ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมฟิค07-ghostจากที่ต่างๆ

    ลำดับตอนที่ #4 : [hyuga x konatsu]What's this feelings? Part I

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 55





    พันตรี ช่วยเซ็นเอกสารนี่หน่อยครับ

     

    เสียงดังลอดจากริมฝีปากบางของร่างๆหนึ่ง โครงหน้าได้รูปสวยหวานเหมือนผู้หญิง เส้นผมสีทองสะท้อนแสงไฟจับตา และนัยน์ตาสีส้มกลมโตสะท้อนประกายจริงจัง  ซึ่งอยู่ในชุดทหารเต็มยศแห่งหน่วยแบล็ค ฮอล์ค หรือ โคนัทสึ วาร์เรนที่ตอนนี้เขากำลังบังคับให้ผู้บังคับบัญชาทำงานดังเช่นเคย

     

    ดูนี่สิ โคนัทสึ!”

     

    ร่างโปร่งบางชะงักมือที่กำลังยื่นส่งเอกสารให้ พลางเงยหน้าขึ้นมองกระดาษที่อยู่ในมือผู้บังคับบัญชาของเขา มันคือเอกสารทางราชการของวันก่อนที่เขานำมาให้พันตรีฮิวงะลงนามรับรอง แต่บัดนี้... เจ้ากระดาษสีขาวที่เคยมีแต่ตัวอักษรสีดำเรียงรายกลับปรากฏภาพๆหนึ่งขึ้นตรงมุมขวาบน ภาพของชายหนุ่มสวมหมวกที่มีตราหน่วยเสนาธิการตรงกลางแสดงถึงยศที่สูงกว่าทับปิดบังเส้นผมสีเงินขี้เถ้าเอาไว้ นัยน์ตาสีม่วงสะท้อนความน่าเกรงขามที่ทำให้ผู้พบเห็นต้องยอมศิโรราบ ...ท่านเสนาธิการอายานามิแห่งกองทัพจักรวรรดิ

     

    สวยใช่ไหมล่ะ

     

    เขาตกตะลึงไปชั่วขณะกับความเหมือนของภาพ นัยน์ตาทอประกายด้วยความชื่นชมกับความสามารถทางศิลปะของพันตรีของเขา ปากกำลังจะเอ่ยชม แต่จิตใต้สำนึกแห่งความรับผิดชอบทำให้ยั้งไว้ได้ทัน

     

    พันตรี อย่าวาดรูปเล่นบนเอกสารของราชการสิครับ!!!”  เขาตะโกนเสียงดัง คิดในใจว่าเกือบเห็นดีเห็นงามไปด้วยแล้วเชียว ดีที่ฉุกคิดขึ้นมาได้ก่อน

     

    อย่าน้อยใจสิโคนัทสึ รูปเธอก็มีเหมือนกันนะไม่ว่าเปล่า เจ้าตัวยังอุตส่าห์หยิบกระดาษอีกแผ่นที่วางอยู่ข้างๆกันขึ้นมาให้ดูเป็นการยืนยันอีก

     

    เขากุมขมับ ตอนแรกก็คิดว่าเมื่อวันก่อนพูดกันรู้เรื่องแล้วเชียว แต่ที่ไหนได้พอมาวันนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ไม่เห็นเหมือน  พันโทคุโรยูริเลย รายนั้นพอฮัลเซ่เอางานมาให้ก็รีบทำให้เสร็จจนตอนนี้มีเวลาว่างมากพอจนสามารถไปเดินเล่นได้อย่างสบายใจ ผิดกับเขาและพันตรีที่ไม่ว่าจะเป็นเอกสารแค่ 2-3 แผ่น ก็ยังแทบจะกระโจนเข้าไปบีบคอบังคับกันเสียด้วยซ้ำ
     เฮ้อ...

     

    ถอนหายใจทำไมโคนัทสึ

     

    เขาหันหน้ากลับไปมองคนที่ยังวาดรูปต่ออย่างสบายใจเฉิบบนกระดาษแผ่นนั้นต่อไป แถมยังผิวปากเป็นเพลงอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าสมัยก่อนที่เขาจะเข้ามาเป็นเบกเลเตอร์นั้นจะเป็นอย่างทุกวันนี้หรือเปล่า ยังอดคิดไม่ได้ว่าตัวเขาในตอนนั้นหลงใหลในตัวคนตรงหน้าเข้าไปได้ยังไงกันนะ.. เส้นผมและดวงตาสีดำที่ส่อแววขี้เล่นยังไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิดเดียว ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าว่าเหมือนมันเพิ่มมากขึ้นทุกวัน..  แต่ถึงอย่างนั้น ในเวลาสำคัญที่มีการออกรบต่อสู้ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ก็ยังคงยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลง...

