Tired
Couple: lulay
Note: ฉันไม่ไหวแล้ว อึก ชานยอล มันเหนื่อยเหลือเกิน
Etc: ฟิคเรื่องนี้เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ หลังจากดูอซชท. ep.6
"ฮะฮ่าๆ" เสียงของพี่ใหญ่สุดหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขเสียงใสประกอบไปด้วยเสียงนุ่มของอีกคน กำลังแสดงความสนุกและตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด กับการไปถ่ายทำรายการที่ทะเลตอนหน้าหนาว
ผมแอบมองด้านหลังรถที่มีพวกพี่ใหญ่สุดของวงสามคนกำลังเล่นอะไรกันอย่างสนุกสนาน ผมเห็นซิ่วหมินฮยองกำลังหัวเราะอย่างมีความสุขกับคนที่ผมให้เขาไปหมดหัวใจ ผมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกมันทั้งเอ็นดู ทั้งน้อยใจ ทั้งเสียใจ ปะปนกันไปหมด
คุณก็ลองนึกภาพ คนที่เราสนิทด้วยและทุ่มเทใจไปให้เขาจนหมดอยู่ดีๆก็ไปเล่น ไปคุย กับคนอื่นและทำเหมือนเราเป็นแค่คนรู้จักกัน
ผมตัดอารมณ์ที่แปรปวนชวนปวดหัวด้วยการยัดหูฟังและเปิดเพลงเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียง หลับตาไม่ให้มองเห็นภาพบาดใจ ตัดการรับรู้ภายนอกให้หมดก่อนที่น้ำตาจะไหล…
.
.
"อ่า~ ทานอะไรดีหละ?" ผมเดินวนเวียนเเถวๆร้านขายอาหารตาก็มองดูป้ายเมนูที่แต่ละร้านที่นำเสนอ พลางหันไปมองกล้องบ้าง คุยกับตากล้องบ้าง เพื่อไม่ให้บรรยากาศมันน่าเบื่อเกินไป
ก็มันอยู่คนเดียวนี่นา... จะให้ทำไงได้ใช่ไหม?
ผมไม่เข็มแข็งพอที่จะทนเห็นภาพคนที่แอบรักป้อนข้าวป้อนน้ำคนอื่นได้หรอกนะ...
"อั๊ะ! ของผมหล่ะ!" ผมวิ่งไปหน้าร้านอาหารเมื่อถึงคิวของผมและยื่นบิลให้พนักงานผมเดิมกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับอาหารหน้าตาน่าทาน
'อย่างน้อยก็มีพี่ตากล้อง และข้าวต้มเนื้อเป็นเพื่อนคล้ายความเหงาล่ะน่ะ...' ได้แต่ปลอมใจตัวเองระหว่างทานอาหารไป อย่างน้อยๆก็มีไอ่อุ่นจากข้าวต้มนี่แหละช่วยคลายหนาวได้อีกแรงแทนไออุ่นคนผิดสัญญา...
.
.
"พี่เลย์เหนื่อยหรือเปล่า?" เสียงเรียกและแรงสะกิดที่ไหล่ทำให้ร่างบางที่กำลังคิดอะไรเพลินๆสะดุ้ง
มีแต่สมาชิกที่เป็นเกาหลีที่เรียกเขาว่าเลย์เพราะออกเสียงง่าย แต่พวกที่เป็นไชน่าไลน์จะเรียกเขาว่า อี้ชิงกันหมดเพราะติดปาก
"อ่า เปล่านิ ทำไมหรอ? หน้าฉันมันเหนื่อยขนาดนั้นเลยหรอ?" ว่าจบมือขาวก็ยกขึ้นมาลูบๆคลำๆตามใบหน้า จนมือของคนมาใหม่ต้องรีบยกขึ้นหยุดมือขาวไว้เพราะผิวขาวอาจจะแดงเพราะเเรงจับก็เป็นได้
"เปล่าครับ แค่เห็นพี่ไม่ค่อยไปเล่นอะไรเลย เเละได้ยินจากพี่คริสว่าพี่หน่ะหลับมาตลอดทาง เลยคิดว่าพี่เหนื่อยหรือไม่สบายหรือเปล่า?"
ผมได้แต่ส่ายหน้ายิ้มบอกดีโอว่าไม่เป็นไร ทั้งที่สภาพจิตใจนะมันตรงกันข้าม...
