The Blizzard ฝ่าโครตหิมะพลิกชะตาโลก - นิยาย The Blizzard ฝ่าโครตหิมะพลิกชะตาโลก : Dek-D.com - Writer
×

    The Blizzard ฝ่าโครตหิมะพลิกชะตาโลก

    ติชมกันเต็มที่เลยนะครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,139

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    13

    ผู้เข้าชมรวม


    1.13K

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  17 ก.ย. 54 / 21:43 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Chapter I :จุดเริ่มต้น (Start)
             นับตั้งแต่มีการค้นพบ ดาวอังคาร ดาวที่มีสีแดงดั่งโลหิต จนบาง
    ครั้งมนุษย์อย่างเราๆ ได้ตั้งชื่อ ให้ว่าดาวแดง หรือดาวแห่งสงคราม เนื่องจากไปสอดคล้องกับ ลักษณะของเทพเจ้าของชาวกรีกที่ชื่อว่า
    Ares หรือMars ในตำราปรัมปรา ของชาวโรมันเข้า การค้นพบดาวเคราะห์ที่น่าพิศวงนี้ทำให้ องค์การนาซ่าและ ทุกคนในโลก ล้วนเชื่อว่า ดาวดวงนี้จะเป็นแหล่งที่พักพิง เป็นบ้านหลังใหม่ของมนุษย์  มันคือความหวังของมวลมนุษยชาติ เหตุผลก็คือ ดาวอังคารมีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะสามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ องค์ประกอบทางกายภาพของตัวดาวเคราะห์เอง อุณหภูมิที่เหมาะสมและใกล้เคียง กับ โลก ดาวเคราะห์ที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน ระยะห่างระหว่างโลกและดาวอังคาร ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเคลื่อนย้าย สิ่งต่างๆที่อยู่บนโลก ให้ไปถึงดาวที่ว่านี้ และที่สำคัญบนดาวสีแดงที่ว่านี้ยังพบธารน้ำแข็ง ซึ่งมีองค์ประกอบหลักของมันก็คือ น้ำ หากจะพูดถึงน้ำนั้นคงกล่าว ถึงความดีเลิศของมันไม่หมดในเพียงแค่คำนิยาม และการให้ความหมายใน พจนานุกรม หรือ ดิกชันนารีเล่มใดเล่มหนึ่ง แต่จะว่า ไปแล้ว น้ำก็คือ สิ่งที่สำคัญมากๆในการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตบนโลก ดาวเคราะห์ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุด ในความคิดของใครหลายๆคน ดังนั้นความคิดที่ว่า ดาวอังคาร คือบ้านหลังใหม่ของมวลมนุษยชาติก็คงไม่ผิดนัก รวมทั้งตัวผมเองก็เชื่ออย่างนั้นเช่นเดียวกัน

    1 ธันวาคม ค.ศ. 2050 
    กริ๊ง กริ๊งงง กริ๊งงงงงงง 
    ตื่นได้แล้วจะนอนไปถึงไหนกัน    เสียงตะวาดดั่งลั่นบ้านเป็นเสียงที่คุ้นเคยแต่ผมกลับไม่เคยชอบเลยซักครั้ง

    แกจะนอนไปถึงเมื่อไหร่กัน วันนี้แกต้องออกเดินทางแล้วไม่ใช่หรือไง   แม่พูดพลางดึงผ้าห่มออกจากตัวผม

    เพิ่ง จะตีห้า เองนะแม่ผมขอนอนต่ออีกสิบนาทีนาทีนะครับ   ว่าแล้วผมก็เลื่อนผ้าห่มที่แม่เพิ่งดึงออกไปสักครู่กลับเข้ามาห่มตามเดิม

    ไม่ต้องเลยวันนี้แกต้องตื่นมาตักบาตรก่อนออกเดินทางนะ มันเป็นธรรมเนียมของบ้านเราแกก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ แม่ตะคอกใส่ ผมเหมือนทุกๆครั้งที่ผมต้องตื่นไปโรงเรียน หรือไปมหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว เพราะความจริง วันนี้ผมจะต้องออกเดินทางไปยังประเทศที่ไกลแสนไกล ความจริงมันอาจจะไม่ใช่ประเทศซะทีเดียว แต่มันคือ ดินแดนที่เป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ดินแดนที่ น้อยคนนักจะได้ไป ดินแดนที่มีสิ่งมีชีวิตเพียงไม่กี่ชนิดอาศัยอยู่ ดินแดนที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ดินแดนแห่งนี้เรียกว่า ขั้วโลกใต้นั่นเอง

    ไปอาบน้ำแต่งตัวซะ แม่จัดของใส่บาตรไว้ให้แล้ว พ่อแกก็รออยู่นานแล้วด้วย เสียงแม่ดูนุ่มนวล และปนเศร้า เพราะในใจลึกๆแล้วแม่ผมคงคิดถึงผมไม่ใช่น้อยกับการที่ ต้องเห็นลูกจากไปนานๆเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผมต้องออกจากบ้าน

    เอาน่าแม่อย่าเศร้าไป ครั้งนี้มันช่วยไม่ได้นี่ครับผมได้ทุนวิจัยจากองค์การวิจัยพันธุ์พืชสำหรับอนาคต ของสหประชาชาติ ครั้งนี้ผมเชื่อว่าผมต้องนำชื่อเสียงกลับมาประเทศไทยของเราให้ได้เลยครับแม่เชื่อผมสิ ผมฝืนยิ้มเพื่อให้แม่สบายใจแต่ความจริงแล้วผมก็เศร้าใจไม่ใช่น้อยเลยที่ต้องจากแม่ไปในดินแดนที่แสนไกลและอันตราย  หลังจากนั้นผมก็ไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวใส่บาตรและออกเดินทาง
    อ่าว ลงมาแล้วหรอจิ๋ว ต้องให้แม่เขาขึ้นไปปลุกอยู่เรื่อยเลยโตแล้วนะ พ่อแซวอย่างอารมณ์ดีที่ได้เห็นหน้าลูกชาย