     

    เหมือนในวันนั้น... วันที่แผ่นหลังกว้างใหญ่ได้ดึงดูดหัวใจเขาให้ก้าวเข้าหาและติดตามมาจนถึงทุกวันนี้

     

    คิดแบบนี้ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

     

    ร่างโปร่งบางที่กำลังมองเหม่อยิ้มให้ตัวเองอยู่นั้นไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่า ร่างสูงผู้นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานกำลังใช้หางตาเหลือบมองเขาอยู่  ถึงแม้มือจะยังไม่หยุดวาดรูป แต่ผู้ที่ได้ชื่อว่าพันตรีก็ใช้สายตาที่ดูเฉียบคมดุจพญาเหยี่ยวสังเกตคนตรงหน้าตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว ร่างโปร่งบางที่ชอบบ่นและบังคับให้เขาทำงานสมกับความตั้งใจของเจ้าตัวที่อยากจะเข้ามาเป็นหนึ่งในแบล็ค ฮอล์ค และตอนนี้ก็ได้เป็นสมใจ เขายังจำได้ถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ความทะเยอทะยานที่ไม่สิ้นสุดของคนตรงหน้า... มันทำให้เขาชื่นชม และยิ่งหลงใหลมากยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นดวงตาสีส้มนั้นทอประกายแห่งความภาคภูมิใจมองตรงมาที่เขา

     

    บางทีโคนัทสึอาจจะยังไม่รู้... ว่าทำไมเขาถึงทำตัวเหลวไหล  นั่งเป็นเหมือนคนว่างงานวาดรูปอยู่อย่างนี้

     

    เพราะมนุษย์ทุกคน  เมื่อได้เห็นสิ่งที่ตนชื่นชมและหลงใหลตรงหน้า... ก็ยิ่งทำให้เกิดความปรารถนา

     

    ปรารถนาที่จะครอบครอง... และทำให้กลายเป็นของตนเพียงผู้เดียว

     

    บางทีความอดทนของคนเรามันอาจจะสิ้นสุดง่ายกว่าที่คิดนะ  โคนัทสึของฉัน...

     

    เขาวางปากกาลงและมองไปที่เบกเลเตอร์ผมทองของเขาที่เริ่มจะรู้สึกตัวแล้วว่าถูกมอง ร่างโปร่งบางกระแอมไอพลางยื่นเอกสารแผ่นใหม่ส่งมาให้ เขาเอื้อมมือไปหาคนตรงหน้า แต่ไม่ได้รับเอกสารนะ...

     

    หมั่บ!

     

    โคนัทสึชะงักไปในทันที  เขามองมือตนเองสลับกับใบหน้าของคนที่จับมือเขาเอาไว้พลางพยายามดึงกลับ แต่ผู้ที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานสีน้ำตาลเข้มกลับเพิ่มแรงบีบที่มือ ทำให้ดึงกลับมาไม่ได้

     

    เอ่อ.. พันตรี ปล่อยมือผมเถอะครับเขาบอก

     

    แต่คนตรงหน้ากลับทำหูทวนลมเหมือนไม่ได้ยินเขายังไงอย่างนั้น ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินมาหยุดข้างๆโดยที่ยังไม่ปล่อยมือ เขามองหน้าร่างสูงอย่างุนงง แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร...

     

    ปึง!

     

    ร่างของเขาถูกผลักให้แผ่นหลังนอนราบติดไปกับโต๊ะทำงาน กระดาษกระจัดกระจายเต็มโต๊ะ บ้างก็ร่วงหล่นลงพื้น เขาตกใจจนพูดไม่ออกได้แต่อ้าปากค้างกับการกระทำของร่างสูงเบื้องหน้าที่ตอนนี้กำลังมองตรงมายังเขาด้วยแววตาที่ทอเป็นประกาย... ด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เขาไม่คุ้นเคย

     

    หรือบางทีเขาอาจจะรู้จัก... แต่ไม่อยากยอมรับ

     

    ฮิวงะใช้สายตามองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่มากล้นเกินบรรยาย ที่เป็นครั้งแรกที่เขาหมดความอดทนขึ้นมาเสียเฉยๆ เพียงแค่ได้เห็นแววตาที่ร่างนี้ใช้มองเขามันก็มากพอที่จะจุดไฟแห่งความต้องการและปรารถนาให้ลุกโชน

     

    ริมฝีปากบางถูกครอบครองด้วยอารมณ์ความปรารถนาของคนตรงหน้า ร่างบางเม้มริมฝีปากไว้และใช้มือดันอกร่างสูงให้ถอยห่าง แต่ยิ่งผลักก็เหมือนยิ่งยุ คนตัวสูงกว่ายิ่งโน้มร่างตนเองเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนแทบจะกดเขาให้จมลงไป

     

    พะ พันตรี จะทำอะ... อุ๊บ!!”

