คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 ดอกไม้งาม และ เหล่าโจรสลัด
สวัสดีครับทุกท่าน ผมเนล เด็กใหม่บนเรือเดอะคิลเลอร์ครับ ผมมาเป็นเด็กใหม่ที่นี่ได้ก็สามวันแล้ว ทุกเช้า(มืด)ผมจะเริ่มด้วยการออกกำลังกาย(กับซีกเกอร์คุง) พอพระอาทิตย์ขึ้นก็จะเริ่มทำความสะอาดเรือ เสร็จแล้วเราก็จะทานข้าวเช้าด้วยกัน แล้วก็ฝึกการใช้อาวุธกบซีกเกอร์คุงอีกจนถึงประมาณ 10โมง จากนั้นก็จะพัก (?) ด้วยการเรียนหนังสือกับแอลจนถึงเที่ยงแล้วก็กินข้าว ต่อช่วงบ่ายด้วยการเรียนวีการเดินเรือกับเจ้ซิลฟี่ เอ่อ อันที่จริงก็แค่เล่นเป็นเพื่อนเจ้ซิลฟี่ก็เท่านั้นแหละครับ หรือจะพูดให้ถูกก็ ไปให้เค้าแกล้งสินะ นั่นแหละๆอย่าไปพูดถึงมันเลย หลังจากนั้นตอนเย็นผมก็จะฝึกต่อกับซีกเกอร์คุงอีกชั่วโมงนึง ตารางชีวิตผมก็เป็นประมาณนี้แหละครับ
ทุกๆวันผมต้องฝึกหนักมากเพราะรู้ตัวว่าตัวเองอ่อนแอที่สุดเลยพยายามเต็มที่ครับ ทุกวันก็เลยได้บาดแผลเต็มไปหมด แต่ก็นั่นแหละ จะได้เข้าประเด็นที่จะพูดในวันนี้ แม้ในเรือลำนี้จะเต็มไปด้วยชายฉกรรจ์ผู้แสนดิบเถื่อน(เหมือนจะลืมเจ้ซิลฟี่เลยแฮะ ) แต่ก็ยังคงมี!! โอเอซิสแห่ง ลำนาวาโจรสลัดนี้ TTATT !! นางฟ้ามาโปรดผู้แสนใจดีและแสนสวย หน่วยแพทย์ประจำเรือ คุณมิบุ นั่นเอง!!
ถึงจะมีบาดแผลทุกวันก็ไม่เสียใจเลย ขอแค่ได้มารักษาพยาบาลกับคุณมิบุก็พอ >///< ฝึกหนักๆจะได้เก่งเร็วๆ มีแผลเยอะๆ เจอคุณมิอุบ่อยๆ อะแหล่มเลยยยย . อ๊ะ!! ลืมตัว!! อะแฮ่มๆ นั่นแหละครับฉะนั้นวันนี้จะขอเจอเรื่องหญิงสาวผู้เป็นไม้งามแห่งพลพรรคโจรสลัดThe Killer กันนะครับ
แน่นอนหมายถึงเจ้ซิลฟี่แสนสวยด้วย(ปล. อันนี้โดนเจ้แกบังคับให้เขียน TT^TT)
คุณมิบุ อายุ19ปี เพศ หญิง ลักษณะ เอวบางร่างน้อย ขนาดหน้าอกกำลัง ‘D’ ผมหมายถึงดีในหลายๆความหมายนั่นแหละ ผมสีบรอนซ์ทองสลวยยาว มีนิสัย ใจดี สุภาพ อ่อนโยน คือตรงข้ามกับเจ้ซิลฟี่ทุกอย่างอ่ะครับ อ๊ะ!!เปล่าๆอันหลังพูดเล่นหน่ะครับ(ฟู่! อยู่ๆก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหาร Σ(゚д゚lll)) ต่อๆ นั่นแหละครับ ด้วยทุกๆอย่างที่กล่าวมาทำให้เธอเป็นที่รักของทุกคนบนเรือมากเลยครับโดยเฉพาะ .
