เวลาหนึ่งทุ่มตรง ที่บ้านสองชั้นหลังหนึ่งซึ่งเปิดไฟสว่างทั่วบ้าน   
    กิตติกำลังนั่งอยู่ตรงโซฟาห้องรับแขกเพื่อรอภรรยาของเขากลับบ้าน      สีหน้าและท่าทางอาการของเขากระวนกระวาย  เฝ้ามองแต่ประตูรั้วหน้าบ้านว่าเมื่อไรภรรยาของเขาจะกลับมาถึงเสียที    ในใจของกิตติขณะนี้ร้อนรนอยากที่จะพบหน้าภรรยาเสียเหลือเกินเพราะเมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ ทั้งคู่ได้โทรศัพท์พูดคุยกันถึงปัญหาบางอย่างจนเกิดมีปากเสียงเกือบจะทะเลาะกันผ่านทางโทรศัพท์  โดยที่ทั้งคู่ต่างก็เพิ่งจะเลิกงานสุดท้ายจึงตกลงให้กลับมาเคลียร์ปัญหากันที่บ้าน  กิตติกลับมาถึงก่อนจึงต้องรอภรรยาอย่างใจร้อนเพื่อจะพูดคุยปัญหาที่ได้เกิดขึ้น    ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไรเขาก็ยิ่งแสดงความกระวนกระวายออกมาให้เห็นมากขึ้นตาม  เขาลุกขึ้นเดินวนไปมาสายตาก็จับจ้องอยู่ที่ประตูรั้ว    เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาภรรยา  แต่เธอก็ไม่รับสายยิ่งสร้างความร้อนใจให้กับเขา  โดยปกติแล้วกิตติเป็นผู้ชายที่ดีอ่อนโยนและรักภรรยามากๆยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมแถมยังหึงหวงออกหน้าออกตา  ซึ่งเพื่อนและคนรู้จักก็จะรู้ดีว่าเขาเป็นคนเช่นไรแต่วันนี้ถ้าใครลองมาเห็นคงจะไม่เชื่อสายตาแน่    สีหน้าอันบ่งบอกว่ากำลังโกรธเคืองอย่างกับหน้ายักษ์หน้ามาร
“มัวทำอะไรอยู่!! ป่านนี้ยังมาไม่ถึงอีกเนี่ย!!”  เขาพูดขึ้นกับตนเองอย่างเสียอารมณ์
      ไม่นานนักรถของสุชาดา ภรรยาของเขาก็เลี้ยวเข้ามาจอดในบ้าน  ยังไม่ทันที่เธอจะเปิดประตูออกมา  กิตติก็ปรี่เข้าไปที่รถแล้วเปิดประตูรถ 
“ทำไมมันนานนัก กับอีแค่ขับรถกลับมาบ้านเนี่ย”  กิตติพูด
“ก็รถมันติด จะให้มันเร็วอะไรกันนักหนา”  สุชาดาสวนทันควัน
“ไม่ต้องมาอ้างโน่นนี่ คุณพูดมาเลยดีกว่าว่าเรื่องมันเป็นยังไงผมใจร้อนเต็มทีแล้ว”
“เข้าไปในบ้านก่อนแล้วค่อยคุยกัน”  สุชาดาดึงแขนของกิตติอย่างแรงแล้วเดินเข้าไปในบ้าน
      ในห้องรับแขก ทั้งคู่ตีหน้ายักษ์ใส่กัน ต่างคนต่างจ้องหน้าแล้วกิตติก็เริ่มพูดเสียงดังขึ้นมา
“คุณมีอะไรที่ปิดบังจะบอกกับผมหรือเปล่าสุ” 
“ฉันมีอะไรปิดบังคุณ  คุณอย่ามาหาเรื่องฉันนะ ความจริงคุณเองนั่นแหละที่น่าจะมีอะไรปิดบังเพราะฉันรู้สึกคุณเปลี่ยนไป” สุชาดาสวนทันควัน
“ที่ผมเปลี่ยนไปก็เพราะคุณ  ทำไมพักนี้คุณถึงไม่เหมือนเดิมชอบอ้างว่าติดงาน ไหนยังจะโกหกผมว่าไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดหลายอาทิตย์มานี้อีก“
“ ก็ฉันไปสัมมนาจริงๆ”
“อย่าโกหก!!!” กิตติตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจ
“คุณอย่าเสียงดังกับฉันนะ ฉันไม่ชอบ!!!”  เธอเสียงดังตอบ ทำให้บรรยากาศยิ่งระอุขึ้น
“ผมก็ไม่ชอบให้คุณโกหกผม  คุณรู้มั้ยผมให้คนไปสืบเรื่องของคุณแล้วสิ่งที่ผมได้รู้คือ คุณไม่ได้ไปสัมมนาอย่างที่บอกกับผม  หลายอาทิตย์ที่คุณโกหกว่าไปต่างจังหวัดผมสืบมาได้ว่าคุณอยู่ที่กรุงเทพนี่เอง  ผมยังรู้อีกว่าคุณไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหนและบ้านของใคร” 
      สีหน้าของสุชาดาเปลี่ยนไปโดยทันที  เธอเริ่มมีอาการอ่อนลงพร้อมเดินเข้าไปใกล้กิตติแล้วจับแขนเขาไว้ 
“คือว่า....”
