ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยากูซ่าจอมป่วน

    ลำดับตอนที่ #1 : รับน้อง

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 49


    บทนำ

    เอก อี้ เอ้ก เอ้ก  เช้าวันใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้ง  และมันช่างเป็นเช้าที่แสนจะสดใส  ดูสิ เจ้าไก่โต้งของลุงหนามคนขับรถยังขันเป็นสัญญานแห่งเช่าวันใหม่ที่แสนสดชื่น  เฮ่อ  เจ้าไก่ตัวนี้นี่ทำหน้าที่ได้ดีทุกวันเลยจริงๆนะ

    โอ๊ย เจ้าไก่บ้า  ไม่มีอะไรทำหรือไง ขันได้ทุกวี่ทุกวัน  ฟ้าลดาลูกสาวคนโตของบ้านอมรวัฒนะดึงผ้าห่มมาทับหน้าเอาไว้

     โธ่ แม่เด็กสาวผู้น่าสงสารผู้ไม่มีโอกาสได้สัมผัสว่าแสงแดดแรกยามเช้าแสนอบอุ่นมากเพียงใด  แต่ก็อย่างว่านอนห่มผ้าห่มให้อุ่นในห้องแอร์เย็นๆย่อมสบายกว่าเป็นไหนๆ  แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปแล้วนี่  เห็นหรือเปล่าล่ะ  กระเป๋าเดินทางใบเบ่อเริ่มที่เจ้าหล่อนเพิ่งเตรียมเอาไว้อย่างลวกๆเมื่อตอนตีสองหลังจากเล่นเกมส์ออนไลน์จนเกือบสลบคาหน้าจอ 

    เธอไม่ได้จะเดินทางไปเที่ยวไหนหรอก  แต่เธอกำลังจะเริ่มทำอะไรใหม่ๆ  กับชีวิตที่เหมือนเริ่มต้นใหม่กับที่ที่ใหม่ไงล่ะ  ถ้าอยากรู้ว่าที่ไหนมาดูกันเลย

    ฟ้าแม่จะไม่เรียกเป็นครั้งที่สองนะลูก ต้องรีบนะ  นี่นาฬิกาปลุกของฟ้าลดาเค้า  แต่เครื่องนี้ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่  เพราะยังมีความเมตตาปราณีอยู่

    อีกห้านาทีน่าฟ้าลดาพึมพำกับตนเอง ก่อนที่จะตั้งหน้าตั้งตาหลับต่อไปตามนิสัยสันดอนที่ชาตินี้ไม่มีใครคิดว่าเธอจะหาย  เรื่องนอนทนนี่ไม่มีใครเกินยัยฟ้าลดาคนนี้  ฉายาเจ้าหญิงบรรทมทนนี่หล่ะ นายมหาสมุทร  หรือนายซี น้องชายฝาแฝดของฟ้าลดาตั้งให้เอง

    ปัง ปังปัง…..ๆๆๆๆๆ  นาฬิกาปลุกตัวจริงมาแล้วหล่ะ 

    นายมหาสมุทรเคาะประตูห้องของนางสาวฟ้าลดาเกือบจะแตก  แต่มันก็ไม่อาจขัดขวางนิทราอันสุขสมของเจ้าหญิงฟ้าลดาได้

    ฟ้า  นี่มันได้เวลาแล้วนะ  ฉันไม่อยากทำอะไรช้า  หัดตรงต่อเวลาซะบ้าง 

    เอากับมันสิ  เวลานายมหาสมุทรเค้าบ้าเลือดนี่เหมือนจะกินเลือดเลยหล่ะ  ได้ยินเสียงเคาะประตูก็น่าจะรู้อารมณ์ รัวซะขนาดนั้น

    หมอนี่นี่หล่อจริงๆ  ดูๆไปหน้ามันก็เหมือนกับไอ้คนที่อยู่ในห้องนั่นหล่ะ  เออ ลืมไปก็ไอ้สองคนนี้มันเป็นฝาแฝดกันนี่หว่า

    ปั้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  เสียงเคาะประตูรัวเป็นปืนเอมสิบหกแน่ะ 

    เชื่อหรือยังล่ะว่าเนี่ยนาฬิกาปลุกของแท้แน่นอน  ประเภทว่าถ้าเจ้าของไม่ตื่นมันอาจฆ่าได้

    เออ…..ลุกแล้ว ขอเวลาห้านาที  ฟ้าลดาน้ำเสียงงัวเงีย  แต่ดูท่าจะไม่ใช่แค่เสียง  เพราะตาของเจ้าหล่อนยังไม่ลืมด้วยซ้ำ

    สามนาทีโว๊ย….แล้วก็เปิดประตูห้องด้วยคนจะได้เอาของไปไว้บนรถ

    ฟ้าลดากลั้นใจลุกแล้วลากสังขารอันเที่ยงแท้เดินมาเปิดล๊อคประตูให้น้องชายเดินเข้ามาด้านใน 

    อารมณ์เสียอะไรแต่เช้า ฝันเปียกเหรอวะ 

    น่าน ดูพี่น้องเค้าสวัสดีตอนเช้าดิ่น่าตื้บชะมัด

    มหาสมุทรมองหน้าพี่สาว  ที่โตกว่าแค่นาทีครึ่ง แต่มันใช้อำนาจและได้คำว่าพี่ไปครอง  แต่ไม่เป็นไรเพราะว่าฟ้าดินได้ลงโทษมันแล้ว

    แกจะรีบไปหว่านเสน่ห์ที่มหาลัยหรือไง  ฟ้าลดายังงัวเงีย

    แกเมาป่าวเนี่ยไอ้ฟ้า  นี่ถ้าฉันไม่ใช่น้องแก ฉันตบกระโหลกแหลกไปแล้วเนี่ยไปๆ  ไปอาบน้ำ  มหาสมุทรพูดลากเสียงพลางผลักตัวพี่สาวเข้าในห้องน้ำ  ก่อนที่จะส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย

    นี่กรูเป็นพ่อมันป่าววะเนี่ย  มหาสมุทรคิดในใจก่อนจะเริ่มขนกระเป๋าใบเบ่อเริ่มหนึ่งใบ  กับใบเล็กๆอีกสองใบ  กล่องสมบัติ  อุปกรณ์ของสะสมที่เกี่ยวกับอุลตร้าแมนทั้งหลายของไอ้พี่สาวจอมบ้าพลัง แล้วก็คอมพิวเตอร์โน๊ตบุคที่มันยังไม่ได้ปิดเลย

     

    และแล้วฟ้าลดาก็ทำกิจวัตรประจำตัวทุกอย่างเสร็จอย่างรวดเร็วปานวอก(ลิงนั่นแหล่ะ)และลงมาที่โต๊ะอาหาร  ดื่มนมที่แม่เตรียมเอาไว้ให้รวดเดียวหมดแล้วเรอออกมาอย่างไม่อายพร้อมตบพุงเบาอย่างสบาย

    อ้าวแม่  ซียังไม่กินอีกเหรอ  ฟ้าลดาถามเมื่อเหลือบไปเห็นแห้วนมของซีที่ยังเต็มแก้วอยู่เลย

    แม่พยักหน้า  เห็นวุ่นๆอยู่แต่เช้า  เตรียมรถเตรียมของวุ่นกลัวจะมีปัญหา  ฟ้าก็รู้ว่าซีขี้กังวล 

    ฟ้าลดาพยักหน้าก่อนจะถือแก้วนมเดินออกมาที่หน้าบ้าน  ซีกำลังยกของที่ขนลงมาจากห้องของฟ้าลดาขึ้นรถ  เจ้าเวสป้าอีแก่สีแดงของนางสาวฟ้าลดาจอดหลาเรียบร้อยอยู่บนรถแล้วด้วย

    ฟ้าลดาส่งแก้วนมให้  มหาสมุทรรับแล้วดื่มรวดเดียวหมด  แต่ไม่ได้เรอออกมาเหมือนกับที่ฟ้าลดาทำ ก็เค้าหนุ่มหล่อภาพพจน์ดีมาสี่ปีซ้อน  ตั้งแต่อยู่มอสามแล้วนี่หน่า

    ขอบใจ 

    น่าน มารยาทงามอีก  พ่อหนุ่มคนนี้ 

    วันนี้เป็นเหมือนวันเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของทั้งคู่ ก็เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่จะได้เรียนมหาวิทยาลัยนี่หน่า ใช่แล้วทั้งนางสาวฟ้าลดา และนายมหาสมุทร อมรวัฒนะ ลูกของคุณพิมพรรณ อมรวัฒนะ  อดีตดาราชื่อดังที่ต้องออกจากวงการเพราะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่ตั้งท้องโดยไม่มีพ่อให้กับลูกทั้งสอง  ตอนนี้ทั้งคู่กำลังจะเป็นน้องใหม่ของรั้วมหาวิทยาลัยไงล่ะ..อิอิอิ

    เฮ่อ นายมหาสมุทรนี่เค้าหล่อจริงๆเลย…(ก็อย่างที่บอกติดท็อปชาร์ทหนุ่มหล่อของโรงเรียนมาหกปี  และได้ตำแหน่งมาสี่ปี) 

    ดูดิผมยาวขึ้นกว่าตอนเรียนมอปลายยิ่งดูเป็นหนุ่ม  จะบอกว่ายังไงดีล่ะ  เอาจุดสำคัญ  คือ สูง ขาว เข้ม  ผมดำ คิ้วดำ  ไม่ให้เรียกหล่อจะให้เรียกว่าไงล่ะฮะ  แต่ก็อย่างว่าแหละ  เป็นลูกของอดีตดาราชื่อดังอย่างคุณพิมพรรณจะไม่ให้หล่อได้ไง  ก็แม่เค้าเลี้ยงมาอย่างดีอย่างทนุถนอม  ส่วนนางสาวฟ้าลดาแม่จะถนอมมันยังไง  มันก็หล่ออยู่ดี 

    ฟ้าลดาช่วยมหาสมุทรยกกล่องของอุลตร้าแมนกล่องสุดท้ายขึ้นรถ  สองคนนี้ตัวเท่ากันเลยนะเนี่ย  ไม่สิ  มหาสมุทรสูงกว่านิดหน่อย  แต่หน้าตาเหมือนกันชะมัด  อย่างที่นายมหาสมุทรเค้าบอกหล่ะ  ว่าฟ้ามันถูกฟ้าดินลงโทษให้มันเกิดมาหล่อ  เฮ่  ว่าไปก็น่าสงสารมันเหมือนกันนะเนี่ย  เรื่องนี้ถ้านางเอกหล่อ  แล้วพระเอกจะเป็นไงน๊อ…..แล้วเรื่องมันจะเป็นยังไงล่ะ 

     

     

    บทที่1  รับน้อง 

     มหาสมุทรกับฟ้าลดาช่วยกันขนของฟ้าลดาขึ้นไปบนห้อง  ซึ่งนิสิตปีหนึ่งทุกคนต้องถูกบังคับให้อยู่หอในของมหาวิทยาลัยในปีแรก  เพื่อเป็นการปรับตัวให้กับนิสิต

    เอาวางไว้ตรงนั้น  เออค่อยๆหน่อยดิ  นั่นมันของรักของฉันนะ  ฟ้าลดาสั่งซีให้วางกล่องของสำคัญ  ก็ของเกี่ยวกับอุลตร้าแมนไงล่ะ  ของรักของข้าเลยหล่ะ

    สั่งตายเลย  นี่น้องนะโว๊ย ไม่ใช่ทาส  มหาสมุทรแกล้งทำหน้าอารมณ์เสียกับน้ำเสียงขู่ก่อนที่จะอมยิ้ม

    เออเอาเป็นว่าจะพาไปเลี้ยงไอติมแล้วกันนะน้องรัก  ฟ้าลดาตบไหล่น้องชายทำเหมือนตัวเองอายุมากกว่าซะมากมาย  แต่นาทีครึ่งเนี่ยนะ

    นี่พูดเบาๆดิ่วะอายเค้า  มหาสมุทรเอามือจุ๊ปากเมื่อเหลือบไปเห็นหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ที่ประตูห้อง

    อายอะไรเล่า  ไม่เห็นน่าอายเลยแค่ชอบกินไอติมเอง  ฟ้าลดาโวยขึ้นมาก่อนจะหันไปเห็นหญิงสาวใบหน้าคมผิวสีเข้ม

    ฟ้าลดาหรือเปล่า  หญิงสาวยิ้ม

    ฟ้าลดาพยักหน้า  ก่อนจะหันไปทำหน้าแหยกับน้องชาย 

    เราเจนจิราเป็นรูมเมทของเธอ  หญิงสาวแนะนำตัว

    ฟ้าลดารู้แล้วว่ารูมเมทคนหนึ่งของเธอชื่อเจนจิรา  เธอพยักหน้า ดูท่าเจนจิราคงจะแยกไม่ออกว่าใครชื่อฟ้าลดาถ้าฟ้าลดาไม่พยักหน้า

    ก็ไอ้ฟ้าลดาชอบตัดผมสั้น  ส่วนนายมหาสมุทรผมเริ่มจะยาว

    เจนจิรามองหน้าฟ้าลดาและมหาสมุทรสลับกัน

    นี่น้องชายฉัน ชื่อมหาสมุทร  ฟ้าลดาแนะนำน้องชายและยิ้มให้กับเจนจิราอย่างสนิทสนมเป็นกันเอง 

    เจนจิรายิ้มให้กับมหาสมุทร  เอาอีกแล้ว  ขนาดอยู่เฉยๆนะเนี่ยไม่ได้ไปวิ่งไล่ขายขนมจีบสักหน่อย ก่อนจะจ้องหน้าฟ้าลดา

    เรียกเราซีก็ได้นะ  เออ ฟ้านี่กุญแจรถ  ฉันจะเอารถจอดไว้ที่โรงจอดรถนะ  มหาสมุทรพูดแก้เขินเพราะคิดว่าเจนจิราจ้องหน้าเค้า แต่ตอนนี้หล่อนหันไปทำให้ฟ้าลดาเขินแทนซะแล้ว

    ถ้างั๊นฉันไปก่อนนะ  เย็นๆจะมารับไปกินข้าว  มหาสมุทรพูดจบก็เดินออกมาและถอนหายใจอย่างแรง (มากๆ)

    ตายนี่ขนาดแค่ถูกมองเค้ายังแย่ขนาดนี้ ยังไม่ชินอีกเหรอกับการเป็นเป้าสายตาฮะ พ่อหนุ่ม? ชะตากรรมของหนุ่มหล่อนามนายมหาสมุทรจะเป็นอย่างไรต่อไปหนอหน้าเหนื่อยแทนจริง….จริ๊ง….

