คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : C H A P T E R 14 [100%]
C H A P T E R 14
“โอฟีเรียคะ ตื่นขึ้นมากินยาก่อนเร็ว” ไฮรอสวางฝ่ามือลงบนกลุ่มผมนุ่มของบุตรสาวแล้วลูบเบาๆ ระหว่างที่กล่าวขึ้น
ดวงตาของชายหนุ่มจับจ้องไปยังใบหน้าแดงเรื่อด้วยพิษไข้ของลูกน้อยอย่างปวดใจ
เนื้อตัวของโอฟีเรียตอนนี้ร้อนจัดจนไม่ต่างจากกาต้มน้ำ แถมยังแดงก่ำจนแทบจะคั้นออกมาเป็นสีแดงได้อยู่แล้ว
โอฟีเรียรับรู้ได้ถึงเสียงเรียกค่อยๆ
ปรือดวงตาขึ้น เด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังไม่สบายตัวเพราะพิษไข้ขยับริมฝากอ้ารับอากาศหลังจากตื่นขึ้นจากนิทรา
เธอยกดวงตาพร่ามัวมองผู้เป็นพ่อแล้วกล่าวเสียงแห้งผาก “ท่านพ่อ...ไม่มีแรงเลยค่ะ”
ตอนนี้โอฟีเรียรู้สึกว่าร่างกายของเธอคล้ายมีระเบิดเวลาอยู่ภายใน
ร่างกายของเธอจะเจ็บปวดอยู่เป็นพักๆ แถมยังร้อนสลับหนาววูบจนสั่นไปทั้งตัว
องค์หญิงน้อยไม่รู้ว่าเธอกำลังไม่สบายหรือป่วยเป็นอะไร
เพียงแต่มันเป็นอาการป่วยที่เจ็บปวดจนบรรยายออกเป็นคำพูดไม่ถูกเลยทีเดียว
ตั้งแต่วันที่สั่งลงโทษเจ้าเด็กผีพวกนั้นไปเรียบร้อย
วันรุ่งขึ้นโอฟีเรียก็จับไข้จนได้แต่นอนติดเตียง
จากที่ว่าจะแว๊บไปดูเจ้าพวกนั้นฝึกซ้อมกันบ้างก็กลายเป็นว่าต้องนอนหอบไม่ได้ขยับไปไหนมาเกือบจะสามวันแล้ว
นอกจากตื่นขึ้นมากินข้าวกินยาแล้ว โอฟีเรียก็เอาแต่หลับตลอดทั้งวัน
อาการป่วยนี้ทำให้เธออยากจะหลับไปยาวๆ
ยาวจนกว่ามันจะหายไป
ไฮรอสมองใบหน้าแดงก่ำของบุตรสาวแล้วก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างเจ็บปวด
ชายหนุ่มกำถ้วยยาในมือของตัวเองแน่น หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะเจ็บแทนลูก “กินยาสักหน่อยนะคะ
เดี๋ยวก็หายแล้วเนอะ” เขาพยุงร่างของบุตรสาวให้นั่งพิงกับหัวเตียงเพื่อป้อนยาอย่างสะดวก
อาการป่วยของโอฟีเรียไม่ใช่อาการป่วยธรรมดา
เผ่ายักษ์แต่แรกก็เป็นผู้ที่มีพลังเวทในกายสูงเป็นอันดับต้นๆ อยู่แล้ว
ดังนั้นเมื่อกระแสเวทภายในร่างกายไม่อาจควบคุมได้พวกมันก็จะปะทุอย่างรุนแรงอยู่ภายใน
ปกติการปะทุของเวทมนต์จะไม่อันตรายถึงชีวิต
เพียงปล่อยให้มันระเบิดไปมาในร่างกายสักสามสี่วันก็จะหายเป็นปกติ
หากแต่ว่าโอฟีเรียไม่ใช่ยักษ์ทั่วไป
เธอพิเศษกว่านั้น...ทำให้การปะทุของพลังเวทมนต์ในร่างกายรุนแรงกว่าคนอื่นเหล่าเท่าตัว
และหากปล่อยโอฟีเรียเอาไว้แบบนี้สักอีกหลายวัน...กระแสเวทภายในร่างของเธอก็จะหาทางระบายออกด้วยการระเบิดร่างเจ้าของ
จากนั้นก็จะกลายเป็นหายนะ
การระเบิดของพลังเวทมนต์นอกจากจะทำให้ประเทศหายไปได้ง่ายๆ แล้ว
ผลกระทบหลังจากนั้นคือหมอกพิษที่จะคร่าทุกสิ่งมีชีวิต