     

    นับว่าเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่เขาเปิดปากพูด เพราะเมื่อมีช่องว่าง ลิ้นของร่างสูงได้สอดแทรกเข้ามาภายในโพรงปากและกวาดหาความหอมหวานไปทั่วอย่างต้องการไม่ให้เหลือให้ใครได้เชยชิม โคนัทสึเริ่มขาดอากาศหายใจจึงเผลอเผยอริมฝีปากออกเพื่อหาออกซิเจนแต่นั่นก็ยิ่งเปิดโอกาสให้คนตรงหน้าได้รุกล้ำเข้ามามากขึ้น

     

    จากตอนแรกที่ขัดขืน แต่พอริมฝีปากถูกช่วงชิงไป แรงที่เคยมีพลันอ่อนแรงลงอย่างรวดเร็ว มือที่เคยดันแผ่นอกของร่างสูงให้ถอยห่างจากตนตอนนี้เปลี่ยนมาจับชายผ้าคลุมด้านบนไว้แทน ร่างบางเริ่มตอบรับไปโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วและแรงเกินกว่าที่เคยเป็น ใบหน้าและร่างกายเริ่มร้อนผ่าว

     

    ความรู้สึกนี้... มันคืออะไรกัน

     

    ร่างสูงถอนริมฝีปากออกมาเมื่อเห็นว่าร่างบางเริ่มทรมานเพราะขาดอากาศนานเกินไป ร่างที่ถูกตรึงให้ติดกับพื้นโต๊ะใบหน้าแดงระเรื่อ และหอบหายใจอย่างแรงเพื่อเก็บเอาอากาศเข้าไปภายในให้มากที่สุดเพราะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน

     

    ร่างสูงเห็นดังนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนก้มลงกระซิบที่หู

     

    เธอทำให้ฉันทนไม่ไหวเองนะ

     

    คำกระซิบมาพร้อมกับความร้อนพัดผ่านใบหูทำให้ร่างบางสะดุ้งเฮือก ได้แต่คิดในใจว่าวันนี้พันตรีเป็นอะไรไป ทำไมจู่ๆมาทำอย่างนี้กับเขา ยิ่งความรู้สึกเมื่อซักครู่มันยิ่งทำให้เขาสบสน

     

    คนตรงหน้ากำลังเป็นอะไร...

     

    เขาเองก็เหมือนกัน... กำลังเป็นอะไร

     

    ยิ่งคิดก็ยิ่งหลงทางในวังวนแห่งคำตอบจนทำให้ลืมไปเสียสนิทว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์ไหน ร่างบางรู้สึกตัวอีกเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสของฝ่ามือที่ค่อยๆไล้ขึ้นมาจากต้นขา ทำให้เขาเกร็งตัวโดยอัตโนมัติ ฝ่ามือค่อยสูงขึ้นเรื่อยๆจนถึง...

     

     

    แอ๊ด..

     

     

    เสียงประตูถูกเปิดออกทำให้มือของร่างสูงชะงัก โคนัทสึที่ตกอยู่ภายใต้วงแขนของชายหนุ่มจึงรีบผลักร่างสูงออกมาจากตัวในทันที

     

    อ้าว สวัสดีโคนัทสึ

     

    ผู้เข้ามาใหม่ทักทายอย่างร่าเริง คุโรยูริที่ขี่คอฮัลเซ่อยู่โบกมือให้โคนัทสึ และเมื่อจะหันไปกล่าวสวัสดีกับอีกคนที่อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานทำให้ร่างเล็กชะงักมือที่กำลังโบกไปมา เพราะแทนที่ร่างสูงที่เขาต้องการจะทักทายควรจะอยู่ที่ตรงนั้นก่อนที่เขาจะออกไปจากห้องกับฮัลเซ่ กลับกลายเป็นว่าไปนอนกองกับพื้นพรมสีแดงเลือดหมูซะอย่างนั้น

     

    ทำไมฮิวงะไปนอนอยู่ตรงนั้นล่ะ อ้าว โคนัทสึจะไปไหนล่ะ!?”

