คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เรื่องที่ปิดไว้
อีกฟากหนึ่งของกรุงเทพ พีระกับลินินกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาม ในสายตาของเขา หญิงสาวคนนี้ช่างเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ท้าทาย งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา เมื่อถึงเวลาที่จะต้องแยกจากกัน ลินินลุกขึ้นจากโต๊ะ เธอมีอาการเซเล็กน้อย พีระรีบประคองเธอตามสัญชาตญาณ ลินินช้อนสายตามอง ทั้งสองสบตากัน
“ขอโทษนะคะ ชั้นคงเมามากแล้ว”
“ให้ผมไปส่งคุณนะครับ”
ลินินนิ่งคิดอย่างชั่งใจ จะเดินเกมส์ตอนนี้เลย หรือปั่นหัวเค้าอีกนิด
“ ชั้นมากับพี่ปรเมษฐ์ค่ะ พี่เค้าไปส่งชั้นเป็นประจำอยู่แล้ว”
“ วันนี้ให้ผมดูแลคุณลินินแทนคุณปรเมษฐ์สักวันนะครับ”
ลินินแสร้งหลบสายตาดุจเขินอาย ปลาฮุบเหยื่อเร็วกว่าที่คิด
ระหว่างทางไปที่คอนโดมิเนี่ยมของเธอ ลินินทำทุกวิถีทาง ที่จะให้เขาหลงเสน่ห์เธอ ซึ่งก็คงจะสมดังความตั้งใจ
พีระไม่ได้มีท่าทีคิดถึงคู่หมั้นเลย
เวลาที่พีระไม่อยากให้มาถึง ก็คือเมื่อรถของเขามาถึงหน้าคอนโดมิเนี่ยมของเธอ
“ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ คุณพีระ”
“ ยินดีครับ” คาดหวังว่าจะได้ยินคำเชื้อเชิญจากเธอ แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อเธอบอกลาแล้วจากไป ทำให้เขาหัวเสีย ที่ผ่านมา ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเขา
…………………………………………………………………………………………………………………
ภานนท์ออกจากคอนโดของสริดา ในหัวเขามีเรื่องให้คิดมากมาย ลางสังหรณ์บอกว่า พี่ชายของเขาอาจกำลังนอกใจคู่หมั้น คนแบบเดียวกันจะมองกันออกแล้วกับผู้หญิงคนนั้น เขาควรจะทำอย่างไร
สองพี่น้องกลับถึงบ้านพร้อมกัน ด้วยอารมณ์ต่างกัน ทักทายกันเพียงเล็กน้อยก็แยกย้ายกันไปห้องของตัวเอง พีระไม่ได้ถามถึงสริดาเลยด้วยซ้ำ
…………………………………………………………………………………………………………………
พีระ ภานนท์ และสริดา รับประทานอาหารเย็นด้วยกันหลังเลิกงาน
พีระ ภานนท์ และสริดา รับประทานอาหารเย็นด้วยกันหลังเลิกงาน
“ งานเป็นงัยบ้างนายนนท์”
“ พี่ ผมว่าผมอาจไม่เหมาะกับงานแนวนี้นะ “
“ แล้วนายจะทำอะไร”
“ ไม่รู้สิ อาจจะทำรีสอร์ทก็ได้นะ “
“เรามีโปรเจคจะทำโรงแรมที่กระบี่ร่วมกับครอบครัวของคุณดานะ นายรับโปรเจคนี้ไปสิ”
“ ผมอยากทำรีสอร์ทเล็กๆน่ะ ไม่อยากทำอะไรเกินตัว พี่ก็รู้ ผมไม่ได้เก่งเหมือนพี่นะ”
“ คุณภานนท์สนใจจะทำรีสอร์ทเหรอคะ จำลภัสได้มั๊ยคะ ลภัสมีที่ดินที่ระยอง กำลังหาผู้ร่วมทุน คงเป็นรีสอร์ทที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เพราะที่ดินไม่กี่ไร่เองค่ะ”
“ นนท์ นายรู้จักคุณลภัสด้วยเหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย คุณดาครับ ผมพลาดอะไรไปหรือเปล่าครับ”
“ เอ่อ คือ” สริดารู้ตัวว่าพลาดไปเสียแล้ว สบตาภานนท์เพื่อขอความช่วยเหลือ
“ นั่นสิครับ คุณดางงอะไรหรือเปล่า ผมยังไม่เคยเจอคุณนภัสเลยนะครับ”
“ เค้าชื่อลภัสนะนนท์ เป็นเพื่อนคุณดา สงสัยคุณดาจะสับสน”
“อ๋อๆๆใช่ค่ะ สงสัยดาจะสับสนไปเอง “
“ลภัสมีที่ดินที่ระยองค่ะ อยากจะทำรีสอร์ท หรืออาจจะขายที่ก็ได้ ลองไปคุยก่อนมั๊ยคะ”
“ ก็ดีนะครับ ขอผมไปดูที่ก่อน”
“ คุณภานนท์สะดวกภายในวันศุกร์นี้มั๊ยคะ เพราะว่าวันเสาร์ลภัสต้องไปต่างประเทศ “
“ศุกร์นี้ก็ได้ครับ นายครับผมขอลางานหนึ่งวันนะครับ”
“ลาได้เลย แต่คุณดาครับ วันศุกร์ผมติดประชุม คงไปด้วยไม่ได้ รบกวนคุณดาด้วยนะครับ”
“เอ่อ ได้ค่ะ ดาสะดวกอยู่แล้ว” สริดาสลดไปเล็กน้อย คิดในตอนแรกว่าพีระจะไปด้วย
ภานนท์สัมผัสได้ถึงความผิดหวังในแววตาของสริดา
……………………………………………………………………………………………………..
