ปฏิบัติการยึดหัวใจนายเพื่อนสนิท - นิยาย ปฏิบัติการยึดหัวใจนายเพื่อนสนิท : Dek-D.com - Writer
×

    ปฏิบัติการยึดหัวใจนายเพื่อนสนิท

    คุณเคยไหม..ที่แว๊บหนึ่งของหัวใจรู้สึกแปลกๆกับเพื่อนสนิทคนนี้ คุณเคยไหม..ที่แว๊บหนึ่งของหัวใจรู้สึกหวงเพื่อนคนนี้เหลือเกิน เมื่อเขาอยู่ใกล้ผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เรา และเคยมีสักวันไหม..ที่คุณอยากบอกเพื่อนคนนี้เหลือเกินว่า

    ผู้เข้าชมรวม

    340

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    340

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    6
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  3 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  28 มิ.ย. 56 / 00:42 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


    ปฏิบัติการยึดหัวใจนายเพื่อนสนิท

                   คุณเคยไหม…..ที่แว๊บหนึ่งของหัวใจรู้สึกแปลกๆกับเพื่อนสนิทคนนี้
                   คุณเคยไหม
    …..
    ที่แว๊บหนึ่งของหัวใจรู้สึกหวงเพื่อนคนนี้เหลือเกิน เมื่อเขาอยู่ใกล้ผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เรา
                   และเคยมีสักวันไหม
    …..ที่คุณอยากบอกเพื่อนคนนี้เหลือเกินว่า
    ฉันก็แชอบแกเหมือนกัน
                
                กรี๊ดดดดดดด >0<!!!

                    เสียงวี๊ดว๊าดกระตู้หู้ของเหล่าสาวๆนักศึกษาดังก้องไปทั่วทั้งสนามบาสเมื่อลูกบาสถูกชู้ดลงดั้ง บรรดาหนุ่มๆกว่าสิบชีวิตต่างแย่งชิงกันครอบครองลูกบาส ผลัดกันทำคะแนนด้วยกระบวนท่าที่มีชั้นเชิง หนึ่งในนั้นคือเพื่อนสนิทของฉันเอง
    เชซิล 
    ผู้ชายตัวสูงโปร่ง นัยน์ตาสีทราย กับมาดนิ่งขรึมที่สาวๆหลงใหล

                     ถึงแม้ว่านายเชซิลจะเรียนอยู่คณะสถาปัตฯแต่ความสามารถทางด้านกีฬา
    basketball ของเขากลับโดดเด่นจนถูกคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมบาสของมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี 1 จนตอนนี้ก็ปี 2 แล้ว เพราะงั้นทุกๆเย็นเวลาที่เหลือของนายนั่นก็คือการซ้อม ซ้อมๆๆๆๆแล้วก็ซ้อม นอกจากความสามารถทางด้านกีฬาที่มีแล้ว นายเชซิลยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้ชายหน้าตาดีของมหาวิทยาลัย จึงไม่แปลกเลยที่หมอนั่นจะมีสาวๆวิ่งตามเป็นขบวน

                     ชาหวาน
    ขอน้ำหน่อย”  
                      
    เชซิลวิ่งมาหาฉันที่นั่งอยู่บนสแตน ก่อนจะคว้าขวดน้ำที่ฉันยื่นให้ไปดื่ม ทำเอาผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้วยกันกับฉันส่งสายตาอิจฉามาให้ เฮ้อ! ฉันอยากจะตะโกนบอกยัยพวกนี้จริงๆว่าฉันเป็นได้แค่เพื่อน ไม่มีสิทธิ์มากไปกว่านี้ ถึงแม้อยากจะเป็นมากกว่านี้ก็เถอะ

                     
    เชซิล ฉันกลับก่อนนะ” 

                      “ลืมไปแล้วรึไง ว่าเธอต้องกลับพร้อมฉันทุกวัน” 
                       