“คุณมิบุคร๊าบบบบบ พอดีรู้สึกไม่สบายคร๊าบอยากให้รักษาหน่อยคร๊าบ(X2)” ไนท์และพัตเตอร์หยั่งกะจะร้องประสานเสียงกัน
โดยเฉพาะสองคนนั่นแหละครับ
“เฮ้ เจ้าเปี๊ยกเมื่อกี้แกก็ยังสบายดีอยู่ไม่ใช่เหรอ ไม่ธุระอะไรก็ไปไกลๆไป๊ ชิ้วๆ” สองมาตรฐานเห็นไนท์ทำหน้าสุดจิ๊กโก๋ใส่พัตเตอร์ซึ่งก็อยู่ในอารมณ์เดียวกันเลย
“อะไรนะ เจ้าเบื๊อกแกเรียกใครเปี๊ยก เดี๋ยวสวยหรอก ”
“ทั้งสองคน หยุดก่อนเถอะค่ะ ชั้นกำลังรักษาให้เนลคุงอยู่นะค่ะ แล้วก็ไม่เห็นจะต้องทะเลาะกันเลยด้วยคุยกันดีๆก็ได้นี่คะ” คุณมิบุเอ่ยขึ้นซึ่งมันมีผลโดยตรงกับพฤติกรรมสัตว์โลกแปลกๆสองตัวอย่างชัดเจน
“เอ้อ!!...ขออภัยนะครับคุณมิบุ พอดีผมมีไข้ใจนิดหน่อยเลยเบลอๆหน่ะครับ งั้น เดี๋ยวผมเข้ามาใหม่นะครับ ส่วนเอ็งมาเคลียร์กันข้างนอกให้ด่วนเลย” ประโยคหลังไนท์หันมาคุยกับพัตเตอร์ด้วยอารมณ์สองมาตรฐานเช่นเคย
กว่าทั้งคู่จะออกไปพร้อมความเอะอะวุ่นวายไปได้ก็ใช้เวลาซักพักทีเดียว
“นี่ .เนลคุง ไม่เห็นจะต้องโหมฝึกทุกวันเลยนี่จ๊ะ” เธอหันมาคุยกับผม
“ก็ผมอยากเก่งเร็วๆนี่ครับ ผมไม่อยากจะเป็นภาระใครอีกแล้ว ไม่สิๆ มอยากจะปกป้องทุกคนให้ได้ในซักวันนึง ปกป้องทุกๆคนเลย คุณมิบุผมก็จะปกป้องด้วยครับตอบแทนที่คุณมิบุอุตส่าทำแผลให้ทุกวัน”
“แหมดีใจจังเลย แต่ก็ดูแลตัวเองก็สำคัญนะจ๊ะ ไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนหรอก เนลคุงยังเด็กมีเวลาอีกมากเลย”
“คุณมิบุเนี่ย ใจดีจังนะครับ ต่างจากอาเจ้ซิลฟี่ลิบลับเลย”
“แหมตายจริงก็ดีใจอยู่นะเนี่ยแต่ เนลคุงรู้มั๊ยคุณซิลฟาเรียเนี่ยที่จริงแล้วเป็นคนที่ใจดีมากเลยนะ”
“เจ้ซิลฟี่เนี่ยนะครับ” อาจจะเป็นเพราะผมเป็นพวกจินตนาการต่ำละมั้งเลยผมจินตาการการไม่ค่อยออก แหะๆ
“ว่าแต่ คุณมิบุเนี่ยชื่อแปลกจริงๆเลยนะครับ” ผมเปลี่ยนเรื่องคุย
“แหมตายจริงคิดอย่างนั้นเหรอคะ อันที่จริงมันเป็นชื่อที่คุณซิลฟาเรียตั้งให้หน่ะค่ะ”
“หา? ตั้งให้? หมายว่ายังไงเหรอครับ” ผมเริ่มงง
“คืออันที่จริงชั้นเป็นคนความจำเสื่อมที่ถูกคุณซิลฟาเรียเก็บมาเลี้ยงหน่ะค่ะ”
“ความจำเสื่อม? เก็บมาเลี้ยง?” อันนี้ผมงงเข้าเต็มข้อ
“ค่ะ ชั้นถูกคุณซิลฟาเรียเก็บมาเลี้ยงจากเมืองหนึ่งที่ทางใต้เมื่อ10ปีแล้ว ตอนนั้นเมืองเป็นช่วงสงครามชั้นซึ่งสูญเสียความทรงจำด้วยเหตุบางอย่างจึงเหมือนไม่มีที่พึ่งและไม่มีที่ไป จนได้มาพบคุณซิลฟาเรียเนี่ยแหละค่ะ”
“หมายความว่าที่จริง คุณมิบุเป็นคนเก่าคนแก่บนเรือนี้สิครับ”
“แหมฟังดูแก่จังนะคะ ไม่หรอกค่ะหลังจากที่ชั้นได้พบกับคุณซิลฟาเรียได้ไม่นานเธอก็นำดิชั้นไปฝากไว้กับคนรู้จักในเมืองทางทะเลตะวันออกพร้อมส่งเสียให้เรียนแพทย์จนจบ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะมาเป็นโจรสลัดหรอกค่ะ”
“นั่นสิครับ ดูคุณมิบุไม่เหมาะที่จะเป็นโจรสลัดเลย แล้วทำไมถึงได้มาเป็นล่ะครับ” คุยไปคุยมาผมชักติดลม
“ก็เรื่องเมื่อ 5ปีก่อนหน่ะสิ ในช่วงที่ถูกเรียกว่าเป็นยุคที่ตกต่ำที่สุดของเดอะคิลเลอร์และใกล้จะล่มสลาย ชั้นเลยอดไม่ได้ที่ต้องกลับมาช่วยอะไรบ้างแม้จะเล็กน้อยก็ยังดี จากนั้นชั้นก็ได้ขอคุณซิลฟาเรียขึ้นเรือมาหน่ะค่ะ”
“เรื่องเมื่อ 5 ปีก่อน?”