    มหาสมุทรลับตาไปแล้ว  เจนจิราก็เอาของขึ้นมาหมดแล้วด้วย 

    หน้าเหมือนกันจังเลยนะ  ฟ้า กับซีอ่ะ  เจนจิราพูดเมื่อคุยเรื่องอื่นกันได้สักพักแล้ว

    ก็เราเป็นฝาแฝดกัน  ฉันเป็นพี่เกิดก่อนนาทีครึ่ง  ฟ้าลดายิ้มแล้วก็แหยเมื่อมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งเดินถือของกระเป๋าสีชมพูใบเล็กเดินเข้ามา 

    โอ้  ช่างเหมือนพิกเลสในเรื่องหมีพูเหลือเกิน  เพราะนอกจากกระเป๋าจะสีชมพูแล้ว  ชุดแซกของเจ้าหล่อนก็เป็นสีชมพูอ่อน  รองเท้า ก็เป็นรองเท้าใสเหมือนกับรองเท้าแก้ว  ผมสีดำสนิทดัดเป็นลอน  เหมือนเจ้าหญิงเอามั้กๆเลย

    เธอวางกระเป๋าสีชมพูอ่อนลงบนโต๊ะเครื่องแป้งที่มีเพียงอันเดียว  ฟ้าลดากับเจนจิรามองหน้ากัน และคงเข้าใจเหมือนกันว่าแม่หญิงนางนี้ก็คือ นางสาวบัวชมพู  ภัครภิรมณ์  รูมเมทอีกคน

    สวัสดีค่ะ  นี่ห้องสามหนึ่งหกใช่มั๊ยคะ  บัวชมพูส่งยิ้มหวาน

    เจนจิราพยักหน้า  แม่สาวเจนนี่ก็ช่างมีจิตเป็นมิตรกับชาวบ้านเสียเหลือเกิน 

    นี่กรูเป็นผู้หญิงนะ  จะส่งยิ้มหวานทำไมเนี่ย  ฟ้าลดาคิดในใจ  

    ดูทำตาหวานใส่กรูอีก 

    เราบัวชมพูนะ  เธอคงชื่อเจนจิรา  และเธอคงชื่อฟ้าลดาสินะ  บัวชมพูยิ้ม

    ทำไมเห็นปุ๊บก็รู้ว่ากรูเป็งใครเลยเหรอเนี่ย  ฟ้าลดาคิดในใจ (อีกแล้ว)

    จะไม่ให้รู้ได้ไงล่ะ  ก็ยัยเนี่ยลูกสาวเจ้าพ่อจะไปอยู่ที่ไหนสุ่มสี่สุ่มห้าได้ไง  นี่ถ้าไม่ใช่ข้อบังคับของมหาวิทยาลัยอย่าหวังว่าเจ้าหล่อนจะได้มายืนอยู่หอพักในที่แสนจะเก่า  ที่สำคัญมีประวัติศาสตร์อันยาวนานโอ้ยคิดแล้วหยอง….

    ฟ้าลดากับเจนจิราต้องตาโต  เพราะเจอเรื่องหยองกว่าครับท่าน  บอดี้การ์ดของสาวบัวชมพูบุกหอครับ  โหมากันเก้าคนอย่างกับหนังเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้  สวมสูทผูกไทใส่แว่นดำ  พ่อคู๊ณไม่อายเค้าบ้างไงเนี่ย

    ไม่ต้องตกใจนะ  นี่คนของคุณพ่อบัวเอง  เอาของขึ้นมาและก็จะลงไปจ้ะ  บัวชมพูกล่าวนิ่มๆเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนร่วมห้องทั้งสอง ก่อนจะหันไปทำสีหน้าโมโหใส่บอดี้การ์ททั้งเก้า

    เอ้า  รีบวางแล้วก็ออกไป 

    เสียงดุโคตระเลยหล่ะ  นี่เจ้าหล่อนจะเอามาดไหนกันแน่ฮะ 

    ฟ้าลดากับเจนจิราถอนหายใจเมื่อพวกหนุ่มชุดสูทหน้าโหดออกไปแล้ว

    บัวต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้ตกใจ  บัวชมพูหันมายิ้มหวานเหมือนเดิน 

    ดูท่าฟ้าลดาจะมองบัวชมพูดีกว่าแวบแรกที่เห็น

     

    ค่ำวันนั้น…..

    ฟ้าลงมายัง ฉันรอนานแล้วนะ  มหาสมุทรเดินไปเดินมาหน้าหอทั้งๆที่มีที่นั่งว่างเพียบ  แต่แหมจะให้นั่งได้ไง  ก็ยุงเยอะซะขนาดนั้น  ถ้านั่งล่ะก็อาจตายได้

    เอออยู่ข้างหลังเนี่ย  ฟ้าลดากดวางสาย  มหาสมุทรหันไป  เจนจิรากับบัวชมพูก็เดินออกมาพร้อมด้วย

    นี่เจน แกรู้จักแล้วสิ  นี่เมทฉันอีกคนชื่อบัว  ฟ้าลดาแนะนำเพื่อนร่วมห้องงทั้งสองให้กับน้องชายตนเอง

    นี่คงเป็นน้องชายฝาแฝดฟ้าล่ะสิ  เกิดห่างกันนาทีครึ่ง  ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าเป็นน้อง  ดูสิโตกว่าเราตั้งเยอะ  บัวชมพูร่ายรายละเอียดซะยาวราวกับเป็นญาติกัน 

    เจนจิรามองหน้าฟ้าลดาที่กันมาสบตากันพอดีเป็นเชิงถามว่า

    ฉันไปบอกมันเมื่อไหร่วะ

    มหาสมุทรยิ้ม

    เพื่อนฟ้าคนนี้น่ารักจัง  หน้าคล้ายๆเราด้วย  สงสัยจะเป็นเนื้อคู่กัน  มหาสมุทรคิดในใจเมื่อมองหน้าบัวชมพู  ก่อนที่เค้าจะเริ่มรู้สึกว่าเค้ากำลังเป็นเป้าสายตาของใครหลายๆคนเข้าแล้ว

    เจนกับบัวไปทานด้วยกันนะ  แล้วเราก็น่าจะรีบไปได้แล้วด้วย

    ฟ้าลดามองหน้าน้องชายอย่างเข้าใจว่าเค้าไม่ชอบเป็นเป้าสายตาเท่าไหร่ 

    ก็นี่มันหน้าหอหญิงนี่หน่า  หญิงก็ต้องเยอะเป็นธรรมดา  และยิ่งถ้าคนหล่อหลุดมายิ่งน่ากังวล  แล้วฟ้าลดาจะรอดมั๊ยเนี่ย ก็คุณเธอดันหล่อนี่หว่าแถมแต่งตัวมาดแมนซะขนาดนี้

    ร้านอาหารที่มาทานกันเป็นร้านอาหารตามสั่งธรรมดาที่อยู่ตลาดด้านหลังมหาวิทยาลัย  ทั้งสี่เข้ามานั่ง  อีกแล้ว  เป็นเป้าสายตาอีกตามเคย

    โอ้  โลกนี้จะมีที่ไหนที่กรูไม่เป็นเป้าสายตามั๊ยเนี่ย  ฟ้าลดาและมหาสมุทรคิดในใจ 

    ยิ่งมียายบัวชมพู  น่ารักซะขนาดนั้นมาเดินด้วยยิ่งเด่นไปกันใหญ่  ด้านเจนจิราถึงจะไม่สวยเหมือนบัวชมพูแต่เธอก็เข้มเพราะเป็นสาวใต้นี่

    อาหารที่สั่งมา  โอ้พระเจ้า  ทำไมช่างกล้าทำมาขายล่ะจ๊ะ  เมื่อทุกคนตักคำแรกเข้าปากเป็นต้องหน้าแหยไปตามๆกัน 

    โธ่เราไม่น่าเห็นแก่ความหิวและเลือกร้านที่คนน้อยเล๊ย….”  ทุกคนคิดในใจแต่ไม่กล้าพูด

    รสชาติ อุบาท ชาติชั่ว ตัวดำ อำมหิตมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    นั่งทานกันไปได้สักพัก  มหาสมุทรก็รู้สึกเหมือนมีสายตาสามสี่  หรือห้าคู่จ้องมาที่เค้า  ไม่ใช่สายตาชื่นชมในความหล่อเหลาอย่างเคย  มันรู้สึกขนลุกทุกเส้นอะไรประมาณนั้น บัวชมพูนิ่งมองซ้ายมองขวา  เหมือนเธอจะไม่รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองเลย  หรือว่าชินแล้วน๊า 

    บัวขอตัวไปโทรศัพท์ซักครู่นะ 

    บัวชมพูเดินออกไปคุยโทรศัพท์ราวสองนาที่ก็เดินกลับมมหาสมุทรรู้สึกสบายตัวมากขึ้น  ทีหลังเวลารู้สึกไม่ดีคงต้องให้บัวชมพูออกไปคุยโทรศัพท์ซะมั๊ง

    แต่ว่าสายตาที่จับจ้องเค้า  สอง สาม สี่ ห้า คู่นั้น เป็นของใครกันหนอ  เป็นของคนที่มองว่านายมหาสมุทรกิ๊กอยู่กับนางสาวบัวชมพู  ก็ทั้งคู่น่าจะได้เป็นดาวมหาลัยอย่างสบายๆ(นี่ถ้าไอ้ฟ้าถูกส่งชื่อฝ่ายชายอาจยากหน่อยเพราะหน้าเหมือนกันมาก)  หรือ ไอ้พวกชายขี้เหร่ที่อบอิจฉาว่านายมหาสมุทรเด็กปีหนึ่งยังปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมรูปหล่อริอาจมาทานข้าวกับสาวน้อยน่ารัก  อะไรก็แล้วแต่อันนี้ก็ยังไม่ทราบอย่างชัดเจน  อ้ออีกข้อสันนิษฐานหนึ่งยังไม่แน่ใจ  ขอคิดดูก่อนนะ

    อาหารช่างแย่เหลือเกิน  ไม่มีใครพูดถึงแต่ดูเหมือนจะเข้าใจกันดีว่าคงจะไม่มาทานร้านนี้อีกถ้าไม่มีเหตุจำเป็น

    มหาสมุทรส่งสาวๆที่หน้าหอพัก  เค้าเลี่ยงการเป็นเป้าสายตาโดยการไม่ลงจากรถ  อย่างนี้ก็ซวยฟ้าลดาอ่ะดิ ….อิอิอิ…. ขานี้เค้าก็หล่อใช่ย่อยซะที่ไหน 

    แกโอเคนะซี  ฟ้าลดาพูดกับน้องชายเมื่อเพื่อนทั้งสองเดินไปรอใกล้ๆประตู

    เออ  แต่เหนื่อยๆว่ะ  กลับไปคงอาบน้ำนอนเลย 

    ถ้าอย่างนั้นแกก็กินยาด้วยแล้วกัน  ตอนนี้มีแต่แกกับฉันแล้วนะ  ฟ้าลดามีสีหน้าห่วงน้องขึ้นมา

