ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วันที่มีเรา

    ลำดับตอนที่ #1 : รอยยิ้มของคุณแม่

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 49


    สวัสดีครับคุณครู  เด็กชายแทนไทกล่าวสวัสดีอาจารย์เธียรชัยเมื่อรถที่บ้านมารอรับพร้อมกับคุณยายที่แสนใจดีที่กำลังเดินเข้ามารับหลานชายวัยแปดขวบ

    สวัสดีคุณยายด้วยครับ  อาจารย์เธียรชัยยิ้มเมื่อคุณยายเดินเข้ามาหาหลานชาย

    สวัสดีครับคุณยาย  เด็กชายแทนไทประนมมือไหว้คุณยายด้วยท่าทีของเด็กน้อยที่ดูท่าจะถูกอบรมณ์มาอย่างดี

    วันนี้มาเร็วจังเลยนะครับคุณยายอาจารย์เธียรชัยยิ้มให้กับคุณยายอย่างคนคุ้นเคย

    วันนี้คุณแม่น้องแทนเค้ามาค่ะ  ต้องรีบกลับหน่อย  คุณยายยิ้มก่อนที่จะลาอาจารย์แล้วจูงหลานชายผิวขาวตัวกลมไปขึ้นรถ

    วันนี้น้องแทนตั้งใจเรียนเป็นพิเศษเพราะรู้ว่าคุณแม่จะมาวันนี้  เด็กชายตัวน้อยเดินขึ้นรถหน้าตาเบิกบานเมื่อขึ้นไปนั่งรถก็ต้องยิ้มแฉ่งเพราะคนขับรถไม่ใช่ใครอื่นเป็นคุณแม่นั่นเอง 

    สวัสดีครับคุณแม่  น้องแทนกระโดดขึ้นนั่งตักคุณแม่สาวสวยที่หน้าตาละม้ายคล้ายกันไม่มีผิด

    สวัสดีครับคุณลูกคุณแม่ฟ้าลดาหอมแก้มลูกชายฝอดใหญ่ก่อยที่จะสั่งให้ไปนั่งที่เบาะหลังตามเดิม  น้องแทนทำตามคำของคุณแม่ฟ้าลดาอย่างว่าง่าย  เด็กชายนั่งสงบนิ่ง  แต่ท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะเป็นวันดีที่คุณแม่กลับมา

    ฟ้าลดามองใบหน้ากลมของลูกชายผ่านกระจก  ใบหน้าน้อยใบนั้นทำให้จิตใจหญิงสาววัยยี่สิบเก้าปีผู้นี้มีความสุขทุกครั้งที่ได้จ้องมอง  คุณยายก็เช่นเดียวกัน  น้องแทนเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้บ้านมีรอยยิ้ม

    รถบีเอ็มดับเบิลยูจอดลงที่ลานจอดรถกว้างหน้าบ้านที่มีสนามหญ้าเขียวที่มีสปริงเกอร์ฉีดน้ำจนสนามหญ้าชุ่มไปหมด

    น้องเฟรมลูกสาวของคุณเฟื่องฉัตรพี่ชายของฟ้าลดาวิ่งออกมาจากบ้าน  ทั้งน้องแทนและน้องเฟรมกระโดดเข้ากอดกันเพราะไม่ได้เจอกันนาน  ตามมาด้วยเฟื่องฉัตรพี่ชายของฟ้าลดาที่เป็นแพทย์ศัลยกรรมโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดที่วิ่งตามลูกสาวตัวน้อยวัยหกขวบออกมา

    มาสวัสดีคุณอาก่อนลูก เฟื่องฉัตรบอกลูกน้องเฟรมเมื่อฟ้าลดเดินมาสมทบกับเด็กๆพร้อมกับคุณยาย

