ตอนที่ 3 : เมื่อคราวซวย...อะไร ๆ ก็ดูซวยไปหมด (รีไรท์)
ตอนที่ 2 เมื่อถึงคราวซวย อะไร ๆ ก็ดูซวยไปหมด
ลงครั้งแรกวันที่ 27 ธ.ค 55
รีไรท์ 21 ส.ค 60
เมื่อคืนลูกร้องไห้ไม่สบายตัว คงเพราะอากาศร้อนมากกว่าทุกวัน ทามได้แต่ใช้พัดสานมาพัดคลายร้อนให้จนกว่าแกจะหลับ กว่าจะทำให้สงบได้ก็แทบปาดเหงื่อด้วยความเหนื่อยล้า เอาไว้จะเก็บเงินซื้อพัดลมให้นะน้องจีน
รุ่งเช้าที่ตื่นขึ้น ก็หางานให้พ่อเลยนะครับเด็กน้อย น้องจีนถ่ายท้องเต็มผ้าอ้อม ทามจัดการล้างทำความสะอาดให้ พอเจ้าเด็กน้อยก็สบายตัวหัวเราะคิกคักได้เช่นเดิม
นอนดูดนมต่อได้ไม่นาน น้าปุ๊กก็เดินเข้ามาหา
“สายแล้ว ยังไม่ไปอีกหรอทาม”
“ใกล้แล้วครับ รอน้องจีนดูดนมเสร็จ”
“มาเถอะทามเดี๋ยวน้าเอาให้เอง อ่อตอนเย็นอย่าลืมซื้อนมมาด้วยนะทาม นมน้องจะหมดแล้ว”
ทามชะงัก เออ...ใช่สิ นมจะหมดแล้ว
“ครับ”ทามรับคำแล้ววิ่งขึ้นมาชั้นสอง เปิดลิ้นชักดูเงิน มีอยู่แบงค์พันอยู่หนึ่งใบ ทามหยิบมันออกมาในกล่องก็ว่างเปล่า ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากถอนหายใจและดันลิ้นชักเข้าที่ เก็บเงินใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินลงมาจูบลูก เพิ่มพลังก่อนไปทำงาน
“ไม่เอารถไปเหรอ”น้าปุ๊กร้องถามขณะที่ทามกำลังเดินออกจากบ้าน
“ไม่ฮะ”
“อ้าว ทำไมละ รถเป็นอะไร”
“เมื่อวานรถชนน่ะฮะ สตาร์ทไม่ติด”
“แย่จริง!!! แล้วเราเป็นอะไรรึเปล่า”น้าปุ๊กถาม ทามยกมือจับตัวเอง ที่จริงก็แสบที่ข้อศอกอยู่นิดหน่อยแต่พอทน ขาก็ดีขึ้นมาก
“ไม่เป็นอะไรฮะ”
“งั้นรีบไปเถอะ เดี๋ยวจะสาย”
ทามกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาตามทาง เพิ่งจะเคยเดินวันนี้วันแรก เลยไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะถึงที่ทำงาน กว่าจะถึงก็หอบแฮ่กแต่โชคดีที่ไม่เกินเวลา วันนี้ถือว่าได้ตอกบัตรเข้างานด้วยความภูมิใจ ก่อนเข้าออฟฟิศทามเดินเลยประตูทางเข้าแวะไปดื่มน้ำที่ตู้น้ำก่อน เอาให้ท้องแน่น ๆ จะได้ไม่หิวระหว่างวัน แต่เพราะว่าที่ตู้น้ำเย็นมีคนกดอยู่มันเสียเวลาถ้าจะต้องรอ ถึงอย่างนั้นทามก็ไม่รีบ ยืนรอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เอิ๊ก~”ทามเรอออกมาเสียงหนักแน่น น้ำเต็มพุงพร้อมทำงานแล้วจ้า~ ออกมาจากห้องน้ำก็เข้าออฟฟิศ ทำงานแบบเดียวกับเมื่อวานเป๊ะไม่มีขาดตกบกพร่อง
