ตอนที่ 3 : ตอนที่1 ยอดวิญญูของแผ่นดิน กับเปาเจิ่งผู้สาบสูญ--การปรากฏตัวของวิญญู
File4 ตอนที่1 ยอดวิญญูของแผ่นดิน กับเปาเจิ่งผู้สาบสูญ
การปรากฏตัวของวิญญู
*แผ่นดินซ่ง ปักกิ่งราชธานี ปี 1037 เมือง*หลูโจว
“มีคนตาย” เสียงกระซิบกระซาบดังทอดไปเรื่อยทั้งชุมชน บัดนี้ผู้ที่หวังเป็นพลเมืองดีมาชะเง้อชะแง้หน้าประตูบ้านด้านนอกที่เปิดค้างไว้เต็มไปหมด สาวแก่แม่หม้ายก็หวังได้ข่าวไปเล่าให้พรรคพวกฟัง พวกผู้ชายก็สงสัยว่าอาจเป็นเพื่อนในวงเหล้าของตน อย่างไรก็ตามความอยากรู้อยากเห็นระบายเต็มดวงใบหน้า
“ฮือ ฮึกๆๆ เมื่อวานตอนค่ำ ฮึกๆๆๆ ข้าเห็นหน้าเขาอาบไปด้วยเลือด ปากก็ตะโกนโหวกเหวกโวยวายกลับมา ว..วันนี้ตอนเช้า ข..เขาก็ไปแล้ว. โฮ ฮือๆๆๆๆๆ” หญิงวัยกลางคนใบหน้าแม้ขาวซีดเหมือนหมดเรี่ยวแรง แต่มือยังขยุ้มแน่นไปบนผ้าที่ห่อลูกน้อยในอ้อมอก น้ำตาและเสียงสะอื้นของนางเรียกความสังเวชจากผู้มาเป็นพยานในเหตุการณ์ได้ยิ่งนัก
เบื้องหน้าทุกคนคือชายร่างใหญ่หน้าดุดันนอนไร้ลมหายใจอยู่บนเตียง หัวหน้ามือปราบของเมืองหลังจากฟังคำให้การของผู้เป็นภรรยาก็เดินเข้ามาใช้มือบีบที่คางของศพพลิกดูซ้ายขวา ใบหน้าซีดขาวบริเวณจมูกยังมีร่องรอยเลือดให้เห็น เลือดย้อมเสื้อเป็นรอยแดงบ้างถูกเว้นไปช่อง แม้ดูน่ากลัวแต่ที่อื่นก็ไม่มีบาดแผลฉกรรจ์ที่อาจทำให้ถึงตายได้ น่าสงสัยยิ่งนัก ท่านมือปราบหนุ่มไฟแรงหันไปถามพยานที่เหลือเสียงเข้ม “เมื่อวานมีใครได้เจอกับนายพรานเฉิงซี่ผู้นี้บ้างรึไม่” พร้อมชี้ไปที่ศพชายนามเฉิงซี่
“ขอรับ เมื่อวานเย็นข้าน้อยเห็นพี่ซี่ กินเหล้ากับชายคนนี้ที่ร้านของข้าน้อยเอง” ว่าแล้วก็โบ้ยไปที่ชายร่างแคระแต่งตัวแปลกคนข้างๆทันที “แต่ว่าไม่รู้ทำไม อยู่ดีๆทั้งคู่ก็ลุกขึ้นมาทะเลาะกันเสียงดัง พวกที่เหลือเป็นพยานได้ ใช่มั้ยพวกเรา” เสี่ยวเอ้อทั้งหลายต่างก็รับคำเถ้าแก่เจ้าของร้านอย่างแข็งขัน
“เย้ย ไม่ใช่ขอรับ ข้าน้อยก็แค่ติดเงินพี่ซี่ห้าตำลึงเงินเท่านั้น เขาทวงเงิน ข้ายังไม่มีให้ บอกว่าอีกสองวันค่อยคืน ดื่มกันอีกคนละสองแก้ว จากนั้นก็บ้านใครบ้านมัน ใช่มั้ยเล่า” พวกเสี่ยวเอ้อที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองก็พยักหน้าเออออตามชายร่างแคระ อีกครั้ง
“จากที่ได้ยินมาผู้ตายเป็นนักเลงสุราอีกทั้งยังคอแข็ง...”ยังไม่ทันพูดจบผู้เป็นภรรยาผู้ตามก็กล่าวเสริม “อาจเป็นเพราะลูกกำลังป่วย ร้องงอแงทั้งคืนจนเขาไม่ได้พักผ่อนก็อาจเป็นได้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ท่านหัวหน้ามือปราบก็ยิ้มด้วยใบหน้าผยองในความฉลาดของตัวเอง “งั้นก็สรุปได้ว่า เฉิงซี่ผู้นี้ตายเพราะพิษสุรา..”