    อย่ามาทำหน้าแบบนี้ว่ะ  ฉันน้องแกแค่นาทีเดียวเองนะ  อย่ามาทำเป็นโตหน่อยเลย  มหาสมุทรยิ้ม

    นาทีครึ่งโว๊ย….ไปได้แล้วอาบน้ำ  อย่าลืมกินยา

    เออ..รู้แล้วน่า  ว่าแต่แก..อาบน้ำด้วยแล้วกัน  มหาสมุทรทำเสียงล้อก่อนจะออกรถไปแล้วโบกมือให้กับพี่สาวที่ทำเช่นเดียวกัน  นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ฟ้าลดากับมหาสมุทรไม่ได้นอนชายคาเดียวกัน 

    จะว่าไปพี่น้องสองคนนี้แม้จะชอบแกล้งกัน  ทะเลาะกัน  แต่ก็เพราะมันรักมันห่วงกัน  มันก็เลยเป็นอย่างนี้  มันเรื่องธรรมชาติ

    มหาสมุทรกลับมาที่หอพัก  เกือบสามทุ่มแล้วแต่เพื่อนร่วมห้องอีกสามคน คือ มนัส  เอกชัย  และวีรภาพยังไม่กลับมา   เค้าทิ้งตัวลงนอนอย่างเหนื่อยๆ  ความจริงเจ้าหมอนี่ก็เป็นคนขี้เกียจอาบน้ำเหมือนกันนั่นแหละ  แต่มันก็ขยันกว่าพี่มันหน่อย  คืออย่างน้อยดึกดื่นครึ่งคืนขนาดไหนมันก็ต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำ  สำอางจริงๆเลยพ่อคุณ

    ก่อนหอพักปิดราวสิบนาที่  มนัส  เอกชัย  และวีรภาพก็กลับขึ้นมาที่ห้องพัก  มหาสมุทรหลับไปได้เกือบชั่วโมง  และเค้าก็ง่วงเพราะฤทธิยาเกินกว่าจะลุกมาคุยกับเพื่อนร่วมห้องที่เพิ่งกลับมาได้ 

    กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  เสียงอะไรเนี่ย  เสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้นี่หว่า  หอพักชายไฟไหม้เหรอวะเนี่ย 

    เฮ๊ยนี่มันเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้นี่หว่า  เอกชัยพลาดออกมาจากห้องน้ำ ท่อนบนเปลือยเปล่าส่วนท่อนล่างพันผ้าขนหนูเอาไว้

    มึงจะมัวมึน  วิ่งสิวะ  วีรภาพวิ่งนำหน้าเพื่อนๆมาที่ประตู

    มหาสมุทรงัวเงียเอามือขยี้ตา  มนัสดึงแขนมหาสมุทรให้ลุกขึ้นหนี

    เสียงสัญญาณไฟไหม้ยังดังไม่หยุด

    มนัสและวีรภาพช่วยกันประคองร่างมหาสมุทรลงมาทางบันไดหนีไฟ

    มึงทำไมตัวหนักจังวะ  มนัสบ่น 

    มหาสมุทรดูท่าเหมือนจะไม่มีแรง  ก็วันนี้ยกโน่นยกนี่  ไหนจะของของตัวเอง  ไหนจะของของฟ้าลดาอีก

    เออ  มึงเดินเองไม่เป็นหรือไงวะ  วีรภาพเสริม  ส่วนนายเอกชัย วิ่งหายไปที่แห่งหนไดแล้วก็ไม่มีใครทราบได้  แต่ก็ขอให้โชคดีก็แล้วกัน  เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวมันมีผ้าขนหนูแค่ผืนเดียว 

    เมื่อพ้นทางหนีไฟเป็นสนามหญ้าหน้าหอ  มีพวกเด็กปีหนึ่งคงเกือบทั้งหอนอนคว่ำกันเป็นระนาว

    มนัส  มหาสมุทร และวีรภาพลงมาถึงยังไม่ได้คิดอะไรต่อก็ถูกเกณฑ์ให้นอนคว่ำกับพื้น นี่มันรับน้องหรือกองร้อยฝึกทหารใหม่วะเนี่ย

    โอ้ยคืนนี้กรูจะได้นอนมั๊ยเนี่ย  มนัสบ่นอุบ  เพราะตอนนี้ก็เข้าใจแล้วว่าเป็นแผนของพวกพี่จอมบ้าพลังที่เตรียมแกล้งน้องอีกแล้วครับท่าน

    เฮ๊ย  แล้วให้มานอนอย่างนี้เราจะหนีทันมั๊ยเนี่ย  มหาสมุทรพูดมึนๆ 

    ก็มันยังงัวเงียขี้ตาอยู่นี่หว่า(ยามันแรง)

    หนีอะไรเล่า  นี่คงเป็นแผนการณ์ไอ้พวกพี่บ้าพลัง  คงเป็นแผนรับน้องว่ะ  วีรภาพบ่นอุบก่อนจะกดหน้ามหาสมุทรคว่ำลงกับพื้น

    เอกชัยคลานเข้ามาหมอบข้างๆมนัส  ตอนนี้เป็นอันว่าเด็กปีหนึ่งก็มารวมกันอยู่ที่หน้าหอ  ดูหมอบกันหมด  แล้วก็มืดจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร  แล้วไอ้เอกชัยมันไปคว่ำหน้าผ้าหลุดอยุ่ถวไหนหรือเปล่าน๊อ 

    ไอ้พวกรุ่นพี่นี่มันบ้าพลังเหมือนกันทุกรุ่นเลยนะเนี่ย เกือบตีสามแล้วยังจะเล่นอะไรพิเรนอีก

    สวัสดีน้องๆปีหนึ่งทุกคน  ที่พี่เรียกลงมาตอนนี้มีเรื่องสำคัญมาก  รุ่นพี่คนหนึ่งเริ่มพูดเมื่อเหตุการณ์สงบมากขึ้น (ก็น้องๆหมอบลงกับพื้นกันหมด)  เด็กปีหนึ่งทุกคนไม่มีใครเห็นหน้าพวกรุ่นพี่ซักคนเพราะทางหอพักไม่ได้เปิดไฟสักดวง(ก็พวกพี่ๆนั่นแหละที่ปิดเพื่อเป็นการป้องกันการถูกแก้แค้นในภายหลัง)

    สำคัญมากขนาดต้องเรียกมาตอนตีสองเลยเหรอวะเนี่ย  เสียงหนึ่งในกลุ่มนิสิตปีหนึ่งพูดเบาๆ  

    หวังว่าน้องทุกคนคงจะเข้าใจที่พี่ต้องเรียกมา  ที่เรียกมาพี่ก็ต้องการให้พวกเราทราบว่านี่เป็นสัญญาณไฟไหม้ของหอพักชายของเรา

    กรูรู้แล้ว  เสียงกระซิบหนึ่งจากกลุ่มปีหนึ่งที่นอนอยู่

      ซึ่งวันนี้น้องๆทำได้ดีมากที่ลงมาก  แต่พี่ขอร้องว่าถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก ขอให้น้องหนีกันอย่างเป็นระเบียบ ขอเน้นนะครับว่าอย่าใช้ลิฟท์  เสียงรุ่นพี่คนเดิมอธิบาย

    แล้วลิฟท์มันอยู่ตรงไหนวะ  เสียงกระซิบอีกเสียงหนึ่ง

    ก็หอในมันไม่มีลิฟท์นี่หว่า

    โห  นี่มึงให้พวกกรูมาซ้อมหนีไฟตอนตีสามเนี่ยนะ  มนัสบ่นอุบ

    วีรภาพหันไปหามนัสพร้อมกับจุ๊ปาก 

    มึงพูดดังเกินไปแล้ว 

    แต่สายเกินการณ์ไปเสียแล้ว

    เฮ๊ย บ่นอะไรวะ  รุ่นพี่คนหนึ่งเดินมาดึงตัวมนัสให้ลุกขึ้น  ก่อนจะหันมาเรียกให้วีรภาพยืนขึ้นด้วย  มหาสมุทรที่นอนคว่ำหน้าอยู่ระหว่างวีรภาพและมนัสก็เลยซวยไปด้วย

    เมื่อกี๊พูดอะไร  รุ่นพี่คนเดิมที่ลักษณะทางกายภาพเป็นคนตัวเล็กกว่ามหาสมุทรเอาค่อนข้างมากเงยหน้าถามมหาสมุทร

    มหาสมุทรยืนนิ่ง

     ก็กรูไม่ได้พูดอาไรนี่หว่า  เค้าคิดในใจ

    นี่เป็นน้องหัดเคารพรุ่นพี่ซะบ้าง  ไม่ต้องมามองหน้า 

    แล้วกรูไปทำอะไรเป็นที่ลบหลู่ล่ะฮะ  มหาสมุทรคิดอีกแล้ว 

    ใครจะกล้าพูดล่ะ  แค่เกิดมาหน้าตาหล่อก็โดนพวกรุ่นพี่มองแย่แล้ว  ไอ้ที่โดนดีนี่ก็คงเป็นเพราะหล่อเกินหน้าเกินตานี่ล่ะมั๊งฮะพ่อหนุ่ม

    ไม่ต้องมาด่าในใจ

    อ้าวรู้ทันอีก  ก็อย่างว่านั่นแหละมันก็เคยเป็นรุ่นน้องมาก่อน 

    เออ….พอๆ  วันนี้ดึกแล้วให้น้องๆเค้าไปพักผ่อนก่อนแล้วกัน  รุ่นพี่ที่ดูท่าว่าจะเป็นประธานหอกล่าว  ไฟสปอร์ตไลท์สว่างขึ้น  แต่พวกรุ่นพี่ก็หายกันไปหมดแล้ว  ทุกคนแยกย้ายกันขึ้นห้องของตนเอง(อย่างอารมณ์เสีย)  แต่ก็หลับเป็นตายกันหมดในเวลาต่อมา

     

    เช้าวันใหม่  ฟ้าลดาลืมตาขึ้นมาคนสุดท้าย  ก็ตามประสาแม่หญิงบรรทมทนนั่นหล่ะ  บัวชมพูกับเจนจิราอาบน้ำแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้ว  และนี่มันก็เจ็ดโมงครึ่งแล้วด้วย

    ทำไมไม่มีใครปลุกฉันซักคน  ฟ้าลดาเงยหน้าขึ้นถามเจนจิราที่นั่งอยู่บนเตียงชั้นสอง

    ก็เห็นฟ้าหลับสบายนี่หน่า  ว่าแต่รีบๆเข้าเถอะรุ่นพี่เค้านัดเรารวมตอนแปดโมงเช้า  เจนจิรายิ้มแล้วปีนลงมาจากเตียง 

    ราวเจ็ดนาทีฟ้าลดา  บัวชมพู และเจนจิราก็มารออยู่บริเวณสนามหน้าหอพัก  และ สถานะการณ์ก็เหมือนเดิม  เพราะบัวชมพูและฟ้าลดากำลังตกเป็นเป้าสายตาของประชากรหอพักหญิงที่เป็นเด็กปีหนึ่งด้วยกันทั้งนั้น

    สรุปว่ามันมองว่าบัวชมพูสวย  หรือมองที่ฟ้าลดาหล่อกันแน่เนี่ย

    ที่ประตูหอ  หญิงสาวผมสั้นสวมกางเกงยีนตัวโคร่งกับเสื้อยืดคอกลมแขนยาวคนหนึ่งเพิ่งลงจากรถพร้อมกับของพะรุงพะรัง  นี่หล่ะนางสาวบุษบา  ชาลีรัตน์  รูมเมทของสาวๆทั้งสามคน  ยั 

    บุษบาเดินหิ้วกระเป๋าเดินทางใบโต  แล้วก็ใบเดียวเท่านั้นเดินตัวโยนผ่านหน้าสาวๆทั้งสามที่นั่งคุยกันอยู่ 

    มาดยายนี่นี่สุดๆ ท่าทางจะมาแข่งความแมนกับฟ้าลดาอ่ะดิ่  ดูท่าเดินแมนมากๆ แต่เสียใจนางเอกของอิฉันหล่อกว่าเยอะ  แต่ยายนี่ท่าทางจะเป็นทอมจริงๆว่ะ  ท่าทางทุกสิงทุกอย่างมันบ่งบอกความเป็นชายเอาไว้อย่างแรงกล้า