“วันนี้ที่แผนกเขามีกินเลี้ยง กินหมูกระทะร้านใกล้ ๆ นี่เอง ไปด้วยกันสิทาม”พี่แจ๋วกระซิบเสียงเบา
ที่บริษัทมีเลี้ยงส่งเพื่อนพนักงานญี่ปุ่น ของฟรี๊ ของฟรี ทามได้กลิ่นของฟรีลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ แต่ทามลังเลถ้าหากไปลูกก็ต้องรอกินนม
“ทามไปไม่ได้หรอกพี่แจ๋ว”
“อ้าวทำไมล่ะพี่ว่าทามเพิ่งมาอยู่ควรจะไปนะ ถือโอกาสแนะนำตัวเองด้วยเลย”พี่กานต์ร้องบอก ทามหน้าซีดด้วยความเกรงใจ
“นั่นสิ อยู่ไม่ดึกหรอกตอนกลับเดี๋ยวป้าไปส่งที่บ้านก็ได้”ป้าเปียบอกเชิงบังคับ นั่นแหละทามถึงปฏิเสธไม่ได้
พอช่วงอาหารกลางวันทามเตรียมจะหายตัวอีกครั้ง หลังจากพี่ ๆ ผู้ใจดีทั้งหลายชวนทามไปทานข้าวด้วย ทามพกเงินติดตัวมาด้วย แต่คงเอามาใช้จ่ายส่วนตัวไม่ได้ เพราะต้องเก็บเงินไว้ซื้อนมให้น้องจีน นมกล่องหนึ่งแพงหลายบาท ขนาดลูกยังต้องประหยัดเพื่อจะพอให้มีนมดูดไปได้หลายวัน ถ้าเอามากินข้าวเดี๋ยวเงินจะไม่พอเลยต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้ยังไงลูกก็สำคัญที่สุด ทามลงมากินน้ำเต็มกระเพาะให้อิ่มเหมือนเดิม
“กินข้าวไม่อิ่มหรือไง”
เสียงดังมาจากด้านหลังทำให้ทามตกใจ ก่อนมาก็ดูดีแล้วนี่นา ว่าพี่ พนักงานไปทานข้าวที่ตึกข้าง ๆ กันหมด
“ฉันถามไม่ได้ยินเหรอ”ทามไทยิ้มหน้าซีด ค่อย ๆ หันไปหาคนพูดชายร่างสูงหน้าตาดี ตายห่า! เป็นคนเดียวกับที่ทามขับรถชนเมื่อวาน โลกกลมและโคตรแคบโดยแท้ เอ่อ อย่าบอกนะว่าพี่เขาทำงานที่นี่?
“นายนี่ท่าจะเอ๋อ ๆ นะ”
“ครับ?”ยังไงก็สุภาพไว้ก่อน
“ฉันถามว่านายกินข้าวไม่อิ่มหรือไง ถึงได้มาน้ำตรงนี้...แบบนี้”
“อ่ะ อ๋อออ...งั้นมั้งครับ”ทามตอบแบ่งรับแบ่งสู้ พี่ชายหน้าโหดหรี่ตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้านาย”
“อ๋อ...ผมเพิ่งมาทำงานที่นี่ครับ”
“อ่อ อย่างนี้นี่เอง”พี่ชายล้างมือ แล้วก็เดินออกไป
ฟู่~~ หัวใจเกือบวายแน่ะ ที่จริงทามอยากถามเขาเรื่องรถนะ แต่คิดดูอีกทีไม่ควรถามดีกว่า กลัวเขาทวงตังค์
ตกบ่ายเริ่มทำงานด้วยความงัวเงีย ต้องตบหน้าตัวเองให้ตื่นอยู่บ่อยครั้ง เฮ้อ กว่าจะหลุดออกจากกองงานแต่ละกองได้ เหนื่อยชะมัด หลังจากถ่ายเอกสารเสร็จ ป้าเปียเอางานเอกสารมาให้พิมพ์ ทามเลยมีอะไรทำทั้งบ่ายลืมเรื่องเครียดไปได้บ้าง ปัญหาอยู่ที่ตอนเย็นนี้น่ะสิ