ภานนท์ขับรถตามพีระ ที่ไปส่งสริดา พีระส่งเธอที่เดียวกับที่เขาเคยมาส่ง ไม่ได้ขึ้นไปบนห้อง พี่ชายของเขาใช้เวลาร่ำลาแฟนสาวเพียงไม่นานนักก็ออกรถไป สริดายืนมองตาม ภานนท์เห็นแล้วส่ายศีรษะ เขารีบขับรถตามพี่ชายไป จนถึงคอนโดของลินิน พี่ชายของเขาลงจากรถไปยินรอที่ล๊อบบี้ สักพักผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินมาหา ภานนท์จำได้แม่น ว่าเธอคือนางแบบในงานเมื่อคืนก่อน ทั้งสองคุยกันเพียงครู่เดียว นางแบบคนนั้นก็เดินกลับเข้าไป พี่ชายของเขาท่าทางหัวเสียรีบขับรถออกไป ภานนท์ก็ขับตามไปติดๆ พีระยังไม่กลับบ้านในทันที เขาไปที่บ้านหลังหนึ่ง หลังจากที่เข้าไปได้ไม่นาน ไฟทุกดวงในบ้านหลังนั้นก็ดับลง
ภานนท์นั่งคิดทบทวนอะไรบางอย่างอยู่ครู่ใหญ่ เขาออกมาเดินวนไปวนมารอบรถ คิดไม่ออกว่าจะเอาอย่างไรดี ในที่สุดก็ขับรถกลับบ้านไป
…………………………………………………………………………………………………………………
พีระกลับเข้าบ้านก็ใกล้จะตีสอง ขณะกำลังจะเดินเข้าบ้าน น้องชายก็เข้ามาขวาง
“ กลับดึกจังเลยนะครับพี่ “
“ อ่าว ยังไม่นอนเหรอ พี่ไปส่งคุณดามาน่ะ นั่งคุยอะไรกันนิดหน่อย “
“ อ่อ หรือครับ “
“ ไปนอนก่อนนะ นายก็เหมือนกัน นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องทำงานอีก“ พี่ชายพูดจบก็ยิ้มให้ แล้วเดินจากไป น้องชายมองตาม
วันต่อมา ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น ทั้งเที่ยงและเย็น สามคนก็กินข้าวด้วยกัน ภานนท์คอยมองพฤติกรรมของพี่ชาย พีระทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาใส่ใจดูแล และอ่อนหวานกับสริดาเหมือนเช่นเดิม และประกายตาของหญิงสาวเองฉายแววแห่งความรักอย่างท่วมท้น
เช้าของวันศุกร์ ภานนท์มารับสริดาที่คอนโดมิเนี่ยมของเธอ หญิงสาวแต่งกายด้วยชุดเดรสราคาแพง ที่ทำให้ผู้สวมใส่ดูสวยน่ารัก สริดาสวย น่ารัก แสนดีขนาดนี้ ทำไมพี่ชายของเขายังทำกับเธอได้
เพราะมีอะไรที่ต้องคิด ทำให้ภานนท์ดูเงียบขรึมกว่าทุกวัน จนคู่หมั้นของพี่ชายต้องเอ่ยปากถาม
“ วันนี้คุณภานนท์ดูเครียดๆนะคะ”
“ครับ ผมมีอะไรต้องคิดนิดหน่อย “
“ อ๋อ ค่ะ “ ความที่สริดาเองก็ไม่ใช่คนช่างเจรจา ทั้งสองจึงตกอยู่ในความเงียบจนถึงจุดหมาย
ลัลลภัสรอรับอยู่แล้ว สองสาวทักทายกันอย่างสนิทสนม สาวเจ้าบ้านแสดงอาการดีใจอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้พบกับชายหนุ่มอีกครั้ง ที่ดินที่ลัลลภัสพาทั้งสองไปดู ทำให้ภานนท์พอใจมาก
