ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อัคนีรา ราชาแห่งดวงใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : แรกพบในวัยเยาว์

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.พ. 51


                   

           ณ   ดวงดาวแห่งหนึ่ง ที่มีดินแดนอันสวยงามในอดีตกาล มีการแบ่งพิภพออกเป็น 2  ส่วนคือ  บนพื้นดิน เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ธรรมดา มีการแบ่งการปกครองออกเป็นนครต่าง ๆ  และส่วนของเผ่าที่มีสรรพวิชาอันวิเศษของแต่ละเผ่า ซึ่งเป็นพวกที่อาศัยอยู่บนฟ้า ในน้ำ และใต้ดิน  ซึ่งแต่ละเผ่าพยายามที่จะอยู่กันอย่างสันติ  มีเพียงเผ่าอีลิเม้นท์ที่อาศัยอยู่ใต้ดิน  ที่มีนิสัยชอบแสดงอำนาจข่มขู่ให้เผ่าอื่น ๆ หวาดกลัว และเป็นคู่ปรับที่สำคัญของเผ่าพันธุ์อื่น ๆ

                มหานครเทพอัคนี ซึ่งลอยอยู่กลางมหาสมุทร หากมองจากภายนอกจะเห็นว่ามีเปลวเพลิงสีแดงแกมฟ้าลุกโชติช่วงปกคลุมมหานครแห่งนี้ ซึ่งหากไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเมืองแล้ว ผู้ที่แอบลักลอบเข้ามาก็หมายถึงว่าเอาชีวิตมาทิ้งไว้เนื่องจากเปลวเพลิงนี้  ภายในห้องโถงใหญ่  มีกลุ่มคนซึ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่บ่งบอกถึงฐานะที่ไม่ธรรมดา  มีการร่วมกันประชุมปรึกษาหารือด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดเกี่ยวกับการที่เผ่าอีลิเม้นท์ซึ่งนำโดยเจ้าเอ็นลิน่า จอมโหด ที่นำกำลังออกรุกรานเผ่ามนุษย์ผู้ไม่มีอิทธิฤทธิ์ใด ๆ  ในขณะที่ตัวแทนเผ่าต่าง ๆ กำลังประชุมอยู่ในวิหารหลวงที่ใช้ประชุมนั้น  เด็กสาวตัวน้อยอายุประมาณ  12 ปี  ผู้มีผมมีดำยาวสลวย  นัยน์ตาสีเขียวมรกตชวนมองให้หลงใหลซึ่งแฝงไปด้วยความดื้อรั้นแต่มีแววตาที่มองดูชาญฉลาดผิวขาวเนียนสวยดังงาช้าง ริมฝีปากบางสีกุหลาบได้รูป  รูปร่างที่บ่งบอกว่าในอนาคตต้องกลายเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงามอย่างแน่นอน  กำลังเดินเล่นอยู่ภายในอุทยานดอกไม้ที่มีดอกไม้รูปร่างหน้าตา  แตกต่างจากที่เคยพบเห็น ลักษณะกลีบดอกคล้ายรูปดาวสีเหลืองเหลือบทอง ครั้นสัมผัสถูกกลีบดอกที่อ่อนนุ่มคล้ายกำมะหยี่นั้นก็คล้ายว่าจะกระพริบแสงเมื่อยามต้องมือ และเหนือดอกไม้นั้น  นางต้องประหลาดใจมากขึ้นอีกเมื่อพบเจ้าสัตว์ตัวน้อยที่รูปร่างเหมือนมังกร มีสีทอง แต่กลับมีปีกอยู่ด้านหลังที่กำลังบินเล่นดอมดมดอกไม้อย่างเพลิดเพลินเหมือนสัตว์ตัวนั้นรับรู้ว่ามีผู้พบเห็นจึงได้รีบบินหนีไป  เด็กหญิงจึงรับเดินตามไป และชนเข้ากับบุรุษผู้หนึ่งที่เดินสวนทางมาจนเกือบล้มลงถ้าชายหนุ่มผู้นั้นไม่รั้งตัวเด็กน้อยไว้ 

