ตอนที่ 12 : บทที่12 มีผู้อยู่เบื้องหลัง
บทที่12 มีผู้อยู่เบื้องหลัง
หวงช่างทรงเสด็จเยือนวังหลังอีกครั้ง หญิงสาววังหลังทั้งยินดีทั้งริษยา เพราะหวงช่างทรงเลือกป้ายของโหรวเฟยก่อนใคร
วันที่สองจวงลั่วเยียนเดินทางไปเข้าเฝ้าหวงโฮ่วที่ตำหนักจิ่งยางตามปกติ สิ่งแรกที่เห็นคือเหล่าสนมกำลังเข้าปะทะโหรวเฟยด้วยวาจาซ่อนในวาจา แต่หวงโฮ่วทรงไม่ได้มีพระอาการผิดแปลกไปอย่างใด เสียดายเพียงชูกุ้ยเฟยที่พอจะสูสีกับโหรวเฟยนั้นกำลังพักรักษาตัวอยู่ ไม่งั้นคงมีละครเด็ดออกโรงให้ดูอีกฉากหนึ่ง
ถวายคำนับแล้ว จวงลั่วเยียนก็ขี้เกียจจะไปพูดคำนุ่นซ่อนเข็มกับฝูงสนมเหล่านั้น จึงพาทิงจู๋และหยุนซีกลับหอทอหยก กลางทางพบกับขันทีสองสามคนเดินจากไปอย่างรวดเร็ว สีหน้าพวกเขามีความเคร่งเครียดไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ดูตระหนกตกใจ
“นายหญิง...” ทิงจู๋มองตามขันทีไปอย่างสงสัย “จะให้ไปสอบถามไหมเจ้าคะว่าเกิดเรื่องอะไร”
“ไม่ต้อง รีบกลับหอ” จวงลั่วเยียนสีหน้าไม่เปลี่ยน “เรื่องวังหลังมีหวงโฮ่วทรงจัดการอยู่แล้ว เจ้าไม่ต้องสงสัยเรื่องอะไรให้มากมาย”
ความอยากรู้ไม่เพียงทำให้แมวตาย ยังทำให้คนตายได้ด้วย นางยอมไม่รู้เรื่องอะไรดีกว่าจะไปเสือ กเรื่องที่ทำให้ตนเองเดือดร้อน
ทิงจู๋รับคำอย่างดี ตนเองก็พอรู้ว่าวังหลังมีเรื่องมากมายที่ไม่สามารถขุดคุ้ยออกมาเจอแสงสว่างภายนอกได้ รู้มากไปไม่เป็นผลดีอะไรเลย ถ้าเป็นเรื่องใหญ่จริง ไม่นานคงมีคนมาประกาศให้รู้โดยทั่วกัน
บ่ายวันนั้น มีข่าวออกมาว่า บ่อน้ำแห้งข้างตำหนักเย็นนั้นพบศพของนางกำนัลสองนาง หวงโฮ่วทรงพิโรธมาก ดำริจะชะล้างเรื่องโสมมให้หมดไปจากวังหลัง
จวงลั่วเยียนได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้ว ก็รู้สึกน่าขำ แต่ไหนแต่ไรมาวังหลังก็เป็นเยี่ยงนี้ คนที่ตายไปมีเพียงสองคนที่ไหน เป้าหมายที่แท้จริงคือหวงโฮ่วเพียงอยากใช้โอกาสนี้ในการเตือนสนมที่อยู่ไม่สุขต่างหาก
ตอนเย็นวันนั้น ตำหนักกลางได้ส่งขันทีมาที่หอท้อหยก เนื่องได้รับพระราชเสาวนีย์ให้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น จวงลั่วเยียนก็ไม่ได้ขัดขวางแต่อย่างไร ปล่อยให้ขันทีค้นนู่นยกนี่ไปตามเรื่อง โชคดีที่ขันทีพวกนี้กระทำอย่างเกรงใจ เพียงดูไปคร่าวๆ ก็ขอลาจากไป ของที่เคลื่อนไปก็ย้ายมาเก็บไว้ที่เดิมให้ทุกชิ้น
