ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมฟิค07-ghostจากที่ต่างๆ

    ลำดับตอนที่ #1 : Rainy Day [Castor x Labrador]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.22K
      11
      25 ก.พ. 55





    สัญญาณของเช้าวันใหม่มาพร้อมกับดวงอาทิตย์ที่ยังโผล่จากขอบฟ้าไม่เต็มดวง
    เมฆสีขาวสะอาดและสีเทาที่ลอยล่องปะปนไปกับท้องฟ้าสีคราม ในเช้าตรู่แบบนี้น้อยคนนักที่จะตื่นมาแต่นี่เป็นเวลาตื่นปกติของร่างเล็กคนหนึ่ง ร่างเล็กที่มักจะห้อมล้อมด้วยสวนดอกไม้แสนรักของเขา



        ใบหน้าหวานเรียวได้รูป ดวงตากลมโตที่ดูใสซื่อกับนัยน์ตาสีม่วงซีดและเรือนผมสีเดียวกัน ขนตาที่ยาวกำลังดี ดั้งจมูกได้สัดส่วน ริมฝีปากบางอมชมพูและผิวที่ขาวราวน้ำนมน่าสัมผัสของร่างบางทำให้ใครต่อหลายคนหลงใหล โดยเฉพาะรอยยิ้มบางที่มักจะปรากฎอยู่บนใบหน้าที่น่ารักนั่นเสมอ



        บิชอปร่างเล็กที่กำลังวุ่นกับการดูแลเหล่าดอกไม้ที่น่ารักของเขาคงจะไม่สามารถรู้ได้ว่ามีใครคนหนึ่งที่เฝ้ามองเขาตลอดในทุกๆเช้า อมยิ้มเมื่อเห็นภาพที่เขากำลังอยู่ในสวน รวมทั้งยังเฝ้ามองเขาด้วยสายตาที่ห่วงใยอยู่เสมอ ใครคนนั้น...ที่มักจะอยู่ข้างกายเขาเสมอและกำลังเดินมาทักทายเขาอย่างทุกวัน



        "อรุณสวัสดิ์นะฮะคุณดอกไม้...วันนี้อาจจะมีฝนนะฮะ" เสียงหวานที่ดังลอดออกจากริมฝีปากบางน่าสัมผัสของลาบราดอร์โดยไม่รับรู้เลยว่ามีผู้บุกรุกเข้าใกล้เขาทุกที


        "อรุณสวัสดิ์นะครับ..ลาบราดอร์" เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างใบหูของบิชอปร่างบางส่งผลให้ร่างเล็กสะดุ้งอย่างตกใจรวมทั้งใบหน้าหวานที่ขึ้นสีระเรื่อก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนขี้แกล้งข้างกาย


        "อรุณสวัสดิ์ฮะคาสเตอร์..."


        "ดอกไม้เป็นยังไงบ้างครับ เห็นวันก่อนพายุเข้า ฝนตกหนักเลยนี่ครับ" คาสเตอร์ถามเสียงเรียบก่อนจะหันไปมองสภาพสวนดอกไม้ที่ดูดีขึ้นเยอะเพราะฝีมือของคนตรงหน้า


        "ดีขึ้นแล้วฮะ ต้องดูแลกันยาวเลยละ แล้วคาสเตอร์ละฮะ มีธุระอะไรรึเปล่า?" ลาบราดอร์ยิ้มน้อยๆก่อนจะหันไปตัดวัชพืชข้างกาย


        "มาทักทายเจ้าของสวนครับ...แต่เจ้าของสวนเมินไปซะละ" เสียงทุ้มที่กึ่งงอนกึ่งง้อของชายหนุ่มที่มีแว่นตาประดับอยู่บนดั้งจมูกได้รูปทำให้ร่างบางที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดสวนชะงักทันที


        "เปล่านะฮะ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น" บิชอปร่างเล็กปฏิเสธทันควัน ใบหน้าหวานที่มองมาอย่างอ้อนๆทำให้คาสเตอร์เผยรอยยิ้มที่ไม่ค่อยจะมีคนเห็นนักออกมา



        แต่ก่อนที่จะได้พูดคุยกันมากกว่านี้เม็ดฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัวโปรยลงมาจากท้องฟ้าที่ครึ้มตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ ดวงอาทิตย์ถูกกลบไปเพราะเมฆหมอกที่ลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศร่างบางและร่างสูงจึงต้องรีบหลบเข้าไปในที่ร่มที่ใกล้กับสวนมากที่สุด แต่ก่อนที่จะถึงจุดหมายปลายทางนั้น ลมแรงที่กรรโชกมาพัดหมวกบิชอปทรงสูงของทั้งสองปลิวว่อนไป เผยให้เห็นเส้นผมสีม่วงซีดที่เปียกโชก
    กับเส้นผมสีน้ำตาลแดงที่แนบติดกับใบราวเรียวคม รวมทั้งแว่นตาที่มีหยดน้ำเกาะพราวอยู่