    ให้ฉันช่วยมั๊ย  ฟ้าลดาเดินเข้ามาหาเพราะเห็นท่ากระเป๋าคงหนักเอาการ

    บุษบามองหน้าฟ้าลดาก่อนจะกวาดสายตามองเจนจิราและบัวชมพู

    ไม่เป็นไรเธอกล่าวสั้นๆ  เสียงห้าวชะมัดเลยยายนี่  ถ้าทางสามสาวจะเจอของแท้เป็นแน่

    โธ่หุ่นเหิ่นก็ดี  หน้าตาก็หญิงกว่าฟ้าลดาตั้งเยอะ  ไม่น่าเป็นทอมเลยแม่คู๊ณ

    ฟ้าลดามองตามบุษบาไปไม่ทันจะลับสายตาห็กลับมานั่งที่เดิม

    นั่นบุษบารูมเมทเราอีกคนนึง  บัวชมพูกล่าว

    เป็นลูกสาวคนเดียวของค่ายมวยในจังหวัดนี้แหละ  เคยเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับเราตอนมอต้นบัวชมพูอธิบายต่อ

    ยัยนี่ยี่แหล่งข้อมูลชั้นเยี่ยมจริงๆ

    นิสิตชายถูกพวกรุ่นพี่พาเดนผ่านหน้าหอหญิงไปรอที่อาคารกิจกรรมซึ่งไม่ไกลจากหอพักใน  ทุกคนสวมเสื้อเฟรชชี่สีดำเหมือนกันหมดเพื่อเป็นการบ่งบอกว่าเป็นเด็กปีหนึ่ง 

    มหาสมุทรก็เป็นหนึ่งในที่ต่อแถวเดินมา  เค้าโบกมือให้กับฟ้าลดา  แต่ดูท่ามันตั้งใจให้บัวชมพูมากกว่า เมื่อเดินผ่านหน้าหอหญิงและเห็นทั้งสามนั่งอยู่  ไม่เท่าไหร่รุ่นพี่ที่คุมหอหญิงก็เรียกให้นิสิตหญิงมาเข้าแถวรวมกันที่สนาหญ้า  และพากันเดินไปรวมที่อาคารกิจกรรมที่พวกนิสิตชายรออยู่

    ที่อาคารกิจกรรมนิสิตทุกคนถูกแยกให้นั่งตามคณะ ตามสาขาที่ตัวเองเรียน  ซึ่งก็ได้เจอพวกเพื่อนๆที่เจอกันตั้งแต่การรายงานตัวแล้ว  ฟ้าลดาแยกมานั่งกับเด็กสถาปัตย์ที่ปีนี้มีนิสิต 28 คน  มี่ผู้หญิงสามคน  หนึ่งในนั้นก็ฟ้าลดานั่นหล่ะ

    อธิการบดีกล่าวอะไรเล็กน้อย ตามมาด้วยอาจารย์สามสี่ท่านที่มาพูดกล่าวต้อนรับนิสิตใหม่  และหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง

    พี่ประธานสภานิสิตกล่าวเปิดกิจกรรมรับน้องอย่างเป็นทางการ  หลังจากนั้นก็เป็นการแบ่งกลุ่มเพื่อเป็นการคละรุ่นน้องคณะต่างๆ  จะได้รู้จักกันทั่ว  และฟ้าดินก็เข้าข้างทั้งสามสาวได้อยู่มีเดียวกัน ( สีแดง )

    สวัสดีค่ะน้องๆ  พี่ชื่อพี่ว่านนะคะ  เป็นพี่เลี้ยงประจำสีแดง  หญิงสาวหน้าตาใจดี  นิสิตคณะพยาบาลปีสองกล่าวยิ้มๆ

    สวัสดีครับน้องๆพี่ชื่อปิงปองเป็นพี่เลี้ยงอีกคนครับ  นายนี่ชื่อปิงปอง  เด็กคณะเกษตรกล่าวแถมส่งตาหวานหยาดเยิ้มให้กับพยาบาลว่าน  ไม่บอกใครๆเค้าก็รู้นะเนี่ยว่าเฮียปิงปองแกกำลังตามจีบคุณว่านพยาบาลสาวสวยแหงๆ

    ถ้าอย่างนั้นเรามารู้จักสมาชิกในกลุ่มสีแดงของเราดีกว่า  นายปิงปองเริ่มกิจกรรมแรกเพื่อให้น้องๆได้รู้จักชื่อกัน 

    เฮ๊ยนั่นมันยัยคนเมื่อกี๊ที่เราจะช่วยถือของนี่หว่า  มาดคุณนายจริง จริ๊ง  เจนจิราสะกิดเมื่อเห็นบุษบาเดินมานั่งกลุ่มข้างๆ

    ช่างเหอะ  เอ้าตาเธอแนะนำตัวแล้ว  ฟ้าลดาสะกิดให้เจนจิราลุกขึ้นยืนแนะนำตัว  ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่น่าสนใจเท่าไหร่  เพราะเป้าหมายอยู่ที่ฟ้าลดากับบัวชมพูต่างหาก

    สวัสดี  เราชื่อฟ้าลดา  อยู่สถาปัตย์  เรียกฟ้าเฉยๆก็ได้  ฟ้าลดาลุกขึ้นแนะนำตัวพร้อมกับส่งยิ้มให้กับสมาชิกทุกคนในกลุ่มที่มีอยู่ด้วยกันยี่สิบเอ็ดคน….และเธอก็เป็นที่สนใจของเพื่อนๆอยู่มากเหมือนกัน(โดยเฉพาะสาวๆ)

    อ้าวผู้หญิงนี่หว่า  เสียงซุบซิบหนึ่งดังมา

    เออแต่ก็น่ารักนะแก  เสียงซุบซิบที่สอง

    ฟ้าลดาหันไปมองหน้าทั้งสองนิ่งๆ  ทำเอาสาวถึงกับม้วนตัวงอ

    รู้ว่ากรูเป็นผู้หญิงแล้วจะอายหาอะไรฮ๊า  ฟ้าลดาคิดในใจ  แต่ก็ยังฝืนยิ้มให้กับสาวๆ

    ยังไงเราก็ต้องรักษาคะแนนนิยมเอาไว้  คิดในใจอีกครั้ง 

    เอากับมันสิ  ยายฟ้าลดานี่

    สวัสดีค่ะ  เราชื่อบัวชมพูอยู่เอกภาษาอังกฤษ  เรียกเราบัวก็ได้นะ   บัวชมพูส่งยิ้มนางงามอย่างเคย  โอ้ย……หนุ่มในกลุ่มจะละลายกันหมดแล้วมั๊งเนี่ย

    หลังจากกิจกรรมช่วงเช้าเรียบร้อยแล้วทุกคนก็แยกย้ายไปตามส่วนต่างๆของมหาวิทยาลัยซึ่งจะแบ่งกันไปที่ละสี่สีเพราะว่านิสิตค่อนข้างเยอะ ส่วนของฟ้าลดาโดนแยกไปที่ส่วนของอ่างเก็บน้ำด้านหลังมหาวิทยาลัย

    สวัสดีอีกครั้งฟ้าลดายิ้มเมื่อเดินสวนกับบุษบาที่รักษามากนักเรียนลอนดอนไม่เลิก

    เจนจิรากับบัวชมพูไม่พูดอะไร  

    บุษบาพยักหน้ารับแบบเชิดๆแล้วเดินสวนไปไม่พูดอะไรสักคำ

    ยัยนี่เป็นอะไรของมันวะ คุณนายลิซึ่มหรือไง  ฟ้าลดานึกในใจ

    สีฟ้า สีขาว สีส้ม และสีแดง  มารวมกันอยู่ที่อ่างเก็บน้ำ  ซึ่งเป็นที่ทีจะทำกิจกรรมรับน้อง

    พี่อยากให้น้องเลือกสมาชิกในกลุ่มคนนึงให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม  ปิงปองพูดกับสมาชิกในกลุ่ม

    และผลคะแนนออกมาก็คือนางสาวฟ้าลดา อมรวัฒนะ ได้เป็นหัวหน้ากลุ่มด้วยคะแนนฉิวเฉียดกับนางสาวบัวชมพู 

    ประกาศให้น้องที่เป็นหัวหน้ากลุ่มมารวมกันที่ด้านหน้าครับ  เธียรวิทย์  ประธานสโมประกาศเรียก

    ฟ้าลดาเดินมาเป็นคนสุดท้าย

    เอ่อ….น้อง  เธียรวิทย์มองที่ป้ายชื่อฟ้าลดา

    น้องฟ้า

    ค่ะ  ฟ้าลดาพยักหน้า

    นี่น้องฟ้านะครับเธียรวิทย์แนะนำฟ้าลดาให้กับหัวหน้ากลุ่มอีกสามคน  ที่เป็นผู้ชายหมด

    นี่ ตะวัน  มนัส  และก็ ท๊อป  เธียรวิทย์บอกชื่อทั้งสามให้ฟ้าลดารู้  เป็นอันว่าทั้งสี่รู้จักกันแล้ว เธียรวิทย์จึงพาทั้งสี่ออกมาจากตรงนั้นปล่อยให้เพื่อนอีกมารับช่วงทำกิจกรรมรับน้องต่อ

    เรามนัสนะ เป็นรูมเมทของเจ้าซีมัน  มนัสเข้ามาเดินข้างๆฟ้าลดาระหว่างทางที่เดินตามเธียรวิทย์ไปที่ไหนสักแห่ง

    อือ  เราชื่อฟ้า  แล้วซีมันอยู่กลุ่มสีอะไรเนี่ย  ฟ้าลดาถาม

    เห็นว่าอยู่ที่เหลืองมั๊ง  มนัสตอบ 

    ตะวันฉายหันมามองหน้าทั้งคู่อย่างกวนๆก่อนที่จะหันกลับไป

    หมอนี่หน้าตาไม่เป็นมิตรเอาซะเล๊ย  ฟ้าลดาคิดในใจ

    เธียรวิทย์พาทั้งสี่มายืนที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง

    พี่มีกิจกรรมให้น้องๆทำ  แต่ก่อนอื่นพี่อยากให้น้องๆเขียนชื่อเพื่อนคนหนึ่งที่น้องคิดว่าสนิทกับน้องที่สุดในกลุ่มให้พี่คนละหนึ่งชื่อนะครับ  เธียรวิทย์ส่งกระดาษกับปากกาให้กับทุกคน

     ฟ้าลดาเขียนชื่อชองบัวชมพูลงไปอย่างไม่ได้คิดพิจรณาอะไรเพราะเห็นว่าบัวชมพูเป็นคนรู้เรื่องอะไรมากน่าจะช่วยเธอได้ดีกว่าเจนจิราที่ดูเปิ่นๆ

    ทั้งสี่ส่งกระดาษคืนให้กับเธียรวิทย์และถูกกักตัวให้อยู่ตรงนั้นเกือบชั่วโมง  มีพี่สาวคนหนึ่งเดินเข้ามาเอากระดาษที่ทั้งสี่คนเขียนเมื่อครู่

    พี่เห็นเราตั้งแต่มารายงานตัววันแรกแล้วเธียรวิทย์เริ่มชวยฟ้าลดาคุย  เพราะเค้าเป็นรุ่นพี่ที่คณะ

    อ๋อค่ะ  พี่เป็นประธานคณะ  และก็เป็นประธานสโมด้วย  ฟ้าลดายิ้ม 

    ดีเลยค่ะ  ที่ได้คุยกับพี่  เผื่อมีปัญหาเรื่องเรียนจะได้ของคำปรึกษา

    ไม่ต้องเฉพาะเรื่องเรียนก็ได้ค่ะ เรื่องอื่นก็ได้  เธียรวิทย์ยิ้ม

    ตะวันฉายหันมามองหน้าเธียรวิทย์ 

    เอาอีกแล้วนะมึง  นี่มันเด็กปีหนึ่งนะโว๊ย

    เธียรวิทย์มองหน้าตะวันฉายพลางอมยิ้ม  ผิดกับมนัส  ฟ้าลดา แล้วก็ท๊อปที่มองหน้าตะวันฉายอย่างงง  ทำไมน้องปีหนึ่งถึงพูดกับรุ่นพี่อย่างนี่ล่ะ 

    ก็นายตะวันฉายเค้าอายุ 19 แล้วนี่หน่า  แล้วคราวนี้เค้าก็เป็นหนุ่มเฟรชชี่รอบสองแล้วด้วย  และที่พูดกับนายเธียรวิทย์อย่างนี้ได้ก็เพราะสองนายเนี๊ยะเค้าเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมปลายแล้ว

     ที่สำคัญนายตะวันฉายนี่ไม่ธรรมดาเพราะเค้าเป็นเจ้าของตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้ว(ตอนนั้นนายนี่เค้าเรียนทันตะ)

     ตอนนี้นายตะวันฉายเค้าเข้าเรียนปีหนึ่งอีกครั้ง  อยู่สถาปัตย์เหมือนกับฟ้าลดานั่นหล่ะ