“ ถ้าคุณภานนท์จะซื้อขาดเลยก็ได้นะคะ หรือถ้าจะหาผู้ร่วมทุนลภัสก็ยินดี “ คนพูดยิ้มหวาน ส่งสายตาให้อย่างมีความหมาย สริดารู้สึดอึดอัด เธอไม่อยากให้เพื่อนสนิทต้องเจ็บช้ำ เพราะผู้ชายที่คู่หมั้นของเธอให้คำจำกัดความว่า เสือผู้หญิง แต่เมื่อเห็นเพื่อนมองชายหนุ่มด้วยสายตาหวานเยิ้ม ก็ตัดสินใจว่าจะส่งเสริมเพื่อนสาว และตั้งใจว่าจะให้พีระคอยระแวดระวังไม่ให้น้องชายออกนอกลู่นอกทางก็แล้วกัน
“ ต้องให้สุภาพสตรีตัดสินใจก่อนดีไหมครับ คุณลภัสสนใจแบบไหนมากกว่าล่ะครับ “ ชายหนุ่มส่งยิ้มให้
“ ถ้าอย่างนั้นขอเวลาให้ลภัสปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะคะ รับรองว่าไม่นานแน่นอน คุณภานนท์จะได้คำตอบแน่ๆ“ ลัลลภัสนัยน์ตาเป็นประกายอย่างมีความหมาย
“ ลภัสจ๊ะ พาคุณภานนท์ไปเดินดูที่รอบๆสิ”
“คุณดาไม่ไปด้วยกันหรือครับ”
“ดาร้อนน่ะค่ะ ขอนั่งคอยตรงนี้ดีกว่า เชิญเถอะค่ะ ไหนๆก็มาแล้ว”
“ดาเค้าไม่สู้แดดหรอกค่ะ เราไปกันเถอะค่ะคุณภานนท์”
ภานนท์จำใจเดินตามลัลลภัสไป ก่อนไปหันมาทำตาดุใส่ เขาเคืองสริดาไม่น้อย รู้นะ ว่าเธอคิดอะไร จะจับคู่เขากับเพื่อนสาวของเธอล่ะสิ ยิ่งเคืองหนักไปกว่าเดิม เมื่อหญิงสาวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ หันไปทางอื่น
หลังจากสำรวจที่ดินจนทั่วแล้วก็ค่ำแล้ว ภานนท์ สริดาก็เดินทางกลับกรุงเทพ
“ เราออกช้าไปหน่อย คงถึงดึกนะ ถ้าเพลียคุณก็หลับไปก่อน”
“ ไม่เพลียค่ะ“ สริดาพูดยิ้มๆ ภานนท์เริ่มหงุดหงิด
“ เป็นอะไรอ่ะคุณ ยิ้มทำไม ผมรู้นะคุณคิดอะไร”
“ ไม่ได้คิดอะไรค่ะ”
“ คุณนี่กวนเหมือนกันนะเนี่ย แต่ไม่คิดก็ดี และก็อย่าคิดด้วย” เอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อนเถอะ แล้วค่อยมายุ่งเรื่องคนอื่น ภานนท์คิดในใจ
“ ฝนตก แย่จังเลย “ สริดาพึมพำ ฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆจนมองทางไม่เห็น”
“ ตกแรงซะด้วย”
“น่ากลัวจังเลย จอดก่อนดีมั๊ยคะ”
ภานนท์จึงเลี้ยวเข้าไปจอดในปั๊มน้ำมัน ยิ่งนานเท่าไหร่ฝนก็ยิ่งตกหนักมากขึ้น
“ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มท่วมนะคะ”
ชายหนุ่มนิ่งคิด ถ้ามาคนเดียว คงตะลุยไปถึงกรุงเทพแล้ว
“ ไม่ไหวแล้วมั๊งคุณ คืนนี้ค้างที่นี่ดีกว่าไหม”
สริดาลังเล จะไปต่อก็น่ากลัว แต่จะหายมาค้างต่างจังหวัดกับผู้ชายสองต่อสองก็ไม่ใช่เรื่องที่ควร
“ รออีกนิดดีมั๊ยคะ ถ้าฝนหยุดตก เราก็เดินทางต่อ”
“ ผมว่าไม่มีหวังแล้วล่ะ กลัวน้ำจะท่วมเอา ไปต่อก็กลัวจะหาที่พักไม่ได้ ถ้าฝนยิ่งตกหนักขึ้น”
มันจริงอย่างเขาว่า ถ้าขับต่อไปก็คงน่ากลัวไม่ใช่น้อย
“งั้นก็แล้วแต่คนขับก็แล้วกันค่ะ”
ความคิดเห็น