ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เลื่อมกุหลาบ

    ลำดับตอนที่ #1 : วันที่จากไป

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 55


    ยังไม่กลับอีกเหรอ ธานินทร์

    ธานินทร์ที่กำลังนั่งทำงานอยู่ เงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นเป็นเจ้าของบริษัท ก็ลุกขึ้นยืนแล้วตอบอย่างนอบน้อม

    งานยังไม่เสร็จครับ คุณประภัทร์

    ขยันเช่นเคยนะ งั้นผมกะปริมกลับก่อน

    ธานินทร์เงยหน้าขึ้นมอง คุณปริม ลูกสาวคนสวยของคุณประภัทร์ หญิงสาวก็ยิ้มให้ ธานินทร์มองตามสองพ่อลูกที่เดินจากไป คุณประภัทร์พูดกับลูกสาวเบาๆ   วิโรจน์กำลังจะเกษียณ พ่อจะให้ธานินทร์ขึ้นมาเป็นผู้จัดการแทน คนนี้ใช้ได้เลยนะ พ่อมองคนไม่ผิดหรอก

    คุณปริม หันมาส่งยิ้มให้ธานินทร์อีกครั้ง

    …………………………………………………………………………………………………………………

    หลังจากเสร็จงานแล้ว ธานินทร์ก็กลับบ้าน เปิดประตูห้องนอน เห็นพรรณีผู้เป็นภรรยานอนหลับอยู่บนเตียง ลินินลูกสาววัยแปดเดือน นอนลืมตาอยู่ในเปลข้างๆ ธานินทร์อุ้มลูกสาวขึ้นมาหอมแก้ว ลูกผมอย่างรักใคร่ แล้วก็เหลือบมองภรรยา ด้วยสายตาเจ็บปวด

    ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

    พรรณีตื่นขึ้นมาตอนเช้า ก็ไม่เห็นสามีแล้ว ได้แต่ถอนใจ ว่าเมื่อคืนเธอก็เข้านอน โดยที่เขายังไม่กลับ ตอนเช้าก็คงออกไปทำงานแล้ว มองไปที่ลูกสาวก็ยังหลับอยู่ จึงเก็บเสื้อผ้าของสามีเตรียมไปซัก แล้วกลับมาดูลูก รู้สึกแปลกใจที่ลูกสาวตัวน้อยยังคงนอนนิ่ง จึงเอื้อมมือไปจับตัวลูก เด็กน้อยตัวร้อนจี๋ พรรณีตกใจมาก

    ณี ผมเอาผลไม้มาฝาก เสียงของสิงห์เพื่อนบ้านที่มักจะช่วยดูแลพรรณีและลูกสาว ยามที่ธานินทร์ไม่อยู่ ดังมาจากหน้าบ้าน พรรณีรีบอุ้มลูกวิ่งไปหา

    สิงห์ ยัยหนูตัวร้อนจี๋เลย ทำงัยดี

    รีบพาไปหาหมอดีกว่านะณี

    ทั้งสองก็พานิลเนตรไปหาหมอ ระหว่างที่เด็กหญิงอยู่ในห้องตรวจ พรรณีกระวนกระวายเป็นห่วงลูก

    สิงห์ ยัยหนูจะเป็นยังงัยบ้างเนี่ย

    ใจเย็นๆนะ ถึงมือหมอแล้ว

    ช่วยฉันหน่อยได้ไหม ช่วยโทรหานินทร์ บอกเค้าว่าลูกไม่สบายมาก ให้เขามาหาที่โรงพยาบาลด่วน

    สิงห์นิ่งไป มองพรรณีอย่างหวั่นใจ เขาหลงรักหญิงสาวมาตลอด สงสารเป็นห่วง เมื่อเห็นธานินทร์ไม่มีเวลาดูแลสองแม่ลูก

    เขาเดินไปที่โทรศัพท์สาธารณะ กดเบอร์โทรที่ทำงานของธานินทร์ตามที่พรรณีจดใส่กระดาษมาให้

    ขอสายคุณธานินทร์ครับ

    ผมธานินทร์ รับสายครับ

    ผม สิงห์ที่อยู่ข้างบ้นคุณ ตอนนี้หนูเนตรป่วย อยู่ที่โรงพยาบาล ณีให้ผทโทรมาบอก คุณรีบมาโรงพยาบาลเลยนะครับ

    ปลายสายเงียบไปเนิ่นนาน

    คุณธานินทร์ครับ

    เอ่อ ผมคงไม่สะดวกไปดูยัยหนู ฝากคุณดูแลก็แล้วกันนะครับ แค่นี้ก่อนนะ ผมต้องไปประชุม

    ธานินทร์วางสายไปทันที สิงห์แปลกใจ และสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง

    ด้านธานินทร์ เมื่อวางสายแล้วก็เป็นห่วงลูกสาวยิ่งนัก น้ำตาซึม ได้แต่ถอดถอนใจ

    ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

    สิงห์พาพรรณีและลูกน้อยมาส่งที่บ้าน พรรณีซึมไปมาก สามีไม่สามารถมาดูลูกได้ ตั้งแต่ธานินทร์มาทำงานบริษัทใหม่ เขาไม่เคยมีเวลาให้เธอและลูกเลย

    ณีครับ ยัยหนูคงไม่เป็นไรแล้ว ณีก็อย่ากังวลเลยนะครับ

    ขอบคุณมากนะคะสิงห์ ถ้าไม่มีคุณ ณีคงทำอะไรไม่ถูก ยายหนูต้องแย่แน่พรรณีมองสิงห์อย่างซาบซึ้ง

    สิงห์มองพรรณีตอบ ด้วยสายตาแห่งความรักและห่วงใย

    เพื่อคุณ และยายหนู ผมทำได้ทุกอย่าง ขอแค่คุณบอกมา

    พรรณีชะงัก นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ

    ถ้าคุณอยากให้ผมอยู่เป็นเพื่อน….”

    คุณกลับไปก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวนินทร์ก็คงจะกลับมาแล้วพรรณีพูดขัดขึ้นมา

    ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรเรียกผมได้ตลอดนะครับ 

    พรรณีมองตามหลังสิงห์ด้วยสายตาสับสน

    ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

    พรรณีอุ้มลูกเข้าบ้านมา เห็นธานินทร์กำลังหิ้วกระเป๋าใบใหญ่จะออกไปข้างนอก

    นินทร์ คุณกำลังจะไปไหนคะ พรรณีแปลกใจเมื่อเห็นกระเป๋าใบใหญ่

    ธานินทร์มองพรรณีอย่างเจ็บปวด

    ผมกำลังจะไป

    คุณจะไปไหนคะ ลูกไม่สบายนะคะ

    ณี คุณดูแลยายหนูด้วยนะ เงินทั้งหมดที่ผมมี อยู่บนเตียง ผมจะส่งเงินให้คุณทุกเดือน ถ้าคุณต้องการอะไรก็ขอให้บอกผมได้ทันที

    หมายความว่ายังงัยคะ นินทร์ ณีไม่เข้าใจ พรรณีเริ่มร้องไห้ เขากำลังจะทิ้งเธอกับลูกไปแล้ว

    ธานินทร์นิ่ง ไม่ตอบ เบือนหน้าไปทางอื่น พยายามไม่ให้น้ำตาไหล

    คุณจะทิ้งณีไปเหรอคะ นินทร์

    พรรณีโผเข้าหา ไม่นะคะนินทร์ ณีรักคุณนะคะ คุณจะทิ้งณีกับลูกไม่ได้นะคะ

    ผมขอโทษณี ผมกำลังจะมีชีวิตใหม่

    ชีวิตใหม่ที่ไม่มีณีกับลูกใช่มั๊ยคะ ณีทำผิดอะไรคะนินทร์

    ธานินทร์มองหน้าผู้หญิงที่เขารัก น้ำตาไหล ดูแลลูกให้ดีๆนะณี บอกแกว่าผมรักแกมาก

    ไม่นะคะนินทร์ ไม่นะคะ พรรณีกรีดร้อง ยายหนูร้องไห้จ้า ธานินทร์ลังเล สุดท้ายก็ตัดใจหิ้วกระเป๋าออกไป

    สิงห์ที่ได้ยินเสียงร้องของพรรณีและยายหนู จึงมาชะโงกดูที่หน้าบ้าน ธานินทร์ออกไปเจอสิงห์ที่กำลังจะเดินข้ามาในบ้าน ทั้งคู่ต่างชะงักไป

    คุณสิงห์ ฝากดูแลณีกับลูกด้วยนะครับ

    ก่อนที่สิงห์จะคิดอะไรออก ธานินทร์ก็เดินจากไป สิงห์ตั้งสติได้ รีบวิ่งเข้าไปเข้าไปในบ้าน เจอพรรณีกอดลูกนั่งร้องไห้อยู่กับพื้น สิงห์เข้าไปจะโอบกอด แต่ก็ชะงักไว้