    ก็ผมง่วงนี่ครับเมื่อคืนก็ทำงานวิจัยซะดึกเลย นอนยังไม่ถึง แปด ชั่วโมงเลยเนี่ย   ผมพูดพลางหาวหวอดให้พ่อดู

    หะ ! แปด ชั่วโมง ถ้าแกนอนขนาดนั้นแกก็ไม่ต้องไปทำมาหากินอะไรแล้วแหละ พ่อพูดพลางยกของใส่บาตรมาให้ผม

    ไปตักบาตรได้แล้วขืนมัวยืดยาดเดี๋ยวพระท่านจะกลับวัดเสียก่อน ผมรับของจากพ่อจากนั้นก็เดินไปหน้าบ้านเพื่อรอพระเดินมารับบาตร   หลังจากที่ได้ใส่บาตรแล้วเราสาม คนพ่อแม่ลูก ก็นั่งคุยและล่ำลากันพักใหญ่น้องชาย ของผมก็เดินลงมา

    ไปกันยังครับพี่ เดี๋ยวผมขับรถไปส่งที่สนามบิน ผมพยักหน้าพลางโผไปกอดพ่อแม่ และกราบเท้าท่านก่อนที่จะออกจากบ้าน

            บรื้น บรื้น ๆๆๆ เสียงสตาร์ทรถดังขึ้น ในใจของผมเริ่มสั่น ผมหันไปมองบ้านที่ผมเคยหลับนอนมานานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินทาง ตัวบ้านมีสองชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนที่ทำจากปูน ส่วนด้านบนเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้สามารถมองเห็นท้องฟ้าได้ตลอดเวลา เมื่อแสงแดดแรงผมสามารถปิดกระจกและเปลี่ยน บรรยากาศภายในให้เป็นสถานที่ต่างๆได้ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา ป่าไม้ ทะเล หรือแม้แต่จักรวาล ส่วนทางเดินหน้าบ้านมีหนามหญ้าเล็ก ที่ผมและน้องเคยขุดดินเล่นในสมัยเด็กๆ

     พี่ เป็นอะไรรึเปล่าครับทำไมหน้าซีดแล้วเหงื่อก็ออกเยอะขนาดนี้ น้องผมถามด้วยความประหลาดใจทั่งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่าผมเป็นโรคกลัวความสูง

    แกไม่ต้องมาแกล้งโง่เลยนะ ให้ตายเหอะพี่ไม่ชอบเลยไอรถบินได้สมัยนี้เนี่ย ผมพูดเสียงสั่นด้วยความกลัวที่ไม่กล้าแม้แต่จะมองลงไปข้างล่าง

    โหว ! พี่ นี่มัน ปีค.ศ.2050 แล้วนะครับ คนเขาก็ใช้รถบินกันหมดแล้วพี่พูดเหมือนพี่เกิดเมื่อ ห้าสิบ ปีที่แล้วแหนะ น้องผมหัวเราะเยาะด้วยความสุขใจ และไม่นานผมก็ถึงสนามบินสุวรรณภูมิสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

