ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมนางสามแผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #3 : องค์หญิงแห่งหนี่เจิน 2

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 57


    สิบห้าวันต่อมา ในที่ลานประชุมของเผ่าหนี่เจิน หัวหน้าเผ่า ท่านหญิง ฉีเคอจงหนาน ฉีเคอหลิงเฟย ขุนศึกต่างๆ ขุนนางผู้ใหญ่ ตลอดจนท่านผู้เฒ่าประจำเผ่า มาประชุมกันโดยพร้อมเพรียง  เมื่อเห็นทุกคนมากันครบแล้ว ฉีเคอหลุนหนานจึงลุกจากบัลลังก์แล้วเดินออกมากลางลานประชุมแล้วกล่าวขึ้นมา ที่ข้าเรียกทุกท่านมาในวันนี้เพราะข้ามีเรื่องที่ต้องการจะหารือกับทุกท่าน เวลานี้จงหนานก็โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ข้าคิดว่าเข้าสมควรจะเป็นผู้สืบทอดของข้าแล้ว ข้าจะตั้งให้เขาเป็นรัชทายาทของข้า ทุกท่านมีความเห็นอย่างไรบ้าง ขุนพลจิ้ง ลูกขึ้นและกล่าวว่า ข้าขอเป็นตัวแทนขุนพลทุกท่าน ว่า พวกเราขอสนับสนุนองค์ชายจงหนาน เพราะพวกเราประจักษ์แล้วว่าองค์ชายมีฝีมือในการศึกหาเป็นรองผู้ใดไม่ ไม่เมื่อไม่มีใครคัดค้านข้าฉีเคอหลุนหนานอ๋องแห่งหนี่เจินขอประกาศตรงนี้ว่า ข้าขอแต่งตั้งฉีเคอจงหนานเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งอ๋องต่อจากข้า รับตราตั้งในวันที่เขาสมรส เมื่อเหล่าขุนนางได้ยินท่านอ๋องเป็นกาศเรื่องการแต่งงานของอ๋องน้อย จึงมีเสียงพึมพำๆๆ เบาๆเกิดขึ้น ฉีเคอหลุนหนานจึงประกาศต่อไปว่า ข้ากับอ๋องน้อยเราคุยกันแล้วเรื่องการแต่งงาน อ๋องน้อยเลือกสตรีมาสองนางคือองค์หญิงแห่งซีเซี่ยกับองค์หญิงแห่งทิเบต ข้าเห็นว่าควรให้พวกท่านช่วยตัดสินใจด้วยว่า อ๋องน้อยควรแต่งงงานกับใครดี เจ้ากรมคลังลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า ข้าเห็นว่าควรเลือกองค์หญิงจากซีเซี่ยเพราะซีเซี่ยเป็นเพื่อนบ้านเราแล้วยังเป็นแคว้นที่มั่งคั่งถ้าหนี่เจินเราประสานไมตรีกับซีเซี่ย แคว้นๆข้างเคียงก็ไม่กล้าจะรุกรานเรา ขุนพลเจี๋ยลุกขึ้นบ้างแล้วกล่าวต่อไปว่า แต่ข้าไม่เห็นด้วยกับท่านเจ้ากรมคลัง ข้าว่าควรแต่งงานกับองค์หญิงทิเบต ถึงทิเบตจะไม่ใช่ดินแดนที่ติดกับเราโดยตรง แต่การทหารเข้มแข็งและยังติดกับแคว้นซีเซี่ยและแคว้นเหลียว หากแคว้นใดคิดรุกรานเรา เราสามารถขอกำลังให้เขาปลุกแคว้นที่รุกรานเราได้ และเราสามารถกระหนาบทัพข้าศึกได้ จากคำที่ทั้งสองท่านกล่าวมา ข้าฉีเคอหลุนหนานฟังแล้วก็ว่ามีเหตุผล ทุกท่านมีความเห็นว่าอย่างไรกันบ้าง หลังจากที่ดูการออกเสียง ข้าจะเลือกองค์หญิงจากทิเบตให้แต่งงานกะอ๋องน้อยจงหนาน และเรื่องสุดท้าย ข้าจะส่งองค์หญิงหลิงเฟยไปยังแคว้นหลี่เพื่อถวายตัวเป็นพระสนมเพื่อแสดงถึงไมตรีที่เรามีให้เขา ภายในระยะเวลาอีก 3 เดือนข้างหน้าข้าต้องการขุนพลไปคุ้มครององค์หญิงในการเดินทางไปแคว้นหลี่มีผู้ใดจะรับอาสางานนี้บ้าง ยังไม่ทันที่จะมีผู้ใดที่จะทันได้คิด เอี้ยนตันก็ลุกขึ้นแล้วพูดขึ้นว่า ข้าขุนพลเอี้ยนตัน ขอถวายการอารักขาองค์หญิงตลอดการเดินทางและจะคอยดูแลอยู่ที่แคว้นหลี่ต่อไปพะย่ะค่ะ ท่านคิดดีแล้วหรือท่านขุนพล ฉีเคอหลุนหนาน ถามเพื่อความแน่ใจ ข้าคิดดีแล้วต้าอ๋องและไม่มีวันเปลี่ยนใจ เอี้ยนตันกล่าวและมองไปยังหลิงเฟยด้วยสายตาที่มองแล้วเศร้านัก