        คาสเตอร์ไม่รอช้าจัดการปลดเสื้อคลุมบิชอปที่หนักอึ้งออกก่อนจะใช้เป็นร่มชั่วคราวให้กับเขาและร่างเล็ก เผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดที่แนบติดกับเนื้อของชายหนุ่ม รวมทั้งกางเกงขายาวสีดำสนิท
    ลาบราดอร์ที่เห็นดังนั้นทำให้ใบหน้าหวานขึ้นสีอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะเสมองไปทางอื่นเพื่อปิดบังใบหน้าที่ร้อนผ่าวอย่างไม่มีสาเหตุของเขา



        ทั้งสองวิ่งไปที่ใต้ระเบียงมุมหนึ่งของโบสถ์ที่ยังไม่มีใคร ก็คงเป็นเพราะสภาพอากาศและตอนนี้ยังเช้ามาก ชายหนุ่มร่างสูงที่เปียกปอนไปทั้งตัวค่อยๆวางชุดบิชอปของตนเองไว้ข้างกายก่อนจะถอดแว่นออกมาเช็ด
    ทำให้ร่างเล็กที่อยู่ข้างกายเผลอจ้องมองใบหน้าที่ไร้แว่นของคนข้างกายอย่างไม่รู้ตัว



        ใบหน้าเรียวได้รูปรับกับนัยน์ตาสีเดียวกับเส้นผม ดั้งจมูกได้สัดส่วนกับริมฝีปากบางซีดที่น่าหลงใหล  ชายหนุ่มข้างกายของเขาเป็นคนที่สมบูรณ์พร้อมและคู่ควรกับคนที่ดีกว่าเขา ร่างเล็กคิด
    อีกอย่างคาสเตอร์ไม่ได้สนผู้ชายเหมือนกันสักหน่อย...จริงไหมละ



        ชายหนุ่มร่างเล็กแอบถอนหายใจอย่างแผ่วเบาก่อนจะถอดถุงมือที่เปียกเพราะน้ำฝนที่สาดลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัววางไว้ข้างกาย มือบางที่เย็นเฉียบของร่างเล็กยื่นมือออกไปสัมผัสกับหยดน้ำที่ร่วงลงมาจากฟ้า
    รอยยิ้มบางๆบนใบหน้าหวานที่พอใจกับบรรยากาศที่สงบ มันทำให้ใจที่สับสนและวุ่นวายของเขาสงบได้ทุกๆครั้งที่ได้สัมผัสกับน้ำที่เย็นเยือกแบบนี้



        ส่วนคาสเตอร์ที่อยู่ข้างกายร่างบางก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สังเกตพฤติกรรมของบิชอปร่างเล็กหรอกนะ นัยน์ตาคมของชายหนุ่มแอบลอบมองร่างเล็กเสมอ ลาบราดอร์ของเขาไม่รู้เลยงั้นหรอ ว่าเขาต้องควบคุมตัวเองขนาดไหน
    ไม่ให้เผลอแสดงอาการแบบนั้นออกไป เพราะกลัวว่าจะโดนรังเกียจ...ที่เขาเป็นแบบนี้น่ะสิ



        ในตอนนี้ร่างสองร่างที่นั่งเคียงข้างกัน แต่เว้นช่องว่างเอาไว้ ช่องว่างของความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่ไม่อยากจะล้ำเส้นไปเพราะไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าเกิดพูดคำๆหนึ่งที่อธิบายความรู้สึกจากใจออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้
    สุดท้ายก็ได้แต่เก็บอาการ เก็บความรู้สึกไว้คนเดียวเงียบๆ ได้แต่กลัวอีกฝ่ายจะรู้



        นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงหันไปมองร่างเล็กที่หันมามองเขาเหมือนกัน นัยน์ตาสีม่วงซีดสบตากับนัยน์ตาอีกคู่ ความเจ็บปวดที่ปิดไม่มิดของร่างเล็กแสดงออกผ่านดวงตาเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะกลับมาสดใสอีกครั้ง
    ส่วนร่างสูงที่ดูเศร้าหมองก็เก็บความรู้สึกเก่งไม่แพ้กันกลายเป็นสายตาอบอุ่นที่คุ้นเคย ก่อนจะละสายตาออกจากกัน ความเงียบที่ครอบคลุมดูเหมือนจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ หากไร้ซึ่งบทสนทนาของทั้งคู่