จวงลั่วเยียนทราบดี ถ้าวันนี้นางไม่ได้เป็นสนมทรงโปรด เรื่องคงไม่ได้ออกมาสภาพนี้ แต่ว่าหวงโฮ่วมีพระราชเสาวนีย์ให้ตรวจสอบทั้งหกตำหนัก เรื่องนี้ทรงเสี่ยงเป็นอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงความลับดำมืดวังหลัง ยังเกี่ยวพันกับอำนาจน้อยใหญ่ของแต่ละตำหนัก ถ้าทำให้วังหลังอยู่ในบรรยากาศกดดันหวาดกลัวแล้ว เรื่องคงยุ่งยากมากว่านี้
ผู้หญิงอย่างหวงโฮ่วไม่ดำริจะลดพระองค์ลงไปต่อสู้กับผู้หญิงวังหลัง แต่ถ้าพระนางจะเหี้ยมขึ้นมา เกรงว่าสนมทรงโปรดหลายคนยังต้องเกร็งหดหางแล้วทำตัวดีๆ เช่นว่าชูกุ้ยเฟย โหรวเฟย เยียนกุ้ยผิน สนมที่ทรงโปรดปรานมากเป็นพิเศษ เมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์หวงโฮ่วยังต้องเรียบๆร้อยๆ เห็นได้ว่าหวงโฮ่วทรงมีฝีพระหัตถ์ในระดับไหน
แน่นอนว่า เรื่องนี้ผกผันโดยตรงกับความยกย่องที่หวงช่างทรงมีต่อหวงโฮ่ว เพราะฉะนั้นจักรพรรดิที่ทรงพระปรีชาล้วนโปรดสนมและให้ความสำคัญกับภรรยาหลวง สุดท้ายแล้วผู้ที่เล่ห์เหลี่ยมมากที่สุดก็ไม่พ้นหวงช่างอยู่ดี
คิดว่าหวงโฮ่วทรงกล้ากระทำเช่นนี้คงผ่านพระราชวินิจฉัยของหวงช่างแล้ว จุดมุ่งหมายสูงสุดคือเตือนทุกคนไม่ให้กระทำเกินกว่าเหตุไป
หรี่ตาดื่มชาไปหนึ่งคำ “ทิงจู๋ ฝนหมึก”
คลี่ม้วนกระดาษเซวี่ยน(กระดาษวาดรูปคุณภาพดีชนิดหนึ่ง) เขียนคำว่า “พระ” ตัวใหญ่ๆลงไป จวงลั่วเยียนยกพู่กันขึ้น แล้วเขียนตัวอักษรเดิมตัวเล็กๆหลายตัวลงด้านล่าง จากนั้นก็โยนพู่กันไปด้านข้าง บางเวลาการระลึกถึงพระพุทธก็ไม่เลว
แม้นางจะเป็นคนไม่ค่อยแคร์อะไร แต่ก็ยังเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นความเจ้าคิดเจ้าแค้นยังมีเป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติ ถูกคนตบหน้าซ้ายแล้วจะอย่างไรก็ต้องใช้เท้าถีบกลับไปถึงจะถูกต้องยุติธรรม
ทิงจู๋และหยุนซีตามเก็บพู่กันและที่ฝนหมึกออกไป มอง “พระ” ที่น่าเกรงขามและเลื่อมใสอักษรนั้น ทั้งสองคนยังสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารสองส่วน
ยกจอกปล่อยน้ำชาให้ส่าหยดลงบน “พระ” จนซึมและซ่านไปไม่เป็นตัวอักษร นางสะบัดกระดาษเซวี่ยนจนพ้นขอบโต๊ะ “เผาซะ”
กระดาษเซวี่ยนถูกเผาทิ้งในกระถางขี้เถ้า ส่วนที่ชื้นไหม้ช้ากว่าส่วนอื่น หยุนซีเงยหน้าขึ้น ผ่านม่านควันไฟ มองเห็นสีหน้าของนายหญิงที่ดูเยือกเย็นกว่าปกติ ใจของนางกำลังสั่น ก้มหัวเห็นส่วนที่เลอะหมึกขมุกขมัวมอดเกรียมกลายเป็นเถ้าถ่าน
