ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อฉันได้เป็นหัวหน้าแก๊งนางร้ายในเกม BL

    ลำดับตอนที่ #1 : C H A P T E R 00

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 62


     C H A P T E R 00

     

         “ว๊าย!” เสียงหวีดร้องแหลมสูงดังขึ้นท่ามกลางเวลามื้อกลางวันของโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่ง เด็กสาวร่างผอมบางเปียกมะล่อกมะแล่กจากน้ำสีโคลนที่เคยบรรจุอยู่ภายในถังขนาดขนาดใหญ่ที่นอนกลิ้งอยู่บนพื้น กลิ่นไม่ชวนประสงค์ลอยฟุ้งไปในอากาศจนเด็กนักเรียนหลายคนทำสีหน้าเหยเก

     

         “อุ๊ย ขอโทษทีนะคะ พอดีไม่ทันได้มองว่าตรงนี้มีคนนั่งอยู่” เด็กสาวร่างอวบยกมือขึ้นป้องปากหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นสภาพของคนที่ตนรู้หมั่นไส้มานานนั่งอยู่บนพื้นสกปรกจากน้ำถูพื้นด้วยความสะใจไม่น้อย ก่อนที่เพื่อนแก๊งเดียวกันจะพากันหัวเราะคลืนพร้อมกัน

     

         “มะ...ไม่เป็นอะไรค่ะ แค่นี้เอง...” เด็กสาวผู้ถูกกระทำเอ่ยเสียงสั่น เธอปาดน้ำสกปรกออกจากใบหน้าอย่างลวกๆ แล้วรีบลุกขึ้นจากพื้น นัยน์ตากลมโตสีชมพูหวานเอ่อคลอด้วยน้ำตาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกดสายตามองมาอย่างดูถูก

     

         “จ๊ะ อย่าลืมไปล้างเนื้อล้างตัวด้วยนะ แบบว่า...มันเหม็นมาก!” สาวร่างอวบเอ่ยขึ้นอีกรอบแล้วเหยียดยิ้ม ก่อนจะเตะถังน้ำที่กลิ้งขวาดทางอยู่ในกระเด็นออกไปให้พ้นทางแล้วพาก๊วนแก๊งเดินหายออกไปจากอาคารโรงอาหาร ปล่อยเด็กสาวผู้ถูกกลั่นแกล้งเอาไว้อย่างโดดเดี่ยว

     

         “เห้ย ยัยพวกนั้นน่ะ หยุดเดินแล้ววกกลับมาที่นี่เดี๋ยวนี้เลย!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดไม่น้อยดังขึ้นหลังจากที่แก๊งมหาประลัยเพิ่งจะย่างออกจากบริเวณได้เพียงเล็กน้อย ร่างเล็กในชุดนักเรียนหญิงไม่ค่อยเรียบร้อยยกนิ้วขึ้นชี้อีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง

     

         ร่างอวบที่เพิ่งเดินจากไปหันกลับมามองตามเสียงเรียกที่รั้งเท้าเอาไว้ก่อนจะยกมือขึ้นป้องปากแล้วจีบปากจีบคอพูดด้วยท่าทางดูแคลน

     

         “ต๊าย ก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็ยัยบ้านนอกรักความยุติธรรมเฟียนี่เอง”

     

         “เออ ฉันเอง! แล้วก็เห็นจะๆ กับตาด้วยว่าพวกเธอทำอะไรเพื่อนฉัน!” เจ้าของชื่อเฟียยกแขนขึ้นกอดอก กระดิกเท้าแล้วเขี่ยถังน้ำที่กลิ้งบนพื้นไปทางพวกแก๊งนางมารร้ายในสายตาเธออย่างแรงจนกระแทกขาของยัยอ้วนมิรินเต็มแรงจนอีกฝ่ายร้องเสียงหลง

     