    สิงห์ เขาไปแล้ว เขาทิ้งเราแม่ลูกไปแล้ว

    สิงห์ลูบผมพรรณีด้วยความสงสาร พรรณีโผเข้ากอดสิงห์

    ณี ผมจะดูแลคุณกับลูกเอง

    ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

    สิงห์พาพรรณีกับลูกไปทำสวนลำไยที่เชียงใหม่ พรรณีมีชีวิตอยู่ได้ความปวดร้าว ทุ่มเทความรักทั้งหมดที่มี ให้กับลินินลูกสาว พรรณีเก็บตัวอยู่ในบ้าน ไม่ออกไปไหน วันนี้ก็เช่นกัน เธอนั่งอยู่ที่ระเบียง เหม่อมองออกไป แต่ภาพที่เธอเห็นไม่ใช่ภาพสวนเขียวขจีในบริเวณบ้าน แต่เป็นภาพธานินทร์ในวันที่ลินินรเกิด ครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา ธานินทร์กอดเธอกับลูกไว้แนบอก อดีตมันผ่านไปแล้ว และไม่มีวันหวนกลับมา

    น้าณีครับ หนังสือพิมพ์ครับ แม่ให้เอามาให้น้าณี

    การุณ เด็กชายวัยห้าขวบ เดินเข้ามาพร้อมหนังสือพิมพ์ การุณเป็นลูกคนแถวนั้น ชอบแวะเวียนมาดูน้องเสมอๆ

    พรรณีปาดน้ำตาขอบใจมากนะจ๊ะ การุณ น้องยังหลับอยู่เลย

    ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมต้องไปในเมืองกับแม่ แม่ให้ถามว่าน้าณีจะเอาอะไรมั๊ยครับ

    น้าณีไม่เอาอะไรจ้า ฝากขอบคุณแม่ด้วยนะจ๊ะพรรณีลูกหัวการุณอย่างเอ็นดู

    ผมไปนะครับ 

    พรรณีก้มลงอ่านหนังสือพิมพ์ในมือ พลิกผ่านๆไปหน้าอื่น ก็ต้องตะลึงกับภาพที่เห็น รูปงานแต่งงานของธานินทร์

    พรรณีน้ำตาร่วงอีกครั้ง อ่านข้อความใต้ภาพเสียงสั่นธานินทร์หนุ่มอนาคตไกล เข้าพิธีแต่งงานกับปริม ทายาทคนเดียวของเกริกเกียรติกรุ๊ป ท่วมกลางความยินดีของประภัทร เกริกเกียรติ์ขจร

    น้ำตาของพรรณีไหลหยดลงไปบนรูปของธานินทร์

    เพราะแบบนี้ใช่ไหม คุณถึงทิ้งฉันไป หญิงสาวรู้สึกเจ็บแปลบ ร้องไห้ปริ่มว่าจะขาดใจ

    ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

    หลายปีผ่านไป ธานินทร์เป็นผู้บริหารของเกริกเกียรติกรุ๊ป มีพร้อมทั้งฐานะการงาน และครอบครัวแสนสุข แต่ส่วนลึกของจิตใจ ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่คิดถึงพรรณี อดีตภรรยา ผู้เป็นรักครั้งแรกของเขา รวมทั้งลูกสาวตัวน้อย ที่ป่านนี้ก็คงจะเติบโตเป็นหญิงสาวที่งดงาม เขาเปิดลิ้นชักดึงรูปของพรรณีออกมาดู ใช้นิ้วลูบไล้อย่างรักใคร่

    เสียงเคาะประตูห้อง ธานินทร์รีบเก็บรูปไว้ในลิ้นชัก

    คุณพ่อขา ได้เวลาพักเที่ยงแล้วนะคะ ไปทานข้าวกันเถอะค่ะ

    สริดา ลูกสาวที่เกิดจากคุณปริม ภรรยาที่แสนดี เข้ามาหอมแก้มธานินทร์

    หิวแล้วเหรอลูก วันนี้พีระไม่มากินด้วยกันเหรอ ธานินทร์ลูกผมลูกสาวอย่างรักใคร แพรวลัยเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย เรียนจบจากต่างประเทศก็มาช่วยงานบริษัทอย่างตั้งใจ ถึงแม้จะเกิดมาบนกองเงินกองทอง แต่สริดาเรียบร้อยน่ารัก อ่อนน้อม สมกับที่คุณปริมอบรมสั่งสอนมาอย่างดี ลูกคนนี้คือความภูมิใจของพ่อ

    มาสิคะ ไม่มาได้ยังงัย วันนี้เรามีแขกพิเศษด้วยนะคะคุณพ่อ

    ใครกันลูกดา

    คุณแม่เข้ามาได้แล้วค่ะ คุณปริมก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับพีระ คู่หมั้นของสริดา พีระเป็นลูกชายคนโตของธีรพล เจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ สองครอบครัวสนิทสนมกันเนื่องจากธีรพลเช่าพื้นที่ของตึกเกริกเกียรติเป็นสำนักงาน และร่วมธุรกิจกันหลายโครงการ ด้วยความเห็นชอบของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ทั้งสองจึงได้หมั้นหมายกัน