เหนือสิ่งอื่นใด...โอฟีเรียจะตาย
ซึ่งไฮรอสไม่มีทางยอมให้เป็นแบบนั้นโดยเด็ดขาด
เด็กหญิงหอบอากาศเข้าปอดหลายเฮือกก่อนจะอ้ารับช้อนยาที่ไฮรอสป้อนใส่ปาก
ยาน้ำมีสีขาวใสเหมือนเกล็ดหิมะ แถมรสชาติก็ยังเย็นๆ เหมือนกลืนน้ำแข็งก้อนลงท้อง
พอกินไปช้อนหนึ่งความร้อนในร่างกายก็คล้ายจะเบาบางลงบ้าง
ยาชามนี้ใช้สมุนไพรเกือบห้าสิบชนิดทำขึ้นมา
สมุนไพรเหล่านั้นทั้งหมดล้วนให้ฤทธิ์เย็นทั้งสิ้น มันสามารถระงับการปะทุของพลังเวทมนต์ภายในร่างของโอฟีเรียได้ราวๆ
สามชั่วโมง
จะทำออกมาให้เพียงพอสำหรับหนึ่งวันนับว่าสิ้นเปลืองไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่
แต่สำหรับไฮรอสแล้วของแค่นี้มันไม่ได้หนักหนาอะไร
หากช่วยยื้อชีวิตของโอฟีเรียได้แล้วล่ะก็...ต่อให้สิ้นเปลืองกว่านี้เขาก็จะทำมัน
ขอเพียงแค่โอฟีเรียมีชีวิตอยู่ต่อไป
เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว...
เพราะนอกจากโอฟีเรียแล้ว
ไฮรอสก็ไม่เหลือใครอีก
หลัวจากป้อนยาจนหมดถ้วยแล้วชายหนุ่มก็อยู่กล่อมบุตรสาวจนหลับไปอีกครั้ง
โอฟีเรียจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็คงจะเป็นตอนที่ยาหมดฤทธิ์แล้ว เขาลูบใบหน้าชื้นเหงื่อของบุตรสาวแล้วกำหมัดแน่น
ความจริงแล้วมันมีวิธีที่จะช่วยให้การปะทุของพลังเวทของโอฟีเรียหายไปอยู่
เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากจะย่างเท้าเข้าไปเหยียบยังดินแดนแห่งนั้น
ดินแดนที่มีผู้หญิงแพศยานางหนึ่งอาศัยอยู่
“ไม่เป็นไรนะ
พ่อจะช่วยให้ลูกหายเอง” ไฮรอสคลี่รอยยิ้มแล้วลูบศีรษะของบุตรสาวเบาๆ
เมื่อเธอขยับตัวด้วยท่าทางอึดอัดทรมาณ “ต่อให้ต้องไปเจอนางผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง
แต่เพื่อลูกแล้วพ่อจะทำ”
ชายหนุ่มจัดการคลุมผ้าห่มให้ลูกสาวและตรวจดูอาการอีกครั้งเพื่อความสบายใจก่อนจะออกจากห้องไปพร้อมชามยาที่ว่างเปล่า
หน้าห้องนอนของโอฟีเรียมีคารอสและคิมสันยืนอยู่
กษัตริย์แห่งยักษ์มองไปยังองครักษ์ของบุตรสาวแล้วกล่าวว่า
“ดูแลโอฟีเรียให้ดี
หากลูกเราเป็นอะไรขึ้น...นั่นหมายถึงชีวิตของเจ้า” คารอสก้มหัวลงต่ำรับคำสั่งขององค์ราชาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ต่อให้อีกฝ่ายไม่สั่งเขาก็จะทำตามหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว
“ฝ่าบาท...” คิมสันมองใบหน้าของเจ้านายตนเองแล้วก็ได้แต่เรียกอีกฝ่ายเสียงเบา
ไฮรอสที่ไร้รอยยิ้มและเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
เขาทำหน้าเช่นนี้ราวกับกำลังจะไปฆ่าใครก็ไม่ปาน “อาการขององค์หญิงเป็นเช่นไรบ้างพะย่ะค่ะ”
ตอนนี้ไฮรอสเป็นคนเดียวที่เข้าไปดูอาการของโอฟีเรีย
แม้กระทั่งต้มยาก็ยังเป็นไฮรอสที่ทำ