    เธียรวิทย์พาพวกรุ่นน้องทั้งสี่คนเดินกลับมาทางเดิม

    มึงเขียนชื่อใครไปวะ  เธียรวิทย์ถามตะวันฉายขณะเดินกลับมา

    มึงเห็นน้องส้มสีกูป่าวล่ะ  เออ เห็นน่ารักดีแกล้งเล่นๆดีกว่าตะวันฉายพูดหน้าตานิ่งๆก่อนจะหันมามองฟ้าลดาที่กำลังมองเค้าอยู่เหมือนกัน

    หมอนี่ถ้าทางจะไม่ธรรมดาแฮะ  ฟ้าลดาคิดในใจ เธอเห็นเค้ามารายงานตัวสายตั้งแต่วันแรกที่เจอกันเมื่อสองเดือนก่อน

    มองอะไร  หน้าฉันมีอะไรผิดปกติฮะตะวันฉายทำน้ำเสียงทีเล่นทีจริง 

    ฟ้าลดามองหน้าขมวดคิ้ว 

    มองไม่ได้หรือไงล่ะ   เธอตะคอกใส่หน้าเค้าก่อนจะคิดในใจ(อีกแล้ว) 

    คิดว่าตัวเองหล่อมากหรือไง  ฉันก็หล่อเหมือนกันนะโว๊ย

    อ้าวนางเอกของเราเริ่มจะสับสนแล้ว  สรุปแกเป็นอย่างไงกันแน่ฮะเนี่ยยายฟ้าลดา 

    ฟ้าลดาตักข้าวผัดกระเพราคำสุดท้ายเข้าปากพร้อมกับดื่มน้ำเอื้อกใหญ่  เพราะตอนเดินกลับมาเพื่อนๆก็เริ่มกินข้าวกันแล้ว  

    อ้าวเจน  บัวไปไหนแล้วล่ะ  ฟ้าลดาถามเมื่อเห็นว่าบัวไม่อยู่

    ไม่แน่ใจคงไปเข้าห้องน้ำมั๊ง  เมื่อกี๊เห็นเดินไปกับใครไม่รู้  เจนจิราตอบก่อนจะวางห่อข้างลงกับพื้น

    อ้าว  ทำไมไม่ไปด้วยกันล่ะ 

    เออฟ้าเมื่อกี๊เค้าจับพี่รหัสกัน  พี่เค้าให้เราจับให้ฟ้าเลยอ่ะ  เจนจิราส่งกระดาษที่ม้วนเป็นสลากให้กับฟ้าลดา

    เธอได้เป็นน้องใครเหรอ  ฟ้าลดาถาม

    พี่ตอง ทันตอ่ะ  ยังไม่รู้เลยว่าคนไหนแต่มีเบอร์โทรคงหาไม่ยาก  เจนจิรายิ้ม

    ฟ้าลดายิ้มก่อนที่จะเปิดดูชื่อบั๊ดดี้ของตนเองในกระดาษ

    “”””””เปรมศักดิ์ คณิตศาสตร์ 045584422”””””

    เปรมศักดิ์  ฟ้าลดาอ่านชื่อ

    ได้ใครเหรอฟ้า  เจนจิราทำเป็นจะแอบดู  แต่ฟ้าลดากลับส่งให้ดูเอาชัดๆ

    ชื่อเปรมศักดิ์  เจนจิราอ่านพลางขมวดคิ้ว

    ฟ้าลดาส่ายหน้า

    แต่มีเบอร์โทร  คงหาไม่ยากหรอก

    เจนจิราพยักหน้า 

    ว่าแต่บัวจะไปนานเกินไปแล้วนะ  เจนจิราบ่น

    รุ่นพี่เรียกเข้ามารวมเข้าแถวเพื่อทำกิจกรรมในช่วงบ่ายต่อ  ยัยบัวชมพูยังไม่หลับมาเลย  ทำให้ทั้งฟ้าลดาและเจนจิราเริ่มรู่สึกเป็นห่วง และเริ่มถามเพื่อนในกลุ่ม

    มีอะไรกันเหรอคะ  ว่านถามฟ้าลดาที่เดินแตกแถวออกมาถามเพื่อนในกลุ่มถึงบัวชมพู

    ฟ้าหาบัวไม่เจอค่ะพี่ว่าน  ฟ้าไม่เห็นตั้งแต่กลับมาจากที่พี่เธียรเค้าเรียกแล้วอ่ะค่ะ

    ว่านพยักหน้า  ฟ้าไปเข้าแถวก่อนดีกว่านะ  แล้วพี่จะให้ปิงปองหา  ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก

    ดูท่าว่านไม่ค่อยเป็นห่วงบัวชมพูจนฟ้าลดาอารมณ์เสีย 

    เป็นพี่เลี้ยงประสาอะไรเด็กในกลุ่มหายไม่รู้  ฟ้าลดาคิดในใจแต่ก็ต้องเดินมายืนอยู่ที่หัวแถว

    ทุกคนนั่งลงเรียบร้อยแล้ว

    น้องๆทุกคนครับ  ตอนนี้เป็นกิจกรรมวอร์คแรลลี่ช่วงบ่าย  น้องๆทุกคนต้องเดินวนให้ครบทุกด่านซึ่งมีอยู่ทั้งหมดสิบสองด่าน  น้องๆจะต้องเก็บอาซีตามสีของตัวเองให้ครบเพื่อเป็นแผนที่ไปเอาตัวประกันที่พวกพี่ได้จับตัวเอาไปขังเอาไว้แล้วตามสถาณที่ต่างๆในมหาวิทยาลัย 

    เธียรวิทย์บรรยายกติกาของกิจกรรมช่วงบ่าย

    ฟ้าลดามองหน้าเธียรวิทย์  และเข้าใจว่าตัวประกันที่ว่าก็คือบัวชมพู  หรือเข้าใจง่ายๆก็คือคนที่เขียนชื่อใส่กระดาษไปก่อนเที่ยงนั่นเอง

    ตัวประกันอะไรเราไม่เห็นเข้าใจเลย  เจนจิราสะกิดฟ้าลดา

    บัวไง  ตัวประกันกลุ่มเราอ่ะ  ฟ้าลดาอธิบาย

    ทุกคนรับกล่องอาหารเย็นและอุปกรณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางช่วยเหลือตัวประกันในครั้งนี้

    นี่มันทำอย่างกับเกมโชว์ทีวีเลยหรือไงวะ  เพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งพูด

    หรือมันทำเหมือนรับน้องสยองขวัญ  อีกคนแสดงความเห็น

    นี่มึงจะดูหนังมากไปแล้ว  เพื่อนอีกคนปราม

    เมื่อได้อุปกรณ์ครบแล้วฟ้าลดาก็เรียกเพื่อนในกลุ่มให้นั่งเป็นวงกลม

    ทุกคนคงรู้นะว่าตัวประกันของกลุ่มเราคือใคร  เราต้องช่วยกันนะ  ฟ้าขอร้องว่าให้ทุกคนใจเย็นๆ  ที่ฟ้าลดาพูดอย่างนี้ก็เพราะสังเกตเห็นว่ามีเพื่อนในกลุ่มบางคนที่ดูจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่

     

    มหาสมุทรนั่งนิ่งๆอยู่ในห้องแลบของคณะวิทยาศาสตร์ มือทั้งสองข้างถูกมัดไขว้เอาไว้ด้านหลัง  ตรงหน้าเค้าคือนางสาวบัวชมพูรูมเมทของพี่สาวเค้านั่นเอง  ถูกมัดท่าเดียวกันเลยหล่ะ

    โชคดีนะที่เค้าไม่มัดปากเราเอาไว้  มหาสมุทรชวนบัวชมพูคุย

    อะไรโชคจะเข้าข้างให้มหาสมุทรได้มานั่งอยู่ลำพังกับคนน่ารักอย่างบัวชมพูน๊า

    แต่บัวชมพูกลับนิ่ง  ดูสีหน้าเธอไม่ค่อยดี  ไม่มีใครเข้าใจเลยหรือว่าสถาณการณ์อย่างนี้มันเลวร้ายขนาดไหนสำหรับบัวชมพู  ไม่ใช่ว่าเธออ่อนแอหรอกนะ  แต่สำหรับคนที่เคยถูกลักพาตัวมาแล้วหลายต่อหลายครั้งมันน่ากลัวมากเลยทีเดียว

    มหาสมุทรมองหน้าบัวชมพูนิ่งๆ  เป็นอะไรหรือเปล่าบัว

    บัวชมพูน้ำตาไหลนองแก้มทั้งสองข้าง  เรากลัวจังเลยซี

    อะไรกันเนี่ย  ยัยนี่ปัญญาอ่อนอินขนาดนี้เลยเหรอ  มหาสมุทรคิดในใจ

    โธ่  พ่อหนุ่มความคิดของนายนี่ทำภาพพจน์นายเสียไปมากมายเลยนะเนี่ย

    ไม่ต้องกลัวหรอกน่า  มันเป็นแค่เกมเดี๋ยวเพื่อนๆก็มาช่วยเราน่า 

    โหดูมันตีหน้าพระเอก  ทีเมื่อกี๊ด่าเค้าในใจ

    แต่คำพูดสุดแสนมาดแมนก็ไม่อาจช่วยสาวเจ้าให้หยุดร้องไห้ได้เลย  ไอ้พวกพี่นี่เล่นอะไรพิเรน  และดันซวยมาเจอลูกสาวเจ้าพ่อที่ถูกลักพาตัวบ่อยๆอีกชะตาขาดแล้วนายเธียรวิทย์เอ๋ย  ไอ้คนคิดเกม

    บัวชมพูยังร้องไห้สะอื้นไปเรื่อยๆ  จนดูเหมือนจะหายใจไม่ทัน

    บัวเป็นอะไรป่าว  มหาสมุทรมองหน้าบัวชมพูที่เริ่มซีดขึ้น ซีดขึ้น  แล้วก็หายใจหอบถี่ขึ้น

    บัวจะเอายาพ่น….  ในกระเป๋า….ในกระเป๋ากางเกง  บัวชมพูหายใจหอบถี่

    มหาสมุทรมองเพื่อนที่หายใจไม่ทัน  พวกพี่มันก็ไม่สนใจมาอยู่ดูเลย  จะทำไงดี มหาสมุทรพยายามหาทางแก้มัดแต่ก็ไม่ออกสักที  บัวชมพูปากซีดเขียว

    เฮ๊ย  ใครอยู่ข้างนอกช่วยที  มหาสมุทรหาทางแก้มัดไปก็ตะโกนไป

     แต่ดูท่าจะยากเพราะไม่มีใครอยู่เลย  แถมประตูก็ถูกล็อคเอาไว้จากด้านนอกซะด้วย  สถานการณ์ย่ำแย่

     และบทบาทของนายมหาสมุทรเค้าก็คือพระเอกตัวจริง  ดังนั้นพระเจ้าจึงดลบันดาลให้เค้ามามารถแก้เชือกออกได้  เฮ่อค่อยยังชั่วไม่อย่างนั้น พวกรุ่นพี่คงต้องซวยแน่ๆ

    ยาอยู่ตรงไหน  มหาสมุทรแก้เชือกให้บัวชมพูอย่างรวดเร็ว  มือของบัวชมพูเกร็งไปหมดเหงื่อก็ชุ่มไปทั้งตัว

    มหาสมุทรดึงเอายาพ่นจากกระเป๋ากางเกงของบัวชมพูและจัดการพ่นไห้กับเจ้าหล่อน  ดีนะที่หมอนี่ตั้งใจเรียนวิชาสุขศึกษาไม่อย่างนั้นคงแย่เหมือนกัน

    อาการเกร็งของบัวชมพูเบาลงแล้ว  มหาสมุทรดึงเอาศรีษะของเธอมาหนุนที่ตักของเค้า

    อาการดีขึ้นหรือยัง  มหาสมุทรถามเธอพลางหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าของตนเองมาเช็ดเหงื่อให้กับเพื่อนซึ่งความจริงมันเรื่มคิดไม่ซื่อตั้งแต่แรกเห็นแล้ว

    บัวชมพูพยักหน้า 

    ทำไมไม่บอกรุ่นพี่ว่าเป็นหอบ  จะได้ไม่ต้องมาเป็นอย่างนี้  มหาสมุทรยังคงเช็ดเหงื่อให้อย่างเดิม

    เรากลัวไม่สนุก  แค่เราเป็นนี่ก็ทำให้ซีหมดสนุกแล้ว

    ไม่หรอกน่า  ว่าแต่หายกลัวแล้วนะ  มหาสมุทรยิ้มเมื่อเห็นอาการบัวชมพูดีขึ้นมาก

    อือ….ต้องขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง  แต่เราไม่ชอบถูกมัดอย่างนั่นเลย  มันน่ากลัวมันน่ากลัวจริงๆนะ  มันเหมือนเหตุการณ์จริงมากเลย

    มหาสมุทรขมวดคิ้วเป็นเชิงถาม  บัวชมพูจึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่เธอเคยถูกลักพาตัวหลายต่อหลายครั้งให้มหาสมุทรฟัง