            หลังจากที่มีการเปิดการค้าเสรี ในปี ค.ศ. 2015 ประเทศต่างๆในภูมิภาคอาเซียนมีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด เทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ มีการใช้หุ่นยนต์ มาทำงานแทนคนในบางอย่าง เช่น หุ่นยนต์ร้านสะดวกซื้อ หุ่นยนต์ขายตั๋วหนัง หุ่นยนต์ทำความสะอาด และอื่นๆอีกมากมายที่หุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่ไม่มีสามัญสำนึกจะสามารถทำได้ มีการใช้รถยนต์ที่สามารถบินได้เป็นพาหนะหลักในการเดินทาง ส่วนทางภาคพื้นดินนั้น มีการเดินทางที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่สามารถเดินทางข้ามจังหวัดในเวลาเพียงไม่กี่นาที หรือรถไฟฟ้าใต้ดินภายในกรุงเทพที่มีมากมายหลายสายทำให้ผมสามารถไปไหนมาไหนได้ทั่วกรุงเทพโดยไม่ต้องเสียเวลานั่งรถหลายต่อ รถ ขสมก.ก็มีการจัดระบบใหม่ รถเมล์ทุกคันนอกจากจะใหม่แล้วคนขับยังดูสุภาพทำให้รถเมล์น่าใช้ยิ่งขึ้น นอกจากการเดินทางแล้วระบบเครือข่ายทางสังคมอย่าง facebook และ twitter ก็คงยังได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจะ หกสิบ ปีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการเปิดใช้ระบบ 5G โดยการติดต่อสื่อสารทั้งหลาย สามารถทำได้ง่ายมากเพียงแค่คลิก อย่างเช่นผมกับแม่เวลาห่างกันก็มักจะคุยผ่านการ เชื่อมต่อในระบบ 5G แม่ผมสามรถเห็นผมในทุกอิริยาบถในภาพ สาม มิติ อ๋อลืมบอกไปตอนนี้ iPhone ของ Apple หลังจากที่ สตีฟ จอบส์ ลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ Apple ก็ได้พัฒนาจนมาถึง iPhone X แล้ว และยังมียอดขายสูง ติดต่อกันมาเป็นอันดับ หนึ่ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่จะว่าไปแล้วการที่เทคโนโลยีของมนุษย์พัฒนามาถึงจุดนี้ได้ถือว่า เกินจินตนาการไปมาก มันเป็นความฝันของใครหลายๆคนในยุคก่อนๆ แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากการพัฒนาที่ก้าวกระโดดของเทคโนโลยีในสมัยนี้ก็คือ การที่เราต้องสูญเสียความมั่งคั่งแห่งชีวิตโลกนั่นคือ การที่เราต้องสูญเสียความสมดุลทางธรรมชาติไป ทรัพยากรทางธรรมชาติหลายอย่างถูกทำลายไป และไม่มีทีท่าว่าอัตราการลดลงนั้นจะหยุดอยู่แค่ในค.ศ.นี้ กองขยะและ
    อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกใช้แล้วถูกนำมาทิ้งปีละหลายล้านตัน ทำให้ปัจจุบันขยะพวกนี้เป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่แล้วจะมีสารประกอบที่ก่อให้เกิดอันตราต่อมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น ตะกั่ว แคดเมียม โบรมีน เบริลเลียม สารหนู นิกเกิล ลิเทียม ที่ล้วนแล้วทำให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์อย่างเราๆเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่ารัฐบาลของทุกๆประเทศจะพยายามหานโยบายต่างๆเพื่อที่จะนำอุปกรณ์เหล่านี้กลับมาใช้ใหม่ แต่ก็ไม่เป็นผลนักเนื่องจากต้นทุนการนำอุปกรณ์เหล่านี้มารีไซเคิล นั้นต้องใช้งบประมาณอย่างมากซึ่ง มันก็มากเกินกว่าที่ประเทศไหนจะรับได้ ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดของมติสหประชาชาติคือ การย้ายถิ่นฐาน ใช่แล้วการย้ายถิ่นฐานที่ว่านี้ก็คือ การหาบ้านใหม่ที่เหมาะกับพวกเราทุกๆคน บ้านที่เหมือนโลกใบที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งคำตอบก็ออกมาค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า บ้านหลังใหม่ของพวกเราก็คือ ดาวอังคารนั้นเอง หลังจากมีมติที่แน่ชัดแล้ว ทุกๆประเทศล้วนตื่นตัวและพยายามเสาะหาวิธีที่จะไปใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคารด้วยความปกติ อันหมายถึงปกติเหมือนที่เวลาอยู่บนโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอากาศ อาหาร และปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย ที่ทำให้ผมและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต้องมาระดมกำลังและสมองในการวิจัยเรื่องต่างๆที่สำคัญมากๆต่อชาวโลก โดยภารกิจต่างๆได้ถูกกระจายไยัง บุคคลต่างๆที่สหประชาชาติเห็นว่าเหมาะสมกับงานนั้นๆทำ และภารกิจที่ผมได้รับมอบหมายก็คือการวิจัยและหาพันธุพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีบนดาวอังคาร บางทีนี่อาจจะเป็นงานวิจัยสุดหินชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะนักวิทยาสตร์หลายๆคนเคยพยายามทำแล้วแต่ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า แล้วทำไมต้องเป็นพืชหลายๆคนอาจสงสัย มันไม่น่าสงสัยเลยถ้าหากเราลองมองจานอาหารที่เราทาน จะพบว่าสิ่งที่เรากินเป็นอาหารหลักไม่ว่าจะเป็น ข้าว หรือขนมปัง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลิตผลที่เกิดมาจากพืชทั้งสิ้น ดังนั้นสิ่งที่ผมกำลังจะไปทำนี้มันอาจจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเด็กหนุ่มคนหนึ่งเลยก็ได้

    ท่านผู้โดยสารโปรดทราบผู้โดยสารท่านใดที่ต้องการเดินทางไปยังขั้วโลกใต้ขอให้ท่านมาที่ gate ในเวลานี้ด้วยคะขอบคุณคะ ผมสะดุ้งเฮือก  ทำไมเสียงมันเหมือนกระเทยควายจังวะ!! ผมคิดในใจ

    รอนานไหม เสียงชายหนุ่มสูงอายุอันที่จริงก็คือเสียงมะกี้ที่ผมได้ยินแต่เพียงแค่เสียงนี้ดูเป็นผู้ชายกว่าเท่านั้นเอง

    อาจารย์มาแบบนี้อีกแล้วนะครับตกอกตกใจหมด คิดว่ากระเทยที่ไหนมาเป่าหู ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนัก

    ไม่นานเลย แค่ 2ชั่วโมง เท่านั้นเอง ว่าแล้วผมก็เอามือขึ้นมากุมหัวพร้อมส่ายหน้า

    ฮ่าๆ นั่งจนก้นชาเลยหละสิ แต่จะออกเดินทางทั้งทีผมก็ขอแต่งตัวหล่อๆหน่อยสิ อีกอย่างนะผมไปเช็กสภาพเครื่องบินส่วนตัวที่ผู้ว่าจ้างเราจัดมาให้หนะ อาจารย์ธวัชชัย อาจารย์ประจำภาคพฤกษศาสตร์ และเป็นหนึ่งในคณะวิจัยเดียวกับผมกล่าวอย่างติดตลก

    ผู้ว่าจ้าง ? ผมงงเล็กน้อยกับคำพูดของอาจารย์ ผู้ว่าจ้างที่หมายถึงนี้ก็คือ องค์การสหประชาชาติที่ออกทุนมาให้เราทำวิจัยกันใช้ไหมครับ ผมเอามือขึ้นมาเกาหัวแกลกๆ