     

    ร่างบางที่พอเห็นคุโรยูริเข้ามาทักทายตัวเองก็รีบวิ่งสวนกับฮัลเซ่ที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็วจนคนมาใหม่ทั้งสองมองอย่างแปลกใจ มันเกิดอะไรขึ้น... และถ้าเขาเห็นไม่ผิด ใบ้หน้านั้นมีสีแดงระเรื่อระบายเต็มใบหน้า

     

    ไม่ถามเปล่าแต่ยังอุตส่าห์กระโดดลงมาจากหลังของเบกเลเตอร์ผู้สูงกว่าตนเองเกือบครึ่ง และยื่นมือมาช่วยพยุงร่างของพันตรีหนุ่มให้ลุกขึ้นยืน  ร่างสูงค่อยๆปัดฝุ่นละอองตามร่างกายที่ติดอยู่บนผืนพรมออก ก่อนจะเหลือบมองคนมาขัดจังหวะแล้วตอบคำถาม

     

    ไม่มีอะไรหรอก พอดีนึกอยากลองลงไปนั่งวาดรูปกับพื้นดูน่ะ

     

    ช่างเป็นคำตอบที่ไม่ว่าใครก็คงดูออกว่ากำลังโกหก...

     

    อืม... อย่างนั้นเองหรอ คุโรยูริเงยหน้าและเอ่ยก่อนจะหรี่ตามองน้อยๆ

     

    ทะเลาะกับโคนัทสึหรอ แต่ถึงยังไงก็ยังอดสงสัยไม่ได้

     

    หึหึ ก็อาจจะ... ล่ะมั้ง

     

    ร่างสูงหัวเราะอย่างมีเลศนัยแล้วตอบแบบขอไปที ก่อนที่จะนั่งลงเบื้องหลังโต๊ะทำงานดังเดิมพลางจัดกระดาษที่กระจัดกระจายเต็มโต๊ะให้เข้าที่ ร่างเล็กที่มองอยู่รู้สึกคันปากอยากถามยิบๆแต่ถ้าเจ้าตัวไม่อยากตอบต่อให้เอาไซฟอนรัดคอก็คงไม่ยอมบอก จึงทำเพียงแค่ยักไหล่ก่อนที่จะลากฮัลเซ่ให้ไปนั่งด้วยกันที่โต๊ะทำงานของตน

     

    ตัวการที่ทำให้ร่างบางวิ่งหนีออกไปนั่งจัดเอกสารทั้งหมดให้เข้าที่ขณะลอบยิ้มที่มุมปาก พลางหยิบปากกาขึ้นมาหวังจะสร้างสรรค์งานศิลปะต่อ  ในใจคิดว่าโคนัทสึคงเข้าหน้าเขาไปติดไปอีกนาน..

     

    แต่เรื่องอะไรเขาจะยอมให้เป็นแบบนั้น

     

    คราวหน้าเขาจะไม่ยอมให้ใครมาขัดจังหวะแน่ ต่อให้เป็นอายะตันก็เถอะ

     

    คิดได้ดังนั้นก็ผิวปากออกมาเป็นเพลงอย่างสบายอารมณ์

     

     

     

     

    แฮ่ก... แฮ่ก

     

    ร่างบางที่วิ่งออกมาด้านนอกยังไม่ได้ไปไหน แต่กลับยืนพิงประตูหน้าห้องทำงานอยู่และหายใจหอบ ถ้าพันโทคุโรยูริกับฮัลเซ่ไม่เข้ามา เขาคง...

     

    คิดถึงตรงนี้ก็สะบัดหน้าแรงๆเพื่อไล่ความคิดพิลึกๆออกไป

     

    ไม่มีทางหรอก... พันตรีคงจะแค่ล้อเล่นเท่านั้น

     

    ใช่... ล้อเล่นเท่านั้น

     

    อยู่ดีๆก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ  ร่างบางจึงลงนั่งพิงประตูเอาไว้ เหตุการณ์เมื่อครู่ยังคงไม่จางหายไปจากความคิด ทั้งรอยยิ้มที่ส่งมา เสียงนุ่มที่กระซิบข้างใบหู และรสสัมผัสของริมฝีปากนั่น...

     

    โคนัทสึรู้สึกว่าใบหน้าของตนเองร้อนผะผ่าว เขาก้มหัวลงซุกกับแขนทั้งสองข้างเพื่อซ่อนใบหน้านั้นไว้ ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้ใครผ่านมาเห็นเข้า เขาคงไม่มีหน้ามาพบกับพันตรีอีกนาน แต่ก็เป็นได้แค่ความคิดเพราะถึงอย่างไร เขาก็ต้องนำเอกสารมาให้อีกฝ่ายอยู่ดี

     

    เขาถอนหายใจก่อนจะทาบมือที่อกด้ายซ้ายของตน ถึงแม้เหตุการณ์เมื่อครู่จะทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก แต่ว่าความรู้สึกอบอุ่นที่หัวใจนี้...

     

     

     

    มันคืออะไรกัน?

     

    .

    .

    .

    .

     

     

    To be Continued..

    เครดิต:
    http://berzentyle.exteen.com/20090420/07-ghost-fanfiction-you-are-mine-part-i

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×