    ไม่ต้องคิดมากน่า  นี่เป็นแค่เกม  ที่สำคัญบัวไม่ได้อยู่คนเดียวในที่มืดสักหน่อย  ยังมีเราอยู่ทั้งคน  นายมหาสมุทรพูดพร้อมกับคิดในใจ  กรูอยากพูดคำนี้มานานแล้ว

    โหท่าทางโคตรพระเอก  แต่ความคิดมันดิ่โคตรอุบาทเลย  นี่มันจะดีทั้งภาพพจน์ทั้งตัวมันไม่ได้เหรอวะเนี่ย  เสียดายหน้าตามันจริงๆเลยหล่อซะเปล่า

    ถึงแม้ว่าความคิดมันจะทุเรศไปหน่อย  แต่นายมหาสมุทรก็เป็นห่วงบัวชมพูมากจริงๆ  จะว่าไปเค้าก็รู้สึกว่าบัวชมพูเป็นผู้หญิงที่ตรงสเป็คเค้ามากๆ  ท่าทางเรียบร้อยน่าทะนุถนอม  ส่วนหน้าตาก็คล้ายๆกันด้วย 

    จะว่าไปนายมหาสมุทรก็เป็นคนน้ำเน่าอย่างไม่น่าเชื่อ  เค้าเป็นคนเชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาส  และ เค้าก็เชื่อด้วยว่าคนที่เป็นเนื้อคู่กันน่าจะมีหน้าตาคล้ายกัน  หมอนี่ชอบอ่านตำราหมอดูเป็นชีวิตจิตใจ  จะว่าไปไอ้พวกหล่อๆนี่เบื้องหลังมันก็น้ำเน่าเหมือนกันแฮะ  ถึงว่าสาวๆมาขายขนมจีบให้นายมหาสมุทรเยอะแยะหมอนีก็ยังไม่เคยจริงใจกับใครเลยน๊า   ว่าแต่ถ้าแกว่าเนื้อคู่ต้องหน้าเหมือนกัน  เนื้อคู่แกคงเป็นฟ้าลดาล่ะมั๊งอิอิอิ

     

    ตะวันฉายมาถึงอาร์ซีด่านสุดท้ายที่มีกุญแจห้องที่ตัวประกันถูฏซ่อนอยู่ด้วย  อาร์ซีสีฟ้ากับสีแดงอยู่คู่กันพอดี  ความคิดชั่วร้ายของนายตะวันฉายจึงแล่นพร่านเข้าทุกรูขุมขน(เรื่องนี้จะมีพระเอกมั๊ยเนี่ย)  ความคิดของเจ้ารุ่นพี่คนนี้ก็คือต้องการขัดขวางนางสาวฟ้าลดานั่นเอง  ก็นายตะวันฉายหมั้นไส้ไอ้ฟ้าลดามาตั้งแต่เห็นแรกๆแล้วนี่หน่า(เค้ามีแต่รักแรกพบนะ)

    ตะวันนายอย่าทำอย่างนี้ดีกว่า  เพื่อนสาวในกลุ่มคนหนึ่งล่วงรู้ถึงความชั่วร้ายของหัวหน้ากลุ่ม

    เปล่า  เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย  ตะวันฉายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้  ทั้งที่ใจกำลังมีแผนชั่วร้าย  จะเอาอาร์ซีแผ่นสุดท้ายไปซ่อนให้หายากส์  แบบยากโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เพื่อนสาวคนนั้นหยิบเอาอาร์ซีแล้วเดินไป  สมาชิกในกุ่มดีใจกันใหญ่ที่ได้อาร์ซีครบ  รีบเอามาต่อดูว่าส้มที่เป็นตัวประกันของกลุ่มสีฟ้าถูกซ่อนเอาไว้ที่ไหนของมหาวิทยาลัย

    อย่างนี้ก็หวานนายตะวันฉายเค้าอ่ะดิ่  แผนชั่วร้ายจึงดำเนินต่อไป  นายตะวันฉายดึงเอาอาร์ซีของกลุ่มสีแดงเอาไปซ่อนในที่ที่คิดว่าฟ้าลดาไม่มีทางที่จะหาเจอ  ซ่อนตรงไหนล่ะ  ก็ในกระเป๋ากางเกงของเค้าไง แค่นี้แผนการก็สำเร็จลุล่วงไปแล้ว  และนั่นก็เป็นเวลาทุ่มกว่า

     

    นิสิตทั้งสิบเอ็ดกลุ่มกลับมารวมที่อาคารกิจกรรมแล้ว  ยกเว้นกลุ่มสีแดงของฟ้าลดา

    เฮ๊ยกลุ่มสีแดงทำไมยังไม่มาอีก  มหาสมุทรชะเง้อคอมอง  เพราะว่าตอนนี้บัวชมพูอยู่คนเดียวที่ห้องแลบคณะวิทยาศาสตร์  เพื่อนๆพามหาสมุทรเดินมารายงานตัวที่รุ่นพี่ว่าเค้าสามารถช่วยเหลือตัวประกันได้แล้ว

    เอก  เราขอกุญแจห้องแลบหน่อยดิ่  สีแดงยังไม่มาเลย  นี่ก็มืดแล้วด้วย  บัวเค้ากลัวว่ะ  มหาสมุทรพูดกับเอกชัย  ซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกัน  และเป็นหัวหน้ากลุ่มด้วย

    แหมวันแรกก็เหล่หญิงแล้วเหรอมึง  เอกชัยยิ้ม  หมอนี่จอมกะล่อนอยู่แล้วนี่หน่า

    เปล่า  บัวเค้าเป็นเพื่อนพี่กู  เค้าเป็นหอบหืดด้วย  ให้กูไปเหอะ

    เอกชัยส่งกุญแจให้เพื่อนเพราะดูไม่มีอะไรจำเป็นแล้ว….

    ฟ้าลดานำทีมกลับมาที่อาคารกิจกรรมทั้งๆที่ได้อาร์ซีไม่ครบสิบสองอัน  ทำให้กลุ่มสีแดงเป็นกลุ่มเดียวที่ไม่ได้ตัวประกันกลับคืนมา  สมาชิกทุกคนในกลุ่มยังไม่มีใครยอมกินข้าวสักคน เพราะคุยกันเอาไว้ว่าจะรอกินข้าวเย็นพร้อมบัวชมพู 

    อ้าวกลุ่มสีแดงกลับมากลุ่มสุดท้ายเลย  แล้วไหนล่ะตัวประกัน  เธียรวิทย์ยิ้ม  เมื่อเห็นฟ้าลดาเดินเข้ามา

    พี่เอาอาร์ซีอันสุดท้ายไปซ่อนที่ไหนล่ะ  นี่ก็เดินไปตามแผนที่แล้วไม่เจอเลย  น้ำเสียงฟ้าลดาไม่ค่อยพอใจ  ทุ่มครึ่งแล้วเพื่อนทุกคนยังไม่มีใครยอมทานข้าว  ที่น่าห่วงสุดคือบัวชมพู

    ถ้าเดินตามแผนที่ก็ต้องเจอสิ  เธียรวิทย์ทำเสียงล้อเล่น  แต่ดูท่าฟ้าลดาจะไม่เล่นด้วยซะแล้ว

    เอาเป็นว่าเกมนี้สีแดงยอมแพ้ก็แล้วกันพี่  ป่านนี้แล้วเลิกเล่นเหอะ  ฟ้าลดาเริ่มมีอารมณ์  ระหว่างที่ฟ้าลดกำลังอารมณ์เสียใส่เธียรวิทย์  สายตาทุกสายตาก็จับจ้องไปทางประตูทางเข้าอาคารกิจกรรม  พี่ๆหน่วยพยาบาลวิ่งกันชุลมุนไปมุงช่วยเหลือกันใหญ่  ฟ้าลดาวิ่งตัวลอยไปที่จุดนั้น  มหาสมุทรพยุงร่างบัวชมพูเข้ามาที่อาคาร  ท่าทางของบัวชมพูแย่เอามากๆเลย

    เกิดอะไรขึ้น  ฟ้าลดาแหวกทุกคนเข้าไปเห็นมหาสมุทรนั่งอยู่ข้างๆบัวชมพูที่หายใจหอบอีกแล้ว

    บัวชมพูพ่นยาด้วยตนเองจนอาการหอบถี่เบาลง  ใบหน้าขาวซีดส่งยิ้มให้กับฟ้าลดาที่ขมวดคิ้วมองหน้าเพื่อน  ก่อนที่จะไปทำตาเขียวใส่เธียรวิทย์

    นายจัดกิจกรรมภาษาอะไรไม่รอบคอบ  ถ้าบัวเป็นอะไรนายรับผิดชอบไหวหรือเปล่า  ฟ้าลดาตะหวาดใส่เธียรวิทย์ยืนนิ่ง  เรื่องนี้เค้าผิดเองเต็มๆที่ไม่จัดเพื่อนให้ดูแลเพื่ออยากให้สมจริงสมจัง

    พี่ขอโทษ  เป็นความผิดของพี่เอง  เธียรวิทย์ก้มหน้า ไม่มีคำไหนจะดีไปกว่าคำนี้เแล้ว

    ขอโทษแล้วบัวหายมั๊ยล่ะ  ฟ้าลดายิ่งอารมณ์ขึ้นไปไหญ่ มหาสมุทรตบไหล่ฟ้าเพื่อให้สงบสติอารมณ์  แต่ความจริงภายในเค้าร้อนมากกว่าอีก

    ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ  มหาสมุทรคิดในใจ แต่ก็พยายามสงบเอาไว้  เพราะมีขาวีนยัยพี่สาวจอมแสบวีนแทนอยู่

    นายทำอะไรหัดคิดให้รอบคอบซะบ้าง  ไม่ใช่คิดจะเอาแต่สนุก  ฟ้าลดายังพูดอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

    เออต้องอย่างนั้น  มหาสมุทรคิดยุพี่สาวอยู่ในใจ

    พูดอย่างนี้ก็มากไปนะน้อง  พี่เค้าก็ขอโทษแล้ว  แล้วน้องบัวเค้าก็ไม่เป็นอะไรมาก  แทนไทพี่ปีสองอีกคนหนึ่งเดินเข้ามามองหน้าฟ้าลดานิ่งๆ 

    มหาสมุทรยังคงตบไหล่ฟ้าลดาเหมือนเดิม  แต่ในใจยังคิดยุอยู่

    ต่อยมันเลย  ต่อยมันเลย  มหาสมุทรคิดในใจ

    เอาหล่ะ  หยุดเถอะเป็นความผิดเราเอง  ตะวันฉายแหวกคนเดินเข้ามาพร้อมกับดึงอาร์ซีของกลุ่มสีแดงพร้อมกับกุญแจห้องแลบคณะวิทยาศาสตร์ออกมาให้ฟ้าลดา 

    แต่ฟ้าลดากลับขว้างมันใส่หน้าตะวันฉายอย่างแรง  ก่อนที่จะต่อยซ้ำเข้าที่ตาซ้ายจนตะวันฉายไปกองกับพื้น  มหาสมุทรดึงร่างพี่สาวเอาไว้(แถมสะใจหน่อยๆ  สมน้ำหน้าทำผู้หญิงของกรู)  บัวชมพูที่วิ่งออกมาจากพวกนิสิตพยาบาลที่ดูแลเธออยู่มาเกะแขนฟ้าลดาแน่น

    พอเถอะฟ้า  เราไม่เป็นอะไรมากแล้ว  บัวชมพูพูดเบาๆ

    เธียรวิทย์กับแทนไทประคองร่างของตะวันฉายให้ลุกขึ้นยืน  ตะวันฉายเอามือจับตาตัวเอง  เค้ารู้สึกชายังไม่เจ็บอะไรมากนัก

    โอเคครับน้อง  แค่นี้เอาเป็นว่าหายกัน  เอาเป็นว่าเรื่องทั้งหมดพี่ต้องขอโทษ  แทนไทพยายามสงบสติอารมณ์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบที่สุด(ความจริงนายนี่อารมณ์ร้อนสุดๆ)

     

    ฟ้าลดาโดนแยกไปสงบสติอารมณ์  ส่วนแทนไท  เธียรวิทย์ และตะวันฉายก็ต้องแยกไปเตรียมตัวขึ้นเวทีแสดงดนตรีในคืนนี้  คืนเฟรชชี่ไนท์

    สวัสดีครับน้องๆ  ในคืนนี้พี่ขอต้อนรับน้องๆเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยของเรา  หลังจากที่วันนี้ได้ทำกิจกรรมด้วยกันมา  หวังว่าน้องๆคงจะสนิทกันมากขึ้นนะครับ 

    เธียรวิทย์พูดก่อนที่จะเริ่มร้องเพลงแรก เค้าเป็นมือกีตาร์ของวงดนตรีตัวแทนของมหาวิทยาลัยที่ได้รางวัลมาแล้วหลายเวที