“เอาเถอะ คุณไม่ต้องพูดแก้ตัวอะไรหรอกผมไม่อยากฟังคำโกหกของคุณซักเท่าไรหรอก”
“แต่...”  ไม่ทันที่สุชาดาจะเอ่ยปากพูด กิตติก็เดินไปหยิบภาพถ่ายหลายใบโยนลงตรงหน้าของเธอ เป็นภาพที่สุชาดากำลังเดินควงแขนใครคนหนึ่งอยู่  ในอาการและท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใสในบ้านหลังหนึ่ง
“ผมไม่รู้ว่าจะเสียใจหรือดีใจจริงๆ  ที่เมียของตัวเองไปมีชู้  โดยคนที่เป็นชู้นั้นเป็นผู้หญิง  ไหนคุณบอกผมมาซิว่าผู้ชายอย่างผมมันขาดตกบกพร่องอะไร คุณถึงต้องไปมีชู้  บอกผมมาซิ!!!”
“คนในรูปนี่ชื่อแก้ว เพื่อนที่ทำงานของฉันเองและเธอก็เป็นผู้หญิงแท้ๆ  เราไม่มีอะไรกันอย่างที่คุณคิดสัปดนหรอก”
“แล้วทำไมคุณต้องโกหกผม เพื่อที่จะไปนอนค้างที่บ้านหลังนี้”
“ก็ถ้าฉันขอไปแบบปกติคุณเองจะยอมให้ไปเหรอ  ไม่เคย คุณไม่เคยเลยซักครั้งที่จะยอมให้ฉันไปไหนมาไหนคนเดียวเลยตั้งแต่แต่งงานกันมา คุณไม่เคยเชื่อใจฉันเลย”  สุชาดาพูดออกมาอย่างน้อยใจ
“อย่างนั้นคุณลองบอกเหตุผลกับผมมาซิว่าทำไมคุณถึงต้องไปนอนค้างที่นี่ทุกอาทิตย์” 
“แก้วมีปัญหากับคนรักของเขา  แก้วจึงอยากที่จะนอนปรึกษากับฉันเพราะแก้วเห็นว่าฉันมีครอบครัวที่มีความสุขดี จึงน่าที่จะให้คำปรึกษาได้”  สุชาดาพูดอย่างใจเย็น เพื่ออธิบายให้กิตติเข้าใจซึ่งมันก็ได้ผลเมื่อเขาเองก็มีทีท่าอ่อนลงเมื่อได้ฟัง
“ถ้าจะปรึกษาแล้วทำไมคุณจะต้องถึงกับไปนอนค้างด้วย แค่คุยโทรศัพท์กันก็ได้”
“ก็แก้วเขาขอร้องอยากที่จะคุยกันต่อหน้า อีกอย่างฉันก็สงสารเขาเห็นเขามีปัญหาทุกอาทิตย์เลย  ฉันรู้ว่าฉันผิดที่โกหกคุณเรื่องไปสัมมนาแต่ฉันก็ไม่ได้ทำผิดอะไรเลยนะ ไม่ได้นอกใจคุณซักหน่อย  ขอโทษนะ นะ”    สุชาดาเข้าไปออดอ้อนกอดเอวของกิตติไว้  เมื่อเขาได้ฟังสุชาดาอธิบายเขาก็สบายใจแต่ก็ยังคงเคืองเรื่องที่เธอโกหก 
“เพื่อนของคุณมีเรื่องอะไรนักหนาที่จะต้องให้คุณนอนค้างเพื่อที่จะปรึกษาด้วยทุกอาทิตย์ “  กิตติถามเสียงแข็ง
“ก็แก้วเขารักกับผู้ชายคนหนึ่งถึงขั้นได้เสียกันแล้ว แต่ว่าผู้ชายคนนั้นแต่งงานแล้ว  เธอเพิ่งจะมารู้ที่หลังมิหนำซ้ำยังเป็นสามีของคนที่เธอรู้จักเสียอีก  แก้วเลยเครียดเรื่องนี้แถมยังจะถามฉันอีกว่าเธอสมควรจะแย่งผู้ชายคนนั้นจากภรรยาของเขาดีมั้ย”
“แล้วคุณบอกไปว่าอย่างไรล่ะ”
“เรื่องของผู้หญิง อันนี้ขอไม่พูดเดี๋ยวเพื่อนฉันจะเสียหายนะคุณ” 
“เอาล่ะไม่ว่ายังไงต่อไปนี้ผมขอห้ามคุณไปนอนค้างที่บ้านของเพื่อนคุณอีกเป็นอันขาด”