เฟิงจิ่นไปที่พำนักของเยียนกุ้ยผินแล้ว แต่กลิ่นหอมในห้องหับนางทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยดี จึงออกจากจวนหลินเยว่แล้วกลับตำหนักฉีหลิน เมื่อนางกำนัลกำลังช่วยเปลี่ยนฉลองพระองค์ กลับทำถุงหอมถุงหนึ่งตกลงมาด้วย
มองไปที่นางกำนัลที่ทำตัวสั่นอยู่ที่พื้นแล้วขมวดคิ้วมองถุงหอมข้างๆนางนั้น ถุงหอมนี้ชูกุ้ยเฟยเป็นคนเย็บและปักให้เขาด้วยตนเอง ลายปักภาพเมฆนำโชคนั้นล่องลอยเหมือนจริง ให้ความรู้สึกดุจอยู่ในแดนสวรรค์ เขาจึงนำมาแขวนไว้ข้างกายตลอดเวลา เวลานี้ถุงหอมตกลงบนพื้น เขากลับคิดไผล่ไปถึงผู้หญิงอีกคน
“ฝ่าบาททรงละเว้นชีวิตด้วยเพคะ นู๋ปี้ผิดไปแล้ว ฝ่าบาททรงละเว้นชีวิตด้วยเพคะ” นางกำนัลเห็นว่าหวงช่างทรงนิ่งไป ก็ตกใจจนโขกศีรษะอย่างแรง ร้องขอชีวิตน้อยๆของนาง
เฟิงจิ่นขมวดคิ้วมากขึ้น “นำถุงหอมออกไป เกาเต๋อจง จัดขบวนไปหอท้อหยก”
เมื่อขบวนที่ประทับไปถึงหอท้อหยก แสงหน้าประตูหอไม่สว่างนัก ใต้แสงเทียนสีหม่น ขาดร่างแน่งน้อยของนางผู้ถือโคมไป
รั้งขันทีกะกลางคืนของหอท้อหยกไม่ให้ประกาศ เฟิงจิ่นเดินเข้าไปด้วยตนเอง
การก่อสร้างของหอท้อหยกนั้นวิจิตรงดงาม แต่ไม่ได้โอ่โถงกว้างขวาง เฟิงจิ่นเดินไปไม่นานก็ถึงที่พักด้านนอกของจวงลั่วเยียน ให้นางกำนัลและขันทีออกไปให้หมด เหลือเพียงเกาเต๋อจงตามหลัง
เกาเต๋อจงได้ยินเสียงคุยกันภายในห้อง เพื่อไม่ให้ล่วงเกินนายเหนือหัว จึงก้มหัวให้ต่ำที่สุด ยืนนิ่งๆเป็นหุ่นด้านหลังหวงช่าง
“นายหญิง หัวเข่าเป็นรอยช้ำใหญ่ถึงขนาดนี้ นู๋ปี้ไปเรียกแพทย์หลวงให้ไหมเจ้าคะ” หยุนซีดึงขากางเกงของจวงลั่วเยียนถึงหัวเข่า ถึงเห็นว่าเข่าที่นวลเนียนบัดนี้มีวงสีเขียวเข้ม ดูแล้วน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
“ไม่ต้องหรอก” จวงลั่วเยียนไม่ได้เป็นหญิงสำออย เห็นรอยช้ำที่หัวเข่าทั้งคู่สองวงก็เอ่ยด้วยเสียงเรียบ “เห็นว่าน่ากลัว แต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไร เจ้าไม่ต้องตื่นตูมเกินไป ถ้าเรียกแพทย์หลวงมาคงเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นอีก”
หยุนซีขมวดคิ้ว ก็รู้ว่านายหญิงพูดถูก เรื่องนี้กำเนิดจากหยวนเฟยต้องการกลั่นแกล้ง ถ้าเรียกแพทย์หลวงแล้วเรื่องนี้รู้ถึงหูของหยวนเฟย คงไม่จบแค่หัวเข่าช้ำแน่ “แต่ว่าถ้าหวงช่างทรงเสี่ยงป้ายมาที่นี่เล่าเจ้าคะ จะทำอย่างไร”
จวงลั่วเยียนเอียงคอไปมองแสงเทียนนอกหน้าต่างวูบวาบไปมาเดี๋ยวจ้าเดี๋ยวดับ น้ำเสียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ทางเดินหน้าหอท้อหยกมีตะไคร่ขึ้นเจ้าไม่เห็นหรือ?”