“ชั้นก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เลยไม่รู้แน่ชัดค่ะ แต่ได้ยินว่ามีทั้ง ทหารเรือและกลุ่มโจรสลัดเรดเทียร์เกี่ยวข้องด้วย”
“ชักน่าสนใจแฮะ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ไปถามแอลดีกว่า เดี๋ยวผมก็ต้องไปฝึกต่อแล้วล่ะครับ เอ่อจริงด้วย ก่อนไปผมขอถามคำถามสุดท้ายที่คาใจมาตลอดก่อนนะครับ คือถึงแม้จะเป็นหน่วยแพท์ก็เถอะทำไมต้องใส่ชุดนางพยาบาลด้วยล่ะครับ.. ”
“อ๋อ นี่นะเหรอคะ มันเป็นชุดที่คุณซิลฟาเรียบอกให้ใส่หน่ะค่ะ” ตรูว่าแล้ว!! เสียงตะก่อนนี้ดังกึกก้องในใจแต่นี่คงจะเป็นครั้งเดียวที่ผมจะเห็นดีเห็นงามกับความคิดพิเรนๆของเจ้แก
“ยังไงผมไปฝึกช่วงบ่ายต่อกับคุณซีกเกอร์ก่อนนะครับ” ผมตั้งใจจะลาเธอไปฝึกต่อแต่ก็เหมือนจะได้ยินอะไรแปลกๆว่า“ระวังตัวด้วยนะ”ด้วย ผมคงคิดไปเองสินะ แล้วผมก็ออกไปฝึกต่อครับ
เวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็นอย่างรวดเร็ว แล้วพอหลังอาหารเย็นมก็แวะไปหาแอลที่ห้องของกัปตัน(แอลมันยึดไปซะละ = =)
“เอ่อ แอลคุงว่ารึเปล่าครับ”
“หืม? ว่าง มีอะไรเหรอ” แอลพูดพร้อมจิบกาแฟต่อ
“เรื่องของคุณมิบุหน่ะครับ” ทันทีที่จบประโยคแอลก็วางถ้วยกาแฟแล้วหันมาคุยกับผม
“อะไร สนใจเหรอ ต่ไม่บอกอะไรหรอกเฟ้ย ขืนชั้นบอกแก ไอ่ตัวป่วนอีกสองตัวต้องมาหลอกหลอนชั้นทั้งวันแน่”
“อ๊ะ! ไม่ใช่แบบนั้นครับ o///o ” ไม่รู้ทำไมผมต้องหน้าแดง
“งั้นอะไร?”