"งั้นไปถ่ายรูปกันเถอะ มาเที่ยวทะเลกันทั้งที!" ดีโอจับมือเลย์ให้ลุกขึ้นตามแรงดึง แล้วลากเข้าไปในกลุ่มที่มีคนอื่นๆเล่นกันอยู่
.
.
.
"คนอื่นๆอ่ะเซฮุน?" เสียงใสของเลย์เอ่ยถามน้องคนสนิทเมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าสมาชิกอยู่กันไม่ครบ
"พี่เฉิน พี่แบคฮยอน พี่ดีโออยู่ข้างนอก เขาถ่ายตอนหุ้งข้าวกันอยู่ ส่วนที่เหลือก็อยู่ข้างนอกแหละ
และไปซื้อของอีกอ่ะ พี่เพิ่งตื่นหรอ?"
น้องเล็กนั่งปลายเตียงที่รุ่นพี่ตัวขาวนอนอยู่ ใช้มือยกขึ้นอังหน้าผากเพราะกลัวอีกคนจะมีไข้
"อืม ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็เรียกนะ"
"เค พี่จะนอนต่อหรอ? "
"อืม ยังง่วงอยู่"
บอกกับน้องเล็กแค่นั้นก็ล้มตัวนอน เซฮุนช่วยคนเป็นพี่ห่มผ้าก่อนจะออกไปนอกห้องปล่อยให้คนที่เหลือในห้องนอนไป
ตือ ดึ้ง!
แสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์เครื่องสวยของซิ่วหมินกำลังรบกวนการนอนของร่างบาง และไหนจะข้อความที่ส่งมาไม่หยุดนั้นอีก ร่างบางเลยถือวิสาสะหยิบมันขึ้นมาดูโดยไม่ขอจากเจ้าของที่นอนอยู่ข้างๆเลย แต่เขาเพียงแค่ดูป็อปอัพที่ขึ้นเท่านั้นไม่กล้าเปิดเข้าไปดูตรงๆ
4ข้อความ
Luhan: อย่าแอบหลับล่ะ! กลับไปฉันจะลงโทษนาย
Luhan: นี่!ฉันได้กินโฮต็อกด้วยแหละ! มันอร่อยมาก~
Luhan: อย่าอิจฉาหล่ะ เปาน้อยของฉัน
Luhan: คิดถึงนายจัง~ พวกนั้นทิ้งฉันให้ซื้อขนมคนเดียวอ่ะ!
แค่นั้นเพียงแค่ข้อความสั้นๆไม่กี่ข้อความเท่านั้นเรียกหยดน้ำตาจากร่างบางได้ไม่ยากเขาไม่ใช่คนขี้แยที่จะร้องไห้ออกมาง่ายแต่ครั้งนี้มันไม่ไหวจริงๆ มือเรียวค่อยๆวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมด้วยมือที่สั่นเทา ฟันสวยกัดลงเข้ากันริมฝีปากอวบเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น
ความรู้สึกต่างๆที่อดทนมากลับล้นทะลักออกมาในวันนี้ เพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้น 'คิดถึงนายจัง' คำพูดที่เคยมีให้เขาคนเดียวแต่ในวันนี้มันกลับใช้มันกับคนอื่นคำพูดที่คิดว่าจะมีแต่เราคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยินมัน
รู้อยู่หรอกว่าทุกครั้งที่พวกเขาพูดคุยกันมักจะเเสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ เขาเองเป็นเขาเองที่เลือกจะไม่สนใจ ทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ยิน แต่ทำไม! ยิ่งพยายามหนีเท่าไหร่ มันก็ยิ่งรับรู้มากเท่านั้น
ไม่ไหวแล้ว... ลู่หานฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว...
.
.
.
กว่าสองชั่วโมงหลังจากปิดกล้องเพื่อทำธุระส่วนตัวและจัดแจงสถานที่ให้เข้าที่ก่อนจะเปิดกล้องถ่ายตอนทำกิจกรรมก่อนนอนแต่มันก็ไม่ลงตัวกันสักทีเพราะรองพี่ใหญ่และรองน้องเล็กกำลังเถียงกันอย่างเมามัน
"ไม่เอาอ่ะ! ฉันจะนอนกับซิ่วหมินอ่ะ" น้ำเสียงเอาแต่ใจเอ่ยขัดเทาที่จะนอนข้างรูมเมทเก่าและพี่ของต้นเคารพ
"ไม่รู่ล่ะ! ซิ่วหมินฮยองสัญญากับผมไว้ฉะนั้นผมจะนอนกับซิ่วหมินฮยอง! พี่ก็นอนกับอี้ชิงดิ"
บุคคลที่ถูกพาดพิงถึงไม่ยินดียินร้ายกับการที่ถูกลากเข้าไปเกี่ยวด้วย
"จื่อเทา!!"