    ฉันหยิบกระเป๋าเตรียมลุกจะกลับ แต่ก็ต้องนั่งกลับไปเหมือนเดิมเมื่อเชซิลพูดอย่างนั้น ใช่ ฉันกับนายเชซิลกลับบ้านพร้อมกันตั้งแต่เรียนอยู่ ม
    .4 จนพอเราทั้งสองเรียนมหาวิทยาลัย หมอนั่นก็ยังติดนิสัยไปรับไปส่งฉันกลับบ้านเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปเห็นที่จะเป็นความฮอตของนายเชซิลนั่นแหละ พอขึ้นปี 2 หมอนั่นก็ฮอตขึ้นๆยิ่งกว่าเดิม และที่สร้างความหนักใจให้ฉันมากในตอนนี้ก็คือ ไข่มุก ดาวคณะศิลปะศาสตร์ ไม่ว่านายเชซิลจะไปไหนมาไหน ก็เห็นยัยนั่นโผล่มาทุกที และดูเหมือนว่านายเชซิลก็สนใจยัยไข่มุกนั่นด้วยสิ

                 วันต่อมาที่มหาวิทยาลัยหลังจากการเรียนในคาบเช้าสิ้นสุดลง

                 “เชซิล
    ….นี่นายจะรีบเดินไปไหนฮะ..
    เดินช้าๆหน่อย”

                 “เธอต่างหากที่ช้า”

                 “นายจะรีบไปไหนยะ” 
                 
    ฉันแทบจะวิ่งแทนเดินอยู่แล้วก็ว่าได้ ขายาวๆของนายเชซิลก้าวฉับๆๆเพียงไม่กี่ก้าวก็เดินนำหน้าฉันไปไกลโขแล้ว พอฉันวิ่งมาถึงหมอนั่น ก็เปิดฉากโวยวายทันที

                 “ช้า” 
                  เชซิลหันมาพูดใส่หูฉัน ก่อนจะคว้ามือของฉันให้เดินไปพร้อมๆกันกับเขา ฉันไม่ชอบที่เขาทำแบบนี้เลย เพราะมันกำลังทำให้ฉันหลงรักเพื่อนสนิทของตัวเองมากขึ้น

                   “ทำแบบนี้เดี๋ยวแฟนคลับของนายก็เข้าใจผิดหมดกันพอดี ปล่อยมือฉันได้แล้ว”

                   “ไม่ปล่อย
    ….
    ปล่อยให้เข้าใจผิดหมดก็ดี ฉันไม่ชอบให้ผู้หญิงพวกนั้นมายุ่งกับฉัน”

                    “แล้วถ้าฉันโดนพวกแฟนคลับนายรุมสกรัมล่ะ นายจะว่ายังไง”

                    “ฉันจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเด็ดขาด”

                    “ชิ
    !
    นายนี่ชอบทำตัวหล่อเลือกได้ ระวังจะไม่มีใครสน”  ฉันอดไม่ได้เลยหันไปแขวะทีนึง

                    “มีสิ ไข่มุกไง เธอจำได้รึเปล่า ดาวคณะ
    อ้าว ชาหวานรอฉันก่อน”  
                    
    ฉันสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของนายเชซิล ก่อนจะวิ่งหนีไป พอได้ยินชื่อยัยไข่มุกนี่ทีไร ฉันก็หงุดหงิดขึ้นทุกที แต่ระหว่างทางที่ฉันวิ่งไปก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเรียกชื่อฉันขึ้นมา นั่นมันไข่มุก เธอกำลังเดินมาทางฉันพร้อมกับถือกล่องอะไรสักอย่างมาด้วย

                    “ชาหวาน เจอเธอก็ดีละ ฉันมีเรื่องอยากจะรบกวนให้เธอช่วยหน่อย”

                    “อะไรหรอ”

                    “คือ
    ..
    ฉันฝากของให้เชซิลหน่อยสิ”

                    “ทำไมเธอถึงไม่เอาของไปให้เขาเองล่ะ”

                    “ฉันเขินอ่ะ ฝากให้เพื่อนสนิทอย่างเธอเอาไปให้เขาจะดีกว่า ได้มั้ยชาหวาน”