“คือ ผมดูยังไงคุณมิบุก็ดูไม่เหมือนคนที่จะเกิดมาเป็นโจรสลัดเลยนี่ครับ”
“งั้นเหรอ แล้วยังไง”
“คือ ได้ยินมาว่า เจ้ซิลฟี่ไปเก็บเธอมาเลี้ยง..มะ มะ..ไม่ใช่ว่าไปลักพาตัวมานะครับ”
“ .ฮ่าๆๆๆๆๆๆ .โอ้ย ปวกท้องไปหมด ใครจะไปทำอย่างนั้นฟะ .แต่ว่าเอ๊ะใจอะไรรึ?เห็นนายถามแปลกๆ”
“เปล่าๆครับ แค่รู้สึกว่าคุณมิบุดูต่างจากทุกคนในนี้หน่ะครับ”
“หืม ต่างยังไงขอเหตุผล”
“ไม่รู้สิครับ รู้สึก .ไม่ก็ไม่รู้จะเรียบเรียงคำยังไงดี .เอ่อ..สูงศักดิ์ ใช่!! คำนี้แหละ ส่วนเหตุผลไม่มีหรอกครับ”
“ลางสังหรณ์หรือ? ก็ถือว่าแม่นนะ ” แอลกล่าวออกมาพร้อมจิบชาเฉย
“หมาความว่ายังไงแอล ”
“ก็นะ .รู้แล้วเหยียบไว้ล่ะ ห้ามบอกคนอื่นต่อโดยเฉพาะเจ้าสองตัวนั่น” แอลยืนหน้ามาสั่งผมด้วยน้ำเสียงโหด ซึ่งผมก็พยักหน้าแต่โดยดี
“เมื่อสิบปีก่อน เราได้ไปเทียบท่าที่เกาะหนึ่งทางใต้ที่ชื่อเกาะบริสตา(Brista) แต่ดูเหมือนที่นั่นจะมีการก่อกบฏเกิดขึ้นกับราชวังที่ปกครองเกาะนั้นอยู่ เราเองในฐานะคนนอกก็ไม่ได้สนใจแต่ในคืนนั้นก่อนที่เราจะออกเรือก็มีทหารของอนาจักรคนหนึ่งมาหาเราด้วยสภาพปางตาย เค้าหอบเอาเด็กสาวมาด้วยหนึ่งคน นายทหารคนนั้นอ้างว่าเธอคือเจ้าหญิงของเมือง และในขณะนี้คนที่เหลือในราชวงศ์ล้วนถูกฆ่าตายหมดแล้วเหลือแค่เพียงองค์หญิงที่ช่วยออกมาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น และในลมหายใจสุดท้ายของเค้าก็ได้ส่งมอบเด็กสาวให้โจรสลัดเพื่อขอให้พาเธอหนีออกไป”
“เอ๋!!!!!! องค์หญิง ไม่เห็นคุณมิบุบอกอะไรผมเลย”
“ไม่แปลก เพราะทันทีที่เธอฟื้นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้เลย คิดว่าคงเพราะช๊อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ก็สมองได้รับการกระทบกระเทือนเพราะตอนที่เธอมาถึงสภาพร่างกายเธอก็บอบช้ำมากทีเดียว หลังจากนั้นกัปตันก็ตั้งชื่อให้เธอว่ามิบุ แน่นอนตั้งส่งเดชไปงั้นแหละ”
“จะ จะ จริงรึเนี่ย จะ เจ้าหญิงกลายมาเป็นโจรสลัดเฉยเลย”
“ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจแบบนั้น ก็เลยส่งเธอไปเรียนวิชาแพทย์หวังว่าจะให้มีงานการดีๆในเมืองทำ”
“เอ่อจริงด้วย เหมือนคุณมิบุเคยบอกว่าที่มาเป็นโจรสลัดเพราะอยากมาช่วยเรือลำนี้ในยุคที่เลวร้ายที่สุดอะไรเนี่ยแหละ มันเป็นยังไงเหรอแอล” แอลวางถ้วยกาแฟลงอีกครั้งพร้อมหรี่ตาลง ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า แต่แววตาดูเศร้ามาก
“มันยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะรู้ .” นั่นเป็นประโยคสนทนาสุดท้ายในวันนั้นของเราทั้งคู่
ผมปล่อยให้บรรดาความคิดต่างๆเข้าครอบงำ คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัว ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งเข้าใจได้อยากและบางอยากก็อยากที่จะยอมรับ ที่นี่ดูเหมือนจะเก็บงำความลับมากมายเหลือเกิน ประวัติของเรือ ประวัติของสมาชิกบนเรือ ไม่รู้ทำไม ลางสังหรณ์ของผมบอกว่ามีบางอย่างเกี่ยวพันกันอยู่อย่างลึกซึ้ง ก็จะรู้ตัวอีกทีผมก็มาอยู่ที่หัวเรือตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้แหงนมองฟ้าแล้วตอนนี้คงจะดึกน่าดูเลย