“เจ้าค่ะ...” หยุนซีทำน้ำเสียงหดหู่ บิดผ้าร้อนในมือประคบไปที่รอยช้ำ ก็ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเบาๆของนายหญิง
“นายหญิง...”
“ไม่เป็นไร” เสียงของจวงลั่วเยียนเหมือนยิ้มได้ “เมื่อก่อนนายหญิงของพวกเจ้าก็โดนโทษมาไม่น้อยไม่ใช่หรือ ข้าไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น บิดผ้าร้อนเอาไว้ให้ข้าก็พอ แล้วออกไปนอนกันได้แล้ว”
“นายหญิงเป็นเช่นนี้นู๋ปี้จะหลับลงได้อย่างไร” หยุนซีก็สังเกตเห็นแสงเทียนที่วูบไหวเช่นกัน นายหญิงเคยสั่งไว้นานแล้วว่าถ้าหวงช่างเสด็จมาตอนกลางคืนอย่างกะทันหัน ให้แกว่งโคมเทียนไปมา เพื่อให้คนในห้องมีเวลาเตรียมตัว ผลออกมาแล้วว่าการมองการณ์ไกลและระมัดระวังทุกเรื่องของนายหญิงนั้นถูกต้องที่สุด
“ก่อนหน้านี้หวงช่างไม่ได้ทรงเสด็จมา ใครเห็นนายหญิงก็รังแกเอาๆ ขนาดหม่าเจี๋ยอยวี่ที่ชั้นสูงกว่านายหญิงในตอนนั้นไม่เท่าไหร่ยังลงโทษให้นายหญิงคุกเข่าหลายชั่วยาม ผ่านมานานค่อยยังชั่วขึ้นบ้างแล้ววันนี้ก็กดทับลงแผลเดิมอีก นู๋ปี้เห็นแล้วสงสารนัก” หยุนซีวางผ้าประคบร้อนลงไปเบาๆ “เจ็บหน่อยนะเจ้าคะ อดทนหน่อย เมื่อเลือดช้ำกระจายไปก็ค่อยยังชั่วแล้วเจ้าค่ะ”
เกาเต๋อจงอยู่ด้านนอกห้องได้ยินบทสนทนาในห้องอย่างชัดเจน แม้ไม่เห็นสีพระพักตร์หวงช่าง ก็รู้ว่าเจ้าอยู่หัวนั้นทรงไม่สบพระทัยเป็นแน่ เมื่อเห็นหวงช่างกำลังก้าวพระบาทเข้าประตูไป เกาเต๋อจงก็รีบประกาศด้วยเสียงกังวานว่า “หวงช่างเสด็จ”
เมื่อเฟิงจิ่นนำเกาเต๋อจงข้ามประตูไปแล้ว เฟิงจิ่นเห็นเจาผินสวมชุดกระโปรงหลวมคุกเข่าลงกับพื้น ผมยาวกระจายรอบร่าง เครื่องประดับเพียงชิ้นเดียวยังไม่มี ในหัวเฟิงจิ่นมีเพียงสี่คำ...ข้าพบรักเจ้า
เพื่อเป็นการฉลองCommentsครบ 500 นะคะ ขอมอบตอนใหม่ให้อีกตอนในวันนี้
วันหยุดอ่านกันให้สนุกนะคะ
ปล. น้องสาวที่รักวันนี้พี่ลงแล้วนะ กลับมาบ้านอย่ามาทวงนิยายระยะประชิดด้วยท่าFrog Splash เจ้อาจตายได้นะ TT^TT