เขาเหมางานทั้งหมดมาทำเองคนเดียวไม่เผื่อแผ่ให้ใครทั้งสิ้น
เหตุผลมีอยู่ข้อเดียวคือเขามั่นใจว่าตัวเองจะดูแลลูกสาวได้ดีที่สุด
“ไม่ดีขึ้นเลย” ชายหนุ่มว่าพร้อมกับกัดฟัน “เพราะฉะนั้นเราจะไปหายัยผู้หญิงคนนั้น
ถ้าหากเป็นนางก็คงจะมียารักษาโอฟีเรียแน่”
คิมสันได้ยินเช่นนั้นแล้วก็ได้แต่กะพริบตา
ความตกใจวาดผ่านดวงตาหลังกรอบแว่น “นางหรือ
ท่าน...เอาจริงงั้นเหรอ”
“เพราะมันไม่มีทางอื่นแล้วไงล่ะ” หากว่ามันมีทางอื่นเขาก็ไม่อยากจะเลือกกลืนเข็มพันเล็มลงท้องแบบนี้หรอก
ถ้าเกิดเลือกได้ตัวไฮรอสเองก็ไม่อยากจะไปเจอหน้าผู้หญิงคนนั้นอีกครั้งด้วยซ้ำ
พระราชาหนุ่มขบฟันแน่นแล้วเดินผ่านหน้าเสนาบดีของตัวเองไป
คิมสันเองเมื่อเห็นเจ้านายของตัวเองเดินไปแล้วก็ได้แต่เก็บความตกตะลึงลงท้องของตัวเองไปอย่างรวดเร็ว
หนุ่มแว่นมองแผ่นหลังของเพื่อนสนิทที่ดั่งตรงแล้วได้แต่ครุ่นคิดตาม
ความเกลียดชังเบาบางลงแล้วหรือไฮรอส...ไม่สิ
บางทีอาจจะไม่ได้เบาบางลง เพียงแค่ต้องกดมันเอาไว้เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกสาว
คิมสันคิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ
เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการพบกันครั้งนี้จะไม่มีเหตุการณ์นองเลือดเกิดขึ้น
เพราะคนที่ไฮรอสจะพบในครั้งนี้เป็นคนที่เขาเกลียดที่สุดในชีวิต
เกลียดจนไม่อาจจะใช้ชีวิตร่วมกันได้
ผู้หญิงคนนั้นมีชื่อว่ารีรัส
แม่มดแห่งโดโคเรีย มารดาขององค์หญิงโอฟีเรีย...
.
.
.
.
.
ชายหนุ่มเลิกผ้าคลุมใบหน้าของตัวเองมองบาเรียใสดั่งเกล็ดหิมะตรงหน้าตัวเองครั้งหนึ่งแล้วบิดริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มหยัด
ความแข็งแรงทนทานของบาเรียเพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่เขาปะทะกัน
จะบอกว่าหลังจากตอนนั้นก็เก่งขึ้นเยอะงั้นสินะ?
“จะเข้าไปจริงๆ เหรอ?” คิมสันที่ติดตามไฮรอสถามขึ้นด้วยความกังวลใจเล็กๆ
แต่ไหนแต่ไรไฮรอสก็ไม่ใช่คนจะกักเก็บอารมณ์เก่งอยู่แล้ว
ยิ่งมาเจอกับคนที่เกลียดจนไม่อยากหายใจร่วมกันแบบนี้
ถ้าเกิดไปโดนอีกฝ่ายสะกิดอารมณ์เข้าหน่อยไม่ฆ่ากันจนตายไปข้างหรอกหรือ
“แน่นอน เราพูดคำไหนคำนั้น”
กษัตริย์หนุ่มตอบเช่นนั้นแล้วใช้ฝ่ามือกระแทกบาเรียตรงหน้าอย่างแรง
ความร้อนวูบวาบไม่ได้ทำให้เขาเปลี่ยนสีหน้าแม้สักนิดเดียว
กลับกันแล้วไฮรอสยังใช้ปลายนิ้วจิกลงไปบนบาเรียแรงๆ อีกด้วยซ้ำ
เสนาบดีคิมสันเองก็ไม่รู้จะห้ามเพื่อนตัวเองอย่างไรดี
จึงได้แต่ยืนมองอีกฝ่ายพลางยกมือขึ้นเป็นสัญญาณบอกเหล่าองครักษ์เงาที่ติดตามกันมาให้เตรียมพร้อม
หากบาเรียสลายเมื่อไหร่พวกเขาจะเข้าไปด้านในโดยทันที
เพล้ง!