    ขอโทษค่ะ เด็กน้อยรับกล่าวพร้อมกับย่อตัวและก้มศีรษะลงเพื่อแสดงออกถึงการขอโทษ เมื่อเงยหน้าก็ได้พบกับบุรุษผู้ที่มีผมสีแดงเพลิง  ตาสีฟ้า คิ้วเข้ม  จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางสีสดคล้ายอิสตรี  ใบหน้าสมส่วน รูปร่างสูง สง่า มีลักษณะของผู้ทรงอำนาจแฝงอยู่

              ไม่เป็นไรดอกเด็กน้อย  แต่ว่าเจ้าเข้ามาภายในอุทยานนี้ได้อย่างไร รู้ไหมว่าที่นี้เป็นเขตหวงห้ามของตำหนักนี้  ชายหนุ่มกล่าว

    ข้าไม่ทราบค่ะ  ข้าเดินตามเจ้านั้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงที่นี่ พร้อมทั้งชี้นี้วไปที่ เจ้านั้น ของนาง    ถ้าที่นี้คือเขตหวงห้ามแล้วท่านเข้ามาได้อย่างไร  เด็กน้อยถาม พร้อมกับเงยหน้ามองชายหนุ่มผู้นั้น

    ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ พร้อมยิ้มให้อย่างรู้สึกเอ็นดูเด็กน้อย ข้าคงเดินมาเรื่อย ๆ เหมือนเจ้ากระมัง  ว่าแต่ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อนเลย 

    ข้ามากับท่านตามาซี  แต่ท่านตาเข้าประชุมกับหัวหน้าเผ่าต่าง ๆ อยู่ ข้าจึงมาเดินเล่น แล้วเจ้านั้นคืออะไรค่ะ เด็กหญิงตอบแต่สายตายังคงมองไปที่มังกรน้อยที่เกาะอยู่ที่กิ่งไม้สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร

     เจ้านั้น อ้อ นั้นคือมังกรอัคนี  ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นสายตาของเด็กน้อยที่จ้องมองเจ้ามังกรน้อยอยู่  เจ้าอยากได้หรือ  เช่นนั้นข้าจะมอบมันให้เจ้า แต่มีข้อแม้ว่าเจ้าต้องไม่บอกใครว่ามีเจ้านั่นอยู่ด้วยและห้ามบอกใครว่าเจอข้าที่นี่ 

    เด็กหญิงจ้องมองที่ดวงตาของชายหนุ่มที่มองมาที่ตนเอง พบแต่รอยของความจริงใจและเป็นมิตร ทำไมค่ะ เมื่อไม่ได้รับคำตอบ ข้าไม่บอกใครก็ได้ ข้าอยากได้มังกรน้อยก็จริงแต่ข้าไม่อยากพรากมันไปจากพ่อแม่ของมันเพราะข้ารู้ว่าการไม่ได้อยู่กับพ่อแม่มันน่าเศร้าขนาดไหน  

     ชายหนุ่มพบว่าภายในดวงตาของเด็กน้อยมีแต่ความเศร้าแล้วก็รู้สึกเศร้าใจตามอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับผู้ใดมาก่อน  จึงต้องการที่จะแบ่งเบาความเศร้านั้นให้หายไปจากตวงตาคู่สวยนั้น  มังกรน้อยก็ไม่มีพ่อแม่และดูเหมือนว่ามันต้องการที่จะไปอยู่กับเจ้าด้วย จริงไหมเจ้าตัวซน

     ทันใดนั้น เจ้าตัวซนเหมือนฟังความรู้ ก็ค่อย ๆ บินมาเกาะที่มือของเด็กน้อยที่ยื่นออกมารอรับ พร้อมกับส่งสายตาที่แสดงถึงความยินดี  กระพือปีกน้อย ๆ ของมันอย่างร่าเริง และเอาหัวซุกไซร้กับฝ่ามือของเด็กน้อย  ท่านมอบมันให้ข้าจริงหรือ  

