มองตามคนทั้ง2 ไป  แวนควิชยิ้มน้อยๆ แล้วรำพึงกับพี่ชาย
    \"ถ้าการสอบเข้ายังหน้าสนใจขนาดนี้ ดูท่าตอนอยู่โรงเรียนนี้คงมีอะไรสนุกๆให้ทำแล้วล่ะ จริงมั้ย! พี่สาวแสนสวย\"แวนควิชหยอดลูกโต้ตอนท้ายแหย่พี่ชาย 
                วาเลนท์ยิ้มเย็นๆอย่างเหลืออดก่อนตอกกลับ  \"มันคงสนุกแน่  ถ้าไม่มีนายสักคน\"
                                    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
               
             
   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น