คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ย้ายที่อยู่ใหม่
เสียงริงโทนเรียกเข้าเป็นเพลงฮิตในหมู่วัยรุ่น ดังหลายรอบกว่าที่ กันดิศ จะเอื้อมมือไปรับ “ฮัลโหล” เขากรอกเสียงลงไปอย่างรำคาญ
“ฉันมาถึงคอนโดนายแล้ว แต่ยามไม่ให้ขึ้นไป”รรินพูดเสียงห้วนๆ เพราะโทรหานาย กันดิศ อยู่หลายรอบกว่าเจ้าตัวจะยอมรับสาย
“มาอะไรแต่เช้าเนี่ยะ วันนี้วันหยุดนะ” เสียงกันดิศไม่สบอารมณ์ซักเท่าไหร่
“นี่มันบ่ายโมงแล้วพ่อคู๊ณ.........”รรินทำเสียงสูงใส่เพื่อให้นายกันดิศตื่น
“ลงไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ เสียงแสบแก้วหูจริง”กันดิศลุกขึ้นจากเตียงโดยไม่เต็มใจนัก ออกจากห้องเพื่อลงมาชั้นล่างของคอนโด
เมื่อเจอหน้า กับยายหน้าจืด ก็เบ้ปากทีนึง “ขึ้นห้อง” กันดิศพูดสั้นๆห้วนๆ แล้วหันหลังเดินตรงไปยังลิฟทันที
“นี่ไม่คิดจะช่วยชั้นยกของหรือไง ”รรินตะโกนออกไปบอกชายหนุ่ม ที่เดินนำไปข้างหน้า
“ยกมาเองได้ ก็ต้องยกขึ้นไปเองได้” กันดิศพูดพร้อมกับยักไหล่ทั้งสองข้าง
“นายนี่นิสัยแย่กว่าที่เราคิดไว้เสียอีก” รรินบ่นกับตัวเอง พร้อมกับจัดแจงยกเป้หลายใบขึ้นสะพายไหล่ พร้อมกับวิ่งตามชายหนุ่มไป
“เอ้า นี่คีย์การ์ดสำหรับเข้าตึกและเข้าห้อง” กันดิศโยนคีย์การ์ดลงบนโต๊ะพร้อมทั้งอธิบายต่อว่า
“ที่นี่มีสามห้องนอน ห้องใหญ่นี่ห้องชั้น ส่วนเธอนอนห้องเล็ก ทางโน้น ห้องกลางชั้นจะเก็บไว้รับแขก กฎของที่นี่คือ ห้ามจุ้นจ้าน เวลาเพื่อนฉันมาเธอต้องอยู่แต่ในห้องเข้าใจไหม” กันดิศอธิบายส่วนต่างๆของห้องด้วยอาการง่วงนอน
รรินพยักหน้ารับ เธอก็ไม่อยากจะจุ้นจ้านซักเท่าไหร่หรอก เพราะเพื่อนนายก็คงนิสัยแย่ๆเหมือนนาย “ชั้นขอใช้ครัวได้ไหม”
“ได้” กันดิศตอบสั้นๆ พร้อมกับเดินเข้าห้องไป
เป็นอันจบบทสนทนาของรรินเมื่อเจ้าของห้องเดินเข้าห้องไปดื้อๆ หล่อนจึงสำรวจห้อง แล้วเริ่มจัดของเข้าห้อง กว่าจะจัดเข้าที่ก็บ่ายแก่ๆแล้ว ออกมาในห้องครัวสำรวจครัวแล้วก็ต้องหน้าเบ้ เมื่อไม่มีอาหารสดอาหารแห้งติดบ้านนี้เลย มีเพียงแต่น้ำอัดลม และเบียร์ไม่กี่กระป๋องในตู้เย็น กับไข่อีกสองสามใบเท่านั้น
“ทำอะไรหน่ะ” กันดิศได้กลิ่นอาหาร จึงเดินเข้ามาในครัว เพราะเขาเองก็ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว จึงเกิดอาการท้องร้องอย่างช่วยไม่ได้
“ฉันทำไข่ตุ๋นนมสดน่ะ ขอโทษที่ต้องใช้ไข่ของนาย พอดีฉันไม่รู้ว่าตลาดที่นี่ไปทางไหน ฉันทำเผื่อนายด้วยนะ” รรินสวมถุงมือผ้า หยิบถ้วยไข่ตุ๋นออกจากซึ้ง ควันฉุยๆ มาวางไว้บนโต๊ะอาหาร
กันดิศนั่งลงแล้วก็จัดการกับถ้วยไข่ตุ๋นตรงหน้า “ยายหน้าจืดนี่ทำอาหารใช้ได้ทีเดียว ไข่ตุ๋นเนียนนุ่ม แถมไม่คาวอีกต่างหาก”
กันดิศเงยหน้าจากชามไข่ตุ๋นหลังจากซดโฮกๆ ก็พบกับรรินนั่งจ้องอยู่ จึงพูดแก้เก้อว่า “ก็ไม่ได้อร่อยมากมายหรอก พอดีฉันหิว”
รรินยักไหล่แล้วถามต่อไปว่า “แถวนี้มีตลาดสดไหม”
“ตลาดสดไม่มี มีแต่ซุปเปอร์มาเกต ตรงข้ามคอนโด” ตอบเสร็จก็ก้มหน้าก้มตา จัดการเจ้าไข่ตุ๋นต่อ
“เย็นนี้ฉันจะออกไปข้างนอก กว่าจะกลับก็เกือบสว่าง เธอก็อยู่ห้องตามสบายนะ”กันดิศเอ่ยหลังจากจัดการไข่ตุ๋นนมสดจนเกลี้ยง
“พรุ่งนี้คุณห้ามตื่นเกินเที่ยง”รรินเอ่ยเสียงเรียบๆ