         “เฟีย! ช่างมันเถอะนะ” เด็กสาวผู้ถูกแกล้งรีบเกาะแขนเพื่อนสาวที่เหมือนอารมณ์จะขึ้นได้ที่และเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานติดจะกังวล ใบหน้าหวานหยดย้อยมองไปทางมิรินเพื่อนร่วมระดับชั้นปีด้วยสีหน้าหวาดหวั่น ภายในใจของร่างบางเต็มไปด้วยความกังวลที่จะต้องเห็นเพื่อนเจ็บตัว

     

         ไม่! เราจะไม่ยอมให้ไมล์โดนแกล้งแบบนี้ไปตลอดหรอกนะ!” เฟียหันไปพูดกับเพื่อนสาวคนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่สมัยประถมด้วยอารมณ์คุกรุ่น นิสัยอย่างหนึ่งของไมล์ที่เธอแบล็กลิสซ์เอาไว้เลยก็คือ ยอมคน! ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเลี้ยงดูที่ค่อนข้างจะโลกสวยมากๆ และเฟียหงุดหงิดกับนิสัยแบบนี้ไม่น้อยเลย

     

         “หนอย! นังเฟีย แกจะเอาใช่มั้ย?!” มิรินที่ถูกถังกระแทกขาแรงๆ ถึงกับฉุนกึก เด็กสาววัยสิบสี่ปีหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธที่วิ่งไปทั่วร่างแล้วตรงปรี่มาหาร่างเล็กซึ่งดูคล้ายเด็กเมื่อยืนเทียบเคียงกับเธอแล้วกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายอย่างแรง จนเฟียสะบัดหน้ามองด้วยความไม่ชอบใจ

     

         “เออ!” เด็กสาวเจ้าของเส้นผมสีดำสนิทสั้นประบ่าดันร่างของเพื่อนสาวอย่างไมล์ให้ถอยห่างออกจากระยะรอบกายของเธอเมื่อดูเหมือนว่าสถานการณ์จะเข้าขั้นเสี่ยงต่อการเป็นอันตราย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายถูกลูกหลงจึงต้องให้ถอยออกไปห่างๆ ยิ่งไปไกลๆ เลยยิ่งดี

     

         ไมล์ได้แต่มองไปรอบตัวด้วยความหวาดกลัว แม้ว่าเฟียจะทะเลาะกับแก๊งของมิรินหลายรอบโดยมีตัวเธอเป็นสาเหตุแต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่จะทะเลาะรุนแรงถึงขั้นกระชากคอเสื้อกันขนาดนี้ เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตนเองควรจะทำอะไร จะยืนอยู่ตรงนี้หรือวิ่งไปบอกคุณครูที่กำลังพักเที่ยงกันอยู่

     

         นักเรียนหลายคนที่นั่งทานอาหารกลางวันอยู่รีบยกสายตามองสองคู่กรณีที่กระชากคอเสื้อกันอย่างสนใจ มีบางคนที่ถึงกับวางช้อนแล้วท้าวคางมองราวกับนั่งดูละครฉากใหญ่ และบางส่วนที่ลังเลว่าพวกตนควรจะไปบอกครูหรือเปล่า แล้วก็มีบางจำพวกที่มองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่น่าสนใจเลยแม้แต่น้อย

     

         ได้ แกรนหาที่เองนะ!” มิรินกำคอเสื้อของเฟียจนยับยู่ยี่ ใบหน้าอวบยับย่นคล้ายหนังหมูก่อนจะพ่นคำพูดออกมาอีกหลายคำ เธอง้างมือขึ้นหมายจะตบใบหน้าคมที่มองมาอย่างไม่ยอมแพ้นั่นให้สมใจสักทีแต่กลับต้องผิดหวังเมื่อเฟียยกแขนขึ้นรับก่อนจะบิดข้อมืออีกฝ่ายอย่างแรงจนได้ยินเสียงกระดูกลั่น

     

         “โอ๊ย! เจ็บ! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!”