    จริงสิ ชอบไหม    ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นท่าทางของเด็กหญิง

     ข้าขอบคุณท่านมากที่สุดเลย เขามีชื่อไหมค่ะ นางเริ่มเปลี่ยนคำเรียกเจ้านั้น ด้วยความรู้สึกถูกชะตาและถูกใจยิ่งนัก

    ยัง  เจ้าก็ตั้งชื่อให้มัน  เออ  เขาเสียสิ  ชายผู้นั้นตอบด้วยเสียงอ่อนนุ่ม

    ข้าจะดูแลมันให้ดีที่สุดเลย  ไปอยู่กับข้านะเจ้ามาดาก้อน  เจ้ามังกรน้อยทำท่าทางที่แสดงออกว่าดีใจมาก และเต็มใจที่จะอยู่กับเด็กหญิง

    จากนั้นเด็กหญิงได้ถอดต่างหูรูปหยดน้ำ สีขาวอมฟ้าและเขียวใสออกมาจากหูข้างขวาส่งให้ชายหนุ่ม เพื่อตอบแทนท่าน นี่คือหยดน้ำตาแห่งมหาสมุทรหรือไข่มุกแห่งทะเล เมื่อใดที่ท่านต้องการอยู่ในน้ำ ให้ท่านคล้องไว้ที่คอจะทำให้ท่านสามารถหายใจใต้น้ำได้  ข้าขอมอบให้เป็นของตอบแทนน้ำใจท่านค่ะ 

     เจ้ามอบให้ข้าแล้วตัวเจ้าเล่า ชายหนุ่มถาม พร้อมกับมองหน้านางสลับกับของที่อยู่ในมือนาง

      ข้าไม่ต้องใช้ก็สามารถหายใจในน้ำได้ และน้ำตาแห่งมหาสมุทรนี้ก็เป็นของข้า ข้าจะมอบให้ผู้ใดก็ได้  แต่ถ้าท่านไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร  เด็กหญิงตอบด้วยสีหน้าบึงตึงและหดมือที่ยื่นไปตรงหน้าคู่สนทนากลับมา  แต่ถูกชายหนุ่มรั้งไว้ด้วยสัมผัสที่แผ่วเบา

      เจ้านี้ช่างขี้ใจน้อยจังนะ ขนาดเด็กยังเป็นถึงเพียงนี้ โตขึ้นจะยังเป็นอย่างไรนี่  ข้ารู้สึกสงสารคนที่จะเป็นคู่ครองในอนาคตของเจ้าเสียจริง  ชายหนุ่มว่าพร้อมกับหยิบไข่มุกเม็ดนั้นขึ้นมาพินิจดูและเพ่งกระแสจิตเพียงครู่ก็ปรากฏสายสร้อยทองขึ้นร้อยสอดประสานกับไข่มุก จากนั้นจึงนำมาคล้องคอไว้ ข้าจะเก็บรักษาไว้ให้ดีเท่ากับเจ้าดูแลเจ้ามาดาก้อนทีเดียว  ขณะเดียวกันสายตาสองคู่สอดประสานกันเพื่อสื่อถึงการรักษาคำมั่นสัญญาต่อกัน

      องค์หญิงนิต้า องค์หญิงอยู่ไหนเพคะ ตอบซีน่าด้วยเพคะ องค์หญิง  เสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่บอกให้รู้ถึงอาการรีบเร่งของเจ้าของเสียง 

    ข้าต้องไปแล้ว ไม่เช่นนั้นคงจะต้องโดนซีน่าบ่นจนหูชาแน่เด็กสาวบอกและหันไปมองในทิศทางต้นเสียงแต่ยังไม่วายถามคู่สนทนา ข้ายังไม่ทราบว่าท่านชื่ออะไร

    ข้าชื่อ อัคเสียงชาวหนุ่มนุ่มแผ่วเบา แต่คล้ายกระซิบอยู่ข้างหู

    แต่เมื่อเด็กสาวหันหน้ากลับมา ก็หาได้พบผู้ใดในบริเวณนั้นไม่

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×