    ก็ใช่หนะสิ อาจารย์ตื่นเต้นมากเลยนะที่ได้มาทำโปรเจคใหญ่ขนาดนี้เป็นครั้งแรก ชายสูงอายุที่ดูภูมิฐาน ไว้หนวดสีเทาและแต่งตัวอยู่ในชุดทักซิโดสีเทา ซึ่งมันไม่เข้ากับบรรยากาศสนามบินเสียเลย กล่าว

                    หลังจากที่เราขึ้นเครื่องบินแล้ว ในช่วงแรกที่ผมขึ้นเค
    รื่องผมใจสั่นและเหงื่อออกมากอาจเป็นเพราะโลกกลัวความสูงของผมที่เป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วผมพยายามไม่นึกถึงมันและอ่านหนังสือฆ่าเวลาไปเพลินๆ หลังจากนั้นไม่นานผมก็พล๊อยหลับด้วยความเพลีย
    ZzzZzzZ
     ไฟไหม้ !!!! เสียงตะโกนดังลั่นใกล้ๆหูของผม อันที่จริงมันดังพอๆกับตอนที่แม่ปลุกผมจากที่นอนเลยทีเดียว

    เห้ย !! ไหน ไฟไหม้ที่ไหน ผมสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ

    ไฟไหม้หัวไม้ขีดหนะ ฮ่าๆๆ อาจารย์ธวัชชัย นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นทั้งอาจารย์และเป็นที่ปรึกษางานวิจัยของผมในหลายๆโปรเจค หัวเราะร่า อย่างอารมณ์ดี

    มามุกนี้อีกแล้ว !! ให้มันน้อยๆหน่อยครับเล่นซะผมตกอกตกใจหมด ตาลุงติ๊งต๊องนี่เป็นอาจารย์ของเราจริงๆหรอวะเนี่ย ผมคิดในใจ

    เมื่อกี้ผมกำลังฝันว่าเครื่องบินกำลังตกหลุมอากาศอยู่เลย พอได้ยินคำว่าไฟไหม้ผมคิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว

    เอาน่า ผมก็แค่มาปลุกคุณเท่านั้นแหละ ถึงที่ๆเราจะต้องลงแล้ว อาจารย์พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น

              ผมมองลอดออกไปนอกหน้าต่างแต่ สิ่งที่ผมได้เห็นกับทำให้ผมต้องประหลาดใจ..บรรยากาศสนามบิน ใช่ที่นี่คือสนามบิน ผมย้ำกับตัวเองในใจ

    เรามาทำอะไรกันที่นี้หรอครับอาจารย์  ผมทำหน้าฉงน เหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งได้เห็นตัวหนังสือเป็นครั้งแรก

    นี่...ผมยังไม่ได้บอกคุณอีกหรอว่าเราต้องไปหาทีมวิจัยคนอื่นๆที่รออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว 

              หลังจากพูดจบผมและอาจารย์ก็ลงจากเครื่องบินและนั่งรถบินต่อไปยัง ท่าเรือระหว่างที่ผมนั่งรถอยู่นั้นผมก็ได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม สภาพบ้านเรือนและตึกระฟ้า ที่สำคัญผมเห็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยบ่งบอกสถานที่ที่ผมอยู่ขณะนี้ HOLLYWOOD ใช่แล้ว ที่นี่คือ ลอสแองเจลิส เมืองท่าที่สำคัญเมืองหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ประเทศมหาอำนาจในทุกๆด้าน 
               อาการของผมกำเริบเหมือนทุกครั้งที่ผมขึ้นที่สูง ผมกำลังวิงเวียนศีรษะ หน้าซีดและมือไม้เย็นอย่างกับศพ

    ผมเกลียดรถบิน เครื่องบิน และทุกๆอย่างที่บินได้ ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชันแต่ก็สั่นเครือด้วยความกลัว

    รวมถึงรถไฟเหอะด้วยหรอ อาจารย์พูดหยอกล้อผมเล่นด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกอาย คนขับรถใช่แล้วเรานั่งแท๊กซี่กันอยู่

    พอเถอะครับ ผมอายถ้าคนขับเค้าฟังออกผมคงเหมือนตัวตลก เราพูดกันด้วยภาษาไทยทำให้คนขับรถฟังไม่ออก

                    ไม่นานนักพวกเราก็เดินทางมาถึงท่าเรือลอสแองเจลิส ที่นี้มีเรือมากมาย ตั้งแต่ เรือหาปลา เรือยอร์ชสุดหรู หรือแม้กระทั่งเรือสำราญที่ดูหรูหรา ใหญ่โตมโหฬารที่น้อยคนนักจะได้ขึ้นไปสัมผัสเว้นแต่ เหล่าคนรวย หรือพวกนักการเมืองระดับสูงเท่านั้นที่พอจะมีโอกาสที่จะได้ไปดินเนอร์กันบนเรือลำนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ผมสะดุดตาก็คือเจ้าเรือยักษ์ลำหนึ่ง มันดูแข็งแรง ทรงพลัง มีการตกแต่งด้วยสีดำทางด้านท้องเรือและส่วนที่เหลือเป็นสีแดงทั้งหมด ด้านหน้ามีการแต่งเติมลูกตาและปากที่มีฟันอันแหลมคม เมื่อมองดูดีๆแล้วจะเห็นได้ว่ามันคือปลาฉลามนั้นเอง ทางด้านขวายาวไปตลอดแนวเรือ มีคำสลักที่เขียนว่า San Antonio Hammer