    สวัสดีค่ะอาฟ้าน้องเฟรมประนมมือไหว้ฟ้าลดาก่อนที่จะไปสนใจเล่นกับน้องแทนต่อ

    สวัสดีค่ะพี่เฟื่อง  ฟ้าลดายิ้มพร้อมกับประนมมือไหว้พี่ชาย

    เฟื่องฉัตรรับไหว้น้องสาวก่อนที่จะช่วยคุณเพชรลดาถือกระเป๋าของน้องแทนแล้วพากันเดินเข้าบ้าน 

    ระยะหลังฟ้าลดาต้องเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศบ่อยเพราะคุณภาณุภัทรต้องเดินทางไปดูงานที่ขยายสาขาไปประเทศแถบโซนยุโรป  ฟ้าลดาเป็นเลขาจึงจำเป็นมากที่ต้องติดตามไป  แล้วก็ไปทีก็สองถึงสามสัปดาห์

    พี่นภา หลานสาวของคุณเพชรลดาที่มาช่วยดูแลบ้านจัดอาหารที่โต๊ะกลางสนามหญ้า หลังจากที่เก็บสปริงเกอร์ลดน้ำสนาม  น้องแทนก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยออกมาวิ่งเล่นที่สนามหญ้ากับน้องเฟรม

    น้องแทนครับค่อยๆวิ่งลูกเดี๋ยวจะล้ม  ฟ้าลดาปรามลูกชาย  แต่ไม่ทันจะได้พูดต่อ  รถเฟอร์รารี่สีบอร์นของคุณภาณุภัทรก็เลี้ยวเข้ามาจอดสนิทตรงด้านข้างรถของฟ้าลดา 

    เฟื่องฉัตรเดินถึงตัวภาณุภัทรเป็นคนแรก  ทั้งสองสวมกอดกันเพราะเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม

    ว่าไงกิจการเจริญรุ่งเรื่องใหญ่จนไม่มีเวลาคบหาเพื่อนเลยนะแก  เฟื่องฉัตรตบไหล่เพื่อนพลางพากันเดินมาที่สนามหญ้าที่มีการจัดอาหารรับประทานกันเป็นบาบีคิวแบบง่ายๆ

    สวัสดีครับน้องฟ้า  ภาณุภัทรกล่าวทักฟ้าลดาจังหวะเดียวกับที่ฟ้ายกมือไหว้

    ไม่รู้ว่าคุณเปลวจะมาค่ะ  ฟ้าลดาทำหน้าแหยเพราะอาหารที่เตรียมทานกันในวันนี้เป็นอาหารธรรมดาเท่านั้น

    สวัสดีครับแม่แก้ม  ภาณุภัทรยกมือไหว้คุณเพชรลดาพลางสวมกอดอย่างสนิทสนมเพราะตอนสมัยเรียนเค้ามักจะมานอนเล่นที่บ้านหลังนี้บ่อยๆ

    ไม่ต้องกังวลหรอกฟ้า  ไอ้เพื่อนพี่คนนี้มันกินง่ายอยู่ง่าย  เฟื่องฉัตรมองหน้าเพื่อนอย่างรู้ทันว่าการมาของเจ้าเพื่อนตัวแสบคนนี้ไม่ได้เพราะผ่านมา แต่เป็นเพราะตั้งใจมาเจอฟ้าลดาต่างหาก

    ภาณุภัทรยิ้มอย่างอายๆเมื่อมองเห็นหน้าเฟื่องฉัตรที่มองเค้าอย่างรู้ทัน  ก่อนที่จะหาทางแก้เขินไปหันไปเล่นกับน้องแทนและน้องเฟรมแทน

    เฟื่องฉัตรมองหน้าน้องสาว  ที่ดูเธอก็รู้เหมือนกันถึงเหตุผลที่ภาณุภัทรขับรถมาถึงที่นี่  ทั้งๆที่บ้านก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันสักนิด

    การรับประทานอาหารผ่านไปอย่างเรียบๆแต่ก็มีสีสันเพราะมีน้องแทนกับน้องเฟรมทีเป็นความสดใสร่าเริงของบ้าน