"ลู่หานฮยอง!!"
เถียงกันเป็นภาษาเกาหลีไม่นานก็ใช้ภาษาบ้านเกิดที่คล่องปากกว่า สมาชิกที่เหลือก็ได้แต่นั่งดูและเอือมระอากับนิสัยเอาแต่ใจของทั้งสองคน แต่มีมีเพียงคนหนึ่งที่ยืนดูเหตุการณ์ข้างหน้าด้วยความรู้สึกน้อย
'ทำไม... แค่ไม่ได้นอนด้วยกันแค่วันเดียวจะตายรึไง'
ทีเมื่อก่อนยังอ้อนจะนอนแต่กับเขา แล้วทำไม... ทำไม! ฮยองถึงมองข้าม จาง อี้ชิง คนนี้!
'ตึง'
...
สองเสียงที่ทะเลาะกันพากันเงียบกระทันหัน ทั้งห้องต่างตกอยู่ในความสงบเมื่อสมาชิกที่ใจเย็นที่สุด ไม่เคยแสดงอาการใดๆออกมายามรู้สึกแต่จะมีบ้างยามที่อดทนไม่ไหว แต่การกระทำเมื่อกี้นี้คือสิ่งที่บ่งบอกได้ดีว่าเลย์หรืออี้ชิง กำลังหงุดหงิด
"ทะเลาะกันเสร็จแล้วก็บอกด้วย..." บอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงความรู้สึกใดๆก่อนจะเดินออกจากห้อง
"อี้ชิงเป็นอะไรของเขาหน่ะ?" เสียงของเทาถามขึ้นเค้าไม่ค่อยได้เห็นเวลาที่พี่ชายใจดีคนนี้หงุดหงิดหรือโกรธอะไรสักเท่าไหร่ เลยลนลานนึกว่าจะหงุดหงิดตัวเอง
"ฉันเห็นเขานิ่งๆ เหมือนอารมณ์ไม่ดีตั้งแต่ตื่นเมื่อตอนเย็นแล้ว" แบคฮยอนบอก
เขารู้ว่าเลย์ฮยองเวลาหงึดหงิดหรือโกรธจะเงียบๆไม่หือไม่อือ ใช้แค่ความเย็นชาและสายตาเท่านั้นที่บ่งบอกถึงความผิดปกติ และอาการแบบนี้เขาเห็นตั้งแต่เย็นหลังจากที่ซูโฮฮยอง ลู่หานฮยอง และชานยอลกลับมาจากตลาดถึงแม้ตีองหน้ากล้องจะร่าเริง แต่มันก็แปลกๆอยู่ดี
"เฮ้อ~" เขาทำตัวงี่เง่าเกินไปหรือเปล่าใส่อารมณ์ไปแบบนั้นป่านี้สมาชิกคงจะตกใจกันหมด ก็เขาไม่ค่อยเเสดงท่าทีแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่เพราะลู่หานเท่านั้นที่ทำให้เขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เผลอทำอะไรไปโดยไม่รู้ตัว
ร่างบางเสียบหูฟังกับโทรศัทพ์และเปิดเพลงฟังเพื่อคลายความรู้สึกหน่วงๆที่เกิดขึ้นในใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา มันอยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก รู้สึกน้อยใจและสมเพชปะปนกันมั่วไปหมด
"เลย์ฮยอง...^^" ชานยอลคือหน่อยกล้าตายที่ถูกสมาชิกส่งตัวมา อันที่จริงเขาอาสามาเองต่างหากเพราะมีเรื่องที่อยากจะคุยกับร่างบางตรงหน้า
"ขอโทษนะที่แสดงอะไรแบบนั้น" ร่างบางหันมาขอโทษด้วยสายตารู้สึกผิด