    ลำนี้แหละที่เราจะใช้ในการเดินทางไปยังขั้วโลกใต้ อาจารย์พูดพลางชี้นิ้วชี้ไปที่เรือลำที่ผมกำลังตกตะลึงอยู่

    มันเป็นเรืออะไรครับเนี่ยถึงได้ใหญ่และดูแข็งแรงขนาดนี้ ผมพูดจากใจจริงว่าเรือลำนี้ทำให้ผมนึกถึงภาพของปลาฉลามที่กำลังแหวกว่ายอย่างองอาจภายใต้มหาสมุทรที่กว้างใหญ่ โดยไม่กลัวสิ่งใด

    เรือตัดน้ำแข็งไง ต่อไปจากนี้เราจะนั่งเจ้านี้เข้าไปสู้พื้นที่วิจัย  หน้าของอาจารย์ตอนนี้ช่างดูภูมิใจกับเรือขนาดใหญ่ที่เราจะได้นั่งเป็นครั้งแรกเสียเหลือเกิน เพราะปกติแล้วเราเคยนั่งกันแต่เรือหางยาวในตอนเด็กๆ ถึงแม้ว่าในกรุงเทพจะไม่ค่อยมีเรือแล้วก็ตาม

    เรือตัดน้ำแข็ง ? ผมงงกับคำพูดของอาจารย์อีกครั้ง

    ทำไมเราต้องใช้เรือด้วยละครับในเมื่อเรา.

    ในเมื่อเรานั่งเครื่องบินไปเลยก็ได้ใช้ไหม อาจารย์รีบพูดแทรกขึ้นมา

    เครื่องบินอาจจะสะดวกก็จริงแต่ที่ๆเราจะเข้าไปหนะเครื่องบินมันบินไม่ได้ เมื่อได้ยินคำตอบนี้ทำให้ผมคลายความสงสัยไปในพริบตา 
              การที่เครื่องบินเป็นพาหนะที่สะดวกก็จริงแต่ว่า เครื่องบินไม่สามารถลงจอดในภูมิประเทศที่เป็นภูเขาน้ำแข็งอย่างขั้วโลกใต้ได้ อุณหภูมิภายนอกก็ติดลบอาจทำให้ใบพัดแข็งจนหยุดทำงานได้ รวมถึงอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆที่เราเตรียมไปทำการวิจัยก็ไม่ใช่น้อยๆ เครื่องบินลำเดียวคงขนไปไม่หมดแน่นอน ดังนั้น เรือลำนี้คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสินะ ผมคิดในใจอย่างมีตรรกะ ราวกับว่าตัวเองเป็น
    เชอร์ล็อก โฮลมส์ เสียอย่างนั้น

    ยินดีต้อนรับสู้เรือ San Antonio Hammer ศาสตราจารย์ธวัชชัย และอีกคนคือนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ดร.ณัฐพล ใช่มั้ยครับ เสียงลูกเรือกล่าวต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น ลูกเรืออีกคนเข้ามาแบกกระเป๋าสัมภาระของพวกเราขึ้นเรือไป

    ห้องของพวกคุณอยู่ชั้นสอง นะครับ ห้อง สองศูนย์หนึ่ง กับ สองศูนย์สอง นี่ครับกุญแจ ขอบคุณครับอาจารย์ว่าแล้วก็รีบพาผมขึ้นเรือไป

    เดี๋ยวครับศาสตราจารย์ อีก หนึ่ง ชั่วโมงมีประชุมนะครับ เจอกันที่ห้องโถงท้องเรือ ห้องโถง รับทราบครับอาจารย์พูดรับไปแบบส่งๆ

                    หลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันเก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวเข้าห้อง ผมใช้เวลาว่าง 1 ชั่วโมงที่มีอยู่ในการส่งอีเมล์ หาแม่ผมผ่านอีเมล์ของน้องชาย เนื่องจากแม่ของผมเป็นคนหัวค่อนข้างโบราณ และการใช้โทรศัพท์ข้ามประเทศเป็นอะไรที่ยุ่งยากเสียเหลือเกินทำให้การณ์ส่งอีเมล์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด   ในเนื้อหาของอีเมล์เป็นดังนี้
    2 ธันวาคม ค.ศ.2050
    ฉบับที่1


                    สวัสดีครับแม่ ตอนนี้ผมอยู่ที่ ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วนะครับแม่ ตอนนี้ผมได้ขึ้นมาอยู่บนเรือสุดหรูที่ชื่อว่า
    San Antonio Hammer เรือที่ว่านี้เป็นเรือตัดน้ำแข็ง ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการสร้าง แม่มั่นใจได้เลยว่ามันจะไม่จม ฮ่าๆ ตอนมาผมอาจจะมีความรู้สึกกลัวความสูงอยู่นิดหน่อยนะครับแม่ แต่ถ้าเดินทางด้วยเรือ ผมสบายมากคับ แม่ไม่ต้องห่วงนะ ฝากบอกพ่อด้วยนะครับว่าผมคิดถึง และก็ดูแลสุขภาพด้วยนะครับระหว่างที่ผมไม่อยู่ก็อย่าหักโหมทำงานมากดูแลตัวเองด้วย    เดี๋ยวผมต้องไปประชุมแล้วแหละครับแม่   ถ้าว่างผมจะเขียนอีเมล์ไปใหม่นะครับ
                                                                                                                                                                    รักพ่อและแม่ที่สุด
                                                                                                                                                                             ลูกจิ๋ว