    สมาชิกในวงก็มี  นายเธียรวิทย์มือกีตาร์  สถาปัตย์ปีสอง  และเป็นประธานสโม  นายแทนไท มือกลอง วิศวะไฟฟ้าปี สอง  นางเปรมศักดิ์ มือเบส คณิตศาสตร์ปีสอง  และนายตะวันฉาย  สถาปัตย์ปีหนึ่ง  นักร้องนำ 

    ที่สำคัญสมาชิกทุกคนในวงหน้าตาดีด้วยกันทั้งนั้น  เรียกง่ายๆว่าสี่คนนี้ค่อนข้างเป็นกลุ่มที่เด่นมากๆในมหาวิทยาลัยที่สำคัญทั้งสี่ยังเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนมัธยม  ยกเว้นนายเปรมศักดิ์กับนายตะวันฉายที่คบกันมาตั้งแต่อนุบาลเพราะพ่อเป็นเพื่อนกัน เลยต่อมาจนถึงรุ่นลูกนี่แหละ

     

    ฟ้าความจริงแกไม่น่าไปว่าพี่เค้าแรงขนาดนั้น  แล้วที่สำคัญแกไม่น่าไปต่อยพี่เค้าเลย  มหาสมุทรบอกพี่สาวเมื่อเห็นอารมณ์เย็นขึ้นมากแล้ว(แต่ความจริงมันสะใจอยู่ลึกๆ  ก็มาทำสาวที่เค้าเริ่มปิ๊งซะเกือบแย่นี่หน่า)

    แล้วแกว่ามันน่าเล่นอย่างนี้มั๊ยล่ะ  ฟ้าลดาพูดกับน้องชาย  สายตายังคงจ้องไปที่ตะวันฉายที่กำลังร้องเพลงอยู่บนเวทีหน้าระรื่น มีรอยฟกช้ำที่ตาซ้ายแต่มองเห็นไม่ชัดเจนนัก

    พิธีกรออกมากล่าวเมื่อวงดนตรีของนายตะวันฉายลงไปแล้ว

    ยังไงก็ขอเสียงให้กับวงตนตรีของเราด้วยนะคะ  พิธีกรหญิงซึ่งเป็นนิสิตปีสองกล่าวพร้อมกับตบมือ  ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดของบรรดาเด็กปีหนึ่งผสมกับพวกรุ่นพี่ที่มาร่วมงานเฟรชชี่ไนท์

    ขอบคุณมากนะครับสำหรับกำลังใจ  นายเธียรวิทย์เดินออกมา  เสียงกรี๊ดยิ่งดังไปกันใหญ่  นายนี่ทำหน้าที่หลายอย่างในการจัดกิจกรรมเพราะเค้าเป็นประธานสโมด้วยและเหมือนกับเป็นพ่องานในการจัดกิจกรรมครั้งนี้

    และต่อไปก็คงจะถึงเวลาที่น้องๆแล้วก็เพื่อนๆพี่ๆชาวมหวิทยาลัยของเรารอคอยแล้วนะครับ  เธียรวิทย์กล่าวพีธีกรหญิงก็พยักหน้าตาม  เพราะรายการต่อไปถือเป็นประเพณีที่สำคัญมากขอวงมหาวิทยาลัย ที่ควบคู่กับประเพณีรับน้อง

    ต่อไปเป็นประเพณีอะไรครับพี่อ้อ  นายเธียรวิทย์ยิ้มกับพิธีกรสาวสวยคณะวิทยาการจัดการ

    ก็การประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัยอย่างไงล่ะคะเธียร  อ้อยิ้มมองหน้าเธียรวิทย์

    ครับใช่แล้ว  ถ้าอย่างนั้นเรามาพบกับผู้เข้าประกวดที่พวกพี่ได้ไปล่ารายชื่อมาแล้ว

    เราจะเริ่มจากคณะไหนกันก่อนดีคะ

    เริ่มจากคณะมนุษย์ฝ่ายหญิงก่อนเลยดีกว่า  ถึงแม้เมื่อเย็นจะเจอเรื่องไม่ดีนักนะ  แต่ตอนนี้น้องเค้าก็อาการดีขึ้นมากแล้ว  ขอเสียงต้อนรับน้องบัวชมพูหน่อยครับ  เธียรวิทย์อ่านชื่อบัวชมพู  ก็เป็นไปตามคาดอยู่แล้ว ว่าตัวแทนคณะมนุษย์ฝ่ายหญิงคงไม่พ้นบัวชมพูแน่นอน

    เธียรวิทย์อ่านชื่อตัวแทนของคณะต่างๆไปเรื่อยๆ  ซึ่งแต่ละคนที่ขึ้นไปบนเวทีก็ได้รับเสียงเชียร์จากสมาชิกในคณะของตนเอง

    น้องฟ้าลดา กับน้องมหาสมุทรใช่มั๊ยครับ  เปรมศักดิ์เดินเข้ามาทักทายทั้งคู่ที่ยืนอยู่มุมหนึ่งคุยกัน  ที่สำคัญทั้งคู่ไม่ได้สนใจกิจกรรมบนเวทีเลย

    ครับ  มหาสมุทรพยักหน้า

    ถ้าอย่างนั้นน้องทั้งสองช่วยตามพี่มาหน่อยนะครับ  เปรมศักดิ์เป็นคนเดียวที่ยังไม่โดนฟ้าลดาโวยใส่  จึงรับหน้าที่มาเรียกฟ้าลดาไปที่หลังเวที

    ก็เด็กสถาปัตย์ปีหนึ่งมีผู้หญิงแค่สามคน  ตัวแทนจะพ้นนางสาวฟ้าลดาไปได้ไงล่ะ  แม้ว่าเจ้าหล่อนจะหน้าตาจัดไปทางหล่อมากกว่าสวย  แต่จะให้อีกสองคนขึ้นมาก็เห็นท่าจะไม่ไหว

    ต่อไปเป็นตัวแทนฝ่ายชายของวิศวค่ะ  น้องมหาสมุทรวิศวคอมค่ะ  พี่อ้อเรียก  เปรมศักดิ์ก็ผลักมหาสมุทรออกไปยืนหน้าเวที  แสงไฟส่องหน้าทำให้มหาสมุทรตาฝ้า  แต่ก็ยิ้มออกมาได้โดยอัตโนมัติ  นายมหาสมุทรเค้าโปรอยู่แล้วเรื่องเดินแบบ  ก็เค้าได้ตำแหน่งที่โรงเรียนเก่ามาแล้วสี่ปีซ้อนนี่หน่า

    ฟ้าลดามองหน้าเปรมศักดิ์จะหาทางเดินหนี  แต่ก็ไม่ทัน เพราะเปรมศักดิ์ดึงเสื้อเอาไว้

    ไม่เอาน่าน้องฟ้า  ขอความร่วมมือหน่อยนะครับ  เปรมศักดิ์ยิ้ม  นายนี่เป็นคนที่ใจเย็นและใจดีที่สุดในกลุ่ม แม้ว่าดีกรีความหล่อจะน้อยไปหน่อยผิวจะคล้ำไปนิด  แต่ก็เด่นไปทางการพูดที่นิ่งมากๆ

    ตัวแทนจากสถาปัตย์ฝ่ายชาย  นายตะวันฉายค่ะ  อ้ออ่านชื่อนายตะวันฉายที่ออกไปเดินอย่างมาดมั่น  ก็นายนี่เค้าได้ตำแหน่งปีที่แล้วไปครอง  ก็ต้องมั่นใจเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว

    ครับฝ่ายหญิง  น้องฟ้าลดา  เธียรวิทย์อ่าน  ตามมาด้วยเสียงปรบมือจากเพื่อนๆสถาปัตย์ที่ลุ้นตัวโก่งติดเวที  เจนจิราก็ไม่แพ้พอได้ยินชื่อบัวชมพูก็มายืนติดขอบเวทีแล้ว

    ฟ้าลดาเดินออกไปตัวแข็ง  ก็ตั้งแต่เกิดมามันเคยขึ้นเวทีประกวดอะไรกับเค้าซะที่ไหน  ฟ้าลดาเดินเก้ๆกังๆ ผ่านมหาสมุทรที่กระซิบเบา

    ยิ้มหน่อยสิแก

    ฟ้าลดาฉีกยิ้มเก้อๆ  ตะวันฉายลากแขนให้เดินให้ตรงทาง  เพราะต้องเดินโชว์เป็นคู่อีกหนึ่งรอบ

    ทำให้มันดีๆหน่อยยัยบ้า  ตะวันฉายเอามือเขกไหล่ฟ้าลดาเบาๆ

    ฟ้าลดามองค้อนขวับก่อนที่จะพยายามเดินให้ดีที่สุด  บัวชมพูยิ้มให้กับฟ้าลดาเมื่อเดินสวนกัน

    แล้วใครว่าฉันอยากขึ้นมาเนี่ยฮ้า  ฟ้าลดาคิดในใจพลางมองหน้าตะวันฉายที่กำลังเบ่งความหล่อออกมาอย่างเต็มเหนี่ยวเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆปีสองกันให้ระนาว

    ฮื่อแกคิดว่าหล่อเป็นคนเดียวเหรอย๊ะ  ปีนี้แกชวดแหงๆเพราะน้องฉันหล่อกว่าแกอีก  ฟ้าลดาคิดในใจอีก 

    นี่หล่อน  ถ้าเก่งจริงก็อย่าคิดในใจดิ่  ด่ามันตรงๆเลย

    เฮ๊ยแก  สถาปัตย์มันทำไมส่งผู้ชายสองคนเลยวะ  ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนข้างๆเจนจิรากระซิบกระซาบกัน

    เออ..ว่ะ  ดูดิ….สงสัยจะเป็นฝาแฝดกันนะ  ดูเด็กวิศวะคนนั้นดิ  หน้าเหมือนถาปัตย์เลย ยัยกลุ่มนี้ยังจ้องสังเกตสังกากันต่อ 

     

    แต่ฉันว่าคนที่อยู่ถาปัตย์หล่อกว่านะ  ดูใสๆกว่า  ผมก็ยาวกว่า น่ารักกว่า  หญิงสาวอีกคนหนึ่งแสดงความเห็น

    นี่หล่อน คนที่แกชมอยู่นะมันเพื่อนฉัน  แล้วมันก็เป็นหญิงเหมือนพวกแกนั่นแหละ  เจนจิราคิดในใจ 

    แต่ใครจะกล้าไปด่าตรงๆล่ะ  พวกนั้นมีกันตั้งหลายคนเดี๋ยวโดนตบจะหาว่าไม่เตือน

    อ้าวเธอ….ใช่บุษบาหรือเปล่า  เจนจิราหันไปเห็นบุษบายืนอยู่ข้างๆพอดี

    อือคนที่ยืนอยู่นั่นใช่เมทเราเปล่า  บุษบาถามเสียงหล่อนห้าวเหมือนเดิม พลางชี้ไปที่ฟ้าลดา

    อือ…”

    แล้วเด็กวิศวะคนนั้นล่ะ  หน้าเหมือนกันเลย

    ก็นั่นน้องชายฟ้าเค้า ฝาแฝดน่ะทำไมเธอแยกออกล่ะ  เจนจิรายืนกอดอกมองมหาสมุทรอย่างชื่นชม

    ตอนแรกก็ดูไม่ออกหรอก  แต่ดูที่หน้าอกเอา  ยัยนั่นมีนิดหน่อย  บุษบาพิจารณาฟ้าลดากับมหาสมุทร

    ยัยทอมนี่พูดออกมาได้ไม่อายปาก  เจนจิรามองหน้าบุษบาแล้วก็มองที่หน้าอก

    หล่อนก็อึ๋มใช่ย่อยนะยะ  เจนจิราคิดในใจ

    ผลการตัดสิน  ไม่รู้มีเกณฑ์อะไรมาวัด  สงสัยคงเน้นเสียงกรี๊ดหรือไม่ก็ความพอใจของรุ่นพี่ละมั๊ง  ตำแหน่งดาวมหาลัยจึงตกเป็นของนางสาวบัวชมพู  และนายมหาสมุทร  ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมายของใครหลายคน  บัวชมพูและมหาสมุทรยังคงยืนอยู่บนเวทีส่วนคนที่ตกรอบ  ก็ต้องถูกเชิญลงมาที่หลังเวที

    ฟ้าลดามองหน้าตะวันฉายที่กำลังเตรียมขึ้นเวทีร้องเพลงในช่วงต่อไปแล้วก็หัวเราะ

    สมน้ำหน้า น้องชายฉันหล่อกว่าแกเป็นไหนๆ  ฟ้าลดาคิดในใจ  แต่ดูเหมือนมันจะดังจนนายตะวันฉายมองหน้าอย่างมีอารมณ์