“ไม่รีบนอนเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ตื่นไม่ไหวหรอก ซีกเกอร์ไม่เคยงดฝึกหรอกนะ” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น พอหันไปมองที่มาของเสียงก็จะพบหญิงสาวผมดำเขียวปล่อยสลวยยาวพลิ้วปลิวสะบัดลมอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ อาเจ้ซิลฟี่นั่นเอง
“เอ่อ..พอดีคิดอะไรเพลินๆหน่ะครับ”
“เห๋ ยังเด็กยังเล็กอย่างทำตัวเป็นตาแก่คิดมากแบบแอลเลย” ‘ฮัดชิ้ว’ ผมว่าถ้าผมเงี่ยงหูฟังดีๆอาจจะได้ยินเสียงแอลจามจากที่ไหนซักแห่งก็ได้นะเนี่ย แหะๆ
“เจ้ซิลฟี่ล่ะครับ ยังไม่นอนเหรอครับ” ผมถามเธอไป
“ก็กำลังจะไปนอนแล้วล่ะ แต่เห็นนายยืนเก๊กอยู่คนเดียวเลยมาดูว่าเป็นอะไรมั๊ย”
“ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ คุณซิลฟี่ไปนอนเถอะครับ เดี๋ยวผมก็จะเข้านอนแล้วล่ะครับ”
“จ้าๆ งั้นชั้นไปล่ะ” แล้วอาเจ้ซิลฟี่ก็หันหลังเดินกลับไปแต่ก่อนเธอจะไปไกลนักผมก็เกิดนึกอยากถามบางอย่างขึ้นมา
“ในตอนนั้นทำไมเจ้ซิลฟี่ถึงช่วยผมไว้ล่ะครับ ผมอาจจะไม่สามารถทำประโยชน์ให้แบบคุณมิบุก็ได้นะครับ” เธอหยุดเดินไปนิดนึงก่อนจะตอบมาพร้อมเดินต่อไปว่า
“ทำไมหน่ะเหรอ .เรื่องนั้น ชั้นลืมไปแล้วล่ะ ฝันดีนะเด็กน้อย”
แปลกจริง ทั้งๆที่คืนนี้ออกจะหนาวแท้ๆ แต่รู้สึกอุ่นจังที่ข้างในนี้
“แก .ชั้นจะฆ่าแก”
อะไรวะ!!......เสียงแปลกๆนั่น หูฝาดเหรอ ..ผมบอกกับตัวเองหลังเหมือนจะได้ยินเสียงแปลกๆ
“แก ..แย่ง พ่อ .ชั้น .ไป!!!”
อ๊าคคคคคค!!!!! O[]o!!!สยองค๊อดๆ เสียงอะไรวะ หูไม่ฝาดแน่ๆ เสียงผู้หญิงแน่ๆเด็กอยู่เลย ผมหันซ้ายแลขวาอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่แล้วก็ไม่เห็นใคร บรรยากาศอบอุ่นที่บิ้วอารมณ์กันอยู่เมื่อตะกี้กลายเป็นฉากหนังสยองขวัญเฉยเลย!!!!!
ฟิ้วววว .เสียงลมพัดผ่านตัวผมไปอย่างเงียบเชียบที่สุด เงียบจนได้ยินเสียหัวใจเต้น คงได้เวลานอนแล้วสินะเรา! ผมบ่ายเบี่ยงความคิดตัวเองไป พยายามค่อยๆเดินไปที่ประตูของตัวเรือ และก่อนที่ผมจะจับลูกบิดนั้น เงาของเมฆน้อยก็ลอยพ้นดวงจันทร์ทำให้แสงสาดเงาบางอยางทอดมายังตัวผม ผมจึงค่อยๆ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปและ!!!!
เหนือประตูนั่นมีเด็กผมยาวปรกหน้าก้มเกาะขอบระเบียงเหนือประตู เธอค่อยๆเอามือจับระเบียงแล้วโน้มตัวเข้ามาเรื่อยๆ ใกล้เข้ามา
ใกล้เข้ามาจนบริเวณปากแดงๆและจมูกของเธอ โผล่พ้นผมที่ยาวปรกหน้าของเธอออกมาจากนั้นเธอก็แสยะยิ้มแล้วก็พูดออกมาว่า
“แก
ต้อง
.ตาย!!!”
..
..
.
.
..
.
..
.
“เฮ้ย .ตื่นเถอะเจ้าเปี๊ยก มานอนอะไรตรงนี้ ” หืม ใครเรียกหน่ะ เสียงคุณซีกเกอร์ .จริงสิ!!!!!
ผมรีบลุกมาหันรีหันขวางทันที แล้วก็พบคุณซีกเกอร์จริงๆเหมือนตอนนี้จะถึงเวลาฝึกแล้ว
“มีอะไรรึ ทำไมถึงมานอนตรงนี้” ซีกเกอร์ถามผมย้ำอีกครั้ง
“เอ่อ..เมื่อคืนผมโดนผีหลอกหน่ะครับ”
“ผี?”
“อ๊ะๆ ช่างมันเถอะครับ” ผมรู้สึกอายๆที่จะพูดเรื่องนี้ออกไป ตอนนี้บอกตรงๆมยังสับสนอยู่ หวังว่าถ้าได้ออกกำลังกายบ้างก็คงจะดีขึ้น .
หลังจากนั้น การฝึกช่วงเช้าก็จบลง แต่ผมไม่อาจจะสลัดภาพที่เห็นเมื่อคืนออกไปได้เลย นี่อาจจะดูโง่มากถ้าผมจะขอความช่วยเหลือจากคนๆนี้
“แอล มมีอะไรจะถามหน่ะ”
“อะไร?”
“เมื่อคืนผมเจอู้หญิงคนหนึ่งบนเรือนี้ ซึ่งผมไม่คุ้นหน้าเลย(อันที่จริงยังไม่ทันได้เห็นหน้าเลย)”
“มิบุจัง หรือไม่ก็เจ้ซิลฟี่ตอนไม่แต่หน้าละมั้ง” อยากจะอัดเสียงไว้ไปให้เจ้ซิลฟี่ฟังจังเลย เจ้าคนปากคอเราะร้ายนี่ =_=
“ไม่ใช่ครับ เป็นเด็กผู้หญิง อายุน่าจะอายุพอๆกับผม มีรึเปล่าครับ”
“นอกจากเจ้ซิลฟี่กับคุณมิบุแล้วบนเรือลำนี้ไม่มีผู้หญิงคนอื่นแล้วล่ะ นี่ชั้นพูดจริงนะ” แอลยิ้มนิดนึงแล้วจิบกาแฟต่อ
เอาแล้วไงครับ งานงอกมาในทันใดแล้วผู้หญิงที่ผมเห็นเมื่อคืนล่ะ เธอคือใคร!!! ในขณะที่ผมกำลังจะจมเข้าสู่ห้วงความคิดก็มีบางอย่างแว๊บเข้ามาในสายตาของผม มีบางคนอยู่ข้างนอกในชุดเมด เมดเหรอ?!?!
“นั่นแอล มีผู้หญิงคนอื่นบนเรือนี้” โอ่ย..ผมกำลังสับสนสุดๆ ในที่สุดผมก็ติดสินใจรีบวิ่งออกไปคว้าแขนเธอไว้
“เธอ เป็นใคร ใช่คนที่ชั้นเจอเมื่อคืนรึเปล่า” ยังไม่ทันสิ้นเสียงของผม กร๊อบ!! ตึ้ง!! จู่ๆผมก็โดนจับล็อคแขนกดไว้กับพื้นเสียแล้ว แรงเยอะชะมัด ผมเงยขึ้นมาก็พบแอลเดินมาอย่างใจเย็น
“นี่ไงแอล เธอคนนี้แหละที่ผมเจอ”
“เธอ?....ฮ่าๆ เหมือนเธอจะเข้าใจผิดนิดหน่อย”
“วายจังปล่อยเค้าเถอะ ” เธอที่ชื่อวายสุดท้ายก็ยอมปล่อยออกจากสภาพนั้น
“นี่ขอแนะนำให้รู้จักแล้วกัน นี่วายจังเป็นเมดของเรือลำนี้” แอลยิ้มและแนนำเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด
“ไหนบอกเรือลำนี้ไม่มีผู้หญิงคนอื่นไง .แล้วเมดเนี่ยนะ = =”
“ชั้นไม่ได้โกหก เรือลำนี้ไม่มีผู้หญิงคนอื่นแล้ว ”
“ยังจะโกหกน้ำขุ่นๆนะแอล ก็เห็นอยู่ว่ายัยนี่ ..” เหมือนผมจะพึ่งนึกอะไรได้
“ทำไม ชั้นเป็นผู้ชายแล้วมันหนักกะบาลแกรึไงไอ่กากแมน!!!” (゚д゚lll) ผู้ ชะ..ชาย!!.......กากแมน ....ติดสตั้นครับ หลายวินาทีด้วย และยังไม่ทันที่ผมจะได้เรียกวิญญาณคืนร่างเธอก็เข้ามากระซิบข้างหูผม
“สำนึกซะ!! ที่เมื่อคืนชั้นไม่ได้ฆ่าแก .” แล้วเธอก็เดินจากไปทิ้งผมไว้กับความสยอง
แล้วผมก็ถูกพาไปห้องพยาบาลเพราะคาดว่าได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง
“เนลคุง ..เนลคุง ได้ยินชั้นมั๊ย” แล้วเสียงของคุณมิบุก็เรียกวิญญาณผมกลับมาเข้าร่างอีกครั้งได้สำเร็จ
“ดะ ได้ยินครับ”