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "รับวิจารณ์นิยายค่ะ"

    (แจ้งลบ)

    เราไม่ใช่มืออาชีพ จึงขอวิจารณ์แบบเรียบง่ายนะคะ อย่าลืมว่าการวิจารณ์ไม่ใช่การด่าว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ ซึ่งจะทำตามหรือไม่ก็แล้วแต่ค่ะ ระดับ : ฝนตกหนัก อย่างแรก ชื่อเรื่อง มีคำว่าโครตเข้ามาด้วยมันเลยทำให้ดูยิ่งใหญ่แต่ก็แปลกไม่ใช่น้อยค่ะ ก็ถือว่ามีความน่าสนใจมากในระดับหนึ่งทีเดียวนะคะ ดูยิ่งใหญ่น่าติดตามมีพลังในตัวเองดีค่ะ (คะแนนเต็ม ... อ่านเพิ่มเติม

    เราไม่ใช่มืออาชีพ จึงขอวิจารณ์แบบเรียบง่ายนะคะ อย่าลืมว่าการวิจารณ์ไม่ใช่การด่าว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ ซึ่งจะทำตามหรือไม่ก็แล้วแต่ค่ะ ระดับ : ฝนตกหนัก อย่างแรก ชื่อเรื่อง มีคำว่าโครตเข้ามาด้วยมันเลยทำให้ดูยิ่งใหญ่แต่ก็แปลกไม่ใช่น้อยค่ะ ก็ถือว่ามีความน่าสนใจมากในระดับหนึ่งทีเดียวนะคะ ดูยิ่งใหญ่น่าติดตามมีพลังในตัวเองดีค่ะ (คะแนนเต็ม) อย่างสอง แนะนำเรื่องแบบย่อ อยากให้เขียนแนะนำนิยายตรงนี้นะคะ ไม่ใช่การโฆษณาค่ะ แต่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวคร่าวๆว่านิยายเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอะไร ลำพังไรเตอร์อ่านแค่ชื่อเรื่องอย่างเดียวไมมีทางรู้หรอกค่ะว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร ถึงรู้อาจจะรู้ไม่จริง อาจจะสื่อความหมายผิดจากที่นักเขียนต้องการให้คนอ่านเข้าใจก็ได้ จึงอยากให้เขียนคร่าวๆ เช่นว่า 'เขา เด็กหนุ่มน้อยวัยสิบเก้าปีผู้สูญเสียพ่อและแม่ไป เขาเก็บตัวฝึกฝนตัวเองอยู่นานหลายปีจนกระทั่งเก่งกล้าขึ้น พร้อมสู้รบกับคนที่มันเคยฆ่าล้างครอบครัวของเขา' อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ นี่คือการแนะนำเรื่องย่อ ที่ทำให้คนอ่านติดสินใจว่า เขาสนใจไหมกับเรื่องของคุณ และอยากจะเข้ามาอ่านหรือเปล่าค่ะ (ไม่ได้คะแนน) อย่างสาม ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้ อืม ไรเตอร์งงค่ะ ทำไมต้องเอาตอนที่ 1 มาใส่ในข้อมูลเบื้องต้นด้วย แบบนี้จะยิ่งทำให้คนอ่านงงมากเข้าไปอีกนะคะ ถ้าอยากใส่อะไรในนี้แต่ไม่ต้องการมีคาแรกเตอร์นิยาย ก็ใส่แค่ข้อมูลนิยายคร่าวๆก็ได้ค่ะ แต่ต้องมากกว่าแนะนำเรื่องย่อ เพื่อให้ดูแตกต่างแต่อยู่ในเนื้อหาเดียวกัน อาจมาในรูปแบบบทสนทนาของตัวเอกก็ได้ หรือมาในรูปแบบบทบรรยายเลยก็ดี ก็น่าสนใจทั้งคู่ค่ะ ลบตอนที่ 1 ในส่วนตรงนี้ทิ้งไปเถอะนะคะ เพราะมันซ้ำกับตอนนิยายไปแล้ว มันจะจำเจและคนอ่านจะงงเอาได้จริงๆค่ะ (ครึ่งคะแนน) อย่างสี่ ชื่อตอนนิยาย ส่วนนี้ถือเป็นคะแนนช่วย หากไม่มีอะไรให้ต้องถูกตัดคะแนน เท่าที่ดูมา คุณผ่านทุกอย่างแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ขอผ่านเลยนะคะ (คะแนนเต็ม) อย่างห้า เนื้อหานิยาย ขอแบ่งเป็นปลีกย่อยตามนี้ค่ะ ภาษาของบทบรรยาย ใช้ภาษาอ่านเข้าใจง่ายดีค่ะ บางทีก็ดูเป็นทางการ บางทีก็ไม่ทางการ ต้องแล้วแต่สถานการณ์ไป การสนทนา มีคำที่เขียนซ้ำด้วยนะคะ อยากให้ตรวจสอบหน่อย เขียนผิดก็มีค่ะ หลายคำเลย หรือบางคำที่จงใจเขียนแบบนั้นก็อ่านแล้วดูไม่ดีนะคะ เช่น 'อ่าว' อยากให้แก้เป็น 'อ้าว' แล้วก็ต้องเพิ่มเครื่องหมายแสดงอารมณ์ด้วยค่ะเวลาทำเสียงอุทานหรือตกใจหรือใส่อารมณ์ บางจุดใส่บางจุดไม่ใส่ อยากให้ใส่ทั้งหมดที่ควรใส่ค่ะ เข้ามาตรวจสอบด้วยนะคะ เพราะมีอีกหลายคำหลายอย่างที่อยากให้แก้ไข อ่านแล้วภาพรวมโอเคค่ะ เข้าใจง่ายดี พล็อตเรื่อง เหมือนดำเนินเรื่องช้าเกินไปหรือเปล่าเอ่ย ค่อยๆเฉลยพล็อตออกมาเรื่อยๆ มันดูน่าเบื่อ แต่นักเขียนดูมีความรู้มากค่ะ มีการทำการบ้านมาก่อนด้วยในเรื่องของการหาข้อมูลมาอย่างถูกต้องครบถ้วน ความเหมาะสมของการจัดรูปแบบหน้า จัดไม่ดีเลยค่ะ ก็อปมาจากที่อื่นแล้วไม่ได้จัดใช่ไหมเอ่ย บันทึกเลย แบบนี้ไม่ได้ค่ะ อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะตกคำ (ตกหน้า) ไปมาก อ่านแล้วต้องแกะคำเอาเองบางตัวซึ่งก็ถูกค่ะ แต่อยากให้จัดหน้าให้อ่านง่าย สวย น่าอ่านมากกว่านี้หน่อยค่ะ ส่วนขนาดตัวอักษรโอเคแล้วค่ะ อ่านง่ายสบายตาดีแล้ว ความน่าสนใจ น่าติดตาม มีควาน่าสนใจในระดับหนึ่งค่ะ สิ่งที่ควรปรับปรุง อ่านแล้วคล้อยตามเพราะจริงตามนั้นค่ะ เนื้อหาดูสมจริงในระดับหนึ่ง สมจริงในเรื่องของข้อมูล แต่อินกับเนื้อหาของนิยายไม่มากเท่าไหร่ค่ะ เพราะมีการใช้คำที่เป็นภาษาพูดเยอะมากจนเสียอรรถรสค่ะ อยากให้ปรับใช้เป็นภาษาเขียนเพราะมันจะน่าอ่านมากกว่านี้ะค่ะ และจัดหน้าให้น่าอ่านกว่านี้หน่อย เพราะแบบนี้เหมือนคนเขียนจะไม่ตั้งใจในการลง คนอ่านจะคิดแบบนี้ได้นะคะ ไรเตอร์ไม่อยากให้คนอ่านคิดแบบนั้น ดังนั้นรีบปรับแก้นะคะ ก่อนจะโดนว่าค่ะ (ครึ่งคะแนน) ได้คะแนนทั้งหมด 3 คะแนน รบกวนตอบกลับในบทความตอนที่ 3 หรือตอนงานวิจารณ์ของคุณเอง ขอบคุณมากๆค่ะ ^^   อ่านน้อยลง