                     “อ๋อ ได้สิ”

                     “ขอบใจนะ”
                     ไข่มุกยื่นกล่องให้ฉันแล้วเดินจากไป ฉันได้แต่มองตามหลังอย่างเศร้าๆ ไข่มุกทั้งสวย ทั้งรวย เหมาะกับนายเชซิลทุกอย่าง ส่วนฉันก็แค่เพื่อนสนิท ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้วที่นายนั่นจะหันมาชอบฉัน

                      “ยัยชาแสบ เธอหายไปไหนมา” 
                      
    นายเชซิลที่ไม่รู้โผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ โวยวายทันทีที่เห็นฉัน ฉันหันไปมองหน้าหน้าเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นกล่องที่ไข่มุกฝากไว้ให้เขาไป หมอนั่นทำท่างงแต่ก็ยังรับกล่องนั่นไปโดยดี

                   “ให้ฉันหรอ”

                  
    ….
    ของไข่มุก”  พูดจบฉันก็เดินนำหน้าไปโดยไม่พูดอะไร จนทำให้นายเชซิลต้องวิ่งตาม

                   “ชาหวาน เป็นบ้าอะไรของเธอ อยู่ดีๆก็เงียบ”

                  
    -_-


                   “ชาหวาน เธอฟังฉันอยู่รึเปล่า
    ….
    เธอเป็นอะไร” 
                   
    ฉันก็อยากตอบนายไปนะว่าที่ฉันเป็นแบบนี้ เพราะฉันชอบนาย แต่ฉันไม่กล้าให้คำนั้นหลุดออกจากปากของฉันไปเด็ดขาด เพราะสิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือ ความเป็นเพื่อนจะสิ้นสุดลง ขอโทษนะเชซิล ที่ฉันคิดกับนายเกินคำว่าเพื่อน

                    ก่อนเข้าเรียนคาบเช้าวันนี้ จู่ๆ ก็มี SMS เข้ามาที่โทรศัพท์ของฉัน มันถูกส่งมาจากเบอร์ของนายเชซิล

                   
    ฉันอยู่ที่หน้าคณะเธอ
                   ออกมาเจอกันหน่อย


                   แต่เพราะเหตุการณ์ในวันก่อนทำให้ฉันยังไม่พร้อมที่จะออกไปเจอเขาตอนนี้ เพราะงั้นฉันเลยตัดสินใจปิดเครื่องไปซะเลยจะได้ไม่ต้องรับรู้เรื่องอะไรของหมอนั่น หลังจากการเรียนในคาบเช้าสิ้นสุดลง ฉันก็รีบวิ่งออกจากคณะไปเลย จะได้ไม่ต้องเจอหน้านายเชซิล

                  
      ปรี๊นนนน!!!  ปรี๊นนนน!!!

                    เสียงบีบแตรรถที่ดังมาจากทางด้านหลัง ทำเอาฉันที่เดินดุ่มๆอยู่บนฟุตบาทตกใจ จนต้องเอามือมาประสานกันไว้กลางอก เพื่อเรียกขวัญกลับเข้าร่าง ไม่นานนักไอ้รถคันดังกล่าวก็ขับมาจอดข้างริมฟุตบาทที่ฉันเดินอยู่ ประตูรถถูกเปิดและปิดอย่างแรงจากคนขับ ซึ่งฉันแทบอยากจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในตึกทันทีที่เห็นหน้าเขา

                    “เธอไม่เห็นข้อความที่ฉันส่งให้รึไง”

                    “เปล่านี่”

                    “เธอนี่ยั่วโมโหฉันเก่งจริงๆ ยัยชาแสบ” 
                   
    สิ้นสุดเสียงของนายเชซิล นายนั่นก็เดินมากระชากกระเป๋าของฉันเข้าไปในรถ และเข้าไปนั่งตรงเบาะคนขับโดยไม่พูดอะไรต่ออีก
    ฉันก็เลยต้องเข้าไปนั่งในรถของนายเชซิล เพราะกระเป๋าของฉันอยู่กับนายนั่น