    หัวเราะอะไร ยัยทอมบ้า  ตะวันฉายเริ่มเปิดศึกครับท่าน

    เฮ๊ย  พูดอย่างนี้ไม่สวยนะโว๊ย  ใครบอกนายว่าฉันเป็นทอมวะ  ฟ้าลดาเอ็นขึ้นคอ  ลองใครมาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่แน่  ถึงแม้ว่าสิ่งที่เธอเป็นจะใกล้เคียงก็ตาม

    ไม่ต้องมีใครบอกหรอก  ก็ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำมันก็มีความหมายในตัวอยู่แล้ว  ตะวันฉายยิ้มสะใจที่จี้ถูกจุด 

    หนอย ไอ้บ้า ชวดรางวัลแล้วมาพาลฉันเหรอ  น้องฉันหล่อกว่านายดีกว่านายเลยได้รางวัล  เสียหน้าอ่ะดิ่ที่พลาดฟ้าลดาแสยะยิ้มใส่  สะใจกว่าที่ด่าถูกจุด 

    นายตะวันฉายรู้สึกเสียหน้าอย่างมากที่มหาสมุทรมาแย่งตำแหน่งดาวมหาลัยไป  ก็แหมเป็นใครใครก็เสียหน้า  ก็นายตะวันฉายเค้ามีดีกรีเจ้าของตำแหน่งปีที่แล้วมาชวดก็ต้องรู้สึกอย่างนี้เป็นธรรมดา

    อ้าวไอ้ตะวันมายืนผิดหวังตรงนี้เองเหรอมึง  แทนไทเดินมากอดคอเพื่อน  ตามมาด้วยเปรมศักดิ์ที่มายืนข้างๆฟ้าลดา

    ไม่เป็นไรนะที่ชวดรางวัล  เปรมศักดิ์ยิ้มให้ฟ้าลดา

    ดูท่าว่าฟ้าลดาจะถูกชะตากับนายเปรมศักดิ์ขึ้นมา  แม้ว่านายนี่จะหน้าตาสู้อีกสามคนในกลุ่มไม่ได้  แต่นิสัยดูดีกว่าเยอะ

    ไม่หรอกค่ะ  บัวเค้าน่ารักสมควรได้อยู่แล้ว  แล้วนายซีเค้าได้ก็เหมาะดีแล้ว  นายซีเค้าหล่อ  แถมนิสัยดีด้วย  ฟ้าลดาพูดเน้นคำว่านิสัยดีพลางหันไปยิ้มอย่างสะใจใส่หน้าตะวันฉาย

    พี่ว่าถ้าเราเป็นผู้ชายคงมีดาวมหาลัยฝ่ายชายสองคนนะเนี่ย  แทนไทยิ้ม  ความจริงนายนี่ก็แอบหมั้นไส้ฟ้าลดาตั้งแต่หัวค่ำ  ฟ้าลดามองหน้าทั้งแทนไทและตัวนฉายตาขวามก่อนที่จะจับไต๋ได้ว่าสองคนนี้กำลังหาทางยั่วโมโหเธออยู่

    ก็คงใช่แหล่ะค่ะ  ดีนะที่ฟ้าเป็นผู้หญิงพวกคนที่ตัดสินเลยไม่ลำบากใจเลือกนายซีเค้าไป  ถ้าอย่างนั้นคงได้คุยกับน้องชายเป็นการส่วนตัว  แล้วฟ้าเป็นพี่คงต้องเสียสละอยู่ดี  ฟ้าลดามองหน้าตะวันฉายก่อนจะยิ้มให้กับเปรมศักดิ์

    ก็คนมันเกิดมาหล่อ  แต่ดันเป็นหญิงนี่มันทำตัวลำบากเหมือนกัน  ฟ้าลดายิ้มให้กับเปรมศักดิ์

    มัวแต่คุยพี่ยังไม่ได้แนะนำตัว พี่ชื่อเปรมศักดิ์  คณิตศาสตร์ปีสอง  เรียกพี่เปรมก็ได้

    ค่ะ  ยินดีที่ได้รู้จัก  ฟ้าลดา  สถาปัตย์ค่ะ  ฟ้าลดายิ้มก่อนที่จะนึกว่า

    เปรมศักดิ์  นี่มันชื่อคุ้นๆนะ  แต่ยัยนี่ขี้ลืมเป็นนิจอยู่แล้ว

    ค่ะ  รู้จักแล้ว  พี่ต้องขึ้นเล่นแล้วนะ  เราไปยืนดูข้างหน้าไป  เปรมศักดิ์ยิ้มพลางตบไหล่ฟ้าลดาเบาๆ ก่อนที่จะเดินไปเพื่อเตรียมตัวขึ้นแสดง

     ฟ้าลดารู้สึกขนลุกหัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก  นายคนนี้มาทำให้นางเอกของเรื่องเราใจหวั่นไหวหรือเนี่ย  โอ้ก้อต  ทำให้ฟ้าลดาใจพองโต  ที่สำคัญ นายนี่เป็นพี่รหัสของแม่นางเอกของเราซะด้วยเห็นท่าจะสนุกแล้วหล่ะ

    ฟ้าลดามองตามเปรมศักดิ์ก่อนที่จะหันมาอมยิ้ม  เป็นครั้งแรกที่มีคนใจดีมาเอ็นดูเธออย่างนี้ แล้วแกจะนึกออกเมื่อไหร่เนี่ยว่าพี่เปรมศักดิ์เค้าเป็นพี่รหัสของแกอ่ะ

    นี่น้อง  ขอทางหน่อย  แทนไทมองหน้าฟ้าลดาอย่างกวนๆก่อนจะเดินไปทางเดียวกับเปรมศักดิ์  เหลือแต่ตะวันฉาย

    นี่ถ้าไม่เห็นแก่พี่เปรม  ไอ้วงนี้คงเป็นกลุ่มที่ทุเรศที่สุดแน่  ฟ้าลดาคิดในใจ

    นี่ไปหน้าเวทีก็ระวังตัวหน่อยนะ  ตะวันฉายยิ้มเหมือนจะจริงใจจนฟ้าลดางง

    หมอนี่มันอะไรของมัน  หรือโดนฉันต่อยจนมึนฮะ  ฟ้าลดาคิดในใจ  หยุดคิดเรื่องนายเปรมศักดิ์ครู่หนึ่ง

    หน้าเวทีผู้หญิงมันเยอะ  ระวังตัวด้วยนะพ่อหนุ่ม  นายตะวันฉายหัวเราะล้อๆก่อนจะเดินชนไหล

    แล้วผ่านไป  ปล่อยให้ฟ้าลดาโมโห  มหาสมุทรกับบัวชมพูเดินมาสมทบฟ้าลดาที่กำลังเดือดปุดๆเพราะนายตะวันฉาย

    เราไปข้างนอกกันดีกว่าฟ้า  บัวชมพูจับไหล่เพื่อนสาว 

    ขณะที่เดินออกมาทั้งสามก็เป็นเป้าสายตาอย่างเคย

    มหาสมุทรแถมจะสุขใจ  นี่มันเป็นความจริงเหรอเนี่ย  เราได้ดำรงตำแหน่งคู่กับสาวในฝันของเรา  คิดในใจอีกแล้ว

    สามคนนี้หน้าคล้ายๆกันเลยเนอะ  เสียงซุบซิบ

    ฉันว่าไม่หรอก  สองคนนั้นเค้าเป็นแฝดกันก็เหมือนกันอยู่แล้ว  เออ..ว่าไปยัยนั่นก็มีส่วนคล้ายเหมือนกัน  เสียงซุบซิบอีก  ทำเอามหาสมุทรยิ้มนึกถึงคำในหนังสือทำนายดวงชะตา

    คนเป็นเนื้อคู่กันมักมีหน้าตาคล้ายกัน

    ตำราไหนวะเนี่ย  

    บัวต้องเป็นเนื้อคู่เราแน่เลย  หน้าเราก็มีส่วนคล้ายกัน  มหาสมุทรอมยิ้ม  ที่สำคัญหญิงที่เค้าปิ๊งกำลังยืนอยู่ข้างๆเค้าด้วย

    นี่กรูทำไมต้องมาเดินกับมันด้วยวะเนี่ย  ฟ้าลดาคิดในใจก่อนจะรู้สึกว่าโทรศัพท์ในกระเป๋าตนเองสั่น

    เฮ๊ย  แม่โทรมาว่ะ  เราไปข้างนอกกันเถอะ  ฟ้าลดาลากแขนมหาสมุทรเดินมาด้านนอกอาคารกิจกรรม  ซึ่งกลุ่มคนที่ให้ความสนใจทั้งคู่ก็แหวกให้เดิน  และมองอย่างให้ความสนใจเพราะนานๆจะเห็นแฝดชายหญิง  บัวชมพูไม่ได้ตามมาเพราะเจอเจนจิรากับบุษบาพอดี

     

    ด้านนอกอาคารกิจกรรมมีเสียงดนตรีดังตามออกมาให้หนวกหูพอสมควร

    สวัสดีค่ะแม่ ฟ้าลดารับโทรศัพท์

    เป็นไงลูกกิจกรรมวันแรก  เสียงพิมพรรณดังมา  ฟ้าลดาจึงเปิดโฟนเพื่อให้มหาสมุทรได้ยินด้วย

    จะไงล่ะแม่  ไอ้ตัวดีมันก็ได้ตำแหน่งดาวมหาลัยไปตามคาด  ฟ้าลดามองหน้าน้องชาย  เสียงพิมพรรณหัวเราะดังออกมา

    แล้วฟ้าล่ะไม่ได้เหรอลูก 

    จะได้ยังไงล่ะแม่  ฝ่ายหญิงเค้าเน้นสวยไม่ได้เน้นหล่อเหมือนหนูซักหน่อย  ฟ้าลดาหัวเราะ  ชินซะแล้ว  เพราะเธอเป็นคนไม่ค่อยมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

    ซีล่ะลูก สนุกหรือเปล่า

    ก็ดีแม่  แต่เมื่อเย็นมีเรื่องนิดหน่อย  ไอ้ฟ้ามันโชว์ความแมนต่อยรุ่นพี่ล่วงไปแล้วหนึ่ง มหาสมุทรมองหน้าพี่สาวที่ขมวดคิ้ว

    ไม่ใช่อย่างนั้นแม่

    แล้วมีเรื่องมีราวอะไรกันหรือเปล่าลูก

    ไม่หรอกแม่  ก็ยอมๆกันแล้ว  เรื่องนี้รุ่นพี่มันก็ผิดจริงนั่นแหล่ะ  มหาสมุทรมองหน้าฟ้าลดา  เค้ายิ้มอย่างเข้าใจ 

    ฟ้าลดาเป็นคนใจร้อนแต่ไหนแต่ไรแล้ว  มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เป็นช่วงที่ฟ้าลดาตัวโตกว่ามหาสมุทรและมหาสมุทรมักถูกแกล้ง  ฟ้าลดาก็มักตามไปจัดการให้เสมอ  เรื่องนี้แหละเป็นเรื่องที่มหาสมุทรยอมรับให้ฟ้าลดาเป็นพี่ตลอดมา

    ดูพี่เค้าหน่อยแล้วกันนะซี

    แม่ก็  หนูโตแล้วนะ ที่สำคัญหนูเป็นพี่ด้วย

    จ้ะลูก  ตั้งใจเรียนนะ

    ค่ะครับ

    งั๊นแค่นี้ก่อนนะลูก  แม่รักลูกนะจ๊ะ

    ครับค่ะ

    พิมพรรณวางสายไปแล้ว  ฟ้าลดามองหน้ามหาสมุทร

    แกเกือบทำฉันโดนแม่บ่นนะ  แต่ก็ขอบใจที่แก้ตัวให้  ฟ้าลดายิ้ม

    ก็แกพี่ฉันนี่หว่า  ไปข้างในกันเถอะ  มหาสมุทรโอบไหล่พี่สาวแล้วพากันเดินมาทางด้านใน

    แล้วต่อมาก็มีปาร์ตี้งานเฟรชชี่ไนท์  จบด้วยการผูกข้อมือน้องๆจนแขนขาวกันเต็มไปหมด  น้องคนไหน่ารักหน้าตาดี  ก็จะถูกพวกพี่ๆมารุมผูก  ส่วนหนุ่มๆที่หน้าตาดีก็จะถูกพี่สาวๆมารุมผูกแขนอวยพรกันเป็นการใหญ่  ที่จะถูกรุมมากเป็นพิเศษก็ดูจะเป็นดาวมหาลัย  นายมหาสมุทรนั่นแหละ  ฟ้าลดาเลยโดนหางเลข  พี่สาวๆที่มาผูกให้มหาสมุทรก็จะมาผูกให้ด้วยเพราะนั่งข้างๆกันและที่สำคัญก็หน้าตาหล่อเหมือนกันด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×