        เราไม่คู่ควรกับคาสเตอร์หรอก...ความคิดของลาบราดอร์ที่แทบจะเรียกได้ว่าท่องไว้เกือบจะทุกวัน

        เมื่อไหร่เลิฟจะรู้ตัวสักที...ความคิดของคาสเตอร์ที่ต้องควบคุมตัวเองเสมอเมื่ออยู่ใกล้ร่างบาง



        ความคิดที่ต่างกัน...ทำให้เรื่องบางเรื่องไม่จบสักที...

        โดยเฉพาะเรื่องบางเรื่องที่ใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ...อย่างเช่น.. "ความรัก"

        ที่ต้องใช้ "หัวใจ" ทั้งสองดวงในการตัดสินใจ

        ว่าจะทำยังไงต่อไปกับความรู้สึกที่ไม่เคยมีให้ใคร..

        แต่กลับมีให้คนๆหนึ่ง...คนเดียวเท่านั้น...



        ความรู้สึกที่แน่วแน่และมั่นคง...ที่มีให้

        ยังไม่เคยเสื่อมคลาย

        แต่ทำไม....

        คนคนนั้นยังไม่รับรู้สักที?

        ยังไม่เคยรับรู้...ว่ามีใครคนหนึ่ง

        คนที่มอบหัวใจทั้งดวงให้...และไม่ต้องการอะไรตอบแทน

        กำลังรออยู่ตรงนี้...

        รอให้หันมามอง..แค่สักนิด..ก็ยังดี



        สายฝนที่แรงกระหน่ำยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกอย่างง่ายๆ ร่างเล็กที่ทรุดตัวนั่งบนม้านั่งหินอ่อนอยู่ข้างคนตัวสูงกว่าจามออกมาเบาๆ ก่อนที่จะกอดตัวเองเพราะความหนาวจากกระแสลมที่มาพร้อมกับหยาดฝน
    ร่างเล็กที่ตัวสั่นระริกดึงดูดความสนใจจากชายหนุ่มที่เหม่อลอยให้หันมามอง



        ใบหน้าหวานและริมฝีปากที่ซีดเผือด เส้นผมที่เปียกลู่ลงมาแนบกับใบหน้าหวาน ขนตาแพรงอนที่มีหยดน้ำเกาะรวมถึงดวงแก้มใสที่เห็นเลือดฝาดบางๆ คาสเตอร์เขยิบตัวเข้าใกล้ร่างเล็กก่อนจะโอบร่างเล็กนั้นให้อยู่ในอ้อมกอดของเขา
    ทันทีที่รู้สึกได้ว่าชายหนุ่มข้างกายขยับเข้ามาใกล้จนห่างกันไม่ถึงคืบ ใบหน้านวลที่ซีดเซียวกลับระเรื่อขึ้นมา นัยน์ตาสีม่วงซีดของลาบราดอร์จ้องมองที่ใบหน้าของคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจนัก



        "ลาบราดอร์ครับ...จะว่าอะไรไหม ถ้าผมจะขออยู่อย่างนี้สักพัก" เสียงกระซิบของคาสเตอร์ดังเรี่ยข้างหูของร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของคนตัวใหญ่กว่า

        "..." คนที่ถูกถามกลับไม่ตอบทำให้ความเงียบกลับเข้ามาอีกครั้ง ร่างเล็กเม้มปากอย่างชั่งใจก่อนจะเรียกคนตัวสูงกว่าด้วยเสียงแผ่วเบา

        "คาสเตอร์..."

        "ครับ..?" นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงของบิชอปหนุ่มจ้องมองมาที่ใบหน้าหวานของร่างบางที่แสร้งหันไปมองทางอื่น

        "ทำแบบนี้ทำไมฮะ..." เสียงหวานที่สั่นเครือของร่างเล็กทำให้คนที่ได้ฟังถึงกับชะงักไป

        "ถ้าไม่ได้รู้สึกแบบนั้น...อย่าให้ความหวังกันได้มั้ยฮะ" ร่างบางสั่นมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งน้ำตาที่ไหลรินเปรอะเปื้อนดวงแก้มสีซีดนั้นตอกย้ำความรู้สึกของร่างสูงไปเรื่อยๆ