บาเรียตรงหน้าพวกเขาแตกออกเป็นเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยบนอากาศและร่วงกล่าวอย่างสวยงามหิมะในฤดูหนาว
ไฮรอสมองฝ่ามือที่แดงเถือกของตัวเองสะบัดวูบเดียว
ดวงตาสีเขียวมรกตมองบ้านไม้สองชั้นที่อยู่ลึกเข้าไปด้านในป่าแล้วผุดรอยยิ้มขึ้นบนริมฝีปากเมื่อร่างของหญิงสาวนางหนึ่งปรากฎขึ้น
“ไม่คิดว่าฝ่าบาทจะมารยาทย่ำแย่ขนาดนี้
ผ่านการอบรมมาได้อย่างไรกัน” นางผู้นั้นขยับชายกระโปรงสีม่วงอ่อนของตัวเองเบาๆ
พลางก้าวเดินจากบ้านไม้ด้านในมาหาเขา ใบหน้าของเธอนั้นสรุปได้ง่ายๆ
ว่าคมเฉียบราวกับเหยี่ยว โดยเฉพาะดวงตาสีน้ำเงินเข้ม “บุกบ้านคนอื่นแบบนี้เขาเรียกว่าอาชญากรนะ
รู้รึเปล่า?”
ไฮรอสหัวเราะออกมาคำหนึ่งแล้วบิดริมฝีปาก “เหอะ อย่างเจ้าต้องมีมารยาทด้วยหรือ?
ไม่ใช่เราปราณีเจ้าแล้วหรอกหรือที่พังแค่บาเรีย”
คิมสันที่ยืนอยู่ด้านหลังกรอกดวงตาขึ้นมองท้องฟ้าครั้งหนึ่งอย่างเหนื่อยหน่ายใจ
เขาตัดสินใจออกมาไกล่เกลี่ยเองก่อนที่เหตุการณ์ตรงหน้าจะลุกลามไปกันใหญ่
เพราะหากปล่อยให้ไฮรอสคุยเองเช่นนี้...มีหวังไม่ได้ยากลับไปรักษาโอฟีเรียแน่นอน
“รีรัส
ตอนนี้องค์หญิงกำลังทรมาณเพราะการประทุของพลังเวทมนต์
พวกเราอยากได้ยาไปรักษาองค์หญิง...ท่านพอจะช่วยได้หรือไม่?”
หญิงสาวเจ้าของนามรีรัสขยับดวงตาของตัวเองครั้งหนึ่งเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายเอ่ยถึงใคร
เธอหันไปมองไฮรอสที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ครั้งหนึ่งแล้วเม้มริมฝีปาก
เธอยกนิ้วชี้ไปยังไฮรอสและคิมสันก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “พวกท่านเข้ามาก่อนสิ
อ้อ แน่นอนว่าแค่ท่านสองคน ที่เหลือให้รออยู่ด้านนอก”
ชายหนุ่มทั้งสองคนปลดผ้าคลุมหน้าออกแล้วเดินตามหญิงสาวไปอย่างไม่เร่งรีบนัก
คิมสันหันไปบอกพวกองครักษ์เงาให้วางใจและรอกันอยู่ข้างนอก
หากเกิดอะไรขึ้นอย่างไรไฮรอสก็เอาตัวรอดได้
ถึงรีรัสจะเก่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนแต่ก็ไม่เหนือบ่ากว่าแรงพวกเขาสองคน
ไฮรอสก้าวเดินเข้าไปในบ้านไม้ของแม่มดแห่งโดโคเรียพลางกวาดดวงตามองสมุนไพรมากมายที่แขวนห้อยเอาไว้เต็มบ้านหลังนี้
รีรัสถูกขนานว่าเป็นแม่มดเพราะว่านางเก่งปรุงยาจากสมุนไพร
หาใช่เพราะว่าเก่งกาจทางเวทมนต์
และเพราะว่านางเก่งการปรุงยาเช่นนี้...ครั้งหนึ่งไฮรอสจึงเผลอไผลไป
แต่เรื่องนั้นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง...ตอนนี้มันไม่สำคัญอีกแล้ว
ประเด็นหลักอยู่ตรงที่ว่านางช่วยลูกของเขาได้ แค่นั้นก็เพียงพอ
รีรัสเดินตรงไปยังกองสมุนไพรของตัวเองแล้วก้มตัวลงค้นบางอย่างอยู่สักพักหนึ่ง