ตอบคำถาม
Moda ขอบคุณค่ะ ริบ ดีกว่าจริงๆด้วย แปลตรงตัวจีนไปหน่อยว่ารับค่ะ เดี๋ยวแก้นะคะ
ploykissme จากตอนที่สี่ อายุมากกว่าหวงช่างปีหนึ่งก็ 29 ชันษาค่ะ
crim12 และ เจ้าจันทร์ สองคนนี้นี้อินจัด 55+ ไม่สปอยรออ่านเองค่ะ เข้าข้างนางเอกได้ตามสบายค่ะ ช่วยชีหน่อย แม้จะเก่งมายาแต่ก็ตัวคนเดียวนะ
So Om Som ได้ค่ะ เดี๋ยวเอาลงไว้ให้หน้าหลักนะ ฉบับปรับปรุงแล้ว อิอิ
Hnontaopuy ข้าน้อยไม่ได้สามมิติ แต่4Gแล้ว เกริก อีนี่นี่ก็มีคนมาปักไม้ก็เลื้อยเลยทีเดียว ขอบคุณที่ชอบค่ะ มีอะไรควรปรับปรุงโปรดบอกข้าน้อย พบกันแล้ว 5 พัน Mbpsไฮสปีด เร็วพอมั้ย ห้ามตอบไม่พอเด็ดขาด สองตอนนี่แทบไม่ไหวแล้ว
Greatest moon เก็บอาการค่ะ เก็บอาการ เรื่องนี้ไม่มีบรรยายฉากอย่างว่าละเอียดนะคะ ไม่ได้ลดทอนเองนะ เหมาะสำหรับเด็กดีอย่างยิ่ง หวงตี้มาหอท้อหยกตามคำเรียกร้องแล้ว ไม่ต้องเซ็งเป็ดตอนที่แล้ว เพราะตอนนี้จะเซ็งกว่า เฮียถึงแค่ข้ามประตู
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เหมือนกับสุนัขจิ้งจอกที่อยู่ในคราบแมวบ้านๆที่แสนน่ารัก โอ๊ยยยยยยย
คือ รอบคอบ เจ้าแผนการตลอด พี่ท่านได้ยินแบบนี้ยิ่งเห็นใจสินะ
หวงช่างติดบ่วงน้องแล้วแหละ 5555 อ่านแล้วติดมากกกกก ฮืออออ
นางเอกนี้เก่งกล้าสามารถจริงที่ปรับตัวได้เร็ว
แถมยังเจ้าแผนการอีก
นับถือๆ
ไม่เคยอ่านหนังสือพิมพ์จีนรู้เรื่อง ชอบย่อเหลือคำสั้นนิดเดียว จะหาหนังสือน่าอ่านต้นฉบับจีนมาอ่านก็จับจด อ่านไม่จบซักที อ่านภาษาอังกฤษง่ายสบายกว่าเยอะเลย เฮ่อ..แล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาล่ะเนี่ย
หม่าเจี๋ยอวี่
เปลี่ยนเป็น
หยวนเฟย ไหม?
หม่าเจี๋ยอวี่ ตำแหน่งต่ำกว่านางเอกไม่ใช่หรอ
เพราะที่ลงโทษนางเอกคือหยวนเฟยไม่ใช่หรือคะ?
จะรอนะคะ
ภาวนาให้ต้นฉบับไม่เลิกแต่งไปก่อน ฮี่ๆๆๆ