     

         “โฮ่ หล่อนขอร้องผิดคนแล้วย่ะ!” เฟียเบ้ปากใส่มิลินที่ร้องโอดโอยแล้วบิดแขนอีกฝ่ายไขว้เอาที่หลังผลักร่างท้วมของอีกฝ่ายให้ล้มลงไปคลุกกับน้ำสกปรกที่สาดใส่เพื่อนเธออย่างแรง ส่วนเด็กสาวก็ยืนหัวเราะอย่างอารมณ์ดีจนเผลอลืมไปว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีเพียงคนเดียว

     

         พลั่ก!

     

         ร่างของเด็กสาวผมสั้นถูกพลักจากด้านหลังอย่างแรงจนร่างกายกระแทกอย่างแรงกับพื้นปูนเจิ่งน้ำสกปรก ชุดนักเรียนที่ใส่อยู่เปียกแฉะเป็นหย่อมๆ ดูแล้วน่าเกลียด เด็กสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วยันตัวขึ้นจากพื้นเปียกน้ำ ตวัดนัยน์ตาสีดำเข้มมองคนผลักอย่างเอาเรื่อง

     

         “อุ๊ย เผอิญว่ามือมันลื่น” ซูซานพูดพลางทำหน้าตกใจเกินจริงเรียกอารมณ์ของเฟียให้สูงเสียดฟ้าขึ้นไปอีก เด็กสาวผมสั้นไม่รอช้ารีบกระชากเส้นผมสีเหลืองอ่อนซึ่งผ่านการย้อมสีมาอย่างแรงจนอีกฝ่ายเอนศีรษะ แล้วฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าสวยๆ ติดอันดับดาวโรงเรียนอย่างแรงหลายครั้ง

     

         “ว๊าย! อีเฟีย!” ซูซานร้องเสียงดังเมื่อถูกอีกฝ่ายตบเสียจนใบหน้าช้ำ เธอล้มพับกับพื้นแล้วได้แต่ยกนิ้วชี้หน้าอีกฝ่ายด้วยความโกรธแค้น แต่กลัวว่าหากลงมือมากกว่านี้อาจจะได้รอยช้ำมากกว่าแค่ที่ใบหน้า จึงนั่งลงข้างเพื่อนตัวอ้วนผู้เป็นหัวหน้าแก๊งที่ยังคงโอดโอยอยู่กับพื้น

     

         “อีเฟีย! อย่าอยู่เลย!” น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวดังขึ้นหลังจากที่ซูซานถูกตบจนล้มตัวนั่งกับพื้น ใบหน้าคมเข้มของเฟียหันไปตามแรงที่กระแทกข้างแก้มจนขึ้นรอยเป็นปื้นใหญ่ เด็กสาวขยับขาเพื่อทรงตัวแต่เหมือนว่าดวงชะไม่เข้าข้างเมื่อเธอลื่นน้ำถูพื้นอย่างจังจนร่างกายเอนไปด้านหลัง

     

         “เฟีย!” ไมล์กรีดร้องสุดเสียงแล้วรีบวิ่งมาหาร่างของเพื่อนที่กำลังเอนตัวล้มลง ถ้าหากว่าด้านหลังของเพื่อนสาวเป็นเพียงพื้นปูอิฐหรือพื้นปูนก็คงจะไม่ได้กังวลมาก แต่ด้านหลังเพื่อนของเธอคือแปลงดอกไม้ที่ทำขึ้นจากอิฐและมันสูงจนถึงหัวเข่า!

     

         เฟียหันไปมองร่างของเพื่อนที่วิ่งเข้ามาอย่างเชื่องช้าคล้ายกับภาพที่ถูกกดสโลเอาไว้ เด็กสาวผมสั้นหันไปมองหน้าของผู้กระทำที่กำลังซีดเผือดจนไร้สีเลือดแล้วขำเบาๆ ยัยตัวแสบมิ้งค์นี่เองที่กล้าเล่นข้างหลัง แถมยังตบหน้าเธอแรงๆ ไปครั้งหนึ่งจนแสบไปทั้งแก้ม

     

         ปัก!