"ไม่เป็นไรหรอกผมเข้าใจฮยอง... ฮยอง ยังมีผมยังมีพวกเรามฮยองจะเเสดงความอ่อนแอออกมาบ้างก็ได้ อย่าแบกรับมันไว้คนเดียวอีกเลย... มันเหนื่อยนะทั้งวิ่งหนีและปิดบังความรู้สึกอ่ะ"
ชานยอลจับมือรุ่นพี่ตรงหน้าพลางบีบคลึงให้อีกคนรู้สึกว่ายังมีเขาอีกคนที่จะอยู่เคียงข้างเสมอ
เขารู้มันมาเสมอถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกันร่างบางนี้และได้พูดคุยกันแล้ว เขาพยายามที่จะคอยอยู่ข้างๆเวลาที่ร่างบางนี้รู้สึกเจ็บจากคนใจร้ายที่ไม่เคยรับรู้ว่าตัวเองทำให้คนๆหนึ่งต้องเจ็บปวดขนาดไหนกับการกระทำของตัวเอง
เขาเองก็อยากจะเข้าไปคุยมันให้รู้แล้วรู้รอดแต่ติดที่คนตรงหน้าขอร้อง เลย์ฮยองนั้นแสนดีและบริสุทธิ์เกินไปที่จะโดนความรู้สึกแบบนี้ทำร้าย เขาอยากให้เลย์ฮยองบอกความรักที่บริสุทธิ์นี้ให้ลู่หานฮยองฟังเขามั่นใจว่าลู่หานฮยองจะไม่มีท่าทางรังเกียจเเน่นอน แต่เขาก็ไม่รับประกันความสำเร็จเพราะเขาไม่รู้ว่าลู่หานฮยองรู้สึกกับคนตรงหน้านี้ยังไง บางครั้งไม่สนใจ บางครั้งใส่ใจ บางครั้งละเลย บางครั้งดูแล เพราะยังงี้ไง... มันถึงค้างคา
"ขอบคุณนะ... ฮึก ฉ ฉัน... ฉันไม่ไหวแล้ว อึก ชานยอล" เมื่อมีคนมาสะกิดปากแผลให้เปิดออก ทุกสิ่งที่แบกรับไว้มันก็ไหลออกมาเป็นหยาดน้ำใสที่เปลอะเปื้อนแก้มใส
คนตัวสูงทำหน้าที่เป็นตุ๊กตาตัวใหญ่ให้อีกคนได้ซับน้ำตา แขนยาวโอบกอดถ่ายทอดความอบอุ่นให้กับอีกคน พลางโยกตัวไปมา
"ชิงชิง ร้องไห้ด้วยแหละ ลู่เกอ" เสียงมักเน่ฝั่งจีนพูดออกมาลอยๆเหมือนไม่ต้องการคำตอบ น้ำเสียงที่แตกนุ่มบ่งบอกถึงความรู้สึกผิดที่(คิดเอง)ตนเองกระทำต่อรุ่นพี่ที่รัก
"อืม..."
สมาชิกทั้งหมดรวมตัวกันชั่วคราวที่หน้ากระจกตรงระเบียงมองสองคนข้่งนอกอย่างใจจดใจจ่อ และก็ต้องตกใจเหมือนๆกันเพราะสมาชิกที่ไม่ค่อยจะแสดงความอ่อนแออกมานั้น ร้องไห้ซบอกชาลยอลอยู่
"มีเรื่องอะไรกันนะ นี่! ชานยอล! หันมาสิ!" แบคฮยอนเอ่ยออกมาอย่างคนใจร้อน พล่างทำท่าทางประหลาดๆให้ชานยอลที่กำลังกอดปลอมเลย์ได้เห็น แต่เปล่าประโยชน์ สายตาเหลือบไปเห็นหนึ่งในตัวก่อเรื่องกำลังเดินออกจากกลุ่มและกำลังตรงไปห้องนอนด้วยท่าทางไม่เดือดร้อนอะไร
"ย่า! ลู่หานฮยองจะไปไหน?" เรียกด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดังแต่ไม่มากเพราะกลัวสองคนข้างนอกได้ยิน
"เข้าห้อง"
"นี่พี่ไม่คิดเป็นห่วงความรู้สึกของชิงชิงหน่อยหรอ?"
"ใครบอกนายเทา ว่าฉันไม่เป็นห่วง..."
.
.