    จ๋า  ไม่เกินสี่ทุ่มจ้ะ  เฟื่องฉัตรรับโทรสัพท์จากภรรยาที่ทำงานเป็นผู้จัดการห้องสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

    สงสัยต้องกลับแล้วกลับแล้วครับคุณแม่  เฟื่องฉัตรมองหน้ามารดาและน้องสาวพลางยิ้มนิดๆ

    แม่ว่ากลับก็ดีเหมือนกันขับรถดึกๆมันอันตราย  น้องเฟรมคงจะง่วงแล้วด้วย นภาลองไปดูซิ  หายเข้าไปนั่งเล่นเกมกันในห้องจะหลับหรือยังไม่รู้คุณเพชรลดากล่าว พลางหยิบน้ำขึ้นมาจิบ

    ผมเห็นทีต้องกลับเหมือนกันครับแม่แก้ม  ภาณุภัทรยิ้มพลางมองหน้าฟ้าลดาเป็นเชิงว่าให้เดินไปส่งที่รถหน่อย

    ภาณุภัทรกล่าวลาคุณเพชรลดาก่อนที่จะเดินนำมาที่รถโดยที่มีฟ้าลดาเดินตามมาส่ง

    ฟ้าลดาไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ยืนนิ่งๆ  ภาณุภัทรยืนมองเธอครู่หนึ่งก่อนที่จะเปิดประตูรถ

    พรุ่งนี้วันเสาร์ฟ้ามีโปรแกรมอะไรหรือยังครับ  ภาณุภัทรยิ้ม

    ฟ้าลดาคิดครู่หนึ่งก่อนที่จะส่ายหน้า ยังไม่มีโปรแกรมเลยค่ะ  คงจะอยู่บ้านกับน้องแทนแล้วก็ทำอะไรทานกันเหมือนเดิมค่ะ

    เราไปหาที่เที่ยวพักผ่อนสมองกันดีมั๊ย พี่มีเพื่อนทำรีสอร์ทที่เพชรบูรณ์  ชวนแม่แก้มกับน้องแทนด้วย  สนุกดี  พักนี้ฟ้าทำงานหนัก พี่ว่าน่าจะหาโอกาสพักผ่อนบ้าง

    ฟ้าลดาทำจมูกย่นมองหน้าภาณุภัทร  ทั้งคู่ทำงานและเกือบจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแต่ทั้งคู่กลับไม่สนิทกันไปมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง

    ไปเหอะฟ้า  ที่บ้านพี่เค้าก็ทำงานกันหมด  พี่อยากพักผ่อนก็ไม่รู้จะไปกับใคร  เห็นฟ้าทำงานหนักน่าจะไปด้วยกัน  ออกพรุ่งนี้แต่เช้า พักสักคืนแล้วก็กลับเย็นๆวันอาทิตย์ก็ได้

    เอาเป็นว่า…”

    ไม่ต้องเอาเป็นว่าหรอก  สรุปว่าไปก็แล้วกันเพราะนานๆเราจะหาเวลาพักกันได้  พรุ่งนี้พี่จะมารับแต่เช้าแล้วกันนะคะ  ภาณุภัทรตัดบทเข้าไปนั่งในรถก่อนที่จะเปิดกระจกออกมายิ้ม 

    ถ้าไม่ไปพี่โกรธนะ 

    ฟ้าลดามองหน้าภาณุภัทรกับรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า

    ภาณุภัทรขับรถออกไปแล้วตามด้วยรถของเฟื่องฉัตรที่ออกตามไปติดๆ แต่เธอยังยืนอยู่ที่เดิม  เธอนึกถึงรอยยิ้มเมื่อครู่ของภาณุภัทร  มันเป็นรอยยิ้มเดียวที่คอยให้กำลังใจเธอ  แม้ว่าเธอจะพลาดอะไรไปหลายอย่างในชีวิต  แต่รอยยิ้มนั้นไม่เคยเปลี่ยน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×