“แหม ทำเอาตกใจเลยนะอยู่เธอก็ยืนนิ่งหยั่งกะโดนสาปไปเลยแอลคุงเลยพาเธอมานี่หน่ะจ๊ะ” โดนสาป? ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะครับ
“เอ่อ ขอบคุณครับผมไม่เป็นไรแล้วครับ แค่ตกใจนิดหน่อย”
“ตกใจอะไรเหรอจ๊ะ” เธอถามผม
“อ๋อ ก็หลายๆเรื่องหน่ะครับ เลยรับไม่ทันละมั้งครับ”
“หืม อะไรเหรอ” เธอยังจะเค้นเอาให้ได้
“ก็เรื่องเรือลำนี้มีเมด แล้วก็สิ่งที่เรียกตัวเองว่าเมดยังเป็นผู้ชายอีก แล้วผู้ชายคนนั้นก็หยั่งกะผู้หญิง มิหนำซ้ำยังปากคอเราะร้ายอีกต่างหาก =A=”
“อุ๊ย! ตายจริง ได้เจอกับวายจังแล้วเหรอ แหม ปกติวายจังจะเข้ากับคนอื่นได้ยากแต่เห็นแบบนี้ เธอทั้งคู่ดูสนิทกันจังเลยนะ” ตรงไหนครับ! เมื่อคืนก็เกือบโดนยัยนั่นฆ่าเอาซะแล้ว
“ไม่จริงหรอกครับ ผมเหมือนจะโดนเธอเหม็นขี้หน้าเสียด้วยซ้ำ ( ll=∆=)”
“เอ๋ เป็นอย่างนั้นหรอกเหรอ คงเพราะหึงละมั้ง”
“หึง? หึงใครครับ”
“เอ่อ .คือ ” เธออ้ำอึ้งไปนิดนึง
“นายคงไม่รู้ละสิอันที่จริง วายจังเป็นลูกบุญธรรมของซีกเกอร์คุงน้า ” และแล้วก็ได้คำตอบจากไนท์ เอ๊ะ! ไนท์?
“เฮ้ย!! มาตอนไหนเนี่ยครับ เอ๋!!!!!! ลูกบุญธรรม!!!”
“รู้ตัวช้าไปแล้วเฟ้ย!! Ò[]ó!! ” และแล้วลูกคนตัวตบมุกอีกคนก็โผล่มา เจ้าพัตเตอร์นั่นแหละครับ เอาจะห้องเล็กๆนี่แคบขึ้นไปอีก
“อ้าวทั้งสองคนมีอะไรเหรอจ๊ะ”
“เอ่อ พอดีผมเป็นไข้ใจเลยอยากมาให้รักษาหน่ะครับ” คราวนี้เป็นเจ้าพัตเตอร์วิ่งเข้าไปกุมมือคุณมิบุไว้
“หน่อยแน่แก นอกจากจะลามปามแล้วยังจะหน้าด้านรีเพลย์มุกชาวบ้านเฉยเลยนะ” ไนท์พูดพร้อมเอามือจิกผมพัตเตอร์ออกมา
“อะไร!! อยากจะมีเรื่องนักหรือไง” แล้วทั้งสองก็เริ่มเปิดฉากทะเลาะกันตามเคย แต่ผมไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าเธอคนนั้นจะเป็นลูกบุญธรรมของซีกเกอร์คุง มิน่าล่ะตอนนั้นถึงได้พูดประโยคแปลกๆออกมา
“จะมีเรื่อง ก็ไม่เกี่ยงหรอก ตัวกะเปี๊ยกอย่างแก สิบวิฯก็เหลือแหล่แล้วเฟ้ย” ตอนนี้ทั้งคู่กำลังประชันหน้าด้วยสีหน้าที่ให้อารมณ์การ์ตูนยากูซ่าไม่มีผิด ซึ่งคุณมิบุเองก็ดูเหมือนจะเหลือใจกับการต้องห้ามทั้งสองคนซะเหลือเกิน
ปึ้ง!! ทันใดนั้นเสียงประตูก็ถูกเปิดอย่างแรง ซีกเกอร์เองไม่ใช่ใครอื่น แต่ที่น่าแปลกคืออาการของคุณมิบุนั่นแหละ
“มาทำอะไรที่นี่ ตาโรคจิต .” !!?? งงครับ ผมก็ไม่แน่ใจหูตัวเองเหมือนกันแต่ก็คงฟังไม่ผิดเพราะสองตัวนั่นหยุดทะเลาะแล้วหูผึ่งฟังทันที
“แค่จะมาเอาผ้าพันแผลหน่ะ ” ซีกเกอร์ตอบอย่างปกติทุกอย่าง
“อยู่ตรงกล่องนั่น หยิบเอาเอง ” ดูเธอจะหวาดๆกับเธอซีกเกอร์ยังไงไม่รู้
ตัวซีกเกอร์เองดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรก้มหน้าก้มตาหาของที่ตัวเองต้องการต่อไป ไม่นานเขาก็หาเจอและกำลังจะเดินออกประตูไปแต่ ..