                     นายเชซิลขับรถไปได้สักพักก็เลี้ยวเข้าห้างใกล้ๆมหาวิทยาลัย ฉันกับเขาเดินอยู่ในห้างด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ทั้งคู่ พอเดินไปได้สักพักฉันก็ไม่เห็นนายเชซิลแล้ว ก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้เดินช็อปปิ้งคนเดียวอย่างสบายใจ

                     “สวัสดีครับ
    ทำไมถึงได้มาเดินอยู่คนเดียวได้ล่ะครับ”

                    
    (-_- )( -_-)! 
                      
    ในขณะที่ฉันกำลังชี้นิ้วเลือกขนมเค้กอย่างสบายใจในร้านเบเกอร์รี่
     
    ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาทัก เขายืนอยู่ในชุดนักศึกษาชาย เพียงแต่เข็มตราสัญลักษ์มหาวิทยาลัยของเขาเป็นคนละสถาบันกับฉัน หน้าตาหมอนี่จัดว่าดูดีเชียวแหละ แต่ดูเจ้าเลห์ยังไงไม่รู้ ฉันเลยไม่ตอบอะไรกลับไป เพียงแต่เดินเลี่ยงไปอีกทางแทน

                  “คุยกันก่อนสิครับ”

                  “ฉันไม่มีอะไรจะคุย”

                   “ดุจังครับ
    แฟนไอ้เชซิลเนี่ย”

                  
    o_o
    เมื่อกี้นายพูดว่าไงนะ ใครแฟนนายเชซิล”  
                   
    ฉันอาจจะหูฝาดไปก็ได้ ที่ได้ยินหมอนั่นบอกว่าฉันเป็นแฟนนายเชซิล เลยลองถามให้แน่ใจอีกรอบ

                   “ก็เธอไง
    ..
    หรือว่าไม่ใช่”

                   “ไม่ใช่ ฉันกับนายเชซิลเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่ใช่อย่างที่นายเข้าใจ” 
                  
    ฉันรีบปฏิเสธเพราะกลัวว่าจะเกิดการเข้าผิดไปกันใหญ่  

                    “แฟนฉันเอง” 
                    
    ดูเหมือนการปฏิเสธของฉันเมื่อสักครู่จะไร้ความหมาย เมื่อนายเชซิลที่ไม่รู้ว่าโผล่มาตั้งแต่ตอนไหนเอ๋ยขึ้น นายคนนั้นก็มีทีท่าว่าจะเชื่อสนิทใจ เชซิลเดินเข้ามาหยุดข้างๆฉันก่อนจะล็อคคอดึงฉันเข้าไปชิดตัวเขาด้วยแขนเพียงข้างเดียว ยิ่งสร้างความเข้าใจผิดไปกันใหญ่

                     “นี่
    ! นายจะทำอะไรของนาย คนอื่นเขามองกันหมดแล้ว” 
                     
    ฉันยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูของเชซิล แต่นายนั่นคงไม่ฟังที่ฉันพูด แต่กลับโน้มริมฝีปากลงมาหอมแก้มฉันเบาๆแทน ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุน ทุกอย่างดูเชื่องช้ามีเพียงหัวใจของฉันเท่านั้น ที่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
    ยิ่งเชซิลทำแบบนี้ มันยิ่งทำร้ายฉันมากขึ้น

                      “ไง
    ไอ้หมาหวงก้าง”

                      “ไง
    ไอ้ขี้แพ้”  เชซิลตอบอย่างไม่ไว้หน้า

                      “ไม่เจอกันตั้งนาน ปากแกยังเสียเหมือนเดิมเลยว่ะ
    ..
    ไม่รู้ว่าการแข่งขันบาสมันจะห่วยเหมือนปากแกรึเปล่า”

                      “อย่าพึ่งปากดีไป ครั้งนี้ฉันเอาชนะแกได้แน่”