“เจ้าค่ะ  ต่อไปนี้ฉันจะบอกแก้วว่าคุณไม่ยอมให้ภรรยาสุดที่รักไปค้างอ้างแรมที่ไหนอีกแล้วโดยไม่มีคุณ เพราะสามีที่น่ารักคนนี้เป็นห่วงภรรยาสุดที่รักเหลือเกิน”  สุชาดาอ้อนกิตติอย่างสุดตัวจนเขากลับไปมีท่าทีเหมือนเช่นเคย  ชายแสนดีผู้รักภรรยา
“สัญญากับผมนะว่าจะไม่โกหกอีก”
“ค่ะ แหมเราสองคนเกือบจะทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้วแท้ๆ  ฉันผิดเองที่โกหกคุณขอโทษนะค่ะ”
“อืม”  แล้วทั้งคู่ก็กอดกันกลมเมื่อเข้าใจกันดีสุชาดาก็มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มมีความสุขเมื่อสามีเข้าใจเธอและให้อภัยส่วนกิตติเองก็หันหน้าไปทางอื่นแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่แสดงความสบายใจ  ในวันนี้ทุกอย่างจึงจบลงด้วยดี    คู่สามีภรรยาเมื่อทะเลาะและกลับมาเข้าใจกันได้อย่างดีก็ยิ่งมีความสุข  คืนนี้บ้านของเขาจึงปิดไฟเร็วกว่าปกติ......
..................................................
    สองวันต่อมาที่บ้านแก้วเพื่อนของสุชาดา
“ถ้าฉันไม่ทำอย่างนี้แล้วคุณจะสนใจฉันเหรอ”  แก้วพูดเสียงดัง เธอกำลังทะเลาะกับผู้ชายคนที่เธอรัก
“ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นผมจะไม่มาหาคุณและอย่าหวังว่าผมจะรับผิดชอบอีกเลย  ยังดีที่ผมจ้างนักสืบถึงได้รู้ว่าคุณเอาสุเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้  ผมสงสัยอยู่แล้วว่ามันแปลกๆทำไมคุณถึงไม่ให้ผมมาที่นี่แถมยังเป็นวันที่สุไม่กลับบ้านอีกต่างหาก  ดีที่ผมแกล้งถามสุและแกล้งเข้าใจผิดว่าเขากำลังนอกใจ  สุถึงได้บอกผมว่าคุณพูดอะไรกับเธอบ้าง”
“แล้วฉันพูดอะไร บอกมาซิว่าเมียคุณบอกว่าฉันพูดอะไร”  แก้วพูดยียวน
“คุณอย่ามากวนอารมณ์ผม    จำใส่กะโหลกคุณไว้นะ  อย่าให้สุรู้เรื่องนี้เป็นอันขาดไม่อย่างนั้นคุณเองจะเป็นคนเสียใจ”
“ทำไม!!  เมียคุณวิเศษนักหนาเหรอถึงได้ปกป้องนัก”
เพลี๊ย!!!!  แก้วถูกตบเข้าที่หน้าอย่างจังจนถึงกับทรุดลงกองกับพื้น
“บอกแล้วไงว่าอย่า เข้าใจมั้ย!!!”  ชายหนุ่มพูดเสียงดังแล้วทำท่าเดินออกไปจากบ้านทิ้งให้แก้วอยู่ตรงพื้น  ก่อนที่เธอจะตะโกนเรียกเขากลับมาอย่างอ้อนวอนและอาลัย
“กิตติอย่าเพิ่งไป  กิตติ...ฮือออ” 
        แก้วร้องไห้ตะโกนเรียกเขากลับมาอย่างน่าสงสาร แต่เขาก็ยังคงเดินออกไปอย่างไม่ใยดี.......
............จบ............
ยังมีเรื่องสั้นหักมุมให้ได้อ่านกันอีกหลายเรื่องเพียงพิมพ์คำว่า เชือกผูกลม ลงในช่องค้นหานักเขียน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น