“คิดว่าจะปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆอย่างนั้นหรือ ” ไนท์กล่าวขึ้นพร้อมดักทางออกไว้
“ใครก็ตามที่บังอาจทำร้ายจิตใจคุณมิบุต้องได้รับการลงทัณฑ์อย่างสาสม!” แล้วทั้งคู่ก็หมุนตัวสลับเอาพัตเตอร์มาพูดบ้าง ทำหยังกะในการ์ตูนผู้พิทักษ์อะไรเทือกนั้นแหนะ
“ถึงรู้ว่าคุณเก่งกาจเกินจะต่อกร” เอาเข้าไป คราวนี้ก็เป็นไนท์หมุนตัวขึ้นมาพูดต่ออีก
“แต่ถึงตายก็จะขอปกป้องเกรียติของคุณมิบุไว้!!” คราวนี้ก็เป็นพัตเตอร์รึ
“พวกเราพลพรรคมิบุจังแฟนคลับจะข้อเค้นเอาความจริงจากเรื่องนี้ให้ได้!!!” แล้วก็จบด้วยการโพสท่าคู่ เฮ้อเอาเถอะ..จะทำอะไรก็ทำ ผมอายแทน
“ชั้นไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย ก็แค่มาเอายาปกติเหมือนทุกครั้ง” ซีกเกอร์ตอบแบบ ไม่ได้อินกับอารมณ์ที่ทั้งสองบิ้วไว้เลย
“อ่าว แค่นั้นเองเหยอ(X2)” ทั้งคู่กำเสียงละเหี่ยใจ
“ใช่แค่นั้นแหละ” ซีกเกอร์ยืนยันคำเดิม
“ที่ไหนล่ะ มาเอายาตอนที่คนอื่นกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเนี่ยนะ ทั้งๆติดป้ายไว้หน้าห้องแล้วแท้ๆว่าห้ามเข้า” คุณมิบุกล่าวออกมาทั้งอายๆหน้าเธอแดงจนไม่รู้จะแดงกว่านี้ได้อีกมั๊ยแล้ว
“ก็เธอไม่ยอมล็อคประตูให้ดีนี่” ซีกเกอร์ยังไม่ยอม ยังคงเถียงกลับไป
“ก็เพราะประตูมันเสีย ถึงได้ต้องติดป้ายบอกไง!!” เอ่อนะ
ก็รู้อยู่หรอกว่าคุณซีกเกอร์ไม่ค่อยจะละเอียดอ่อน แต่ไม่นึกว่าจะถึงขนาดนี้
“คุณมิบุ
.ตอนเปลี่ยนเสื้อผ้า
..” คำพูดนั้นของคุณมิบุได้เสกให้สองคนนั่นกลายสภาพเป็นซอมบี้ไปแล้ว คงจะเพราะโกรธแทนคุณมิบุมากแน่ๆ
.
“แก .ทำไม .. แก .. ช่าง ..น่าอิจฉาขนาดนี้!!!!!!(X2)” นี่อิจฉาหรอกเหรอ!! Ò[]ó!! แล้วฝูงซอมบี้(2ตัว)ก็เข้าจู่โจมซีกเกอร์ทำเอาเรือวุ่นวายไปหมด แล้ววันวุ่นๆของผมก็จบไปอีกหนึ่งวัน เฮ้อ เหนื่ยแฮะ!!
.
ความคิดเห็น