        "คาสเตอร์รู้บ้างมั้ย...ว่าผมน่ะเจ็บขนาดไหน"

        "ผมต้องทนกับความรู้สึกตัวเองขนาดไหนกันฮะ...ในเมื่อรักคนที่เขาไม่เคยแม้แต่จะหันมามองเราสักนิด" หยดน้ำที่ติดอยู่บนใบหน้าหวานถูกลบเลือนออกไปด้วยนิ้วหัวแม่มือของใครบางคน ดวงหน้าหวานนั้นถูกเชยคางขึ้นให้หันมามองที่ร่างสูง
    ที่สบตาราวกับจะต้องการให้อีกฝ่ายรับรู้ความรู้สึกของตน

        "เลิฟ...คุณไม่ได้คิดไปเอง" เสียงทุ้มปลอบประโลมร่างบางที่หนาวสั่นอย่างอ่อนโยน ใบหน้าคมสันนั้นโน้มเข้าหาใบหน้าหวานอย่างช้าๆจนหน้าผากของทั้งสองชิดติดกัน

        "จะสายไปไหม...ถ้าผมจะบอกว่าผมรักคุณ" คาสเตอร์จับมือของร่างบางให้แตะที่หน้าอกข้างซ้ายของเขาก่อนจะพูดต่อว่า

        "เพราะหัวใจของผมมีแต่คุณคนเดียว...คุณสัมผัสมันได้ไหม...ความรู้สึกที่ผมมี..นี่ไม่ใช่เรื่องโกหก"

        "เพราะผมรักคุณมานานแล้ว...เลิฟ...ได้โปรดอย่าร้องไห้อีกเลยนะครับ" ดวงตาที่รื้นน้ำตาของร่างบางค่อยๆปิดลง เมื่อสัมผัสได้ถึงรสหวานจากริมฝีปากของใครคนหนึ่ง ใครคนที่เขามอบหัวใจทั้งดวงให้ ใครคนที่เขามอบความรักทั้งหมดที่มีให้คนๆนี้ คนเดียวเท่านั้น

        "บอกผมสิฮะว่ามันไม่ใช่เรื่องโกหก..." ริมฝีปากบางที่อมชมพูนั้นยังต้องการคำยืนยัน นัยน์ตาสีม่วงซีดที่จ้องมองมาอย่างคาดหวังกับคำพูดนั้น...และความรู้สึกนั้น

        "ครับ...มันไม่ใช่เรื่องโกหก เพราะมันเป็นความจริง" คาสเตอร์พูดเสียงแผ่วเบาก่อนจะชี้ให้ร่างเล็กในอ้อมกอดมองสายรุ้งที่พาดผ่านท้องฟ้าสีครามไร้ซึ่งเมฆสีเทาอีกต่อไป ดวงอาทิตย์ที่สดใสเผยให้เห็นอีกครั้งกับแสงตะวันที่ทอแสงตกลงมากระทบกับหยดน้ำที่เกาะพราว
    บนใบหญ้าสีเขียวชะอุ่ม จากบรรยากาศที่ชวนเศร้าหมองและหดหู่กลับกลายเป็นอบอุ่นและสดใสอย่างน่าประหลาด


       

        ในเช้าวันหนึ่งที่ฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างไม่ปราณีใคร..

        กลับทำให้หัวใจสองดวงกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน...อย่างที่ทั้งสองไม่เคยคาดคิด

        และจะเป็นหัวใจดวงเดียวกันตลอดไป....
       




        "บางทีความรักอาจจะทำให้คุณต้องเจ็บ

        บางทีความรักอาจจะทำให้คุณต้องร้องไห้

        บางทีความรักอาจจะทำให้คุณต้องว้าเหว่

        บางทีความรักอาจจะทำให้คุณมองข้ามใครบางคนที่อยู่ข้างคุณไป

        บางทีความรักอาจจะทำให้คุณมองข้ามหัวใจของใครบางคนไป

        บางทีความรักอาจจะทำให้คุณมองข้ามความรู้สึกของใครบางคนไป

        แต่เมื่อคุณมองกลับมาแล้ว...

        คุณอาจจะพบกับใครคนหนึ่งที่เฝ้ารอคุณมาตลอดและไม่เคยไปไหนเลยสักครั้ง

        พร้อมกับหัวใจดวงหนึ่งที่เฝ้ารอให้คุณมาเติมเต็มมัน...
       
        ...สักวันหนึ่ง"






    The End~*

    -----------------------------------------------------------------

    cradit:
    http://flame-daydreaming.exteen.com/20111107/fic-07-ghost-rainy-day-cl
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×