    หลังจากการประชุมหลิงเฟยเดินออกมา ซึ่งพบกับเอี้ยนตันซึ่งยืนคอยนางอยู่แล้ว ทั้งสองมองตากันแล้วหลิงเฟยก็กล่าวว่า พี่เอี้ยนตันท่านไปขี่มแป็นเพื่อนข้าหน่อยซิ หลังจากที่ทั้งสองขี่ม้าออกจากเมืองมาจนถึงกลางทุ่งหญ้าแล้ว หลิงเฟยก็หยุดม้า แล้วกล่าวขึ้นว่า พี่เอี้ยนตันไม่น่าเชื่อนะที่วันหนึ่งเราต้องพลัดพรากจากกัน ข้าขอบใจพี่นักที่พี่จะอารักขาข้าไปแคว้นหลี่   ข้าเคยฝันนะว่าวันนึงข้าจะได้แต่งเข้าสกุลเอี้ยน ของพี่ ได้ปรนนิบัติพี่ แต่มันคงไม่มีอีกแล้ววันนั้น ไม้รู้ว่าอนาคตข้างหน้ามีอะไรรอข้าอยู่ ข้าไม่มีสิทธิจะรู้ได้เลยว่าจะได้อยู่ในทุ่งหญ้าแบบนี้อีกหรือไม่  พี่เอี้ยนข้าถามท่านไดไหม ว่าท่านักข้าไหม เฟยหลิงทำไมเจ้าถามแบบนั้นล่ะ ข่เอี้ยนตันขอสาบานต่อฟ้า ข้าขอรักแต่ฉีเคอหลิงเฟยคนเดียวตลอดชาตินี้ หากช้าผิดคำสาบานวันใดชีวิตนี้ข้าขอมอบให้หลิงเฟยให้นางทำอะไรกับข้าก็ได้ เอี้ยนตันกล่าวขี้น จากนี้ไม่รุ้เราจะได้พบกันอีกเมื่อไหร่ เพราะข้าคงต้องฝึกกริยามารยาทกับท่านแม่อีกตามที่ท่านพ่อสั่ง วันนี้ท่านช่วยพาข้าเที่ยวไปในโลกกว้างของเราชาวหนี่เจินได้ไหม ข้ากลัวว่าข้าจะไม่ได้กลับมาเหยียบแผ่นดินหนี่เจินอีกแล้ว หลิงเฟยกล่าวขึ้นแล้วเดินออกไปอย่างทอดถอนใจ  เอี้ยนตันควบมาตามมาแล้วกระโกนว่า อยากเที่ยวก็กระโดดขึ้นม้ามาดิ เดินแบบนี้เมื่อไหร่จะถึงเล่า หลิงเฟยจึงกระโดดขึ้นมาตัวเดียวกันนั้นไปกับเอี้ยนตันแล้วขี่ม้าเที่ยวชมธรรมชาติอันสวยงามที่พวกเขาอาจจะไม่ได้เจอพวกมันอีกแล้วในชาตินี้

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×