“เอารถใครไป”พี่แจ๋วถาม พนักงานหลายคนที่แผนกมายืนออกันด้านหน้า เพื่อที่จะรอขึ้นรถไปพร้อมกัน พอรถมาดันเหลือผมคนหนึ่งที่ไม่สามารถขึ้นไปนั่งด้วยได้
“อ้าว...เหลือน้องทามอีกคน”ทามยืนหน้าเอ๋อ รถหลายคันออกไปก่อนแล้ว เหลือคันนี้มีคนนั่งเต็ม มันยัดไม่หมดจริง ๆ ได้ทีชิ่งแล้วล่ะ
“เอ่อ...งั้นพี่ไปกันเถอะครับ ทามไม่ไปก็ได้ ไม่เป็นไรหรอกฮะ”
“ได้ไงน้องทาม ไม่ได้ต้องไปด้วยกันซะดี ๆ”พี่คนอื่น พยายามจัดแจงที่นั่งใหม่แต่ทำยังไงมันก็ไม่หมด ข้างในก็ยัดกันเป็นปลากระป๋องพออยู่แล้ว
“นั่งกันพอรึเปล่า ไปกับผมก็ได้นะ ผมกำลังจะไปเหมือนกัน”เสียงสวรรค์สำหรับคนอื่น แต่คงเป็นเสียงนรกสำหรับทาม คนพูดใส่แว่นเสียโก้ สาว ๆ ทำตาพริ้มกันใหญ่
“ดีเลยค่ะ ทามไปกับคุณเอกแล้วกันนะ”
“หือ!?!”
“ตามมาเร็ว ๆ นะค้า”
แล้วทั้งหมดก็พร้อมใจกัน โยนความอึดอัดมาให้ พี่คนโหดยักคิ้วให้เดินตามไปขึ้นรถ ทามถอนหายใจเดินก้มหน้าตามก้นเขาไปถึงที่
แม่เจ้าโว้ย! รถหรูสุด ๆ แทบไม่กล้าปิดประตูแรง กลัวประตูพี่เค้าพังน่ะ
“นายชื่ออะไร”
“ทามไทครับ”
“ทาม ไท”พี่เค้าทวนอย่างชัดถ้อยชัดคำก่อนจะเงียบไป ทามยกนาฬิกาขึ้นมาดู มันเป็นเวลา 5 โมงกว่าแล้ว ทามกังวลถึงเจ้าตัวเล็ก ตอนนี้น้องจีนจะงอแงหรือเปล่าลูก ถึงเวลาห้าโมงครึ่งน้าปุ๊กก็ต้องกลับบ้านไปจัดการลูกตัวเอง แล้วหนูจะนอนเล่นคนเดียวไปก่อนได้ไหมนะ
ห่วงชะมัด!
กระทั่งผ่านเวลามาจนถึงหกโมงครึ่งแล้ว ทามก็ยังนั่งอยู่ที่ร้านหมูกระทะเช่นเดิม ทานเป็นมารยาท หลังจากนั่นก็เริ่มนั่งยุกยิกเพราะเป็นห่วงลูก
“ยุงกัดเหรอทาม”พี่ต่ายถาม
“เปล่าครับ พอดีทามมีธุระอยากจะกลับแล้วฮะ”
“อ๋อ งั้นขออีกแปบเดียวไม่นานหรอก”พี่ต่ายยิ้ม ตอนนี้พี่หลายคนเริ่มกึ่มกันแล้ว เพราะดื่มเหล้าอย่างกับเทน้ำทิ้ง ทามนั่งมองคนโน้นที คนนี้ที หัวเราะบ้าง
บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารหลากชนิด ทั้งหมูทั้งไก่หมักเครื่องเทศอย่างดี มันถูกย่างวางทิ้งไว้บนจานเยอะมาก น่าเสียดายจะตาย ถ้าทามเอากลับไปกินที่บ้านได้ก็คงดี จานใหญ่ตรงหน้าคงเป็นได้ทั้งอาหารเช้า แพ็คห่อไปทานอาหารกลางวัน และอาจเหลือเป็นอาหารเย็นของวันพรุ่งเลยทีเดียว ทามจะได้ไม่ต้องหิวจนท้องร้องอีกต่อไป
โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่รู้จะหวนคืนมาเมื่อไหร่ อย่ากระนั้นเลย ทามเปิดซิปหน้ากระเป๋าสะพาย กางช่องใส่ของนั้นไว้พอประมาณ พอคนเผลอก็เขี่ยหมูปิ้งเข้ากระเป๋า แฮ่~ ได้หลายชิ้นอยู่นะ
อาหารอย่างอื่นหน้าตาน่าทานทั้งนั้น แต่ทามต้องเลือกแบบเอาที่เป็นชิ้นไม่เละ อย่างกุ้งปลาหมึกนี่ก็ดี ไส้กรอกนี่ของชอบเลย อ๊า...ใส่จนเกือบเต็มก็ทำเป็นก้มหน้ากินอาหารต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รู้งี้เอาถุงพลาสติกมาด้วยก็ดี
จนเวลาหนึ่งทุ่มกว่า ทามกำลังจะขอกลับบ้าน แต่สายตาดันเหลือบไปมองพี่ชายคนโหดซึ่งนั่งจ้องหน้าอยู่นานก่อนแล้ว แววตานั่นจ้องมาคล้ายจับผิด คนที่ทำความผิดอย่างทามเห็นเข้าก็ตกใจมาก เขาจะเห็นรึเปล่าว่าเมื่อกี้เราทำอะไร? ช่างเถอะ ๆ เราต้องใจเย็น...อย่าไปสน รีบชิ่งก่อนเถอะเรา
“ป้าเปียฮะ ผมต้องรีบกลับแล้วนะครับ”ทั้งที่ทามกระซิบบอกป้าเปีย แต่ป้าแกดันตอบกลับแบบเสียงดังตามความเคยชินของแก
“ห๊ะ กลับอะไรยังไม่ดึกเลย เดี๋ยวพาไปส่งบ้าน”
“มะ ไม่เป็นไรฮะ ผมกลับเองได้”
“เอ้าไอ้นี่...จะรีบกลับไปไหนวะ”ป้าแกนักเลงเก่าหรือเปล่าเนี่ย ทามทำหน้าเกรงใจ แต่สุดท้ายแกก็พยักหน้า
“เอ้า กลับก็กลับ กลับได้นะ”
“ครับ สวัสดีครับทุกคน”
ทุกคนโบกมือบ๊ายบายทำให้ทามถอนหายใจโล่งออก สุดท้ายก็จะได้กลับบ้านแล้ว กำลังเดินออกไปหน้าร้าน ยังไม่พ้นลานจอดรถดี มือหนาของใครอีกคนก็เข้ามาคว้าแขนทามไว้ ทามตกใจเมื่อเห็นหน้าเขาได้ถนัด
พี่คนโหด!!!!!!! เอ่อ ไม่สิเขาชื่อ คุณเอกต่างหาก!
“เมื่อกี้ฉันเห็นนะ”
“อะ อะ อะไรเหรอฮะ”
“นายขโมยอาหาร”เขาพูดเสียงเรียบ ช็อค! พี่เค้าเห็นจริงด้วย ทามปั้นสีหน้าตัวเองไม่เป็น พอเขาบอกแบบนั้นก็ทำให้ตัวเองตกใจมาก
“เอ่อ...ผมเปล่า”เพื่อที่จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์กระอักกระอ่วน ทามได้แต่ปฏิเสธออกไปก่อน
“ฉันเห็น ลองเอากระเป๋านายมาให้ฉันดูสิ”เขาทำท่าจะดึงกระเป๋าไป แต่ทามสู้สุดชีวิต ดึงกลับมา พี่เค้าก็ดึงไป ทามก็ดึงกลับมาอีก สุดท้ายเขาออกแรงนิดเดียว
แคว่ก!! ทามก้มมองสายกระเป๋าขาดเรียบร้อย!