"เฮ้อ..." ถอนหายใจเถือกใหญ่หลังจากที่หาเหตุผลต่างๆมาอธิบายให้สมาชิกฟัง ใช่ว่าเขาจะอยากปิดบัง... แต่มันยังไม่พร้อมที่จะให้ใครรู้ในตอนนี้
มือเรียวหยิบไอพอดเพื่อฟังเพลงคลายเครียดกับเรื่องที่ผ่านมา เปลือกตาสีมุขปิดลงปล่อยให้เสียงเพลงขับกล่อมเขาเข้าสู่นิทรา
ฟึบ!
เตียงยุบลงตามแรงกดทับ ลำเเขนที่คุ้นเคยพาดผ่านตัวเขา กลิ่นกายประจำที่ทำให้เขาหวั่นไหว มีเพียงคนเดียวเท่านั้น คนที่มีอิทธิพลต่อหัวใจเขา
"นอนแล้วหรอ?"
ลู่หาน...
"นอนจริงอ่ะ?"
"อ่า อี้ชิงนายหลอกฉันไม่ได้หรอกนะ "
"ช่วยลืมตาขึ้นและหันมาฟังสิ่งที่ฉันจะพูดหน่อยสิ"
ไม่... ถ้าฉันลืมตาแล้วเห็นหน้านาย ฉันกลัว... กลัวคำพูดของนาย กลัวการกระทำที่แสนดีของนาย และกลัวหัวใจตัวเอง
"นิ นายจะไม่ทำใช่ไหม? โอเค งั้นฉันก็จะพูดให้นายฟังอย่างนี้แหละ"
ร่างโปร่งกระชับอ้อมกอดร่างบางให้มากขึ้น เอาใบหน้าของตนซุกกับซอกคอระหงส์พลางสูดกลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างบาง
" ฉันขอโทษนะ... ที่ฉันทำให้นายไม่สบายใจ"
...
" อี้ชิงฉันพึ่งจะมาคิดอะไรได้อย่างหนึ่ง เดี๋ยวนี้ฉันไม่ค่อยเอาใจใส่นายเท่าไหร่ คอยแต่เล่นกับคนอื่นเสมอๆมันอาจทำให้นายรู้สึกไม่ดีหรือไม่ก็ตาม แต่ฉันไม่เคยลืมนายเลยนะ"
นายอย่าพูดเลยดีกว่า ถ้านายไม่ได้รู้สึกถึงคนที่ถูกทิ้งจริงๆ...
" อี้ชิง ฉันขอโทษนะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเราสนิทมากกว่านี้แท้ๆ"
"ลู่หาน พอเถอะ"
อี้ชิงหันมาเผชิญหน้ากับลู่หาน เขาสบตากับัยตากลมโต ภายในนั้นมันสะท้อนเงาเขาอย่างชัดเจน เขารู้สึกถึงสิ่งที่ลู่หานพยายามขอโทษ แต่ในเมื่อยิ่งเขาใจอ่อนเท่าไหร่มันก็คงไม่ส่งผลดีต่อเขาแน่นอน... ดังนั้นเขาควรตัดใจสักที
"ฉัน... ขอโทษนะที่ทำตัวงี่เง่ามากไปหน่อย"
"มันไม่ใช่ความผิดนายนะ อี้ชิง"
"ฉันรู้ตัวดี ฉันถึงพยายามไม่เรียกกร้องอะไร" ถึงแม้สิ่งนั้นมันเคยเป็นของฉันก็ตาม...
"อี้ชิง..."
"ที่ผ่านมาฉันก็อยากอยู่กับตัวเองใช้เวลากับตัวเองดู ที่ฉันชอบไปไหนมาไหนคนเดียวมันก็เป็นความต้องการของฉัน ฉะนั้นอย่าคิดมากกับเรื่องที่ผ่านมา ฉันเข้าใจ..."
"ฉัน... ขอโทษนะ"
อี้ชิงส่งยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดให้คนตรงหน้า มือเรียวตบไปที่หัวไหล่แกร่งเบาๆ
"ฉันว่านายควรพักผ่อนได้แล้วนะลู่หาน"
อี้ชิง มองหน้าคนที่รักเป็นครั้งสุดท้ายซึมซับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ตอนที่เข้าใจกันก่อนจะตื่นมาและพบกับเขาในคนใหม่ ที่จะกลับไปเป็นน้องชายสุดที่รักและซื่สัตย์กับความรู้สึกของลู่หานเหมือนเดิม และตลอดไป...
"ฝันดีนะ"
100%
ความคิดเห็น