ดวงตาสีน้ำเงินเข้มกวาดมองขวดแก้วหลากหลายขนาดที่ถูกเก็บเอาไว้ภายในกล่องไม้
ยาหลากหลายชนิดที่เธอปรุงเอาไว้เวลาว่างเหล่านี้ไม่เคยได้ถูกนำมาใช้ สาเหตุหนึ่งคือมันเป็นของที่ทำขึ้นเฉพาะบุคคล
ของที่ทำขึ้นมาเพื่อคนๆ
เดียว
หญิงสาวหยิบขวดแก้วสีเขียวอมเหลืองอ่อนขวดหนึ่งขึ้นมา
เธอวางมันใส่มือของไฮรอสพร้อมกับกล่าวว่า “ให้นางจิบยานี่ทุกๆ สามชั่วโมง สองวันก็คงจะหายดี”
ไฮรอสมองขวดยาในมือครั้งหนึ่งแล้วเก็บมันใส่กระเป๋าเสื้อ
แม้ว่าปกติหญิงนางนี้จะเชื้อถือคำพูดไม่ค่อยได้เท่าไหร่นัก
แต่หากเป็นเรื่องของโอฟีเรียแล้วคำพูดของรีรัสจะค่อนข้างเชื่อได้
ถึงอย่างไรนางก็เป็นมารแท้ๆ ของโอฟีเรีย
“ถ้าเกิดโอฟีเรียเป็นอะไรเพราะยาของเจ้า
เราจะส่งเจ้าไปดูแลนาง” ชายหนุ่มว่าเช่นนั้นแล้วก็หันหลังเดินออกจากบ้านหลังน้อย
แต่ยังไม่ได้ทันได้ก้าวขาพ้นประตูบ้าน เสียงเรียกของแม่มดแห่งโดโคเรียก็ทำให้ชายหนุ่มชะงักฝีเท้าเอาไว้เสียก่อน
“ฝ่าบาท นางเป็นหนักมากเลยหรือ
ข้าขอไปเยี่ยมนางได้หรือไม่...” รีรัสบิดฝ่ามือของตัวเองไปมา
อย่างไรไฮรอสก็คงจะไม่ใจจืดใจดำถึงขนาดจะไม่ให้แม่ลูกได้พบหน้ากันหรอก...ใช่มั้ย?
แต่ไม่
ไฮรอสนั้นเป็นคนใจดำเกินกว่าที่รีรัสจะคาดคิด
กษัตริย์แห่งยักษ์ปลายสายตามองหญิงสาวผมดำเพียงครั้งเดียวก็แค่นเสียงใส่
“เหอะ
เจ้าไม่มีสิทธิเจอนางตั้งแต่ที่เจ้าคิดจะฆ่านางแล้ว
เก็บความห่วงใยจอมปลอมของเจ้าไปเถอะ”
รีรัสได้แต่มองแผ่นหลังของชายหนุ่มที่เดินผ่านไป
ดวงตาคมเฉี่ยวที่ปกติมักจะมีความถือดีอยู่เต็มเปี่ยมหลุบต่ำมองพื้นอย่างเศร้าสร้อย
หญิงสาวห้วนคิดไปถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อนนู้น
หากว่าเธอสามารถย้อนเวลากลับไปในตอนนั้นได้อีกครั้ง เธอจะไม่ทำเช่นวันนั้น
หากเป็นไปได้...เธอก็อยากจะโอบกอดลูกอีกครั้ง
อีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำเช่นนั้นอีก
-------------------------------------------------------------------------------
มาค่ะ โอฟี่ต่อติดแล้ว...ถถถถถถ
หลังจากนี้เราจะอัพโอฟี่เป็นหลักค่ะ เพราะว่าเลรี่จบแล้ว
ไม่มั่นใจว่ามันคือครึ่งตอนไหมเพราะว่ายังเขียนไม่จบ แต่เอาเป็นว่าน่าจะครึ่งแหละค่ะ
ตอนนี้คาดว่าน่าจะเป็นตอนของท่านพ่อเต็มๆ เลยค่ะ มีแต่ท่านพ่อทั้งนั้น ถถถถถถ
-------------------------------------------------------------------------------
มาอัพเพิ่มแล้วค่ะ บอกแล้วว่าตอนนี้มีแต่ท่านพ่อเท่านั้น ถถถถถถ
เปิดตัวท่านแม่อย่างเป็นทางการด้วย แต่หลังจากนี้บทจะหายไปยาวๆ เลย กว่าจะโผล่ก็คงอีกสักพักใหญ่ๆ
ตอนหน้าคิดว่าพระเอกจะออกค่ะ...ซึ่งความจริงพระเอกก็ออกมานานแล้วแหละ
ทุกคนว่าไงคะ ลงเรือใครเป็นพิเศษ?
ความคิดเห็น