     

         ศีรษะซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มผมสีดำสนิทยาวประบ่ากระแทกเข้ากับแปลงดอกไม้อิฐสูงอย่างแรงจนได้ยินเสียงดัง นักเรียนที่นั่งนิ่งมาตลอดแตกหือวิ่งเข้ามาดูอาการของเฟียจนเป็นวงล้อมใหญ่ หลายคนวิ่งไปยังห้องพักครูเพื่อบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางคนวิ่งไปห้องพยาบาลและบางคนก็วิ่งดูอาการของเด็กสาว

     

         ฟียกระพริบตาหลายครั้งอย่างเชื่องช้า ความปวดไล่ตั้งแต่ศีรษะลามไปถึงร่างกายหลายส่วน ร่างของเด็กสาวถูกขยับเล็กน้อยจากฝีมือของใครสักคนที่เธอเห็นไม่ค่อยชัดเจน เฟียเผยอริมฝีปากเล็กๆ เมื่อรับรู้ได้ถึงหยาดน้ำที่หล่นลงบนผิวแก้มหลายหยด

     

         “ฝน...?” เฟียพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เธอมองเห็นว่าท้องฟ้าปลอดโปล่งแต่ทำไมถึงได้มีฝนตกใส่หน้าเธอได้กันล่ะ

     

         “เฟีย ฮือ! อย่าเป็นอะไปนะเฟีย!” ไมล์ประคองใบหน้าของเพื่อนขึ้นมาวางเอาไว้บนตักด้วยมือที่สั่นเทา ศีรษะของเฟียเต็มไปด้วยเลือดสีแดงข้นซึ่งติดตามฝ่ามือขาวของเด็กสาวเต็มไปหมด ภายในจิตใจของไมล์เต็มไปด้วยความหวาดกลัวตั้งแต่เห็นเพื่อนถูกพลัก แต่เธอกลับทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากกรีดร้อง

     

         เฟียคอยปกป้องเธอตลอด ในขณะที่เธอก็คอยแต่หลบอยู่ด้านหลังของเพื่อนและวิ่งหนีปัญหาเสมอ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำตัวมีประโยชน์ต่อเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียว เป็นได้แค่ตัวถ่วงความเจริญของคนอื่นและพาเพื่อนร่วงหล่นลงเหวลึกไปพร้อมกันทุกครั้งไป

     

         “ฉันไม่ได้ทำนะ! อีเฟียมันลื่นไปเอง!” มิ้งค์ลนลานพูดออกมาเสียงสั่นด้วยความร้อนตัว เด็กสาววัยสิบสี่ปีทรุดตัวนั่งกับพื้นอย่างหมดแรงเมื่อเห็นเลือดสีเข้มที่ไหลออกมาจากศีรษะของอีกฝ่ายจนเปรอะเปื้อนกระโปรงนักเรียนของไมล์ เธอเพียงแค่ผลักเฟียเบาๆ แล้วนังนั่นมันก็ลื่นน้ำเอง!

     

         เธอไม่ได้ทำ!

     

         เฟียพ่นลมหายใจอย่างเชื่องช้า ภาพตรงหน้าเริ่มพล่าเลือนจนมองไม่เห็นสิ่งใด เสียงที่ดังโหวกเหวกก่อนหน้านี้เบาลงจนคล้ายกับว่าเงียบสงบ เด็กสาวรับรู้ได้ถึงสัมผัสอบอุ่นที่ข้างแก้มตลอดเวลา รับรู้ว่าข้างหูของตนกำลังมีคนเรียกชื่ออย่างไม่ลดละและรับรู้ถึงเสียงร่ำไห้ของใครสักคนจากที่ไกลๆ

     

         แต่ให้ตายเถอะ ตอนนี้แค่ฝืนลืมตายังแทบจะไม่ขึ้นเลย...

     

         เด็กสาวปิดเปลือกตาลงอย่างเชื่องช้าเมื่อไม่อาจฝืนตัวเองได้อีกต่อไป เธออยากจะนอนพักสักหน่อย

     

         แค่สักหน่อยเท่านั้น...

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×