                      “ฉันยังไม่เห็นว่าแกจะทำได้สักที ที่เห็นก็มีแต่วิธีสกปรกที่ทีมแกใช้”

                      “ฉันจะใช้มันอีกแน่ ขอแค่ล้มสถาบันแกได้ แล้วเจอกัน” 
                      
    นายผู้ชายคนนั้นคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินจากไป ทิ้งให้ฉันสงสัยว่าไอ้วิธีสกปรกที่ว่ามันคืออะไร

                       หลังจากที่ฉันและนายเชซิลเดินช็อปรอบห้างจนจุใจก็กลับเข้ามามหาวิทยาลัยอีกรอบ ช่วงเย็นที่สนามบาสวันนี้ดูวุ่นวายนิดหน่อย เมื่อคนเสิร์ฟน้ำของทีมไม่สบายจนต้องหามส่งโรงพยาบาล หน้าที่ตรงนั้นจึงตกเป็นของฉันอย่างไร้เหตุผล เพียงเพราะฉันว่างอยู่คนเดียว แต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าฉันไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมนายเชซิลตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เลยยอมเสิร์ฟน้ำและวิ่งเก็บบอลให้ทีมด้วยความจำยอม

                         “ทุกคนคะ  พักดื่มน้ำกันก่อนค่ะ” 
                        
    ฉันตะโกนร้องเรียกทุกคนในทีมที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาซ้อมกันอย่างขะมักเขม้น ให้พักดื่มน้ำก่อนหลังจากที่ฉันเตรียมน้ำไว้เรียบร้อยแล้ว หลายคนเริ่มทยอยมาดื่มน้ำ เหลือเพียงแต่นายเชซิลที่ยังยืนชู้ดลูกบาส ฉันเลยตัดสินใจหยิบขวดน้ำแล้วเดินเข้าไปหานายเชซิล แต่ไข่มุกที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เดินเข้ามาหาฉันซะก่อน

                  “เดี๋ยวฉันจะเอาไปให้เขาเอง”  
                  
    พูดจบไข่มุกก็คว้าขวดน้ำในมือฉันแล้วเดินเข้าไปหาเชซิล ฉันล่ะหมั่นไส้จริงๆเชียว

                   “เชซิล ดื่มน้ำหน่อยมั้ย”

                   “อื้อ
    ….
    ขอบใจ” 
                  
    เชซิลรับน้ำมาดื่มก่อนจะยื่นขวดน้ำกลับไปให้ไข่มุก ดูยัยไข่มุกสิ แสดงอาการด๊ด๊าเชียว

                    “ดูสิ เหงื่อเต็มหน้านายเลย น่าจะเช็ดซะหน่อยนะ”

                    “งั้นหรอ” 
                    
    เชซิลกำลังจะถลกชายเสื้อของเขาขึ้นไปเช็ดหน้า แต่ไข่มุกหยิบผ้าเช็ดหน้าตัวเองขึ้นไปเช็ดเหงื่อ
    ให้
    เชซิลแทน จนมีเสียงแซวของคนในสนามดังขึ้น ทั้งสองคนมองตากัน โดยเฉพาะไข่มุก กำลังใช้วิชาศิลปะการแสดงที่ตนเองร่ำเรียนมาให้เกิดประโยชน์สุดๆ ก็แหม มองเจาะเข้าไปชั้นเรตินาของนายเชซิลซะปานนั้น ฉันที่ได้แต่ยืนมองก็เลยเดินกลับมายังจุดบริการน้ำอย่างหงุดหงิด

                     “ชาหวาน ไม่ดื่มน้ำหน่อยเหรอครับ”  นายอาซานหนึ่งในสมาชิกทีมบาสเอ๋ยถามฉันขึ้น

                     “ไม่ดื่ม
    แต่ฉันจะดื่มเลือดนายแทนถ้านายยังไม่เลิกถามฉัน”

                     “ดุจังครับ”            

                     “นี่
    ! รีบไปให้ไกลๆฉันเลยนะ”  
                     