แต่คนตรงหน้ายังไม่หยุดการกระทำ เขาเปิดซิบดูด้านในมีอาหารอยู่เต็ม คนโหดแสยะยิ้มอย่างสมเพชเวทนาทามแทบจะร้องไห้ ขอกระเป๋าคืน
“นี่นายไม่มีเงินซื้อกับข้าวหรือไงเที่ยวทำตัวเป็นขโมย ขโมยแม้กระทั่งอาหารถูก ๆ พวกนี้”ทามเงียบ เออสิโว้ยไม่มีเงิน ไม่งั้นจะทำอย่างนี้ทำไม แค่คิดในใจนะฮะ
“พนักงานบริษัททำแบบนี้รู้ไปถึงไหนอายถึงนั่น”ทามก้มหน้า พี่เค้าโยนกระเป๋าคืนมา
“ทีหลังอย่าทำอีก”
“ครับ”รับคำเสียงอ่อย ๆ เพราะหิวหรอกถึงทำ
“ไป จะกลับบ้านใช่ไหมจะไปส่ง”
“มะ มะ มะ ไม่เป็นไรครับ”ทามเกรงใจ ทั้งอับอายและกลัวพี่เค้าด้วย
“นายอย่าเรื่องมาได้ไหม ก็บอกว่าจะไปส่งไง”คนพูดมีน้ำเสียงและสีหน้าที่ไม่ค่อยดี ดูเป็นคนเอาแต่ใจมากเลยทีเดียว ทามไม่กล้าปฏิเสธสุดท้ายจึงต้องนั่งรถหรูอีกครั้ง
“บ้านอยู่ไหนล่ะ”ทามถอนหายใจก่อนจะบอก
“ลาดพร้าวครับ”
“ก็แค่นั้น”ระหว่างที่นั่งรถมา ทามนึกถึงแต่นมของน้องจีน ระหว่างทางจึงเอ่ยปากขอร้องเขาสักหนึ่งครั้ง
“อะ เอ่อ...พี่ครับ”ทามเรียก
“คุณเอก”เขาพูดขึ้น ทามทำหน้าไม่เข้าใจ
“ครับ?”
“เรียกฉันว่า คุณเอก”
“อะ อ่อ ครับคุณเอก คือว่าคุณเอกจะว่าอะไรไหมครับ คือว่าทามต้องแวะซื้อของ”
“ซื้ออะไร”
“เอ่อ”ชักลังเลด้วยกลัวจะเป็นการรบกวนเขามากเกินไป
“ช่วยหยุดทำหน้าอย่างนั้นสักที แล้วบอกมาว่าจะซื้ออะไร โลตัสข้างหน้านี่ได้รึเปล่า”ถามเสียงดุจังรู้แล้วว่าพันธ์ดุ
“ได้ฮะ...”ถึงจะมีน้ำเสียงไม่ค่อยดีแต่เขาก็ยอมจอดให้ ทามเข้าไปในร้านคนเดียว ทามใช้เวลานานสักหน่อยสำหรับการเลือก เพราะนมผงแต่ละยี่ห้อก็มีราคาที่แตกต่างกัน แข่งกันแพงจริงนะครับ ทามคิดว่าทามควรจะเปลี่ยนจากแบบเดิม เพราะแบบนั้นราคาค่อนข้างสูงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วควรจะเลือกอย่างไรถึงจะเหมาะสม
“อืม”สุดท้ายก็เลือกแบบเดิมดีกว่า แต่เปลี่ยนเป็นกล่องใหญ่กว่าที่เคย ตอนนี้ทามมีเงินเดือนแล้ว การที่จะใช้เงินเก็บตรงส่วนนี้ไปก่อน ยังไงสิ้นเดือนทามก็มีเงินก้อนมาทดแทน
ยืนลังเลอยู่นานกว่าจะตัดสินใจได้ ทามถือกล่องไปยังที่จ่ายเงินด้วยความมั่นใจ ลูกจ๋าต้องได้กินของดี ๆ แต่พอตอนจะจ่ายเงิน ก็ทั้งควักทั้งล้วงกระเป๋าหา มันเหมือนจะเจอความว่างเปล่า จนพนักงานมองหน้า
“เอ่อ เดี๋ยวนะครับ”ทามวางกระเป๋าลงบนพื้น ค่อย ๆ เปิดหาที่ละช่อง สมองคิดไล่วนตั้งแต่เมื่อเช้า กลางวันและตอนเย็นก็ยังอยู่นี่นา แล้วทำไมตอนนี้มันไม่มีแล้วละ!?
ช่องนี้...ไม่มี!!!
นี่ก็...ไม่มี!
ไม่มี!!!
หัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ น้ำตาเอ่อคลอดวงตาน้อย ความกังวลใจวิ่งพล่านไปทุกส่วนของร่างกาย มันเป็นความเหมือนรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก งานนี้ท่าจะซวยแล้วจริงแท้แน่นอน ทามหันไปยิ้มหวานขอโทษพนักงาน
“ขอโทษนะฮะ พี่รอแป๊บหนึ่งนะฮะ อาจจะทำหล่นไว้บนรถ ยังไงผมขอออกไปหยิบที่รถก่อน”ทามไม่แน่ใจบางทีตัวเองอาจจะสะเพร่า ทำเงินตกอยู่บนรถก็ได้ ตอนที่วิ่งออกมายังรถนั้น...ฝนเริ่มพรำและเม็ดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พี่ชายจอดรอด้วยสีหน้าหงุดหงิด ทามเปิดประตูแต่ไม่ได้เข้าไปนั่ง มองหาทั้งบนที่นั่งและใต้เบาะ อีกคนก็มองตามทำสีหน้าสงสัย
“ไหนล่ะของนายซื้อ ได้รึยัง?”เค้าถาม ทามกำลังร้อนใจ มันไม่มี! หายไปไหน!?
“ยะ ยังครับ คือว่าเงินทามหาย!!”ทามบอกเสียงสั่น อีกคนไม่ได้เอ่ยปากถามว่าหายได้อย่างไร เขาส่งเพียงรอยยิ้มเยาะที่มุมปากมาให้ ทามเห็นแต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น ทำได้แค่ตั้งใจหาเงินที่อาจหล่นอยู่ที่ไหนสักทีในรถ
“แผนสูงจริงนะ นายน่ะ”
“ครับ?”
“อยากให้ฉันจ่ายเงินค่าของให้ก็บอกเถอะน่า”
“เปล่านะครับ เงินทามหายจริง ๆ”ทามบอก แต่เขายักไหล่ไม่สนใจ
“หึหึ นายนี่มันร้อยเล่ห์ลวดลายกว่าที่ฉันคิดเยอะเลยนะ”ทามไม่สนคำพูดเขาหรอก เขาเข้าใจผิดก็ไม่อยากเสียเวลาอธิบาย สิ่งที่ทำให้ทามร้อนรนจนแทบบ้าตอนนี้ คือเจ้าตัวเล็กไม่มีนมกินไม่ได้! จะปล่อยให้ตัวเล็กของพ่อจ๋าหิวไม่ได้นะ เด็กตัวเล็ก ๆ ไม่เหมือนผู้ใหญ่อย่างทาม แค่คิดถึงเสียงร้องไห้จ้าของเจ้าตัวน้อยก็พาลทำน้ำตาไหล ทามอยากร้องไห้แต่ต้องกลั้นไว้ในอก เกือบสองทุ่มแล้วด้วย ลูกจ๋า ลูกจ๋า หัวใจทามห่อเหี่ยวพลางก่นด่าตัวเองในใจ
“นี่ขึ้นรถมาสักที ฉันรีบไปส่ง”
“พี่ เอ้ย ไม่ใช่ เอ่อ...คุณเอกไปเถอะครับ เดี๋ยวผมกลับเอง”ทามฝืนยิ้มให้ แสร้งทำว่าไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องหรอกที่จะให้เขาซึ่งเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว จะต้องมานั่งรอและจัดการเรื่อง...ที่ไม่ใช่เรื่องของเขาเอง คุณเอกเบ้ปากเล็กน้อย
“นายมีแผนอะไรอีก จะหลอกล่ออะไรฉัน”
“เปล่านะฮะ”
“งั้นขึ้นรถมาได้แล้ว”
“ไปไม่ได้จริง ๆ ฮะ ทามยังกลับไม่ได้ ถ้าไม่ได้ของกลับไป...กลับไปไม่ได้จริง ๆ ฮะ”คนตรงหน้าทำสีหน้าไม่สนใจ เขาสั่งให้ทามปิดประตูรถก่อนจะเร่งเครื่องออกไปอย่างหัวเสีย ทิ้งให้ทามทามร้องไห้แบบสิ้นหวังฮือออออ ลูกจ๋า ๆ พ่อจะทำยังไงดี!?
เงินหายไปได้ยังไงงงงง
ป.ล. "ถึงได้มาน้ำตรงนี้" พิมพ์ตกคำว่า "ดื่ม" ไปน่ะค่ะ