“ทำไม”กันดิศพูดห้วนๆคล้ายๆกับไม่พอใจกับสิ่งที่รรินสั่ง เขาไม่ชอบให้ใครมาออกคำสั่ง
“เรามีติวกัน จำได้ไหมตามที่ตกลง นี่ก็เปิดเทอมมาสองอาทิตย์แล้ว บางวิชาอาจจะยังไม่ได้เรียนมาก แต่ก็ต้องปูพื้นฐานให้คุณ” รรินยังคงพูดเสียงเรียบๆเช่นเดิม
“เธอเตรียมมาหมดแล้วหรอ สิ่งที่จะสอนชั้น” กันดิศเอ่ยขึ้นอย่างทึ่งๆในยามที่รรินพูดอย่างเอางานเอาการ
“เรื่องนั้นนายไม่ต้องห่วง ฉันรับผิดชอบงานตัวเองเสมอ และชั้นก็เป็นติวเตอร์มาตั้งแต่อยู่มัธยมต้น ฉันเป็นมืออาชีพพอ ”
กันดิศพยักหน้ารับรู้ แล้วกลับห้องห้องไปอีก รรินจึงเก็บล้างครัวแล้วก็ออกจากห้องเพื่อไปแวะซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ต พร้อมกับเดินสำรวจรอบคอนโด
กว่ารรินจะกลับเข้าห้องก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่ม เธอสวนกับกันดิศที่หน้าลิฟท์ ชายหนุ่มเพียงแต่ปรายตามาทางหล่อนแว๊บเดียว ไม่มีคำทักทายใดๆ ก็หายเข้าลิฟท์ไป “นี่นายดิศคงจะต่างคนต่างอยู่จริงๆ” รรินคิดในใจเงียบๆ
รรินกลับมาให้ห้องจัดอาหารเข้าตู้เย็น จัดการธุระส่วนตัว พร้อมกับขึ้นเตียง คิดโน่นนี่นั่นเรื่อยเปื่อย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอจ้องดูเบอร์ก็รู้ว่าเป็นสายทางไกลจากต่างประเทศ มีทั้งความกังวลใจและดีใจเกิดขึ้นพร้อมๆกัน เธอสูดลมหายใจฟืดหนึ่งแล้วกดรับสาย
“สวัสดีค่ะพี่รัก”รรินกล่าวเสียงใส
“รินทำไมไม่บอกพี่เรื่องแม่” ปลายสายอีกฝั่งหนึ่งกล่าวเสียงเครียด
“ริน...อยากบอกค่ะพี่รัก อยากให้พี่รักกลับมา แต่แม่ห้ามไว้”รรินกล่าวเสียงเครือ หล่อนอยากกอดรักษาเป็นที่สุดในตอนนี้
“แม่ทรมารไหม” รักษารู้สาเหตุอยู่แล้ว แม่ต้องไม่ให้เขากลับแน่ๆ แม่มีเหตุผลที่เขาถียงไม่ขึ้นเสมอ แต่เขาก็เสียใจที่ไม่ได้กลับมาดูใจแม่เป็นครั้งสุดท้าย ปล่อยภาระให้แก่น้องสาวฝาแฝดคนเดียวของเขาแบกไว้
“แม่ไม่ทรมานมากค่ะพี่รัก ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว”รรินไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด เพราะไม่อยากให้รักษากังวลไปกว่านี้
“แล้วรินหล่ะ อยู่ได้ไหม มีเงินหรือเปล่า” รักษาเป็นห่วง เพราะรู้ว่าที่บ้านไม่ได้มีเงินเก็บมากมายนัก
“เงินขายบ้านยังเหลือสองสามแสนค่ะพี่รัก แล้วรินก็ย้ายมาอยู่หอกับเพื่อน ทำงานพิเศษนิดหน่อยก็น่าจะพออยู่ได้”รรินโกหกคำโต เพราะไม่อยากให้รักษาเป็นห่วง หล่อนรู้ว่ารักษาอยู่ทางโน้น ก็ไม่ได้สุขสบาย ถึงแม้จะได้ทุนแต่ก็ต้องทำงานพิเศษไปเรียนไปเหมือนกัน
รักษาเชื่อที่น้องสาวฝาแฝดพูดอย่างไม่สงสัย ถึงแม้จะเป็นห่วงรรินอยู่ไม่น้อย เขาก็เชื่อว่าน้องเขาเข้มแข็ง เพราะแม่เลี้ยงเขากับน้องมาให้เข้มแข็งหนักเอาเบาสู้ ไม่ใช่พวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ “แล้วพี่จะรีบกลับให้เร็วที่สุด”
รักษาวางสายไปแล้ว แต่รรินก็ยังคิดหนัก จะหางานพิเศษที่ไหนทำ ไหนจะเรียนเต็มเวลา ไหนจะต้องติวให้นายดิศอีก ถ้าเธอขอทุนจะได้หรือปล่าวนะ จริงสิทุนกู้ยืมก็มี ถ้าไม่ได้ทุนฟรีก็ต้องกู้ยืม ทำไมไม่คิดได้ตั้งนานแล้วนะ คิดได้รรินก็หลับไป เหมือนยกภูเขาออกจากอกก้อนหนึ่ง
ความคิดเห็น