    คำพูดหงุดหงิดของฉัน ทำเอาบุคคลที่สนทนาด้วยเกาหัวแครกๆ โอ้ย
    !
    ฉันไม่น่าพาลใส่คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย เห็นแล้วก็สงสาร ฉันเลยไถ่โทษด้วยการเรียกอาซานกลับมา

                     “อาซานเดี๋ยวก่อน
    ….
    ฉันว่าเหงื่อบนหน้านายมันจะทำให้นายเป็นสิวนะ”

                     “เหรอครับ”

                     “ใช่
    ..
    เดี๋ยวฉันเช็ดให้” 
                     
    ไหนๆก็ไหนๆแล้วฉันเลยทำตัวประชดชีวิตไปซะบ้าง ไม่นานนักเสียงแซวจากคนในสนามก็ดังขึ้น ตอนแรกฉันคิดว่าเป็นคู่ของนายเชซิลกับยัยไข่มุกซะอีก แต่ฉันเข้าใจผิด มันคือฉันกับนายอาซานต่างหาก

                     “ขอบคุณครับ”

                     “ไม่ต้องขอบคุณหรอก
    ..
    ฉันเต็มใจ”

                      “เออ
    หน้าของชาหวานก็มีเหงื่อนะ เดี๋ยวผมเช็ดให้” 
     

                      “ไม่ต้อง ฉันเช็ดให้ยัยนี่เองได้” 
                      
    อาซานกำลังเลื่อนผ้าเช็ดหน้าเข้ามาใกล้หน้าของฉัน  แต่เสียงทุ้มๆของเชซิลร้องห้ามเอาไว้ซะก่อน ไม่รู้ว่าเชซิลโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอเขาเดินมาถึงก็จูงมือลากฉันออกจากสนามบาสมาเลย

                     “ไม่ซ้อมต่อเหรอ”  ฉันถามเมื่อทั้งฉันและนายเชซิลเดินมาถึงรถของเขาที่จอดไว้ไม่ไกลนัก

                     “ไม่มีอารมณ์ซ้อม”

                     “อ้าว
    !
    ฉันก็นึกว่านายอยากอยู่มองตากับไข่มุกนานๆซะอีก”

                     “เธอต่างหาก ที่อยากอยู่หวานกับไอ้อาซานต่อ”
                     เ ชซิลโน้มหน้าลงมาพูดอย่างประชดประชัน สีหน้าฉายแววขุ่นเคือง นึกว่าฉันจะกลัวรึไง

                    “อาซานน่ะเหรอ เขาก็
    ..
    น่ารักดีนะ”

                    “ชอบมันรึไง”

                    “เออ
    ชอบ”

                    “เธอพูดว่ายังไงนะ” 
                   
    นายเชซิลถามฉันดังมากกว่าเดิม พร้อมกับกระชากฉันเข้าไปใกล้ตัวเขาด้วย ตอนนี้ฉันเริ่มสัมผัสได้ถึงอารมณ์ไม่ปรกติของเขา นี่นายกำลังโกรธอยู่รึเปล่า

                    “คือ
    ..
    ฉัน”

                   “อย่าเข้าใกล้ผู้ชายคนอื่นอีก นอกจากฉัน” 

                   “ทำไมฉันจะเข้าใกล้ผู้ชายคนอื่นไม่ได้ บอกเหตุผลของนายมาสิ”

                  “เพราะเธอเป็นเพื่อนสนิทของฉันไง ใครก็เเตะต้องไม่ได้” 
                   เชซิลหยุดคำพูดของเขาไว้แค่นั้น แล้วไปส่งฉันที่บ้าน

                       
    สุดท้ายก็จบลงด้วยคำว่าเพื่อนสนิท ฉันเริ่มอยากจะพูดคำนั้นออกไปซะแล้วสิ ว่าฉันไม่อยากเป็นแค่เพื่อนกับนาย ไม่อยากเก็บเอาไว้อีกต่อไปแล้ว



    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น