    แฟร์รี่เทล | 12 ต.ค. 54

    • 9

    • 0

    คำนิยมล่าสุด

    "รับวิจารณ์นิยายค่ะ"

    (แจ้งลบ)

    เราไม่ใช่มืออาชีพ จึงขอวิจารณ์แบบเรียบง่ายนะคะ อย่าลืมว่าการวิจารณ์ไม่ใช่การด่าว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ ซึ่งจะทำตามหรือไม่ก็แล้วแต่ค่ะ ระดับ : ฝนตกหนัก อย่างแรก ชื่อเรื่อง มีคำว่าโครตเข้ามาด้วยมันเลยทำให้ดูยิ่งใหญ่แต่ก็แปลกไม่ใช่น้อยค่ะ ก็ถือว่ามีความน่าสนใจมากในระดับหนึ่งทีเดียวนะคะ ดูยิ่งใหญ่น่าติดตามมีพลังในตัวเองดีค่ะ (คะแนนเต็ม ... อ่านเพิ่มเติม

    เราไม่ใช่มืออาชีพ จึงขอวิจารณ์แบบเรียบง่ายนะคะ อย่าลืมว่าการวิจารณ์ไม่ใช่การด่าว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ ซึ่งจะทำตามหรือไม่ก็แล้วแต่ค่ะ ระดับ : ฝนตกหนัก อย่างแรก ชื่อเรื่อง มีคำว่าโครตเข้ามาด้วยมันเลยทำให้ดูยิ่งใหญ่แต่ก็แปลกไม่ใช่น้อยค่ะ ก็ถือว่ามีความน่าสนใจมากในระดับหนึ่งทีเดียวนะคะ ดูยิ่งใหญ่น่าติดตามมีพลังในตัวเองดีค่ะ (คะแนนเต็ม) อย่างสอง แนะนำเรื่องแบบย่อ อยากให้เขียนแนะนำนิยายตรงนี้นะคะ ไม่ใช่การโฆษณาค่ะ แต่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวคร่าวๆว่านิยายเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอะไร ลำพังไรเตอร์อ่านแค่ชื่อเรื่องอย่างเดียวไมมีทางรู้หรอกค่ะว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร ถึงรู้อาจจะรู้ไม่จริง อาจจะสื่อความหมายผิดจากที่นักเขียนต้องการให้คนอ่านเข้าใจก็ได้ จึงอยากให้เขียนคร่าวๆ เช่นว่า 'เขา เด็กหนุ่มน้อยวัยสิบเก้าปีผู้สูญเสียพ่อและแม่ไป เขาเก็บตัวฝึกฝนตัวเองอยู่นานหลายปีจนกระทั่งเก่งกล้าขึ้น พร้อมสู้รบกับคนที่มันเคยฆ่าล้างครอบครัวของเขา' อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ นี่คือการแนะนำเรื่องย่อ ที่ทำให้คนอ่านติดสินใจว่า เขาสนใจไหมกับเรื่องของคุณ และอยากจะเข้ามาอ่านหรือเปล่าค่ะ (ไม่ได้คะแนน) อย่างสาม ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้ อืม ไรเตอร์งงค่ะ ทำไมต้องเอาตอนที่ 1 มาใส่ในข้อมูลเบื้องต้นด้วย แบบนี้จะยิ่งทำให้คนอ่านงงมากเข้าไปอีกนะคะ ถ้าอยากใส่อะไรในนี้แต่ไม่ต้องการมีคาแรกเตอร์นิยาย ก็ใส่แค่ข้อมูลนิยายคร่าวๆก็ได้ค่ะ แต่ต้องมากกว่าแนะนำเรื่องย่อ เพื่อให้ดูแตกต่างแต่อยู่ในเนื้อหาเดียวกัน อาจมาในรูปแบบบทสนทนาของตัวเอกก็ได้ หรือมาในรูปแบบบทบรรยายเลยก็ดี ก็น่าสนใจทั้งคู่ค่ะ ลบตอนที่ 1 ในส่วนตรงนี้ทิ้งไปเถอะนะคะ เพราะมันซ้ำกับตอนนิยายไปแล้ว มันจะจำเจและคนอ่านจะงงเอาได้จริงๆค่ะ (ครึ่งคะแนน) อย่างสี่ ชื่อตอนนิยาย ส่วนนี้ถือเป็นคะแนนช่วย หากไม่มีอะไรให้ต้องถูกตัดคะแนน เท่าที่ดูมา คุณผ่านทุกอย่างแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ขอผ่านเลยนะคะ (คะแนนเต็ม) อย่างห้า เนื้อหานิยาย ขอแบ่งเป็นปลีกย่อยตามนี้ค่ะ ภาษาของบทบรรยาย ใช้ภาษาอ่านเข้าใจง่ายดีค่ะ บางทีก็ดูเป็นทางการ บางทีก็ไม่ทางการ ต้องแล้วแต่สถานการณ์ไป การสนทนา มีคำที่เขียนซ้ำด้วยนะคะ อยากให้ตรวจสอบหน่อย เขียนผิดก็มีค่ะ หลายคำเลย หรือบางคำที่จงใจเขียนแบบนั้นก็อ่านแล้วดูไม่ดีนะคะ เช่น 'อ่าว' อยากให้แก้เป็น 'อ้าว' แล้วก็ต้องเพิ่มเครื่องหมายแสดงอารมณ์ด้วยค่ะเวลาทำเสียงอุทานหรือตกใจหรือใส่อารมณ์ บางจุดใส่บางจุดไม่ใส่ อยากให้ใส่ทั้งหมดที่ควรใส่ค่ะ เข้ามาตรวจสอบด้วยนะคะ เพราะมีอีกหลายคำหลายอย่างที่อยากให้แก้ไข อ่านแล้วภาพรวมโอเคค่ะ เข้าใจง่ายดี พล็อตเรื่อง เหมือนดำเนินเรื่องช้าเกินไปหรือเปล่าเอ่ย ค่อยๆเฉลยพล็อตออกมาเรื่อยๆ มันดูน่าเบื่อ แต่นักเขียนดูมีความรู้มากค่ะ มีการทำการบ้านมาก่อนด้วยในเรื่องของการหาข้อมูลมาอย่างถูกต้องครบถ้วน ความเหมาะสมของการจัดรูปแบบหน้า จัดไม่ดีเลยค่ะ ก็อปมาจากที่อื่นแล้วไม่ได้จัดใช่ไหมเอ่ย บันทึกเลย แบบนี้ไม่ได้ค่ะ อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะตกคำ (ตกหน้า) ไปมาก อ่านแล้วต้องแกะคำเอาเองบางตัวซึ่งก็ถูกค่ะ แต่อยากให้จัดหน้าให้อ่านง่าย สวย น่าอ่านมากกว่านี้หน่อยค่ะ ส่วนขนาดตัวอักษรโอเคแล้วค่ะ อ่านง่ายสบายตาดีแล้ว ความน่าสนใจ น่าติดตาม มีควาน่าสนใจในระดับหนึ่งค่ะ สิ่งที่ควรปรับปรุง อ่านแล้วคล้อยตามเพราะจริงตามนั้นค่ะ เนื้อหาดูสมจริงในระดับหนึ่ง สมจริงในเรื่องของข้อมูล แต่อินกับเนื้อหาของนิยายไม่มากเท่าไหร่ค่ะ เพราะมีการใช้คำที่เป็นภาษาพูดเยอะมากจนเสียอรรถรสค่ะ อยากให้ปรับใช้เป็นภาษาเขียนเพราะมันจะน่าอ่านมากกว่านี้ะค่ะ และจัดหน้าให้น่าอ่านกว่านี้หน่อย เพราะแบบนี้เหมือนคนเขียนจะไม่ตั้งใจในการลง คนอ่านจะคิดแบบนี้ได้นะคะ ไรเตอร์ไม่อยากให้คนอ่านคิดแบบนั้น ดังนั้นรีบปรับแก้นะคะ ก่อนจะโดนว่าค่ะ (ครึ่งคะแนน) ได้คะแนนทั้งหมด 3 คะแนน รบกวนตอบกลับในบทความตอนที่ 3 หรือตอนงานวิจารณ์ของคุณเอง ขอบคุณมากๆค่ะ ^^   อ่านน้อยลง

    แฟร์รี่เทล | 12 ต.ค. 54

    • 9

    • 0

    ความคิดเห็น