“มันก็ไม่แน่” เสียงท้าทายคำตัดสินดังกังวานออกมากจากประตูด้านนอก ชายหนุ่มในชุดผ้าพลิ้วเขียวตองอ่อน ทับด้วยผ้าพิมพ์ลายอย่างประณีต หมวกกำมะหยี่ทรงสูงบอกถึงตำแหน่ง มือขวาสะบัดพัดเดินก้าวย่างอย่างช้า หน้าอ่อนไหวขาวอย่างหยกชั้นดี ปากงานดังกลีบกุหลาบเผยอเล็กน้อย
“เป็นข้า........*กงซุนเชอฺ”
TBC^^
Pssssssssssssssssssssssss.
*แผ่นดินซ่ง = เรื่องนี้จะกล่าวถึงสองแผ่นดินนะคะ คือ เหลียวและต้าซ่งเมืองคู่สงคราม
*หลูโจว = ชื่อเมืองเก่าของเมืองอันเวย ซึ่งเป็นเมืองที่มีการปกครองระดับจังหวัดในปัจจุบัน
*กงซุนเชอฺ=ชายที่คนไทยได้รู้จักในคาแรกเตอร์ผู้ช่วยท่านเปานั้น มีนามว่า กงซุนเชอฺคะ กงซุนนั้นคือแซ่ ชื่อมีพยางค์เดียวนั้นคือ เชอฺ ชื่อตัวนี้สำหรับคนไทยออกเสียงลำบากหน่อย ที่เอาพิณทุพิมพ์ไว้ด้วยต้องการจะบอกว่าออกเสียงสั้นคะ ส่วนเรื่องแซ่คนจีนส่วนมากมีแซ่พยางค์เดียวคะ แต่กงซุนเชอฺเราพิเศษหน่อย แซ่อื่นที่มีสองพยางค์ได้แก่ “แซ่สึหม่า (s?m?yì)” คุ้นๆใช่มั้ยคะ สุมาอี้ผู้ชนะของเรื่องสามก๊กนั้นเอง อีกคนคู่ปรับของสุมาอี้คือ จูเก่อเลี่ยง(zhu1 ge2 liang4) หรือขงเบ้งของคนไทยซึ่งมีแซ่สองพยางค์เหมือนกันคือ “แซ่จูเก่อ”
เรื่องของแซ่หรือซิ่ง(xing4)ในภาษาจีนกลาง ขอเสริมอีกนิด เพราะราชวงศ์ซ่งเนี่ยแหละคะ สมัยหนึ่งองค์ฮ่องเต้ทรงนิพนธ์รวมแซ่ในรูปแบบกลอนทุกวรรคมีสี่ตัวอักษร กลายเป็นร้อยแซ่ของคนจีน ที่จริงก็มีเกินร้อยแหละนะคะ แต่เรียกรวมๆเอา แซ่ที่ขึ้นต้นสี่ตัวแรกคือ แซ่ “จ้าว” “เฉียน” “ซุน” และ“หลี่” แซ่จ้าวทำไมขึ้นต้นเป็นแซ่แรกรู้มั้ยคะ ก็เพราะเป็นแซ่ขององค์ฮ่องเต้นั้นเอง ใครๆก็อยากเอาชื่อของตนเองมาไว้ข้างหน้าทั้งนั้นแหละจริงมั้ยคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

38 ความคิดเห็น
-
#36 kikza_kung (จากตอนที่ 3)วันที่ 16 ธันวาคม 2559 / 21:41ขอบคุณค่าา มาอ่านตอนตลาดวาย#360
-
ความเห็นนี้ถูกลบแล้ว :(