    คุณปริม พีระ มากันพร้อมหน้าเลยนะ ไปกินข้าวกันเถอะ

    ทั้งหมดพากันเดินออกจากห้องไป ท่ามกลางสายตาของพนักงาน

    คุณพีระกับคุณดานี่เหมาะสมกันจริงๆเลยนะ คุณดาก็สวยใสไฮโซ คุณพีระก็หล่อสมาร์ทพนักงานสาวสองคนซุบซิบ ดาได้ยิน หันมายิ้มให้ พนักงานทั้งสองตกใจรีบก้มหน้างุด

    …………………………………………………………………………………………………………………

    คุณลินินเป็นคนเชียงใหม่แต่กำเนิดเหรอคะ

    เกิดที่กรุงเทพค่ะ แต่ไปโตที่เชียงใหม่

    ตอนนี้คุณลินินเป็นนางแบบที่ดังมากๆ ยังมีอะไรที่อยากทำอีกมั๊ยคะ

    เกี่ยวกับงานในวงการคงไม่อยากทำอะไรแล้วค่ะ การเป็นนางแบบคงเหมาะกับเนตรที่สุด  ตอนนี้ลินินอยากเจอพ่อกับน้องสาวที่ไม่ได้เจอกันตั้งแต่เนตรยังจำความไม่ได้มากกว่าค่ะ

    คุณลินินมีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับคุณพ่อและน้องสาวมั๊ยคะ

    ไม่มีข้อมูลอะไรเลยค่ะ

    อยากจะบอกอะไรคุณพ่อกับน้องบ้างคะ

    ลินินอยากบอกว่า ซักวันหนึ่งเราจะได้เจอกัน  ลินินไม่เคยลืมพ่อกับน้องเลย ขอบคุณมากค่ะนัยน์ตาคมคู่สวยของหญิงสาว มีแววแข็งกร้าวขึ้นมาเล็กน้อย แค่เล็กน้อยจริงๆ

    ขอบคุณมากค่ะคุณลินิน หนังสือเสร็จแล้วจะส่งมาให้คุณลินินก่อนวางแผงนะคะ

    ลินินวันนี้เติบโตเป็นหญิงสาวสวย รูปร่างสูงโปรง หน้าตาเก๋ไก๋ บวกกับบุคลิกที่มั่นใจ  ทำให้ลินินก้าวมาเป็นนางแบบ เธอต้องการมีชื่อเสียง เพื่อทัดเทียมกับครอบครัวใหม่ของพ่อ

    นักข่าวกลับไปแล้ว ลินินเปิดลิ้นชัก หยิบกล่องไม้ที่แม่ให้มา ข้างในเป็นข่าวของพ่อและครอบครัวใหม่ที่เธอและแม่ตัดจากหนังสือพิมพ์ เธอหยิบขึ้นมาทีละแผ่น ข่าวเกริกเกียรติกรุ๊ปเปิดอาคาสำนักงานให้เช่าใหม่ บทสัมภาษณ์ของธานินทร์ คุณปริม และสริดา

    รออีกนิดนะคะพ่อ เราจะได้เจอกันแล้ว

    …………………………………………………………………………………………………………………
    พีระมารับภานนท์น้องชายที่เพิ่งเรียนจบกลับมาจากอเมริกาที่สนามบิน ภานนท์ไปเรียนต่อทันทีที่แม่เสียชีวิตและไม่ได้กลับมาเมืองไทยอีกเลยเป็นเวลาหกปีเต็ม แม้แต่วันหมั้นของเขา ภานนท์ก็ไม่ได้กลับมา
                                    

    ว่างัยน้องชาย นายโตขึ้นมากเลยนะ

    พี่ก็แก่ไปเยอะเลยนะสองพี่น้องหยอกล้อทักทายกัน แม้ไม่ได้เจอกันมานาน แต่ทั้งสองคนต่างก็รักและผูกพันธ์กันมาก

    ไปกินข้าวเที่ยงกันก่อนนะ นัดแฟนพี่ไว้ด้วย นายจะได้เจองัย

    ภานนท์ยักไหล่ ไม่ดีกว่า ผมเหนื่อยและเพลียมากๆ พี่ส่งผมที่บ้านเถอะ ขี้เกียจเป็นกอขอคอ ยังงัยซะถ้าพี่ไม่เลิกกัน ผมก็ได้เจอพี่สะใภ้เองแร่ะ

    พีระส่ายศีรษะ น้องชายยังกวนเหมือนเดิม งั้นพี่ไปส่งนายที่บ้านก่อน แล้วค่อยออกไปรับดาก็แล้วกัน

    …………………………………………………………………………………………………………………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×